ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 2 จากทั้งหมด 327 หน้า แสดงรายการที่ 21 - 40 จากข้อมูลทั้งหมด 6523 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
21 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราในการจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. .... | ยธ. | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และอัตราในการจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และอัตราในการจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา
พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และปรับปรุงการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และอัตราในการจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา
เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานศาลยุติธรรมไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นว่าค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้นจากการดำเนินงานตามร่างกฎกระทรวงดังกล่าว
ให้กระทรวงยุติธรรมใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับจัดสรรเพื่อรองรับภารกิจเกี่ยวกับการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญาไว้แล้ว
และ/หรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีเพื่อมาดำเนินการตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป สำนักงานศาลยุติธรรม เห็นว่าร่างกฎกระทรวงนี้จะมีการปรับเพิ่มอัตราในการช่วยเหลือเยียวยาขึ้นมามากขึ้น
แต่เนื่องจากอัตราที่ปรับเพิ่มขึ้นมีที่มาจากการศึกษาอัตราการช่วยเหลือเยียวยาของ
๘ หน่วยงาน
โดยมิได้ปรากฏว่ามีการศึกษาวิจัยทางเศรษฐศาสตร์หรือการศึกษาจากมุมมองของผู้เสียหายและจำเลยว่าอัตราการช่วยเหลือเยียวยาเท่าใดจึงถือได้ว่าเหมาะสมกับค่าครองชีพที่แท้จริงในปัจจุบันหรือไม่
ควรมีการศึกษาวิจัยจากมุมมองดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง แม้ภายหลังร่างกฎกระทรวงมีผลใช้บังคับแล้วย่อมจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการใช้ประเมินผลสัมฤทธิ์ตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๒ เช่นกัน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
22 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การส่งหรือนำซากดึกดำบรรพ์ที่พบในราชอาณาจักรออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ. .... | ทส. | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไข การส่งหรือนำซากดึกดำบรรพ์ที่พบในราชอาณาจักรออกนอกราชอาณาจักร
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขในการส่งหรือนำซากดึกดำบรรพ์ (เช่น
ซากดึกดำบรรพ์ที่ยังติดอยู่ในหินเพื่อการศึกษาวิจัย) หรือซากดึกดำบรรพ์ที่ได้ถูกแปรสภาพหรือเปลี่ยนแปลงเป็นรูปลักษณะอื่น
(เช่น ซากดึกดำบรรพ์ที่ถูกกรอหินที่ติดอยู่กับชิ้นตัวอย่างซากดึกดำบรรพ์ออกเพื่อนำไปศึกษาวิจัย)
ซึ่งพบในราชอาณาจักรออกนอกราชอาณาจักรให้มีความทันสมัย
เหมาะสมกับสภาพสังคมและเทคโนโลยีในปัจจุบัน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
23 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมของศูนย์ประเมินความรู้ความสามารถกลาง เพื่อส่งเสริมและลดภาระแก่ประชาชนซึ่งเข้ารับการประเมินความรู้ความสามารถ ภายในระยะเวลาที่กำหนด พ.ศ. .... | รง. | 27/05/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมของศูนย์ประเมินความรู้ความสามารถกลางเพื่อส่งเสริมและลดภาระแก่ประชาชนซึ่งเข้ารับการประเมินความรู้ความสามารถ
ภายในระยะเวลาที่กำหนด พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการลดค่าธรรมเนียมการประเมินเพื่อออกหนังสือรับรองความรู้ความสามารถให้แก่ผู้ประกอบอาชีพในสาขาอาชีพ
ตำแหน่งงาน หรือลักษณะงานใดที่อาจเป็นอันตรายต่อสาธารณะ
ของศูนย์ประเมินความรู้ความสามารถกลาง (กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน) จาก ครั้งละ ๑,๐๐๐ บาท เป็น ครั้งละ ๑๐๐ บาท ในระหว่างวันที่ ๑
มีนาคม ๒๕๖๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๘ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
โดยให้กระทรวงแรงงานแก้ไขวันใช้บังคับของร่างกฎกระทรวงดังกล่าวให้มีผลตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ และตัดร่างข้อ ๒ ออก
เนื่องจากไม่มีกรณีที่ต้องคืนเงินค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บไว้เกิน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงาน
ก.พ.ร. ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ กระทรวงการคลัง เห็นว่าการออกกฎกระทรวงเพื่อปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าว
