ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 8 จากทั้งหมด 327 หน้า แสดงรายการที่ 141 - 160 จากข้อมูลทั้งหมด 6523 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
141 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าใช้เขตทางหลวงท้องถิ่น พ.ศ. .... | มท. | 12/11/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าใช้เขตทางหลวงท้องถิ่น พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าใช้เขตทางหลวงท้องถิ่นเพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดเก็บค่าธรรมเนียมในการใช้เขตทางหลวงท้องถิ่นตามประเภทของกิจกรรมให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสม
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วนอีกครั้งหนึ่ง
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงคมนาคม ที่เห็นว่าการกำหนดให้ต้องชำระค่าใช้เขตทางหลวงท้องถิ่น
สำหรับกรณีที่ดำเนินกิจกรรมเพื่อประโยชน์สาธารณะ
หรือเพื่อให้บริการสาธารณะขั้นพื้นฐาน หรือในกรณีกิจกรรมของหน่วยงานของรัฐให้บริการสาธารณะอันเป็นประโยชน์แก่งานทางจะทำให้เกิดภาระค่าใช้จ่ายและต้นทุนในการให้บริการของหน่วยงานของรัฐ
ไปประกอบการพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงการคลัง เห็นว่าการชำระค่าใช้เขตทางหลวงท้องถิ่นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดเก็บค่าใช้เขตทางหลวงท้องถิ่นผ่านระบบออนไลน์ได้
เช่น ระบบสารสนเทศในการให้บริการประชาชน (Local Service)
เป็นต้น สำนักงบประมาณ เห็นว่าการกำหนดให้บรรดาค่าใช้เขตทางหลวงท้องถิ่นเป็นรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ยื่นคำขออนุญาต
ควรให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ และหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
142 | ร่างกฎกระทรวงการดำเนินการด้านความปลอดภัยของผู้รับใบอนุญาตกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงการก่อสร้างสถานประกอบการทางนิวเคลียร์และสถานที่ให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสี พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | อว. | 12/11/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการดำเนินการด้านความปลอดภัยของผู้รับใบอนุญาตกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการดำเนินการด้านความปลอดภัยของผู้รับใบอนุญาตกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี
ทั้งในกรณีมีเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีที่เกิดขึ้นในหรือนอกสถานประกอบการ
หรือในระหว่างการขนส่งซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสี และร่างกฎกระทรวงการก่อสร้างสถานประกอบการทางนิวเคลียร์และสถานที่ให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสี
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ความปลอดภัยทางนิวเคลียร์สำหรับก่อสร้างสถานประกอบการทางนิวเคลียร์
และสถานที่ให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสี
เพื่อให้ผู้ขอรับใบอนุญาตก่อสร้างสถานประกอบการทางนิวเคลียร์หรือผู้ขอรับใบอนุญาตสถานที่ให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสี
แล้วแต่กรณีต้องปฏิบัติตาม รวม ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
143 | ร่างกฎกระทรวงการวางหลักประกันและการดำเนินการเกี่ยวกับหลักประกัน พ.ศ. .... ร่างกฎกระทรวงการอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงการอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุนิวเคลียร์และเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว พ.ศ. .... รวม 3 ฉบับ | อว. | 12/11/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ดังนี้ ๑.
ร่างกฎกระทรวงการวางหลักประกันและการดำเนินการเกี่ยวกับหลักประกัน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาในการวางหลักประกัน การยกเว้นการวางหลักประกัน
และการดำเนินการเกี่ยวกับหลักประกันของผู้รับใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี
เครื่องกำเนิดรังสี วัสดุนิวเคลียร์ สถานประกอบการทางนิวเคลียร์
หรือสถานที่ให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสี ๒. ร่างกฎกระทรวงการอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาตการออกใบอนุญาต
การต่ออายุใบอนุญาตและการออกใบแทนใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี ๓.
ร่างกฎกระทรวงการอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุนิวเคลียร์และเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต
และการออกใบแทนใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุนิวเคลียร์และเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
144 | ร่างกฎกระทรวงการอนุญาตจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 พ.ศ. .... | สธ. | 05/11/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการอนุญาตจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท
๒ หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขการอนุญาตจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท ๒ หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท
๒ และกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
145 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย พ.ศ. .... | มท. | 05/11/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย
โดยจะกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมให้แตกต่างกัน โดยคำนึงถึงปริมาณสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย
ระยะเวลาการจัดเก็บ ลักษณะการเก็บ ขน และกำจัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย
รวมทั้งต้นทุนและความคุ้มค่าในการจัดเก็บ ขน และกำจัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย
เพื่อให้การจัดเก็บค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วนอีกครั้งหนึ่ง โดยให้รับข้อสังเกตของนายกรัฐมนตรี
ที่เห็นควรใช้มาตรการอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนคัดแยกขยะ เช่น ค่าธรรมเนียม
สำหรับขยะที่สามารถนำมาใช้ใหม่ควรกำหนดให้มีอัตราที่ต่ำกว่า
รวมทั้งรณรงค์และสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนมีระบบการคัดแยกขยะตามครัวเรือนและที่อยู่อาศัย
และส่งเสริมให้เอกชนที่เข้ามารับงานเก็บขยะแทนราชการส่วนท้องถิ่น
ใช้เทคโนโลยีเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการประหยัดพลังงานหรือการใช้พลังงานสะอาด
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยกำกับดูแลการออกข้อบัญญัติของราชการส่วนท้องถิ่น
โดยคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนเป็นสำคัญซึ่งต้องไม่ซ้ำซ้อนและเป็นภาระแก่ประชาชนเกินสมควร
และมีความสอดคล้องกับกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต
หนังสือรับรองการแจ้งและการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย พ.ศ. ๒๕๕๙
ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ ทั้งนี้
ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย เช่น กระทรวงสาธารณสุข เห็นควรมีแผนเตรียมการรองรับการขับเคลื่อนและสนับสนุนราชการส่วนท้องถิ่นในการดำเนินการเก็บ
ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยให้ถูกต้องด้วยสุขลักษณะตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด
รวมถึงการสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
146 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดตำแหน่งพนักงานอื่นเพื่อช่วยเหลือผู้อำนวยการสถานพินิจหรือผู้ดูแล หรือผู้ปกครองสถานที่ที่กำหนดในหมวด 4 พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงการอนุญาตดำเนินการหรือจัดตั้งสถานศึกษา สถานฝึกและอบรม หรือสถานแนะนำทางจิต พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | ยธ. | 05/11/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดตำแหน่งพนักงานอื่นเพื่อช่วยเหลือผู้อำนวยการสถานพินิจหรือผู้ดูแล
หรือผู้ปกครองสถานที่ที่กำหนดในหมวด ๔ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดตำแหน่งพนักงานอื่น
เช่น พยาบาล นักวิชาการอบรมและฝึกวิชาชีพ เจ้าพนักงานอบรมและฝึกวิชาชีพ บรรณารักษ์
พนักงานพินิจ พนักงานพิทักษ์ ฯลฯ (นอกเหนือจากแพทย์ จิตแพทย์ นักจิตวิทยา
พนักงานคุมประพฤติ นักสังคมสงเคราะห์ ครู) เพื่อช่วยเหลือผู้อำนวยการสถานพินิจตามสมควร
หรือผู้ปกครองสถานที่ในหมวด ๔ เช่น การช่วยเหลือเมื่อมีสถานการณ์ฉุกเฉิน
การก่อเหตุจลาจล กรณีเกิดภัยพิบัติต่าง ๆ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข สำนักงาน
ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ เช่น กระทรวงสาธารณสุข เห็นว่าจากเดิมกำหนดตำแหน่งแพทย์
จิตแพทย์ เห็นควรปรับเป็นแพทย์ เนื่องจากจิตแพทย์ถือเป็นแพทย์สาขาหนึ่ง สำนักงาน ก.พ.ร. เห็นควรทบทวนการกำหนดตำแหน่งเจ้าพนักงานให้มีเฉพาะเท่าที่สำคัญ
จำเป็น และเหมาะสมต่อการปฏิบัติงานในสถานการณ์ฉุกเฉินได้
โดยควรพิจารณาจากหน้าที่ความรับผิดชอบ หรือลักษณะงานของแต่ละตำแหน่งงานเป็นสำคัญ ๒.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการอนุญาตดำเนินการหรือจัดตั้งสถานศึกษา สถานฝึกและอบรม หรือสถานแนะนำทางจิต
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดการออกใบอนุญาต
และการเพิกถอนใบอนุญาตให้ส่วนราชการดำเนินการ หรือให้เอกชนจัดตั้งสถานศึกษา
สถานฝึกและอบรม หรือสถานแนะนำทางจิตเกี่ยวกับเด็กหรือเยาวชน
ซึ่งเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดเป็นจำเลย หรือเป็นผู้ต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ลงโทษหรือใช้วิธีการสำหรับเด็กและเยาวชน
ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนด ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปไปได้ ๓. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงกลาโหม
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสำนักงาน ก.พ.ร.
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงกลาโหม เห็นควรมีการจัดทำแผนเผชิญเหตุ
รวมถึงแจ้งให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทราบว่าหน่วยอาจถูกขอให้สนับสนุนทางด้านบุคลากรเป็นผู้ช่วยเหลือในการปฏิบัติหน้าที่หรือภารกิจต่าง
ๆ ในกรณีที่มีเหตุวิกฤติหรือสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อให้หน่วยเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
147 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือองค์การเอกชนที่ต้องรายงานสถิติข้อมูล พ.ศ. .... | นร.53 | 05/11/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
หรือองค์การเอกชนที่ต้องรายงานสถิติข้อมูล พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
หรือกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือองค์การเอกชนประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงนี้ซึ่งได้รับความช่วยเหลือ
ส่งเสริม หรือสนับสนุนจากส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ
หรือรัฐวิสาหกิจที่มีหน้าที่ตามแผนปฏิบัติการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
ต้องรายงานสถิติข้อมูลต่อส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจที่มีหน้าที่ตามแผนปฏิบัติการดังกล่าว
เพื่อจัดทำและรับรองสถิติข้อมูลของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและจัดส่งให้แก่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
เพื่อเก็บรวบรวมไว้เป็นข้อมูลประกอบการจัดทำนโยบายและงบประมาณด้านการส่งเสริม SME ของประเทศ ตามที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เห็นควรให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในฐานะฝ่ายเลขานุการฯ
หารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการกำหนดแบบรายงาน
และรายละเอียดของข้อมูลที่จัดเก็บ เพื่อไม่ให้เป็นการเพิ่มภาระกับหน่วยงาน รวมถึงกิจการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
ที่เกี่ยวข้องในการรายงานข้อมูลดังกล่าว และจัดให้มีมาตรการเพื่อกระตุ้นให้กิจการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมดำเนินการตามร่างกฎกระทรวงอย่างต่อเนื่อง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
148 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดระยะเวลาเริ่มดำเนินการจัดเก็บเงินสะสมและเงินสมทบเพื่อเป็นทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง พ.ศ. .... ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราการจ่ายเงินสะสมและเงินสมทบที่จะต้องส่งให้แก่กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดกลักเกณฑ์และวิธีการสำหรับนายจ้างจัดให้มีการสงเคราะห์แก่ลูกจ้างในกรณีที่ลุูกจ้างออกงานหรือตาย พ.ศ. .... | รง. | 05/11/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดระยะเวลาเริ่มดำเนินการจัดเก็บเงินสะสมและเงินสมทบเพื่อเป็นทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
พ.ศ. ....
ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราการจ่ายเงินสะสมและเงินสมทบที่จะต้องส่งให้แก่กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดกลักเกณฑ์และวิธีการสำหรับนายจ้างจัดให้มีการสงเคราะห์แก่ลูกจ้างในกรณีที่ลูกจ้างออกงานหรือตาย
พ.ศ. .... รวม ๓ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ต่าง ๆ
เกี่ยวกับการดำเนินการจัดเก็บเงินสะสมจากลูกจ้างและเงินสมทบจากนายจ้าง
รวมถึงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเพื่อเป็นทางเลือกให้นายจ้างที่จัดให้มีการสงเคราะห์แก่ลูกจ้างตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดจะได้รับการยกเว้นให้ลูกจ้างไม่ต้องเป็นสมาชิกกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
โดยให้แก้ไขร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวง รวม ๓ ฉบับดังกล่าว
ในส่วนของวันเริ่มดำเนินการจัดเก็บเงินสะสมและเงินสมทบกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างและวันใช้บังคบให้เป็นไปตามข้อสังเกตของนายกรัฐมนตรี
ดังนี้
๑.๑ แก้ไขวันเริ่มดำเนินการจัดเก็บเงินสะสมและเงินสมทบฯ
ในร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดระยะเวลาเริ่มดำเนินการจัดเก็บเงินสะสมและเงินสมทบกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
พ.ศ. .... จาก “ให้ดำเนินการจัดเก็บเงินสะสมและเงินสมทบกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๘ เป็นต้นไป” เป็น
“ให้ดำเนินการจัดเก็บเงินสะสมและเงินสมทบกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ตั้งแต่วันที่ ๑
ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ เป็นต้นไป”
๑.๒
แก้ไขวันใช้บังคับร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินสะสมและเงินสมทบกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
พ.ศ. .... จาก “กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๘
เป็นต้นไป” เป็น “กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๘
เป็นต้นไป”
โดยกำหนดอัตราเงินสะสมจากลูกจ้างและเงินสมทบจากนายจ้างที่แต่ละฝ่ายจะต้องนำส่งเข้ากองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
ดังนี้ ๑.๒.๑ จาก “ตั้งแต่วันที่ ๑
เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๘ ถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๗๓” เป็น “ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม
พ.ศ. ๒๕๖๘ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๗๓” ลูกจ้างและนายจ้าง (แต่ละฝ่าย)
ต้องนำส่งเข้ากองทุนฯ ในอัตราร้อยละ ๐.๒๕ ของค่าจ้าง ๑.๒.๒ จาก “ตั้งแต่วันที่ ๑
เมษายน พ.ศ. ๒๕๗๓ เป็นต้นไป” เป็น “ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๗๓ เป็นต้นไป”
ลูกจ้างและนายจ้าง (แต่ละฝ่าย) ต้องนำส่งเข้ากองทุนฯ ในอัตราร้อยละ ๐.๕ ของค่าจ้าง
๑.๓
แก้ไขวันใช้บังคับร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการสงเคราะห์แก่ลูกจ้างในกรณีที่ลูกจ้างออกจากงานหรือตาย
พ.ศ. .... จาก “กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๘
เป็นต้นไป” เป็น “กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๘
เป็นต้นไป” ๒. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงบประมาณที่เห็นว่า (๑)
ในระยะยาวควรพิจารณาผลกระทบและภาระที่จะเกิดขึ้นกับลูกจ้างและนายจ้างที่ต้องจ่ายเงินสะสมและเงินสมทบเข้าทั้งกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างและกองทุนประกันสังคม
และควรบริหารกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างให้มีประสิทธิภาพ ทั้งแนวทางการจัดหารายได้
การบริหารความเสี่ยงกองทุนเพื่อให้กองทุนมีความยั่งยืนในระยะยาว (๒)
ควรคำนึงถึงภาระทางการเงินของนายจ้างที่จะเพิ่มขึ้น
และในกรณีลูกจ้างถึงแก่ความตายหรือศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ
และลูกจ้างมิได้กำหนดบุคคลจะพึงได้รับเงินสะสมและเงินสมทบไว้
ให้เงินสะสมและเงินสมทบ
รวมทั้งดอกผลตกทอดแก่ทายาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นั้น
ควรพิจารณาให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑
ที่กำหนดให้จ่ายเงินจากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างให้แก่บุตร สามี ภรรยา บิดา มารดา
ที่มีชีวิตอยู่คนละส่วนเท่า ๆ กัน (๓) ร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้
รวม ๓ ฉบับ ไม่ก่อให้เกิดการสูญเสียรายได้ของรัฐ แต่จะมีผลกระทบโดยตรงต่อลูกจ้างและนายจ้างซึ่งอาจมีภาระทางการเงินเพิ่มขึ้น
เพราะต้องส่งเงินสมทบและเงินสะสมเข้าทั้งกองทุนประกันสังคม และ/หรือกองทุนอื่นๆ
แล้ว รวมถึงส่งผลต่อต้นทุนของผู้ประกอบการที่อาจมีการปรับเพิ่มราคาสินค้าและบริการ
ดังนั้น จึงควรศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ และ (๔)
ควรจัดทำรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นในส่วนของการปรับปรุงหรือไม่ปรับปรุงร่างกฎหมายตามผลการรับฟังความคิดเห็น
พร้อมเหตุผล
รวมถึงชี้แจงให้ประชาชนและผู้เกี่ยวข้องเข้าใจถึงการกำหนดอัตราเงินสะสมและเงินสมทบดังกล่าว
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓.
ให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาศึกษากลไกในการช่วยเหลือและออมเงินของลูกจ้างที่เหมาะสมในระหว่างที่กฎหมายในเรื่องนี้ยังไม่มีผลใช้บังคับ
ว่าควรมีกลไกหลักเพียงกองทุนเดียวดังเช่นในต่างประเทศ อาทิ
ประเทศสิงคโปร์ที่มีกองทุน Central Provident Fund (CPF) เป็นกองทุนหลักเพียงกองทุนเดียว
หรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันมีกองทุนเกี่ยวกับลูกจ้าง ๓ กองทุน ได้แก่
กองทุนประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
จึงอาจเป็นภาระสำหรับลูกจ้างและนายจ้างในการจ่ายเงินสะสมและเงินสมทบ
ตามข้อสังเกตของนายกรัฐมนตรี และให้รายงานผลการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓
เดือน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
149 | ร่างกฎกระทรวงค่าธรรมเนียมใบอนุญาตโฆษณายาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ และค่าธรรมเนียมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหรือค่าตอบแทนตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. .... | สธ. | 05/11/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงค่าธรรมเนียมใบอนุญาตโฆษณายาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์
และค่าธรรมเนียมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหรือค่าตอบแทนตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตโฆษณายาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์
และค่าธรรมเนียมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหรือค่าตอบแทนตามประมวลกฎหมายยาเสพติด เช่น
ค่าธรรมเนียมการขึ้นบัญชีที่จะจัดเก็บจากผู้เชี่ยวชาญ
องค์กรผู้เชี่ยวชาญทั้งในประเทศและต่างประเทศ หรือองค์กรเอกชน ค่าธรรมเนียมการประเมินเอกสารทางวิชาการ
กรณีส่งให้ผู้เชี่ยวชาญหรือองค์กรผู้เชี่ยวชาญทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประเมิน
ค่าธรรมเนียมการตรวจสถานประกอบการ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
150 | ร่างกฎกระทรวงการแจ้งการครอบครองวัสดุนิวเคลียร์ พ.ศ. .... | อว. | 29/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการแจ้งการครอบครองวัสดุนิวเคลียร์
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาในการแจ้งการครอบครองวัสดุนิวเคลียร์
ที่ไม่ต้องขอรับใบอนุญาต ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
151 | ร่างกฎกระทรวงวัสดุนิวเคลียร์ที่ผู้ดำเนินการไม่ต้องขอรับใบอนุญาต พ.ศ. .... | อว. | 29/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงวัสดุนิวเคลียร์ที่ผู้ดำเนินการไม่ต้องขอรับใบอนุญาต
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดวัสดุนิวเคลียร์ที่ผู้ดำเนินการไม่ต้องขอรับใบอนุญาตมีไว้ในครอบครอง
ใช้ นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่าน ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
152 | ร่างกฎกระทรวงระบบการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อ พ.ศ. .... | พน. | 29/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงระบบการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อ
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไข เกี่ยวกับการประกอบกิจการระบบการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อ
เพื่อให้ครอบคลุมถึงการประกอบกิจการทั้งท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกและท่อส่งก๊าซธรรมชาติในทะเล
รวมถึงท่อส่งก๊าซธรรมชาติเหลว และให้สอดคล้องกับสภาพการประกอบกิจการระบบการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อในปัจจุบันและเป็นตามมาตรฐานสากล
ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ และดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
153 | ร่างกฎกระทรวงความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์ พ.ศ. .... | อว. | 29/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์
เพื่อให้ผู้รับใบอนุญาตและผู้มีไว้ในครอบครองวัสดุนิวเคลียร์ต้องปฏิบัติ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
154 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทวัสดุนิวเคลียร์ที่บุคคลธรรมดาขอรับใบอนุญาตได้ พ.ศ. .... | อว. | 29/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทวัสดุนิวเคลียร์ที่บุคคลธรรมดาขอรับใบอนุญาตได้
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดวัสดุนิวเคลียร์
ที่บุคคลธรรมดาสามารถขอรับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองหรือใช้ นำเข้า ส่งออก
หรือนำผ่านซึ่งวัสดุนิวเคลียร์นั้นได้ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
155 | ร่างกฎกระทรวงความปลอดภัยและความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสีในการขนส่ง พ.ศ. .... | อว. | 29/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงความปลอดภัยและความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสีในการขนส่ง
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ เงื่อนไขเกี่ยวกับความปลอดภัยและความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสี
ในการขนส่งวัสดุกัมมันตรังสี วัสดุนิวเคลียร์ กากกันมันตรังสี
เชื้อเพลิงนิวเคลียร์ และเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
156 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะและเนื้อที่ที่ดินที่จะใช้เป็นที่จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. .... | อว. | 29/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะและเนื้อที่ที่ดินที่จะใช้เป็นที่จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดลักษณะและเนื้อที่ที่ดินที่จะใช้เป็นที่จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
พ.ศ. ๒๕๔๙ เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดลักษณะและเนื้อที่ที่ดินที่จะใช้เป็นที่จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
จากการกำหนดเนื้อที่ที่ดินขั้นต่ำที่สถาบันอุดมศึกษาเอกชนในแต่ละประเภทพึงมี
เป็นการกำหนด “พื้นที่ใช้สอย”
ตามลักษณะการใช้ประโยชน์บนเนื้อที่ที่ดินของสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแทน ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
157 | ร่างกฎกระทรวงการโอนใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี เครื่องกำเนิดรังสี วัสดุนิวเคลียร์สถานประกอบการทางนิวเคลียร์ และสถานที่ให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสี พ.ศ. .... | อว. | 29/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการโอนใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี
เครื่องกำเนิดรังสี วัสดุนิวเคลียร์ สถานประกอบการทางนิวเคลียร์
และสถานที่ให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสี พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการโอนใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี เครื่องกำเนิดรังสี
วัสดุนิวเคลียร์ สถานประกอบการทางนิวเคลียร์
และสถานที่ให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสี ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
158 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมส่งเสริมการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. .... | นร.09 | 29/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมส่งเสริมการเรียนรู้
กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแบ่งส่วนราชการในกรมส่งเสริมการเรียนรู้
กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อกำหนดหน้าที่และอำนาจของแต่ละส่วนราชการให้เหมาะสมกับการดำเนินงานในปัจจุบัน
และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงนาม
และประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
159 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง และการคำนวณค่าใช้จ่ายอันเกิดจากการสกัดกั้น หรือการปฏิบัติการโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เพื่อทำลายอากาศยานจากภาคพื้น พ.ศ. .... | กห. | 29/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง
และการคำนวณค่าใช้จ่ายอันเกิดจากการสกัดกั้น
หรือการปฏิบัติการโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เพื่อทำลายอากาศยานจากภาคพื้น พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดค่าใช้จ่ายในการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นของผู้ควบคุมอากาศยานและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง
และค่าใช้จ่ายในการเดินทางของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารเพื่อปฏิบัติภารกิจการตรวจและพิสูจน์ฝ่ายการสกัดกั้น
การเคลื่อนย้ายอากาศยาน การเก็บรักษาอากาศยาน สิ่งของ และหลักฐาน
และการใช้อาวุธเพื่อปฏิบัติการทำลายอากาศยานเป็นค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องอันเกิดจากการสกัดกั้น
หรือการปฏิบัติการเพื่อทำลายอากาศยานจากภาคพื้น
และกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการคำนวณค่าใช้จ่ายอันเกิดจากการสกัดกั้นหรือการปฏิบัติการโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร
เพื่อทำลายอากาศยานจากภาคพื้น ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงคมนาคม เห็นว่าในส่วนของค่าใช้จ่ายในการเดินทางตามข้อ
๒ (๒) และข้อ ๔ ของร่างกฎกระทรวงดังกล่าวสามารถเทียบเคียงจากหลักเกณฑ์ และอัตราตามที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ
พ.ศ. ๒๕๒๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์และอัตราที่กำหนดไว้สำหรับเดินทางไปราชการของเจ้าหน้าที่ทางฝ่ายทหารด้วยแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
160 | ร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. .... | นร.09 | 29/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เสียใหม่ โดยยกเลิกกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๘ และแก้ไขชื่อ “คณะเทคโนโลยี” เป็น “คณะเทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์”
เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจและการดำเนินงานในปัจจุบัน
โดยเป็นการปรับชื่อส่วนราชการระดับคณะที่มีอยู่เดิมให้สอดคล้องกับการจัดการเรียนการสอนและการพัฒนาทางวิชาการของสถาบันอุดมศึกษา
และสอดคล้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศให้มีประสิทธิภาพ
และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|