ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 43 จากทั้งหมด 347 หน้า แสดงรายการที่ 841 - 860 จากข้อมูลทั้งหมด 6925 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง  | 
									วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 841 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคืนอากรและหลักประกันการชำระอากรตอบโต้การทุ่มตลาดและอากรตอบโต้การอุดหนุน พ.ศ. .... | กค | 21/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคืนอากรและหลักประกันการชำระอากรตอบโต้การทุ่มตลาดและอากรตอบโต้การอุดหนุน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการคืนอากรหรือหลักประกันการชำระอากรตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ อากรตอบโต้การทุ่มตลาดหรือการอุดหนุนการนำเข้าสินค้าที่หลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน เพื่อให้สอดคล้องกับหมวด ๑๐/๑ แห่งพระราชบัญญัติการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ 
											    												    		
  | 
											    |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 842 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดชนิดและลักษณะของแสตมป์สรรพสามิต และเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีของทางราชการ พ.ศ. .... | กค | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดชนิดและลักษณะของแสตมป์สรรพสามิต และเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีของทางราชการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎกระทรวงกำหนดชนิดและลักษณะของแสตมป์สรรพสามิต และเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๖๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยปรับปรุงลักษณะของแสตมป์สรรพสามิต สำหรับสินค้าเครื่องดื่ม สินค้าสุรา และสินค้ายาสูบ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้พิจารณาในประเด็นความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการกำกหนดลักษณะแสตมป์ยาสูบให้รวมถึงลักษณะแสตมป์สุรา แสตมป์ยาสูบ และแสตมป์เครื่องดื่มบางประเภทที่มียอดจ่ายน้อยหรือไม่มียอดจ่าย เพื่อนำมาใช้กับสินค้ายาสูบได้ด้วยนั้น เป็นผลให้ลักษณะของแสตมป์ยาสูบมีรายละเอียดไม่ตรงกับประเภทสินค้าที่จะมีการปิดแสตมป์ในสาระสำคัญ ซึ่งอาจขัดกับเจตนารมณ์ในการแยกประเภทแสตมป์ตามลักษณะของสินค้า รวมทั้งเป็นปัญหาในการตรวจสอบความถูกต้องของลักษณะแสตมป์ ซึ่งเป็นประเด็นที่สมควรนำมาพิจารณาการกำหนดหลักการดังกล่าวไว้ในร่างกฎกระทรวงฯ แล้วดำเนินการต่อไปได้ 
											    												    		
  | 
											    |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 843 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติการแทนเจ้าพนักงานบังคับคดี พ.ศ. .... | ยธ | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงว่าด้วยคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติการแทนเจ้าพนักงานบังคับคดี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎกระทรวงว่าด้วยคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติการแทนเจ้าพนักงานบังคับคดี พ.ศ. ๒๕๕๑ ให้สอดคล้องกับบทบัญญัติเกี่ยวกับอำนาจทั่วไปของเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อให้การมอบหมายให้บุคคลอื่นปฏิบัติการแทนเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ๓๐) พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ 
											    												    		
  | 
											    |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 844 | ร่างระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการแต่งตั้งและการหน้าที่ของเจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. .... | กต | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการแต่งตั้งและการหน้าที่ของเจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการปรับปรุงระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการแต่งตั้งและการหน้าที่ของพนักงานฝ่ายกงสุลกิตติมศักดิ์แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๓๖ ในสาระสำคัญเกี่ยวกับการแต่งตั้ง วาระการดำรงตำแหน่ง หน้าที่ และการสิ้นสุดหน้าที่ของเจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์ ตลอดจนค่าตอบแทนสำหรับเจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ 
											    												    		
  | 