จะส่งผลให้รายได้ของกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานลดลง กระทรวงแรงงานควรพิจารณามาตรการเพื่อรองรับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับสถานะทางการเงินของกองทุนด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมคำขอเกี่ยวกับการจัดหางานในประเทศและการจัดหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมคำขอเกี่ยวกับการจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานเป็นคนประจำเรือ พ.ศ. .... | รง. | 20/05/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมคำขอเกี่ยวกับการจัดหางานในประเทศและการจัดหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมคำขอเกี่ยวกับการจัดหางานให้คนหางานในประเทศและเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ
เช่น ค่าธรรมเนียมคำขอใบอนุญาตจัดหางานให้คนหางานทำงานในประเทศ
ค่าธรรมเนียมคำขอใบอนุญาตจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ
ค่าธรรมเนียมคำขอใบแทนใบอนุญาต ค่าธรรมเนียมคำขอรับรองสำเนาเอกสาร และร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมคำขอเกี่ยวกับการจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานเป็นคนประจำเรือ
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมคำขอเกี่ยวกับการจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานเป็นคนประจำเรือ
เช่น ค่าธรรมเนียมคำขอใบอนุญาตจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานเป็นคนประจำเรือ
ค่าธรรมเนียมคำขอการต่ออายุใบอนุญาตจัดหางาน ค่าธรรมเนียมคำขอการแปลใบอนุญาตจัดหางานเป็นภาษาต่างประเทศ
จำนวน ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร.
สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
เช่น สำนักงบประมาณ เห็นว่ากระทรวงแรงงานควรประชาสัมพันธ์
สร้างการรับรู้และความเข้าใจให้ผู้เกี่ยวข้องทราบอย่างทั่วถึงเพื่อให้การออกกฎกระทรวงทั้ง
๒ ฉบับดังกล่าวบรรลุวัตถุประสงค์
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25 | ร่างกฎกระทรวงการผลิตสุรา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันทางการค้าของผู้ประกอบอุตสาหกรรมสุราขนาดเล็กและผู้ประกอบอุตสาหกรรมสุราขนาดกลาง ตามนโยบายการสร้างโอกาสต่อยอดจากอุตสาหกรรมเดิมเพื่อส่งเสริม Soft Power ของประเทศและนโยบายการยกระดับการบริการภาครัฐ | กค. | 13/05/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการผลิตสุรา
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงการผลิตสุรา
พ.ศ. ๒๕๖๕ โดยการแก้ไขหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตผลิตสุราจากโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดกลาง
แก้ไขหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดเล็ก และโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดกลาง
เช่น สถานที่ตั้งของโรงอุตสาหกรรมสุรากลั่น และเงื่อนไขอื่น ๆ ให้มีความสอดคล้องกัน
รวมทั้งแก้ไขคำนิยามเกี่ยวกับโรงอุตสาหกรรมสุราแช่ชนิดเบียร์ประเภทผลิตเพื่อขาย ณ
สถานที่ผลิต เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนความสามารถในการแข่งขันทางการค้า การสร้างรายได้
และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของผู้ประกอบอุตสาหกรรมสุราขนาดเล็กและผู้ประกอบอุตสาหกรรมสุราขนาดกลาง
ตามนโยบายการสร้างโอกาสต่อยอดจากอุตสาหกรรมเดิมเพื่อส่งเสริม Soft Power ของประเทศ
โดยการปรับใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้านและสุราชุมชน และนโยบายการยกระดับการบริการภาครัฐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เห็นควรคำนึงถึงสุขลักษณะความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
ความสามารถในการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ และผลกระทบต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
เพื่อให้การท่องเที่ยวไทยสามารถต่อยอดสร้างการกระจายรายได้
และการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
26 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการประกอบการค้าข้าว (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | พณ. | 13/05/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการประกอบการค้าข้าว
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมอัตราค่าธรรมเนียมการประกอบการค้าข้าว
โดยปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมหนังสืออนุญาตให้ประกอบการค้าข้าว
ประเภทค้าข้าวส่งไปจำหน่ายต่างประเทศที่เป็นผู้ส่งออกทั่วไปและผู้ส่งออกข้าวสารบรรจุกล่องหรือหีบห่อ
และยกเว้นค่าธรรมเนียมหนังสืออนุญาตและการต่ออายุหนังสืออนุญาตดังกล่าวแก่เกษตรกร
กลุ่มเกษตรกร และสหกรณ์ ซึ่งได้จดทะเบียนรับรองไว้กับหน่วยงานราชการ
เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และสำนักงาน ก.พ.ร.
