ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 41 จากทั้งหมด 566 หน้า แสดงรายการที่ 801 - 820 จากข้อมูลทั้งหมด 11307 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
801 | การดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเรื่อง ระบบการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทาง (Ease of Traveling) | กก. | 28/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเรื่อง
ระบบการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทาง (Ease of Traveling)
โดยมีข้อเสนอเพื่อผลักดันระบบให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการดำเนินการพัฒนาระบบการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้เดินทางตัดสินใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น
โดยมีผลต่อการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศ ดังนั้น
เมื่อมีการดำเนินการให้เป็นไปตามแผนการดำเนินการปี ๒๕๖๕-๒๕๖๗
ควรมีการขยายผลโดยการวิเคราะห์ความพึงพอใจ พฤติกรรมและความต้องการของนักท่องเที่ยว
ที่สอดคล้องกับทิศทางและการคาดการณ์ด้านการท่องเที่ยวในอนาคตและจัดทำแผนการดำเนินการในปีต่อ
ๆ ไป
เพื่อพัฒนาระบบการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางให้ตอบสนองพฤติกรรมและความต้องการของนักท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
และการสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้เดินทางหรือนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับระบบการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางถือเป็นเรื่องที่สำคัญเนื่องจากจะทำให้ผู้เดินทางหรือนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้ระบบการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางมากขึ้น
จึงอาจมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างการรับรู้ด้วยการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชน
ผู้ประกอบการ หน่วยงานของรัฐ ควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบให้ดียิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
802 | รายงานสรุปผลการพิจารณาข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีกรณีกล่าวอ้างว่าได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไม่ครบถ้วน | สนง. กสม. | 28/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีกรณีกล่าวอ้างว่าได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไม่ครบถ้วน
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วเมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม
๒๕๖๖ โดยมีผลสรุปในภาพรวมว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
จัดทำข้อมูลทะเบียนราษฎรของผู้สูงอายุเป็นการล่วงหน้าเพื่อใช้เป็นข้อมูลให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้เพียงพอและครบถ้วนต่อไป
ส่วนการปรับอัตราการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันไดตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๔ ควรปรับ ณ วันที่ผู้สูงอายุครบในเดือนนั้นทันที
และได้มอบหมายให้กรมกิจการผู้สูงอายุเร่งรัดการกำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเพื่อประกอบการพิจารณาแก้ไขระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
พ.ศ. ๒๕๕๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติมต่อไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
803 | รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี : การนำเสนอวัฒนธรรมของประเทศในลักษณะ Soft Power | วธ. | 21/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี :
การนำเสนอวัฒนธรรมของประเทศในลักษณะ Soft Power มีความคืบหน้าการดำเนินการ ดังนี้
(๑) ด้านการส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศผ่านสื่อบันเทิงในลักษณะ Soft Power : แต่งตั้งคณะอนุกรรมการส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศผ่านสื่อบันเทิงในลักษณะอำนาจละมุน
เพื่อใช้สื่อบันเทิงเป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์และขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
สินค้าและบริการของประเทศ และ (๒) ด้านการขับเคลื่อน Soft Power ด้วยมิติวัฒนธรรมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อน
Soft Power
ด้วยมิติทางวัฒนธรรม และจัดทำร่างแผนการขับเคลื่อน Soft Power เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐
เพื่อใช้เป็นแกนกลางในการขับเคลื่อน Soft Power
ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
804 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 เรื่อง ขอขยายระยะเวลาโครงการสนับสนุนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมุ่งสู่อุตสาหกรรมสีเขียวโดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ (Greening Industry through Low Carbon Technology Application for SMEs) | อก. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมถอนเรื่อง
ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๖๕ เรื่อง
