ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1190 จากทั้งหมด 6217 หน้า แสดงรายการที่ 23781 - 23800 จากข้อมูลทั้งหมด 124340 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
23781 | ร่างกฎหมายที่อยู่ระหว่างดำเนินการเสนอคณะรัฐมนตรี หรือการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 07/07/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้ทุกกระทรวงรับข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีไปพิจารณาร่างกฎหมายในความรับผิดชอบที่อยู่ระหว่างดำเนินการเสนอคณะรัฐมนตรี หรือการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งยังมีประเด็นข้อขัดแย้งหรือข้อถกเถียงในสังคมที่ยังไม่ได้ข้อยุติ เช่น กฎหมายพลังงาน กฎหมายยาสูบ กฎหมายดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กฎหมายป่าชุมชน กฎหมายประมง โดยให้พิจารณาทบทวนความเหมาะสมและความจำเป็นในการตรากฎหมาย ซึ่งต้องสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และ Road Map ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตลอดช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมในการบังคับใช้กฎหมาย ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นสำคัญ แล้วให้ส่งกระทรวงยุติธรรมเพื่อรวบรวมและรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
23782 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 07/07/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ ๔๒/๒๕๕๘ วันพฤหัสบดีที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๕๘
|
|||||||||||||||||||||
23783 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยใบอนุญาตผู้ประจำหน้าที่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | คค | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยใบอนุญาตผู้ประจำหน้าที่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงว่าด้วยใบอนุญาตผู้ประจำหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๕๐ โดยเพิ่มเติมการกำหนดระยะเวลาให้ใช้ใบอนุญาตศิษย์พนักงานควบคุมการจราจรทางอากาศ มีระยะเวลาใช้ได้ ๒ ปี ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
23784 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง ยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร (ฉบับที่ 41) พ.ศ. 2530 พ.ศ. .... | พณ | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง ยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร (ฉบับที่ ๔๑) พ.ศ. ๒๕๓๐ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกให้กุ้งกุลาดำมีชีวิตที่มีขนาดความยาวตั้งแต่ ๗.๕ นิ้ว หรือน้ำหนัก ๗๐ กรัมขึ้นไป รวมถึงลูกกุ้งที่จะเกิดจากพ่อแม่พันธุ์กุ้งขนาดดังกล่าวเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร เพื่อให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งทะเลสามารถส่งออกกุ้งกุลาดำมีชีวิตที่ได้จากการปรับปรุงพันธุ์หรือการเพาะเลี้ยงไปนอกราชอาณาจักรได้ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
23785 | รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามประเด็นเรื่องสำคัญตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติและข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ | มท | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามประเด็นเรื่องสำคัญตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติและข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รอบ ๖ เดือน (ตุลาคม ๒๕๕๗-มีนาคม ๒๕๕๘) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. เรื่องที่เป็นหลักการ ได้แก่ การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ได้เบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ในภาพรวม ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๘ จำนวน ๑๙๕,๔๒๐.๒๙ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๕๖.๙๐ เพิ่มขึ้นจากรอบ ๓ เดือน (ตุลาคม-ธันวาคม ๒๕๕๗) ร้อยละ ๑๕.๘๗ และการจัดทำโครงการต่าง ๆ ของส่วนราชการ ได้ประชาสัมพันธ์โครงการผ่านสื่อต่าง ๆ ให้ประชาชนและผู้ที่สนใจทราบ และนำเอกสารการเสนอราคา ประกวดราคา ประกาศเชิญชวนและเผยแพร่ลงเว็บไซต์ รวมทั้งจัดให้มีเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางเข้าร่วมสังเกตการณ์ในวันประมูลแข่งขันราคา (e-Auction) ๒. เรื่องที่เป็นประเด็น/โครงการสำคัญเร่งด่วน ได้แก่ การแก้ไขปัญหาผลผลิตทางการเกษตรในระยะยาวและการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning) การจัดหาที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกร การจัดระเบียบสังคม การแก้ไขปัญหาชุมชนแออัด การจัดการขยะมูลฝอยและน้ำเสีย และการจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมในส่วนกลาง และจังหวัด/อำเภอ ๓. เรื่องอื่น ๆ ที่มีผลกระทบต่อประเทศชาติและประชาชน ได้แก่ การกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ ได้ทบทวนสิทธิประโยชน์ของคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อัตราค่าตอบแทน และเบี้ยประชุมกรรมการรัฐวิสาหกิจ (ขนาดใหญ่) และการจ่ายโบนัส และการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประสบภัย ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี ๒๕๕๘ รวมทั้งสั่งการให้ทุกจังหวัดเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในฤดูร้อน ประจำปี ๒๕๕๘
