ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 21 จากทั้งหมด 66 หน้า แสดงรายการที่ 401 - 420 จากข้อมูลทั้งหมด 1313 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
401 | การนำพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาปรับใช้กับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการศาลยุติธรรม | ศย | 01/12/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบตามมติคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม (ก.ศ.) ในการประชุมครั้งที่ 6/2551 เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2551 และครั้งที่ 6/2552 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2552 ที่เห็นชอบในหลักการให้นำพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาปรับใช้กับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการศาลยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2552 เป็นต้นไป 2. เห็นชอบตามมติคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) ในการประชุมครั้งที่ 7/2551 เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2551 และครั้งที่ 9/2552 เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2552 ที่เห็นชอบร่างระเบียบและประกาศคณะกรรม การข้าราชการศาลยุติธรรม ดังนี้ 2.1 ร่างระเบียบคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม ว่าด้วยการจัดประเภทตำแหน่งและระดับ ตำแหน่งของข้าราชการศาลยุติธรรม พ.ศ. .... โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2552 เป็นต้นไป 2.2 ร่างประกาศคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม เรื่อง การเทียบการดำรงตำแหน่งตาม พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 เท่ากับการดำรงตำแหน่งตามพระราชบัญญัติระเบียบ ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2552 เป็นต้นไป 2.3 ร่างประกาศคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม เรื่อง การจัดทำมาตรฐานกำหนดตำแหน่ง และจัดตำแหน่งข้าราชการศาลยุติธรรมเข้าประเภทตำแหน่ง สายงาน และระดับตำแหน่งตามมาตรฐานกำหนด ตำแหน่ง โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2552 เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||
402 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง พ.ศ. .... | ศธ | 01/12/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา
ในทศวรรษที่สอง พ.ศ. .... ที่คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบ ฯ มีสาระสำคัญ คือ 1. กำหนดกรอบแนวทางการพัฒนาการปฏิรูปการศึกษาในสี่ด้านที่คณะกรรมการนโยบายการปฏิรูป การศึกษาในทศวรรษที่สอง (กนป.) และคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (กขป.) ต้องดำเนินการเพื่อให้การปฏิรูปการศึกษาเป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ 2. กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (กนป.) และคณะกรรมการ ขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (กขป.) ประกอบด้วยกรรมการโดยตำแหน่งและกรรมการผู้ทรง คุณวุฒิ มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด 3. กำหนดวาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และกำหนดวิธีการ ประชุมของคณะกรรมการ 4. กำหนดให้สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการของ กนป. และ กขป. มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด 5. กำหนดให้หน่วยงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐ บุคคล และกลุ่มบุคคล ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวข้องการปฏิรูป การศึกษาในทศวรรษที่สองให้ความร่วมมือ และสนับสนุนการดำเนินงานของ กนป. และ กขป. และสำนักงาน เลขาธิการ ฯ 6. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ 7. กำหนดให้สำนักงานเลขาธิการ ฯ เสนอรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิต่อนายกรัฐมนตรีภายในหกสิบวันนับ แต่วันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ และให้ระเบียบนี้ใช้บังคับจนถึงวันสิ้นสุดปีปฏิทิน พ.ศ. 2561
|
|||||||||||||||||||||
403 | สรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ | นร | 24/11/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน
2552 ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรี จำนวน 4 ฉบับ และพิจารณาร่างระเบียบวาระ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 23 ปีที่ 2 ครั้งที่ 27 (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน 2552 และ ครั้งที่ 28 (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน 2552
