ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 9 จากทั้งหมด 327 หน้า แสดงรายการที่ 161 - 180 จากข้อมูลทั้งหมด 6523 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
161 | การปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการภายในกรมของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ | นร.09 | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง
กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง
(สป.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) รวมทั้งหน้าที่และอำนาจของ สป.ศธ.
เนื่องจากพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. ๒๕๖๖ มีผลใช้บังคับ ทำให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยใน
สป.ศธ. เปลี่ยนฐานะเป็นกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ศธ.
ส่งผลให้ภารกิจที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สป.ศธ. เปลี่ยนแปลงไป ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖
โดยกำหนดให้มีกลุ่มตรวจสอบภายในและกลุ่มพัฒนาระบบบริหารขึ้นในสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
(สอศ.) ศธ. เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบการดำเนินงาน สนับสนุนการปฏิบัติงาน
และพัฒนาการบริหารของ สอศ. อันจะทำให้การปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่และอำนาจมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น
และร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับที่
..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยกำหนดให้มีกลุ่มตรวจสอบภายในและกลุ่มพัฒนาระบบบริหารขึ้นในสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
(สกศ.) ศธ. เพื่อทำหน้าที่ในการตรวจสอบการดำเนินงาน
สนับสนุนการปฏิบัติงานและการพัฒนาการบริหารของ สกศ.
อันจะทำให้การปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่และอำนาจมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น รวม
๓ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
162 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (การปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย) | กค. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ ..
(พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
(การปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย)
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทยโดยกำหนดให้เงินได้ของบุคคลธรรมดาที่จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนใน
“กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund หรือ TESG)” ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๓๐ ของเงินได้
เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท สำหรับปีภาษีนั้น
(จากเดิมไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท)
เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้
สำหรับเงินได้ที่จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๗
ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๙ และกำหนดให้ผู้มีเงินได้ไม่ต้องนำเงินหรือผลประโยชน์ใด
ๆ ที่ได้รับเนื่องจากการขายหน่วยลงทุนคืนให้แก่ TESG มารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
เฉพาะกรณีที่เงินหรือผลประโยชน์ดังกล่าวคำนวณมาจากเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามที่กล่าวมา
ทั้งนี้ ต้องถือหน่วยลงทุนดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปี
นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุน (จากเดิมไม่น้อยกว่า ๘ ปี
นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุน) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
163 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทวัสดุกัมมันตรังสีที่บุคคลธรรมดาขอรับใบอนุญาตได้ พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทเครื่องกำเนิดรังสีที่บุคคลธรรมดาขอรับใบอนุญาตได้ พ.ศ. .... | อว. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทวัสดุกัมมันตรังสีที่บุคคลธรรมดาขอรับใบอนุญาตได้
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดประเภทวัสดุกัมมันตรังสีที่บุคคลธรรมดาสามารถขอรับใบอนุญาตผลิต
มีไว้ในครอบครองหรือใช้ นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านวัสดุกัมมันตรังสีได้ และร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทเครื่องกำเนิดรังสีที่บุคคลธรรมดาขอรับใบอนุญาตได้
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดประเภทเครื่องกำเนิดรังสีที่บุคคลธรรมดาสามารถขอรับใบอนุญาตทำเครื่องกำเนิดรังสี