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย เช่น สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นควรมีการกำหนดมาตรการเพื่อส่งเสริมโอกาสทางการตลาดและความสามารถในการส่งออกข้าวไปจำหน่ายต่างประเทศสำหรับเกษตรกร
กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ และผู้ประกอบการ SMEs ที่มีศักยภาพควบคู่กับการบังคับใช้กฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมฯ ดังกล่าว |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
27 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดคดีพิเศษเพิ่มเติมตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ. | 13/05/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดคดีพิเศษเพิ่มเติมตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดคดีพิเศษเพิ่มเติมตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ
พ.ศ. ๒๕๖๖ เพื่อกำหนดให้คดีความผิดทางอาญาเป็นคดีพิเศษเพิ่มเติมจำนวน ๓ คดีความผิด
ดังนี้ ๑) คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ๒)
คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และ ๓)
คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ประเภทน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล | กค. | 06/05/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขบัญชีท้ายกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต
พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ๔๑)
พ.ศ. ๒๕๖๘ โดยปรับขึ้นอัตราภาษีสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน
ประเภทน้ำมันเบนซินและดีเซล ๑ บาทต่อลิตร
เพื่อส่งผลให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นอันจะทำให้ฐานะการคลังมีความมั่นคงและรักษาเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงพลังงาน
สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อให้มีการปรับลดเงินนำส่งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเท่ากับภาษีสรรพสามิตและภาษีเพื่อราชการส่วนท้องถิ่นที่เพิ่มขึ้น
เพื่อไม่ให้การปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลในครั้งนี้มีผลกระทบต่อราคาขายปลีกของน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล ๓.
ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาระยะเวลาการดำเนินการบังคับใช้กฎกระทรวงในเรื่องนี้ให้มีความเหมาะสม
โดยมิให้ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลของประชาชน และรับความเห็นของกระทรวงพลังงานและสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงพลังงาน เห็นว่าหากเกิดสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลจนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงขาดสภาพคล่อง
ให้กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพสามิต พิจารณาปรับลดอัตราภาษีและน้ำมันดีเซลลง
เพื่อรักษาระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมในกรณีที่เกิดวิกฤตการณ์ด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
29 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | รง. | 06/05/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงาน
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงาน
พ.ศ. ๒๕๔๗ เพื่อเพิ่มอัตราเงินทดแทนในกรณีว่างงานเพราะเหตุถูกเลิกจ้าง
จากอัตราร้อยละ ๕๐ ของค่าจ้างรายวัน เป็นอัตราร้อยละ ๖๐ ของค่าจ้างรายวัน เพื่อบรรเทาภาระการดำรงชีพของผู้ประกันตนให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงการคลัง เห็นว่ากระทรวงแรงงานควรมีแผนการรองรับผลกระทบที่อาจจะเกิดวิกฤตสถานการณ์การว่างงาน
และมีการใช้สิทธิในกรณีดังกล่าวที่สูงกว่าปกติ เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของกองทุนประกันสังคมในระยะยาว
ประกอบกับ เป็นการตรากฎหมายหรือการดำเนินการใด ๆ ที่มีผลผูกพันทรัพย์สิน
หรือก่อให้เกิดภาระทางการเงินการคลังแก่รัฐ ดังนั้น ในการพิจารณาเรื่องดังกล่าวให้พิจารณาถึงความคุ้มค่า
ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพ
และความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังด้วย
เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติมาตรา ๗
แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
30 | ร่างกฎกระทรวงการส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ พ.ศ. .... | รง. | 06/05/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ กำหนดเวลา
และอัตราการส่งเงินเข้ากองทุน เพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ
ให้มีความเหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร.
