ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 181 จากทั้งหมด 347 หน้า แสดงรายการที่ 3601 - 3620 จากข้อมูลทั้งหมด 6925 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 3601 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการทุ่งทะเลหลวง (แก้มลิง) จังหวัดสุโขทัย | กษ | 30/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอให้กรมชลประทานก่อหนี้ผูกพันข้ามปี
งบประมาณโครงการทุ่งทะเลหลวง (แก้มลิง) จังหวัดสุโขทัย วงเงินทั้งสิ้น 854,400,000 บาท ระยะเวลาดำเนิน การ 3 ปี (พ.ศ. 2549-2551) โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ให้โอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณราย จ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 แผนงบประมาณขจัดความยากจนระดับประเทศ ผลผลิตการจัดหาแหล่ง น้ำและเพิ่มพื้นที่ชลประทาน งบลงทุน ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้างจากรายการค่าที่ดิน ค่าซื้อที่ดิน ค่าทดแทน ค่ารื้อ ย้ายในการจัดหาที่ดิน จำนวน 100,000,000 บาท ไปตั้งจ่ายในแผนงบประมาณและผลผลิตเดียวกัน งบลงทุน ที่ดิน และสิ่งก่อสร้าง โครงการทุ่งทะเลหลวง (แก้มลิง) จังหวัดสุโขทัย สำหรับงบประมาณส่วนที่เหลืออีกจำนวน 754,400,000 บาท ให้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550-2551 ทั้งนี้ ให้ยกเว้น การปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2541 เรื่อง การปรับปรุงแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับ หลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ และมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้องเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย และให้รับ ความเห็นของสำนักงบประมาณไปดำเนินการด้วยว่าในการลงนามในสัญญาจะต้องมีความพร้อมที่จะส่งมอบพื้น ที่เพื่อให้ผู้รับจ้างเข้าดำเนินการได้เพื่อไม่ให้เกิดภาระกรณีผู้รับจ้างจะขอค่างานเพิ่มตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3602 | รายงานการดำเนินการเสริมสร้างความปลอดภัยให้แก่ครูและสถานศึกษา | นร | 30/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก ชิดชัย วรรณสถิตย์) ประธาน
กรรมการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านพักครู สร้างรั้วเพื่อเสริม สร้างความปลอดภัย และปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคภายในวงเงินงบประมาณ จำนวน 68 ล้านบาท โดย ให้สำนักงบประมาณรับไปพิจารณารายละเอียดด้านงบประมาณที่จะต้องใช้จ่ายเพื่อดำเนินการกับกระทรวง ศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3603 | โครงการบรรเทาความเดือดร้อนจากอุทกภัยด้านแหล่งน้ำ | ทส | 30/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอดังนี้ รับทราบการให้ความ
ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดอุตรดิตถ์ สุโขทัย แพร่ ลำปาง และน่าน ที่ดำเนินการแล้ว ได้แก่ การสนับ สนุนรถบรรทุกน้ำ 7 คัน (จังหวัดอุตรดิตถ์ 3 คัน แพร่ 2 คัน สุโขทัย 2 คัน) และระบบประปาสนาม 2 ชุด เพื่อ ให้บริการน้ำดื่มแก่ประชาชน ซึ่งสามารถบริการน้ำดื่มได้ 96,000 ลิตร/วัน หรือประมาณ 19,200 คน และได้ เร่งระดมระบบประปาสนามกำลังการผลิต 6-8 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง อีก 2 ชุด ซึ่งจะสามารถบริการน้ำดื่มได้ 384,000 ลิตร/วัน หรือประมาณ 76,800 คน รวมทั้งได้ตรวจสอบความมั่นคงของอ่างเก็บน้ำห้วยแม่สิน ตำบล นาพูน อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ พบว่ามีความมั่นคงแข็งแรง และปลอดภัย และได้แจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ท้าย อ่าง ฯ ทราบแล้ว และอนุมัติในหลักการโครงการก่อสร้างฝายต้นน้ำลำธารตามแผน Mega Project ด้านทรัพยา กรน้ำปี พ.ศ. 2549 เพื่อชะลอความเร็วการไหลของน้ำ จำนวน 407 แห่ง และการดำเนินการปรับปรุงฟื้นฟู แหล่งน้ำ และระบบประปาที่ได้รับความเสียหาย จำนวน 6 โครงการ โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมขอตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ เพื่อใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 122.71 ล้านบาท แล้วดำเนิน การต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3604 | ขออนุมัติงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงสำนักงาน ก.พ. เป็นสถานที่ปฏิบัติงานของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และการเช่าอาคารเป็นสถานที่ปฏิบัติงาน | นร | 23/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการและให้ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับค่า
