ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 182 จากทั้งหมด 347 หน้า แสดงรายการที่ 3621 - 3640 จากข้อมูลทั้งหมด 6925 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 3621 | การปรับปรุงกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำของสภาพการจ้างว่าด้วยอัตราค่าจ้างขั้นต่ำสำหรับลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ | รง | 14/03/2549 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอการปรับปรุงอัตราค่าจ้างขั้นต่ำสำหรับ
ลูกจ้างรัฐวิสาหกิจให้เท่ากับลูกจ้างภาคเอกชน จากเดิมเป็นเงินวันละ 181 บาท เป็นวันละ 184 บาท ใน ทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักร โดยให้มีผลบังคับใช้แก่รัฐวิสาหกิจทุกแห่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549 ทั้งนี้ ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ครั้งที่ 1/2549 เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2549
|
||||||||||||||||||||||||
| 3622 | การประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ครั้งที่ 113 | สผ | 07/03/2549 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรรายงานผลการประชุม
สมัชชาสหภาพรัฐสภา ครั้งที่ 113 ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ 12-22 ตุลาคม 2548 มี คณะผู้แทนจากประเทศสมาชิกเข้าร่วมประชุม 130 ประเทศ สหภาพได้มีข้อมติที่เกี่ยวข้องกับบทบาทของ รัฐสภาและสื่อมวลชนในการให้ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความขัดแย้งด้านอาวุธและ การต่อต้านการก่อการร้าย การอพยพย้ายถิ่นกับการพัฒนาความสำคัญของภาคประชาสังคมและบทบาท ร่วมกันกับรัฐสภาและสมัชชาที่ได้รับการเลือกตั้ง เพื่อการพัฒนาประชาธิปไตย บทบาทของรัฐสภาในการ ป้องกัน การฟื้นฟู การปรับปรุง และการคุ้มครองกลุ่มเสี่ยงจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ตลอดจนการป้อง กัน แก้ไขและควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไข้หวัดนก และให้กระทรวงนำข้อมติของสหภาพรัฐสภาไป พิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสม และหากได้มีการนำข้อมติในเรื่องใดที่เกี่ยวข้องไปปฏิบัติแล้ว ให้ แจ้งผลให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบโดยตรงต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
| 3623 | การปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ (กพร.ปช.) | รง | 02/03/2549 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงแรงงานเสนอปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการพัฒนา
แรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ (กพร.ปช.) โดยมีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับ มอบหมาย เป็นประธานกรรมการ และอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นกรรมการและเลขานุการ ทั้งนี้ ตาม มาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
|
||||||||||||||||||||||||
| 3624 | ผลการดำเนินการตามความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับ ปัญหาเขื่อนทดน้ำบางประกงกับการแก้ไขของภาครัฐ | กษ | 28/02/2549 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานผลการดำเนินการตามความเห็น
และข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับปัญหาเขื่อนทดน้ำบางปะกงกับการแก้ไข ของภาครัฐ สรุปผลการดำเนินการตามความเห็นโดยสังเขปดังนี้ ความเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหามลพิษด้าน เหนือเขื่อน ได้ดำเนินการก่อสร้างประตูระบายน้ำบริเวณทำนบดินปิดกั้นลำน้ำเดิม และขยายบานประตูระบาย น้ำช่องกลางให้กว้างขึ้นเพื่อให้เรือวิ่งผ่านได้ ความเห็นเกี่ยวกับการแก้ปัญหาน้ำท่วมและตลิ่งพังด้านท้ายเขื่อนใน ส่วนของการปรับปรุงระบบและติดตั้งระบบโทรมาตร ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ 100% เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2548 พร้อมทั้งได้ทำการทดลองหรี่บาน เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม-2 มิถุนายน 2548 ผลการดำเนินงานไม่เกิด ผลกระทบกับตลิ่งด้านท้ายเขื่อน สำหรับในช่วงฤดูแล้งปี พ.ศ. 2548 กำหนดจะทำการควบคุมบังคับบานในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2548 ความเห็นเกี่ยวกับงานก่อสร้างระบบส่งน้ำ ได้ขอตั้งงบประมาณเพื่อดำเนินการทั้งหมด ในปี พ.