ขอขยายระยะเวลาโครงการสนับสนุนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมุ่งสู่อุตสาหกรรมสีเขียวโดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ
(Greening Industry through Low Carbon
Technology Application for SMEs) คืนไปได้
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
805 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลศรีบุญเรือง ตำบลหันนางาม และตำบลเมืองใหม่ อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู พ.ศ. .... | คค. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน
ในท้องที่ตำบลศรีบุญเรือง ตำบลหันนางาม
และตำบลเมืองใหม่ อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน
ในท้องที่ตำบลศรีบุญเรือง ตำบลหันนางาม
และตำบลเมืองใหม่ อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู
เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๙๘ สายทางเลี่ยงเมืองศรีบุญเรือง ตอนทางเลี่ยงเมืองศรีบุญเรือง
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าก่อนการก่อสร้างทางหลวงแผ่นดินทุกเส้นทาง ขอให้กระทรวงคนนาคม
(กรมทางหลวง) ให้ความสำคัญและตระหนักถึงแนวทางในการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการก่อสร้างทางหลวงกีดขวางการไหลของน้ำตามธรรมชาติ
เพื่อป้องกันปัญหาการระบายน้ำไม่ทัน
และอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมหรืออุทกภัยต่อไปในอนาคต หากมีโครงการใด ๆ ในพื้นที่ป่าไม้
ขอให้ปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
กระทรวงคมนาคมควรตระหนักและให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติตามกฎหมายในการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาในครั้งต่อไป
และให้กรมทางหลวงถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ เรื่อง
แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการตราร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนเพื่อก่อสร้างหรือขยายถนน
พร้อมทั้งปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
806 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. .... | มท. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม
(ฉบับที่ ๔) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม
พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อขยายระยะเวลาการใช้บังคับกฎกระทรวง
และระยะเวลาที่เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารจะต้องได้รับในรับรองการดัดแปลงหรือใบอนุญาตเปลี่ยนการใช้อาคารมาประกอบธุรกิจโรงแรมภายใน
๙ ปี (เดิม ๘ ปี)
และแก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดหรือเงื่อนไขเกี่ยวกับการนำอาคารประเภทอื่นมาประกอบธุรกิจโรงแรมเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถขออนุญาตเปลี่ยนการใช้อาคารเพื่อประกอบธุรกิจโรงแรมได้
เช่น ยกเว้นข้อกำหนดบางเรื่อง อาทิ ที่ว่างของอาคาร ช่องทางเดินในอาคาร
ความกว้างบันได รวมทั้งกำหนดเพิ่มเติมเงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้พัก
เช่นอาคารต้องไม่มีสภาพเป็นภยันตราย มีวิศวกรประเมินความมั่นคงแข็งแรง
มีการติดตั้งเครื่องดับเพลิง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปด้วย และให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม ที่เห็นควรจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรี และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินการตามหลักธรรมาภิบาลเป็นไปเพื่อประโยชน์ของรัฐและประชาชนเป็นสำคัญ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
807 | แผนจัดการระดับชาติเพื่อการปฏิบัติตามอนุสัญญาสตอกโฮล์มว่าด้วยสารมลพิษที่ตกค้างยาวนาน ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2566 - 2570 | ทส. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนจัดการระดับชาติเพื่อการปฏิบัติตามอนุสัญญาสตอกโฮล์มว่าด้วยสารมลพิษที่ตกค้างยาวนาน
ฉบับที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐
และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนให้เป็นไปตามพันธกรณีของอนุสัญญาที่ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกต่อไป
โดยร่างแผนจัดการระดับชาติฯ ฉบับที่ ๒
มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแผนหลักของประเทศในการจัดการสารมลพิษที่ตกค้างยาวนาน ที่แสดงถึงความมุ่งมั่นในการจัดการสารมลพิษที่ตกค้างยาวนานให้ครอบคลุมสาร
POPs (ชนิดเดิม ๑๒ รายการ
และชนิดใหม่ ๑๙ รายการ รวม ๓๑ รายการ) ประเภทสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชและสัตว์ (POPs
Pesticides) ประเภทสารเคมีอุตสาหกรรม (POPs Industrial
Chemicals) และประเภทสารเคมีที่ปลดปล่อยโดยไม่จงใจ (Unintentional
Production POPs) (เช่น สารเคมีที่เกิดจากการเผาขยะ การเผาในที่โล่ง
กระบวนการผลิตโลหะ เป็นต้น)
ให้มีความสอดคล้องกับการดำเนินงานตามพันธกรณีของอนุสัญญาสตอกโฮล์มฯ และมีเป้าหมายที่จะลด
และ/หรือ เลิกการผลิต การใช้ และการปลดปล่อยสารมลพิษที่ตกค้างยาวนาน
เพื่อคุ้มครองสุขภาพอนามัยของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม โดยมีแผนปฏิบัติการ (Action
Plans) ประกอบด้วย ๑๖ แผนกิจกรรม ที่จะดำเนินการในช่วงปี พ.ศ.