|
|||||||||||||||||||||
404 | ร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอจดทะเบียนและการรับจดทะเบียนสถาบันชาวไร่อ้อย พ.ศ. .... | อก | 17/11/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายว่าด้วยหลัก
เกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขการขอจดทะเบียนและการรับจดทะเบียนสถาบันชาวไร่อ้อย พ.ศ. .... ตามที่กระทรวง อุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจ พิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบ ฯ มีสาระสำคัญคือ 1. ยกเลิกระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ ระเบียบคณะกรรม การอ้อยและน้ำตาลทรายว่าด้วยการจดทะเบียนสถาบันชาวไร่อ้อย ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2528 ระเบียบคณะกรรม การอ้อยและน้ำตาลทราย ฉบับที่ 10 พ.ศ. 2528 ว่าด้วยการจดทะเบียนสถาบันชาวไร่อ้อย และระเบียบคณะ กรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ฉบับที่ 4 พ.ศ. 2531 ว่าด้วยการจดทะเบียนสถาบันชาวไร่อ้อย 2. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เกี่ยวกับการยื่นคำขอจดทะเบียน 3. กำหนดวิธีการดำเนินงานและควบคุมสถาบันชาวไร่อ้อย 4. กำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณา และการวินิจฉัยอุทธรณ์
|
|||||||||||||||||||||
405 | ร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยการจำหน่ายน้ำตาลทรายให้แก่ผู้ผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก พ.ศ. .... | อก | 17/11/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยการ
จำหน่ายน้ำตาลทรายให้แก่ผู้ผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่ง คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้ว ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบ ฯ มีสาระสำคัญคือ 1. ยกเลิกระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายว่าด้วยการจำหน่ายน้ำตาลทรายให้แก่ผู้ผลิต สินค้าเพื่อการส่งออก พ.ศ. 2545 2. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการยื่นขอรับสิทธิซื้อน้ำตาลทรายโควตา ก. ให้ผู้ผลิตที่ไม่ได้ส่งสินค้าออก ด้วยตนเอง แต่มอบหมายให้ผู้อื่นส่งออกแทนตน โดยให้ยื่นคำขอต่อคณะกรรมการน้ำตาลทรายได้มากกว่า หนึ่งครั้ง 3. กำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาคำขอ การกำหนดราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายและการอุทธรณ์ 4. กำหนดหลักเกณฑ์การขออนุญาตขนย้ายน้ำตาลทรายและการแจ้งการส่งออกสินค้า 5. กำหนดหลักเกณฑ์การควบคุมการจำหน่ายน้ำตาลทราย
|
|||||||||||||||||||||
406 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดการศึกษาให้แก่บุคคล ที่ไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร หรือไม่มีสัญชาติไทย โดยองค์กรเอกชนในศูนย์การศึกษาคนต่างด้าว พ.ศ. .... | ศธ | 03/11/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับเรื่อง ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดการ ศึกษาให้แก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎร หรือไม่มีสัญชาติไทย โดยองค์กรเอกชน ในศูนย์การศึกษา คนต่างด้าว พ.ศ. .... ไปพิจารณาในข้อกฎหมายและแนวทางที่จะทำให้การดำเนินนโยบายในเรื่องนี้บรรลุวัตถุ ประสงค์ แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่งภายใน 2 สัปดาห์ 2. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของกระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่าง ประเทศ สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เกี่ยวกับการจัดการศึกษาให้แก่บุคคลดัง กล่าวต้องไม่มีการพิจารณาให้สถานภาพการเป็นคนไทย และมีการกำหนดและบังคับใช้มาตรการอย่างรัดกุม เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งหลักสูตรการจัดการเรียนการสอน ควรเพิ่มเติมกรอบแนวทางการ จัดหลักสูตรให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาของกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องส่งกลับโดยสมควร กำหนดหลักสูตรที่ให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้าใจ การสร้างทัศนคติที่ดี ไม่เกิดความรู้สึกเกลียดชังเป็น ปฏิปักษ์ต่อสังคมและประเทศไทย และตระหนักถึงความช่วยเหลือคนไทยและรัฐบาลไทยในเรื่องต่าง ๆ อย่าง เหมาะสม รวมทั้งควรเป็นหลักสูตรที่มุ่งการเรียนรู้เพื่อให้สามารถพึ่งตนเอง และเป็นการเตรียมความพร้อม สำหรับการเดินทางกลับประเทศต้นทางในระยะต่อไป ไปพิจารณาด้วย |
|||||||||||||||||||||
407 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2552 | กษ | 03/11/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการช่วยเหลือเกษตรกรและ
ผู้ยากจน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2552 มีสาระสำคัญคือ แก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการช่วยเหลือเกษตร กรและผู้ยากจน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2546 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบทนิยาม และองค์ประกอบของคณะกรรมการช่วยเหลือ เกษตรกรและผู้ยากจน รวมทั้งแก้ไขจำนวนคณะอนุกรรมการเพื่อช่วยดำเนินงานของคณะกรรมการ ฯ ตามที่กระทรวง เกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจ พิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
408 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยระบบการประเมินผลและการจัดสรรงบประมาณของสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ พ.ศ. .... | นร | 27/10/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้สำนักงาน ก.พ.ร. รับร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยระบบการประเมิน
ผลและการจัดสรรงบประมาณของสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ พ.ศ. .... ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงศึกษา ธิการ โดยให้รับความเห็นของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงบประมาณ สำนักงานรับรองมาตรฐานและ ประเมินคุณภาพการศึกษา และกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับการกำหนดองค์ประกอบของคณะกรรมการประเมิน ผลและจัดสรรงบประมาณอุดมศึกษา (ค.ป.จ.) การกำหนดอำนาจหน้าที่ของ ค.ป.จ. และการจัดสรรงบประมาณ เพื่อเป็นกรอบของอัตราเงินเดือนค่าตอบแทนบุคลากรที่เปลี่ยนสภาพจากส่วนราชการเป็นสถาบันอุดมศึกษาใน กำกับของรัฐ เป็นต้น ไปพิจารณาด้วย พร้อมทั้งให้พิจารณาภาพรวมทั้งระบบของเรื่องการวัดศักยภาพการเรียน ในมหาวิทยาลัยในด้านความถนัดทั่วไป (GAT : General Aptitude Test) และความถนัดทางวิชาชีพและวิชาการ (PAT : Professional and Academic Aptitude Test) แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง |
|||||||||||||||||||||
409 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ พ.ศ. .... | นร | 27/10/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการประชาสัมพันธ์แห่ง
ชาติ พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและ รางอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบ ฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1. ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการประชาสัมพันธ์ พ.ศ. 2544 ระเบียบสำนักนายก รัฐมนตรีว่าด้วยการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2546 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการ ประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2548 2. กำหนดนิยามคำว่า "หน่วยงานของรัฐ" หมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการที่ เรียกชื่ออย่างอื่นมีฐานะเป็นกรม ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น องค์การของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ 3. กำหนดให้มีคณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ เรียกโดยย่อว่า "กปช." โดยมีกรรมการผู้ทรง คุณวุฒิไม่เกินหกคน มีอำนาจหน้าที่ในการเสนอนโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบ และเสนอแนะให้คำปรึกษาและประสานงานการจัดทำแผนประชาสัมพันธ์ของหน่วยงาน ของรัฐ รวมทั้งให้คำแนะนำในการประสานงานการประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานของรัฐและภาคเอกชน 4. กำหนดวาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 5. กำหนดให้กรมประชาสัมพันธ์ เป็นฝ่ายเลขานุการของ กปช. ทำหน้าที่ศึกษาวิเคราะห์นโยบาย และแผนการประชาสัมพันธ์ของชาติ ประสานงาน ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย ส่งเสริม และสนับสนุนการจัดทำแผน การประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานของรัฐเพื่อให้สอดคล้องกับแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ
|
|||||||||||||||||||||
