ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 86 จากทั้งหมด 347 หน้า แสดงรายการที่ 1701 - 1720 จากข้อมูลทั้งหมด 6925 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 1701 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. .... | นร09 | 28/06/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการและอำนาจหน้าที่ภายในสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้นและเหมาะสมกับสภาพของงานที่เปลี่ยนแปลงไป อันจะทำให้การปฏิบัติภารกิจตามอำนาจหน้าที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น และให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีนำร่างกฎกระทรวงดังกล่าวเสนอนายกรัฐมนตรีลงนาม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 1702 | รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ | ทก | 28/06/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๙ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. การดำเนินการตามเจตนารมณ์ของกรอบข้อตกลงเฮียวโกะ ได้แก่ การแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า การเสริมสร้างความเข้มแข็งในด้านภัยพิบัติให้แก่ชุมชน และการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติ ๒. การพัฒนาระบบการเตือนภัยให้ชัดเจน แม่นยำ ทันเหตุการณ์ ตลอดจนต้องพัฒนาอุปกรณ์ เครื่องมือ ให้สอดรับกับความซับซ้อนและความหลากหลายของภัยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต จึงมีความต้องการบุคลากรที่มีความชำนาญทางด้านเทคนิค ให้เอื้อกับภาระงานที่เพิ่มขึ้น ๓. การจัดระบบเทคโนโลยีและอุปกรณ์การเตือนภัยล่วงหน้าเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้สามารถดำเนินการได้รวดเร็ว แม่นยำ และทั่วถึงครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงภัยทั่วประเทศ ๔. แนวทางการแก้ไขปัญหาที่ควรแก้ไขในลำดับแรก คือ การปรับปรุงสภาพปัจจุบันให้สมบูรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ได้แก่ การปรับปรุงระบบงานและโครงสร้างการปฏิบัติงานของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ การปรับปรุงระบบการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยสนับสนุนการปฏิบัติงาน และการเร่งซ่อมแซมและปรับปรุงอุปกรณ์เครื่องมือที่มีอยู่เป็นการด่วน ได้แก่ หอเตือนภัย และทุ่นตรวจวัดสึนามิ ๕. คณะกรรมการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้เร่งจัดทำยุทธศาสตร์การเตือนภัยพิบัติ เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาการเตือนภัย ให้สามารถปฏิบัติงานตามนโยบายรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเตรียมความพร้อมและพัฒนากลไกการดำเนินงานให้สามารถขับเคลื่อนงานไปจนบรรลุเป้าหมายด้านการเตือนภัยที่กำหนด
|
||||||||||||||||||||||||
| 1703 | รายงานผลการสนับสนุนการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและทุกคนในสังคม (อารยสถาปัตย์) | พม | 28/06/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รายงานผลการสนับสนุนการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและทุกคนในสังคม (อารยสถาปัตย์) สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ดำเนินโครงการสร้างชุมชนแห่งการอยู่ร่วมกันและเข้าถึงได้ในอาเซียน : ชุมชนต้นแบบเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ ๒๕๕๘ โดยร่วมกับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และองค์กรคนพิการ ศึกษาและสำรวจพื้นที่ชุมชนเกาะเกร็ดและเทศบาลนครปากเกร็ดเพื่อทราบสถานการณ์และความยากลำบากของการเดินทางออกนอกพื้นที่เกาะเกร็ด ๑.๒ จากผลการศึกษาและสำรวจพื้นที่เกาะเกร็ดและเทศบาลนครปากเกร็ด กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ร่วมกับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จังหวัดนนทบุรี เทศบาลนครปากเกร็ด องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเกร็ด และองค์กรคนพิการ ออกแบบและจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและทุกคนในสังคม โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ จำนวน ๘,๖๗๐,๐๐๐ บาท เพื่อดำเนินการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ ได้แก่ พื้นที่ฝั่งเทศบาลนครปากเกร็ด จำนวน ๕๕ จุด และพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเกร็ด จำนวน ๙๐ จุด เช่น ปรับปรุงป้ายรถเมล์ ปรับปรุงทางเท้าเชื่อมระหว่างป้ายรถเมล์และท่าเรือ ทาสีตีเส้นที่จอดรถคนพิการ ป้ายสัญลักษณ์หรือป้ายชี้ทาง จุดแวะพักเก้าอี้นั่งพัก ป้ายแผนผังต่างสัมผัส ห้องน้ำคนพิการ ทางลาดและทางลาดลงโป๊ะเทียบเรือท่าปากเกร็ดและท่าครูทิว (ท่าเรือหมู่ ๖ ตำบลเกาะเกร็ด) ปรับปรุงเรือต้นแบบ งานปิดท่อระบายน้ำ และปรับปรุงทางเดินให้มีลูกระนาด เป็นต้น ซึ่งดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ๑.