|
|||||||||||||||||||||
23786 | แผนงานโครงการ/กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ของกระทรวงยุติธรรม | ยธ | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบแผนงานโครงการ/กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ของกระทรวงยุติธรรม ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ประกอบด้วย ๑.๑ โครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ ๑.๒ โครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๘ โครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๘ โครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (๕ ธันวามหาราช) และโครงการเฉลิมพระเกียรติทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๘ (เรื่อง แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ) ต่อไป |
|||||||||||||||||||||
23787 | ผลการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการค้าชายแดนและการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้านและผลการจัดงานมหกรรมการค้าชายแดน 4 ภูมิภาค | พณ | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการค้าชายแดนและการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้านได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีทั้งจากหน่วยงานรัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องต่างให้ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และแนวทางแก้ปัญหาอุปสรรค ทั้งนี้ ประธานได้มอบหมายให้แต่ละหน่วยงานพิจารณารายละเอียดของร่างยุทธศาสตร์เพื่อกระทรวงพาณิชย์จะได้นำมาปรับปรุงแก้ไขให้ครอบคลุมเนื้อหาในทุก ๆ ด้าน พร้อมทั้งกำหนดเงื่อนระยะเวลาและตัวชี้วัดการบรรลุผลที่ชัดเจนเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบการประกาศใช้ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการค้าชายแดนและการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้านและเป็นแนวทางการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยกำหนดให้มีการประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานทุก ๒ เดือน ๒. กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการจัดงานมหกรรมการค้าชายแดนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษอย่างต่อเนื่อง โดยจัดกิจกรรมในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดตราดและหนองคายในโอกาสต่อไป รวมทั้งพัฒนารูปแบบการจัดงานด้วยการนำธุรกิจด้านบริการและกิจการแฟรนไชส์ อาทิ ร้านอาหาร โรงแรม โรงพยาบาล ศูนย์ความงาม และอื่น ๆ มาเป็นกิจกรรมหลักเพื่อเป็นการแสดงถึงศักยภาพของผู้ประกอบการไทยเพื่อนำไปสู่การเจรจาธุรกิจในระดับสากลต่อไป ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นการค้าชายแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายการค้าชายแดน การค้าผ่านแดน และการค้าเมืองหน้าด่าน เป็น ๑.๕ ล้านล้านบาท ในปี ๒๕๕๘ ๓. ความคืบหน้าผลการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการค้าชายแดนและการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานการประชุม เมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๘ ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบยุทธศาสตร์การส่งเสริมการค้าชายแดนและการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่ให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกทางการค้าด้านชายแดนและการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน การยกระดับ/พัฒนาผู้ประกอบการเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์เชื่อมโยงภายในภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการเชื่อมโยงเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของไทยและประเทศเพื่อนบ้านให้สอดรับกับนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาล และเห็นชอบแผนงานนำร่องที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ๙ แผนงาน เช่น โครงการพัฒนาเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยกับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน (Young Executive Entrepreneur) โครงการจัดตั้งสภาธุรกิจร่วมไทย-ประเทศเพื่อนบ้าน