ใช้จ่ายในการปรับปรุงสำนักงาน ก.พ. เป็นสถานที่ปฏิบัติงานของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และการ เช่าอาคารเป็นสถานที่ปฏิบัติงาน โดยค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงอาคารสำนักงาน ก.พ. ระบบโทรศัพท์ ระบบ เสียงตามสาย การย้ายระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ การติดตั้งกล้องวงจรปิด การย้ายครุภัณฑ์สำนักงาน และ สร้างที่จอดรถโครงเหล็กและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจัดทำรายละเอียดขอตกลง กับสำนักงบประมาณตามที่ต้องจ่ายจริงและเป็นไปโดยประหยัด โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับการเช่าพื้นที่ อาคารเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 3,729 ตารางเมตร หากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้พิจารณาภาพรวมของ พื้นที่อาคารสำนักงาน ก.พ. โดยคำนวณตามหลักเกณฑ์มาตรฐานการกำหนดพื้นที่ใช้สอยของอาคาร ตามนัย มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2521 แจ้งตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ สร 0203/ว 120 ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2521 ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2549 แล้ว ก็ให้ดำเนินการ เช่าพื้นที่อาคารดังกล่าวเพิ่มขึ้นในอัตราค่าเช่าตารางเมตรละ 400 บาทต่อเดือน ระยะเวลา 3 ปี รวมเป็นเงิน 53,697,600 บาท โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการ เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 13,590,360 บาท เพื่อเป็นค่าเช่าอาคาร 2 เดือน (สิงหา คม-กันยายน 2549) ค่าเช่าล่วงหน้าร้อยละ 15 ของยอดรวมค่าเช่าตามอายุสัญญาเช่า 3 ปี และค่าประกัน เสียหาย สำหรับส่วนที่เหลือ จำนวน 43,107,240 บาท ให้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550-พ.ศ. 2552 (ตุลาคม 2549-กรกฎาคม 2552) เพื่อจ่ายเป็นค่าเช่ารายเดือนที่หักค่าเช่าล่วงหน้า ร้อยละ 15 และในส่วนของค่าใช้จ่ายอื่น ๆ จำนวน 21,212,100 บาท ที่เสนอขอรับการสนับสนุนนอกเหนือ จากค่าเช่าอาคาร ให้จัดทำรายละเอียดขอตกลงกับสำนักงบประมาณตามที่จ่ายจริงและประหยัด โดยให้ใช้จ่าย จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็นได้ต่อไป ทั้งนี้ ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเจรจาต่อรองกับผู้ให้เช่าอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ได้ ราคาค่าเช่าที่ถูกลง และเงื่อนไขการเช่าที่เหมาะสมเป็นไปตามหลักการเช่าอสังหาริมทรัพย์โดยทั่วไปมากยิ่งขึ้น เช่น การกำหนดให้ชำระค่าเช่าล่วงหน้า แต่ไม่เรียกเก็บเงินประกันความเสียหาย เป็นต้น ก่อนดำเนินการต่อไป ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3605 | สรุปรายงานโครงการปรับปรุงคลองลัดโพธิ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ | กษ | 23/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวกับโครงการปรับปรุง
คลองลัดโพธิ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ดังนี้ การปรับปรุงคลองลัดโพธิ์ ได้ดำเนินการก่อสร้างประตูระบาย น้ำบริเวณต้นคลองด้านทิศเหนือขนาดกว้าง 14.00 เมตร จำนวน 4 บาน ขุดคลองด้านเหนือประตูระบายน้ำ กว้าง 65 เมตร ท้ายประตูระบายน้ำกว้าง 66 เมตร ความยาวคลอง 600 เมตร ระดับก้นคลองอยู่ที่ -7.0 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ระดับหลังคันคลอง +2.65 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางส่วนการปิด-เปิด บานระบาย ในช่วงฤดูแล้งจะปิดบานเพื่อป้องกันน้ำทะเลไหลกลับเข้าแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงฤดูน้ำหลากเมื่อน้ำ ทะเลกำลังขึ้นจะปิดบาน และเมื่อน้ำทะเลกำลังลงจะเปิดบาน สำหรับผลประโยชน์ของโครงการสามารถระบาย น้ำได้โดยควบคุมอัตราการไหลไม่เกิน 500 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ลดระดับน้ำท่วมสูงสุดในแม่น้ำเจ้าพระยา 5 -6 เซนติเมตร ลดระยะน้ำท่วมได้ 1-2 วัน พื้นที่ที่ได้รับประโยชน์ตลอดสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาคิดเป็นมูลค่า ผลประโยชน์ได้ 161.4 ล้านบาท/ปี
