ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 24 จากทั้งหมด 66 หน้า แสดงรายการที่ 461 - 480 จากข้อมูลทั้งหมด 1313 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
461 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยผู้แทนการค้าไทย พ.ศ. .... | นร | 28/01/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยผู้แทนการค้าไทย พ.ศ. .... ที่คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6 ได้ตรวจพิจารณาแล้ว โดยแก้ไขเพิ่มเติมร่างระเบียบ ฯ สรุปได้ดังนี้ 1. ร่างข้อ 4 ให้นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งผู้แทนการค้าไทยไม่เกิน 5 คน และมีประธาน 1 คน 2. ร่างข้อ 5 กำหนดกรอบอำนาจหน้าที่ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยให้ผู้แทนการค้าไทยดำเนินการเจรจาเพื่อ ให้เป็นไปตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ ท่าที่ของรัฐบาล และคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ตามประเด็นที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายแล้วรายงานต่อนายกรัฐมนตรี และกำหนดให้ผู้แทนการค้าไทยมีอำนาจ หน้าที่เสนอแนะให้คำปรึกษาแก่นายกรัฐมนตรีเป็นหลัก 3. ความเชื่อมโยงของคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) ได้กำหนดไว้ในกรอบ อำนาจหน้าที่ ตามข้อ 2. และข้อสังเกตของคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมาย ฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ เห็นว่าในการประชุม กนศ. ควรเชิญผู้แทนการค้าไทยเข้าร่วมประชุมด้วย
|
|||||||||||||||||||||
462 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. .... | นร | 20/01/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ
พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และตรวจพิจารณาแล้ว โดยแก้ไขเพิ่มเติมถ้อยคำว่า "การ รหัส" ในคำขยายความสิ่งที่เป็นความลับของทางราชการ เพื่อให้เป็นหมวดหมู่เดียวกันกับคำอื่น ๆ รวมทั้งแก้ไข นิยามคำว่า "สิ่งที่เป็นความลับของทางราชการ" ในร่างข้อ 4 สำหรับการกำหนดนิยามคำว่า "การจำกัดให้ทราบ เท่าที่จำเป็น" เห็นว่าหลักการดังกล่าวได้กำหนดไว้ชัดเจนในร่างข้อ 11 แล้ว นอกจากนี้ ได้กำหนดบทเฉพาะกาล โดยรองรับหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคล รวมทั้งมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการรักษา ความปลอดภัยที่ได้กำหนดไว้ก่อนระเบียบนี้ยังคงใช้บังคับต่อไปจนกว่าจะมีการกำหนดขึ้นใหม่ตามระเบียบนี้ตาม ข้อสังเกตของสำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักข่าวกรองแห่งชาติ) และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
463 | ร่างระเบียบกระทรวงยุติธรรม ว่าด้วยเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 09/12/2551 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กรมสอบสวนคดีพิเศษรับร่างระเบียบกระทรวงยุติธรรม ว่าด้วยเงินเพิ่มสำหรับ
ตำแหน่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ไปหารือกับกระทรวงการคลัง ให้ได้ข้อยุติก่อนแล้ว จึงนำเรื่องนี้เสนอคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
464 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด พ.ศ. .... | นร | 19/11/2551 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการธรรมา
ภิบาลจังหวัด พ.ศ. .... ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา อีกครั้งหนึ่ง แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1. กำหนดให้ถือเอาจำนวนอำเภอของแต่ละจังหวัดเป็นเกณฑ์ในการคิดจำนวนกรรมการในคณะกรรม การธรรมาภิบาลจังหวัด (ก.ธ.จ.) โดยให้จังหวัดที่มีไม่เกินสิบอำเภอ ให้มีกรรมการจำนวนสิบสี่คน ประกอบด้วย ประธานและผู้แทนภาคประชาสังคมเจ็ดคน 2. กำหนดให้นายอำเภอจัดประชุมผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเพื่อเลือกกันเองให้ได้ผู้แทนภาคประชา สังคมของอำเภอจำนวนหนึ่งคน 3. กำหนดให้กรณีผู้แทนภาคประชาสังคมมีจำนวนไม่เกินเจ็ดคน ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ต้องจัดประชุม ผู้แทนภาคประชาสังคม