๓ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้จัดพิธีเปิดเกาะเกร็ด : ชุมชนต้นแบบเพื่อทุกคน เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๙ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้คนพิการ ผู้สูงอายุ และทุกคนเดินทางมาท่องเที่ยวเกาะเกร็ดหรือเดินทางข้ามไปยังเทศบาลนครปากเกร็ดได้โดยอิสระ สะดวก และปลอดภัย สำหรับการดำเนินงานในปีงบประมาณ ๒๕๕๙ จะขยายผลพื้นที่ชุมชนต้นแบบออกไปอีก จำนวน ๓๓ จังหวัด โดยขยายการดำเนินงานในพื้นที่นอกจากอาคารสถานที่ราชการ ศาสนสถาน และพื้นที่สาธารณะให้ครอบคลุมการเดินทางและระบบขนส่งมวลชนต่าง ๆ ในพื้นที่เป้าหมาย ๒. ให้ทุกส่วนราชการพิจารณาเร่งรัดการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้พิการ ผู้สูงอายุ และทุกคนในสังคมให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๘
|
||||||||||||||||||||||||
| 1704 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยอัตราค่าบำรุงสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย พ.ศ. .... | กษ | 28/06/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยอัตราค่าบำรุงสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงอัตราค่าบำรุงสันติบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน จากอัตราเดิม “ร้อยละห้าของกำไรสุทธิ แต่ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท” เป็นอัตราใหม่ “ร้อยละหนึ่งของกำไรสุทธิ แต่ไม่เกินสามหมื่นบาท” ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 1705 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการค่าปรับปรุงซ่อมแซมอาคารที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ หลังเดิม | กต | 28/06/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้กระทรวงการต่างประเทศเปลี่ยนแปลงรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-พ.ศ. ๒๕๕๘ จากรายการค่าปรับปรุงซ่อมแซมอาคารที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ วงเงิน ๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท เป็นรายการค่ารื้อถอนอาคารสถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ หลังเดิม และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาพื้นที่และสิ่งประกอบอื่นภายในสถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ ในวงเงิน ๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-พ.ศ. ๒๕๕๘ รวมวงเงินทั้งสิ้น ๕๗,๔๙๙,๘๐๐ บาท ซึ่งกรมบัญชีกลางอนุมัติให้ขยายเวลาเบิกจ่ายงบประมาณได้ถึงวันทำการสุดท้ายของเดือนกันยายน ๒๕๕๙ ส่วนที่เหลือ จำนวน ๔๒,๕๐๐,๒๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ทั้งนี้ การดำเนินการรื้อถอนและพัฒนาที่ดินดังกล่าว ให้กระทรวงการต่างประเทศปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามระเบียบที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนต่อไป ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงการคลัง และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่เห็นควรเร่งก่อหนี้ผูกพันเงินงบประมาณดังกล่าวให้ทันภายในเดือนกันยายน ๒๕๕๙ รวมทั้งงบประมาณที่ใช้สำหรับการปรับปรุงภูมิทัศน์ควรดำเนินการเท่าที่จำเป็นและเหมาะสมกับความสง่างามของสถานเอกอัครราชทูตฯ และประเทศไทย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 1706 | มาตรการป้องกันการทุจริตเชิงนโยบายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | ปช | 21/06/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบมาตรการป้องกันการทุจริตเชิงนโยบายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อให้มีการปรับปรุงการปฏิบัติราชการหรือวางแผนงานโครงการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริตต่อหน้าที่ หรือการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามนัยแห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๙ (๑๑) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ ประกอบด้วยมาตรการ ๔ ด้าน ได้แก่ (๑) มาตรการด้านกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (๒) มาตรการด้านการบริหาร (๓) มาตรการด้านการตรวจสอบ กำกับดูแล และการมีส่วนร่วมของประชาชน และ (๔) มาตรการด้านคุณธรรม จริยธรรม ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. เสนอ ๒. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักรับข้อเสนอของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของมาตรการดังกล่าว และให้กระทรวงมหาดไทยจัดทำรายงานผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ในภาพรวมส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เมื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาและมีมติแล้ว สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้แจ้งผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