ศ. 2549 ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการประมูลจ้างก่อสร้าง ความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหา เขื่อนทดน้ำบางปะกง ได้ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจแนวทางการดำเนินงานแล้ว สำหรับแผนพัฒนาลุ่ม น้ำบางปะกง ซึ่งตามแผนดังกล่าวได้กำหนดให้มีการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำตอนบนของลุ่มน้ำบางปะกงไว้ นั้น ขณะ นี้ได้เสนอขอเปิดโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยโสมง ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี
|
||||||||||||||||||||||||
| 3625 | ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 28/02/2549 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่าย
กฎหมาย ฯ) ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคมีอำนาจสั่งห้าม ขายสินค้าที่อาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค รวมทั้งสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจทำลายสินค้านั้น โดยผู้ประกอบ ธุรกิจเป็นผู้เสียค่าใช้จ่าย และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยรับประเด็น อภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่เห็นว่าพระราชบัญญัติดังกล่าว เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมอำนาจ หน้าที่ของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ขาดความชัดเจนในส่วนของกลไกและวิธีการดำเนินการในการ เรียกเก็บสินค้า ซึ่งจะเป็นปัญหาในการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ หากการกำหนดดังกล่าวมี รายละเอียดมากหรืออาจต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เหมาะกับสภาวะการณ์ได้ตามความเหมาะสม อาจพิจารณากำหนดให้ตราอนุบัญญัติเพื่อดำเนินการได้ นอกจากนี้ ร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ ได้ แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 36 มาตราเดียว ควรตัดหลักการของร่างพระราชบัญญัติที่ระบุถึงมาตรา 56 ออก เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขเพิ่มเติม และการคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับสินค้าไม่ปลอดภัย ปัจจุบันคณะ รัฐมนตรีได้เสนอร่างพระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ. .... ไปเพื่อรัฐสภาพิจารณาแล้ว และอยู่ในขั้นการพิจารณาของวุฒิสภา ดังนั้น ในการตรวจพิจารณาร่างพระ ราชบัญญัติในเรื่องนี้ของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาควรนำร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาพิจารณา ด้วย โดยที่ขณะนี้มีร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมในเรื่อง อื่นอยู่ในระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาอีกฉบับหนึ่ง ประกอบกับขณะ นี้อยู่ระหว่างการปิดสมัยประชุมรัฐสภาหากสามารถรวมพิจารณาเป็นฉบับเดียวกันได้ก็จะเกิดความสะดวก ในชั้นการพิจารณาของรัฐสภาไปประกอบการพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทน ราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 3626 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับ "แนวทางการปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์เพื่อประชาชน" และร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | พณ | 21/02/2549 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎ
หมายฯ) ที่มีมติดังนี้ เห็นชอบตามที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอความเห็นและข้อ เสนอแนะของสภาที่ปรึกษา ฯ เกี่ยวกับ "แนวทางการปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์เพื่อประชาชน" และ มอบให้กระทรวงพาณิชย์รับไปดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2546 และ 18 พฤษภาคม 2547 ที่เห็นชอบขั้นตอนการจัดทำผลการดำเนินงาน หรือผลการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อความเห็นและ ข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา ฯ และการนำเสนอผล ตลอดจนการเปิดเผยเหตุผลให้สาธารณชนทราบ ตาม มาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติสภาที่ปรึกษา ฯ พ.