โครงการจัดทำคู่มือสำหรับผู้ประกอบการค้าชายแดน และโครงการบริหารจัดการเชื่อมโยงสินค้าเกษตรชายแดน เป็นต้น สำหรับผลการจัดงานมหกรรมการค้าชายแดน ๔ ภูมิภาค เป็นการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การค้าชายแดนผ่านโครงการนำร่องแม่สอดโมเดลในรูปแบบกิจกรรมการจัดงานมหกรรมการค้าชายแดนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งได้ดำเนินการแล้ว ๔ ครั้ง ใน ๔ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตาก มุกดาหาร สระแก้ว และสงขลา ทำให้มีเงินหมุนเวียนในพื้นที่และมีการเจรจาธุรกิจระหว่างภาคเอกชน ซึ่งการจัดงานฯ ทั้ง ๔ ครั้ง ได้ก่อให้เกิดการตกลงทางการค้าและเงินสะพัดคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ ๑๔,๐๐๐ ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||
23788 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นายธำรงค์ ชินหิรัญ) | นร06 | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายธำรงค์ ชินหิรัญ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบงานการข่าว (นักการข่าวทรงคุณวุฒิ) กลุ่มงานที่ปรึกษา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
23789 | ร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การฟื้นฟูกิจการ) | ยธ | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การฟื้นฟูกิจการ) มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มให้มีกระบวนการพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ที่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยให้ลูกหนี้สามารถเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูได้เฉพาะหนี้ที่เกิดจากการดำเนินกิจการ ซึ่งเป็นหนี้เจ้าหนี้คนเดียวหรือหลายคนรวมกันเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า ๓ ล้านบาท กรณีลูกหนี้ที่เป็นบริษัทจำกัดต้องมีจำนวนหนี้ไม่ถึง ๑๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
23790 | ร่างพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัวให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
23791 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้แก่ผู้ขอกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญข้าราชการตามพระราชบัญญัติ การกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 พ.ศ. 2557) | กค | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้แก่ผู้ขอกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญข้าราชการตามพระราชบัญญัติการกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๔๙๔ พ.ศ. ๒๕๕๗) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาเกี่ยวกับการซ้ำซ้อนในสิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งหากเห็นว่า ไม่มีความซ้ำซ้อนในเรื่องดังกล่าวก็ให้ดำเนินการต่อไป โดยกระทรวงการคลังอาจพิจารณากำหนดแนวทางปฏิบัติให้ผู้ที่ขอกลับไปใช้สิทธิบำเหน็จบำนาญข้าราชการคืนสิทธิประโยชน์การยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินสะสมส่วนเพิ่มที่ได้ได้รับกลับมาให้แก่รัฐบาล เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำกับข้าราชการที่ไม่เคยเข้าเป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการและข้าราชการที่ยังคงเป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการต่อไป ๒. ให้กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) เร่งรัดพิจารณาดำเนินการตรวจสอบข้อร้องเรียนกรณีการงดจ่ายเงินบำนาญและเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญและเรียกเงินเบี้ยหวัดและเงินค่าครองชีพคืน โดยให้ดำเนินการเรื่องดังกล่าวให้ถูกต้อง แล้วรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบต่อไป ทั้งนี้ ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) |
|||||||||||||||||||||
23792 | มาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ | คค | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเกี่ยวกับการดำเนินการตามมาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยกระทรวงคมนาคมได้จัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่า มาตรการต่าง ๆ เกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับและเป็นภารกิจของหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการจำนวนมาก ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอไว้ชั้นหนึ่งก่อน และให้กระทรวงคมนาคมเร่งดำเนินการจัดการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจัดทำรายงานผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการในประเด็นต่าง ๆ ให้ครบถ้วน แล้วแจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบอีกครั้งหนึ่งภายใน ๒๐ วัน นับจากวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ เพื่อที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