| 1707 | สรุปการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ 18 (ระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2558 - 31 มีนาคม 2559) | นร04 | 21/06/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ ๑๘ (ระหว่างวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๘-๓๑ มีนาคม ๒๕๕๙) ตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ มีผลงานที่สำคัญ ได้แก่ โครงการส่งเสริมการจัดกิจกรรมเพื่อความปรองดองสมานฉันท์โดยผ่านกลไกระดับจังหวัด อำเภอ ท้องถิ่น การแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียน ร้องทุกข์ มีประชาชนเข้ารับบริการศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ ๒,๖๗๐,๐๑๖ เรื่อง แก้ไขแล้วเสร็จ ๒,๕๘๘,๕๑๔ เรื่อง คิดเป็นร้อยละ ๙๖.๙๕ ส่วนการดำเนินงานในระยะต่อไปยังคงเน้นการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นตามสถานการณ์ การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนเพื่อปฏิรูปประเทศในภาพรวม ๒. การปฏิรูปประเทศ การดำเนินการเชิงนโยบายเพื่อสนับสนุนการปฏิรูปประเทศ คณะกรรมการประสานงานรวม ๓ ฝ่าย (คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ) ได้ดำเนินการพิจารณาประเด็นข้อเสนอการปฏิรูป รวม ๑๙ ประเด็น ๓. การบริหารราชการแผ่นดิน มีผลงานที่สำคัญ ได้แก่ การปกป้องเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ การรักษาความมั่นคงของรัฐและต่างประเทศ การลดความเหลื่อมล้ำของสังคม การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากรและการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน การศึกษาและเรียนรู้ การทะนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม การยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุขและสุขภาพของประชาชน การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจ การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรม สนับสนุนการเพิ่มค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาของประเทศ การประชุม G77 การประชุมผู้ทรงคุณวุฒิระดับสูงของประเทศกลุ่ม ๗๗ ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนา การประชุมจัดการประชุมประจำปีระหว่างประธานและผู้ประสานงานของกลุ่ม ๗๗ ครั้งที่ ๔๗ การเข้าร่วมประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ ๑ ของนายกรัฐมนตรี การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาลและการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ รวมทั้งการปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
|
||||||||||||||||||||||||
| 1708 | สรุปผลการเยือนสหพันธรัฐรัสเซียของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระหว่างวันที่ 17 - 20 พฤษภาคม 2559 | ยธ | 21/06/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานสรุปผลการเยือนสหพันธรัฐรัสเซียของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระหว่างวันที่ ๑๗-๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ณ นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สหพันธรัฐรัสเซีย สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. การสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของนายกรัฐมนตรีในระหว่างการเยือนนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สหพันธรัฐรัสเซีย มีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือกับรัสเซียอย่างเป็นรูปธรรมและอย่างรอบด้าน ซึ่งถือเป็นประเทศแรกนอกภูมิภาคเอเชียที่นายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนในลักษณะทวิภาคี ๒. การเข้าพบหารือข้อราชการกับ H.E. Mr. Igor ZUBOV รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยรัสเซีย ทั้งสองฝ่ายได้มีการแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับความเชื่อมโยงของปัญหาอาชญากรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการลักลอบค้ายาเสพติด การลี้ภัย และการอพยพของมนุษย์อย่างผิดกฎหมาย โดยรัสเซียยืนยันว่าจะยังคงให้มีเจ้าหน้าที่ประสานงานด้านยาเสพติดอยู่ในประเทศไทยต่อไป นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นการส่งผู้ร้ายข้ามแดนและการโอนตัวนักโทษระหว่างกัน ความร่วมมือภายใต้บันทึกความเข้าใจด้านยาเสพติดระหว่างสำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานกลางด้านยาเสพติดของรัฐเซีย ซึ่งลงนามเมื่อวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๕๙ และร่างแผนปฏิบัติการสำหรับความร่วมมือด้านยาเสพติดที่จะพิจารณาร่วมกันและจะมีการลงนามในอนาคต การแลกเปลี่ยนข้อกังวลเกี่ยวกับปัญหาพื้นที่ผลิตยาเสพติด เฮโรอีน และสารสังเคราะห์ การสนับสนุนในการออกคะแนนเสียงให้กับผู้แทนรัสเซียในองค์กรตำรวจสากล (INTERPOL) และการสนับสนุนบทบาทของรัสเซียในองค์กรตำรวจอาเซียน (ASEANAPOL) การส่งเสริมและผลักดันการทำงานผ่านคณะทำงานร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมไทย-รัสเซีย รวมทั้งการเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของไทยและคณะในการเดินทางเยือนรัสเซียเพื่อร่วมงานแสดงเทคโนโลยีเกี่ยวกับกิจการตำรวจ ในเดือนตุลาคม ๒๕๕๙ ณ กรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย ๓. การเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยกฎหมายระหว่างประเทศ ครั้งที่ ๖ (VI St. Petersburg International Legal Forum) ระหว่างวันที่ ๑๘-๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมแนวทางการปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัยขึ้นในสภาวะโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลที่จำเป็นต้องอาศัยเครื่องมือทางกฎหมายเข้าไปช่วยดำเนินการ รวมทั้งมุ่งส่งเสริมแนวคิดแห่งการเปลี่ยนแปลง โดยมุ่งหวังให้ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อนำไปเป็นพื้นฐานในการปฏิรูป ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้หารือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในประเด็นที่หลากหลายกับหน่วยงานด้านกระบวนการยุติธรรมจากประเทศต่าง ๆ รวมถึงได้เรียนรู้พัฒนาการใหม่ ๆ ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของนานาประเทศเพื่อนำไปสู่การพัฒนากฎหมายที่สำคัญของประเทศไทยต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 1709 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง พ.ศ. .... | นร09 | 21/06/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการและอำนาจหน้าที่ของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ให้สอดคล้องกับภารกิจและเหมาะสมกับสภาพงาน อันจะทำให้การปฏิบัติภารกิจตามอำนาจหน้าที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างกฎกระทรวงดังกล่าวให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังลงนาม และประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 1710 | ผลการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ครั้งที่ 22 | พณ | 21/06/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ครั้งที่ ๒๒ ผลการหารือทวิภาคี และการดำเนินการต่อเนื่องจากการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ปี ๒๐๑๖ และมอบหมายหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ การประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ครั้งที่ ๒๒ ระหว่างวันที่ ๑๗-๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ณ เมืองอาเรกีปา สาธารณรัฐเปรู มีผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ มีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคี การก้าวสู่การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ได้แก่ การจัดทำเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก การเปิดเสรีการค้าและการลงทุนภายใต้เป้าหมายโบกอร์ในปี ๒๐๒๐ และแผนการดำเนินงานเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันด้านการค้าบริการ และ การส่งเสริม SMEs เข้าสู่ตลาดโลก ๑.๒ การหารือทวิภาคี ได้มีการหารือทวิภาคีกับผู้แทน ๖ เขตเศรษฐกิจ ได้แก่ สาธารณรัฐเปรู ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สาธารณรัฐเกาหลี และญี่ปุ่น เกี่ยวกับความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการเตรียมการของไทย และกับสหพันธรัฐรัสเซียในประเด็นความร่วมมือทางการค้า ๑.๓ การดำเนินการต่อเนื่องจากการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ปี ๒๐๑๖ มีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคี การก้าวสู่การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อมและรายย่อยไปสู่ตลาดโลก การพัฒนาทุนมนุษย์ และการสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการให้แข็งแกร่ง ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการให้ไทยเข้าร่วมการเจรจาลดภาษีสินค้าสิ่งแวดล้อมในกรอบองค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) ก็ต่อเมื่อเป็นการเจรจาที่ให้ประเทศสมาชิกทั้งหมดของ WTO เข้าร่วมเท่านั้น และไทยควรสงวนสิทธิ์ในการจัดเก็บภาษีศุลกากรถาวรสำหรับการค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากยังมีความไม่ชัดเจนทั้งคำจำกัดความและแนวทางการดำเนินการในการส่งเสริมการค้าดิจิทัลและการค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว อีกทั้งประเด็นดังกล่าวยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ รวมทั้งการปรับปรุงข้อมูลตามตารางสรุปประเด็นสำคัญและหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อประสานงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 1711 | สรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย (เรื่องสิทธิพลเมืองอันเกี่ยวเนื่องกับสิทธิในชีวิตร่างกายกรณีขอให้คุ้มครองสิทธิของผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี และผู้ต้องสงสัยกล่าวอ้างว่าถูกซ้อมทรมานให้รับสารภาพ) | ยธ | 21/06/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย (เรื่อง สิทธิพลเมืองอันเกี่ยวเนื่องกับสิทธิในชีวิตร่างกาย กรณีขอให้คุ้มครองสิทธิของผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี และผู้ต้องสงสัยกล่าวอ้างว่าถูกซ้อมทรมานให้รับสารภาพ) ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป โดยผลการพิจารณาสรุปได้ ดังนี้
๑. สำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งว่าในคดีนี้ไม่ปรากฏว่ามีการทรมานจึงไม่ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่และขอรับข้อเสนอของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในส่วนที่เกี่ยวข้องไปพิจารณา ๒. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติแจ้งว่าคดีนี้ยังไม่ปรากฏว่ามีเหตุอันควรสงสัยหรือมีคนกล่าวหาจึงยังไม่ได้ทำการไต่สวนแต่อย่างใด ๓. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐแจ้งว่าได้มีการตรวจสอบในกรณีนี้แล้ว แต่ยังไม่ได้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนเพราะยังไม่ทราบผลการตรวจสอบที่ชัดเจน ๔. กรมราชท้ณฑ์แจ้งว่าในทางปฏิบัติได้มีการพิจารณาอนุญาตให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนหรือหน่วยงานอื่น ๆ เข้าพบหรือตรวจเยี่ยมผู้ต้องหาตามที่ได้รับการร้องขอได้อยู่แล้ว ๕. กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพได้ทำการประชุมอบรมสัมมนาเพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง และหากทุกหน่วยงานมีความพร้อมแล้วก็จะดำเนินการเสนอเรื่องเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (Optional Protocol to The Convention Against Torture) ต่อไป ๖. สำนักงานอัยการสูงสุดมีข้อเสนอแนะว่าพนักงานอัยการควรมีส่วนร่วมในการสอบสวนเพื่อเข้าทำการคุ้มครองสิทธิผู้ต้องสงสัยดังกล่าวและควรให้มีการกำหนดช่องทางหรือหน่วยงานในการรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการสอบสวนดังกล่าวขึ้นในทุกจังหวัด |
||||||||||||||||||||||||
| 1712 | ขออนุมัติยกเลิกโครงการปรับปรุงห้องคอมพิวเตอร์สำนักงานสรรพากรพื้นที่ทั่วประเทศ 118 แห่ง | กค | 14/06/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังชี้แจงว่า การยกเลิกโครงการปรับปรุงห้องคอมพิวเตอร์สำนักงานสรรพากรพื้นที่ทั่วประเทศ ๑๑๘ แห่ง ไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานของกรมสรรพากรในการจัดเก็บภาษีของรัฐ ๒. อนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้กรมสรรพากรยกเลิกโครงการปรับปรุงห้องคอมพิวเตอร์สำนักงานสรรพากรทั่วประเทศ ๑๑๘ แห่ง วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น ๗๐,๘๐๐,๐๐๐ บาท ๓. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่เห็นว่า หากมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการปรับปรุงพัฒนาโครงการดังกล่าว ควรจะแบ่งโครงการเป็นระยะ ๆ ต่อไป และในการดำเนินการทุกขั้นตอนการปฏิบัติจะต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 1713 | รายงานผลการเจรจาการบินระหว่างไทย - ออสเตรเลีย | คค | 14/06/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งออสเตรเลีย พร้อมทั้งบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-ออสเตรเลีย ฉบับลงนามเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ โดยร่างความตกลงฯ จะใช้แทนความตกลงฯ ฉบับเดิม (ลงนามเมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๓) มีสาระสำคัญในการปรับปรุงและเพิ่มข้อบทของความตกลงฯ ให้สอดคล้องกับกฎหมายของทั้ง ๒ ประเทศ และเป็นไปตามหลักสากล รวมทั้งเน้นเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินงานของสายการบิน ส่วนบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงสิทธิการบินในด้านความจุความถี่และสิทธิรับขนการจราจรเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการให้บริการระหว่างกัน ๒. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลงนามความตกลงฯ ดังกล่าว ๓. อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแลกเปลี่ยนหนังสือทางการทูตยืนยันการมีผลใช้บังคับของความตกลงฯ และบันทึกความเข้าใจฯ ต่อไป โดยให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถปรับถ้อยคำตามความเหมาะสมที่ไม่กระทบกับสาระสำคัญ |