|
|||||||||||||||||||||
465 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการส่งเสริมสภาองค์กรชุมชน พ.ศ. .... | พม | 11/11/2551 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการส่งเสริมสภาองค์กร
ชุมชน พ.ศ. .... ได้ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||
466 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ พ.ศ. .... | สธ | 11/11/2551 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่ง
ชาติ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1. กำหนดให้มีคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติมีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายแห่งชาติด้านยา และแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบยาแห่งชาติ จัดทำบัญชียาหลักแห่งชาติ และกำหนดราคากลางยาในการ จัดซื้อของหน่วยงานของรัฐ 2. กำหนดวาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง และองค์ประชุม 3. กำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรม การ 4. กำหนดให้ระเบียบฉบับนี้ยกเลิกเมื่อมีการกำหนดองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ยาแห่งชาติไว้ในกฎหมายว่าด้วยยา
|
|||||||||||||||||||||
467 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือการศึกษาของบุตรของข้าราชการและลูกจ้างประจำที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติงานในเขตพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลาในพื้นที่อำเภอจะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย พ.ศ. .... | กค | 11/11/2551 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2547 ให้ครอบคลุมถึงการให้ความช่วย เหลือเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตรกรณีข้าราชการและลูกจ้างประจำที่เสียชีวิตเนื่องจากการปฏิบัติ งานในเขตพื้นที่จังหวัดสงขลาในพื้นที่อำเภอจะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ 2. ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มจากการขยายความช่วยเหลือให้ครอบคลุมพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ให้ ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการเงินช่วยเหลือข้าราชการลูก จ้างและพนักงานของรัฐ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอน ต่อไป 3. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือการศึกษาของ บุตรของข้าราชการและลูกจ้างประจำที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติงานในเขตพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลาในพื้นที่อำเภอจะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่ง คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยร่างระเบียบ ฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1.1 ขยายสิทธิการให้การช่วยเหลือเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตรแก่ข้าราชการและลูก จ้างประจำที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติงาน จากเดิมในเขตพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เป็นในเขต พื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลาในพื้นที่อำเภอจะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย 1.2 กำหนดอำนาจการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และการอนุมัติการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือการ ศึกษาของบุตร ในกรณีส่วนราชการในราชการบริหารส่วนกลางให้เป็นอำนาจของหนัวหน้าส่วนราชการระดับ กรม หรือผู้ที่หัวหน้าส่วนราชการมอบหมาย ซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าตำแหน่งประเภททั่วไประดับชำนาญ งาน 1.3 กำหนดให้ส่วนราชการผู้เบิกจัดทำคำขอเบิกเงินช่วยเหลือการศึกษาของบุตรจากเงินประมาณ รายจ่ายงบดำเนินงาน รายการค่าตอบแทนของส่วนราชการในระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐด้วย ระบบอิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS) 4. ให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่เห็นควรพิจารณาอ้างข้อกฎ หมายในบทอาศัยอำนาจของร่างระเบียบ ฯ ให้ถูกต้อง ครบถ้วน และมีความเหมาะสมในชั้นการตรวจพิจารณา ร่างระเบียบคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป และเนื่องจาก รางระเบียบฉบับนี้มิได้กำหนดให้ยกเลิกระเบียบฉบับเดิม อาจจะทำให้เกิดปัญหาความซ้ำซ้อนและยากต่อการ ปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สมควรกำหนดให้ยกเลิกระเบียบฉบับเดิม เพื่อให้สอดรับกับบทเฉพาะกาลข้อ 11 ของร่างระเบียบฉบับนี้ที่กำหนดให้การเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือการศึกษาของบุตร ฯลฯ ที่ได้ดำเนินการไป แล้วก่อนวันที่ระเบียบนี้มีผลใช้บังคับ แต่ยังไม่แล้วเสร็จให้ดำเนินการต่อไปตามระเบียบเดิม อันเป็นการรองรับ สิทธิประโยชน์ของบุคคลที่ได้รับมาโดยผลของระเบียบฉบับเดิมที่ถูกยกเลิกให้คงมีอยู่ต่อไป ไปพิจารณา แล้ว ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
468 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการส่งเสริมประชาสังคมเพื่อการพัฒนา พ.ศ. .... | พม | 04/11/2551 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการส่งเสริมประชาสังคมเพื่อการ
พัฒนา พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความ มั่นคงของมนุษย์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1. กำหนดให้หน่วยงานของรัฐร่วมมือและเปิดโอกาสให้องค์กรด้านประชาสังคม และอาสาสมัคร เพื่อ สังคมมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการพัฒนา 2. กำหนดให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องออกระเบียบ ข้อบังคับหรือคำสั่งของหน่วยงาน หรือดำเนิน การอื่นใดเพื่อปฏิบัติการตามระเบียบนี้ได้ 3. กำหนดให้มีคณะกรรมการส่งเสริมประชาสังคมเพื่อการพัฒนาแห่งชาติ ทำหน้าที่กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์และมาตรการในการส่งเสริมประชาสังคมเพื่อการพัฒนา 4. กำหนดให้สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทำหน้าที่เป็นสำนัก งานเลขานุการของคณะกรรมการและกำหนดอำนาจหน้าที่
|
|||||||||||||||||||||
469 | ร่างระเบียบกระทรวงแรงงานว่าด้วยการได้มา วาระการดำรงตำแหน่ง และการพ้นจากตำแหน่งของผู้แทนองค์กรนายจ้างและผู้แทนองค์กรลูกจ้าง และวาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณาการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. .... | นร | 04/11/2551 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างระเบียบกระทรวงแรงงานว่าด้วยการได้มา วาระการดำรงตำแหน่ง และการพ้นจากตำแหน่งของผู้แทนองค์กรนายจ้างและผู้แทนองค์กรลูกจ้าง และวาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณาการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. .... ที่คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๓ ตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กำหนดให้กรรมการผู้แทนองค์กรนายจ้างและกรรมการผู้แทนองค์กรลูกจ้างมาจากการเลือกตั้ง ๒. กำหนดให้อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานประกาศกำหนดวันเลือกตั้ง เวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดการลงคะแนนเลือกตั้ง และสถานที่ทำการเลือกตั้งกรรมการผู้แทนองค์กรนายจ้างและกรรมการผู้แทนองค์กรลูกจ้าง ๓. กำหนดให้สภาองค์กรนายจ้างและสภาองค์กรลูกจ้างเสนอผู้แทนเพื่อเข้ารับการเลือกตั้งเป็นกรรมการ ๔. กำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการผู้แทนองค์กรนายจ้างและกรรมการผู้แทนองค์กรลูกจ้าง ๕. กำหนดให้สมาคมนายจ้างและสหภาพแรงงานเสนอชื่อผู้แทนเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผู้แทนองค์กรนายจ้างและผู้แทนองค์กรลูกจ้าง ๖. กำหนดให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจคะแนนและอำนาจหน้าที่คณะกรรมการ ๗. กำหนดวิธีการเลือกตั้งการลงคะแนนเลือกตั้งและการนับคะแนน ๘. กำหนดวาระการดำรงตำแหน่ง และการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการผู้แทนองค์กรนายจ้าง กรรมการผู้แทนองค์กรลูกจ้าง และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