23793 | ขอความเห็นชอบในการดำเนินการจัดทำความตกลงด้านการขนส่งทางถนนระหว่างประเทศ | คค | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบในการดำเนินการจัดทำความตกลงด้านการขนส่งทางถนนระหว่างประเทศ รวม ๔ ฉบับ และใช้เป็นท่าทีของไทยในการเจรจากับประเทศต่าง ๆ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ความตกลงทวิภาคีด้านการขนส่งทางถนนระหว่างไทย-กัมพูชา มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์และระเบียบข้อบังคับสำหรับการขนส่งระหว่างไทย-กัมพูชา ครอบคลุมประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ เส้นทางจุดผ่านแดนสิทธิการจราจร/ประเภทของการขนส่ง การขนส่งสินค้า/การขนส่งผู้โดยสาร ประเภทของรถ เอกสารสำหรับการขนส่ง ผู้ประกอบการขนส่ง ข้อกำหนดทางเทคนิคของรถ การขนส่งสินค้าเน่าเสียง่าย การขนส่งสินค้าอันตราย พิธีการตรวจปล่อยบริเวณชายแดน การแลกเปลี่ยนข้อมูลที่จำเป็นระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และองค์กร/คณะกรรมการเพื่อการขับเคลื่อน/แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการตามความตกลง เป็นต้น ๑.๒ การปรับปรุงความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางถนนระหว่างไทย-ลาว มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการปรับปรุงรายละเอียดเกี่ยวกับจุดผ่านแดน พาหนะในการขนส่ง ข้อกำหนดทางเทคนิคของพาหนะในการขนส่ง เอกสารประจำยานพาหนะขนส่ง การกำหนดเส้นทางขนส่งทางถนนระหว่างประเทศ และการประกอบการขนส่ง ๑.๓ การจัดทำความตกลงการเดินรถโดยสารประจำทางระหว่างไทย-เวียดนาม มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์และรายละเอียดสำหรับการดำเนินการเดินรถโดยสารประจำทาง ครอบคลุมประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ ขอบเขตของความตกลง สิทธิการจราจร คำนิยาม การขนส่งผู้โดยสารประจำทาง ผู้ประกอบการ การยอมรับร่วมกัน ข้อกำหนดทางเทคนิค การยอมรับหนังสือรับรองการตรวจสภาพรถ การประกันภัยภาคบังคับ การยอมรับใบอนุญาตขับขี่ การอนุญาตนำรถเข้าประเทศเป็นการชั่วคราว เอกสารจำเป็นสำหรับการขนส่ง ภาษาที่ใช้ในเอกสาร กฎระเบียบเกี่ยวกับการจราจรและความปลอดภัย การอำนวยความสะดวกในพิธีการข้ามแดน การจัดการองค์กร การระงับข้อพิพาท การมีผลบังคับใช้การแก้ไขความตกลง ความสัมพันธ์กับความตกลงระหว่างประเทศอื่น และระยะเวลาและการยกเลิกความตกลง เป็นต้น ๑.๔ การจัดทำความตกลงยานยนต์ระหว่างอินเดีย เมียนมา และไทย สำหรับการกำกับดูแลการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าบรรทุกระหว่างอินเดีย เมียนมา และไทย มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์สำหรับการดำเนินการขนส่งข้ามแดนระหว่างประเทศภาคีความตกลง ครอบคลุมประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ คำนิยามศัพท์ พาหนะ หนังสืออนุญาต เอกสารที่จำเป็น หนังสือเดินทางและวีซ่า ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย ประกันภัย การใช้กฎหมายภายใน และการระงับข้อพิพาทและถอนการเป็นสมาชิก เป็นต้น ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่ให้กระทรวงคมนาคมสรุปรวบรวมรายละเอียดของการจัดทำความตกลงดังกล่าวโดยกำหนดแผนงาน วิธีการ และกรอบระยะเวลาในการดำเนินการ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี ไปดำเนินการต่อไป และรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรระบุเส้นทางเดินรถในความตกลงการเดินรถโดยสารประจำทางระหว่างไทย-เวียดนาม ควรเป็นเส้นทางที่เชื่อมโยงระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยกับภาคกลางของเวียดนาม โดยคำนึงถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และความพร้อมด้านสภาพภูมิประเทศของเส้นทางดังกล่าว และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการมีระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลการเฝ้าระวังและการตรวจตราการเข้าออกของคน พาหนะและสินค้าที่มีประสิทธิภาพ และให้ความสำคัญกับการพิจารณาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งสิ่งแวดล้อมของประเทศ ตลอดจนความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||
23794 | การจัดทำความตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสถาบันด้านพิพิธภัณฑ์ศึกษาและการออกแบบนิทรรศการระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงวัฒนธรรมแห่งสาธารณรัฐเปรู และความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐเปรูว่าด้วยความร่วมมือในด้านการคุ้มครอง การอนุรักษ์ การติดตามคืนและการส่งคืนซึ่งทรัพย์สินทางวัฒนธรรม โบราณคดี ศิลปะ และประวัติศาสตร์ที่ถูกปล้นโจรกรรม ส่งออก หรือถ่ายโอนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย | วธ | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการขอเปลี่ยนชื่อความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านพิพิธภัณฑ์ศึกษาและการออกแบบนิทรรศการระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงวัฒนธรรมแห่งสาธารณรัฐเปรู เป็นความตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสถาบันด้านพิพิธภัณฑ์ศึกษาและการออกแบบนิทรรศการระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงวัฒนธรรมแห่งสาธารณรัฐเปรู (Agreement on Interinstitutional Cooperation in Museology and Museography between the Ministry of Culture of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Culture of the Republic of Peru) ๑.๒ เห็นชอบการยกระดับและการปรับแก้ไขความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐเปรูว่าด้วยความร่วมมือในด้านการคุ้มครอง การอนุรักษ์ การติดตามคืนและการส่งคืนทรัพย์สินทางวัฒนธรรม โบราณคดี ศิลปะ และประวัติศาสตร์ที่ถูกปล้น โจรกรรม ส่งออก หรือถ่ายโอนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย (Agreement between the Kingdom of Thailand and the Republic of Peru on Cooperation in the fields of Protection, Conservation, Recovery and Return of Cultural, Archaeological, Artistic and Historical Property that has been Robbed, Stolen, Exported or Illegally Transferred) จากระดับกระทรวงเป็นระดับรัฐบาล ๑.๓ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยในความตกลงทั้งสองฉบับตามข้อ ๑.๑ และ ๑.๒ ๑.๔ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นผู้ลงนามในความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐเปรูว่าด้วยความร่วมมือในด้านการคุ้มครอง การอนุรักษ์ การติดตามคืนและการส่งคืนทรัพย์สินทางวัฒนธรรม โบราณคดี ศิลปะ และประวัติศาสตร์ที่ถูกปล้น โจรกรรม ส่งออก หรือถ่ายโอนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ๒. กรณีที่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงถ้อยคำของความตกลงฯ หากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไว้ ก็ให้สามารถดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว แต่หากการปรับเปลี่ยนขัดหรือไม่สอดคล้องกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไว้ ให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนดำเนินการโดยห้ามมิให้แก้ไขหรือลงนามก่อนคณะรัฐมนตรีอนุมัติหรือให้ความเห็นชอบ |
|||||||||||||||||||||
23795 | แจ้งคำพิพากษาศาลปกครองยกฟ้องคณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดี ที่ 6) คดีระหว่าง เด็กหญิงพรทิพย์ เซ๊ะวิเศษ โดยนางสาวสุมีหลา เชยเอี่ยม ที่ 1 กับพวกรวม 19 คน ผู้ฟ้องคดี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ 1 กับพวกรวม 6 คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงาน ทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติและความรับผิดอย่างอื่นอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย | อส | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาของศาลปกครองกลางยกฟ้องคณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดี ที่ ๖) คดีระหว่าง เด็กหญิงพรทิพย์ เซ๊ะวิเศษ โดยนางสาวสุมีหลา เชยเอี่ยม ที่ ๑ กับพวกรวม ๑๙ คน ผู้ฟ้องคดี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ ๑ กับพวกรวม ๖ คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติและความรับผิดอย่างอื่นอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
23796 | การลงนามในข้อตกลงการดำเนินงานกับกองทุนโลก (The Global Fund) สำหรับโครงการยุติปัญหาเอดส์และหยุดยั้งวัณโรค พ.ศ. 2558 - 2559 | สธ | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการลงนามในข้อตกลงด้านการดำเนินงานร่วมกับกองทุนโลก (The Global Fund) สำหรับโครงการยุติปัญหาเอดส์และหยุดยั้งวัณโรค พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๕๙ โดยสาระสำคัญของข้อตกลงฯ มีประเด็นสำคัญเพิ่มเติมจากข้อตกลงเดิมเกี่ยวกับการขอรับทุน โดยให้ประเทศผู้รับทุนพิจารณาให้เอกสิทธิ์และความคุ้มกัน (Privileges and Immunities) และการขอให้ยกเว้นทั้งในส่วนภาษีการนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการใช้จ่ายเงินทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนโลก ๑.๒ มอบให้กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค เป็นผู้ลงนามข้อตกลงฯ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นว่า การได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการลงนามในข้อตกลงฯ ต้องเป็นไปตามข้อบังคับกฎหมายปัจจุบัน และตามบทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งต้องสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๔๙ ที่เห็นชอบแนวทางปฏิบัติในการเสนอร่างกฎหมายเรื่องใดที่ไม่ใช่กฎหมายเกี่ยวกับภาษีอากร ไม่ให้มีบทบัญญัติกำหนดยกเว้นภาษีอากรตามกฎหมายว่าด้วยภาษีอากร ดังนั้น หากกระทรวงสาธารณสุขจะให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเกินกว่าขอบเขตของกฎหมายตามที่ประมวลรัษฎากรกำหนดไว้ ก็เห็นควรให้กระทรวงสาธารณสุขหารือร่วมกับกระทรวงการคลังให้ได้ข้อยุติร่วมกัน และกระทรวงการคลังจะเป็นหน่วยงานนำเสนอมาตรการภาษีพร้อมร่างกฎหมายต่อคณะรัฐมนตรี ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