มีไว้ในครอบครองหรือใช้ นำเข้าหรือส่งออกเครื่องกำเนิดรังสี รวม ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
164 | ร่างกฎกระทรวงศักยภาพทางเทคนิคของผู้ขอรับใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี พ.ศ. .... | อว. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงศักยภาพทางเทคนิคของผู้ขอรับใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดศักยภาพทางเทคนิคของผู้ขอรับใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี
เพื่อให้ผู้ขอรับใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสีต้องมีศักยภาพทางเทคนิคเพียงพอในการดูแลความปลอดภัยของวัสดุกัมมันตรังสีที่ขออนุญาต
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
165 | ร่างกฎกระทรวงการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก หรือจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 3 พ.ศ. .... | สธ. | 22/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการอนุญาตผลิต นำเข้า
ส่งออก หรือจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท ๓ พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก
หรือจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท ๓
และการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ดำเนินการต่อได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
166 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 150 ปี กรมศุลกากร พ.ศ. .... | กค. | 22/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก
๑๕๐ ปี กรมศุลกากร พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคายี่สิบบาท
เพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสครบ ๑๕๐ ปี กรมศุลกากรในวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
167 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาการส่งข้อมูลการอุดมศึกษาและการอื่นที่เกี่ยวข้อง พ.ศ. .... | อว. | 15/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาการส่งข้อมูลการอุดมศึกษาและการอื่นที่เกี่ยวข้อง
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และระยะเวลาที่หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยงานและหน่วยงานภาคเอกชนตามลักษณะที่สภานโยบายการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติประกาศกำหนดส่งข้อมูลเกี่ยวกับการอุดมศึกษาและการอื่นที่เกี่ยวข้องให้แก่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตามที่ได้รับการร้องขอ เพื่อให้กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีข้อมูลครบถ้วนในการจัดทำฐานข้อมูลการอุดมศึกษา
การวิจัยและนวัตกรรม นำไปสู่การพัฒนาการจัดการอุดมศึกษาและพัฒนาบุคลากรของประเทศต่อไป
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
และข้อมูลเพิ่มเติมที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
เห็นว่ากฎกระทรวงเป็นอนุบัญญัติซึ่งอาศัยกฎหมายแม่บทให้ฝ่ายบริหารกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติมจากที่กฎหมายระดับพระราชบัญญัติให้อำนาจไว้เท่านั้น
ดังนั้น
ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวจึงไม่อาจกำหนดมาตรการบังคับและบทกำหนดโทษสำหรับหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานภาคเอกชนตามร่างข้อ
๑๑ ได้ ประกอบกับกรณีดังกล่าวได้มีการกำหนดไว้แล้วในมาตรา ๗๔ แห่งพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา
พ.ศ. ๒๕๖๒ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
เห็นว่าพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นกฎหมายแม่บทกำหนดให้เป็นอำนาจของกระทรวงเท่านั้นที่สามารถร้องขอให้หน่วยงานฯ
ส่งข้อมูลเกี่ยวกับการอุดมศึกษาและการอื่น
หากแต่ในร่างกฎกระทรวงนี้ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ให้หน้าที่และอำนาจแก่สำนักงานปลัดกระทรวง
(ฐานะเป็นกรม) สามารถร้องขอข้อมูล
และสามารถออกหนังสือเตือนหัวหน้าหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานภาคเอกชนที่จัดส่งข้อมูลไม่ถูกต้อง
ไม่ครบถ้วน หรือไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนดได้ อีกทั้งหากหน่วยงานฯ
ไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษทางปกครองอีกด้วย
จึงมีข้อสังเกตว่าการกำหนดในลักษณะดังกล่าวจะขัดแย้งกับกฎหมายแม่บทที่ให้อำนาจหรือไม่ ๒. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของสำนักงาน
ก.พ.ร. เห็นว่าการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และระยะเวลาการส่งข้อมูล (ร่างข้อ ๕) ควรระบุรายการข้อมูลที่ต้องการให้ชัดเจน การจัดส่งข้อมูล