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3606 | การปรับปรุงอัตรานิตยภัตฉบับใหม่ ปีงบประมาณ 2549 | พศ | 23/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอการปรับปรุงอัตรานิตย
ภัตฉบับใหม่ ตามผลการพิจารณาของผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายกิตติ ลิ่มสกุล) ร่วม กับผู้แทนส่วนราชการต่าง ๆ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2548 โดยการปรับเพิ่มอัตรานิตยภัตในแต่ละตำแหน่ง ให้ใช้เกณฑ์การวัดระดับการครองชีพของประชากรจากดัชนีราคาผู้บริโภค ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537-พ.ศ. 2547 ของกระทรวงพาณิชย์ ยกเว้นตำแหน่งพระอธิการ (เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ที่ไม่ได้เป็นพระครูสัญญาบัตร) ให้ ปรับฐานอัตรานิตยภัตจากเดิม 500 บาท/รูป/เดือน เป็น 1,000 บาท/รูป/เดือน ก่อน จึงปรับเพิ่มโดยใช้ เกณฑ์การวัดระดับการครองชีพฯ เป็น 1,500 บาท/รูป/เดือน ส่วนตำแหน่งเลขานุการเจ้าคณะตำบลอัตรา นิตยภัตเดิม 500 บาท/รูป/เดือน ให้ปรับเพิ่มเป็น 1,000 บาท/รูป/เดือน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2549 เป็นต้นไป สำหรับการขอปรับเปลี่ยนเบี้ยกันดารเป็นนิตยภัตเพิ่มพิเศษอีก 500 บาท/รูป/เดือน ให้ ปรับเปลี่ยนเฉพาะในพื้นที่ดังต่อไปนี้ (1) อำเภอแม่ลาน้อย อำเภอขุนยวม อำเภอบางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่อง สอน (2) ทุกอำเภอในจังหวัดยะลา (3) ทุกอำเภอในจังหวัดปัตตานี (4) ทุกอำเภอในจังหวัดนราธิวาส และ (5) ทุกอำเภอในจังหวัดสตูล ทั้งนี้ มีข้อสังเกตด้วยว่า การปรับปรุงอัตรานิตยภัตไม่ควรยึดโยงกับระดับการ ครองชีพของประชากร และอัตราภาวะเงินเฟ้อ สำหรับงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงอัตรา นิตยภัต ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติขอตั้งงบประมาณประจำปีตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็น ของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3607 | การปรับปรุงอัตรานิตยภัตฉบับใหม่ ปีงบประมาณ 2549 | พศ | 16/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติให้เลื่อนการพิจารณาเรื่อง การปรับปรุงอัตรานิตยภัตฉบับใหม่ ปีงบประมาณ
พ.ศ. 2549 ไปในคราวประชุมครั้งถัดไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3608 | ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ทก | 09/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6 (ฝ่าย
สาธารณสุข เทคโนโลยีสารสนเทศและวิทยาศาสตร์) ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสน เทศและการสื่อสารเสนอร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระ สำคัญคือ แก้ไขกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้สอดคล้องกับการปรับปรุงโครงสร้างระบบราช การตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณา โดยรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่เห็นว่า ไม่สมควรกำหนดบทบัญญัติ เกี่ยวกับการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไว้ในร่างพระราชบัญญัติ ฯ เนื่องจากมีระเบียบสำนักนายก รัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อัน มีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย พ.ศ. 2536 ซึ่งเป็นระเบียบกลางในเรื่องนี้โดยกำหนดให้บุคคลทุกประเภทมีสิทธิขอ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดอยู่แล้ว ประกอบกับร่างพระราชบัญญัติ ฯ มีบท บัญญัติหลายมาตราที่มีลักษณะเป็นการยกเว้นบทบัญญัติของกฎหมายเฉพาะ เช่น ร่างมาตรา 43/10 บัญญัติ ให้สำนักงานธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียม ฯ ร่างมาตรา 43/11 บัญญัติให้ทรัพย์สิน ของสำนักงาน ฯ ไม่อยู่ในความรับผิดชอบแห่งการบังคับคดี ฯ เป็นต้น ซึ่งไม่สมควรจะมีบทบัญญัติในลักษณะนี้ เพราะหากประสงค์จะให้มีการยกเว้นก็ควรใช้ช่องทางยกเว้นตามบทบัญญัติของกฎหมายในเรื่องนั้น ๆ ที่มีส่วน ราชการรับผิดชอบโดยตรงอยู่แล้ว และความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาในรายละเอียดต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3609 | การลงนามในร่างแถลงการณ์การแก้ไขหลักการสำคัญของความตกลงทวิภาคีว่าด้วยการแลกเปลี่ยนเงินตราภายใต้กรอบมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ | กค | 25/04/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติให้ดำเนินการต่อไปได้ตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างแถลง