๒๕๖๖-๒๕๗๐ รวมทั้งได้กำหนดเป้าหมาย กิจกรรม ตัวชี้วัด หน่วยงานดำเนินการ
ระยะเวลาดำเนินการ งบประมาณและแหล่งเงิน ซึ่งมีหน่วยงานหลักและหน่วยงานสนับสนุน
จำนวน ๓๗ หน่วยงานร่วมดำเนินการ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงคมนาคม
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ขอให้ดำเนินการตามระเบียบ
กฎหมาย และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และเมื่อคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้ว
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนำเข้าสาระของแผนจัดการระดับชาติฯ ฉบับที่
๒ ในระบบ eMENSCR ต่อไป เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
808 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลฝั่งแดง ตำบลน้ำก่ำ ตำบลธาตุพนม ตำบลธาตุพนมเหนือ และตำบลพระกลางทุ่ง อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม พ.ศ. .... | คค. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน
ในท้องที่ตำบลฝั่งแดง ตำบลน้ำก่ำ ตำบลธาตุพนม ตำบลธาตุพนมเหนือ และตำบลพระกลางทุ่ง
อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในท้องที่ตำบลฝั่งแดง
ตำบลน้ำก่ำ ตำบลธาตุพนม ตำบลธาตุพนมเหนือ และตำบลพระกลางทุ่ง อำเภอธาตุพนม
จังหวัดนครพนม เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๙๗ สายทางเลี่ยงเมืองธาตุพนม
ตอนทางเลี่ยงเมืองธาตุพนม เพื่ออำนวยความสะดวกและรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค
และเพื่อนำที่ดินไปชดเชยให้เกิดความเป็นธรรมแก่เจ้าของที่ดินที่ถูกเวนคืน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าก่อนการก่อสร้างทางหลวงแผ่นดินทุกเส้นทาง ขอให้กระทรวงคนนาคม
(กรมทางหลวง)
ให้ความสำคัญและตระหนักถึงแนวทางในการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการก่อสร้างทางหลวงกีดขวางการไหลของน้ำตามธรรมชาติ
เพื่อป้องกันปัญหาการระบายน้ำไม่ทัน
และอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมหรืออุทกภัยต่อไปในอนาคต หากมีโครงการใด ๆ ในพื้นที่ป่าไม้
ขอให้ปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
กระทรวงคมนาคมควรตระหนักและให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติตามกฎหมายในการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาในครั้งต่อไป
และให้กรมทางหลวงถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ เรื่อง
แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการตราร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนเพื่อก่อสร้างหรือขยายถนนอย่างเคร่งครัด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
809 | การตราพระราชกฤษฎีกากำหนดให้บุคคลใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขตามมาตรา 9 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 | สธ. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ข้าราชการหรือลูกจ้างของส่วนราชการใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพ
การป้องกันโรค การฟื้นฟูสมรรถภาพ และบริการสาธารณสุขอื่น
ที่จำเป็นต่อสุขภาพและการดำรงชีวิต พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผู้มีสิทธิเบิกจ่ายเงินสวัสดิการ
ค่ารักษาพยาบาล
ของกรุงเทพมหานครใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพ
การป้องกันโรค การฟื้นฟูสมรรถภาพ และบริการสาธารณสุขอื่น
ที่จำเป็นต่อสุขภาพและการดำรงชีวิต พ.ศ. .... ๑.๓
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้พนักงานเมืองพัทยาใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพ
การป้องกันโรค การฟื้นฟูสมรรถภาพ และบริการสาธารณสุขอื่น
ที่จำเป็นต่อสุขภาพและการดำรงชีวิต พ.ศ. .... ๑.๔
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผู้ประกันตนใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพ
การป้องกันโรค การฟื้นฟูสมรรถภาพ และบริการสาธารณสุขอื่น
ที่จำเป็นต่อสุขภาพและการดำรงชีวิต พ.ศ. .... รวม ๔ ฉบับ
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้สิทธิบุคลากรภาครัฐและผู้อาศัยสิทธิตามมาตรา ๙
และผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคมตามมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๔๕ สามารถใช้สิทธิเข้ารับบริการสาธารณสุขเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค
การฟื้นฟูสมรรถภาพ และบริการสาธารณสุขอื่น
จำเป็นต่อสุขภาพและการดำรงชีวิตได้ตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.
๒๕๔๕ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้แก้ไขวันใช้บังคับของร่างพระราชกฤษฎีกาทั้ง ๔ ฉบับดังกล่าวให้มีผลตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังในฐานะกำกับดูแลกรมบัญชีกลาง
ซึ่งมีหน้าที่ในการกำหนดมาตรฐานสวัสดิการของบุคลากรภาครัฐเป็นผู้ลงนามในข้อตกลงเพื่อให้ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวตามพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๕๓ ใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค
การฟื้นฟูสมรรถภาพ และบริการสาธารณสุขอื่น ที่จำเป็นต่อสุขภาพและการดำรงชีวิต
ตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ แทนรัฐบาล
ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ๓.
ให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่ควรเร่งประชาสัมพันธ์ถึงประโยชน์ที่จะได้รับ
สาระสำคัญ และรายละเอียดของการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การฟื้นฟูสมรรถภาพ
และบริการสาธารณสุขอื่น จำเป็นต่อสุขภาพและการดำรงชีวิตแก่ประชาชนทั่วไปโดยเร่งด่วน
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๔. ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
810 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 3/2566 และครั้งที่ 4/2566 | นร.11 สศช | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ
เห็นชอบ และรับทราบตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ ในคราวประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๖๖
และครั้งที่ ๔/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๖
ที่ได้มีมติที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาข้อเสนอการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ
เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ การรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินกู้ของแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดฯ
เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ ราย ๓ เดือน ครั้งที่ ๖ (๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๕-๓๑ มกราคม ๒๕๖๖)
และแนวทางการปิดบัญชี “เงินกู้ตามพระราชกำหนด COVID-19 ๒๕๖๔” ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงต้นสังกัดและหน่วยงานรับผิดชอบโครงการรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ควรดำเนินการตามแผนงาน/โครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ
เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ ให้เป็นไปตามเป้าหมาย
และกรอบระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด
การปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
ให้ถูกต้องครบถ้วน เป็นไปตามหลักเกณฑ์ อัตราค่าใช้จ่าย และมาตรฐานของทางราชการอย่างประหยัด
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
811 | มาตรการบรรเทาผลกระทบราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) โครงการยกระดับความช่วยเหลือส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม สำหรับผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ | พน. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบในหลักการโครงการยกระดับความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม
สำหรับผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ (ผู้ได้รับสิทธิกลุ่มใหม่) อีก ๒๐
บาทต่อคนต่อ ๓ เดือน ในช่วงเดือนเมษายน ๒๕๖๖ ถึงเดือนมิถุนายน ๒๕๖๖
สำหรับผู้ใช้สิทธิ ๗,๕๐๐,๐๐ ราย รวมเงินงบประมาณ ๑๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
และให้กระทรวงพลังงานรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการติดตามสถานการณ์พลังงานอย่างใกล้ชิด
เพื่อให้สามารถบริหารจัดการราคาพลังงานของประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงพลังงานได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
812 | การปรับเพิ่มเงินค่าตอบแทนของผู้บริหารและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล [ร่างระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินค่าตอบแทนนายกองค์การบริหารส่วนตำบล รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบล และเลขานุการสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] | มท. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔ (เรื่อง แนวทางการปรับค่าตอบแทนของผู้บริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่น)
เฉพาะในส่วนที่กำหนดหลักการให้ปรับเงินเดือนหรือค่าตอบแทนของผู้บริหารและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลไม่เกินร้อยละ
๒๐ สำหรับการออกระเบียบในเรื่องนี้ มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการตามาอำนาจหน้าที่ภายใต้กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ ที่ควรพิจารณาความคุ้มค่า
ต้นทุนและผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม
ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐด้วย และการนำรายได้ที่ไม่รวมเงินอุดหนุนและเงินกู้หรือเงินอื่นใดนั้นองค์การบริหารส่วนตำบลแต่ละแห่งจะกำหนดสูงกว่าร้อยละสี่สิบของเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นไม่ได้
ตามนัยมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒
และที่แก้ไขเพิ่มเติม
เพื่อให้เป็นไปตามหลักแห่งการปกครองของท้องถิ่นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของผู้บริหารและสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลดังกล่าวควรสอดคล้องกับศักยภาพและความสามารถในการปกครองตนเองในด้านรายได้ขององค์กรปกครองท้องถิ่นเป็นสำคัญ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
813 | การจำแนกประเภทหน่วยงานของรัฐในกำกับของฝ่ายบริหาร กรณีสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน | นร.12 | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบตามที่คณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชนเสนอ
ดังนี้ ๑.๑
ให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยเป็นหน่วยงานของรัฐในกำกับของฝ่ายบริหาร
ประเภทหน่วยธุรการขององค์การของรัฐที่เป็นอิสระ ๑.๒
ให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นหน่วยงานของรัฐในกำกับของฝ่ายบริหาร
ประเภทกองทุนที่เป็นนิติบุคคล ๒. ให้คณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมที่ให้ถือปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด และข้อสังเกตของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการบริหารกองทุนดังกล่าวจะบริหารในรูปของคณะกรรมการ
ซึ่งไม่มีหน่วยธุรการรองรับการทำหน้าที่ใน ๓ รูปแบบที่กำหนด ได้แก่ รัฐวิสาหกิจ
องค์การมหาชนตามพระราชบัญญัติ หรือส่วนราชการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖
มีนาคม ๒๕๖๒ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
814 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2533 เรื่อง การจำแนกประเภทที่ดินจังหวัดขอนแก่น (เฉพาะแห่ง) | นร16 | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ เรื่อง
การจำแนกประเภทที่ดินจังหวัดขอนแก่น (เฉพาะแห่ง)
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ทบทวนชื่อมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวจากเดิม
“เรื่อง การจำแนกประเภทที่ดิน จังหวัดขอนแก่น (เฉพาะแห่ง)” เป็น “เรื่อง
การจำแนกประเภทที่ดินจากป่าไม้ถาวร” ๑.๒ ทบทวนเนี้อหาของมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว
จากเดิม “อนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาที่ดินเกี่ยวกับการจำแนกพื้นที่ที่กันออกจากการกำหนดเป็นป่าสงวนแห่งชาติ
เขตอุทยานแห่งชาติ
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแล้วเป็นเขตที่เพิกถอนให้เป็นพื้นที่ที่ได้จำแนกออกจากป่าไม้ถาวร
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย” เป็น “(๑) อนุมัติให้จำแนกพื้นที่ราษฎร ๓ ตำบลในอำเภอภูเวียง
จังหวัดขอนแก่น เนื้อที่ประมาณ ๕๓,๗๒๖ ไร่ ออกจากป่าไม้ถาวร เพื่อให้ราษฎรทำกินหรือใช้ประโยชน์อย่างอื่น (๒)
กรณีการจำแนกพื้นที่ที่กันออกจากการกำหนดเป็นป่าสงวนแห่งชาติ
เขตอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือเขตที่เพิกถอน
ให้ถือเป็นพื้นที่ที่ได้จำแนกออกจากป่าไม้ถาวร
โดยใช้เป็นหลักการครอบคลุมทั่วประเทศ” ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
815 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการและเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 รายการค่าก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลปกครองนครศรีธรรมราช | ศป. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติให้สำนักงานศาลปกครองเปลี่ยนแปลงรายการเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
ตามนัยข้อ ๗ (๓) ของระเบียบว่าด้วยการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้ ๑.๑ จากรายการค่าก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลปกครองนครศรีธรรมราช
จำนน ๑๘๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท เป็นรายการค่าก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลปกครองนครศรีธรรมราช
บริเวณศูนย์ราชการรองนาสาร อำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน ๔๒๙,๔๔๙,๐๐๐
บาท
และอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงรายการค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลปครองนครศรีธรรมราช
จำนวน ๓,๐๒๖,๒๐๐ บาท
ไปสมทบในรายการค่าก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลปกครองนครศรีธรรมราชได้
โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๙-พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน
๑๓๘,๒๔๖,๙๐๐ บาท
ที่ได้รับอนุมัติเงินจัดสรรและเป็นเงินคงเหลืออยู่ในบัญชีของสำนักงานศาลปกครองแล้ว
และเงินสมทบของสำนักงานศาลปกครอง จำนวน ๔,๙๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือจำนวน
๒๘๖,๓๐๒,๑๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗-พ.ศ. ๒๕๖๙
โดยขอให้สำนักงานศาลปกครองจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีรองรับตามความจำเป็นที่ต้องใช้ในแต่ละปีต่อไป ๑.๒ ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
จากเดิมปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๙-พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๙-พ.ศ. ๒๕๖๙
๒.
ให้สำนักงานศาลปกครองรับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรเร่งดำเนินโครงการดังกล่าวให้แล้วเสร็จและถือปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ ของทางราชการ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
ไปดำเนินการต่อไปอย่างเคร่งครัดด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
816 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2566 | นร.11 สศช | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ
เห็นชอบ และรับทราบตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๖
เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๖๖
ที่ได้มีมติที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณากลั่นกรองความเหมาะสมของข้อเสนอการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ
และการจัดทำรายงานความกาวหน้าการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินกู้ของแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดฯ
ราย ๓ เดือน ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ
ทั้งนี้
ให้กระทรวงต้นสังกัดและหน่วยงานรับผิดชอบโครงการรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
ควรดำเนินการตามแผนงาน/โครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ
ให้เป็นไปตามเป้าหมายและกรอบระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี
ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนอย่างเคร่งครัด
รวมทั้งเร่งรัดการใช้จ่ายให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่าย
ตลอดจนให้ความสำคัญกับระบบการติดตามและประเมินผลให้ทันต่อสถานการณ์ เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
817 | รายงานความคืบหน้าของการดำเนินงานการพัฒนาพื้นที่พิเศษเมืองเก่าน่าน | มท. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามมติคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์
และเมืองเก่า ในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๕ มีมติ ๓
ประเด็น สรุปได้ว่า (๑)
เห็นชอบให้เปลี่ยนแปลงแผนแม่บทและแผนแม่บทอนุรักษ์และพัฒนาบริเวณเมืองเก่าน่าน
โดยให้ปรับปรุงอาคารศาลากลางจังหวัดน่านหลังเก่าเป็นหอศิลปวัฒนธรรมเมืองน่านและแหล่งเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมล้านนาตะวันออก
(๒) เห็นชอบให้จังหวัดน่านจัดทำแผนแม่บทและแผนแม่บทการอนุรักษ์และพัฒนาบริเวณเมืองเก่าน่านฉบับใหม่
โดยทบทวนแผนแม่บทฉบับเดิมในภาพรวม และการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณต่าง ๆ
ในเมืองเก่าให้เหมาะสม
โดยจัดให้มีกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ และให้จังหวัดน่านรับความเห็นของคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์
และเมืองเก่า ไปพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป และ (๓)
รับทราบและเห็นชอบในหลักการการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าน่านที่เห็นชอบโครงการปรับปรุงอาคารศาลากลางจังหวัดน่านหลังเก่าเป็นหอศิลปวัฒนธรรมเมืองน่านและแหล่งเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมล้านนาตะวันออก
ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงบประมาณ เช่น ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และหลักธรรมาภิบาลโดยเคร่งครัด คำนึงถึงภูมิทัศน์
วัฒนธรรม (Cultural Landscape) ของพื้นที่ดังกล่าว
ซึ่งมีโบราณสถานและแหล่งศิลปกรรมสำคัญตั้งอยู่โดยรอบด้วย
และสร้างความรับรู้และความเข้าใจต่อการมีส่วนร่วมในการดำเนินการตามแผนแม่บทและผังแม่บทการอนุรักษ์และพัฒนาบริเวณเมืองเก่าน่านในทุกมิติ
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของแผนแม่บทการอนุรักษ์และพัฒนาบริเวณเมืองเก่าน่านในระยะยาวต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย
โดยให้ดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
818 | ผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) พื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน | นร16 | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบแนวทางการใช้เส้นปรับปรุงการสำรวจแนวเขต
ปี ๒๕๕๓ ในการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map)
พื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จังหวัดนครราชสีมา
และจังหวัดปราจีนบุรี และให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้
สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดปราจีนบุรี
ร่วมกันตรวจสอบข้อมูลพื้นที่ของจุดที่ไม่ชัดเจนให้แล้วเสร็จภายใน ๓ เดือน
และเร่งรัดดำเนินการสำรวจเพื่อจัดทำแนวกันชน (Buffer Zone) ที่ชัดเจน
เพื่อรักษาความสมบูรณ์ของพื้นที่มรดกโลกและสภาพพื้นที่ป่าไม้
ภายหลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้
ในส่วนของการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด แนวทางการคุ้มครองการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ที่ได้ดำเนินการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายและการคุ้มครองและรับรองการดำเนินการของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ
คณะทำงาน และเจ้าหน้าที่ ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องตามหน้าที่และอำนาจให้ถูกต้อง รอบคอบ เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดด้วย ๓. ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
819 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันเกินกว่างบประมาณรายจ่ายที่ได้รับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 | ปปท. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงาน
ป.ป.ท.
ก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ จำนวน ๔๔๒,๐๐๐ บาท
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
สำหรับขั้นตอนการเบิกจ่ายงบประมาณ เห็นควรให้สำนักงาน ป.ป.ท.
ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
โดยคำนึงถึงความประหยัดเพื่อประโยชน์สูงสุดของราชการเป็นสำคัญ
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
820 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปรับปรุงใหม่) | กค. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๕ เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน
๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปรับปรุงใหม่) โดยปรับปรุงคุณสมบัติของผู้ขอรับสินเชื่อ
ปรับปรุงวงเงินโครงการฯ ปรับวงเงินกู้ต่อรายและขยายระยะเวลาเงินกู้
ขยายระยะเวลาเบิกจ่ายสินเชื่อของธนาคารออมสิน และเงื่อนไขอื่น ๆ เช่น
ให้ธนาคารกำหนดหลักเกณฑ์และกระบวนการในการให้สินเชื่อกับสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ
เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง
ธนาคารออมสิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการและโครงการให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน
ควรมีการประชาสัมพันธ์โครงการฯ ให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ ๓ จังหวัด
รับรู้และสามารถเข้ามาตรการในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินจากภาครัฐได้อย่างทั่วถึง
ควรกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และกระบวนการสินเชื่อของธนาคาร
และสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการให้มีความชัดเจนเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
ไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|