คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) รายงานสรุปผลการ
ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรณีพิบัติ จังหวัดกระบี่ โดยได้เดินทางไปตรวจราชการและติดตามผลการ
ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ฯ  เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2548  ได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินการ
ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ฯ   และได้สั่งการในการให้ความช่วยเหลือแก่ราษฎรผู้ประสบภัย ฯ  โดยแนะนำให้ส่ง
เสริมอาชีพการเลี้ยงหอยมุก การร้อยสร้อยไข่มุก หรืองานอาชีพอื่น ๆ  ที่ใช้เทคโนโลยีส่วนการให้ความช่วย
เหลือผู้ประกอบอาชีพการประมง  กลุ่มเลี้ยงปลากระชัง   ควรพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามความเสียหาย
จริงตามที่ผู้ประกอบการร้องขอแต่ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน  และกลุ่มเรือ Speed Boat  บริการนักท่องเที่ยว
ให้จังหวัดรวบรวมข้อมูลส่งรายงานไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม การควบคุมแผงลอยบนเกาะพีพี
ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมอย่างใกล้ชิด และให้ดูแลความสะอาดบนเกาะพีพีให้มากขึ้น รวมทั้งให้เร่งรัด
การของบประมาณค่าเรือบรรทุกขยะ   ตลอดจนควบคุมการออกเลขที่บ้านบนเกาะพีพี โดยห้ามมิให้มีการ
ออกเลขที่บ้านเพิ่มเติมโดยเด็ดขาดจนกว่าจะมีรูปแบบลงตัวและให้เร่งรัดการปลูกต้นไม้ให้มีความร่มรื่นสวย
งามทั้วบริเวณเกาะพีพี    ให้คณะกรรมการของจังหวัดกระบี่พิจารณาทบทวนสถานที่ก่อสร้างโรงเรียนเกาะ
พีพีและพิจารณาแบบแปลนที่เหมาะสมตามสภาพพื้นที่อีกครั้ง  สำหรับการสร้างแนวถนนเพื่อเป็นเส้นทาง
ปลอดภัยบนเกาะพีพี    ให้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเร่งออกแบบ
และดำเนินการ     โดยยกเลิกแบบแปลนของโยธาธิการไปก่อน    นอกจากนี้    ได้สั่งกำชับให้ผู้ว่าราชการ
จังหวัดกระบี่   จัดกำลังชุดเฉพาะกิจตรวจสอบเรื่องเสื้อชูชีพประจำเรือตามที่กฎหมายกำหนดให้มีไว้บริการ
นักท่องเที่ยว สำหรับเรือทุกลำทุกประเภท ให้จับกุมปราบปรามกรณีทิ้งขยะลงในทะเล  การกระทำให้เกิด
มลภาวะ การบรรทุกนักท่องเที่ยวเกินพิกัด และไม่มีใบอนุญาตขับขี่เรือ ผู้ฝ่าฝืนให้จับกุม  และให้นำออกไป
จากเกาะ   โดยที่จังหวัดเห็นว่า  ควรเร่งรัดการออกแบบและดำเนินการปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์บนเกาะพีพี
โดยเร่งด่วนเพื่อรองรับฤดูกาลท่องเที่ยวที่ใกล้จะถึง สำหรับเรื่องอุทธรณ์ของกลุ่มเลี้ยงปลาในกระชัง  เนื่อง
จากคณะกรรมการของจังหวัดเห็นว่า  ความเสียหายด้านพันธุ์ปลาไม่สามารถตรวจสอบได้  จึงให้ความช่วย
เหลือเฉพาะอุปกรณ์เท่านั้น

           คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอการปรับปรุงชื่อ องค์ประกอบ และอำนาจหน้าที่
ของคณะกรรมการจัดงานสัปดาห์ความปลอดภัยในการทำงาน โดยเปลี่ยนชื่อจาก "คณะกรรมการจัดงานสัปดาห์
ความปลอดภัยในการทำงาน" เป็น "คณะกรรมการส่งเสริมความปลอดภัยในการทำงาน" และปรับโครงสร้างคณะ
กรรมการ รวมทั้งอำนาจหน้าที่ให้ครอบคลุมการรณรงค์ส่งเสริมความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในทุกเรื่อง  ทั้งนี้
ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

                  คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการประชุมหารือร่วมกันกับ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่อง การขุดลอกคลองและการนำดินขึ้นมาใช้ประโยชน์ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2548 
ณ   ทำเนียบรัฐบาล  โดยที่ประชุมได้มีมติให้กรมธนารักษ์ปรับแก้กฎหมายหรือระเบียบกระทรวงการคลัง 
เพื่อให้สามารถถือปฏิบัติตามนโยบายขุดลอกได้  เช่น ที่ดินในเขตชลประทาน ที่ราชพัสดุที่เป็นกรรมสิทธิ์
ของกรมธนารักษ์ ฯลฯ โดยให้เอกชนสามารถนำดินหรือทรายที่ขุดลอกได้ไปใช้ประโยชน์และให้เร่งดำเนิน
การโดยเร็ว   ส่วนหน่วยงานที่มีพื้นที่ที่สามารถจะขุดลอกได้  เช่น  กรมป่าไม้ กรมอุทยานฯ  มอบให้ผู้ช่วย
รัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับไปดำเนินการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและ
ระเบียบต่อไป และให้ทุกส่วนราชการที่มีหน้าที่ดูแลและรักษาที่ดินในความรับผิดชอบ มอบอำนาจให้ผู้ว่า
ราชการจังหวัดดำเนินการเช่นเดียวกับกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีเพื่อให้ถือปฏิบัติตามระเบียบ
กระทรวงมหาดไทย  ว่าด้วยวิธีการเกี่ยวกับการขุดลอกแหล่งน้ำสาธารณประโยชน์ที่ตื้นเขิน  พ.ศ.  2547 
ได้ โดยให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช) เป็นผู้กำกับดูแลนโยบาย
ขุดลอกดังกล่าว เพื่อบูรณาการขุดลอกได้ทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงแรงงานเสนอคำสั่งกระทรวงแรงงานที่ 119/2548 เรื่อง
แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาจัดโครงสร้างระบบการขนส่งแรงงานไทยไปต่างประเทศ  โดยมี  พลเอก ธนู
ศรียากูล เป็นประธานกรรมการ  และมีนายมนูญ  ปุญญกริยากร  เป็นกรรมการและเลขานุการ  มีอำนาจ
หน้าที่พิจารณาจัดโครงสร้างระบบการส่งแรงงานไทยไปต่างประเทศ รวมถึงการปรับปรุงแก้ไขกฎ ระเบียบ
ข้อบังคับ    ตลอดจนกระบวนการดำเนินงานของรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการ
ร้องขอความเป็นธรรม  รับและตรวจสอบเรื่องร้องเรียนซึ่งเกี่ยวกับระบบการส่งแรงงานไทยไปต่างประเทศ
เรียกหรือเชิญเจ้าหน้าที่บุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ หรือให้จัดส่งเอกสารที่เป็นประโยชน์  หรือเกี่ยวข้อง
เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2548 เป็นต้นไป

           คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอการปรับปรุงชื่อ องค์ประกอบ และอำนาจหน้าที่
ของคณะกรรมการจัดงานสัปดาห์ความปลอดภัยในการทำงาน โดยเปลี่ยนชื่อจาก "คณะกรรมการจัดงานสัปดาห์
ความปลอดภัยในการทำงาน" เป็น "คณะกรรมการส่งเสริมความปลอดภัยในการทำงาน" และปรับโครงสร้างคณะ
กรรมการ รวมทั้งอำนาจหน้าที่ให้ครอบคลุมการรณรงค์ส่งเสริมความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในทุกเรื่อง  ทั้งนี้
ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

             คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ เห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) เสนอกรอบยุทธ
ศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดสามเหลี่ยมอันดามันของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติ และเห็นชอบในหลักการโครงการพัฒนาระยะเร่งด่วน  6  โครงการ และระยะปานกลาง  3  โครงการ
โดยให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการเกี่ยวกับการควบคุมดูแล แก้ไข ปรับปรุง และพัฒนาท่าเรือเพื่อรองรับการ
ท่องเที่ยวในจุดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น เกาะลันตา เป็นต้น ให้มีความเหมาะสม ทันสมัย และปลอดภัย
โดยในส่วนของจังหวัดภูเก็ตควรส่งเสริมให้มีการสร้างท่าเรือที่ทันสมัย  เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการให้บริการการ
ท่องเที่ยวทางทะเล (Marina Hub) สำหรับการแก้ไขปัญหาน้ำเพื่อการอุปโภคของกลุ่มจังหวัดสามเหลี่ยมอันดา
มัน ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) เป็นเจ้าภาพในเรื่องนี้  โดยในขั้นต้นให้เร่งดำเนินการในส่วน
ของการแก้ไขปัญหาน้ำในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญต่าง ๆ  ที่มีแนวโน้มจะเกิดการขาดแคลนอย่างมากในอนาคต
ก่อน  และให้รองนายกรัฐมนตรี  (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ)  เป็นเจ้าภาพในการพิจารณาและดำเนินการพัฒนา
โครงข่ายคมนาคมขนส่งทางบกในพื้นที่ โดยออกแบบให้เหมาะสม สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริง ความจำเป็น
ใช้งาน และเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และภูมิประเทศในแต่ละกรณี โดยให้รวมถึงโครงการของกระทรวงคมนาคม
ทั้งนี้ ให้แยกความแตกต่างระหว่างถนน ระหว่างจังหวัด  ถนนในแหล่งชุมชน  (local road)  หรือถนนที่ตัดผ่าน
หรือไปยังแหล่งท่องเที่ยว  โดยเฉพาะในกรณีโครงการพัฒนาถนนหมายเลข 4 ช่วงพังงา-กระบี่  ในส่วนที่ผ่าน
เขตชุมชนควรลดขนาดลง และมีทางเท้าสำหรับส่วนที่ผ่านแหล่งท่องเที่ยว  รวมทั้งให้กระทรวงทรัพยากรธรรม
ชาติและสิ่งแวดล้อมรับไปพิจารณาดำเนินการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสภาพธรรมชาติ เช่น  กรณีปะการัง  โดย