											    |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 845 | ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. .... | ทส | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงแผนที่หมายเลข ๑/๒ ท้ายประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. ๒๕๖๐ ลงวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับแผนที่ดังกล่าว ระบุหมายเลขทางหลวงไม่ตรงกับข้อมูลของกรมทางหลวง ขอให้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวต่อไปด้วย ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ 
											    												    		
  | 
											    |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 846 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. ....) | มท | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา รวม ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 
											    												    		๑. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดบึงกาฬ ในพื้นที่บริเวณที่ ๑ (อำเภอเมืองบึงกาฬ) พื้นที่บริเวณที่ ๒ (อำเภอปากคาด) พื้นที่บริเวณที่ ๓ (อำเภอบุ่งคล้า) พื้นที่บริเวณที่ ๔ (อำเภอโซ่พิสัย) พื้นที่บริเวณที่ ๕ (อำเภอพรเจริญ) พื้นที่บริเวณที่ ๖ และพื้นที่บริเวณที่ ๗ (อำเภอเซกา) ๒. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดภูเก็ต ในพื้นที่บริเวณที่ ๑ (ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต) พื้นที่บริเวณที่ ๒ และพื้นที่บริเวณที่ ๓ (ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต) พื้นที่บริเวณที่ ๔ (ตำบลฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต) พื้นที่บริเวณที่ ๕ ถึงพื้นที่บริเวณที่ ๑๐ (ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้) 
  | 
											    |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 847 | รายงานผลการดำเนินงานตามแผนยกระดับการบริการภาครัฐ ระยะที่ 2 ตามพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวก ในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 | นร12 | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามแผนยกระดับการบริการภาครัฐ ระยะที่ ๒ ตามพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) เสนอ สรุปได้ ดังนี้ 
											    												    		๑. ผลการดำเนินงานตามแผนฯ ระยะที่ ๒ ได้แก่ การปรับปรุงคู่มือสำหรับประชาชน ระยะที่ ๒ การจัดทำแบบฟอร์มเอกสารราชการ ๒ ภาษา การพัฒนาระบบติดตามการให้บริการ การอำนวยความสะดวกในการจองคิวกลาง และการให้ข้อมูลป้อนกลับของประชาชนต่อการให้บริการ และการทบทวนกฎหมายการยกเลิกใบอนุญาตที่ไม่จำเป็น ซึ่งหน่วยงานส่วนใหญ่ได้มีการดำเนินการเป็นไปตามแผน ส่งผลให้การพัฒนาบริการภาครัฐโดยรวมดียิ่งขึ้น ๒. การดำเนินการในระยะต่อไป สำนักงาน ก.พ.ร. จะดำเนินการปรับปรุงคู่มือสำหรับประชาชน เช่น ปรับปรุงระบบศูนย์รวมข้อมูลเพื่อติดต่อราชการ พัฒนาระบบกลางของภาครัฐในการนำข้อมูลคู่มือสำหรับประชาชนหรืองานบริการภาครัฐเชื่อมโยงกับระบบ Citizen Portal เป็นต้น รวมทั้งเร่งรัดให้หน่วยงานของรัฐที่ยังไม่ได้จัดทำแบบฟอร์มเอกสารราชการ ๒ ภาษา จัดทำให้แล้วเสร็จตามแผน และส่งเสริมให้หน่วยงานต่าง ๆ เผยแพร่ขึ้นสู่เว็บไซต์ศูนย์รวบรวมข้อมูลเพื่อติดต่อราชการ (www.info.go.th) 
  | 
											    |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 848 | แนวทางปฏิบัติในการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี | นร05 | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติ 
											    												    		๑. รับทราบแนวทางการจัดทำระเบียบวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยให้จัดประเภทเรื่องที่เสนอคณะรัฐมนตรีออกเป็นด้านต่าง ๆ ดังนี้ ๑.๑ ด้านการเมือง การต่างประเทศ และความมั่นคง ๑.๒ ด้านการสร้างรายได้และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ๑.๓ ด้านการศาสนา ศิลปวัฒนธรรม และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ๑.๔ ด้านการลดความเหลื่อมล้ำ ๑.๕ ด้านการพัฒนาสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และการพัฒนาคุณภาพชีวิต ๑.๖ ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน การปรับปรุงกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ๑.๗ อื่น ๆ (ถ้ามี) ๒. เห็นชอบให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐดำเนินการจัดทำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีให้ถูกต้อง เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๘ ระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๘ กฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐเจ้าของเรื่อง ระบุในหนังสือเสนอเรื่องให้ชัดเจนด้วยว่าเรื่องดังกล่าวสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติในด้านใด (ตามข้อ ๑) 
  | 
											    |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 849 | มาตรการต่อเติม เสริมทุน SMEs สร้างไทย | กค | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ 
											    												    		๑. เห็นชอบให้การส่งเสริมขีดความสามารถของ SMEs เป็นวาระแห่งชาติ ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเร่งพิจารณาและกำหนดมาตรการในการส่งเสริมขีดความสามารถของ SMEs ในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ๒. เห็นชอบและรับทราบมาตรการต่อเติม เสริมทุน SMEs สร้างไทย ซึ่งเป็นมาตรการเพื่อช่วยเหลือ SMEs ในกลุ่มที่ต้องการสภาพคล่อง กลุ่มที่กำลังจะถูกฟ้อง และกลุ่มที่มีศักยภาพ ประกอบด้วย (๑) โครงการ บสย. SMEs สร้างไทย ของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (๒) โครงการ Transformation Loan เสริมแกร่ง (Soft Loan เพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักร ระยะที่ ๒) ของธนาคารออมสิน (๓) โครงการ GSB SMEs Extra Liquidity ของธนาคารออมสิน (๔) โครงการ PGS ๕ ถึง PGS ๗ และ (๕) โครงการสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน (Local Economy Loan) ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการต่อไปให้ถูกต้องเป็นไปตามข้อกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย ๓. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ และเห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษตามประมวลกฎหมายที่ดิน สำหรับกรณีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด สำหรับกรณีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ รวม ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น (๑) สถาบันการเงินและสถาบันการเงินเฉพาะกิจควรพัฒนาระบบฐานข้อมูล SMEs ที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อใช้วิเคราะห์ติดตามและประเมินผลการดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ โดยเฉพาะกระบวนการพิจารณาสินเชื่อหรือการค้ำประกัน การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์กำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง และ (๒) การกำหนดมาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ควรครอบคลุมการเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่มีเจ้าหนี้อื่นที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (non-bank) ด้วย เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๔. ให้กระทรวงการคลังประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับมาตรการในการช่วยเหลือ SMEs ให้สาธารณชนรับทราบอย่างถูกต้องและทั่วถึง รวมทั้งให้กระทรวงการคลังติดตาม ประเมินผล และรายงานผลการดำเนินการต่อคณะรัฐมนตรีทุก ๆ ๓ เดือน ด้วย ๕. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้ 
  | 
											    |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 850 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. ....) | มท | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา รวม ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 
											    												    		๑. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดบึงกาฬ ในพื้นที่บริเวณที่ ๑ (อำเภอเมืองบึงกาฬ) พื้นที่บริเวณที่ ๒ (อำเภอปากคาด) พื้นที่บริเวณที่ ๓ (อำเภอบุ่งคล้า) พื้นที่บริเวณที่ ๔ (อำเภอโซ่พิสัย) พื้นที่บริเวณที่ ๕ (อำเภอพรเจริญ) พื้นที่บริเวณที่ ๖ และพื้นที่บริเวณที่ ๗ (อำเภอเซกา) ๒. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดภูเก็ต ในพื้นที่บริเวณที่ ๑ (ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต) พื้นที่บริเวณที่ ๒ และพื้นที่บริเวณที่ ๓ (ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต) พื้นที่บริเวณที่ ๔ (ตำบลฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต) พื้นที่บริเวณที่ ๕ ถึงพื้นที่บริเวณที่ ๑๐ (ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้) 
  | 
											    |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 851 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเกณฑ์จำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งตามพระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ พ.ศ. 2558 พ.ศ. .... | คค | 02/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ 
											    												    		๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเกณฑ์จำกัดความรับผิดชอบของผู้ขนส่งตามพระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงเพดานจำนวนค่าเสียหายที่ผู้ขนส่งต้องรับผิดชอบต่อคนโดยสาร สัมภาระของคนโดยสาร และของตามสัญญารับขน ในกรณีที่คนโดยสารถึงแก่ความตาย บาดเจ็บทางร่างกาย การล่าช้าในการรับขนคนโดยสาร สัมภาระถูกทำลาย สูญหาย เสียหาย หรือสัมภาระล่าช้า และในกรณีที่ของที่ขนส่งถูกทำลาย สูญหาย เสียหายหรือขนส่งของล่าช้า เพื่อให้เป็นไปตามข้อเสนอขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) ที่ให้ปรับปรุงจำนวนค่าเสียหายโดยอ้างอิงอัตราเงินเฟ้อ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้พิจารณาตามข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับวันใช้บังคับตามร่างมาตรา ๒ แห่งพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ ที่กำหนดให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นต้นไป นั้น เห็นควรให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาความเหมาะสมของวันใช้บังคับดังกล่าวด้วยว่าจำเป็นต้องกำหนดวันใช้บังคับให้มีผลย้อนหลังหรือไม่ แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงคมนาคมและสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยเตรียมมาตรการรองรับอย่างเหมาะสม ในกรณีที่ผู้โดยสารทางอากาศประสบเหตุและเรียกร้องค่าชดเชยตามเกณฑ์ใหม่ของอนุสัญญาเพื่อการรวบรวมกฎเกณฑ์บางประการเกี่ยวกับการรับขนระหว่างประเทศทางอากาศ ค.ศ. ๑๙๙๙ ในขณะที่กฎหมายของประเทศไทยยังไม่มีผลบังคับใช้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป 
  | 
											    |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 852 | การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สำหรับโครงการพัฒนาเมืองภายใต้ระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ระยะที่ 3 ในส่วนของเมืองเมียวดี (การปรับปรุงระบบน้ำประปา และการพัฒนาระบบบริหารจัดการขยะ) | กค | 24/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ 
											    												    		๑. อนุมัติให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) ดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการพัฒนาเมืองภายใต้ระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ระยะที่ ๓ ในส่วนของเมืองเมียวดี (การปรับปรุงระบบน้ำประปา และการพัฒนาระบบบริหารจัดการขยะ) (โครงการพัฒนาเมืองเมียวดีฯ) ในรูปแบบเงินกู้เงื่อนไขผ่อนปรนทั้งจำนวน วงเงินรวม ๗๗๗,๗๗๐,๐๐๐ บาท รวมทั้งอนุมัติให้สำนักงบประมาณจัดสรรเงินงบประมาณแผ่นดินเป็นรายปี โดยเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๖ รวมระยะเวลา ๓ ปี รวมวงเงินที่จะขอรับการจัดสรรเงินงบประมาณทั้งสิ้นเท่ากับ ๓๘๘,๘๘๕,๐๐๐ บาท และมอบหมาย สพพ. ดำเนินการกู้เงินจำนวน ๓๘๘,๘๘๕,๐๐๐ บาท ตามรูปแบบและเงื่อนไขที่กำหนด ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ในกรณีที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาผิดนัดชำระหนี้ ให้กระทรวงการคลัง โดย สพพ. พิจารณาใช้เงินสะสมของหน่วยงานในการชำระต้นเงินและดอกเบี้ยคืนแหล่งเงินกู้เป็นลำดับแรก ๒. ให้กระทรวงการคลัง โดย สพพ. รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรสนับสนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพิจารณาประเด็นเศรษฐกิจควบคู่ไปกับประเด็นความมั่นคงอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาบริเวณพื้นที่ชายแดนที่สองประเทศมีประเด็นท้าทายร่วมกัน เช่น ปัญหาเขตแดน การลักลอบเข้าเมืองและค้ามนุษย์ การลักลอบและค้ายาเสพติด การสร้างสิ่งปลูกสร้างบริเวณเกาะแก่งต่าง ๆ กลางแม่น้ำเมย การรุกล้ำของประชาชน การสร้างเพิงขายของริมตลิ่งแม่น้ำเมย เป็นต้น เพื่อส่งเสริมชายแดนแห่งสันติภาพที่สงบสุข การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกัน และเห็นควรให้ความสำคัญพร้อมทั้งกำหนดแนวทางและวิธีการบริหารจัดการความเสี่ยงอันเนื่องมาจากการให้กู้ยืมแก่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาภายใต้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของโลก ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงการคลัง โดย สพพ. เร่งรัดบรรจุวงเงินกู้ดังกล่าวในแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๓ และขอจัดสรรงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป 
  | 
											    |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 853 | เอกสารผลลัพธ์การประชุมคณะทำงานสาขาความร่วมมือเศรษฐกิจข้ามพรมแดนภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง ครั้งที่ 3 | พณ | 24/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเอกสารผลลัพธ์การประชุมคณะทำงานสาขาความร่วมมือเศรษฐกิจข้ามพรมแดนภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (Joint Working Group on Cross-Border Economic Cooperation under Mekong-Lancang Cooperation : JWG-CBEC) ครั้งที่ ๓ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๘-๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๒ ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยเอกสารผลลัพธ์การประชุมคณะทำงานฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้ 
											    												    		๑. ที่ประชุมคณะทำงานฯ รับทราบข้อมูลเขตเศรษฐกิจพิเศษนำร่อง ซึ่งรวมถึงที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ หน้าที่ ภารกิจ และมาตรการที่สำคัญของมณฑลยูนนาน รวมถึงข้อมูลสิทธิประโยชน์ท้องถิ่น สิทธิพิเศษทางภาษี นโยบายการถือครองที่ดิน และการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศสมาชิกแม่โขง-ล้านช้าง ๒. ที่ประชุมคณะทำงานฯ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในร่างที่ ๖ ของแผนพัฒนาระยะ ๕ ปี สำหรับความร่วมมือเศรษฐกิจข้ามพรมแดน รวมทั้งได้พิจารณาหลักการและกลไกที่จะทำให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และความร่วมมือในอนาคตระหว่างประเทศสมาชิกแม่โขง-ล้านช้างของคณะทำงาน JWG-CBEC ภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ๓. ที่ประชุมคณะทำงานฯ เห็นพ้องที่จะปรับปรุงร่างที่ ๖ ของแผนพัฒนาระยะ ๕ ปีฯ และจะหาข้อสรุปให้ได้โดยเร่งด่วน เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ ครั้งที่ ๕ และที่ประชุมผู้นำแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ ๓ ในช่วงต้นปี ๒๕๖๓ โดยผู้จัดทำแผนจะทำการรวบรวมข้อคิดเห็นทั้งหมดจากประเทศสมาชิกแม่โขง-ล้านช้าง เพื่อปรับปรุงร่างแผนพัฒนาระยะ ๕ ปีฯ และจะได้เวียนร่างแผนพัฒนาระยะ ๕ ปีฯ ที่ได้รับการปรับปรุงแล้วเพื่อขอรับความเห็นชอบจากประเทศสมาชิกแม่โขง-ล้านช้าง และขอให้ส่งความเห็นกลับมาภายในวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ 
  | 
											    |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 854 | รายงานผลการประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ ประจำปีบัญชี 2561 | กค | 24/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ 
											    												    		๑. รับทราบผลการประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ ประจำปีบัญชี ๒๕๖๑ ซึ่งคณะกรรมการประเมินผลงานรัฐวิสาหกิจ ในคราวประชุมครั้งที่ ๖/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๒ และในคราวประชุมครั้งที่ ๗/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒ มีมติเห็นชอบด้วยแล้ว โดยในปีบัญชี ๒๕๖๑ มีรัฐวิสาหกิจที่อยู่ในระบบประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจทั้งสิ้น จำนวน ๕๔ แห่ง ประกอบด้วย ๒ ส่วน คือ (๑) ระบบการบริหารจัดการองค์กร จำนวน ๒๑ แห่ง รัฐวิสาหกิจมีคะแนนเฉลี่ยที่ ๓.๑๑๓๖ คะแนน ซึ่งเพิ่มขึ้น ๐.๐๔๑๖ คะแนน เมื่อเปรียบเทียบกับปี ๒๕๖๐ และ (๒) ระบบการประเมินคุณภาพรัฐวิสาหกิจ จำนวน ๓๓ แห่ง รัฐวิสาหกิจมีคะแนนเฉลี่ยที่ ๓.๘๙๕๓ คะแนน ซึ่งเพิ่มขึ้น ๐.๐๓๕๔ คะแนน เมื่อเปรียบเทียบกับปี ๒๕๖๐ โดยคณะกรรมการประเมินผลงานรัฐวิสาหกิจได้มีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะจากการประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ ประจำปีบัญชี ๒๕๖๑ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการ เช่น การเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม การปรับองค์กรให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี และการบูรณาการดำเนินงานระหว่างรัฐวิสาหกิจ เป็นต้น และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อสังเกตและข้อเสนอแนะดังกล่าวอย่างเคร่งครัดต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น การปรับปรุงกระบวนการให้สินเชื่อให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและการติดตามดูแลคุณภาพสินเชื่ออย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกัน แก้ไขปัญหา และควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อฐานะและผลการดำเนินงาน และการนำเทคโนโลยีมาใช้ควบคู่กับการบริหารจัดการความเสี่ยง รวมทั้งใช้ประโยชน์จากข้อมูลเพื่อพัฒนาบริการ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย 
  | 
											    |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 855 | การปรับปรุงการให้บริการประชาชนของศูนย์บริการ (Call center) และสายด่วน (Hotline) ต่าง ๆ | นร05 | 24/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติให้หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องทุกแห่งทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น เร่งรัด ตรวจสอบ และปรับปรุงแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของศูนย์บริการ (Call center) และสายด่วน (Hotline) ในความรับผิดชอบโดยด่วน เพื่อให้สามารถให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำกับติดตามการดำเนินการในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องด้วย 
											    												    		
  | 
											    |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 856 | การลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคของหน่วยงานภาครัฐ | นร05 | 17/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติกำชับให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐดำเนินการให้มีการใช้สาธารณูปโภคประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำประปาและไฟฟ้าอย่างประหยัดเท่าที่จำเป็นเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและลดภาระงบประมาณภาครัฐในภาพรวม ทั้งนี้ ให้พิจารณาดำเนินมาตรการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องควบคู่ไปด้วย เช่น การรณรงค์สร้างค่านิยมและจิตสำนึกในการใช้สาธารณูปโภคของหน่วยงานอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ราชการ การปรับปรุงเครื่องมือ/อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อลดความสิ้นเปลืองของพลังงาน การเลือกใช้ทรัพยากรทางเลือกหรือพลังงานทดแทนเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้เหมาะสมกับสถานที่ตั้งและสภาพแวดล้อมของหน่วยงาน และให้ติดตามประเมินผลการใช้สาธารณูปโภคของหน่วยงานอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงแก้ไขแนวทางและมาตรการในการใช้สาธารณูปโภคของหน่วยงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเป็นระยะ ๆ ต่อไปด้วย 
											    												    		
  | 
											    |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 857 | รายงานผลการเตรียมความพร้อมในการตราพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 | กสทช | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแผนการดำเนินการและกรอบระยะเวลาในการตราพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา ๓๐ แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ สรุปได้ว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายในเรื่องการกำกับดูแลเทคโนโลยีการสื่อสาร เพื่อให้สามารถรองรับประเด็นการหลอมรวม (Convergence) โดยได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติ ส่วนที่ ๓ การอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ และส่วนที่ ๔ การกำกับการประกอบกิจการ ในหมวด ๒ การกำกับดูแลการประกอบกิจการ ของพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งในการดำเนินการดังกล่าวจะต้องออกเป็นพระราชกฤษฎีกาเพื่อบังคับใช้ ตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอ 
											    												    		
  | 
											    |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 858 | คณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ) | พศ | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติแต่งตั้งเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ จำนวน ๒ คณะ ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ ดังนี้ 
											    												    		๑. คณะกรรมการอำนวยการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล ฝ่ายสงฆ์ ๒. คณะกรรมการอำนวยการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล ฝ่ายฆราวาส 
  | 
											    |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 859 | ร่างกฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 จำนวน 4 ฉบับ | มท | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ จำนวน ๔ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 
											    												    		๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้คนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยต้องปฏิบัติเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดให้คนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยปฏิบัติเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมการแจ้งหรือขอเมื่อพ้นกำหนดเวลา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมการแจ้งหรือขอดำเนินการเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎรเมื่อพ้นกำหนดเวลาตามกฎหมาย ๔. ร่างกฎกระทรวงกำหนดอาคารที่สร้างขึ้นเพื่อประโยชน์อย่างอื่นอันมิใช่เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอาคารที่สร้างขึ้นเพื่อประโยชน์อย่างอื่นอันมิใช่เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยที่ต้องกำหนดเลขประจำอาคารและจัดทำทะเบียนอาคาร 
  | 
											    |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 860 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเครื่องหมาย การใช้เครื่องหมาย และการแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสำหรับสินค้าเกษตร พ.ศ. .... | กษ | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ 
											    												    		๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเครื่องหมาย การใช้เครื่องหมาย และการแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสำหรับสินค้าเกษตร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงลักษณะของเครื่องหมาย การใช้เครื่องหมาย และการแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสำหรับสินค้าเกษตร โดยกำหนดเครื่องหมายรับรองมาตรฐานเพื่อการรับรองเฉพาะด้าน (Organic Thailand) เพื่อให้สอดคล้องกับการแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานตามมาตรฐานสากล ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมที่เห็นควรเพิ่มเติมข้อความ “ให้ยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเครื่องหมาย การใช้เครื่องหมาย และการแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานกับสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๓” ในร่างกฎกระทรวงนี้ เพื่อเป็นการป้องกันความคลาดเคลื่อนและสับสนแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องที่ถือปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดลักษณะของเครื่องหมาย การใช้เครื่องหมาย และการแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสำหรับสินค้าเกษตร ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรประชาสัมพันธ์และสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องลักษณะของเครื่องหมาย การใช้เครื่องหมายและการแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสำหรับสินค้าเกษตร เพื่อให้เกษตรกรและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง ควรกำชับผู้ได้รับใบรับรองมาตรฐานพึงระมัดระวังในการนำเครื่องหมายรับรองที่มีแถบสีธงชาติไปแสดงหรือใช้ตามร่างกฎกระทรวงนี้ไม่ให้มีลักษณะเป็นการเหยียดหยามต่อธงชาติประเทศไทยหรือชาติไทย และเป็นการกระทำไปโดยสมควร เพื่อให้เป็นไปตามข้อ ๖ และข้อ ๑๕ ทวิ ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการใช้ การชัก หรือการแสดงธงชาติ และธงของต่างประเทศในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๒๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และควรให้ความรู้ความเข้าใจในการขอรับใบรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรแต่ละชนิด รวมถึงการใช้และการแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสำหรับสินค้าเกษตรในแต่ละรูปแบบโดยเฉพาะสินค้าเกษตรอินทรีย์ เพื่อให้ผู้ผลิตสามารถขอรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรและนำเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสำหรับสินค้าเกษตรไปใช้ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม และสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ส่งเสริมให้มีการทำเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป 
  | 
											    |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
					.....
									
			