คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) เสนอเกี่ยว
กับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สับปะรด ดังนี้ ให้สถาบันอาหาร เป็นหน่วยงานเจ้าภาพรับผิดชอบยุทธศาสตร์
สับปะรด   และให้นายศักดิ์ณรงค์  อุตสาหกุล  ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยนโยบายและประสานการพัฒนาอุตสาห
กรรม สถาบันอาหาร เป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์สับปะรด (Mr.Pineapple) ในนามของ
สถาบันอาหาร และให้นำแผนพัฒนาอุตสาหกรรมกีวี  (Kiwi fruit)  (ระบบ CEO)  ที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความ
เห็นชอบมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมสับปะรดต่อไป   พร้อมทั้งให้มีการปรับปรุงใน
ส่วนขององค์ประกอบของคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติให้เหมาะสมกับภารกิจ  และให้
สำนักงบประมาณสนับสนุนงบประมาณแก่สถาบันอาหาร   และให้ดำเนินการต่อไปได้   โดยให้รับความเห็น
ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควร
มอบหมายให้สถาบันอาหารร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางและขอบเขตการปฏิบัติ รวมทั้งรูป
แบบบริหารจัดการที่เหมาะสม  โดยควรให้ความสำคัญกับการดำเนินการบริหารจัดการเครือข่ายวิสากิจของ
อุตสาหกรรมสับปะรดให้เข้มแข็ง  เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดต่างประเทศ  ไปพิจารณาด้วย
ทั้งนี้  ในส่วนของงบประมาณสนับสนุนในการดำเนินการพัฒนาและแก้ไขปัญหาสับปะรดอย่างครบวงจร ให้
จัดทำเป็นแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี  เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติจริง   และ
เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาตามความจำเป็นที่จะต้องเร่งดำเนินการอีกครั้ง  ตามความเห็นของสำนักงบ
ประมาณ

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอขอก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ 
รายการค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างโครงการระบายน้ำบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ    จังหวัดสมุทร
ปราการ  โดยยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2541  เรื่อง การปรับปรุง 
แก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ    และมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง 
เพื่อการผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการระบายน้ำบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ  ราย
การค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง  ซึ่งงบประมาณในปีแรกไม่ถึงร้อยละ 20 ของวงเงินรายจ่ายงบประ
มาณทั้งสิ้นของรายการดังกล่าว   และใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เพิ่มเติม ราย
การค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างฯ จำนวน 2.97 ล้านบาท ซึ่งสำนักงบประมาณได้เห็นชอบให้ใช้เงิน
เหลือจ่ายของกรมชลประทาน  ในปีงบประมาณ  พ.ศ. 2548 แล้ว  รวมทั้งให้ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ  
ตามนัยพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502  และที่แก้ไขเพิ่มเติม  (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2534 มาตรา 
23

             คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ รับทราบรายงานผลการปฏิบัติ
ตามมาตรา  13  แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี  พ.ศ. 2548  โดย
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ดำเนินการรวบรวมมติคณะรัฐมนตรีหรือคำสั่งของนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวกับ
การบริหารราชการ   หรือข้าราชการที่ออกโดยมิได้อาศัยอำนาจตามกฎหมาย   ในช่วงรัฐบาลพันตำรวจโท