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงาน ก.พ.ร. เห็นควรประชาสัมพันธ์การดำเนินการตามร่างกฎกระทรวงนี้ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบเพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติเมื่อร่างกฎกระทรวงนี้มีผลใช้บังคับต่อไป สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรศึกษาการประมาณการรายจ่ายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหากจะมีการกำหนดสิทธิประโยชน์ต่าง
ๆ ของกองทุนฯ เพิ่มเติมในอนาคต รวมทั้งพิจารณาแนวทางในการจัดหารายได้ของกองทุนฯ
ให้มีเสถียรภาพและเกิดความยั่งยืนในระยะยาว และควรประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการสมัครสมาชิกกองทุนฯ
โดยใช้ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
31 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 | มท. | 06/05/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ.
....) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎกระทรวง
ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๒๘) และยกเลิกกฎกระทรวง ฉบับที่ ๖๕ (พ.ศ. ๒๕๕๘)
ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒
เพื่อให้การติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาของอาคารที่ไม่ใช่อาคารอยู่อาศัยไม่เป็นการดัดแปลงอาคารที่ต้องยื่นขออนุญาตดัดแปลงอาคาร
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงพลังงานและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงพลังงาน เห็นควรมีการกำหนดแนวทางสำหรับการติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ของระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาให้มีความชัดเจน
เพื่อป้องกันการตีความที่คลาดเคลื่อน
และควรมีมาตรการการบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์
เพื่อลดการสร้างมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่าร่างกฎกระทรวงดังกล่าว
มีการตัดข้อความ “โดยต้องมีผลการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงที่กระทำและรับรองโดยวิศวกรโยธาตามกฎหมายว่าด้วยวิศวกรว่าสามารถติดตั้งได้อย่างปลอดภัยและแจ้งให้พนักงานท้องถิ่นทราบก่อนดำเนินการ”
ออก จากกฎกระทรวง ฉบับที่ ๖๕ (พ.ศ. ๒๕๕๘) ซึ่งความปลอดภัยในการติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์บนอาคารเป็นสิ่งสำคัญ
ควรให้มีการตรวจสอบความแข็งแรงหรือต้องติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้หรือผ่านการอบรมแล้ว
รวมทั้งควรคำนึงถึงการติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่อาจส่งผลกระทบกับอาคารข้างเคียง
เช่น แสงอาทิตย์ความร้อน เป็นต้น
๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงพลังงาน เห็นว่าการปรับปรุงข้อกำหนดสำหรับการติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ของระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาของอาคารที่ไม่ถือเป็นการดัดแปลงอาคารให้ครอบคลุมอาคารประเภทอื่น
ๆ
จะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในการผลิตไฟฟ้าและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามนโยบายของกระทรวงพลังงาน
ควรมีการกำหนดแนวทางสำหรับการติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ของระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาให้มีความชัดเจน
เพื่อป้องกันการตีความที่คลาดเคลื่อน
และควรมีมาตรการการบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์
เพื่อลดการสร้างมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
32 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อปรับปรุงเงื่อนไขอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ประเภทประหยัดพลังงาน แบบผสมที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงและไฟฟ้าที่สามารถเสียบปลั๊กประจุไฟฟ้าได้ (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) | กค. | 29/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อปรับปรุงเงื่อนไขอัตราภาษีรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน
๑๐ คน ประเภทประหยัดพลังงาน
แบบผสมที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงและไฟฟ้าที่สามารถเสียบปลั๊กประจุไฟฟ้าได้ (Plug-in Hybrid Electric Vehicle : PHEV) โดยยกเลิกเงื่อนไขขนาดถังน้ำมัน (Fuel
Tank) และให้คงพิจารณาเฉพาะระยะทางการวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าต่อการประจุไฟฟ้า
๑ ครั้งเท่านั้น เพื่อให้รถยนต์ PHEV ที่ผลิตในประเทศไทยเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการพัฒนาเทคโนโลยีและสอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยของรถยนต์