23797 | ผลการพิจารณาต่อรองราคาค่าก่อสร้างจากงานแก้ไขแบบรายละเอียดโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ - รังสิต เพื่อรองรับการเดินรถไฟประเภทต่าง ๆ งานสัญญาที่ 1 และสัญญาที่ 2 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย | คค | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบผลการพิจารณาราคาค่าก่อสร้างจากงานแก้ไขแบบรายละเอียดโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต เพื่อรองรับการเดินรถไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ งานสัญญาที่ ๑ และสัญญาที่ ๒ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ กรอบวงเงินตามที่บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (ที่ปรึกษางานทบทวนและออกแบบรายละเอียดของการรถไฟแห่งประเทศไทย) ได้ประมาณราคาค่าก่อสร้างจากงานแก้ไขแบบรายละเอียดของสัญญาที่ ๑ และสัญญาที่ ๒ โดยศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ตรวจสอบความเหมาะสมแล้ว เป็นจำนวน ๗,๖๕๑,๙๐๘,๙๗๑.๒๕ บาท (สัญญาที่ ๑ จำนวน ๔,๓๐๕,๔๑๘,๖๘๑.๒๐ บาท และสัญญาที่ ๒ จำนวน ๓,๓๔๖,๔๙๐,๒๙๐.๐๕ บาท) ๑.๒ การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เจรจากับผู้รับจ้างของสัญญาที่ ๑ และสัญญาที่ ๒ แล้ว โดย (๑) กิจการร่วมค้า เอส ยู ผู้รับจ้างงานสัญญาที่ ๑ ยืนยันราคา จำนวน ๔,๒๙๑,๔๐๖,๐๐๐.๐๐ บาท ซึ่งต่ำกว่ากรอบวงเงินตามมติคณะรัฐมนตรีและกรอบวงเงินที่ศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาฯ ได้ตรวจสอบความเหมาะสมแล้ว และ (๒) บริษัท อิตาเลี่ยนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้รับจ้างสัญญาที่ ๒ ยืนยันราคา จำนวน ๓,๓๔๐,๕๑๒,๕๐๕.๓๖ บาท ซึ่งต่ำกว่ากรอบวงเงินตามมติคณะรัฐมนตรีและกรอบวงเงินที่ศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาฯ ได้ตรวจสอบแล้ว ๒. ให้กระทรวงคมนาคม (การรถไฟแห่งประเทศไทย) รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งเจรจาต่อรองราคาสัญญาที่ ๓ งานจัดหาระบบไฟฟ้าและรถไฟฟ้ากับผู้ยื่นข้อเสนอราคาตามขั้นตอนของระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว เพื่อให้สามารถดำเนินการเจรจาต่อรองราคางานจัดหาระบบไฟฟ้าและรถไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากการแก้ไขแบบรายละเอียดโครงการฯ กับผู้ยื่นข้อเสนอราคา ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของประธานกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจเกี่ยวกับแหล่งเงินเพื่อใช้ในการดำเนินโครงการฯ เห็นควรพิจารณาให้มีความเหมาะสมโดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับระยะเวลาของแผนงานโครงการฯ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||
23798 | การดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารจัดเก็บและอนุรักษ์วัตถุและเอกสารสำคัญที่มีค่าทางประวัติศาสตร์ และโครงการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารที่ทำการ (อาคาร จปร. เดิม) | กค | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารจัดเก็บและอนุรักษ์วัตถุและเอกสารสำคัญที่มีค่าทางประวัติศาสตร์ และโครงการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารที่ทำการ (อาคาร จปร. เดิม) โดยเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากวงเงินเดิม ๓๙,๐๐๓,๐๐๐ บาท เป็น ๙๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘-พ.ศ. ๒๕๖๐ สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๒๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท และโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณ จำนวน ๗,๖๙๘,๖๐๐ บาท ส่วนที่เหลืออีก จำนวน ๖๒,๓๐๑,๔๐๐ บาท ให้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรับความเห็นของสำนักงบประมาณและคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างฯ และโครงการปรับปรุงซ่อมแซมฯ เป็นโครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ดำเนินการระหว่างปีงบประมาณ จึงเป็นรายการที่อยู่นอกแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณปกติ จึงเห็นควรให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเร่งรัดดำเนินการและลงนามก่อหนี้ผูกพันโครงการดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง |
|||||||||||||||||||||
