ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 101 จากทั้งหมด 347 หน้า แสดงรายการที่ 2001 - 2020 จากข้อมูลทั้งหมด 6925 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 2001 | ขออนุมัติดำเนินการต่อรายการรายจ่ายงบลงทุน ปีงบประมาณ 2558 (ปรับปรุงสถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จังหวัดสงขลา จังหวัดระนอง จังหวัดเชียงราย และจังหวัดปทุมธานี) | พม | 22/09/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการต่อรายการรายจ่ายงบลงทุน ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ จำนวน ๔,๒๘๑,๐๓๓.๕๕ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงสถานที่และติดตั้งกล้องวงจรปิดรองรับการดูแลและแก้ไขปัญหาผู้อพยพในภาวะไม่ปกติ (โรฮีนจา) ให้สถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ทั้ง ๔ แห่ง คือ จังหวัดสงขลา จังหวัดระนอง จังหวัดเชียงราย และจังหวัดปทุมธานี เป็นกรณีเฉพาะราย ทั้งนี้ การใช้จ่ายและเบิกจ่ายงบประมาณรายการดังกล่าว สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วนโดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||
| 2002 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ 6/2558 | กค | 22/09/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบและเห็นชอบผลการพิจารณาแผนการแก้ไขปัญหาของรัฐวิสาหกิจ ๔ แห่ง ได้แก่ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเร่งกำกับและติดตามการรถไฟแห่งประเทศไทยให้มีการดำเนินการซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Airport Rail Link) และจัดหาขบวนรถไฟสำหรับรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ ๑ ช่วงพญาไท-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้ได้โดยเร็ว รวมทั้งเร่งศึกษาและเริ่มดำเนินโครงการรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนต่อขยายระยะที่ ๓ สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา โดยเร็ว และให้นำเสนอแผนการดำเนินงานต่อคณะกรรมการนโยบายรัฐบาลต่อไป ตลอดจนกำกับและติดตามการจัดซื้อรถโดยสารก๊าซธรรมชาติ NGV ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว ๑.๒ รับทราบกรอบแนวทางในการจัดทำร่างพระราชบัญญัติการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจและหลักทรัพย์ของรัฐ พ.ศ. .... ตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ๑.๓ รับทราบและเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดตั้ง/ร่วมทุน และกำกับดูแลบริษัทในเครือของรัฐวิสาหกิจ ตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ๑.๔ รับทราบและเห็นชอบผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจในการพิจารณาโครงการลงทุนของรัฐวิสาหกิจที่เข้าข่ายเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ และการพิจารณาโครงการเกี่ยวกับการขออนุมัติงบประมาณหรือเงินกู้ของรัฐวิสาหกิจ และมอบหมายให้รัฐวิสาหกิจทุกแห่งเร่งดำเนินการในเรื่อง สิทธิประโยชน์ของกรรมการรัฐวิสาหกิจ และเงินบริจาคเพื่อประโยชน์สาธารณะของรัฐวิสาหกิจให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ตลอดจนมีการเปิดเผยและปรับปรุงข้อมูลใน website ให้เป็นปัจจุบันภายใน ๑ เดือน ๒. ให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง (สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ) และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสำนักงบประมาณ เกี่ยวกับการสร้างทางรถไฟ (Airport Rail Link) ควรคำนึงถึงความสะดวกในการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยให้มีการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมครอบคลุมรอบด้าน ส่วนการจัดตั้งบรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติเพื่อกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจที่มีฐานะเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ตามร่างพระราชบัญญัติการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจและหลักทรัพย์ของรัฐ พ.ศ. .... ควรมีสาระสำคัญเกี่ยวกับอำนาจในการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินงาน รวมทั้งการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ งบกลาง จำนวน ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อดำเนินการแผนการสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
| 2003 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 | สว | 22/09/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งมีข้อสังเกตเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติฯ ที่ควรกำหนดเป็นนโยบายสำคัญในการปรับปรุงการจัดทำงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ และมอบหมายให้ทุกหน่วยงานเริ่มดำเนินการในทันที โดยให้ยึดหลักการจัดทำงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์อย่างแท้จริง และในลักษณะบูรณาการ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. มอบหมายให้สำนักงบประมาณเป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานของรัฐทุกแห่ง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ฯ ดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๓. แจ้งข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานศาลปกครอง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชิต และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 2004 | รายงานผลการพิจารณาคำร้องที่มีข้อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง เสรีภาพในการประกอบอาชีพ กรณีขอให้ตรวจสอบ การขยายสาขาของธุรกิจค้าปลีก | สม | 22/09/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง เสรีภาพในการประกอบอาชีพ กรณีขอให้ตรวจสอบการขยายสาขาของธุรกิจค้าปลีก ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยเห็นควรให้มีข้อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา ๑๕ (๓) แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 2005 | การปรับปรุงโครงสร้างองค์กรด้านการบินพลเรือน | นร04 | 22/09/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบในหลักการร่างพระราชกำหนดและร่างกฎกระทรวง รวม ๔ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับโครงสร้างองค์กรด้านการบินพลเรือนเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องเกี่ยวกับระบบการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยด้านการบิน ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกำหนดการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗ พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมท่าอากาศยาน กระทรวงคมนาคม พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาความเหมาะสมของหน่วยงานที่จะปฏิบัติภารกิจเกี่ยวกับการค้นหาและช่วยเหลือกรณีอากาศยานประสบภัย งานนิรภัยการบิน และงานด้านการสอบสวนอากาศยานประสบอุบัติเหตุ โดยให้ตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของร่างกฎหมายดังกล่าว และให้แจ้งไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการปรับแก้ไขร่างพระราชกำหนดลำดับที่ ๑.๒ และลำดับที่ ๑.๓ ในส่วนที่เกี่ยวกับหน่วยงานที่จะปฏิบัติงานตามภารกิจดังกล่าวมติคณะรัฐมนตรี รวมทั้งได้ดำเนินการตรวจสอบร่างพระราชกำหนดลำดับที่ ๑.๑ และร่างกฎกระทรวงลำดับที่ ๑.๔ แล้ว ๓. ให้กระทรวงคมนาคมรับข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีโดยเร่งดำเนินการพิจารณากลั่นกรองบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและมีประสิทธิภาพเพื่อบรรจุบุคลากรไปปฏิบัติงานในหน่วยงานที่ปรับปรุงใหม่ และให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและสำนักงาน ก.พ.ร. เกี่ยวกับการวางแผนจัดสรรกำลังบุคลากร แผนพัฒนาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบินพลเรือน และแผนการงบประมาณให้สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานที่ปรับปรุงใหม่ การพิจารณาทบทวนบทบาทภารกิจและรูปแบบของกรมท่าอากาศยานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนั้น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||
| 2006 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 งบกลาง สำหรับการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) | นร07 | 22/09/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ งบกลาง สำหรับการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map) ของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ จำนวน ๖ คณะ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้
๑. คณะกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการฯ จำนวน ๓,๖๘๕,๒๐๐ บาท ๒. คณะอนุกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการฯ ระดับภาค ๑-๔ จำนวน ๓,๑๓๖,๑๔๐ บาท ๓. คณะอนุกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการฯ จังหวัดทุกจังหวัด (ยกเว้นกรุงเทพมหานคร) จำนวน ๓๒,๒๕๔,๔๐๐ บาท ๔. คณะอนุกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการฯ กรุงเทพมหานคร จำนวน ๒๙๖,๓๐๐ บาท ๕. คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการฯ จำนวน ๕,๗๘๖,๓๖๐ บาท ๖. คณะอนุกรรมการเทคนิคการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการฯ จำนวน ๒๐,๐๕๗,๒๐๐ บาท
|
|||||||||||||||||||||
| 2007 | การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) | ยธ | 22/09/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map) และให้แต่งตั้งคณะกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map) โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
| 2008 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง การพัฒนาและปรับปรุงระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานว่าด้วยกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า) | สผ | 22/09/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง การพัฒนาและปรับปรุงระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานว่าด้วยกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ และมอบหมายให้กระทรวงพลังงานเป็นหน่วยงานหลักไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยมีข้อเสนอปฏิรูป ดังนี้