การณ์การแก้ไขหลักการสำคัญของความตกลงทวิภาคี ว่าด้วยการแลกเปลี่ยนเงินตราภายใต้กรอบมาตรการ ริเริ่มเชียงใหม่ โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมาย เป็นผู้แทนรัฐบาลไทยลงนามในร่างแถลงการณ์ ฯ ดังกล่าว หากมีการปรับปรุงแก้ไขร่างแถลงการณ์ ฯ ใน ส่วนที่มิใช่สาระสำคัญให้กระทรวงการคลังแก้ไข และดำเนินการต่อไปได้โดยมิต้องขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี อีกครั้ง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3610 | รายงานเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 | นร | 11/04/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ) ประธานกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการเสนอ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 และเป้าหมายการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 โดยมีผลการดำเนินงาน ฯ ในปี พ.ศ. 2548 รวม 7 ด้าน ได้แก่ ด้านการสอดส่องให้คำแนะนำและติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐในการปฏิบัติข้อมูลข่าวสารของราชกร พ.ศ. 2540 ด้านการจัดทำร่างปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 และร่างกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ด้านการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ด้านการพิจารณาดำเนินการเรื่องร้องเรียนของประชาชน และด้านการพิจารณาเรื่องอุทธรณ์การไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ด้านการตอบข้อหารือการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 และด้านการพัฒนาระบบสารสนเทศสำหรับเป้าหมายการดำเนินงานฯ ในปี พ.ศ. 2549 ได้แก่ การดำเนินการเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ การเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของภาครัฐและการส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมและการใช้สิทธิภาคประชาชนการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 และการจัดทำร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล พ.ศ. .... ซึ่งเป็นร่างกฎหมายฉบับใหม่ และการดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติงานของสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ๒. เห็นชอบแนวทางดำเนินการเพื่อให้หน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติต่อไป โดยให้นำเรื่องการจัดระบบและการดำเนินการเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารและการสนับสนุนส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นหนึ่งตัวชี้วัด (KPI) ประสิทธิภาพของหน่วยงานของรัฐทุกแห่ง เริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3611 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ (โครงการปรับปรุงแหล่งประวัติศาสตร์บ้านเชียง) | วธ | 04/04/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการก่อหนี้
ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549-พ.ศ. 2550 ในวงเงิน 56,940,000 บาท สำหรับงบประมาณที่จะใช้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ให้กระทรวงวัฒนธรรมโดยกรมศิลปากรพิจารณาปรับ แผนการใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับไปดำเนินการในโอกาสแรกก่อน หากมีงบประมาณ ไม่เพียงพอ ก็ให้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดและจังหวัดตามความจำเป็นที่ต้อง ใช้จ่ายจริง ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2549 โดยให้ขอทำความตกลงในรายละเอียดค่าใช้ จ่ายกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง ส่วนงบประมาณที่จะใช้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ให้กรมศิลปากร เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3612 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับ "แนวทางการปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์เพื่อประชาชน" | พณ | 04/04/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับ "แนวทางการปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์เพื่อประชาชน" และความ เห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการของกระทรวงพาณิชย์ อาทิเช่น การสร้างระบบการจัดเก็บค่าลิข สิทธิ์และเพิ่มบทบัญญัติในร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยการจัดตั้งองค์กรกลางเพื่อทำ หน้าที่ดูแลการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการกลาง และปรับปรุงบทกำหนดโทษ ในพระราชบัญญัติ ฯ โดยนำโทษทางอาญา เฉพาะโทษปรับมาใช้กับการกระทำละเมิด เว้นแต่การละเมิดลิข สิทธิ์ในเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่จะนำโทษจำคุกมาใช้รวมทั้งกำหนดอัตราโทษตามความหนักเบาของพฤติการณ์ ความร้ายแรงของการละเมิดโดยแบ่งฐานความผิดออกเป็น 3 ระดับคือ ความผิดทั่วไปความผิดเพื่อการค้าขนาด เล็กและความผิดเพื่อการค้าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ และกำหนดโทษจำคุกเฉพาะการละเมิดลิขสิทธิ์ในเชิงพาณิชย์ ขนาดใหญ่เท่านั้น นอกจากนี้ จะดำเนินการให้มีการทบทวนกฎหมายลิขสิทธิ์อย่างสม่ำเสมอเป็นระยะ ๆ เพื่อ ให้กฎหมายทันต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสังคมและเศรษฐกิจของโลกสอดคล้องกับกฎเกณฑ์ระหว่าง ประเทศ และเหมาะสมกับสภาพสังคมไทยในขณะนั้น เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3613 | รายงานความก้าวหน้าโครงการเขื่อนแควน้อยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดพิษณุโลก | รง | 04/04/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงแรงงานเกี่ยวกับความก้าวหน้าโครงการเขื่อนแคว
น้อยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดพิษณุโลก ในส่วนของงานก่อสร้างเขื่อนหัวงานและอาคารประกอบพร้อม ส่วนประกอบอื่น สรุปได้ดังนี้ ง านถมดินและหินตัวเขื่อนสันตะเคียนและเขื่อนแควน้อยมีความก้าวหน้าไปมาก โดย เฉพาะตัวเขื่อนสันตะเคียนสามารถถมดินแกนเขื่อน และถมบดอัด Filter ทั้งทางด้านหน้า และท้ายเขื่อนประมาณ 60% ของแผนงานที่กำหนด ส่วนงานอาคารผันน้ำและอาคารระบายน้ำลงลำน้ำเดิม (อุโมงค์ผันน้ำเขื่อนแควน้อย) ป็นไปตามแผนงานที่กำหนด คาดว่า จะสามารถผันน้ำเข้าอุโมงค์และปิดกั้นแม่น้ำแควน้อยเพื่อดำเนินการปรับปรุง ฐานราก และถมตัวเขื่อนแควน้อยในช่วงของลำน้ำได้ภายในเดือนเมษายน 2549 สำหรับงานอาคารระบายน้ำล้น (Spillway) งานระเบิดหินและปรับปรุงฐานรากอาคารใกล้แล้วเสร็จสมบูรณ์สามารถเริ่มงานเทคอนกรีตพื้นอาคาร และกำแพงกันดินบางส่วนได้แล้ว อย่างไรก็ตามปัญหาขาดสภาพคล่องของผู้รับจ้าง ธนาคารทหารไทยได้ดำเนิน การให้ความช่วยเหลือเพิ่มขึ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ประกอบกับกรมชลประทานได้พิจารณาเบิกจ่ายค่างาน สัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) รวมทั้งพิจารณานำเงินประกันผลงานมาหมุนเวียนเสริมสภาพคล่องให้ผู้รับจ้าง เป็นการเบื้องต้นทำให้ปัญหาเรื่องเงินลงทุนดีขึ้น ส่งผลให้ความก้าวหน้างานก่อสร้างถึงวันที่ 25 มีนาคม 2549 ประมาณ 19% เป็นเงินประมาณ 690 ล้านบาท คิดเป็นผลงานในครั้งนี้ (ครั้งที่ 14) 4.3% คิดเป็น 154 ล้าน บาท มากกว่าผลงานที่วางแผนต้องทำให้ได้เฉลี่ยครั้งละประมาณ 4% หรือคิดเป็นเงิน 140 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3614 | การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2549 ครั้งที่ 3 | กค | 28/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ 2549 ครั้งที่ 3 ประกอบด้วย การปรับเพิ่มแผนการบริหารและจัดการเงินกู้เพื่อชดเชย การขาดดุลงบประมาณ จากเดิม 260,000 ล้านบาท เป็น 265,000 ล้านบาท การปรับวิธีการบริหารหนี้ ต่างประเทศของรัฐบาล และรัฐวิสาหกิจให้สามารถเลือกแนวทางบริหารหนี้ต่างประเทศด้วยวิธีการต่าง ๆ ได้แก่ การ Prepayment การ Roll-over การ Refinance และการ Swap Arrangement ให้สอดคล้องกับ สภาวะตลาด โดยอยู่ภายใต้วงเงินที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติแล้วที่วงเงินรวม 326,347.06 ล้านบาท และใน การกู้เงินและการค้ำประกันเงินกู้ในประเทศและต่างประเทศของรัฐบาล และรัฐวิสาหกิจ ภายใต้แผนที่ปรับ ปรุง ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงินวิธีการกู้เงิน เงื่อนไขและรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน และการค้ำประกันในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3615 | ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไขในการนำประเทศไทยเข้าสู่สังคม - เศรษฐกิจ ฐานความรู้ | ศธ | 28/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไขในการ
นำประเทศไทยเข้าสู่สังคม - เศรษฐกิจฐานความรู้ การปรับปรุงและแต่งตั้งคณะกรรมการผลักดันยุทธศาสตร์ การสร้างสังคม-เศรษฐกิจฐานความรู้ (ด้านเทคโนโลยี ข้อมูล ข่าวสาร และความรู้) และความก้าวหน้าการ ดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการในการประสานการดำเนินงานการแก้ไขในการนำประเทศไทยเข้าสู่สังคม -เศรษฐกิจฐานความรู้ และการดำเนินงานการแก้ไขในการนำประเทศไทยเข้าสู่สังคม-เศรษฐกิจฐานความรู้ และการดำเนินงานของหน่วยงานที่รับผิดชอบ สำหรับประเด็นการมอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ นำแนวทาง แก้ไขในการนำประเทศไทยเข้าสู่สังคม-เศรษฐกิจฐานความรู้ ไปปฏิบัติ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นแกน กลางประสานการปฏิบัติและรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ๆ นั้น เนื่องจากมีบางเรื่องที่เป็นเรื่อง เชิงนโยบาย จึงมอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องรับไปเพื่อเตรียมการนำเสนอคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ พิจารณาต่อไป โดยให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นแกนกลางในการประสานงาน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3616 | โครงการฟื้นฟูอาชีพด้านประมงเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ | กษ | 28/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 (ฝ่าย
โครงสร้างพื้นฐาน การเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ที่มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์เสนอโครงการฟื้นฟูอาชีพด้านประมงเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ โดยใช้เงินเหลือจ่ายงบกลาง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ที่ได้รับจัดสรรแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 104,705,440 บาท เพื่อดำเนินโครงการ ฯ โดยให้ขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการ ฯ ถึงวันที่ 30 กันยายน 2549 และให้รับประเด็นอภิปรายของ คณะกรรมการกลั่นกรองฯ และข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการฟื้นฟูอาชีพด้านประมงเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ โดยการส่งเสริมอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ จำเป็นต้องมีการวางแผนบริหารจัดการทั้งระบบและควรมีการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อเพื่อให้ เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินการอย่างเป็นระบบ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทำความเข้าใจเกี่ยว กับแนวทางการใช้จ่ายเงินของแต่ละกลุ่มที่ได้รับไว้ให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด และติดตามประเมินผลโครงการ ช่วยเหลือด้านประมงทั้งที่ได้ดำเนินการไว้ก่อนหน้านี้ และโครงการนี้ในรอบ 3 เดือน 6 เดือน และเมื่อสิ้น สุดโครงการ เพื่อให้ทราบปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการ และใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงการดำเนิน การช่วยเหลือในระยะต่อๆ ไป เพื่อให้เกิดการใช้งบประมาณได้ประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกร ไปประกอบการ พิจารณาดำเนินการโครงการต่อไปด้วย สำหรับงบประมาณดำเนินการ เนื่องจากสำนักงบประมาณได้โอน เงินงบประมาณให้กระทรวงการคลังแล้ว ดังนั้น จึงให้ตกลงในรายละเอียดกับกระทรวงการคลังต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3617 | การนำหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนักบริหาร 9 เสนอคณะรัฐมนตรี | นร | 28/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอให้ใช้หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกข้าราชการ
พลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนักบริหาร 9 ตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 0701/ว 9 ลงวัน ที่ 15 สิงหาคม 2544 ต่อไปจนกว่าการปรับปรุงระบบนักบริหารระดับสูงจะเสร็จสิ้น ทั้งนี้ ให้ ก.พ. รับไป พิจารณาปรับปรุงขอบเขตเนื้อหาของการอบรมหลักสูตรนักบริหารระดับสูงของสำนักงาน ก.พ. ให้เหมาะสม สอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น รวมทั้งให้พิจารณารับรองหลักสูตรนักบริหารระดับสูงที่ส่วน ราชการหรือหน่วยงานของรัฐเป็นผู้จัดขึ้นเองเพิ่มมากขึ้นตามความเหมาะสมด้วย เช่น หลักสูตรสถาบันพระปก เกล้า และคณะรัฐมนตรีมีความเห็นเพิ่มเติมว่า การจัดให้ข้าราชการและผู้บริหารเข้ารับการฝึกอบรม เพื่อให้ได้ รับความรู้และประสบการณ์ในเรื่องต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ จะเป็นการรักษาและเพิ่มพูนศักยภาพและประสิทธิ ภาพในการปฏิบัติงานของผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฝึกอบรมระหว่างการ ปฏิบัติราชการ (In Service Training) จึงขอให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รับเรื่องนี้ไปพิจารณา ร่วมกับสำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. และผู้อื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดขอบเขตและแนวทางการดำเนินการ ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3618 | รายงานผลการดำเนินการ เรื่อง ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของชาติ และการจัดการ 25 ลุ่มน้ำสำคัญของประเทศ และ เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของชาติและ 25 แม่น้ำสำคัญของประเทศ รวม 9 กลุ่มลุ่มน้ำ และ เรื่อง ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการบริหารจัดการภัยน้ำหลาก ภัยน้ำเสีย และภัยน้ำขาดแคลนในพื้นที่ราบลุ่มภาคกลางแบบบูรณาการ | ทส | 21/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานผลการดำเนิน
การตามความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง แนวทางการบริหารจัด การทรัพยากรน้ำของชาติ และการจัดการ 25 ลุ่มน้ำสำคัญของประเทศ เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการ ทรัพยากรน้ำของชาติ และ 25 แม่น้ำสำคัญของประเทศ รวม 9 กลุ่มลุ่มน้ำ และเรื่อง การบริหารจัดการภัยน้ำ หลาก ภัยน้ำเสีย และภัยน้ำขาดแคลนในพื้นที่ราบลุ่มภาคกลางแบบบูรณาการ โดยมีผลการดำเนินการบริหาร จัดการทรัพยากรน้ำตามแนวทางข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา ฯ อาทิเช่น การบริหารจัดการน้ำอย่างเป็น ระบบ ได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลสถานการณ์ทรัพยากรน้ำ ศักยภาพการพัฒนา ประเด็นปัญหาและกลยุทธ์ การแก้ไขปัญหา มาตรการและแผนงานการแก้ไขปัญหาในทุกลุ่มน้ำ และกำหนดแผนการลงทุนในโครงการลง ทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (Mega Project) ในช่วงปี พ.ศ. 2549-2552 ส่วนแนวทางการดำเนินงานการจัดการ ลุ่มน้ำแบบบูรณาการ ประกอบด้วย การดำเนินการในพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ นอกจากนี้ ยังมีการ แก้ไขปัญหาท้ายน้ำและชายฝั่ง การจัดทำร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ และการปรับปรุงโครงสร้างหน่วย งานด้านน้ำ เป็นต้น สำหรับค่าใช้จ่ายในการนี้โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2548 เห็นชอบ ในหลักการโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ ในเรื่องกรอบวงเงินรวม (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549-2552) เป็นวงเงินในสาขาทรัพยากรน้ำ รวม 203,084 ล้านบาท โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 จะพิจารณาจัดสรรงบ ประมาณเพิ่มให้จากที่ได้รับจัดสรรไว้แล้วตามพระราชบัญญัติงบประมาณ พ.ศ. 2549 เฉพาะโครงการที่มีความ พร้อม สามารถดำเนินการได้ทันที ส่วนวงเงินที่ยังเกินอยู่ให้กระจายไปดำเนินการในปีถัดไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3619 | รายงานสถานการณ์ในช่วงฤดูแล้งปี 2549 และแผนการช่วยเหลือ (ช่วงวันที่ 10-16 มีนาคม 2549) | กษ | 21/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ในช่วง
ฤดูแล้ง ปี พ.ศ. 2549 และแผนการช่วยเหลือ โดยสถานการณ์ภัยแล้งช่วงวันที่ 10-16 มีนาคม 2549 ปริมาณ น้ำฝนช่วงวันที่ 9-15 มีนาคม 2549 มีฝนตกเล็กน้อย-ปานกลาง และหนักมากใน 42 จังหวัด ส่วนสถานการณ์ น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ณ วันที่ 16 มีนาคม 2549 มีปริมาณน้ำในอ่าง ฯ ทั้งหมด 48,520 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 71 ของความจุอ่าง ฯ โดยมีอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาตรน้ำในอ่าง ฯ อยู่ในเกณฑ์น้อยที่ต้องเฝ้า ระวังและติดตาม จำนวน 4 อ่าง ฯ คือ อุบลรัตน์ ลำนางรอง ทับเสลา และบางพระ ด้านผลกระทบจากภัยแล้ง แบ่งเป็น ด้านพืช ช่วงวันที่ 1 ธันวาคม 2548-14 มีนาคม 2549 มีพื้นที่การเกษตรนอกเขตชลประทานได้รับ ผลกระทบ 15 จังหวัด 33 อำเภอ 129 ตำบล 934 หมู่บ้าน เกษตรกรได้รับผลกระทบ 72,259 รายพื้นที่ 440,370.50 ไร่ แยกเป็น ข้าว 189,290 ไร่ พืชไร่ 119,571.50 ไร่ พืชสวนและอื่น ๆ 131,510 ไร่ด้าน ประมง ช่วงวันที่ 9-14 กุมภาพันธ์ 2549 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 2 จังหวัด คือ จังหวัดมหาสารคาม และเลย เกษตรกรได้รับผลกระทบ 36 ราย คิดเป็นพื้นที่ 1,726 ตรม. 184 กระชัง ส่วนด้านปศุสัตว์ ไม่มีรายงานสัตว์ได้ รับผลกระทบ สำหรับการให้ความช่วยเหลือ ประกอบด้วย การให้ความช่วยเหลือของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง การจัดสรรน้ำและสนับสนุนเครื่องสูบน้ำและรถยนต์บรรทุกน้ำ การจัดทำโครงการก่อสร้างทำนบชั่วคราว และ โครงการแก้มลิง เป็นต้น และแผนการช่วยเหลือระหว่างวันที่ 17-23 มีนาคม 2549 อาทิ การปฏิบัติการ ฝนหลวงโดยเน้นเพิ่มปริมาณน้ำให้อ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อย การจัดทำโครงการปลูกพืชปรับปรุงบำรุงดิน ด้วยปุ๋ยพืชสดแทนการปลูกข้าวนาปรัง ครั้งที่ 2 ใน 75 จังหวัด พื้นที่ 921,025 ไร่ การจัดทำโครงการฝึกอบรม ส่งเสริมอาชีพระยะสั้น โครงการนาหญ้า ฯ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้จัดทำโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือด ร้อนเรื่องน้ำเร่งด่วนในการจัดหาน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภค-บริโภค การพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลางและขนาด เล็ก และการปรับปรุงแหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อให้เก็บกักน้ำได้สูงสุดในโครงการลงทุนด้านทรัพยากรน้ำระยะเร่ง ด่วนปี พ.ศ. 2549 (เพิ่มเติม) ภายใต้กรอบโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ(Mega Project) ด้านทรัพยา กรน้ำ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3620 | ขอความเห็นชอบให้ประเทศไทยเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยอาเซียน | ศธ | 21/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอให้ประเทศไทยรับเป็นที่ตั้งของ
มหาวิทยาลัยอาเซียนโดยมีเป้าหมายการจัดตั้งภายในเวลา 5 ปี ระหว่างปี 2549-2553 สำหรับงบประมาณ เพื่อการดำเนินการจัดตั้งมหาวิทยาลับอาเซียน นั้น ให้กระทรวงศึกษาธิการรับไปพิจารณาดำเนินการตามมติ คณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 (ฝ่ายการต่างประเทศ การศึกษา การศาสนาและ วัฒนธรรม) ครั้งที่ 5/2548 วันที่ 28 ธันวาคม 2548 แล้วนำเสนอคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ดังกล่าว พิจารณาอีกครั้งหนึ่งก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นว่ารูปแบบทิศทางการดำเนินงาน และการจัดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย ฯ ควรเป็นสถาบันการศึกษาที่เน้นสร้างความเชี่ยวชาญพิเศษใน เรื่องต่าง ๆ ของภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง เช่น ด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ภาษา โดยต้องมีความแตก ต่างจากสถาบันอุดมศึกษาทั่วไปที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน ซึ่งหน่วยงานฝ่ายไทยต้องพิจารณารายละเอียดร่วมกันให้ ชัดเจน รวมทั้งเปืดโอกาสให้ประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมดมีส่วนร่วมในการพิจารณาให้ความเห็น และให้การ สนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายสำหรับมหาวิทยาลัยที่จะจัดตั้งขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ควรพิจารณาความ เหมาะสมและเป็นไปได้ในการปรับปรุงพัฒนาสถาบันเทคโนโลยีแห่งเซีย (AIT) ที่มีอยู่แล้ว เป็นมหาวิทยาลัย อาเซียนด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
.....