เน้นการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความเข้าใจที่ถูกต้อง และขอความร่วมมือจากประชาชนและนักท่องเที่ยวในการ
ช่วยกันดูแล  และไม่ทำให้ปะการังเกิดความเสียหาย  ตามความเห็นของคณะรัฐมนตรี  และเห็นชอบกรอบยุทธ
ศาสตร์การพัฒนาจังหวัดพังงา  ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  และเห็น
ชอบในหลักการโครงการแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วน 31 โครงการ ระยะปานกลาง 2 โครงการ โดยให้กระทรวง
คมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาดำเนินการโครงการปรับปรุงและพัฒนาเส้นทางคมนาคมต่าง ๆ
ของจังหวัดพังงาให้เหมาะสมกับความจำเป็นและสภาพพื้นที่ในแต่ละกรณี   และให้กระทรวงสาธารณสุขรับไป
พิจารณาสนับสนุนงบประมาณเพื่อปรับปรุง พัฒนาโรงพยาบาลท้ายเหมือง  เป็นกรณีพิเศษ  เพื่อให้พร้อมรับ
สถานการณ์ฉุกเฉิน ตามความเห็นของคณะรัฐมนตรี ไปดำเนินการด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ เห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) เสนอกรอบยุทธ
ศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดสามเหลี่ยมอันดามันของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติ และเห็นชอบในหลักการโครงการพัฒนาระยะเร่งด่วน  6  โครงการ และระยะปานกลาง  3  โครงการ
โดยให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการเกี่ยวกับการควบคุมดูแล แก้ไข ปรับปรุง และพัฒนาท่าเรือเพื่อรองรับการ
ท่องเที่ยวในจุดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น เกาะลันตา เป็นต้น ให้มีความเหมาะสม ทันสมัย และปลอดภัย
โดยในส่วนของจังหวัดภูเก็ตควรส่งเสริมให้มีการสร้างท่าเรือที่ทันสมัย  เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการให้บริการการ
ท่องเที่ยวทางทะเล (Marina Hub) สำหรับการแก้ไขปัญหาน้ำเพื่อการอุปโภคของกลุ่มจังหวัดสามเหลี่ยมอันดา
มัน ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) เป็นเจ้าภาพในเรื่องนี้  โดยในขั้นต้นให้เร่งดำเนินการในส่วน
ของการแก้ไขปัญหาน้ำในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญต่าง ๆ  ที่มีแนวโน้มจะเกิดการขาดแคลนอย่างมากในอนาคต
ก่อน  และให้รองนายกรัฐมนตรี  (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ)  เป็นเจ้าภาพในการพิจารณาและดำเนินการพัฒนา
โครงข่ายคมนาคมขนส่งทางบกในพื้นที่ โดยออกแบบให้เหมาะสม สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริง ความจำเป็น
ใช้งาน และเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และภูมิประเทศในแต่ละกรณี โดยให้รวมถึงโครงการของกระทรวงคมนาคม
ทั้งนี้ ให้แยกความแตกต่างระหว่างถนน ระหว่างจังหวัด  ถนนในแหล่งชุมชน  (local road)  หรือถนนที่ตัดผ่าน
หรือไปยังแหล่งท่องเที่ยว  โดยเฉพาะในกรณีโครงการพัฒนาถนนหมายเลข 4 ช่องพังงา-กระบี่  ในส่วนที่ผ่าน
เขตชุมชนควรลดขนาดลง และมีทางเท้าสำหรับส่วนที่ผ่านแหล่งท่องเที่ยว  รวมทั้งให้กระทรวงทรัพยากรธรรม
ชาติและสิ่งแวดล้อมรับไปพิจารณาดำเนินการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสภาพธรรมชาติ เช่น กรณีปะกัง โดยเน้น
การประชาสัมพันธ์   เผยแพร่ความเข้าใจที่ถูกต้อง   และขอความร่วมมือจากประชาชนและนักท่องเที่ยวในการ
ช่วยกันดูแล  และไม่ทำให้ปะการังเกิดความเสียหาย  ตามความเห็นของคณะรัฐมนตรี  และเห็นชอบกรอบยุทธ
ศาสตร์การพัฒนาจังหวัดพังงา  ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  และเห็น
ชอบในหลักการโครงการแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วน 31 โครงการ ระยะปานกลาง 2 โครงการ โดยให้กระทรวง
คมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาดำเนินการโครงการปรับปรุงและพัฒนาเส้นทางคมนาคมต่าง ๆ
ของจังหวัดพังงาให้เหมาะสมกับความจำเป็นและสภาพพื้นที่ในแต่ละกรณี   และให้กระทรวงสาธารณสุขรับไป
พิจารณาสนับสนุนงบประมาณเพื่อปรับปรุง พัฒนาโรงพยาบาลท้ายเหมือง  เป็นกรณีพิเศษ  เพื่อให้พร้อมรับ
สถานการณ์ฉุกเฉิน ตามความเห็นของคณะรัฐมนตรี ไปดำเนินการด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
การเปลี่ยนแปลงรายการในงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548  ของกรมทรัพยากรน้ำ