๑. ควรมีการดำเนินการเรื่องการปรับปรุงระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานว่าด้วยกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าต่อไป ๒. ควรสนับสนุนให้มีการชดเชยเพื่อเยียวยาให้ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า ทั้งด้านสุขภาพ อาชีพ และสิ่งแวดล้อม ควรใช้เงินกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าให้ตรงกับวัตถุประสงค์ ๓. ควรให้มีการสนับสนุนการฟื้นฟูธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การเฝ้าระวัง ผลกระทบสิ่งแวดล้อม การจัดสุขภาวะทางสังคมที่ดี และให้มีการพัฒนาที่ยั่งยืน ๔. ควรให้ผู้แทนภาคประชาชนเป็นคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานว่าด้วยกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าให้มากขึ้น มีบทบาทมากขึ้น ภาคประชาชนสามารถนำความรู้ความต้องการของประชาชนในพื้นที่มาดำเนินงานให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง ๕. ควรให้ประชาชนหันมาให้ความสนใจกับเรื่องการดำเนินงานวิสาหกิจชุมชนเพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นและได้รับการศึกษา ฝึกอบรมวิชาชีพ และน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาดำเนินชีวิต
|
|||||||||||||||||||||
| 2009 | รายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง ขอให้เสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญกรณีกล่าวอ้างว่าพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่อำเภอพุนพิน อำเภอท่าขนอน กิ่งอำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอเมืองพังงา อำเภอท้ายเหมือง อำเภอทับปุด อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา และอำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ เพื่อสร้างทางรถไฟ พุทธศักราช 2488 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 | สม | 15/09/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง ขอให้เสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญกรณีกล่าวอ้างว่าพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่อำเภอพุนพิน อำเภอท่าขนอน กิ่งอำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอเมืองพังงา อำเภอท้ายเหมือง อำเภอทับปุด อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา และอำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ เพื่อสร้างทางรถไฟ พุทธศักราช ๒๔๘๘ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ของคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่เห็นสมควรพิจารณาแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ซึ่งเป็นกฎหมายกลาง โดยให้มีบทบัญญัติที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของที่ดินเดิมหรือทายาทเจ้าของที่ดินเดิมในการเรียกคืนทรัพย์สินได้ หากปรากฏว่าทรัพย์สินที่เวนคืนมานั้น ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน รัฐยังมิได้มีการใช้หรือกำลังใช้ตามวัตถุประสงค์แห่งการเวนคืนเพื่อกิจการต่าง ๆ ของรัฐหรือเพื่อประโยชน์สาธารณะอื่นใดที่สำคัญและจำเป็นภายในกำหนดระยะเวลาซึ่งจำเป็นต้องมีการกำหนดไว้ในบทบัญญัติกฎหมายว่าด้วยการเวนคืน ซึ่งอาจแก้ไขให้มีหลักการเช่นเดียวกับที่เคยบัญญัติไว้ในมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พุทธศักราช ๒๔๗๗ และมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมรับไปพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 2010 | ขอเงินงบกลางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร ปี 2557 (ช่วงประสบภัยเดือนมิถุนายน 2557 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2558) | กษ | 15/09/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร ปี ๒๕๕๗ (ช่วงประสบภัยเดือนมิถุนายน ๒๕๕๗ ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๘) รวม ๕ ภัย ได้แก่ อุทกภัย ภัยแล้ง ภัยฝนทิ้งช่วง ศัตรูพืชระบาด และโรคพืชระบาด ในพื้นที่ ๑๖ จังหวัด เกษตรกร ๖๑,๗๒๒ ราย วงเงินขอรับความช่วยเหลือรวมทั้งสิ้น ๖๘๑,๕๘๒,๓๘๒ บาท (ด้านพืช เกษตรกรจำนวน ๕๙,๔๗๙ ราย วงเงิน ๖๗๓,๑๑๒,๗๘๙ บาท ด้านประมง เกษตรกรจำนวน ๒,๒๒๙ ราย วงเงิน ๘,๔๔๒,๑๙๓ บาท ด้านปศุสัตว์ เกษตรกรจำนวน ๑๔ ราย วงเงิน ๒๗,๔๐๐ บาท) โดยให้กรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง และกรมปศุสัตว์ ตรวจสอบเอกสารหลักฐานและรวบรวมส่งสำนักงบประมาณ พร้อมทั้งจัดทำขออนุมัติจัดสรรงบประมาณในคราวเดียวกัน และให้ถือว่าคำขอดังกล่าวเป็นคำขออนุมัติจัดสรรงบประมาณของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พร้อมสำเนาส่ง ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่เห็นควรเร่งรัดดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านการเกษตรตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๖ และปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๗ [เรื่อง ขอเงินงบกลางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร ปี ๒๕๕๗ (ช่วงประสบภัยเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๖ ถึงเดือนสิงหาคม ๒๕๕๗)] โดยเคร่งครัด และควรพิจารณาแนวทางเพื่อส่งเสริมและขยายผลระบบประกันภัยผลผลิตทางการเกษตรให้ครอบคลุมถึงภัยพิบัติและผลผลิตทางการเกษตรทุกประเภท รวมทั้งให้มีการตรวจสอบของภาคประชาชนโดยปิดประกาศในที่ว่าการตำบลและหมู่บ้านที่ประสบภัยพิบัติ และการดำเนินการทุกขั้นตอนการปฏิบัติจะต้องโปร่งใส และตรวจสอบได้ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๓. ให้กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐเร่งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๖ ให้เหมาะสมและมีความคล่องตัวในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติมากยิ่งขึ้น ตามนัยมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๗ (เรื่อง ขอเงินงบกลางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร ปี ๒๕๕๕-๒๕๕๗) ให้แล้วเสร็จโดยด่วน และนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