(ร่างข้อ ๖) ควรกำหนดนิยามรูปแบบ ขนาด ประเภท รายการข้อมูล คำอธิบายข้อมูล (Metadata) พจนานุกรมข้อมูล
(Data Dictionary) และบัญชีรายชื่อข้อมูล (Data
Catalog) รอบระยะเวลาการจัดส่งข้อมูลที่สอดคล้องกับการจัดเก็บข้อมูล
และการจัดหาแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลเข้าสู่ฐานข้อมูลการอุดมศึกษา (ร่างข้อ ๙)
ควรคำนึงถึงความสอดคล้องกับมาตรฐานต่าง ๆ เช่น มาตรฐานข้อมูลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์
มาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยในการแลกเปลี่ยนข้อมูล รูปแบบข้อมูล
การจัดเก็บรักษาข้อมูลตามมาตรฐานสากล ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
168 | ร่างกฎกระทรวงการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 พ.ศ. .... | สธ. | 08/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการอนุญาตผลิต นำเข้า
ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๑ พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการขออนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย
หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๑ และกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าว
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และดำเนินการต่อไปได้
๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่เห็นว่าเมื่อร่างกฎกระทรวงนี้อยู่ภายใต้บังคับมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๒ ดังนั้น เพื่อมิให้บทบัญญัติของกฎหมายแม่บทสิ้นผลใช้บังคับ
จึงจำเป็นต้องเร่งรัดดำเนินการให้ร่างกฎกระทรวงนี้ใช้บังคับให้ทันวันที่ ๘ ธันวาคม
๒๕๖๗ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
169 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะสารสกัดจากพืชกัญชาหรือกัญชง พ.ศ. .... | สธ. | 08/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต
นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕
เฉพาะสารสกัดจากพืชกัญชาหรือกัญชง พ.ศ. .... .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย
หรือมีไว้ในครอบครอง กำหนดคุณสมบัติของผู้ขออนุญาต การออกใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต
การต่ออายุใบอนุญาต การแก้ไขรายการในใบอนุญาต
การดำเนินการของผู้รับอนุญาตเพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแล
และการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะสารสกัดจากพืชกัญชาหรือกัญชง
เพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์ เชิงพาณิชย์ หรืออุตสาหกรรม
การวิเคราะห์หรือศึกษาวิจัยทางการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์
รวมทั้งเพื่อประโยชน์ของทางราชการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ เช่น สำนักงาน ก.พ.ร.
เห็นว่าการกำหนดระยะเวลาการแจ้งคำสั่งไม่อนุญาตตามร่างกฎกระทรวงฯ ข้อ ๑๘ ควรกำหนดให้สอดคล้องตามมาตรา
๑๐ แห่งพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๘ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เห็นว่าในกลุ่มสินค้าที่มีสารสกัดจากกัญชาหรือกัญชงจัดเป็นสินค้าที่มีส่วนผสมของยาเสพติดให้โทษในประเภท
๕ ที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ ครอบครัว อุบัติเหตุและอาชญากรรม และอาจลุกลามก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมส่วนรวม
จึงควรมีหลักเกณฑ์ควบคุมการประกอบธุรกิจดังกล่าว โดยจำกัดสิทธิบางประการของผู้ประกอบธุรกิจและ/หรือผู้รับอนุญาตผลิต
นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองและควรมีบทกำหนดโทษที่ชัดเจนสำหรับผู้ประกอบธุรกิจและ/หรือผู้รับอนุญาตฯ
ซึ่งเป็นผู้รับประโยชน์ทางการค้าเพื่อลดปัญหาผลกระทบทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ
ตลอดจนป้องกันเด็กและเยาวชนเข้าถึงสินค้าที่มีสารสกัดจากกัญชาหรือกัญชงและประสงค์ที่จะนำไปใช้อย่างผิดวิธีได้โดยง่าย ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานอัยการสูงสุด
และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
170 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์การแจ้งให้หัวหน้าสถานีตำรวจแห่งท้องที่ทราบ ในกรณีที่จะแต่งเครื่องแบบตำรวจ หรือแต่งกายโดยใช้เครื่องแต่งกายคล้ายเครื่องแบบตำรวจเพื่อการแสดง พ.ศ. .... | ตช. | 08/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์การแจ้งให้หัวหน้าสถานีตำรวจแห่งท้องที่ทราบ
ในกรณีที่จะแต่งเครื่องแบบตำรวจ
หรือแต่งกายโดยใช้เครื่องแต่งกายคล้ายเครื่องแบบตำรวจเพื่อการแสดง พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดการแจ้งต่อหัวหน้าสถานีตำรวจแห่งท้องที่ที่จะทำการแสดงทราบ