|||||||||||||||||||||
470 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินค่าเช่าบ้านข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 04/11/2551 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับ
การเบิกจ่ายเงินค่าเช่าบ้านข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่าง อนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบกระทรวงการคลัง ฯ มีสาระ สำคัญดังนี้ 1. เพิ่มเติมกระบวนการขอรับค่าเช่าบ้านของข้าราชการในครั้งแรกของการขอใช้สิทธิเบิกค่าเช่าบ้านโดย ให้ผู้ขอใช้สิทธิแจ้งข้อมูลต่าง ๆ ของตนเองว่าเป็นผู้มีสิทธิและไม่เป็นผู้ต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด 2. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดประเภทตำแหน่งใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับปรุงการกำหนด ตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ในส่วนของหลัก เกณฑ์การรับรองและการอนุมัติให้เบิกค่าเช่าบ้าน 3. แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสิทธิการเบิกค่าเช่า กรณีข้าราชการได้รับ คำสั่งให้เดินทางไปประจำสำนักงานในต่างท้องที่ โดยไม่เปลี่ยนสำนักเบิกเงินเดือน โดยให้ผู้บังคับบัญชาประจำ สำนักงานที่ผู้ใช้สิทธิไปปฏิบัติราชการ เป็นผู้มีอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสิทธิการเบิกค่าเช่าบ้านของ ข้าราชการ 4. แก้ไขหลักเกณฑ์กรณีที่มีการขยายวงเงินกู้หรือขยายระยะเวลาการผ่อนชำระเงินกู้เพื่อชำระราคาบ้าน โดยให้นำหลักฐานการผ่อนชำระมาเบิกค่าเช่าบ้านได้ตามจำนวนเงินกู้ และระยะเวลาการผ่อนชำระที่เหลืออยู่ของ สัญญาเงินกู้ฉบับแรกเท่านั้น
|
|||||||||||||||||||||
471 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 04/11/2551 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินสวัสดิ
การเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการ ตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดย ร่างระเบียบกระทรวงการคลัง ฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1. ยกเลิกสำนักงานคลังจังหวัด ณ อำเภอ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรม บัญชีกลาง กระทรวงการคลัง พ.ศ. 2551 2. แก้ไขเพิ่มเติมให้หัวหน้าส่วนราชการระดับกรมหรือผู้ที่หัวหน้าส่วนราชการระดับกรมมอบหมาย ซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับชำนาญงาน ประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการ หรือ ตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับ 6 หรือเทียบเท่าเป็นผู้มีอำนาจอนุมัติให้เบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของ บุตร 3. ยกเลิกการยื่นขอเบิกเงิน การอนุมัติ และการเบิกจ่ายและจ่ายเงินในส่วนเกี่ยวกับสำนักงานคลัง จังหวัด ณ อำเภอ
|
|||||||||||||||||||||
472 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 04/11/2551 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการ
เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบ ร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบ ฯ มี สาระสำคัญดังนี้ 1. ให้หัวหน้าหน่วยงานที่ตั้งอยู่ในอำเภอหรือกิ่งอำเภอซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าตำแหน่งประเภททั่ว ไป ระดับชำนาญงาน ประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการ หรือตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับ 6 หรือเทียบเท่า เป็นผู้ ออกหนังสือรับรองการมีสิทธิรับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล 2. ให้หัวหน้าสำนักงานที่สำนักงานอยู่ในภูมิภาคหรือแยกต่างหากจากกระทรวง ทบวง กรม ซึ่งดำรง ตำแหน่งไม่ต่ำกว่าตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับชำนาญงาน ประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการ หรือตำแหน่งไม่ ต่ำกว่าตำแหน่งระดับ 6 หรือเทียบเท่า เป็นผู้รับรองการใช้สิทธิของข้าราชการในสังกัด และให้ข้าราชการผู้ดำรง ตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับทักษะพิเศษ ประเภทวิชาการ ตั้งแต่ระดับเชี่ยวชาญขึ้นไป ประเภทอำนวยการระดับ สูง ประเภทบริหาร หรือตำแหน่งตั้งแต่ระดับ 9 ขึ้นไป หรือเทียบเท่า มีอำนาจรับรองการใช้สิทธิของตนเอง 3. ยกเลิกการยื่นขอเบิกเงิน การอนุมัติ การเบิกและจ่ายเงินในส่วนที่เกี่ยวกับสำนักงานคลังจังหวัด ณ อำเภอ