บาดาล  จากโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาลของระบบประปาเพื่อให้ได้มาตรฐานน้ำดื่มขององค์การ
อนามัยโลกเป็นโครงการพัฒนาและปรับปรุงระบบกระจายน้ำเพื่อรองรับปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค
บริโภค ภายในวงเงินงบประมาณ  290,340,000  บาท  โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด
ล้อมดำเนินการ และให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลดำเนินการภายใต้กรอบงบประมาณที่ได้รับอนุมัติไว้แล้ว 
จำนวน 313,605,000 บาทในโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาลของระบบประปาเพื่อให้ได้มาตรฐาน
น้ำดื่มขององค์การอนามัยโลก   รวมทั้งให้ปฏิบัติงานในภารกิจเกี่ยวกับการขุดบ่อน้ำบาดาลที่ได้ถ่ายโอน
ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว    โดยให้ประสานการดำเนินการ และตรวจสอบข้อมูลกับกระทรวง
มหาดไทย เพื่อมิให้เกิดความซ้ำซ้อนเกี่ยวกับพื้นที่ดำเนินโครงการและประสานกับคณะกรรมการกระจาย
อำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อพิจารณาดำเนินการให้มีความสอดคล้องกับพระราชบัญญัติ
กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542  ตามความเห็น
ของกระทรวงมหาดไทยต่อไป   และอนุมัติวงเงินงบประมาณเพื่อการดำเนินโครงการ ฯ  ดังกล่าว  จำนวน
3,163,990,000  บาท   ทั้งนี้  ให้เบิกจ่ายเท่าที่จ่ายจริง   โดยให้ขอตกลงในรายละเอียดด้านการเงินกับ
สำนักงบประมาณต่อไป  รวมทั้งอนุมัติในหลักการเงินงบกลางประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2549  จำนวน
6,273,320,036  บาท  เพื่อการดำเนินโครงการดังกล่าวในส่วนที่ค้างในระยะที่ 1 โดยให้เบิกจ่ายเท่าที่
จ่ายจริง   และให้จัดทำแผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายเงิน  แล้วขอตกลงในรายละเอียดกับสำนัก
งบประมาณต่อไป       และเห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการโครงการจัดหาแหล่งน้ำสำหรับ
อุปโภคบริโภคทั่วประเทศ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
สรุปผลการตรวจเยี่ยมพื้นที่ของรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2548  โดยได้ตรวจเยี่ยมในพื้นที่ 8 อำเภอของ
จังหวัดพังงา   และมีข้อสั่งการดังนี้  ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสนับสนุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเคลื่อนที่ให้องค์การ
บริหารส่วนตำบลเกาะปันหยียืมใช้  เพื่อแก้ปัญหาไฟฟ้าในแหล่งท่องเที่ยวเกาะปันหยี   ให้การประปาส่วนภูมิ
ภาคพิจารณาสนับสนุนงบประมาณในการขยายเขตประปา จากเกาะปันหยีไปยังเกาะไม้ไผ่   ให้กระทรวงการ
ท่องเที่ยวและกีฬาสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศบ้านสองแพรก   ให้กรมทรัพยา
กรทางทะเลและชายฝั่งเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาตามหลักวิชาการ  พร้อมทั้งสำรวจและศึกษาความเป็นไปได้
ของการก่อสร้างท่าเทียบเรือและเขื่อนป้องกันตลิ่ง   ให้ศูนย์เตือนภัยแห่งชาติเร่งดำเนินการติดตั้งระบบเตือน
ภัยพร้อมประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด
ล้อมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบพื้นที่ที่ยังมีปัญหาการทับซ้อนกับที่ดินของรัฐและการกำหนดแนว
เขตพื้นที่ป่าให้ชัดเจน  กับให้รณรงค์ส่งเสริมการเก็บน้ำไว้ใช้ในระดับครัวเรือนเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อ
อุปโภคบริโภค    รวมทั้งประสานกับอุตสาหกรรมจังหวัด   สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
ร่วมกับสถาบันการศึกษาในท้องถิ่นพัฒนาออกแบบและคุณภาพสินค้า OTOP  ให้สอดคล้องกับความต้องการ
ของตลาด  ให้กรมขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวี สำรวจข้อมูลท่าเทียบเรือทั้งหมดของ  3  จังหวัดสามเหลี่ยม
อันดามัน  เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาท่าเทียบเรือโดยรวมของกลุ่มจังหวัดให้ชัดเจน    และให้จังหวัดพังงา
ประสานงานกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด    เพื่อโอนถนนสายที่ชำรุดและไม่สามารถทำการปรับปรุงให้กับ
กรมทางหลวงชนบท   และให้กรมการขนส่งทางน้ำจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการ ดำเนินการขุดเจาะบ่อ
บาดาลในหมู่บ้านที่ขาดแคลน    ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรดำเนินการเปิดสาขาย่อย
ในพื้นที่อำเภอ   ให้กระทรวงพาณิชย์จัดตั้งตลาดกลางสินค้าเกษตรขึ้นเพื่อแก้ปัญหาพืชผลตกต่ำ   ให้กรมชล
ประทานพิจารณาสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการก่อสร้างโครงการชลประทาน  3  โครงการ     ให้
สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเร่งรัดดำเนินการออกเอกสารสิทธิ์  สปก. 4-01  ในพื้นที่ประกาศเขต
สปก. แล้ว  ให้กรมทางหลวงชนบทบรรจุโครงการสร้างถนนของอำเภอ สายบ้านป่าทราย-บ้านท่าเขา เป็น
โครงการเพิ่มเติมไว้ในแผนปี 2549     และให้กรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมปี
2549  หรือ  2550    เพื่อดำเนินการขุดลอกร่องน้ำระหว่างเกาะยาวน้อยและเกาะยาวใหญ่      และให้กรม
ทรัพยากรน้ำ สนับสนุนงบประมาณดำเนินการก่อสร้างบ่อน้ำดิบ  สำหรับระบบประปาเทศบาลตำบลเกาะ
ยาว  สำหรับโครงการจัดตั้งวิทยาลัยเทคโนโลยีคุระบุรี  ให้พิจารณารายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่องความเหมาะ
สมของจำนวนนักเรียนรูปแบบสถานศึกษา  การมีส่วนร่วมของนักธุรกิจในชุมชนและปรับลดงบประมาณลง
โดยระยะแรกควรทำการศึกษาออกแบบและเตรียมพืที่ก่อน

              คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราภาษีสุรา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่กระทรวง
การคลังเสนอ โดยมีมติอนุมัติหลักการและให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ นั้น บัดนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาเสร็จแล้ว โดยแก้ไขชื่อ
ร่างเป็น  "ร่างกฎกระทรวงกำหนดชนิดของสุราและลดอัตราภาษีสุรา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ...."  รวมทั้งแก้ไขร่าง
กฎกระทรวงและบันทึกหลักการและเหตุผลประกอบร่างกฎกระทรวงให้ถูกต้องและเหมาะสมยิ่งขึ้นซึ่งมีสาระ
สำคัญคือ ปรับปรุงอัตราภาษีของสุรากลั่น ชนิดสุราปรุงพิเศษ และชนิดสุราพิเศษ  สำหรับอัตราภาษีสุราที่
จะกำหนดเพิ่ม เมื่อคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาเป็นประการใดแล้ว กรมสรรพสามิตจะได้กำหนดอัตราดังกล่าว
ลงในร่างกฎกระทรวงเพื่อเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังลงนามและประกาศเป็นกฎหมายต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอการปรับปรุงองค์
ประกอบของคณะกรรมการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา โดยแต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม)
เป็นประธานกรรมการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา  แทนศาสตราจารย์ปุระชัย  เปี่ยมสมบูรณ์  และปรับปรุง
องค์ประกอบคณะกรรมการ ฯ จากจำนวน 41 คน ลดลงเหลือ  21  คน  ทั้งนี้  ให้เพิ่มเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
เป็นกรรมการด้วย

               คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่คณะกรรมการนโยบายแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนากฎหมายเสนอ ดังนี้
รับทราบและเห็นชอบมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนากฎหมาย เมื่อวันที่ 11
กรกฎาคม 2548 ซึ่งได้มีการพิจารณาผลการดำเนินการตามแผนพัฒนากฎหมายของส่วนราชการ หน่วย
งานของรัฐ และอนุกรรมการพัฒนากฎหมาย โดยเห็นชอบให้มีการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนา
กฎหมายตามแผนพัฒนากฎหมายแห่งชาติจากรัฐสภา ตามมาตรา  213  ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณา
จักรไทย  และนำแผนพัฒนากฎหมายแห่งชาติ  ประจำปี พ.ศ. 2548  ส่งรัฐสภาเป็นเอกสารประกอบการ
รับฟังความเห็น รวมทั้งให้มีการรวบรวมบทบัญญัติกฎหมายเรื่องเดียวกันไว้ด้วยกันเป็นนโยบายสำคัญใน
การพัฒนากฎหมายของรัฐบาล   โดยให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐทุกแห่งที่เกี่ยวข้องให้ความร่วม
มือส่วนราชการที่เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการแต่ละเรื่อง    และให้ถือว่า  เป็นการปฏิบัติราชการประจำ
โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม  2548  และเห็นชอบแนวทางการพัฒนานักกฎหมาย
ภาครัฐ  ตามที่คณะอนุกรรมการปรับปรุงกระบวนการพิจารณาออกกฎหมายและพัฒนาบุคลากรทางกฎ
หมายเสนอ ประกอบด้วย  บุคลากรทางกฎหมายที่อยู่ในข่ายการพัฒนา  วัตถุประสงค์ของการพัฒนานัก
กฎหมายภาครัฐ  ระดับหลักสูตรการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐ  โครงสร้างหลักสูตร  และเป้าหมายการ
ดำเนินการ

         คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) ประธานกรรมการกองทุนหมู่บ้าน
และชุมชนเมืองแห่งชาติเสนอดังนี้  รับทราบการดำเนินงานของคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง
แห่งชาติและกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (องค์การมหาชน) และอนุมัติเป้าหมายและการจัดสรร/
โอนเงินกองทุน  จำนวน 78,829 กองทุน และโครงการเพิ่มทุนและการขยายวงเงินโดยกู้ยืมจากสถาบันการ
เงินให้แก่กองทุนที่บริหารจัดการที่ดี    รวมทั้งอนุมัติในหลักการ ให้คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชน
เมืองแห่งชาติดำเนินการปรับปรุงเป้าหมายกองทุนเพื่อการโอนเงินได้เป็นระยะ  เพื่อให้สอดคล้องและทันต่อ
การเปลี่ยนแปลงทั้งกรณีหมู่บ้านตั้งใหม่ การเพิ่มของชุมชนเมือง/ชุมชนอื่นๆ การเพิ่มทุน การพิจารณาขยาย
วงเงินโดยกู้ยืมจากสถาบันการเงินให้แก่กองทุนที่บริหารจัดการที่ดี ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของกระทรวงมหาด
ไทยที่เห็นว่ากองทุนหมู่บ้านควรมีการจัดสรรเงินกองทุนหมู่บ้านให้ครอบคลุมในหมู่บ้านตั้งใหม่ ชุมชนเมือง/
ชุมชนอื่น  ๆ   ที่มีเพิ่มขึ้นและการเพิ่มทุนและการพิจารณาขยายวงเงินโดยกู้ยืมจากสถาบันการเงินให้แก่กอง
ทุนที่บริหารจัดการที่ดี และสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการต่อไป  คือ การเสริมสร้างศักยภาพของคณะกรรมการ
กองทุนให้มีทักษะความรู้  ความสามารถในการจัดการ  ตลอดจนส่งเสริมการเชื่อมโยงเครือข่ายเพื่อให้มีการ
ช่วยเหลือกันระหว่างกองทุน  และความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง
ชาติที่เห็นว่า   เนื่องจากพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. 2547  ไม่ได้ให้อำนาจ
คณะกรรมการ  ฯ  ทำนิติกรรมในการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน  ดังนั้น การขออนุมัติให้คณะกรรมการ ฯ 
กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินเพื่อเพิ่มทุน  และขยายวงเงินแก่กองทุนหมู่บ้าน  ฯ    ที่บริหารจัดการที่ดีอาจไม่
เหมาะสมกรณีที่จำเป็นต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติม ควรทำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไปไปประกอบ
การพิจารณาด้วย   นอกจากนี้  ให้คณะกรรมการ ฯ  พิจารณากำหนดเป้าหมายจัดสรร และโอนเงินกองทุน
หมู่บ้านในวงเงินรวมไม่เกิน  80,000  ล้านบาท     โดยให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณในวงเงินดัง
กล่าวคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย รวมทั้งพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ที่จะจัดสรรเงินให้หมู่บ้านที่จะแยกขยาย
ตามประกาศของกระทรวงมหาดไทยตามความเหมาะสม  และเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ
ต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
การเปลี่ยนแปลงรายการในงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548  ของกรมทรัพยากรน้ำ
บาดาล  จากโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาลของระบบประปาเพื่อให้ได้มาตรฐานน้ำดื่มขององค์การ
อนามัยโลกเป็นโครงการพัฒนาและปรับปรุงระบบกระจายน้ำเพื่อรองรับปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค
บริโภค ภายในวงเงินงบประมาณ  290,340,000  บาท  โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด
ล้อมดำเนินการ และให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลดำเนินการภายใต้กรอบงบประมาณที่ได้รับอนุมัติไว้แล้ว 
จำนวน 313,605,000 บาทในโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาลของระบบประปาเพื่อให้ได้มาตรฐาน
น้ำดื่มขององค์การอนามัยโลก   รวมทั้งให้ปฏิบัติงานในภารกิจเกี่ยวกับการขุดบ่อน้ำบาดาลที่ได้ถ่ายโอน
ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว    โดยให้ประสานการดำเนินการ และตรวจสอบข้อมูลกับกระทรวง
มหาดไทย เพื่อมิให้เกิดความซ้ำซ้อนเกี่ยวกับพื้นที่ดำเนินโครงการและประสานกับคณะกรรมการกระจาย
อำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อพิจารณาดำเนินการให้มีความสอดคล้องกับพระราชบัญญัติ
กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542  ตามความเห็น
ของกระทรวงมหาดไทยต่อไป   และอนุมัติวงเงินงบประมาณเพื่อการดำเนินโครงการ ฯ  ดังกล่าว  จำนวน
3,163,990,000  บาท   ทั้งนี้  ให้เบิกจ่ายเท่าที่จ่ายจริง   โดยให้ขอตกลงในรายละเอียดด้านการเงินกับ
สำนักงบประมาณต่อไป  รวมทั้งอนุมัติในหลักการเงินงบกลางประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2549  จำนวน
6,273,320,036  บาท  เพื่อการดำเนินโครงการดังกล่าวในส่วนที่ค้างในระยะที่ 1 โดยให้เบิกจ่ายเท่าที่
จ่ายจริง   และให้จัดทำแผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายเงิน  แล้วขอตกลงในรายละเอียดกับสำนัก
งบประมาณต่อไป       และเห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการโครงการจัดหาแหล่งน้ำสำหรับ
อุปโภคบริโภคทั่วประเทศ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6.2 (เดิม) 
(ฝ่ายกฎหมาย ระบบราชการและประชาสัมพันธ์) ที่มีมติอนุมัติในหลักการให้ปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างพนักงาน
มหาวิทยาลัย  ตามแนวทางเดียวกับการปรับปรุงค่าตอบแทนภาคราชการ  ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9
มีนาคม 2547 เกี่ยวกับการปรับปรุงค่าตอบแทนของข้าราชการ และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 กันยายน
2547  เรื่อง การปรับปรุงค่าตอบแทนเพื่อช่วยเหลือการครองชีพข้าราชการระดับต้นระยะเฉพาะหน้า  ทั้งนี้ 
ภายในวงเงินงบประมาณ เพื่อใช้เงินเหลือจ่าย  หรือปรับแผนการใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2548 ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และเห็นชอบตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ในการจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานมหาวิทยาลัยใหม่ปีงบประมาณ  พ.ศ. 2549
และการจัดสรรงบประมาณเพิ่มสำหรับการเลื่อนขั้นตามหลักเกณฑ์ไม่เกินร้อยละ  4    เช่นเดียวกับองค์การ
มหาชน  องค์กรอิสระ  และมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ  รวมทั้งการปรับปรุงค่าตอบแทนการจ้างพนักงาน
มหาวิทยาลัย เพื่อให้สัมพันธ์กับการปรับปรุงค่าตอบแทนภาคราชการในโอกาสต่อไป  ให้กระทรวงศึกษาธิ
การดำเนินการเพื่อขอรับการจัดสรรเป็นคราว ๆ ไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
(กพช.) ครั้งที่ 3/2548 (ครั้งที่ 101) วันที่  25  สิงหาคม  2548 ในการพิจารณาแผนระดมทุนของบริษัท
กฟผ. จำกัด (มหาชน) โดยเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 60,000 ล้านบาท  เป็น  80,000  ล้านบาท  และหลัก
เกณฑ์การกำหนดโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้า  เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการประมาณการรายได้ก่อนจะเสนอ
ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  โดยให้รับความเห็นของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อาทิ ความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การ
กำหนดโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้านั้น ควรพิจารณากำหนดอัตราค่าไฟฟ้าขายปลีกให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง
เพื่อให้เกิดการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด ซึ่งจะส่งผลต่อการลดการนำเข้าเชื้อเพลิงและลดการขาดดุลการชำระ
เงินของประเทศในระยะยาว และความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้บริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน)
เร่งดำเนินการแบ่งระบบบัญชี (Account  Unbundling) ระหว่างกิจการผลิตไฟฟ้าและกิจการระบบส่งไฟฟ้า
และจัดกระบวนการแบ่งขอบเขตงาน (Ring Fence) ของศูนย์ควบคุมระบบไฟฟ้า (System  Operator) ตาม
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2546 เพื่อสร้างความโปร่งใสและส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพ
ในการดำเนินงานให้แล้วเสร็จโดยเร็ว  เพื่อนำเสนอข้อมูลและรายงานความคืบหน้าต่อสื่อมวลชน หรือองค์