เมื่อมีผู้แสดงที่แต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิหรือแต่งกายโดยใช้เครื่องแต่งกายคล้ายเครื่องแบบตำรวจ
เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการแสดงได้ดำเนินการให้ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่กำหนดไว้สำหรับเรื่องการแต่งกายคล้ายเครื่องแบบตำรวจ
เพิ่มเอกสารหลักฐานที่ใช้ยืนยันตัวตนในการแจ้งต่อหัวหน้าสถานีตำรวจ เช่น
สำเนาหนังสือเดินทาง หรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง
และกำหนดบทเฉพาะกาลเพื่อให้การแจ้งที่ได้ยื่นไว้ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับและยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา
เป็นการแจ้งที่สมบูรณ์ตามกฎกระทรวงนี้ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับประเด็นการแจ้งโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ตามข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความเห็นของสำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปไปได้ เช่น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่าควรกำหนดวิธีการแจ้งให้ชัดเจนว่าสามารถใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้
เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและลดภาระ รวมทั้งต้นทุนของประชาชนในการติดต่อกับภาครัฐ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
171 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมและการยกเว้นค่าธรรมเนียม ใบอนุญาตโฆษณายาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ และค่าธรรมเนียมที่เจ้าหน้าที่ได้ให้บริการตาม (17) (18) (19) (20) และ (21) ในอัตราค่าธรรมเนียมท้ายประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. .... | สธ. | 03/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมและการยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตโฆษณายาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์
และค่าธรรมเนียมที่เจ้าหน้าที่ได้ให้บริการตาม (๑๗) (๑๘) (๑๙) (๒๐) และ (๒๑)
ในอัตราค่าธรรมเนียมท้ายประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดค่าธรรมเนียมและการยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตโฆษณายาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์
ตาม (๑๑) และค่าธรรมเนียมที่เจ้าหน้าที่ได้ให้บริการตาม (๑๗) (๑๘) (๑๙) (๒๐) และ
(๒๑) ได้แก่ ค่าขึ้นบัญชีที่จะจัดเก็บจากผู้เชี่ยวชาญ องค์กรผู้เชี่ยวชาญ
หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ค่าคำขออนุญาตหรือคำขออื่น ๆ ค่าประเมินเอกสารทางวิชาการ ค่าตรวจสถานประกอบการ
และค่าดำเนินการอื่น ๆ ให้เป็นไปตามอัตราค่าธรรมเนียมท้ายประมวลกฎหมายยาเสพติด ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
เห็นสมควรที่กระทรวงสาธารณสุขจะสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้ผู้เกี่ยวข้องทราบอย่างทั่วถึง
และแจ้งกระทรวงการคลังจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน
และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินงานทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ
ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบเป็นประจำทุกสิ้นปีงบประมาณ
ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
172 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดข้อความอย่างอื่นที่ถือว่าเป็นข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือเป็นข้อความที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม ที่ต้องห้ามใช้ในการโฆษณาเครื่องสำอาง พ.ศ. .... | สธ. | 03/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดข้อความอย่างอื่นที่ถือว่าเป็นข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือเป็นข้อความที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม
ที่ต้องห้ามใช้ในการโฆษณาเครื่องสำอาง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดข้อความที่ถือว่าเป็นข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือเป็นข้อความที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม
ที่ต้องห้ามใช้ในการโฆษณาเครื่องสำอางเพิ่มเติม ตามมาตรา ๔๑ วรรคสอง (๗)
แห่งพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองความปลอดภัยและอนามัยของผู้บริโภค
ป้องกันมิให้ผู้บริโภคเกิดความเข้าใจผิดในข้อความโฆษณาเครื่องสำอางที่ไม่ถูกต้องหรือเกินจริง
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