410 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน พ.ศ. .... (การกระจายการถือครองที่ดินในรูปแบบโฉนดชุมชน) | นร | 20/10/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยร่างระเบียบฯ มีสาระสำคัญคือ ๑.๑ กำหนดนิยามคำว่า “โฉนดชุมชน” หมายความว่า สิทธิร่วมกันของชุมชนในการบริหารจัดการ การครอบครองที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่ดินเพื่อสร้างความมั่นคงในการถือครองและใช้ประโยชน์ในที่ดินของชุมชน และเป็นการรักษาพื้นที่เกษตรในการผลิตพืชอาหารเพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร โดยการเลือกรูปแบบการผลิตที่สอดคล้องกับภูมิปัญญาท้องถิ่นและระบบภูมินิเวศ รวมทั้งการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้สมดุล ๑.๒ กำหนดให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า “คณะกรรมการประสานงานและจัดโฉนดชุมชน” เรียกโดยย่อว่า “ปจช.” และกำหนดอำนาจหน้าที่ของ ปจช. เช่น เสนอนโยบาย แผนงานและงบประมาณในการดำเนินงานโฉนดชุมชนต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อกำหนดเป็นมติคณะรัฐมนตรีในการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐ ๑.๓ กำหนดให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการ และให้มีอำนาจหน้าที่ประสานนโยบายการปฏิบัติระหว่างหน่วยงานของรัฐเกี่ยวกับการดำเนินงานโฉนดชุมชนให้สำเร็จเป็นไปตามกฎหมาย กฎ คำสั่ง และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และติดตามประเมินผล และปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่คณะกรรมการมอบหมาย ๑.๔ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมดูแลใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐ ๑.๕ กำหนดให้ในกรณีที่มีการกระทำผิดเงื่อนไขที่ให้ไว้ของชุมชนที่ได้รับสิทธิให้หน่วยงานของรัฐโดยความเห็นชอบของ ปจช. มีอำนาจยกเลิกโฉนดชุมชนได้ ๑.๖ กำหนดให้มีพื้นที่นำร่องในการดำเนินงานโฉนดชุมชนจำนวนไม่น้อยกว่าสามสิบพื้นที่ให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ๒. ให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับกรณีที่คณะกรรมการกำหนดให้พื้นที่ใดดำเนินการให้มีโฉนดชุมชนแล้ว ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องสั่งการให้เป็นไปตามกฎหมาย อาจใช้ได้เฉพาะที่ดินของรัฐบางประเภท ส่วนที่ดินของรัฐที่มีกฎหมายกำหนดอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐไว้เป็นการเฉพาะ จะต้องดำเนินการตามกฎหมายนั้น ๆ เสียก่อน และต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐมนตรีจึงจะดำเนินการได้ รวมทั้งกรณีผู้บุกรุกเข้าถือครองที่ดินของรัฐก่อนวันที่ระเบียบฯ ใช้บังคับและอยู่ระหว่างดำเนินคดีตามกฎหมาย จะได้รับสิทธิตามระเบียบฯ ด้วยหรือไม่ ควรกำหนดให้ชัดเจน และความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการให้คณะกรรมการมีอำนาจกำหนดให้หน่วยงานของรัฐที่มีที่ดินของรัฐพิจารณาให้ชุมชนซึ่งรวมตัวกันอยู่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งระยะเวลาไม่น้อยกว่าสามปีก่อนระเบียบฯ ใช้บังคับมีสิทธิครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินของรัฐร่วมกันภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกำหนด นั้น อาจจะไม่สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๖ ที่เห็นชอบผลการประชุมคณะกรรมการอำนวยการและกำกับนโยบายบริหารจัดการการใช้ประโยชน์ที่ดินของรัฐเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน (กอ.ชตจ.) ครั้งที่ ๑/๒๕๔๖ เมื่อวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๖ เกี่ยวกับการรับรองสิทธิในที่ดินต้องเป็นการถือครองทำประโยชน์สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๔๑ ที่เห็นชอบการกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินในเขตป่าไม้ และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๔๕ สำหรับที่ราชพัสดุส่วนผู้บุกรุกเข้าถือครองที่ดินของรัฐภายหลังวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๖ จะไม่ได้รับสิทธิใด ๆ ตามนโยบายของรัฐบาลและจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. เห็นชอบให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีทำหน้าที่สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการ ส่วนอัตรากำลังให้ปรับเกลี่ยจากบุคลากรภายในของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และให้เบิกจ่ายจากงบประมาณเพื่อการนี้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยให้ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณต่อไป |
|||||||||||||||||||||
411 | ร่างระเบียบคณะกรรมการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเข้าถึงและการได้รับประโยชน์ตอบแทนจากทรัพยากรชีวภาพ พ.ศ. .... | ทส | 20/10/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับร่างระเบียบคณะกรรมการอนุรักษ์
และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเข้าถึง และการได้ รับประโยชน์ตอบแทนจากทรัพยากรชีวภาพ พ.ศ. .... ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยให้รับ ความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เห็นว่า ร่างข้อ 4 ควรเพิ่มพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. 2525 และฉบับเพิ่มเติม พ.ศ. 2544 ปรากฏอยู่ด้วยก่อนคำว่า หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรชีวภาพ และร่าง ข้อ 10 และ 11 การขอรับใบอนุญาตเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาคำขอและแจ้งผลภาย ใน 90 วัน ต่อจากนั้นให้จัดทำข้อตกลงกับผู้ยื่นคำขอใบอนุญาต ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่มีคำสั่งอนุญาต และ แจ้งให้ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตส่งแผนงานโครงการ ฯ ฉบับสมบูรณ์ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งเมื่อจัด ทำข้อตกลง ข้อความที่ให้ทำข้อตกลงภายใน 15 วัน ไม่ชัดเจน ควรระบุว่าให้ดำเนินการเตรียมทำข้อตกลง รวมทั้ง ความเห็นเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ตอบแทนกรณีขอเข้าถึงทรัพยากรชีวภาพ (ส่วนที่ 3) ซึ่งกำหนดให้ผู้ยื่นคำขอใบ อนุญาตที่ได้รับคำสั่งอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐแล้วให้กำหนดสิทธิและประโยชน์ตอบแทนที่จะจ่ายให้กับชุมชน ท้องถิ่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทรัพยากรชีวภาพ นั้น ควรมีความหมายรวมถึง การให้การศึกษา และความรู้เกี่ยวกับ ทรัพยากรชีวภาพ และผลกระทบต่าง ๆ อันเกิดจากการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชีวภาพกับประชาชนในชุมชน ท้องถิ่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เพื่อสร้างความตระหนักถึงคุณค่าและส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนร่วมกันอนุรักษ์ และใช้ความหลากหลายทางชีวภาพให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป ไปพิจารณาด้วย แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา อีกครั้งหนึ่ง |
|||||||||||||||||||||
412 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 13/10/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการตรวจสอบและประเมิน
ผลภาคราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมาย และร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบ ฯ มีสาระสำคัญคือ 1. แก้ไของค์ประกอบของคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ (ค.ต.ป.) โดยให้ "ปลัด กระทรวงการคลัง" เป็นกรรมการแทน "ผู้อำนวยการกำกับและบริหารโครงการเปลี่ยนระบบการบริหารงานการ เงินการคลังโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์" เพิ่มปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นกรรมการ เพิ่มกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจาก "จำนวนไม่น้อยกว่าห้าคนแต่ไม่เกินเจ็ดคน" เป็น "จำนวนไม่น้อยกว่าเจ็ดคนแต่ไม่เกินสิบคน" รวมทั้งเพิ่มกรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการด้วย 2. แก้ไขคุณสมบัติของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ โดยแก้ไขอายุ จาก "ไม่ต่ำกว่าสามสิบห้าปีบริบูรณ์" เป็น "ไม่ต่ำกว่าสี่สิบห้าปีบริบูรณ์" และแก้ไขความรู้ด้านประสบการณ์ด้าน "การตรวจสอบการดำเนินการ" เป็น "การ ตรวจสอบและประเมินผล" รวมทั้งด้าน "การบริหาร" เป็น "การบริหารและการจัดการ" ตลอดจนเพิ่มความรู้และ ประสบการณ์ด้าน "การวางแผน" ด้วย 3. แก้ไขวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จาก "คราวละ 2 ปี" เป็น "คราวละ 4 ปี" 4. ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน ค.ต.ป. ที่แต่งตั้งตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการตรวจสอบ และประเมินผลภาคราชการ พ.ศ. 2548 ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนครบวาระ
|
|||||||||||||||||||||
413 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพิจารณาอนุญาตโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ พ.ศ. .... | อก | 13/10/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่อง ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ด้วยการพิจารณาอนุญาตโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งด้านคุณภาพสิ่ง แวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ พ.ศ. .... ที่เห็นว่า ร่างระเบียบเรื่องนี้มิได้มีสาระสำคัญในการวางระเบียบ ปฏิบัติเฉพาะกับส่วนราชการเท่านั้น แต่เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ปฏิบัติสำหรับภาคเอกชน และคณะกรรมการ ชำนาญการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติด้วย ซึ่งการกำหนดหลักเกณฑ์ ดังกล่าวนอกจากขัดกับพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 แล้ว ยังเป็นการ กำหนดให้องค์การอิสระใช้อำนาจรัฐ ไม่อาจกระทำได้ เว้นแต่อาศัยอำนาจตามกฎหมายในระดับพระราชบัญญัติ ดังนั้น การตราร่างระเบียบโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 11 (8) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่น ดิน พ.ศ. 2534 จึงไม่อาจกระทำได้เพราะเกินอำนาจที่พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 บัญญัติไว้ 2. ให้ถอนร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพิจารณาอนุญาตโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อ ให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ พ.ศ. .... ตาม มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2552 ออกจากการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
|
|||||||||||||||||||||
414 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 13/10/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจระหว่าง
ประเทศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะ ที่ 2 ตรวจพิจารณาแล้ว โดยคณะกรรมการ ฯ ได้ตัดประธานผู้แทนการค้าไทยในตำแหน่งกรรมการนโยบายเศรษฐ กิจระหว่างประเทศออก เนื่องจากประธานผู้แทนการค้าไทยเป็นตำแหน่งทางการเมือง มิได้เป็นข้าราชการการเมือง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2535 และเพิ่มเติมให้นายกรัฐมนตรีสามารถแต่งตั้งกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิได้จำนวนไม่เกินสามคน โดยหากนายกรัฐมนตรีจะประสงค์จะแต่งตั้งประธานผู้แทนการค้าไทยร่วมเป็น กรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ก็อาจแต่งตั้งในฐานะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ รวมทั้งเพิ่มเติมวาระการ ดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนตำแหน่ง ที่ว่าง และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
415 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 13/10/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยา ภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตาม ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอ คณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบ ฯ มีสาระสำคัญคือ 1.1 กำหนดให้ยกเลิก บัญชี 12 และ บัญชี 13 ท้ายระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎ ไทย พ.ศ. 2536 และให้ใช้ บัญชี 12 และ บัญชี 13 ท้ายระเบียบนี้แทน 1.2 กำหนดให้เพิ่ม บัญชี 39 ถึง บัญชี 44 ท้ายระเบียบสำน้กนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระ ราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย พ.ศ. 2536 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 33 ลงวันที่ 30 กันยายน พุทธศักราช 2549 2. เห็นชอบให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2552 เรื่อง ร่างระเบียบสำนักนายก รัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
|
|||||||||||||||||||||
416 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของส่วนราชการ พ.ศ. .... | กค | 13/10/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายใน
การบริหารงานของส่วนราชการ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่าง กฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบ ฯ มี สาระสำคัญดังนี้ 1. ยกเลิกระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของ ส่วนราชการ พ.ศ. 2549 2. กำหนดนิยามคำว่า "ส่วนราชการ" "หัวหน้าส่วนราชการ" และ "ค่าใช้จ่าย" เพื่อให้การเบิกจ่ายมี ความชัดเจน ถูกต้อง และสอดคล้องกับการปฏิบัติงานของส่วนราชการมากยิ่งขึ้น 3. แบ่งหมวดค่าใช้จ่ายออกเป็น 4 หมวด คือ หมวด 1 ค่าตอบแทน หมวด 2 ค่าใช้สอย หมวด 3 ค่า วัสดุ หมวด 4 ค่าสาธารณูปโภค โดยระบุค่าใช้จ่ายที่สามารถเบิกได้ไว้ในแต่ละหมวด เพื่อให้เกิดความเหมาะสม และส่วนราชการสามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างคล่องตัวและถูกต้อง
|
|||||||||||||||||||||
417 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... | นร | 06/10/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลัก
เกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายก รัฐมนตรีเสนอไปพิจารณาร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยให้พิจารณาด้วยว่าจะสมควรออกเป็นระเบียบสำนัก นายกรัฐมนตรี หรือระเบียบกระทรวงมหาดไทย หรือระเบียบคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ จึงจะถูกต้องเหมาะ สม แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง |
|||||||||||||||||||||
418 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารราชการต่างประเทศ พ.ศ. .... | นร | 29/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารราชการต่างประเทศ พ.ศ. .... ตามที่ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ซึ่งตรวจพิจารณาเสร็จแล้ว มีสาระสำคัญคือ 1.1 ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการปฏิบัติราชการของข้าราชการประจำการใน ต่างประเทศ พ.ศ. 2540 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการปฏิบัติราชการของข้าราชการประจำ การในต่างประเทศ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 1.2 กำหนดกรณีการจัดตั้งหรือรวมหรือยุบเลิกหน่วยงานในต่างประเทศ 1.3 กำหนดตำแหน่งและการแต่งตั้งข้าราชการประจำการในต่างประเทศ 1.4 กำหนดลำดับอาวุโส และการบริหารราชการในต่างประเทศ 2. ให้แก้ไขเพิ่มเติมความในข้อ 6 วรรคสอง ของร่างระเบียบฯ จากเดิม "การสั่งยุบเลิกหน่วยงานใน ต่างประเทศ ให้ส่วนราชการเจ้าสังกัดแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการทราบ" เป็น "การ สั่งยุบเลิกหน่วยงานในต่างประเทศ ให้ส่วนราชการเจ้าสังกัดแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราช การและกระทรวงการต่างประเทศทราบ" แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||
419 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ พ.ศ. .... | ทก | 15/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารระบบเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ พ.ศ. 2548 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 และ กำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เรียกโดยย่อว่า "กภช." และกำหนดให้ศูนย์เตือน ภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) เป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อ สาร ทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของ กภช. และปฏิบัติการเกี่ยวกับการเตือนภัยพิบัติ ตามที่กระทรวงเทคโน โลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะ รัฐมนตรีตรวจพิจารณา 2. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ที่เห็นควรให้ เพิ่ม "ปลัดกระทรวงคมนาคม" และ "อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง" ร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการ บริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ รวมทั้งเพิ่ม "กรมป่าไม้" ให้เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบกรณีไฟป่า และข้อ สังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับความซ้ำซ้อนการดำเนินงานของคณะกรรมการป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยแห่งชาติตามร่างพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 กับคณะกรรมการบริหาร ระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติตามร่างระเบียบฉบับนี้ ไม่น่าจะซ้ำซ้อนกัน โดยมอบให้คณะกรรมการตรวจสอบร่าง กฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีรับประเด็นนี้ไปประกอบการพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||
420 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 08/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว
ของข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ขยายสิทธิการได้รับเงินเพิ่ม การครองชีพชั่วคราวของข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการให้ครอบคลุมถึงทหารกองประจำการ โดยให้ ได้รับตามหลักเกณฑ์และอัตราที่กำหนดคือ ไม่เกินเดือนละ 8,200 บาท ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
.....