ทักษิณ ชินวัตร (ตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2544-23 มีนาคม 2548) สรุปได้ว่า  มีมติคณะรัฐมนตรีจำนวน
ทั้งสิ้น 143 มติ จำแนกเป็น เรื่องการบริหารราชการ 111 มติ และเรื่องข้าราชการ  32  มติ  โดยให้คงไว้ซึ่ง
มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวกับการบริหารราชการ  หรือข้าราชการที่ออกโดยมิได้อาศัยอำนาจตามกฎหมายใด
จำนวน 84 มติ  และเห็นชอบให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี จำนวน  9  มติ  และมอบหมายให้สำนักเลขาธิการ
คณะรัฐมนตรีดำเนินการปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรี จำนวน 50 มติ

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยปรับปรุง
หลักเกณฑ์การจ่ายเงินทดแทนกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน  กรณีเข้ารับการรักษา
พยาบาลในสถานพยาบาลของเอกชนให้ได้รับค่ารักษาพยาบาลเต็มจำนวนเท่าที่จ่ายจริงตามมติของที่ประชุม
คณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ครั้งที่ 4/2548 เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2548

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอแผนนิติบัญญัติ พ.ศ. 2548 
-2551  ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้หารือกับกระทรวงต่าง ๆ  และจัดทำแผน ฯ ดังกล่าวเสร็จแล้ว 
โดยกระทรวงต่าง ๆ เสนอว่า  ควรมีการปรับปรุงแก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายระดับพระราชบัญญัติ จำนวน 362 
ฉบับ  พระราชกฤษฎีกา  จำนวน  614  ฉบับ  กฎกระทรวง  จำนวน  261  ฉบับ   และระเบียบ  ข้อบังคับและ
ประกาศ จำนวน 83 ฉบับ  ในการนี้  สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้เสนอแผน ฯ ดังกล่าว ต่อรองนายก
รัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) และได้มีการพิจารณาร่วมกันระหว่างสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีกับสำนัก
งานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6.2 (ฝ่าย
กฎหมาย  ฯ) ที่มีมติเกี่ยวกับการโอนย้ายองค์การฟอกหนัง สังกัดกระทรวงกลาโหม ไปสังกัดกระทรวงอุตสาห
กรรม ตามข้อเสนอของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยเห็นควรให้ระงับการดำเนินการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง
องค์การฟอกหนัง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....  ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตาม
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  26  สิงหาคม  2546 ไว้ก่อน เพื่อให้สอดคล้องกับการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจในภาพรวม
ใหม่ทั้งระบบ  และให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับการปรับปรุงประสิทธิภาพ
ขององค์การฟอกหนังไปดำเนินการต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) เสนอโครง
การพัฒนาพื้นที่ประสบธรณีพิบัติภัยพื้นที่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่  ของกรมโยธาธิการและผังเมือง  โดยได้จัด
ทำแผนผังพัฒนาพื้นที่เพื่อปรับปรุงฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน  และสภาพแวดล้อมในพื้นที่เกาะพีพี  บริเวณอ่าว
โละดาลัม และอ่าวต้นไทร และทำการออกแบบเบื้องต้นทางเท้า ทางหนีภัย  และภูมิทัศน์  โดยประมาณการ
งบประมาณค่าก่อสร้างเบื้องต้นรวมทั้งสิ้น 259,199,000 บาท  ทั้งนี้  คณะรัฐมนตรีเห็นว่า  ราคาต่อหน่วย
และวงเงินค่าก่อสร้างของโครงการดังกล่าวสูงมาก  จึงให้รองนายกรัฐมนตรี  (นายพินิจ  จารุสมบัติ)  รับไป
พิจารณาทบทวนรายละเอียดและความจำเป็นเหมาะสมของราคาต่อหน่วยร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (กรม