PHEV ในระดับสากล และช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในช่วงการเปลี่ยนผ่านจากอุตสาหกรรมยานยนต์ประเภทสันดาปภายในไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต
(Future Mobility) โดยยังคงจัดเก็บอัตราภาษีสรรพสามิตตามมูลค่าร้อยละ
๕ และร้อยละ ๑๐ และให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๙ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
33 | ร่างกฎกระทรวงการขอและการออกใบอนุญาตขับรถ และการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | คค. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขอและการออกใบอนุญาตขับรถ
และการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงการขอและการออกใบอนุญาตขับรถ
และการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ พ.ศ. ๒๕๖๓ เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขในการขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ เพื่อยกเว้นการทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย
โดยผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตต้องไม่มีอายุเกินเกณฑ์หรือไม่มีเงื่อนไขของสภาพร่างกาย
หรือเงื่อนไขอื่นตามที่อธิบดีกรมการขนส่งทางบกประกาศกำหนด
อันจะทำให้การดำเนินการต่อใบอนุญาตขับรถสามารถดำเนินการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้
ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับความสะดวก
ลดภาระค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการเดินทางมาติดต่อราชการ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
34 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมของศูนย์ประเมินความรู้ความสามารถกลาง พ.ศ. .... | รง. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องนี้ออกไปก่อน
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
35 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 เรื่อง มาตรการส่งเสริมงานศิลปะและรถยนต์โบราณ (Classic Cars) | กค. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒
มีนาคม ๒๕๖๗ [เรื่อง มาตรการส่งเสริมงานศิลปะและรถยนต์โบราณ (Classic Cars)] ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขบัญชีท้ายกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ๒๓) พ.ศ.
๒๕๖๕ โดยกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้ารถยนต์โบราณ ในอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ
๔๕ ข้องราคาขายปลีกแนะนำ และเห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง
การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา ๑๒ แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร
พ.ศ. ๒๕๓๐ (ฉบับที่ ..) มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับรถยนต์โบราณ ที่นำเข้ามาแบบสำเร็จรูปทั้งคัน
(Completely Built Up : CBU) ตามที่กรมสรรพสามิตประกาศกำหนด รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้พิจารณาในประเด็นความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และให้รับความเห็นของกระทรวงวัฒนธรรมไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. รับทราบการดำเนินมาตรการส่งเสริมงานศิลปะและรถยนต์โบราณ
(Classic Cars) ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๔. ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงวัฒนธรรมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงวัฒนธรรม เห็นว่าการเรียกชื่อ รถโบราณ VINTAGE CARS กับ รถคลาสสิค CLASSIC CARS จะสื่อความหมายที่ต่างกัน
และอาจจะต้องมีการพิจารณาการกำหนดชื่อภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้ชัดเจน ในกรณีแยกประเภทรถยนต์ใช้แล้วในช่วงอายุที่แตกต่างกันให้เป็นไปตามนิยาม
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขของพิกัดอัตราศุลกากรแต่ละประเภท
เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคหรือประเด็นปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายการนำเข้าส่งออกของแต่ละประเทศ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลและทำประมาณการการสูญเสียรายได้จากอากรศุลกากรที่คาดว่าจะเก็บได้จากการนำเข้ารถยนต์โบราณ
(Classic Cars) เทียบกับกรณีไม่มีการดำเนินมาตรการให้ครบถ้วนตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
36 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม ค่าภาคหลวง และค่าบำรุงป่า พ.ศ. .... | ทส. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม
ค่าภาคหลวง และค่าบำรุงป่า พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวง
ฉบับที่ ๑๒๒๑ (พ.ศ. ๒๕๓๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗
เพื่อปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียม ค่าภาคหลวงและค่าบำรุงป่า
ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ และเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้พิจารณาในประเด็นข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้รับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เห็นว่าการคิดคำนวณค่าธรรมเนียมควรเพิ่มความชัดเจนการเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับภาคประชาชนโดยเฉพาะ
และควรประชาสัมพันธ์หรือรวบรวมความคิดเห็นจากภาคประชาชนโดยแท้จริงให้ได้มากที่สุด กระทรวงพาณิชย์
เห็นว่าชุมชนท้องถิ่นควรมีส่วนร่วมในการกำหนดค่าธรรมเนียมเพื่อให้ศักยภาพทางเศรษฐกิจของชุมชนท้องถิ่นไม่ได้รับผลกระทบ
และให้ความสำคัญต่อการสื่อสารเกี่ยวกับการใช้ค่าธรรมเนียมเหล่านี้
เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าใจถึงวัตถุประสงค์และผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงมหาดไทย เห็นควรดำเนินการตามระเบียบ กฎหมาย
มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรให้กรมป่าไม้ประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนได้รับทราบถึงข้อมูลข่าวสาร
รายละเอียด ข้อกำหนดในการจัดเก็บ ค่าธรรมเนียม ตลอดจนการลดและการยกเว้นค่าธรรมเนียมแก่กลุ่มบุคคลประเภทต่าง
ๆ เพื่อการเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
37 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับผู้มีสิทธิขอขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 08/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับผู้ที่มีสิทธิขอขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับผู้ที่มีสิทธิขอขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ
พ.ศ. ๒๕๖๐ เกี่ยวกับการตรวจติดตามคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียนแล้ว
กำหนดระยะเวลาการขอขึ้นทะเบียนใหม่กรณีผู้ประกอบการถูกเพิกถอนรายชื่อออกจากทะเบียนผู้ประกอบการ
และปรับอัตราค่าธรรมเนียมการขอขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการและกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมในการตรวจติดตาม
รวมทั้งกำหนดให้มีการปรับลดระดับชั้นของผู้ประกอบการในกรณีที่เกิดความเสียหายจากการปฏิบัติงานด้วย
เพื่อความเหมาะสมของกรอบระยะเวลาการตรวจติดตาม
เพิ่มโอกาสสำหรับผู้ประกอบการที่ถูกเพิกถอนรายชื่อออกจากทะเบียนผู้ประกอบการ
และเพื่อความเหมาะสมของอัตราค่าธรรมเนียมการขอขึ้นทะเบียนในการดำเนินการตามสภาพการณ์ในปัจจุบัน
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้พิจารณาขยายขอบเขตของร่างกฎกระทรวงดังกล่าวให้ครอบคลุมถึงการก่อสร้างอาคารด้วย
และให้พิจารณาในประเด็นความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงบประมาณไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ กระทรวงคมนาคม เห็นว่าตามร่างกฎกระทรวงฯ ข้อ ๗
การกำหนดประเภทชั้น
การเลื่อนชั้นและการลดระดับชั้นของผู้ประกอบการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขที่คณะกรรมการราคากลางกำหนดตามมาตรา ๕๑ วรรคสามหรือมาตรา ๕๒ วรรคสอง
แล้วแต่กรณี ควรมีการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ประกอบการใหม่ทั้งหมด
โดยไม่มีการยกเว้นคุณสมบัติด้านผลงาน บุคลากร เครื่องมือ เครื่องจักร
และอุปกรณ์การก่อสร้าง เนื่องจากเหตุแห่งการถูกปรับลดระดับชั้นของผู้ประกอบการอาจมีสาเหตุมาจากการขาดคุณสมบัติตามระดับชั้นเดิมที่ผู้ประกอบการได้ขึ้นทะเบียนไว้และการพิจารณากำหนดระยะเวลาการลดระดับชั้นของผู้ประกอบการต้องไม่น้อยกว่าระยะเวลาการตัดสิทธิ์ สำนักงบประมาณ เห็นควรที่กระทรวงการคลังจะพิจารณาเพิ่มเติมมาตรการ
วิธีการ
หรือกระบวนการในการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียนให้มีความรอบคอบและเป็นปัจจุบัน
รวมทั้งกำหนดมาตรการในเชิงป้องกันเพื่อควบคุมการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการให้เป็นไปตามมาตรฐานของหลักวิชาการช่างในงานก่อสร้างอย่างมีคุณภาพ
และไม่ให้เกิดความเสียหายจากการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับประชาชนด้วย ๒. มอบหมายให้กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางศึกษาหามาตรการอื่น
ๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะมาตรการที่เข้มงวดซึ่งครอบคลุมทั้งโทษทางแพ่งและอาญาสำหรับการลงโทษผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติงานให้เป็นไปตามมาตรฐานของหลักวิชาช่างในงานก่อสร้างหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงคมนาคม เห็นว่าตามร่างกฎกระทรวงฯ
ที่กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอขึ้นทะเบียน การตรวจติดตามผู้ประกอบการงานก่อสร้าง
ตามร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.
๒๕๔๖ หากมีการกำหนดการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
ของหน่วยงานราชการต้องมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน
และต้องไม่เป็นการสร้างภาระให้แก่ประชาชนเกินกว่าที่จำเป็นหรือเกินสมควร ดังนั้น
กรมบัญชีกลางควรมีการวิเคราะห์ถึงต้นทุนที่เหมาะสมในการดำเนินการจดทะเบียนผู้ประกอบการของกรมบัญชีกลาง
ซึ่งที่ผ่านมากรมทางหลวงได้มีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนเพียง ๕๐๐.- บาท
เนื่องจากการจดทะเบียนของกรมทางหลวงเป็นภารกิจที่กำหนดไว้ในกฎหมาย
จึงไม่มีความจำเป็นต้องเรียกเก็บค่าธรรมเนียมอันไม่เหมาะสมหรือเกินสมควรแก่ประชาชนอีก สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่าการเพิ่มประเภทอัตราค่าธรรมเนียมการตรวจติดตามผู้ประกอบการ
และอัตราค่าธรรมเนียมการตรวจเครื่องมือ เครื่องจักร
และอุปกรณ์การก่อสร้างตามบัญชีอัตราค่าธรรมเนียมท้ายกฎกระทรวงฯ
เป็นการออกกฎหมายที่เกินอำนาจกฎหมายแม่บทในมาตรา ๕๓ วรรคสาม
แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่กำหนดให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการขอขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการงานก่อสร้างและผู้ประกอบการพัสดุอื่นเท่านั้น
เพื่อให้การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมครอบคลุมต้นทุนในการควบคุมหรือกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง
รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินการขึ้นทะเบียนตามข้อ ๑ วรรคสอง และข้อ ๓ (๑)
ของหลักเกณฑ์ว่าด้วยการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมและค่าบริการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๔
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมการขอขึ้นทะเบียนดังกล่าวให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
โดยคำนึงถึงค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนในการตรวจสอบคุณสมบัติเกี่ยวกับเครื่องมือเครื่องจักรตามข้อ
๓ (๙)
แห่งกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับผู้ที่มีสิทธิขอขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการฯ
ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
38 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พ.ศ. .... | กค. | 08/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ รวม ๖ ชนิด ได้แก่ ๑)
เหรียญกษาปณ์ทองคำ ชนิดราคาสามหมื่นบาท ประเภทขัดเงา ๒) เหรียญกษาปณ์ทองคำ
ชนิดราคาสามหมื่นบาท ประเภทธรรมดา ๓) เหรียญกษาปณ์เงิน ชนิดราคาหนึ่งพันบาท
ประเภทขัดเงา ๔) เหรียญกษาปณ์เงิน ชนิดราคาหนึ่งพันบาท ประเภทธรรมดา ๕)
เหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคายี่สิบบาท ประเภทขัดเงา และ ๖)
เหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคายี่สิบบาท ประเภทขัดธรรมดา เพื่อเป็นที่ระลึกในวโรกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
ในวันที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
39 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมใบรับรองการจดแจ้งรายการส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ยาสูบและสารที่เกิดจากการเผาไหม้ของส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ยาสูบประเภทบุหรี่ซิกาแรตและบุหรี่ซิการ์ พ.ศ. .... | สธ. | 08/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมใบรับรองการจดแจ้งรายการส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ยาสูบและสารที่เกิดจากการเผาไหม้ของส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบประเภทบุหรี่ซิกาแรตและบุหรี่ซิการ์