173 | ร่างกฎกระทรวงการแจ้งกำหนดวัน เวลา และสถานที่ที่พาหนะจะเข้ามาถึงด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พ.ศ. .... | สธ. | 03/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการแจ้งกำหนดวัน
เวลา และสถานที่ที่พาหนะจะเข้ามาถึงด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนมาตรการทางกฎหมายกรณีเมื่อมีเหตุอันสมควรหรือมีเหตุสงสัยว่าพาหนะใดมาจากท้องที่หรือเมืองท่าใดนอกราชอาณาจักรที่มีโรคระบาด
โดยให้เจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคุมพาหนะแจ้งกำหนดวัน เวลา และสถานที่ที่พาหนะนั้น ๆ จะเข้ามาถึงด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ
ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด เพื่อประโยชน์ในการเฝ้าระวัง
ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม
และกระทรวงมหาดไทยไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ เช่น กระทรวงคมนาคม เห็นว่าระยะเวลาที่ให้เจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคุมพาหนะแจ้งต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อฯ
ตามข้อ ๓ (๓) กรณีของอากาศยานประเภทเครื่องบิน อาจไม่เหมาะสมในทางปฏิบัติและอาจมีผลกระทบต่อความปลอดภัยในการปฏิบัติ
จึงเห็นควรกำหนดระยะเวลาโดยใช้หลักเดียวกันกับกรณีพาหนะทางบกและพาหนะทางน้ำ โดยให้มีระยะเวลาที่เพียงพอสำหรับเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อฯ
ในการเตรียมตัวสำหรับการปฏิบัติหน้าที่แต่ไม่ควรน้อยกว่า ๑ ชั่วโมง กระทรวงมหาดไทย เห็นควรขยายระยะเวลาในการกำหนดวันบังคับใช้ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากเดิมที่กำหนดให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด
๓๐ วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ซักซ้อมแนวทางในขั้นตอนการดำเนินการ
และเห็นควรตัดข้อ ๕ ออก โดยนำถ้อยคำในข้อ ๕ มาเพิ่มเติมในข้อ ๔ ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงคมนาคมไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงการต่างประเทศ เห็นว่าร่างกฎกระทรวงดังกล่าวต้องสอดรับกับพันธกรณีของไทยต่อกฎอนามัยระหว่างประเทศ
ค.ศ. ๒๐๐๕ ฉบับแก้ไขล่าสุด |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
174 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเป็นผู้ชำนาญการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. .... | รง. | 03/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขการเป็นผู้ชำนาญการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย
และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการขอใบอนุญาต การออกใบอนุญาต คุณสมบัติของผู้ชำนาญการด้านความปลอดภัย
อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน รวมถึงการควบคุมการปฏิบัติงานของผู้ได้รับใบอนุญาต
การต่ออายุใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต การสั่งพักใช้การเพิกถอนใบอนุญาต
และการกำหนดและยกเว้นค่าธรรมเนียม ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและสภาคณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์แห่งประเทศไทย ไปประกอบการพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เห็นควรพิจารณาขอบเขตงานในกฎกระทรวง
หรือระเบียบ ข้อบังคับ ที่ผู้ชำนาญการจะสามารถปฏิบัติได้โดยไม่ให้ทับซ้อนกับผู้ปฏิบัติการในระดับชำนาญการของหน่วยงาน
ควรมีการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานอื่นและผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ
เพื่อให้ได้ข้อยุติก่อนที่จะบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป สภาคณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์แห่งประเทศไทย เห็นควรเสนอให้ปรับ
หมวด ๑ การขออนุญาตและการอนุญาต ข้อ ๕ ข้อ (๗) (๘) และ (๙) ของร่างกฎกระทรวงฯ นี้
ให้ปรับเป็น ข้อ ๕ (๗) ข้อเดียว คือ มีคุณสมบัติเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุมสาขาอาชีวอนามัยและความปลอดภัยระดับชำนาญการ
โดยให้อ้างผู้ชำนาญการตามข้อบังคับสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีว่าด้วยการประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุมสาขาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
หมวด ๒ ข้อ ๙ ระดับชำนาญการ และข้อ ๑๑
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
175 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานการให้บริการของหน่วยบริการเวชกรรมสิ่งแวดล้อมตามพระราชบัญญัติควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 พ.ศ. .... | สธ. | 03/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานการให้บริการของหน่วยบริการเวชกรรมสิ่งแวดล้อมตามพระราชบัญญัติควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม
พ.ศ. ๒๕๖๒พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรฐานการให้บริการเวชกรรมสิ่งแวดล้อมที่หน่วยบริการเวชกรรมสิ่งแวดล้อมต้องใช้ดำเนินการเพื่อเฝ้าระวังสุขภาพแก่ประชาชนที่ได้รับหรืออาจได้รับมลพิษตามหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการเกี่ยวกับเวชกรรมสิ่งแวดล้อม ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสภาการพยาบาลไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ เช่น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เห็นควรมีการแก้ไขร่างกฎกระทรวง
เช่น ควรมีการเพิ่มเติมผลการประเมินความเสี่ยงที่อยู่ในระดับต่ำด้วย เพื่อจัดทำแผนเฝ้าระวังและป้องกัน
และควรให้หน่วยบริการเวชกรรมสิ่งแวดล้อมต้องมีนักอาชีวอนามัยและอนามัยสิ่งแวดล้อมในการดำเนินการ
เป็นต้น สภาการพยาบาล เห็นว่า ในคำนิยาม พยาบาล ควรเพิ่มคำว่า
“ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์” ด้วย ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงาน ก.พ.ร. ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เห็นว่าร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด เพื่อประโยชน์ในการเฝ้าระวัง การป้องกัน
และการควบคุมโรคจากสิ่งแวดล้อม สำนักงาน ก.พ.ร. เห็นควรพิจารณาให้กฎกระทรวงมีผลบังคับใช้เร็วกว่าที่กำหนดเพื่อประโยชน์ในการเฝ้าระวัง
ป้องกัน และควบคุมโรคจากสิ่งแวดล้อมให้กับลูกจ้าง แรงงานนอกระบบ และประชาชนที่ได้รับหรืออาจได้รับมลพิษ
ได้รับการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง เป็นระบบ และทันการณ์
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
176 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานการให้บริการของหน่วยบริการอาชีวเวชกรรมตามพระราชบัญญัติควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 พ.ศ. .... | สธ. | 03/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานการให้บริการของหน่วยบริการอาชีวเวชกรรมตามพระราชบัญญัติควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม
พ.ศ. ๒๕๖๒ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรฐานการให้บริการอาชีวเวชกรรมที่หน่วยบริการอาชีวเวชกรรมต้องใช้ดำเนินการตรวจสุขภาพแก่ลูกจ้างหรือแรงงานนอกระบบตามหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ เพื่อประโยชน์ในการเฝ้าระวัง การป้องกัน
และการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร.
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สภาการพยาบาล และแพทยสภา ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ เช่น สภาการพยาบาล เห็นว่า หมวด ๒ ข้อ ๕ (๑)
(การตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยง) ความว่า “....หรือแรงงานนอกระบบรับผิดชอบอยู่
โดยการบ่งชี้และประเมินความเสี่ยงการเกิดโรคจากการประกอบอาชีพ ....” มีข้อเสนอว่า
โดยการบ่งชี้และประเมินความเสี่ยง ทั้งนี้ เพื่อให้มีความชัดเจน ควรมีคณะกรรมการ/คณะทำงานไปประเมินทั้งโครงสร้าง องค์ประกอบ ขอบเขต
หน้าที่การทำงาน หมวด ๓ ข้อ ๘ (๒.๒) ความว่า “พยาบาลวิชาชีพที่ผ่านหลักสูตรความรู้พื้นฐานด้านอาชีวอนามัยสำหรับพยาบาล
หรือหลักสูตรการพยาบาล....” ขอแก้โดยเพิ่มเติมเป็น
“พยาบาลวิชาชีพที่ผ่านหลักสูตรความรู้พื้นฐานด้านการพยาบาลอาชีวอนามัย หรือหลักสูตรการพยาบาล....”
ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องตรงกับหลักสูตรที่สภาการพยาบาลให้การรับรอง และ หมวด ๔
ข้อ ๑๑ (๒) ความว่า “...กรมการแพทย์หรือสมาคมโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทยกำหนด
หรือผ่านหลักสูตร ...” ขอแก้โดยเพิ่มเติมเป็น “....กรมการแพทย์หรือสมาคมโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย
หรือสมาคมพยาบาลอาชีวอนามัยแห่งประเทศไทยกำหนด หรือผ่านหลักสูตร ....” แพทยสภา
เห็นว่ากฎกระทรวงควรมีผลใช้บังคับเร็วกว่าที่กำหนดไว้ โดยปรับลดลงเหลือ ๑๘๐ วัน
ทั้งนี้ แพทยสภามีหลักสูตรอบรมแพทย์ด้านสาขาเวชศาสตร์ป้องกัน แขนงอาชีวเวชศาสตร์อยู่แล้ว
ซึ่งสามารถปฏิบัติงานในด้านนี้ได้ และในการกำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับการให้บริการเวชกรรมสิ่งแวดล้อมที่หน่วยบริการเวชกรรมสิ่งแวดล้อมที่ใช้ดำเนินการเพื่อเฝ้าระวังสุขภาพของประชาชนที่ได้รับหรืออาจได้รับมลพิษ
โดยมีหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่เป็นระบบ ทันต่อสถานการณ์โรคมีประสิทธิภาพ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
177 | ร่างกฎกระทรวงการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก หรือจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 3 พ.ศ. .... | สธ. | 03/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการอนุญาตผลิต นำเข้า