โยธาธิการและผังเมือง) สำนักงบประมาณ  และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง  โดยอาจหารือรองนายกรัฐมนตรี
(นายสุวัจน์  ลิปตพัลลภ)  ด้วย    และควรพิจารณาใช้วัสดุที่เหมาะสมกับภูมิประเทศ  และเป็นวัสดุที่ผลิตใน
ประเทศเป็นหลัก   เช่น   อิฐบล๊อค   ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้คิดค้นและพัฒนาขึ้น    ซึ่งจะ
ประหยัดการใช้ซิเมนต์ได้มาก  เป็นต้น   แล้วให้กรมโยธาธิการและผังเมืองขอทำความตกลงในรายละเอียด
กับสำนักงบประมาณ  เพื่อดำเนินโครงการต่อไป   โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. 2548    งบกลาง    รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น    ตามความเห็นของสำนักงบ
ประมาณ  และให้รับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่เห็นว่า การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน
และสภาพแวดล้อมในพื้นที่เกาะพีพี ควรคำนึงถึงการออกแบบก่อสร้างที่กลมกลืนกับสภาพธรรมชาติ  และ
ควรปลูกต้นไม้ท้องถิ่น เพื่อให้มีสุนทรียภาพ และภูมิทัศน์ที่สวยงาม  สร้างบรรยากาศที่น่าประทับใจแก่นัก
ท่องเที่ยว    และความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  ที่เห็นควร
ให้กรมโยธาธิการและผังเมืองเร่งประชาสัมพันธ์ และสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนในพื้นที่ถึงผล
ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับตามพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ พ.ศ. 2547  ไปประกอบการ
ดำเนินการด้วย    สำหรับวิธีดำเนินโครงการนั้น เห็นว่า  ไม่มีความจำเป็นต้องใช้วิธีจ้างเหมาแบบ Turnkey 
และวิธีพิเศษ    และให้ใช้วิธีสำรวจออกแบบควบคู่ไปกับการดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนใน
พื้นที่   ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ    และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม    และ
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) ประสาน และพิจารณาร่วมกับกระทรวง
มหาดไทย  เพื่อให้การก่อสร้างดังกล่าวไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสภาพภูมิทัศน์บริเวณแนวชาย
หาดของเกาะด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทย (กรมโยธาธิการและผังเมือง)
เสนอโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณประสบธรณีพิบัติภัยในพื้นที่ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า  จังหวัดพังงา
เพื่อพัฒนาและปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐาน (ถนน) ในการเชื่อมโยงระหว่างบริเวณชายหาดกับถนน
เพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ประกอบด้วย โครงการปรับปรุงพื้นที่บ้านบางเนียง-เขาหลัก วงเงิน
20,139,200 บาท  และโครงการปรับปรุงฟื้นฟูพื้นที่บริเวณแหลมปะการัง วงเงิน  100,187,600  บาท
สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการดังกล่าว ให้กรมโยธาธิการและผังเมืองใช้จ่ายจากงบ
ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือ
จำเป็นโดยขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่งเมื่อได้ดำเนินการสำรวจและ
ออกแบบเสร็จสิ้น  และมีความชัดเจนในเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินในเขตก่อสร้างแล้ว  ตามความเห็นของสำนัก
งบประมาณ

           คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง
การลดอัตราอากรและการยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกา
กร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) โดยมีสาระสำคัญคือ ปรับลดอัตราอากรสินค้าสำเร็จรูปที่นำเข้ามาเพื่อใช้
สวมใส่เพื่อความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงาน และยังไม่มีผลิตในประเทศ ตามประเภทย่อย 6210.10,
6210.20,  6210.30,  6211.33,  6211.39,  6211.43  และ  6211.49   จากเดิมอัตราอากรร้อย