||||||||||||||||||||||||
| 1714 | มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ปีการผลิต 2559/60 ด้านการตลาด | พณ | 14/06/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ปีการผลิต ๒๕๕๙/๖๐ ด้านการตลาด ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้ ๑.๑ โครงการที่ดำเนินการโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน ๓ โครงการ วงเงิน ๕,๘๒๔.๔๗ ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต ๒๕๕๙/๖๐ โครงการสินเชื่อเกษตรกรเพื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต ๒๕๕๙/๖๐ และโครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต ๒๕๕๙/๖๐ สำหรับภาระค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น เห็นควรให้ ธ.ก.ส. กรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ๑.๒ โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก ปีการผลิต ๒๕๕๙/๖๐ ดำเนินการโดยกระทรวงพาณิชย์ วงเงิน ๙๔๐ ล้านบาท มีกำหนดระยะเวลารับสมัครและกลั่นกรองวงเงินสินเชื่อของธนาคารตั้งแต่วันที่ ๑๕ สิงหาคม-๑๕ กันยายน ๒๕๕๙ จึงยังไม่มีภาระงบประมาณเพื่อชดเชยดอกเบี้ยแก่ผู้ประกอบการของโครงการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ กรณีมีความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่าย เห็นควรให้ใช้จ่ายจากงบประมาณคงเหลือจากโครงการชดเชยดอกเบี้ย ปีการผลิต ๒๕๕๗/๕๘ ที่มีงบประมาณคงเหลืออยู่อีก จำนวน ๒๗๖,๗๙๘,๓๘๐.๒๔ บาท ในโอกาสแรกก่อน และหากไม่เพียงพอหรือมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มเติมในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ให้กระทรวงพาณิชย์ขอรับการจัดสรรงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง ธ.ก.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐเกี่ยวกับการติดตามประเมินผลและรายงานผลการดำเนินมาตรการดังกล่าวให้ทันต่อสถานการณ์ การประชาสัมพันธ์โครงการในหลายช่องทางอย่างทั่วถึงและการติดตามประเมินผลสำเร็จการดำเนินงานและปัญหาอุปสรรคของโครงการฯ การให้ความสำคัญกับการพิจารณาศักยภาพของสถาบันเกษตรกรในการให้สินเชื่ออย่างรอบคอบ การพิจารณาความเป็นไปได้ในการสนับสนุนให้สถาบันเกษตรกรแปรรูปข้าวสารเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้นเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร การพิจารณาความพร้อมของเกษตรกรที่จะได้รับสินเชื่อ การคัดกรองเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการฯ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ รวมทั้งการกำหนดมาตรการเพื่อสนับสนุนนโยบายด้านการตลาดด้วยการปรับรูปแบบการผลิตให้มีการเปลี่ยนรูปแบบจากการขายข้าวในลักษณะเป็นวัตถุดิบขั้นต้น เช่น ข้าวเปลือก หรือข้าวสาร เป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบอื่นเพื่อเพิ่มมูลค่าและลดค่าใช้จ่ายการสต็อกข้าวในคลัง เช่น การปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสุรา และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กลุ่มเกษตรกรสามารถนำไปผลิตเป็นสุราที่มีลักษณะเฉพาะตามภูมิศาสตร์แบบเดียวกับสาเกของประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการคลัง และ ธ.ก.ส. พิจารณาแนวทางการบริหารจัดการข้าวในสต็อกตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ปีการผลิต ๒๕๕๘/๕๙ เพื่อไม่ให้กระทบกับการดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ปีการผลิต ๒๕๕๙/๖๐ ๔. ให้กระทรวงพาณิชย์ สำนักงบประมาณ คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับติดตามการดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ปีการผลิต ๒๕๕๙/๖๐ อย่างต่อเนื่อง และรายงานผลให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ๆ ด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 1715 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหลอดฟลูออเรสเซนซ์ขั้วคู่ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก | 14/06/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหลอดฟลูออเรสเซนซ์ชั้วคู่ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหลอดฟลูออเรสเซนซ์ขั้วคู่ เพื่อกำหนดมาตรฐานให้สอดคล้องกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหลอดฟลูออเรสเซนซ์ขั้วคู่-คุณลักษณะที่ต้องการด้านความปลอดภัยที่ได้ปรับปรุงใหม่ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมควรเผยแพร่ข้อมูลของร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหลอดฟลูออเรสเซนซ์ขั้วคู่ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในวงกว้าง รวมทั้งเพื่อให้ผู้ประกอบการในธุรกิจที่เกี่ยวข้องสามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 1716 | ร่างกฎกระทรวงภายใต้พระราชบัญญัติที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงเพื่อรองรับการรวมหน่วยงานสังกัดกระทรวงพาณิชย์ในภูมิภาค จำนวน 4 ฉบับ | พณ | 14/06/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง จำนวน ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงจัดตั้งสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท แต่งตั้งนายทะเบียน และกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการแต่งตั้งผู้ช่วยนายทะเบียนกลางเพื่อรองรับการรวมหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ในภูมิภาค ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดแบบและวิธีการแจ้งการเลิกประกอบธุรกิจหรือย้ายสำนักงานหรือสถานที่ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงสถานที่แจ้งการเลิกประกอบธุรกิจหรือย้ายสำนักงานหรือสถานที่ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เพื่อรองรับการรวมหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ในภูมิภาค ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการขออนุญาตจัดตั้งหอการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงสถานที่ยื่นคำขออนุญาตจัดตั้งหอการค้า เพื่อรองรับการรวมหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ในภูมิภาค ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการขออนุญาตจัดตั้งสมาคมการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงสถานที่ยื่นคำขออนุญาตจัดตั้งสมาคมการค้า เพื่อรองรับการรวมหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ในภูมิภาค ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการทราบถึงการปรับเปลี่ยนให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเพียงแห่งเดียวเป็นสถานที่ยื่นคำขอ พร้อมทั้งบูรณาการการทำงานร่วมกันของภารกิจงานภายใต้สำนักงานพาณิชย์จังหวัด โดยเตรียมความพร้อมของบุคลากรให้สามารถรองรับการให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการในการติดต่อและขอรับบริการจากกระทรวงพาณิชย์ อันจะเป็นการส่งเสริมสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 1717 | การรายงานสถานะหนี้สาธารณะของประเทศ และผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2559 ณ วันที่ 31 มีนาคม 2559 | กค | 14/06/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสถานะหนี้สาธารณะของประเทศ และผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๙ ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๙ สรุปได้ ดังนี้
๑. สถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๙ ประกอบด้วย หนี้รัฐบาล ๔,๔๓๑,๖๘๓.๙๗ ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน ๑,๐๓๙,๙๑๐.๘๒ ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) ๕๒๕,๕๒๓.๗๐ ล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ ๑๖,๕๓๑.๓๗ ล้านบาท รวมยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ๖,๐๑๓,๖๔๙.๘๖ ล้านบาท ๒. ผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๙ คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะได้จัดทำแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๙ ได้มีการปรับปรุงแผนฯ แล้ว ๑ ครั้ง มีวงเงินรวมในแผนฯ ๑,๗๔๑,๔๒๒.๒๕ ล้านบาท ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๙ กระทรวงการคลังและหน่วยงานต่าง ๆ ได้ดำเนินการกู้เงินและบริหารหนี้เป็นวงเงินทั้งสิ้น ๗๐๓,๑๐๐.๓๗ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๔๐.๓๘ ของแผนฯ ๓. ผลการดำเนินการบริหารความเสี่ยงหนี้ของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจที่ไม่ได้บรรจุอยู่ในแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๙ โดยใช้งบชำระหนี้เหลือจ่ายและรายได้ชำระคืนหนี้ก่อนครบกำหนด (Prepayment) วงเงินรวม ๒๑,๕๗๐.๖๘ ล้านบาท (การบริหารความเสี่ยงหนี้รัฐบาลสามารถลดภาระดอกเบี้ยได้ ๑๗๗.๓๕ ล้านบาท และการบริหารความเสี่ยงหนี้รัฐวิสาหกิจสามารถลดภาระดอกเบี้ยได้ ๑๒.๑๗ ล้านบาท) ซึ่งสามารถลดภาระดอกเบี้ยได้รวมทั้งสิ้น ๑๘๙.๕๒ ล้านบาท ๔. ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินโครงการลงทุนตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๙ ของรัฐวิสาหกิจ จากการติดตามผลการดำเนินโครงการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ จำนวน ๙ แห่ง พบว่า การรถไฟแห่งประเทศไทยมีการดำเนินโครงการล่าช้ากว่าแผน จำนวน ๔ โครงการ |
||||||||||||||||||||||||
| 1718 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและออกใบอนุญาตเป็นผู้ตรวจสอบและให้คำรับรองเครื่องชั่งตวงวัดที่ตนผลิต หรือซ่อม พ.ศ. .... | พณ | 07/06/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและออกใบอนุญาตเป็นผู้ตรวจสอบและให้คำรับรองเครื่องชั่งตวงวัดที่ตนผลิต หรือซ่อม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและออกใบอนุญาตเป็นผู้ตรวจสอบและให้คำรับรองเครื่องชั่งตวงวัดที่ตนผลิตหรือซ่อม พร้อมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้ขออนุญาตต้องปฏิบัติตาม ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 1719 | รายงานความก้าวหน้าการพัฒนาระบบ National Single Window (NSW) ของประเทศไทย | กค | 07/06/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความก้าวหน้าการพัฒนาระบบ National Single Window (NSW) ของประเทศไทย ณ วันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๙ สรุปได้ ดังนี้
๑. การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกรมศุลกากรและผู้ประกอบการ เช่น ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก ตัวแทนออกของ ตัวแทนผู้รับขนส่งสินค้า บริษัทเรือ สายการบิน และธนาคารต่าง ๆ ด้วยอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ NSW ครบถ้วน ๑๐๐% ตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๕๔ เป็นต้นมา ๒. การเชื่อมโยงข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐในการออกใบอนุญาต/ใบรับรอง และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนำเข้า การส่งออกและโลจิสติกส์ ทั้ง ๓๖ หน่วยงาน มีระบบพร้อมรองรับการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบ NSW แล้ว แต่ยังเหลืออีก ๓ หน่วยงานที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ๓. ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการพัฒนาระบบ NSW ได้แก่ การขาดความชัดเจนของหน่วยงานที่รับผิดชอบ กำกับ ดูแลระบบ การให้บริการของหน่วยงานภาครัฐในขั้นตอนการออกใบอนุญาต/ใบรับรองมีหลายขั้นตอนและใช้ระยะเวลาในการดำเนินการมาก หน่วยงานภาครัฐส่วนใหญ่ยังไม่มีงบประมาณหรือยังไม่ได้จัดทำโครงการของบประมาณสำหรับการพัฒนาระบบเพิ่มเติมของแต่ละหน่วยงาน กฎหมาย/ระเบียบของหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนำเข้า ส่งออกสินค้า ยังไม่รองรับการทำธุรกรรมสำหรับนำเข้า ส่งออก โลจิสติกส์ ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ NSW แบบไร้เอกสารอย่างปลอดภัย และหน่วยงานภาครัฐมีบุคลากรไม่เพียงพอในการกำกับดูแลและพัฒนาระบบการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบ NSW ทั้งในรูปแบบ G2G/B2G ๔. ข้อเสนอแนะในการดำเนินการพัฒนาระบบ NSW ได้แก่ ผลักดันให้มีองค์กรมาทำหน้าที่บริหารจัดการระบบ NSW เร่งรัดให้หน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ดำเนินการปรับปรุงกระบวนงานการออกใบอนุญาต/ใบรับรอง โดยใช้การแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ NSW แบบครบวงจร ผลักดันให้สำนักงบประมาณสนับสนุนงบประมาณให้แก่หน่วยงานภาครัฐที่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ เร่งรัดให้หน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนำเข้า ส่งสินค้าออก ปรับปรุงกฎหมายและระเบียบให้รองรับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสาร และผลักดันให้คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน จัดสรรอัตรากำลังบุคลากรด้านคอมพิวเตอร์เพิ่มเติมให้เพียงพอตามอัตราที่แต่ละหน่วยงานขอไว้ |
||||||||||||||||||||||||
| 1720 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมออกตามความในพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 พ.ศ. .... | พณ | 07/06/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมออกตามความในพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. ๒๕๔๒ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการออกหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจ การออกใบอนุญาตให้ผู้ผลิตหรือผู้ซ่อมเป็นผู้ตรวจสอบและให้คำรับรองการต่ออายุใบอนุญาต การออกใบแทนหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจ การออกใบแทนใบอนุญาต การตรวจสอบให้คำรับรองสำหรับเครื่องชั่งตวงวัด การตรวจสอบความเที่ยงของเครื่องชั่งตวงวัด เพื่อให้เป็นไปตามอัตราค่าธรรมเนียมท้ายพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๗ และปรับปรุงระดับตำแหน่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ไปตรวจสอบให้คำรับรองเครื่องชั่งตวงวัดนอกสถานที่ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
.....