กรกำกับดูแลที่จะจัดตั้งขึ้นต่อไป  และมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) หารือกับ
การไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมในการชดเชยรายได้ระหว่างการ
ไฟฟ้าในการกำหนดโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้า   รวมทั้งจัดทำรายละเอียดค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ  การชดเชย
รายได้ระหว่างการไฟฟ้า  ฝ่ายจำหน่าย   ตลอดจนกลไกการปรับการชดเชยรายได้ระหว่างการไฟฟ้า  และ
การกำกับดูแลประสิทธิภาพการดำเนินงานของการไฟฟ้า    และเสนอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลัง
งานพิจารณาเห็นชอบก่อนประกาศใช้ต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการด้วย

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการ
กำกับนโยบายราคากลางงานก่อสร้าง โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานกรรมการ และให้
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำกับการปฎิบัติราชการของสำนักงบประมาณ เป็นรองประธานกรรม
การ เพิ่มเติมอีก 1 ตำแหน่ง  ทั้งนี้  ตามมาตรา  7  แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุม
คณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอเกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษาในพื้นที่ 3 จังหวัด
ชายแดนภาคใต้ ทั้งในส่วนของสถาบันการศึกษาภาครัฐและเอกชน รวมตลอดถึงโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา
(โรงเรียนปอเนาะ และโรงเรียนตาดีกา) ซึ่งหากมีการจัดระบบการศึกษาในส่วนนี้ได้อย่างเหมาะสม ก็อาจจะ
นำไปเป็นแนวทางสำหรับการจัดการศึกษาในจังหวัดอื่น ๆ  ต่อไปได้  จึงขอให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งรัดจัด
ทำแนวทางการปรับปรุงระบบการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว  โดยให้พิจารณา
ประเด็นต่าง ๆ ให้ครบถ้วน  เช่น  การจัดหลักสูตรการศึกษา  การควบคุมดูแลคุณภาพมาตรฐานการจัดการ
เรียนการสอน ครู อาจารย์ และผู้บริหารสถานศึกษา  งบประมาณค่าใช้จ่าย  และการสนับสนุนจากรัฐ  เป็น
ต้น     และให้ประสานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาแนวทางและรายละเอียดร่วมกับนายกรัฐมนตรี
รองนายกรัฐมนตรี(พลตำรวจเอก ชิดชัย วรรณสถิตย์) และผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอร่างระเบียบ
สำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....
โดยมีสาระสำคัญคือ  เพิ่มบทนิยามคำว่า  "รองนายกรัฐมนตรี"  ให้หมายความรวมถึงรัฐมนตรีที่ได้รับ
มอบหมายให้กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค หรือกรุงเทพ ฯ และให้ส่งคณะกรรมการ
ตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอการปรับปรุงแผนการก่อหนี้จากต่างประเทศ 
ภายใต้แผนการบริหารและจัดการหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ครั้งที่ 1  ดังนี้ โครงการที่
เห็นควรปรับลดวงเงิน 1 โครงการ ได้แก่ แผนเงินกู้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย  ของ
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย    โดยปรับลดวงเงินกู้ร่วมในส่วนของโครงการสนับสนุน
เงินทุนหมุนเวียนเพื่อเตรียมการส่งออกเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ   โครงการสนับสนุนโครงการลงทุนใน
ต่างประเทศและการส่งออกสินค้าทุนและบริการ โครงการสนับสนุนกิจการพาณิชย์นาวี  และโครงการสนับ
สนุนสินเชื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักร  จาก  93.59  ล้านดอลลาร์สหรัฐ  ลงเหลือ  93.00 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 
และโครงการที่เห็นควรบรรจุเป็นโครงการหลักของรัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลไม่ค้ำประกันเพิ่มเติม 1 โครงการ ได้
แก่  โครงการขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากสหพันธ์ธนาคารออมสินฝรั่งเศสของธนาคารออมสิน วง
เงิน 6.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 250  ล้านบาท   ซึ่งภายหลังการปรับปรุงแผนการก่อหนี้จาก
ต่างประเทศแล้ว  จะมีโครงการหลัก 8 โครงการ  วงเงินรวมเพิ่มขึ้นจาก  993.95  ล้านดอลลาร์สหรัฐ  เป็น 
999.72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