ละ 60 เหลือร้อยละ 10  โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้น
ไป และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี
ตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ อนุมัติในหลักการให้สำนักงาน ก.พ. เบิกค่าใช้จ่ายในการย้ายสถานที่
ทำการปรับปรุงพื้นที่ และระบบต่าง ๆ จากงบประมาณปี พ.ศ. 2548 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย
เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในวงเงิน 150 ล้านบาท  โดยให้สำนักงาน ก.พ. ทำความตกลงในราย
ละเอียดกับสำนักงบประมาณตามความเหมาะสม  จำเป็น  และโดยประหยัดต่อไป   ตามความเห็นของ
สำนักงบประมาณ  กับอนุมัติให้สำนักงาน ก.พ. จัดซื้อจัดจ้างเพื่อการดังกล่าว โดยให้ยกเว้นการปฏิบัติ
ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย  และให้สำนัก
งานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีใช้พื้นที่อาคารของสำนักงาน ก.พ.  สำหรับหน่วยงานบางส่วนของสำนัก
เลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่ต้องย้าย  ก็ให้ขอใช้พื้นที่ของสำนักงาน  ก.พ.ร.  ทั้งนี้  ให้ประสานกันในราย
ละเอียด และดำเนินการต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ประธานคณะกรรมการพิจารณาค่าใช้จ่าย
เพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ  (59,000  ล้านบาท) เสนอ ดังนี้  
รับทราบโครงการที่เสนอขอใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548  งบกลาง  รายการค่าใช้
จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ รวม 2 โครงการ วงเงินทั้งสิ้น 
43,936,600  บาท  ตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพ
การแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ  ประกอบด้วย โครงการบูรณะและปรับปรุงทางหลวงเพื่อรอง
รับนิคมอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล   จังหวัดปัตตานี    และโครงการวางผังเมืองและผังเฉพาะชุมชนชายแดน 
และอนุมัติโครงการที่สมควรเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 งบกลาง ราย
การค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ   รวม  3  โครงการ 
วงเงินทั้งสิ้น  431,400,000  บาท  ตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริม
สร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ  ประกอบด้วย โครงการจัดหาน้ำให้นิคมอุตสา
หกรรมอาหารฮาลาล  จังหวัดปัตตานี  โครงการปรับปรุงทัศนียภาพบึงทุ่งสร้าง  จังหวัดขอนแก่น และโครง
การก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมเทศบาลเมืองแม่สอด  ระยะที่ 1 จังหวัดตาก  ทั้งนี้  เพื่อให้การดำเนินโครง
การเป็นไปอย่างต่อเนื่องและสนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาล  ให้หน่วยงานที่ได้รับงบประมาณรายการดัง
กล่าวกันเงินไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปี  จนถึงสิ้นปีงบประมาณ  พ.ศ.  2549  โดยให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะ
รัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2548  เรื่อง การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ (รายจ่ายลงทุน) ประจำปี 
พ.ศ.  2548  และการเตรียมการสำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปี  พ.ศ. 2549  และให้รัฐมนตรีผู้กำกับ
ดูแล  ติดตามเร่งรัดการดำเนินโครงการที่ได้รับอนุมัติวงเงินดังกล่าวด้วย    สำหรับโครงการบูรณะและปรับ
ปรุงทางหลวงเพื่อรองรับนิคมอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล   จังหวัดปัตตานี   และโครงการจัดหาน้ำให้นิคม
อุตสาหกรรมอาหารฮาลาล จังหวัดปัตตานี ซึ่งยังไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีเจ้าสังกัด แต่เนื่องจาก
เป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วน    ให้อนุมัติเป็นกรณีพิเศษและให้ส่วนราชการขอทำความตกลงกับสำนักงบประ
มาณตามขั้นตอนต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอสรุปประเด็นสำคัญ ความคืบหน้า แนวทาง
การดำเนินงานและหน่วยงานรับผิดชอบเพื่อให้เป็นไปตามปฏิญญากรุงเทพ ฯ ในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับ
ประเทศไทย ได้แก่ การปรับปรุงมาตรการโต้ตอบอาชญากรรมและการก่อการร้าย  การป้องกันอาชญากรรม
องค์กรอาชญากรรม  อาชญากรรมคอมพิวเตอร์  การคุ้มครองพยานและเหยื่ออาชญากรรม  การส่งเสริมการ
เข้าถึงความยุติธรรม การค้ายาเสพติด การต่อต้านการก่อการร้าย  การต่อต้านการคอร์รัปชั่น  อาชญากรรม
ทางเศรษฐกิจและการเงิน   รวมไปถึงการฟอกเงิน  มาตรฐานและแบบแผนการจัดการทัณฑสถานและนักโทษ
กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์   กระบวนการยุติธรรมสำหรับเด็กและเยาวชน   และให้หน่วยงานที่เกี่ยว
ข้องเร่งรัดดำเนินการให้เป็นไปตามปฏิญญากรุงเทพ ฯ   และรายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานอย่างต่อ
เนื่องทุก 6 เดือน โดยกระทรวงยุติธรรมเป็นเจ้าภาพในการประสาน ติดตาม และสรุปผลการดำเนินงานเสนอ
ต่อคณะรัฐมนตรี

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) รายงานการแก้ไข
ปัญหาภัยแล้งทั้งระบบในภาพรวมในพื้นที่จังหวัดระยอง  ชลบุรี   และฉะเชิงเทรา  ณ  วันที่ 17 กรกฎาคม 
2548   ในส่วนของจังหวัดระยอง  อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหลและท่าดอกกราย มีปริมาณน้ำในอ่างรวมกัน 
26.30   ล้านลูกบาศก์เมตร   สามารถรองรับการใช้น้ำในกรณีที่ไม่มีฝนตกได้ถึงสิ้นเดือนสิงหาคม  2548 
ได้มีแนวทางในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำโดยแบ่งออกเป็น 3 แผนได้แก่ แผนเร่งด่วน ประกอบด้วย
การวางท่อที่ 1  เพื่อผันน้ำจากแม่น้ำระยองเข้าสู่ระบบต่อของบริษัท อีสท์ วอเตอร์ จำกัด (มหาชน)  การ
วางท่อที่  2  เพื่อผันน้ำจากแม่น้ำระยองเข้าสู่คลองทับมาและคลองหู    เพื่อส่งเข้าสู่ระบบท่อของการนิคม
อุตสาหกรรมมาบตาพุด การขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล  และจัดทำฝนหลวง ส่วนแผนระยะกลาง (ภายในเดือน
กุมภาพันธ์ 2548)  ประกอบด้วย  การวางท่อผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่สู่อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล 
และการวางท่อผันน้ำ จากอ่างเก็บน้ำประแสร์-คลองใหญ่-หนองปลาไหล-การนิคมอุตสาหกรรมมาบตา
พุด และแผน  2 ปี ประกอบด้วย การวางท่อผันน้ำอ่างเก็บน้ำดอกกราย-หนองปลาไหล และการก่อสร้าง
ประตูระบายน้ำแม่น้ำระยอง   พร้อมทั้งขุดลอกแม่น้ำระยองทั้งสาย  ส่วนจังหวัดชลบุรี มีปริมาณน้ำในอ่าง
เก็บน้ำ  จำนวน  8  อ่าง  รวม  24.59  ล้านลูกบาศก์เมตร   สามารถใช้ได้ในกรณีไม่มีฝนตกได้ถึงต้นเดือน
กันยายน  2548  มีแนวทางแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำโดยแบ่งออกเป็น 3 แผน  คือ  แผนเร่งด่วน ประ 
กอบด้วย  การวางท่อส่งน้ำขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 700  มิลลิเมตร จากอ่างเก็บน้ำบางพระไปยังการประ
ปาชลบุรีและการประปาพัทยา  การเร่งรัดการทำฝนเทียม และขุดลอกอ่างเก็บน้ำ แผนระยะสั้น ประกอบ
ด้วย การวางท่อส่งน้ำขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1,400 มิลลิเมตร จากแม่น้ำบางปะกง เพื่อเติมน้ำลงในอ่าง
เก็บน้ำบางพระ  และแผนระยะกลาง 2 ปี  ให้เร่งศึกษาการวางท่อเพิ่มขึ้นอีก 1 ท่อ โดยวางคู่ขนานกับท่อ
เดิม และการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำมาบหวายโสม ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอ บางละมุง จังหวัดชลบุรี  และเพื่อ
ให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน  ได้สั่งการให้ดำเนินการในส่วนอื่นๆ ดังนี้  อ่างเก็บน้ำคลองสียัด  ให้วาง
แผนก่อสร้างฝายยาง ศึกษาโครงการขุดลอกคลองท่าลาด เร่งรัดโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง ดำเนิน
การก่อสร้างโครงการห้วยโสมง    ศึกษาการปรับปรุงโครงการแควระบม   ศึกษาแนวทางป้องกันตลิ่งพัง
ทลายในแม่น้ำบางปะกง   เมื่อโครงการต่างๆ  ในส่วนที่เหลือดำเนินการแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2550 จะ
สามารถแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์น้ำในภาคตะวันออกได้อย่างเป็นระบบและยั่งยืน

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรายงานความคืบ
หน้าในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบพิบัติภัย (สึนามิ) ในพื้นที่จังหวัดพังงา ดังนี้ การจัดทำฐานข้อมูลของ
จังหวัดพังงา  ได้ปรับปรุงฐานข้อมูลผู้ประสบภัยให้เป็นปัจจุบัน  โดยผ่านทาง Website ของกรมป้องกันและ
บรรเทาสาธารณภัย ซึ่งสามารถตรวจสอบและให้ความช่วยเหลืออย่างถูกต้อง อย่างมีประสิทธิภาพ และได้
มอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพรับผิดชอบประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยว
ข้องในการปรับปรุงระบบเบิกจ่าย เพื่อให้สามารถรองรับและเชื่อมโยงทุกหน่วยงานได้ การตรวจพิสูจน์เอก
ลักษณ์บุคคลด้วยวิธีการพันธุกรรม ณ วันที่ 27 มิถุนายน 2548  มีผู้เสียชีวิตที่ส่งพิสูจน์ 3,777 คน  ส่งคืน
ให้ญาติ 1,825 คน  และคงเหลืออีก 1,952 คน  ระบบการเตือนภัยล่วงหน้า  คาดว่า  จะติดตั้งระบบเตือน
ภัยล่วงหน้า (หอกระจายข่าว) ภายในเดือนตุลาคม 2548 จำนวน 2 แห่ง คือ บริเวณวัดพนักนิคม (วัดบาง
เนียง) หมู่ 5 ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา และบริเวณโรงเรียนบ้านน้ำเค็ม  หมู่ 2  ตำบลบาง
ม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ที่เหลืออีก  16  แห่ง  กำลังอยู่ในขั้นตอนขออนุมัติงบกลางปี พ.ศ. 2548
การก่อสร้างที่พักอาศัยบ้านพักถาวรของจังหวัดพังงา  ได้ดำเนินการก่อสร้างบ้านพักถาวรทดแทน 2,399
หลัง  ในเขตอำเภอตะกั่วป่า  คุระบุรี  และท้ายเหมือง  ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว 1,023 หลัง ใน
เขต  3  อำเภอดังกล่าว และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง  1,376  หลัง  การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้พิการและผู้
สูงอายุ ได้ให้ความช่วยเหลือ  343  ราย  ได้รับเบี้ยยังชีพ  11  ราย  การให้ความช่วยเหลือคนพิการ ได้จด
ทะเบียนไว้ 7 ราย และยังไม่จดทะเบียนอีก  33  ราย ส่วนเด็กกำพร้าแยกตามที่พักพิงชั่วคราวที่หน่วยงาน
ภาครัฐเข้าไปให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งสิ้น 224 คน การฟื้นฟูอาชีพแก่ผู้ประสบภัย/แรงงาน ได้จัดส่งกลับ
ภูมิลำเนา   และบริการซ่อมเครื่องมือประกอบอาชีพ  (จักรยานยนต์  เครื่องยนต์  เรือ)  อุปกรณ์ดำรงชีพ
(เครื่องใช้ไฟฟ้า)  เป็นต้น  การฟื้นฟูสถานที่ท่องเที่ยว ได้จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ประสบภัยแล้ว
63  ราย  เป็นเงิน 3,598.70 ล้านบาท คงเหลืออีก  33  ราย  เป็นเงิน  2,651  ล้านบาท  การช่วยเหลือ
เรือและอุปกรณ์  ได้ให้ความช่วยเหลือในกิจการประมง วงเงิน  121,136,489  บาท  เรือท่องเที่ยว วงเงิน
4,127,800 บาท  อุปกรณ์การประมง วงเงิน  7,468,485  บาท  เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ วงเงิน 42,229,490
บาท  และแพปลา วงเงิน 4,670,000 บาท  และการพัฒนาฟื้นฟูและปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐาน ได้
จัดทำโครงการพัฒนาปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐาน  (ถนน)  เพื่อเชื่อมโยงระหว่างบริเวณชายหาดกับ
ถนนเพชรเกษม  (ทางหลวงหมายเลข 4)  เพื่อการคมนาคมขนส่งและการหนีภัย และนำระบบวิธีการจัด
รูปที่ดิน (Land Readjustment) เพื่อพัฒนาฟื้นฟูพื้นที่บริเวณประสบพิบัติภัยในเขตอำเภอตะกั่วป่า

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานผลการดำเนินงานประจำปี
พ.ศ. 2547 ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ซึ่งแบ่งตามผลผลิต 4 ผลผลิต ดังนี้ ผลผลิตที่ 1 เยาวชนและ
ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมกีฬาและมีเครือข่ายกีฬาดำเนินการปลูกจิตสำนึกให้เยาวชนและประชาชนทั่วประเทศ
รักกีฬา ดูกีฬา และเล่นกีฬาอย่างต่อเนื่อง  ผลผลิตที่ 2  ผลสำเร็จในการแข่งขันกีฬาและมีการใช้นวัตกรรมทาง
การกีฬา  ดำเนินการเพิ่มขีดความสามารถของนักกีฬาและบุคลากรกีฬาในการแข่งขัน  เพื่อความเป็นเลิศมีการ
พัฒนาบุคลากรกีฬาการเตรียมและส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันระดับนานาชาติ การพัฒนาและถ่ายทอดวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยีการกีฬาให้แก่นักกีฬาและบุคลากรกีฬาในรูปแบบต่าง ๆ  อย่างมีคุณภาพ มีการพัฒนางานวิจัย
ทางการกีฬาและวิทยาศาสตร์การกีฬา  ผลผลิตที่  3  เพิ่มกีฬาอาชีพและระบบการจัดการแข่งขันกีฬาอาชีพได้
มาตรฐาน  มีการดำเนินการพัฒนานักกีฬา และบุคลากรกีฬาในชนิดกีฬาที่ได้รับความนิยมให้เป็นกีฬาอาชีพที่
ได้มาตรฐานสากล ดำเนินการสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนในการพัฒนาองค์กรกีฬาอาชีพอย่างเป็นระบบ
ให้มีความเข้มแข็งสามารถบริหารจัดการได้ภายใต้ระเบียบ  ข้อบังคับ  และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง   มีการส่งเสริม
สนับสนุนกีฬาอาชีพ และผลผลิตที่ 4 ระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพรวดเร็ว คล่องตัวและตรวจสอบ
ได้มีการดำเนินการปรับปรุงพัฒนาโครงสร้างระบบบริหารจัดการ  และกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ
ยืดหยุ่น  ทันสมัย  รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรให้เป็นมืออาชีพและมีการประเมินผลงานที่ชัดเจน
มีการพัฒนาระบบการบริหารจัดการของหน่วยงาน  จัดทำแผน   และติดตามประเมินผลหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนดำเนินการพัฒนารูปแบบในการระดมทุน  และสร้างรายได้  โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์
สูงสุด รวมทั้งการพัฒนาแผนการตลาดด้านกีฬา โดยที่ กกท. ได้รับจัดสรรงบประมาณในการดำเนินแผนงาน
/โครงการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 จำนวน  1,466,746,000  บาท  เพื่อดำเนินงานตามผลผลิต  2  ผล
ผลิต ได้แก่ ผลผลิตที่ 1 การพัฒนากีฬาอาชีพเพื่อความเป็นเลิศ  งบประมาณ 1,416,500,000 บาท  และผล
ผลิตที่ 2 การพัฒนาเพื่อการอาชีพ งบประมาณ 50,246,000 บาท

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6.2 (ฝ่ายกฎ
หมาย  ระบบราชการและการประชาสัมพันธ์) ที่มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอการปรับปรุงค่าตอบ
แทนและสิทธิประโยชน์ของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน  รวมทั้งค่าใช้จ่ายเพื่อการปรับปรุงดังกล่าวจำนวนทั้ง
สิ้น 236,773,320 บาท  โดยให้กระทรวงมหาดไทยใช้เงินเหลือจ่ายไปดำเนินการหรือปรับแผนการใช้จ่ายจาก
งบประมาณที่ได้รับไปสนับสนุนดำเนินการเพิ่มเติมก่อนในโอกาสแรก หากยังไม่เพียงพอให้ขอทำความตกลงใน
รายละเอียดกับสำนักงบประมาณโดยตรงภายในวงเงินค่าใช้จ่ายและวิธีการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
และให้กระทรวงมหาดไทยประสานกับสำนักงบประมาณเพื่อแปรญัตติสำหรับงบประมาณปี พ.ศ. 2549 ต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6.2 (ฝ่าย
กฎหมาย  ระบบราชการ  และประชาสัมพันธ์) ที่มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอแนวทางการแก้ไข
ปัญหาให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวง  ทบวง  กรม  ใหม่   โดยให้ส่วนราชการ
จัดทำบัญชีรายชื่อและตำแหน่งของบุคคลที่ได้รับผลกระทบ ฯ ที่ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งรวมไว้ที่สำนักงานปลัด
กระทรวง ฯ  และเมื่อมีตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูงเชี่ยวชาญเฉพาะ และบริหารระดับกลางว่างลงในส่วน
ราชการใดภายในกระทรวงนั้น  ให้สำนักงานปลัดกระทรวง  ฯ  นำบัญชีดังกล่าวมาใช้ประกอบการพิจารณา
แต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งที่ว่างนั้นในโอกาสแรกที่กระทำได้  และให้สำนักงานปลัดกระทรวง ฯ  รายงาน
ผลการดำเนินการแต่งตั้งบุคคลที่ได้รับผลกระทบ ฯ  ตลอดจนกรณีที่ส่วนราชการไม่สามารถดำเนินการตาม
ที่กำหนดไว้ได้   โดยทำหนังสือชี้แจงเหตุผลไปยังสำนักงาน ก.พ.  เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป
และให้บุคคลที่ได้รับผลกระทบ ฯ   ยังคงได้รับเงินตอบแทนพิเศษจนกว่าจะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
ที่ได้รับเงินประจำตำแหน่ง หรือเกษียณอายุราชการ เพื่อเป็นการรักษาสิทธิประโยชน์ของข้าราชการที่ได้รับ
ผลกระทบ ฯ และให้ส่วนราชการรายงานผลการปฏิบัติงาน และผลการประเมินสมรรถนะของบุคคลที่ได้รับ
ผลกระทบ ฯ  แจ้งให้สำนักงาน ก.พ. ทราบเป็นรายปี  เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการตรวจสอบการมอบหมายงาน
และการปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมาย    การดำเนินการแต่งตั้งบุคคลของส่วนราชการ     ตลอดจนการ
พัฒนาสมรรถนะเพิ่มเติมให้กับบุคคลที่ได้รับผลกระทบ  ฯ   รวมทั้งการให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษตามหลัก
การดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ ให้สำนักงาน ก.พ. รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ  เกี่ยวกับการ
ปรับปรุงโครงสร้างกระทวง ทบวง กรม ครั้งใหม่ ซึ่งจะดำเนินการในเร็ว ๆ นี้  คาดว่า  จะมีผู้ได้รับผลกระทบ
ในลักษณะเดียวกันอีกจึงควรพิจารณากำหนดมาตรการรองรับในเรื่องนี้โดยควรพิจารณาด้วยว่าเจตนารมณ์
ของการให้มีเงินประจำตำแหน่งก็เพื่อจ่ายให้กับบุคคลที่ดำรงตำแหน่งนั้น ๆ จึงมิใช่สิทธิที่บุคคลจะได้รับแม้
ไม่ดำรงตำแหน่งที่กำหนด ไปพิจารณาดำเนินการร่วมกับสำนักงาน ก.พ.ร. ต่อไปด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอให้องค์การแบตเตอรี่ต่ออายุสัญญากู้เบิก
เงินเกินบัญชีจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ภายในวงเงิน 30 ล้านบาท ต่อไปอีก 1 ปี  ตั้งแต่วันที่
16 กรกฎาคม 2548  ถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2549   โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน  ทั้งนี้  ให้
กระทรวงกลาโหมในฐานะกระทรวงเจ้าสังกัดเข้ากำกับดูแลการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานของ
องค์การ ฯ อย่างใกล้ชิด แล้วรายงานคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ ตามความเห็นของกระทรวงการคลังด้วย

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6.2 (ฝ่ายกฎ
หมาย  ระบบราชการและการประชาสัมพันธ์) ที่มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอการปรับปรุงค่าตอบ
แทนและสิทธิประโยชน์ของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน  รวมทั้งค่าใช้จ่ายเพื่อการปรับปรุงดังกล่าวจำนวนทั้ง
สิ้น 236,773,320 บาท  โดยให้กระทรวงมหาดไทยใช้เงินเหลือจ่ายไปดำเนินการหรือปรับแผนการใช้จ่ายจาก
งบประมาณที่ได้รับไปสนับสนุนดำเนินการเพิ่มเติมก่อนในโอกาสแรก หากยังไม่เพียงพอให้ขอทำความตกลงใน
รายละเอียดกับสำนักงบประมาณโดยตรงภายในวงเงินค่าใช้จ่ายและวิธีการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
และให้กระทรวงมหาดไทยประสานกับสำนักงบประมาณเพื่อแปรญัตติสำหรับงบประมาณปี พ.ศ. 2549 ต่อไป