ส่งออก หรือจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท ๓ พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก หรือจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท
๓ และการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการและเงื่อนไขการขอขึ้นทะเบียนและการปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าว
ให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง และแจ้งกระทรวงการคลังจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้อง
ครบถ้วน และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินงานทางการเงินการคลังและงประมาณของประเทศ
ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบเป็นประจำทุกสิ้นปีงบประมาณ
ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
178 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาการส่งข้อมูลการอุดมศึกษาและการอื่นที่เกี่ยวข้อง พ.ศ. .... | อว. | 03/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องนี้ออกไปก่อน
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
179 | ร่างกฎกระทรวงการยื่นเอกสารต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พ.ศ. .... | สธ. | 03/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการยื่นเอกสารต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรการทางกฎหมายกรณีเมื่อมีเหตุอันสมควรหรือมีเหตุสงสัยว่าพาหนะนั้นมาจากท้องที่หรือเมืองท่าใดนอกราชอาณาจักรที่มีโรคระบาดเจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคุมพาหนะยื่นเอกสารต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่าน
ควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด เพื่อประโยชน์ในการเฝ้าระวัง
ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม
และกระทรวงมหาดไทยไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ เช่น กระทรวงคมนาคม เห็นว่ากรณีของพาหนะทางน้ำตามข้อ ๓
(๑) ของร่างกฎกระทรวงฯ ไม่ได้กำหนดให้ต้องยื่นแบบรายงานเรื่องสุขภาพของผู้เดินทางโดยพาหนะทางน้ำเช่นเดียวกับกรณีของพาหนะทางบกและพาหนะทางอากาศ
จึงเห็นควรกำหนดหลักเกณฑ์การยื่นแบบรายงานเรื่องสุขภาพสำหรับพาหนะทางบก
พาหนะทางน้ำ และพาหนะทางอากาศให้เป็นอย่างเดียวกัน กระทรวงมหาดไทย
เห็นควรขยายระยะเวลาในการกำหนดวันบังคับใช้ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากเดิมที่กำหนดให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด
๓๐ วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ซักซ้อมแนวทางในขั้นตอนการดำเนินการ
และเห็นควรตัดข้อ ๖ ออก โดยนำถ้อยคำในข้อ ๖ มาเพิ่มเติมในข้อ ๕ ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงคมนาคมไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงการต่างประเทศ
เห็นว่าร่างกฎกระทรวงดังกล่าวต้องสอดรับกับพันธกรณีของไทยต่อกฎอนามัยระหว่างประเทศ
ค.ศ. ๒๐๐๕ ฉบับ แก้ไขล่าสุด
ที่จะมีผลใช้บังคับสำหรับรัฐสมาชิกขององค์การอนามัยโลกในอนาคตอันใกล้ กระทรวงคมนาคม เห็นว่ากรณีของพาหนะทางน้ำตามข้อ ๓
(๑) ของร่างกฎกระทรวงฯ ไม่ได้กำหนดให้ต้องยื่นแบบรายงานเรื่องสุขภาพของผู้เดินทางโดยพาหนะทางน้ำเช่นเดียวกับกรณีของพาหนะทางบกและพาหนะทางอากาศ
จึงเห็นควรกำหนดหลักเกณฑ์การยื่นแบบรายงานเรื่องสุขภาพสำหรับพาหนะทางบก
พาหนะทางน้ำ และพาหนะทางอากาศให้เป็นอย่างเดียวกัน |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
180 | ร่างกฎกระทรวงความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์ พ.ศ. .... | อว. | 03/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์ พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์
เพื่อให้ผู้รับใบอนุญาตและผู้มีไว้ในครอบครองวัสดุนิวเคลียร์ต้องปฏิบัติ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณา
ดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่าสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ที่ใช้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์วิจัย
ที่มีกำลังตั้งแต่ ๒ เมกะวัตต์ (ความร้อน) ขึ้นไป ต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นว่าร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับกฎกระทรวงฉบับอื่นที่จะมีการประกาศใช้ตามพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ
พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ควรพิจารณากำหนดระเบียบ ประกาศ
หรือคู่มือในการดำเนินงานสำหรับกำหนดรายละเอียดในการออกแบบสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ |