ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 42 จากทั้งหมด 347 หน้า แสดงรายการที่ 821 - 840 จากข้อมูลทั้งหมด 6925 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง  | 
									วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 821 | ร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. .... ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด และร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 3 ฉบับ | ยธ | 18/02/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติ 
											    												    		๑. เห็นชอบร่างประมวลกฎหมายและร่างพระราชบัญญัติ รวม ๓ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด และกำหนดบทเฉพาะกาลเพื่อรองรับการบังคับใช้ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด ๑.๒ ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด มีสาระสำคัญเป็นการรวบรวมบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่ในปัจจุบันมีอยู่หลายฉบับและกระจายอยู่ในความรับผิดชอบของหลายหน่วยงานไว้เป็นหมวดหมู่ในรูปแบบประมวลกฎหมาย ๑.๓ ร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงบทบัญญัติของพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. ๒๕๕๐ ให้สอดคล้องกับร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด และแก้ไขปรับปรุงบทบัญญัติบางส่วนให้เหมาะสมและสอคดล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ๒. ให้รับข้อสังเกตของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรมที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอไปพิจารณาเกี่ยวกับการนำมาตรการลงโทษอื่นมาใช้ทดแทนการลงโทษจำคุก และการกำหนดบทความผิด และบทกำหนดโทษให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอรัฐสภาต่อไป และให้แจ้งประธานรัฐสภาทราบด้วยว่าร่างประมวลกฎหมายและร่างพระราชบัญญัติ รวม ๓ ฉบับนี้ เป็นร่างกฎหมายที่จะตราขึ้นเพื่อดำเนินการตามหมวด ๑๖ การปฏิรูปประเทศ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 
  | 
											    ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 822 | ร่างพระราชบัญญัติโอนหน้าที่และอำนาจ และกิจการบริหารบางส่วน ของกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปเป็นของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. .... | นร14 | 18/02/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ 
											    												    		๑. เห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอว่า เพื่อให้การขับเคลื่อนภารกิจในการบริหารจัดการน้ำตามนโยบายของรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเป็นหน่วยงานกำกับดูแล (regulator) และมีกรมทรัพยากรน้ำเป็นหน่วยงานปฏิบัติ (operator) ซึ่งปัจจุบันกรมทรัพยากรน้ำอยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างและอัตรากำลังให้สอดคล้องกับภารกิจ ซึ่งอาจต้องขออัตรากำลังเพิ่มขึ้นเพื่อรับผิดชอบการจัดสรรและควบคุมการใช้น้ำควบคู่กับการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ๑๑๗.๐๒ ไร่ ดังนั้น จึงเห็นควรให้ข้าราชการของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปปฏิบัติภารกิจในการดำเนินงานของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติไปพลางก่อนจนกว่าสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติจะได้รับจัดสรรอัตรากำลังตั้งใหม่ จำนวน ๑๗๘ อัตรา ตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ๒. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติโอนหน้าที่และอำนาจ และกิจการบริหารบางส่วนของกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปเป็นของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการโอนหน้าที่และอำนาจ ภารกิจ ทรัพย์สิน งบประมาณ สิทธิ หนี้ ข้าราชการ และอัตรากำลังบางส่วนของกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปเป็นของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ ในส่วนของการโอนข้าราชการและอัตรากำลังบางส่วนของกรมทรัพยากรน้ำ จำนวน ๑๗๘ อัตรา ให้เป็นไปตามความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติรับไปดำเนินการขอรับจัดสรรอัตรากำลังตั้งใหม่ จำนวน ๑๗๘ อัตรา ต่อคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐตามขั้นตอนต่อไป แล้วแจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบการตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๓. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมทรัพยากรน้ำ) รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาปรับปรุงภารกิจกรมทรัพยากรน้ำใหม่ เพื่อรองรับภารกิจตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. ๒๕๖๑ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อไป และให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงาน ก.พ.ร. เช่น ควรดำเนินการตามมติคณะกรรมการ ก.พ.ร. ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ที่มีความเห็นว่าให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเน้นภารกิจเชิงนโยบายเป็นหลัก ส่วนภารกิจที่เกี่ยวข้องกับงานปฏิบัติการ ควรใช้การบริหารจัดการ (mobilize) ให้ส่วนราชการที่มีหน้าที่ปฏิบัติโดยตรงเป็นผู้ดำเนินการ และในการตัดโอนกิจการ ทรัพย์สิน งบประมาณ หนี้สิน หนี้ ภาระผูกพัน ข้าราชการ และอัตรากำลังบางส่วนของกรมทรัพยากรน้ำ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย 
  | 
											    ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 823 | การจัดกลุ่มองค์การมหาชน กรณีสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ | นร12 | 18/02/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติ 
											    												    		๑. เห็นชอบและรับทราบตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบปรับกลุ่มสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จากเดิมองค์การมหาชนกลุ่มที่ ๓ บริการสาธารณะทั่วไป เป็นองค์การมหาชนกลุ่มที่ ๑ พัฒนาและดำเนินการตามนโยบายสำคัญของรัฐเฉพาะด้าน เนื่องจาก สปสช. สามารถแสดงผลการดำเนินงานให้เห็นในเชิงประจักษ์จนปัจจุบันสามารถพัฒนาต่อเนื่องจนเป็นหน่วยงานรับผิดชอบนโยบายสำคัญของประเทศในการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้แก่ประชาชน ลดอัตราการเจ็บป่วยและเสียชีวิตที่เกิดจากความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ๑.๒ รับทราบแนวทางการทบทวนหลักเกณฑ์การประเมินค่างานและการจัดกลุ่มองค์การมหาชน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๔๗ (เรื่อง การปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราเงินเดือนฯ หลักเกณฑ์การกำหนดเบี้ยประชุมฯ และการพัฒนาการดำเนินงานและประเมินผลองค์การมหาชน) ของสำนักงาน ก.พ.ร. ซึ่งจะเพิ่มเติมมิติด้านผลกระทบ (impact) ที่เกิดจากการดำเนินงานขององค์การมหาชนไว้ด้วย ๒. ให้สำนักงาน ก.พ.ร. รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้มีการประเมินประสิทธิภาพการดำเนินงานของ สปสช. หลังจากที่มีการปรับกลุ่มเป็นองค์การมหาชนกลุ่มที่ ๑ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการบริหารจัดการงบประมาณที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหาสภาพคล่องทางการเงินของสถานพยาบาล และการพัฒนาระบบการเงินการคลังของหลักประกันสุขภาพที่ไม่กระทบต่อความยั่งยืนของระบบหลักประกันสุขภาพในระยะยาว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรพัฒนาระบบและวิธีการทำงานโดยนำเทคโนโลยีมาใช้ ตลอดจนพิจารณาจ้างเหมาเอกชนเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และควบคุมค่าใช้จ่ายของหน่วยงานให้เป็นไปอย่างประหยัด และคุ้มค่า สำหรับภาระงบประมาณที่เกิดจากการปรับกลุ่ม สปสช. เป็นองค์การมหาชนกลุ่มที่ ๑ ดังกล่าว เห็นควรให้พิจารณานำเงินสะสมที่มีอยู่มาสมทบดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ และปีงบประมาณต่อไปด้วย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป 
  | 
											    ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 824 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. .... (การปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2554) | กค | 11/02/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ 
											    												    		๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยปรับปรุงขั้นตอนและวิธีการพิจารณาการให้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจให้สอดคล้องกับบริบทและสถานการณ์ในปัจจุบัน รวมทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติขอพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณและสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น (๑) คำนิยามคำว่า “เงินอุดหนุน” ควรระบุว่าแหล่งเงินที่ใช้ในการอุดหนุนจะมาจากแหล่งใด เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการจัดทำข้อเสนอขอรับเงินอุดหนุนของรัฐวิสาหกิจต่อไป และ (๒) การปรับปรุงบทนิยามคำว่า “บริการสาธารณะ” ซึ่งอาจทำให้รัฐวิสาหกิจทุกแห่งสามารถขอรับการอุดหนุนทางการเงินได้ อาจส่งผลให้รัฐมีภาระการอุดหนุนงบประมาณ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น (๑) การให้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจ ควรคำนึงถึงศักยภาพและความสามารถในการบริหารของรัฐวิสาหกิจ และควรมีการกำกับและประเมินผลการจัดทำบริการสาธารณะที่ได้รับเงินอุดหนุนตลอดระยะเวลาของการให้เงินอุดหนุน เพื่อไม่ให้เกิดภาระงบประมาณที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต และ (๒) ควรให้รัฐวิสาหกิจจัดทำข้อเสนอแนะการขอรับเงินอุดหนุนบริการสาธารณะในระยะยาว โดยพิจารณากำหนดขอบเขตของรอบระยะเวลาการขอรับเงินอุดหนุนสำหรับการดำเนินงานในลักษณะดังกล่าวเพื่อให้เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย 
  | 
											    ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 825 | ขออนุมัติผ่อนผันการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดรายการและเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการก่อสร้างอาคารฝึกปฏิบัติการทางวิชาชีพครู ของมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา | อว | 04/02/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ 
											    												    		๑. อนุมัติผ่อนผันการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดรายการและเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างอาคารฝึกปฏิบัติการทางวิชาชีพครู ของมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา จากเดิม จำนวนเงิน ๑๖๓,๙๖๐,๐๐๐ บาท เป็น จำนวนเงิน ๑๘๓,๙๑๒,๕๓๑.๓๕ บาท โดยเป็นการปรับปรุงการใช้งานพื้นที่ ระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ ระบบเครือข่าย ระบบโทรทัศน์ และระบบภาพและเสียง ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ๒. การดำเนินโครงการต่าง ๆ ในครั้งต่อ ๆ ไป ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินการตามโครงการอย่างละเอียดรอบคอบให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกมิติก่อนตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ (เรื่อง การตรวจสอบและจัดเตรียมความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ) อย่างเคร่งครัด และหากมีความจำเป็นต้องขอเปลี่ยนแปลงรายการหรือเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันเกินวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ ให้เสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีก่อนการดำเนินการต่อไปด้วย 
  | 
											    ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 826 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กหล้าทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานทั่วไปและงานดึงขึ้นรูปต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. ....) | อก | 04/02/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน รวม ๔ ฉบับ เพื่อกำหนดให้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน อันเป็นการคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจของประเทศและสอดคล้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและการใช้งานในปัจจุบัน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 
											    												    		๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อนสำหรับงานทั่วไปและงานดึงขึ้นรูปต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานทั่วไปและงานดึงขึ้นรูปต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเข็มพืดเหล็กกล้ารีดร้อนต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเข็มพืดเหล็กกล้ารีดร้อนต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นสำหรับงานรถยนต์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นสำหรับงานรถยนต์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ๔. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อนสำหรับงานโครงสร้างรถยนต์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อนสำหรับงานโครงสร้างรถยนต์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน 
  | 
											    ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 827 | ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร12 | 04/02/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้อำนวยการและเจ้าหน้าที่ขององค์กร ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ 
											    												    		
  | 
											    ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 828 | ขอความเห็นชอบการยุติการดำเนินโครงการปรับปรุงร่องน้ำการเดินเรือในแม่น้ำล้านช้าง - แม่น้ำโขง ภายใต้ความตกลงการเดินเรือพาณิชย์ในแม่น้ำล้านช้าง - แม่น้ำโขง พ.ศ. 2543 | คค | 04/02/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ 
											    												    		๑. รับทราบรายงานผลการดำเนินงานเบื้องต้น (Preliminary Work) โครงการปรับปรุงร่องน้ำการเดินเรือในแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง ภายใต้ความตกลงว่าด้วยการเดินเรือพาณิชย์ในแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง พ.ศ. ๒๕๔๓ โดยการดำเนินงานเบื้องต้นของโครงการดังกล่าวเป็นขั้นตอนการศึกษา สำรวจ และออกแบบแนวทางการปรับปรุงร่องน้ำทางเดินเรือในแม่น้ำโขงระหว่างชายแดนประเทศจีน-เมียนมา ถึงนครหลวงพระบาง สปป.ลาว ระยะทางประมาณ ๖๓๑ กิโลเมตร เพื่อรองรับเรือขนาด ๕๐๐ ตันกรอส (DWT) ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจาก ASEAN-China Maritime Cooperation Fund โดยมีกรอบระยะเวลาดำเนินการ ๓๖๕ วัน เริ่มจากเดือนเมษายน ๒๕๕๙-เมษายน ๒๕๖๐ ต่อมาในการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อประสานการดำเนินการความตกลงว่าด้วยการเดินเรือพาณิชย์ในแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง ครั้งที่ ๑๗ เมื่อวันที่ ๒๖-๒๗ มีนาคม ๒๕๖๒ ณ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ฝ่ายจีนได้เสนอรายงานผลการศึกษาการดำเนินงานเบื้องต้นโครงการปรับปรุงร่องน้ำทางเดินเรือในแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขงแก่ที่ประชุม พร้อมทั้งได้แจ้งว่าไม่ได้จัดสรรงบประมาณสำหรับดำเนินโครงการดังกล่าวแล้ว และการดำเนินการต้องสิ้นสุดลงโดยจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ เว้นแต่จะมีความเห็นชอบร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกผ่านช่องทางทางการทูต ๒. เห็นชอบการยุติการดำเนินโครงการปรับปรุงร่องน้ำการเดินเรือในแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง ภายใต้ความตกลงการเดินเรือพาณิชย์ในแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง พ.ศ. ๒๕๔๓ 
  | 
											    ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 829 | มาตรการการเงินการคลังเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยว ปี 2563 | กค | 04/02/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ 
											    												    		๑. รับทราบมาตรการด้านการเงิน ประกอบด้วย (๑) มาตรการสินเชื่อ และ (๒) มาตรการการขยายเวลาการชำระหนี้และค่าธรรมเนียม และการขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีให้แก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามประมวลรัษฎากร ภ.ง.ด. ๙๐ และ ภ.ง.ด. ๙๑ เพื่อช่วยเหลือผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ประกอบกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่อาจส่งผลต่อสภาวะเศรษฐกิจของไทย โดยขยายระยะเวลา ๓ เดือน (ภายในเดือนมิถุนายน ๒๕๖๓) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. เห็นชอบมาตรการด้านภาษี จำนวน ๓ มาตรการ ได้แก่ (๑) มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ (๒) มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงกิจการโรงแรม และ (๓) มาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป ๓. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... จำนวน ๒ ฉบับ และร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... จำนวน ๑ ฉบับ เพื่อรองรับมาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๔. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการดำเนินมาตรการด้านภาษีดังกล่าว ควรให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการกระจายรายได้ไปสู่พื้นที่เมืองรอง รวมถึงการสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมตามนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๕. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้ 
  | 
											    ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 830 | รายงานผลการดำเนินการโครงการจิตอาสาพระราชทาน | นร01 | 28/01/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการโครงการจิตอาสาพระราชทาน ประจำเดือนสิงหาคม ๒๕๖๒ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ สรุปได้ ดังนี้ 
											    												    		๑. การสมัครลงทะเบียนจิตอาสาพระราชทาน โดยข้อมูลจำนวนจิตอาสาและกิจกรรมจิตอาสา ณ วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๑๕๖๒ มีจิตอาสาลงทะเบียน จำนวน ๖,๑๔๙,๑๕๕ คน แยกตามพื้นที่ (ภูมิลำเนา) ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จำนวน ๔๔๕,๒๔๙ คน ส่วนภูมิภาค จำนวน ๕,๗๐๓,๙๐๖ คน และดำเนินการจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา จำนวน ๓๙,๕๑๔ ครั้ง กิจกรรมจิตอาสาภัยพิบัติ จำนวน ๑๗๐ ครั้ง ๒. กิจกรรมจิตอาสาเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๒ โดยกระทรวงมหาดไทยได้กำหนดให้จังหวัดทั้ง ๗๖ จังหวัด ดำเนินการจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาลำน้ำ ลำคลอง กิจกรรมอาสาพัฒนาถนนเฉลิมพระเกียรติ กิจกรรมอาสาพัฒนาสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ หรือกิจกรรมอาสาอื่น ๆ ตามความเหมาะสมของจังหวัด/อำเภอ ๓. กิจกรรม Big Cleaning Day โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีร่วมกับกรุงเทพมหานครดำเนินกิจกรรม ระหว่างวันที่ ๑๙-๒๐ กันยายน ๒๕๖๓ ณ บริเวณเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินระหว่างท่าวาสุกรีจนถึงท่าราชวรดิฐ ได้แก่ การปรับปรุงภูมิทัศน์และทำความสะอาดพื้นที่ เช่น การใช้เครื่องฉีดน้ำความดันสูงทำความสะอาด การทาสี การตัดแต่งกิ่งต้นไม้ และปรับภูมิทัศน์สิ่งก่อสร้าง เป็นต้น ๔. กิจกรรม Big Cleaning Day ในเรือนจำทั่วประเทศ โดยศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน ได้กำหนดกิจกรรม ได้แก่ การทำความสะอาดสถานที่เยี่ยมญาติภายในเรือนจำ การตัดแต่งกิ่งไม้และปรับภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบเรือนจำ การจัดหน่วยแพทย์พระราชทานเคลื่อนที่ให้บริการกับผู้ต้องขังในเรือนจำ การจัดอบรมบรรยายขยายผลในหัวข้อ “สถาบันพระมหากษัตริย์กับประเทศไทย” และการจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน ๕. กิจกรรมจิตอาสาพัฒนาคลองพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขต ๕๐ เขต และสำนักการระบายน้ำ รวมจำนวน ๓๓๗ คลอง ปัจจุบันได้ดำเนินการแล้ว จำนวน ๑๐๐ คลอง 
  | 
											    ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 831 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินค่าทำศพ พ.ศ. .... | รง | 28/01/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ 
											    												    		๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินค่าทำศพ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงอัตราเงินค่าทำศพ กรณีผู้ประกันตนถึงแก่ความตายโดยมิใช่ประสบอันตราย หรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน จากอัตราปัจจุบัน ๔๐,๐๐๐ บาท ปรับเป็น ๕๐,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรเร่งสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนจะได้รับ รวมทั้งวางแผนการดำเนินการทางการเงินของกองทุนประกันสังคม ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวให้สอดคล้องกับการดำเนินงาน เพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อเสถียรภาพของกองทุนประกันสังคมในอนาคตด้วย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป 
  | 
											    ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 832 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชง (Hemp) พ.ศ. .... | สธ | 28/01/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชง (Hemp) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะเฮมพ์ พ.ศ. ๒๕๕๙ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ 
											    												    		
  | 
											    ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 833 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน รวม 3 ฉบับ (ร่างกฎกระทรววงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสายไฟฟ้าหุ้มฉนวนพอลิไวนิลคลอไรด์แรงดันไฟฟ้าที่กำหนดไม่เกิน 450/750 โวลต์ เล่ม 101 สายไฟฟ้ามีเปลือกสำหรับงานทั่วไป ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. ....) | อก | 28/01/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน รวม ๓ ฉบับ เพื่อเป็นการคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจของประเทศ และสอดคล้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและการใช้งานในปัจจุบัน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 
											    												    		๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสายไฟฟ้าหุ้มฉนวนพอลิไวนิลคลอไรด์ แรงดันไฟฟ้าที่กำหนดไม่เกิน ๔๕๐/๗๕๐ โวลต์ เล่ม ๑๐๑ สายไฟฟ้ามีเปลือกสำหรับงานทั่ว่ไป ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสายไฟฟ้าหุ้มฉนวนพอลิไวนิลคลอไรด์ แรงดันไฟฟ้าที่กำหนด ๔๕๐/๗๕๐ โวลต์ เล่ม ๑๐๑ สายไฟฟ้ามีเปลือกสำหรับงานทั่วไป ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อนสำหรับงานถังก๊าซ ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานถังก๊าซ ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบสังกะสีโดยกรรมวิธีจุ่มร้อน แผ่นม้วน แผ่นแถบ แผ่นตัด และแผ่นลูกฟูก ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบสังกะสีโดยกรรมวิธีจุ่มร้อน แผ่นม้วน แผ่นแถบ แผ่นตัด และแผ่นลูกฟูก ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน 
  | 
											    ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 834 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 11/2562 | สกพอ | 28/01/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ 
											    												    		๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ ๑๑/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๖๒ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเสนอ โดยที่ประชุมฯ มีมติในเรื่องสำคัญ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบแผนการส่งมอบพื้นที่และรื้อย้ายสาธารณูปโภค โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ท่าอากาศยานดอนเมือง-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-ท่าอากาศยานอู่ตะเภา) และกรอบวงเงิน ๔๗๙.๐๕๕ ล้านบาท สำหรับการดำเนินงานรื้อย้ายเพื่อเปิดพื้นที่ก่อสร้างโครงการฯ ช่วงดอนเมือง-พญาไท และช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา รวมทั้งสิ้น ๖๕๒ จุด ดำเนินการแล้วเสร็จภายใน ๒๔ เดือน ทั้งนี้ หน่วยงานเจ้าของโครงการภายใต้กำกับของกระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) จะดำเนินการขอรับการจัดสรรงบประมาณจากงบกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นต่อไป ๑.๒ เห็นชอบการปรับปรุงประกาศคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และกระบวนการในการร่วมลงทุนกับเอกชนหรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน พ.ศ. ๒๕๖๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งเห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแล และคณะกรรมการบริหารสัญญาและโครงสร้างการบริหารจัดการโครงการรถไฟความเร็วสูงฯ โดยให้มีผลเมื่อมีการประกาศใช้ประกาศคณะกรรมการนโยบายฯ ฉบับที่ได้มีการปรับปรุงข้างต้นแล้ว ๑.๓ เห็นชอบการจัดตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพื่อกิจการพิเศษ : การแพทย์จีโนมิกส์ มหาวิทยาลัยบูรพา (บางแสน) เพื่อพัฒนาและเตรียมพื้นที่รองรับการลงทุนจากภาคเอกชนในด้านการแพทย์จีโนมิกส์ (คาดการณ์ว่าจะมีการลงทุนไม่ต่ำกว่า ๑,๒๕๐ ล้านบาท) ซึ่งจะเป็นการสร้างความรู้ทางการแพทย์จีโนมิกส์ที่จำเป็นให้แก่ประเทศ โดยการใช้ฐานข้อมูลทางพันธุกรรมเพื่อนำไปสู่การรักษาพยาบาลที่มีประสิทธิภาพ และจะนำไปใช้ในระบบหลักประกันสุขภาพเพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงการรักษาได้อย่างทั่วถึง ๑.๔ เห็นชอบในหลักการโครงการพัฒนาศูนย์บริการทดสอบทางการแพทย์จีโนมิกส์ ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Thailand Genome Sequencing Center) โดยให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกร่วมกับสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินโครงการฯ และจะมีการว่าจ้างผู้ประกอบการให้บริการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนม (Whole Genome Sequencing : WGS) ของประชากรไทย จำนวน ๕๐,๐๐๐ ราย รวมถึงการเห็นชอบกรอบวงเงิน ๗๕๐ ล้านบาท จากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เพื่อซื้อบริการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนม ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ในการส่งมอบพื้นที่และรื้อย้ายสาธารณูปโภคเพื่อดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินควรเร่งรัดให้แล้วเสร็จตามแผน และคำนึงถึงผลกระทบที่อาจจะมีต่อประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งควรประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการพัฒนาโครงการฯ ให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย 
  | 
											    ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 835 | ขออนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย | กค | 28/01/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ 
											    												    		๑. อนุมัติการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ตามที่คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนเสนอ และให้กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา ๓๖ แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ สำนักงานอัยการสูงสุด และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น รฟม. การเร่งดำเนินการปรับปรุงแก้รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้แล้วเสร็จโดยเร็ว การดำเนินโครงการฯ จะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ การกำหนดรูปแบบการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนในโครงการฯ ต้องมีความเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด การพิจารณาความเหมาะสมในการจำกัดอัตราค่าโดยสารสูงสุดของโครงการฯ กำหนดเงื่อนไขร่างขอบเขตการดำเนินงาน (TOR) ให้มีการจัดหารถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นตามปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น และการดำเนินโครงการฯ ไม่ควรใช้เงินกู้เป็นเงินร่วมลงทุนเพราะจะทำให้เกิดดอกเบี้ยซ้อนดอกเบี้ยของเอกชน โดยเห็นควรให้ใช้รูปแบบการลงทุนที่ภาครัฐลงทุนค่าก่อสร้างงานโยธาเองเนื่องจากมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำกว่ากรณีให้เอกชนร่วมลงทุนงานโยธา เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ในส่วนของค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและค่าสำรวจอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งการสนับสนุนค่างานโยธาให้เอกชน ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. อนุมัติให้กระทรวงคมนาคม โดย รฟม. ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ (เรื่อง การปรับปรุงแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณและมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง) ๓. ให้กระทรวงคมนาคม โดย รฟม. เร่งรัดการดำเนินการจัดทำร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเวนคืนของโครงการฯ ส่วนตะวันตก ให้แล้วเสร็จและนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอนโดยเร็ว และดำเนินกระบวนการคัดเลือกเอกชนที่จะเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการฯ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และเร่งรัดการดำเนินการก่อสร้างโครงการฯ ส่วนตะวันตก รวมทั้งจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในกรณีการเปิดให้บริการโครงการฯ ล่าข้า (Time Overrun) และความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในกรณีที่รัฐอาจจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายในการดูแลงานที่แล้วเสร็จ (Care of Work) ของโครงการฯ ส่วนตะวันออก เนื่องจากไม่สามารถเปิดให้บริการได้ทันตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ๔. ให้สำนักงบประมาณรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแผนการบริหารจัดการงบประมาณเพื่อการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในภาพรวมให้เหมาะสม โดยคำนึงถึงความจำเป็นในการจัดสรรงบประมาณอย่างเพียงพอเพื่อชำระคืนค่างานโยธาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สำหรับโครงการร่วมลงทุนที่คณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติอนุมัติไว้แล้ว เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง เป็นต้น เนื่องจากภาครัฐจะต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อชำระคืนค่างานโยธาของโครงการเหล่านี้ให้แก่เอกชนในห้วงระยะเวลาที่คาบเกี่ยวกัน รวมทั้งให้พิจารณาหาแหล่งเงินทุนอื่น ๆ ที่เหมาะสมเพื่อรองรับการดำเนินโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในอนาคตเพื่อช่วยลดภาระงบประมาณภาครัฐด้วย ๕. ในการดำเนินการใด ๆ ในทุกขั้นตอน ให้กระทรวงคมนาคม โดย รฟม. กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติให้ถูกต้องเป็นไปตามข้อกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด 
  | 
											    ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 836 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน รวม 3 ฉบับ (ร่างกฎกระทรววงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานถังก๊าซ ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. ....) | อก | 28/01/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน รวม ๓ ฉบับ เพื่อเป็นการคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจของประเทศ และสอดคล้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและการใช้งานในปัจจุบัน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 
											    												    		๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสายไฟฟ้าหุ้มฉนวนพอลิไวนิลคลอไรด์ แรงดันไฟฟ้าที่กำหนดไม่เกิน ๔๕๐/๗๕๐ โวลต์ เล่ม ๑๐๑ สายไฟฟ้ามีเปลือกสำหรับงานทั่ว่ไป ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสายไฟฟ้าหุ้มฉนวนพอลิไวนิลคลอไรด์ แรงดันไฟฟ้าที่กำหนด ๔๕๐/๗๕๐ โวลต์ เล่ม ๑๐๑ สายไฟฟ้ามีเปลือกสำหรับงานทั่วไป ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อนสำหรับงานถังก๊าซ ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานถังก๊าซ ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบสังกะสีโดยกรรมวิธีจุ่มร้อน แผ่นม้วน แผ่นแถบ แผ่นตัด และแผ่นลูกฟูก ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบสังกะสีโดยกรรมวิธีจุ่มร้อน แผ่นม้วน แผ่นแถบ แผ่นตัด และแผ่นลูกฟูก ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน 
  | 
											    ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 837 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน รวม 3 ฉบับ (ร่างกฎกระทรววงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบสังกะสีโดยกรรมวิธีจุ่มร้อน แผ่นม้วน แผ่นตัด และแผ่นลูกฟูก ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. ....) | อก | 28/01/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน รวม ๓ ฉบับ เพื่อเป็นการคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจของประเทศ และสอดคล้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและการใช้งานในปัจจุบัน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 
											    												    		๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสายไฟฟ้าหุ้มฉนวนพอลิไวนิลคลอไรด์ แรงดันไฟฟ้าที่กำหนดไม่เกิน ๔๕๐/๗๕๐ โวลต์ เล่ม ๑๐๑ สายไฟฟ้ามีเปลือกสำหรับงานทั่ว่ไป ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสายไฟฟ้าหุ้มฉนวนพอลิไวนิลคลอไรด์ แรงดันไฟฟ้าที่กำหนด ๔๕๐/๗๕๐ โวลต์ เล่ม ๑๐๑ สายไฟฟ้ามีเปลือกสำหรับงานทั่วไป ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อนสำหรับงานถังก๊าซ ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานถังก๊าซ ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบสังกะสีโดยกรรมวิธีจุ่มร้อน แผ่นม้วน แผ่นแถบ แผ่นตัด และแผ่นลูกฟูก ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบสังกะสีโดยกรรมวิธีจุ่มร้อน แผ่นม้วน แผ่นแถบ แผ่นตัด และแผ่นลูกฟูก ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน 
  | 
											    ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 838 | รายการที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ที่จะเสนอคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (จำนวน 2 รายการ) (โครงการห้องเรียนวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน โดยการกำกับดูแลของมหาวิทยาลัย (โครงการ วมว.)ระยะที่ 3 ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม) | อว | 21/01/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ 
											    												    		๑. อนุมัติในหลักการของโครงการห้องเรียนวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน ในการกำกับดูแลของมหาวิทยาลัย (โครงการ วมว.) ระยะที่ ๓ ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ระยะเวลา ๒๐ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๘๓) ในกรอบวงเงินงบประมาณรวม ๑๑,๙๔๓.๐๐ ล้านบาท และเห็นชอบองค์ประกอบของคณะกรรมการระดับนโยบายที่จะทำหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย กรอบ และทิศทางการดำเนินงานโครงการ และคณะกรรมการระดับบริหารเพื่อทำหน้าที่กำหนดหลักการ แนวทาง หลักเกณฑ์ การบริหารจัดการ ให้คำแนะนำ ส่งเสริมการดำเนินงานและติดตามผลการดำเนินงานของโครงการในภาพรวม สำหรับวงเงินงบประมาณ จำนวน ๑๑,๙๔๓.๐๐ ล้านบาท เห็นควรให้หน่วยงานเสนอคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ตามขั้นตอน โดยจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ พร้อมรายละเอียดที่เกี่ยวข้องตามความพร้อม ความจำเป็น และความเหมาะสมที่จะต้องใช้จ่ายในแต่ละปีงบประมาณ ให้สอดคล้องกับระยะเวลาตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ ความครอบคลุมของแหล่งงบประมาณ ศักยภาพและความสามารถในการใช้จ่ายงบประมาณในปีที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณ และเกิดผลสัมฤทธิ์ในการบริหารจัดการภาครัฐ ตามนัยพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ และตามขั้นตอนของการพิจารณาเสนอของบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมรับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. เช่น ควรมีการออกแบบระบบการคัดเลือกและการประเมินผลที่นอกเหนือจากการวัดจากคะแนนสอบเพียงอย่างเดียว ควรมีมาตรการที่หลากหลายในการคัดเลือกกลุ่มเด็กด้อยโอกาสที่มีความสามารถพิเศษ ควรให้ความสำคัญกับการปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนให้ตรงกับอัตลักษณ์ของคู่มหาวิทยาลัย-โรงเรียน รวมถึงควรมีการประยุกต์และเชื่อมโยงการจัดการเรียนการสอนและการทำวิจัยที่คำนึงถึงบริบทของพื้นที่ ชุมชน/ท้องถิ่น และพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ในแต่ละภาค ควรมีระบบติดตามที่สามารถทราบถึงข้อมูลการประกอบอาชีพ ผลงาน และความเชี่ยวชาญของนักเรียนหลังจบโครงการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งควรกำหนดระยะเวลาการดำเนินโครงการให้สอดคล้องกับการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติที่กำหนดกรอบระยะเวลาไว้ที่ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐ โดยมีการแบ่งช่วงการดำเนินงานทุก ๕ ปี เพื่อให้การดำเนินโครงการสอดรับกับห้วงเวลาการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย 
  | 
											    ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 839 | การกำหนดเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอื่น ตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติเทคโนโลยีป้องกันประเทศ พ.ศ. 2562 | กห | 21/01/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกำหนดอัตราเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอื่นในกรณีเดินทางไปปฏิบัติงานของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศของคณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีป้องกันประเทศ และอนุกรรมการที่คณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีป้องกันประเทศแต่งตั้ง ในอัตราเดียวกับคณะกรรมการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๔๗ (เรื่อง การปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราเงินเดือนฯ หลักเกณฑ์การกำหนดเบี้ยประชุมฯ และการพัฒนาการดำเนินงานและการประเมินผลองค์การมหาชน) สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ให้ใช้จ่ายจากเงินรายได้ที่พึงได้รับ ตลอดจนการนำเงินรายได้มาสมทบกับงบประมาณรายการดังกล่าว ส่วนค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไปให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ 
											    												    		
  | 
											    ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 840 | ร่างกฎกระทรวงการขอรับการตรวจสอบและรับรอง และการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. .... | กษ | 21/01/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการขอรับการตรวจสอบและรับรอง และการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการตรวจสอบและรับรอง และการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร เพื่อให้ผู้ผลิต ผู้ส่งออก และผู้นำเข้าสินค้าเกษตรที่ประสงค์จะขอรับการตรวจสอบเพื่อขอรับใบรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรถือปฏิบัติได้โดยสอดคล้องกับพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ 
											    												    		
  | 
											    ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
					.....
									
			