ศ. 2543 เพื่อรายงานผลการดำเนินการให้สภาที่ปรึกษา ฯ ทราบ และเปิดเผยให้สาธารณชนทราบตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป และอนุมัติหลักการตามที่กระทรวง พาณิชย์เสนอร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติบาง ประการของพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบัน และส่งให้สำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประเด็นอภิปรายของคณะ กรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่เห็นว่า การปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยลิขสิทธิ์เป็นเรื่องที่มีความสำคัญในการคุ้มครอง เจ้าของลิขสิทธิ์และประชาชน ซึ่งต้องคุ้มครองลิขสิทธิ์ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ จึงควรพิจารณาให้ สอดคล้องกับข้อผูกพันตามที่ไทยได้ตกลงไว้กับนานาประเทศ ไปประกอบการพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรม การประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 3627 | ขออนุมัติงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงสำนักงาน ก.พ. เป็นสถานที่ปฏิบัติงานของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และการเช่าอาคารเป็นสถานที่ปฏิบัติงาน | นร | 21/02/2549 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและให้ดำเนินการต่อไปได้ตามความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับประมาณ
การค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงอาคารสำนักงาน ก.พ. ระบบโทรศัพท์ ระบบเสียงตามสาย การย้ายระบบเทคโนโล ยีสารสนเทศ การติดตั้งกล้องวงจรปิด การย้ายครุภัณฑ์สำนักงาน และสร้างที่จอดรถโครงเหล็กและค่าใช้จ่าย อื่น ๆ ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ จำนวน 144.3 ล้านบาท อยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างสูง ให้สำนัก งานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจัดทำรายละเอียดเสนอขอตกลงกับสำนักงบประมาณตามที่ต้องจ่ายจริง และโดย ประหยัด โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการเงินสำรอง จ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นได้ต่อไป สำหรับการเช่าพื้นที่อาคารเพิ่มขึ้นอีก จำนวน 3,729 ตารางเมตรควรที่ จะพิจารณาภาพรวมของพื้นที่อาคารสำนักงาน ก.พ. โดยให้คำนวณตามหลักเกณฑ์มาตรฐานการกำหนดพื้นที่ใช้ สอยของอาคาร ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2521 ก่อน หากพื้นที่ใช้สอยยังไม่เพียงพอตาม หลักเกณฑ์การพิจารณาดังกล่าว จึงควรพิจารณาเช่าพื้นที่ให้สอดคล้องกับพื้นที่ที่ยังขาดอยู่ โดยให้เสนอคณะ รัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตาม ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติมสำหรับการจัดซื้อจัดจ้างที่เกี่ยวข้อง และให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง ในส่วนของการเบิกค่าเช่าอาคารดังกล่าวสามารถดำเนินการได้ ตาม หนังสือกระทรวงการคลังด่วนที่สุด ที่ กค 0409.7/ ว 30 ลงัวนที่ 18 กุมภาพันธ์ 2548 เรื่อง การเบิกค่าเช่า อาคาร สำหรับการจัดสรรเงินงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงสำนักงาน ก.พ. และค่าเช่าอาคาร ดังกล่าว และระยะเวลาการก่อหนี้ผูกพันให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่จะพิจารณาจัดสรรตาม ความจำเป็น เหมาะสม โดยคำนึงถึงฐานะการเงินการคลังของประเทศ ไปประกอบการดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 3628 | การประชุมเชิงปฏิบัติการ "การพัฒนาผู้นำการบริหารการเปลี่ยนแปลง (CEO Retreat II)" | นร | 21/02/2549 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่าย
กฎหมาย พลังงาน ระบบราชการและการประชาสัมพันธ์) ที่มีมติรับทราบตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ผลการประชุมเชิงปฏิบัติการ "การพัฒนาผู้นำการบริหารเปลี่ยนแปลง (CEO Retreat II)" ซึ่งที่ประชุมมีมติ เห็นชอบตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอการปรับปรุงระบบบริหารจังหวัดแบบบูรณาการ โดยเฉพาะในส่วน ที่เกี่ยวกับการพัฒนาระบบการคัดเลือกผู้ว่าราชการจังหวัดและระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งของผู้ว่าราช การจังหวัด และข้อเสนอการพัฒนากลุ่มจังหวัดต้นแบบที่มีศักยภาพสูงสู่เวทีโลก ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาด ไทยรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่เห็นว่า ในการแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดของ กระทรวงมหาดไทย ควรพิจารณาให้ผู้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดให้มีความเหมาะสมกับความรู้ความ สามารถ และให้อยู่ในตำแหน่งในจังหวัดที่ตนเองเป็นผู้กำหนดยุทธศาสตร์มีระยะเวลาที่จะปฏิบัติการตาม ยุทธศาสตร์ให้เป็นผลสำเร็จ การสับเปลี่ยนโยกย้ายบ่อยอาจจะมีผลต่อการบริหารตามแผนงานและโครง การที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ได้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป และให้สำนักงาน ก.พ.ร. กระทรวงมหาด ไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่าง ประเทศ และสำนักงาน ก.พ. รับประเด็นอภิปรายเกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนาจังหวัดแบบบูรณาการ โดยมีผู้ว่าซีอีโอควรที่จะมีการเสริมสร้างและเตรียมความพร้อม เพื่อให้ได้บุคลากรที่เหมาะสมเป็นผู้สืบทอด โดยพัฒนาขีดความสามารถอย่างเป็นระบบด้วยการฝึกอบรมและเรียนรู้ในสาขาวิชาต่าง ๆ โดยสำนักงาน ก.พ.ร. เป็นผู้รับผิดอบร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ. ในการจัดเตรียมหลักสูตร สำหรับเขตจังหวัดที่มียุทธศาสตร์พิเศษ เช่น จังหวัดชายแดน ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมกำหนดหลักสูตรในการพัฒนาขีดความสามารถด้วย เช่น กระทรวงต่างประเทศ เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ว่าซีอีโอที่มีเขตจังหวัดติดต่อกับต่างประเทศ เป็นต้น ไปพิจารณา ดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
| 3629 | แผนการลงทุนเสริมสร้างโครงสร้างสาธารณสุขแห่งชาติ (พ.ศ. 2549 - 2552) ตามโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐด้านสาธารณสุข | สธ | 21/02/2549 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6 (ฝ่าย
สาธารณสุข เทคโนโลยีสารสนเทศและวิทยาศาสตร์) ที่มีมติดังนี้ อนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงสาธารณ สุขเสนอกรอบแผนการลงทุนเสริมสร้างโครงสร้างสาธารณสุขแห่งชาติ (พ.ศ. 2549 - 2552) ประกอบด้วย 3 แผนงาน 28 โครงการ รวมงบประมาณทั้งสิ้น 100,427.693 ล้านบาท ตามโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของ ภาครัฐด้านสาธารณสุข สำหรับประเด็นการผลิตแพทย์ และพยาบาลวิชาชีพที่เพิ่มขึ้นตามแผนการลงทุน ฯ การพิจารณาทบทวนมาตรการด้านพันธะสัญญาปฏิบัติงานชดใช้ทุนของแพทย์ และกรณีการชดใช้เงินแทน การปฏิบัติงานชดใช้ทุน ให้กระทรวงสาธารณสุขรับไปพิจารณาดำเนินการต่อไป และอนุมัติกรอบวงเงินงบ ประมาณรายปี เพื่อดำเนินการแผนการลงทุนเสริมสร้างโครงสร้างสาธารณสุขแห่งชาติ ฯ (พ.ศ .2549 - 2552) ฯ โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ ไปประกอบการดำเนินการด้วย และให้กระทรวงสาธารณสุขรับไปศึกษาความเหมาะสม และเป็นไปได้ในการปรับปรุงและพัฒนาการดำเนิน การโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกโรค สำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่มีศักยภาพทางการเงิน ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการจ่ายค่ารักษาพยาบาล (co-payment) เพื่อให้ได้รับบริการที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ต่อไป โดยจะต้องไม่กระทบกับผู้ป่วยที่มีรายได้น้อย และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป และให้รองนายก รัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รับไปศึกษา และกำหนดแนวทางการผลิตบุคลากรสาธารณสุขทั้งในสายวิชา ชีพและสายบริหารในระยะยาวเพื่อให้มีจำนวนบุคลากรเท่าที่จำเป็นแต่มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และ ได้รับเงินเดือนและผลตอบแทนที่คุ้มค่าโดยอาจจัดตั้งคณะกรรมการหรือคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้น เพื่อดำเนิน การในเรื่องนี้ต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
| 3630 | การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2549 ครั้งที่ 2 | กค | 14/02/2549 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้ อนุมัติการขยายกรอบวงเงินกู้ในประเทศเพื่อ
ลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 จากเดิมที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไว้ 50,000 ล้านบาท เป็น 100,000 ล้านบาท และอนุมัติปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ครั้งที่ 2 ประกอบด้วย แผนการบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจ จากวงเงิน 139,498.26 ล้านบาท เป็น 176,870.83 ล้านบาท (การปรับเพิ่มแผนเงินกู้เพื่อลงทุน จากวงเงิน 39,343.05 ล้านบาท เป็น 72,229.62 ล้านบาท และการปรับเพิ่มแผนเงินกู้เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและอื่น ๆ จากวงเงิน 32,355.33 ล้านบาท เป็น 36,841.33 ล้านบาท) และแผนการบริหารหนี้ต่างประเทศของรัฐบาล จำนวน 2,311 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 90,601.83 ล้านบาท รวมทั้งอนุมัติการกู้เงินในประเทศของรัฐ วิสาหกิจ โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของ การกู้เงิน และหรือการค้ำประกันเงินกู้ภายใต้แผนที่ปรับปรุงในแต่ละครั้ง ได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น กับให้กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ดำเนินธุรกรรมเพื่อการบริหารความเสี่ยงหนี้ ต่างประเทศของรัฐบาลตามที่เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 3631 | ขออนุมัติค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก ฤดูร้อน ครั้งที่ 24 | นร | 07/02/2549 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ รับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ประธานคณะ
กรรมการจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก ฤดูร้อน ครั้งที่ 24 (พ.ศ. 2550) เสนอผลการดำเนินงานและ กรอบวงเงินค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก ฤดูร้อน ครั้งที่ 24 และอนุมัติในหลักการ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจัดการแข่งขัน ฯ เพิ่มเติม จำนวน 693.32 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงสนามและหมู่บ้านนักกีฬา และให้ดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้รับข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งความเห็นเพิ่มเติมของคณะรัฐมนตรีที่เห็นว่า เจตนา รมณ์เดิมที่ได้มีการจัดสร้างศูนย์กีฬาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นั้น นอกเหนือจากการที่จะใช้ศูนย์กีฬาดัง กล่าวเป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพตามความเหมาะสมแล้วยังมุ่งให้มหาวิทยาลัย ได้ใช้ประโยชน์และสามารถดูแลและบำรุงรักษาศูนย์กีฬาโดยใช้เงินรายได้ที่ได้รับจากการบริหารจัดการการ ใช้ประโยชน์ศูนย์กีฬาดังกล่าวด้วย ดังนั้น จึงขอให้คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก ฯ รับ ประเด็นนี้ไปหารือกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อนำเงินรายได้ดังกล่าวมาใช้เพื่อการซ่อมบำรุงศูนย์กีฬา เพื่อลดภาระงบประมาณ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 3632 | โครงการพัฒนาการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลภาคใต้ตอนบน (เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง) Thailand Riviera | นร | 07/02/2549 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) เสนอ
โครงการพัฒนาการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลภาคใต้ตอนบน (เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง) Thailand Riviera วงเงินงบประมาณรวม 32,548.24 ล้านบาท ประกอบด้วย แผนงาน Thailand Riviera จำนวน 21,676.58 ล้านบาท และแผนงานหน่วยงานภาครัฐจำนวน 10,871.66 ล้านบาท (งบปกติของ หน่วยงาน) และให้แต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติ เพื่อการพัฒนา Thailand Riviera โดยให้ปลัดกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา หรือผู้แทน ร่วมเป็นฝ่ายเลขานุการในคณะกรรมการดังกล่าวเพิ่มเติมด้วย และให้ คณะกรรมการ ฯ เร่งประชุมพิจารณากำหนดแนวทางการดำเนินการโครงการเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี ต่อไป ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมที่เห็นว่า การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทั้งแหล่งศิลปกรรมและธรรมชาติ ควรคำนึงถึงการคุ้ม ครองสภาพแวดล้อมโดยรอบแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งการบริหารจัดการของเสียที่มีผลจากกิจกรรมท่อง เที่ยวอย่างเหมาะสม การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การก่อสร้างถนนเลียบชายฝั่งทะเล ถนนภาย ในชุมชนหรือเชื่อมโยงชุมชน ท่าเทียบเรือ รถไฟ สนามบิน และอื่น ๆ ควรต้องมีการศึกษาผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อมก่อนที่จะมีการดำเนินโครงการ และในการวางแผนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มเติมรวมทั้งการ สร้างที่พักเพื่อบริการนักท่องเที่ยวบริเวณชายฝั่งทะเล และบริเวณที่มีความลาดชันสูง ควรต้องมีการประ เมินความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติ นอกเหนือจากการประเมินผลกระทบสิ่งแวด ล้อมไปประกอบการดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 3633 | นำเสนอการแก้ไขปัญหาโรคไข้หวัดนกจากโรงฆ่าชำแหละไก่เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีทราบ | สธ | 31/01/2549 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานการแก้ไขปัญหาโรคไข้หวัดนกจากโรง
ฆ่าชำแหละไก่ โดยได้ตรวจเยี่ยมสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อโรคไข้หวัดนก โดยเฉพาะร้านฆ่า ชำแหละและจำหน่ายสัตว์ปีกในเขตสัมพันธวงศ์ ซึ่งอาจจะเป็นสถานที่ๆ เกิดความเสี่ยงต่อการติดต่อของโรคไข้ หวัดนกจากไก่ที่นำมาสู่กระบวนการชำแหละได้ ในการนี้กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำคำแนะนำการปรับปรุง ร้านฆ่าและชำแหละสัตว์ปีกขั้นพื้นฐาน เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดนก เสนอผ่านคณะกรรมการสาธารณสุขเพื่อออก เป็นคำแนะนำของคณะกรรมการสาธารณสุข เรื่อง การควบคุมกิจการฆ่าสัตว์ยกเว้นในสถานที่จำหน่ายอาหาร การเร่ขาย การขายในตลาด และการฆ่าเพื่อบริโภคในครัวเรือน คำแนะนำดังกล่าวมีเนื้อหาครอบคลุมสภาพ ของอาคารสถานที่ และที่พักสัตว์ปีก การฆ่า การชำแหละและตัดแต่ง สุขอนามัยผู้ปฏิบัติงาน การจัดการมูล ฝอย และการจัดการน้ำเสีย และการใช้ยาฆ่าเชื้อ นอกจากนี้ได้มีการตรวจเยี่ยมบริษัทคลองตันค้าสัตว์ (1987) จำกัด ซึ่งเป็นสถานประกอบกิจการฆ่าไก่เพื่อจำหน่ายแหล่งที่ใหญ่ที่สุดอยู่ในเขตวัฒนาพบว่าการประกอบการ และกระบวนการฆ่าชำแหละอยู่ในระดับที่ดี ทั้งด้านการนำไก่เข้าสู่กระบวนการฆ่าและชำแหละ ได้สุ่มตัวอย่าง ส่งตรวจที่กรมปศุสัตว์อย่างต่อเนื่อง มีใบอนุญาตการเคลื่อนย้ายไก่จากกรมปศุสัตว์ และได้มีการทำข้อตกลง ร่วมกันระหว่างส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นพันธะสัญญาว่าจะมีการรักษามาตรฐานการฆ่าและชำแหละไก่ อันจะเป็นการลดความเสี่ยงของการเกิดโรค และสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคเนื้อไก่ว่ามีความสะอาดปลอด ภัยจากโรคติดต่อโดยเฉพาะโรคไข้หวัดนกต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 3634 | บริษัท เติมเอนยิเนียริ่ง จำกัด และบริษัท พี.วี. เอ็กซโพลซิฟ (ไทยแลนด์) จำกัด ขออนุญาตส่งยุทธภัณฑ์ออกไปนอกราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ | กห | 31/01/2549 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอให้บริษัท เติมเอนยิเนียริ่ง จำกัด และบริษัท
พี.วี. เอ็กซโพลซิฟ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้รับการผ่อนผันให้ส่งยุทธภัณฑ์ออกไปราชอาณาจักรกัมพูชาสำหรับ นำไปใช้ในโครงการปรับปรุงก่อสร้างถนนสายเกาะกง-สรีอัมเบล หมายเลข 48 ได้เป็นกรณีพิเศษดังนี้ บริษัท เติมเอนยิเนียริ่ง จำกัด ส่งออกวัตถุระเบิดอีมัลชั่น จำนวน 12,200 กิโลกรัม หรือเท่ากับ 101,504 นัด เพื่อ จำหน่ายให้กับบริษัท สหการวิศวกร จำกัด และบริษัท พี.วี. เอ็กซโพลซิฟ (ไทยแลนด์) จำกัด ส่งออกเชื้อปะทุ ชนิดไฟฟ้า จำนวน 100,000 ดอก เพื่อจำหน่ายให้กับบริษัท สหการวิศวกร จำกัด
|
||||||||||||||||||||||||
| 3635 | รายงานกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารครัวการบิน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ | คค | 24/01/2549 | |||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับเหตุเพลิงไหม้อาคารครัวการบิน
ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สรุปได้ดังนี้ เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2549 เวลาประมาณ 16.00 น. ได้เกิดเหตุเพลิง ไหม้ที่กิจกรรมครัวการบิน อาคารผลิตและปฏิบัติการ ชั้น 1 บริเวณห้องเย็นของ Receiving Area ขนาดพื้นที่เกิด เหตุประมาณ 36 x 24 เมตร คิดเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย 864 ตารางเมตร โดยความเสียหายจากควันไฟมี ผลกระทบต่อพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 90,000 ตารางเมตร และจากเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวเป็นผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 3 คน ส่วนของความเสียหายต่อทรัพย์สินอยู่ระหว่างการตรวจสอบและประเมินความเสียหาย ทั้งนี้ ในส่วนของการฟื้นฟูอาคารที่ได้รับความเสียหาย ทางบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้วางแผนการฟื้นฟู สภาพงานก่อสร้างร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยหากผลการตรวจสอบความเสียหายของอาคารพบว่ามีบาง ส่วนที่ไม่แข็งแรงจำเป็นต้องมีการปรับปรุง แก้ไข บริษัทการบินไทย ฯ ได้เตรียมแผนรองรับการให้บริการครัวการ บิน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยขั้นตอนการประกอบอาหารจะดำเนินการที่อาคารครัวการบิน ท่าอากาศ ยานกรุงเทพ ฯ ส่วนขั้นตอนอื่น ๆ เช่น การบรรจุอาหารขึ้นเครื่อง จะดำเนินการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นอก จากนี้กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้บริษัท การบินไทย ฯ ปฏิบัติอย่างเข้มงวดต่อมาตรการรักษาความปลอด ภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างการก่อสร้างและติดตั้งระบบต่าง ๆ ในอาคารด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
| 3636 | รายงานของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน กรณีโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (2540 - 2546) | รง | 24/01/2549 | |||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงแรงงานเสนอเกี่ยวกับรายงานผลการดำเนิน
งานของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินกรณีโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (พ.ศ. 2540 -2546) โดยรายงานดังกล่าว ประกอบด้วย ความเป็นมาของโครงการในปี พ.ศ. 2534 ปี พ.ศ. 2539 และปี พ.ศ. 2545 วัตถุประสงค์-เป้าหมายของโครงการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และการบริหารจัดการโครงการ ผลการ ดำเนินงานโครงการ (ผลงานตามวัตถุประสงค์-เป้าหมาย ผลการใช้จ่ายเงินตามโครงการ) และการประเมิน ผลการดำเนินโครงการ
|
||||||||||||||||||||||||
| 3637 | การตรวจสอบคำสั่งนายกรัฐมนตรี และมติคณะรัฐมนตรี ตามมาตรา 14 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 | นร | 24/01/2549 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอดังนี้ รับทราบผลการค้นหา ตรวจ
สอบคัดแยก จัดกลุ่ม จัดประเด็น และศึกษาวิเคราะห์คำสั่งนายกรัฐมนตรีและมติคณะรัฐมนตรี ตามมาตรา 14 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 ปรากฏว่า มีมติ คณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี 219 มติ การบริหารราชการ 62,689 มติ ข้าราช การ 17,349 มติ รวม 80,257 มติ และสามารถจัดแบ่งเป็นมติที่มีลักษณะเป็นกฎหรือหลักการที่ต้อง ปฏิบัติจนกว่าจะมีมติคณะรัฐมนตรีใหม่มายกเลิกหรือปรับปรุงแก้ไข 1,589 มติ แบ่งออกเป็นมติที่คงไว้ คือ จะต้องยึดถือปฏิบัติต่อไป 681 มติ สมควรยกเลิก 428 มติ และปรับปรุงแก้ไข 480 มติ และเห็นชอบให้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และ/หรือส่วนราชการ และหน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการยกเลิกหรือปรับ ปรุงมติคณะรัฐมนตรีตามข้อเสนอในครั้งนี้ รวมถึงมติคณะรัฐมนตรีที่สมควรจะยกเลิกหรือปรับปรุงเพิ่มเติม โดยให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีประสานกับส่วนราชการ/หน่วยงาน และสนับสนุนในส่วนของข้อมูล เกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ขั้นตอน วิธีการดำเนินการเลิก การปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรี ข้อมูลและ รายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 3638 | การปรับปรุงการประกวดราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ | นร | 24/01/2549 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอร่างระเบียบ
สำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 และให้ปรับปรุงตามที่ คณะรัฐมนตรีแนะนำ แล้วให้เสนอนายกรัฐมนตรีลงนามเพื่อประกาศใช้บังคับตั้งแต่วนที่ 1 กุมภาพันธ์ 2549 เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 3639 | การพัฒนาบุคลากรและการปรับปรุงเงินเดือนค่าตอบแทนของบุคลากรภาครัฐ | นร | 17/01/2549 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เพื่อให้การพัฒนาทรัพยากรบุคคลภาครัฐและ
การกำหนดค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์เป็นไปอย่างเป็นระบบ และมีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายสำคัญที่ จะลดจำนวนข้าราชการในภาพรวมลง แต่พัฒนาบุคลากรเหล่านี้ให้มีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถ ตลอดจน สามารถนำเทคโนโลยีและระบบสารสนเทศมาใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ซึ่ง จะทำให้ประหยัดงบประมาณค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรในส่วนที่จะต้องจ่ายเพิ่มใหม่ และสามารถนำงบประมาณดัง กล่าวมาพิจารณาปรับเพิ่มให้แก่ข้าราชการที่อยู่ในระบบให้มีค่าตอบแทน และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ในระดับที่ เหมาะสม เป็นธรรม และทัดเทียมกับบุคลากรกลุ่มอื่น ๆ เห็นควรให้มีการจัดตั้งคณะที่ปรึกษาหรือจัดการศึกษา วิจัยในเรื่องนี้ให้ชัดเจนเพื่อดำเนินการต่อไป จึงขอให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รับประเด็นดัง กล่าวไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
| 3640 | แนวทางดำเนินการสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนา (Thailand : Partnership for Development) | นร | 10/01/2549 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอดังนี้
รับทราบการเตรียมการจัดประชุมสัมมนาเรื่อง แนวทางดำเนินการสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนา (Thailand : Partnership for Development) และเห็นชอบให้กระทรวงการคลังกำหนดกระบวนการและขั้นตอนการเปิด ประมูลนานาชาติที่ชัดเจนและเป็นระบบ โดยคำนึงถึงระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ อาจพิจารณาถึง ความเหมาะสมและจำเป็นในการปรับปรุงแก้ไขระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องเท่าที่จำเป็นเพื่อให้เกิดความ คล่องตัวในการดำเนินงาน ตลอดจนสนับสนุนนโยบายสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนา โดยยึดหลักการที่ให้มี กระบวนการพิจารณาที่เป็นระบบ ละเอียดรอบคอบ มีความโปร่งใส เป็นธรรม และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุด ของประเทศและประชาชนเป็นสำคัญ และให้กระทรวงเจ้าภาพแต่ละสาขาดำเนินการยกร่างรายละเอียดข้อ กำหนดการพัฒนาหรือแผนงาน/โครงการ (Term of Reference : TOR) เป็นการล่วงหน้าในระหว่างรอการ กำหนดกระบวนการและขั้นตอนการเปิดประมูลนานาชาติ โดยอาจใช้กรอบเบื้องต้นในการจัดทำ TOR และ เห็นควรให้สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เข้าร่วมตั้งแต่เริ่มต้น กับให้แต่งตั้ง คณะทำงานประสานการดำเนินงานภายใต้นโยบายสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนาเพื่อประสานกับกระทรวง ต่าง ๆ ให้การดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมายอย่างเป็นระบบต่อไป ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้อง และความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปดำเนินการด้วยดังนี้ ให้กระทรวงการคลังดำเนินการกำหนด กระบวนการและขั้นตอนการเปิดประมูลนานาชาติให้เป็นระบบ มีความโปร่งใส เป็นธรรม และตรวจสอบได้ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นกับทุกฝ่าย และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยให้หารือรองนายกรัฐมนตรี (นาย วิษณุ เครืองาม) ด้วย และให้กระทรวงเจ้าภาพและที่เกี่ยวข้องจัดทำร่างรายละเอียด TOR โดยให้เพิ่มการ ถ่ายทอดเทคโนโลยี (technology transfer) เป็นเงื่อนไขประการหนึ่งใน TOR ด้วย รวมทั้งให้จัดเตรียมข้อ มูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้พร้อมเพื่อชี้แจงให้ผู้ประกอบการทั้งฝ่ายไทยและต่างประเทศที่สนใจได้ทราบ และ สามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้อย่างสะดวกทั่วถึงและเท่าเทียมกัน นอกจากนี้ ให้เพิ่มอธิบดีกรมบัญชีกลาง เป็นคณะทำงาน และผู้ช่วยเลขานุการในคณะทำงานประสานการดำเนินงานภายใต้นโยบายสร้างพันธมิตร เพื่อการพัฒนาด้วย |
||||||||||||||||||||||||
.....