|
|||||||||||||||||||||
473 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนนอกเหนือจากเงินเดือนของข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 04/11/2551 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน
นอกเหนือจากเงินเดือนของข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการ คลังเสนอ มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ข้าราชการที่ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน ระดับชำนาญงาน และระดับอาวุโส ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ระดับชำนาญการ ที่เคยมีสิทธิได้รับเงินค่าตอบ แทนตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนนอกเหนือจากเงินเดือนของข้าราชการและลูก จ้างประจำของส่วนราชการ พ.ศ. 2547 ได้รับเงินค่าตอบแทนในอัตราที่เคยได้รับต่อไป และส่งคณะกรรมการตรวจ สอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
474 | ร่างพระราชบัญญัติขั้นตอนและวิธีการจัดทำหนังสือสัญญา พ.ศ. .... | กต | 28/10/2551 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติขั้นตอนและวิธีการจัดทำหนังสือสัญญา พ.ศ. .... ที่สำนัก
งานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการ ประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยร่างระเบียบ ฯ มีสาระ สำคัญดังนี้ 1. กำหนดนิยามคำว่า "หนังสือสัญญา" 2. กำหนดให้การจัดทำหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร ไทย ต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ 2.1 หนังสือสัญญาที่มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทย หรือเขตพื้นที่นอกอาณาเขตซึ่งประเทศไทยมี สิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตามหนังสือสัญญาหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ 2.2 หนังสือสัญญาที่จะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามหนังสือสัญญา 2.3 หนังสือสัญญาที่มีผลผูกพันงบประมาณของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ 2.4 หนังสือสัญญาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง 2.5 หนังสือสัญญาที่มีผลผูกพันด้านการค้าหรือการลงทุนของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ไม่รวมถึงหนังสือสัญญากู้เงินหรือค้ำประกันเงินกู้ที่รัฐบาลไทยหรือราชอาณาจักรไทยทำขึ้นตาม กฎหมายที่ให้อำนาจไว้เป็นการเฉพาะหรือเป็นการทั่วไปเพราะเป็นกรณีที่มีกฎหมายให้อำนาจดำเนินการเป็นการ เฉพาะอยู่แล้ว 3. กำหนดขั้นตอน วิธีการ และหลักเกณฑ์ในการจัดทำหนังสือสัญญาอื่นที่มิใช่หนังสือสัญญาตามมาตรา 4 ให้เป็นไปตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา 4. ห้ามมิให้หน่วยงานของรัฐที่มิได้รับมอบอำนาจจากคณะรัฐมนตรีทำความตกลงกับรัฐบาลต่างประเทศ รัฐต่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศ หรือหน่วยงานของรัฐต่างประเทศ ให้มีผลเช่นเดียวกับหนังสือสัญญาตาม มาตรา 4 5. กำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการการจัดทำกรอบการเจรจาเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอรัฐสภา ให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการเจรจา การเผยแพร่กรอบการเจรจาให้ประชาชนทราบโดยทั่วไป และรับฟังความ คิดเห็นของประชาชน การจัดให้มีการศึกษาวิจัยผลกระทบที่จะเกิดขึ้นและแนวทางป้องกันแก้ไขดังกล่าว ตลอดจน การเจรจาเพื่อจัดทำหนังสือสัญญา 6. กำหนดให้คณะรัฐมนตรีต้องเสนอหนังสือสัญญาต่อรัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบก่อนลงนามในกรณีที่ หนังสือสัญญามีผลใช้บังคับเมื่อมีการลงนามโดยไม่ต้องแสดงเจตนาให้มีผลผูกพันในภายหลัง และในกรณีมีหนังสือ สัญญาที่มีผลใช้บังคับเมื่อมีการแสดงเจตนาให้มีผลผูกพัน ก่อนแสดงเจตนาให้มีผลดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรีเสนอ หนังสือนั้นต่อรัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบ โดยการเสนอหนังสือสัญญาต่อรัฐสภานี้ให้คณะรัฐมนตรีเผยแพร่ราย ละเอียดของหนังสือสัญญาให้ประชาชนทราบตามวิธีการที่กำหนด 7. กำหนดหลักเกณฑ์การเผยแพร่หนังสือสัญญาที่มีผลใช้บังคับการจัดให้มีการศึกษาผลกระทบจากการ ปฏิบัติตามหนังสือสัญญา รวมทั้งมาตรการแก้ไขหรือการเยียวยาผลกระทบดังกล่าว ตลอดจนการจัดให้มีฐานข้อ มูลหนังสือสัญญาเพื่อรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือสัญญา ฯ 8. กำหนดบทเฉพาะกาลให้การดำเนินการเพื่อจัดทำหนังสือสัญญาใดที่รัฐบาลไทย หรือราชอาณาจักร ไทยยังมิได้แสดงเจตนาให้มีผลผูกพัน ให้ดำเนินการต่อไปตามพระราชบัญญัตินี้ และให้ถือว่าการดำเนินการที่ได้ ทำไปแล้วเป็นการดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้แล้ว
|
|||||||||||||||||||||
475 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ พ.ศ. .... | สธ | 16/09/2551 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วย
คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนิน การต่อไปได้ โดยร่างระเบียบ ฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1. กำหนดให้มีคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีอำนาจหน้าที่ กำหนดนโยบายแห่งชาติด้านยา และแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบยาแห่งชาติ จัดทำบัญชียาหลักแห่งชาติ และกำหนดราคากลางยาในการจัดซื้อของหน่วยงานของรัฐ 2. กำหนดวาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง และองค์ประชุมของคณะกรรมการ 3. กำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของ คณะกรรมการ 4. กำหนดให้ระเบียบ ฯ ยกเลิกเมื่อมีการกำหนดองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ยาแห่งชาติไว้ในกฎหมายว่าด้วยยา
|
|||||||||||||||||||||
476 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ พ.ศ. .... | สธ | 16/09/2551 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วย
คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนิน การต่อไปได้ โดยร่างระเบียบ ฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1. กำหนดให้มีคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีอำนาจหน้าที่ กำหนดนโยบายแห่งชาติด้านยา และแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบยาแห่งชาติ จัดทำบัญชียาหลักแห่งชาติ และกำหนดราคากลางยาในการจัดซื้อของหน่วยงานของรัฐ 2. กำหนดวาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง และองค์ประชุมของคณะกรรมการ 3. กำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของ คณะกรรมการ 4. กำหนดให้ระเบียบ ฯ ยกเลิกเมื่อมีการกำหนดองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ยาแห่งชาติไว้ในกฎหมายว่าด้วยยา |
|||||||||||||||||||||
477 | ร่างประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ. .... (ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ. ....) | นร | 19/08/2551 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ. .... ที่คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๖ ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กำหนดให้ประมวลจริยธรรมตามร่างฉบับนี้ ประกอบด้วย ค่านิยมหลักของข้าราชการการเมือง มาตรฐานทางจริยธรรมของข้าราชการการเมือง กลไกและระบบในการควบคุมดูแลให้เป็นไปตามประมวลจริยธรรม ๒. กำหนดนิยามให้ข้าราชการการเมืองที่ต้องปฏิบัติตามร่างประมวลจริยธรรมนี้ ได้แก่ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และข้าราชการการเมืองอื่นที่นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีแต่งตั้งตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. ๒๕๓๕ ๓. หมวด ๒ กำหนดค่านิยมหลักของข้าราชการการเมืองพึงปฏิบัติ ๙ ประการ ตามที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินแนะนำ ๔. หมวด ๓ กำหนดมาตรฐานทางจริยธรรมของข้าราชการการเมืองพึงปฏิบัติตั้งแต่ข้อ ๕ ถึงข้อ ๒๙ ๕. หมวด ๔ กำหนดให้มีกลไกและระบบควบคุมดูแลให้เป็นไปตามประมวลจริยธรรมนี้ โดยให้นายกรัฐมนตรีมีหน้าที่ควบคุมกำกับการประพฤติปฏิบัติของรัฐมนตรีและข้าราชการการเมืองอื่นที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง ให้รัฐมนตรีมีหน้าที่ควบคุมกำกับการประพฤติปฏิบัติของข้าราชการการเมืองอื่นที่รัฐมนตรีแต่งตั้ง แล้วแต่กรณี รวมทั้งมีอำนาจลงโทษตามความร้ายแรงแห่งการกระทำ
|
|||||||||||||||||||||
478 | แก้ไขกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 รวม 4 ฉบับ | กค | 19/08/2551 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชบัญญัติ ร่างพระราช
กฤษฎีกา ร่างกฎกระทรวง และร่างระเบียบ รวม 4 ฉบับ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณา แล้วให้ส่งร่างพระราชบัญญัติให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอ สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป สำหรับร่างพระราชกฤษฎีกา ร่างกฎกระทรวง และร่างระเบียบ ให้ดำเนิน การต่อไปได้ ดังนี้ 1. ร่างพระราชบัญญัติสงเคราะห์ข้าราชการผู้ได้รับอันตรายหรือการเจ็บป่วยเพราะเหตุปฏิบัติ ราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ข้าราชการผู้ใดถึงแก่ความตาย ทุพพลภาพ พิการ หรือได้รับอันตรายสาหัส เนื่องจากเหตุดังบัญญัติไว้ในมาตรา 5 ได้แก่ การช่วยเหลือราชการ การปฏิบัติ งานของชาติตามที่ได้รับมอบหมายจากทางราชการ การปฏิบัติตามหน้าที่หรือการช่วยเหลือบุคคลอื่นตาม หน้าที่ที่กฎหมายกำหนด หรือการปฏิบัติหน้าที่มนุษยธรรมซึ่งพลเมืองดีพึงปฏิบัติมีสิทธิได้รับการเลื่อนขั้น เงินเดือนหรือเลื่อนเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษ 2. ร่างพระราชกฤษฎีกาจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การจ่ายเงินเดือนกรณีที่มีการเลื่อนชั้น เลื่อนระดับ เลื่อน ขั้นเงินเดือน หรือเลื่อนเงินเดือน ให้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ระบุในคำสั่งของผู้มีอำนาจสั่งเลื่อน 3. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และอัตราในการจ่ายเงินสงเคราะห์ และกำหนด ลักษณะของความพิการทุพพลภาพขนาดหนักจนเป็นอุปสรรคสำคัญยิ่งในการประกอบอาชีพหรือในการ ดำรงชีพ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้คำว่า "อัตราเงินเดือน" ให้หมายความถึง อัตรา เงินเดือนขั้นต่ำของบัญชีเงินเดือนตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ของข้าราชการพลเรือนที่ใช้อยู่ ขณะประสบภัย 4. ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการขอรับและการจ่ายบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การสั่งจ่ายบำเหน็จบำนาญให้เป็นอำนาจของอธิบดีกรม บัญชีกลาง หรือผู้ที่อธิบดีกรมบัญชีกลางมอบหมาย ที่มีตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้อำนวยการกองหรือตำแหน่ง ประเภทอำนวยการระดับต้น หรือตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการพิเศษ หรือตำแหน่งประเภท ทั่วไประดับอาวุโส
|
|||||||||||||||||||||
479 | การขอยกเว้นมิต้องดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี กฎหมาย ระเบียบ และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการจัดงาน ITU TELECOM ASIA 2008 | ทก | 19/08/2551 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารดำเนินการตามความเห็นและข้อเสนอแนะของกระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ เมื่อได้ดำเนินการแล้ว มีข้อขัดข้องประการใด ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเป็นรายกรณีไป ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังมีความเห็นว่า ๑.๑ การจัดซื้อจัดจ้างหากขั้นตอนใดที่ไม่สามารถปฏิบัติตามขั้นตอนของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติมได้ ก็ให้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบฯ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม แต่หากขั้นตอนใดสามารถปฏิบัติตามระเบียบฯ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติมได้ ก็ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบฯ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติมต่อไป และเห็นควรอนุมัติยกเว้นการไม่ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙ และให้รวมถึงกรณีที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้โอนเงินงบประมาณให้หน่วยงานราชการอื่นเบิกแทน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงาน ITU TELECOM ASIA 2008 ให้ได้รับการยกเว้นตามแนวทางดังกล่าวด้วย ๑.๒ ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงาน และการประชุมระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๙ ข้อ ๒๘ กำหนดว่า การจัดงานตามแผนงานโครงการตามภารกิจปกติหรือตามนโยบายของทางราชการ ให้หัวหน้าส่วนราชการเจ้าของงบประมาณพิจารณาอนุมัติการเบิกจ่ายได้เท่าที่จ่ายจริง ตามความจำเป็น เหมาะสม และประหยัด ดังนั้น กรณีกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน หัวหน้าส่วนราชการเจ้าของงบประมาณสามารถใช้ดุลยพินิจในการเบิกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการจัดงาน ITU TELECOM ASIA 2008 โดยถือปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าว ๑.๓ เงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรรเพื่อใช้ในการจัดงาน ITU TELECOM ASIA 2008 เป็นเงินงบประมาณที่จัดสรรให้กับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารซึ่งเป็นส่วนราชการ จึงไม่สามารถเบิกเงินงบประมาณดังกล่าวเพื่อนำฝากเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ในนามของคณะกรรมการจัดงาน ITU TELECOM ASIA 2008 ซึ่งเป็นคณะบุคคลได้ ประกอบกับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณในปัจจุบันได้ดำเนินการในระบบ GFMIS ที่สามารถเบิกจ่ายได้อย่างรวดเร็วอยู่แล้ว จึงไม่เห็นสมควรอนุมัติให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเบิกเงินงบประมาณเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร ๒. สำนักงบประมาณมีความเห็นและข้อสังเกตว่า ควรจะกำหนดให้ชัดเจนว่าจะขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องใดบ้าง ประกอบกับร่างระเบียบคณะกรรมการการจัดงาน ITU TELECOM ASIA 2008 ว่าด้วยงบประมาณ การเงิน และการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าว จะครอบคลุมการบริหารจัดการงบประมาณทั้งด้านรายรับและรายจ่ายด้านการเงินทุกประเภท โดยกำหนดให้เป็นอำนาจของประธานคณะอนุกรรมการด้านการเงินแต่ผู้เดียว ซึ่งมีข้อสังเกตว่าเมื่อนำไปสู่การปฏิบัติจริงอาจเป็นการดำเนินงานที่ไม่รอบคอบและไม่โปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล และอาจมีปัญหาต่อเนื่องในอนาคตได้ จึงเห็นควรที่คณะรัฐมนตรีจะพิจารณาให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี กฎหมาย ระเบียบ และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้องก่อน หากมีปัญหาเป็นกรณีเฉพาะที่สมควรขอยกเว้นในเรื่องใด ก็เห็นควรให้ขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลังหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น ๆ เป็นกรณี ๆ ไป |
|||||||||||||||||||||
480 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด พ.ศ. .... | นร | 05/08/2551 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะ
กรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้มีคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด เรียกโดย ย่อว่า ก.ธ.จ. ทำหน้าที่สอดส่องและเสนอแนะการปฏิบัติภารกิจของหน่วยงานของรัฐในจังหวัดให้ใช้วิธีการบริหาร กิจการบ้านเมืองที่ดี และกำหนดองค์ประกอบของ ก.ธ.จ. จำนวนกรรมการ วาระการดำรงตำแหน่ง การสรรหา คุณสมบัติ และการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการ รวมทั้งกำหนดอำนาจหน้าที่และการประชุม ก.ธ.จ. และการเบิก ค่าใช้จ่ายของ ก.ธ.จ. และที่ปรึกษา ก.ธ.จ. ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยให้แก้ไข ข้อความ "ให้มีการประชุม ก.ธ.จ. ตามที่ประธานเห็นสมควร" เป็น "ให้มีการประชุม ก.ธ.จ. ตามที่ปลัดสำนักนายก รัฐมนตรีประกาศกำหนด" และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
.....