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมการออกใบรับรองการจดแจ้งรายการส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ยาสูบและสารที่เกิดจากการเผาไหม้ของส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ยาสูบประเภทบุหรี่ซิกาแรตและบุหรี่ซิการ์
ตามกฎกระทรวงกำหนดส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ยาสูบ และสารที่เกิดจากการเผาไหม้ของส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ยาสูบประเภทบุหรี่ซิกาแรต
และบุหรี่ซิการ์ การแจ้ง และการออกใบรับรอง พ.ศ. ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงาน
ก.พ.ร. และสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ สำนักงาน ก.พ.ร. เห็นควรเร่งดำเนินการตามมาตรา ๗
แห่งพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยจัดทำคู่มือสำหรับประชาชนและเผยแพร่ตามช่องทางที่กำหนด
รวมถึงในเว็บไซต์ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อติดต่อราชการ (www.info.go.th)
ต่อไป สำนักงบประมาณ เห็นสมควรที่กระทรวงสาธารณสุขจะสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้ผู้เกี่ยวข้องทราบอย่างทั่วถึง
และแจ้งกระทรวงการคลังจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน
และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินงานทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ
ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบเป็นประจำทุกสิ้นปีงบประมาณ
ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
40 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไข ในการบริการแผนที่หรือข้อมูลทางแผนที่เป็นการเฉพาะราย พ.ศ. .... | กษ. | 08/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการและเงื่อนไข ในการบริการแผนที่หรือข้อมูลทางแผนที่เป็นการเฉพาะราย พ.ศ.
.... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกค่าบริการในการขอรับบริการแผนที่หรือข้อมูลทางแผนที่
ให้สามารถรับบริการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
และยกเลิกเงื่อนไขการห้ามผู้รับบริการเปลี่ยนแปลง ทำซ้ำ จ่าย แจก
หรือเผยแพร่ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของแผนที่หรือข้อมูลทางแผนที่แก่บุคคลที่ ๓
แต่ยังคงมีเงื่อนไขการห้ามจำหน่ายให้กับบุคคลที่ ๓ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงกลาโหม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย ดังนี้ (๑)
ควรกำหนดเงื่อนไข กรณีเปลี่ยนแปลง ทำซ้ำ จ่าย แจก
หรือเผยแพร่ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของแผนที่
ควรได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อป้องกันความเสียหายอันอาจเกิดกับหน่วยงานได้ (๒) ควรคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการใช้งานแผนที่หรือข้อมูลทางแผนที่
และการใช้งานดังกล่าวที่ไม่ขัดต่อประโยชน์ส่วนรวม โดยอาจมีการออกมาตรการเพิ่มเติม
เช่น ควรมีการขอหลักฐานและผลการศึกษาที่สามารถเปิดเผยได้หลังการใช้งานเพื่อการศึกษาวิจัย
ควรมีการคิดค่าธรรมเนียมการใช้งานข้อมูลในเชิงธุรกิจเหมือนเดิม
ควรมีการออกประกาศชนิดแผนที่ภาพถ่ายตลอดจนรายชื่อระวางที่จำเป็นจะต้องดำเนินการ
เป็นต้น และ (๓)
ควรมีเงื่อนไขหรือมีข้อจำกัดในการใช้งานในกรณีที่แผนที่หรือข้อมูลทางแผนที่ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงหรือเป็นพื้นที่อ่อนไหว
และควรกำหนดรูปแบบการให้บริการให้มีความชัดเจนและมีช่องทางหลากหลาย ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|