23799 | ขออนุมัติลงนามบันทึกแสดงเจตจำนงสามฝ่าย ระหว่างไทย เมียนมา และญี่ปุ่น เกี่ยวกับความร่วมมือในการพัฒนาโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย | นร11 | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างบันทึกแสดงเจตจำนงสามฝ่าย ระหว่างไทย เมียนมา และญี่ปุ่น เกี่ยวกับความร่วมมือในการพัฒนาโครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษทวาย มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นร่วมกันทั้งสามฝ่าย คือ ไทย ญี่ปุ่น และเมียนมา ในการร่วมมือพัฒนาโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายให้บังเกิดประโยชน์สูงสุดแก่อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงและอาเซียน และจะเป็นการเข้าร่วมพัฒนาโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายอย่างเป็นทางการของญี่ปุ่นในฐานะหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ของโครงการตามที่ฝ่ายไทยและเมียนมามีหนังสือเชิญตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ๑.๒ อนุมัติให้เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกฯ ๑.๓ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างบันทึกฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญก่อนมีการลงนาม ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศพิจารณาดำเนินการได้ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการตามข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับร่างบันทึกฯ มีการระบุเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นและสัดส่วนผู้ถือหุ้นในนิติบุคคลเฉพาะกิจ (SPV) ดังนั้น ภายหลังการลงนามในครั้งนี้ หากมีการกำหนดรายละเอียดในเรื่องดังกล่าวร่วมกับเมียนมาและญี่ปุ่นแล้ว ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติวิเคราะห์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นและประโยชน์ที่ไทยจะได้รับ แล้วให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาพร้อมกับบันทึกความเข้าใจที่จะต้องลงนามในขั้นตอนถัดไป และรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นว่า ร่างบันทึกฯ ระบุอย่างชัดเจนในวรรคสุดท้ายก่อนช่องลงนามว่า ร่างบันทึกฯ ฉบับนี้ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย ดังนั้น ร่างบันทึกฯ จึงไม่เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศและไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๒๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. ๒๕๕๗ การลงนามร่างบันทึกฯ จึงไม่ต้องแสดงหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ไปดำเนินการต่อไป ๓. ให้ทุกหน่วยงานที่จะมีการจัดทำหนังสือสัญญาที่ก่อให้เกิดพันธกรณีระหว่างประเทศดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด โดยการดำเนินการจัดทำหนังสือสัญญาดังกล่าว เช่น การลงทุนร่วมกับต่างประเทศ ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนดำเนินการลงนามทุกครั้ง รวมทั้งในกรณีที่มีการปรับปรุงสาระสำคัญของหนังสือสัญญา ห้ามมิให้แก้ไขหรือลงนามไปก่อนที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบการปรับเปลี่ยน |
|||||||||||||||||||||
23800 | ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตที่เกิดจากการอนุญาตให้ราษฎรครอบครองที่ดินของรัฐตามประมวลกฎหมายที่ดิน | มท | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่เสนอข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตที่เกิดจากการอนุญาตให้ราษฎรครอบครองที่ดินของรัฐตามประมวลกฎหมายที่ดิน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอไว้ชั้นหนึ่งก่อน ดังนี้ ๑.๑ กรมที่ดินได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. รวม ๒ คณะ ได้แก่ (๑) คณะทำงานกำหนดวิธีการและแนวทางปฏิบัติในการทบทวนกระบวนการจัดที่ดินผืนใหญ่ การดำเนินการโฉนดชุมชน และนโยบายเรื่องอื่นที่มีลักษณะเดียวกัน และ (๒) คณะทำงานกำหนดวิธีการและแนวทางปฏิบัติในการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลที่ดินกลางและปรับปรุงแนวเขตที่ดินของรัฐ (Reshape) ๑.๒ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมที่ดินได้จัดทำกรอบแนวทางการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยจะประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แล้วจัดทำสรุปผลการดำเนินการเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการจัดการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แล้วจัดทำรายงานผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการแจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๒๐ วัน นับจากวันที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ เพื่อที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
.....