|||||||||||||||||||||
| 2011 | รายงานความคืบหน้าการแก้ไขข้อบกพร่องจากการตรวจสอบโดยองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization - ICAO) | คค | 15/09/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานความคืบหน้าการแก้ไขข้อบกพร่องจากการตรวจสอบโดยองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization-ICAO) ที่พบข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (Significant Safety Concern-SSC) ด้านกระบวนการออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ และกระบวนการรับรองการขนส่งสินค้าอันตรายทางอากาศ และข้อบกพร่องอื่น ๆ ซึ่งกระทรวงคมนาคม (กรมการบินพลเรือน) ได้ดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องจากผลการตรวจสอบตามโครงการตรวจสอบการกำกับดูแลความปลอดภัยสากล (Universal Safety Oversight Audit Programme-USOAP) โดยมีประเด็นต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ เช่น การปรับปรุงกระบวนการรับรองการขนส่งสินค้าอันตราย การเตรียมการด้านกฎระเบียบเพื่อการรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่รับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ การรายงานแผนการแก้ไขต่อสำนักบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (FAA) ส่วนประเด็นที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เช่น การขอรับการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญด้านการรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่จากต่างประเทศ การรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศระหว่างประเทศใหม่ (ดำเนินการแล้ว ๓ สายการบิน จาก ๒๘ สายการบิน) การเข้ารับการตรวจสอบจากองค์การกำกับดูแลความปลอดภัยด้านการบินประชาคมยุโรป (EASA) และ ICAO และการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรด้านการบินของประเทศไทย (อยู่ระหว่างขั้นตอนการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง) สำหรับกำหนดเวลาที่จะสามารถดำเนินการได้ตามมาตรฐานของ ICAO จะขึ้นอยู่กับกระบวนการรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศระหว่างประเทศใหม่ว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จได้เมื่อใด
|
|||||||||||||||||||||
| 2012 | ขออนุมัติการจัดทำและลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐโคลอมเบีย | กก | 15/09/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การจัดทำและลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Memorandum of Understanding on Cooperation in the Field of Tourism of Wellness) ระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐโคลอมเบีย โดยบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในระดับทวิภาคีระหว่างไทยและโคลอมเบีย เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนและกระจายสู่การพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ โดยมีประเด็นความร่วมมือ ได้แก่ การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการตลาด การปรับปรุงคุณภาพอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การวิจัยและการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การแลกเปลี่ยนข้อมูล และการประสานงานและความร่วมมือ ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ (โดยระบุตำแหน่ง) ๒. หากก่อนลงนามมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ ไม่ขัดกับผลประโยชน์ของไทยและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้ ให้สามารถดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ๓. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ใช้ประโยชน์จากความร่วมมือระหว่างไทยและโคลอมเบียเพื่อสานต่อการดำเนินงานส่งเสริมความร่วมมือในด้านการท่องเที่ยวไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
| 2013 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 15/09/2558 | ||||||||||||||||||
|
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมีนโยบายให้บริหารจัดการหนี้ภาครัฐที่เกิดขึ้นในช่วงรัฐบาลที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวนสูงมากและเป็นภาระงบประมาณ โดยประมวลหนี้เหล่านี้ให้ครบถ้วนและหาแหล่งเงินระยะยาวมาสะสางหนี้ทั้งหมด นั้น ให้กระทรวงการคลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว โดยให้รวมภาระหนี้อื่น ๆ ด้วย เช่น หนี้ที่รัฐต้องชำระตามคำสั่งศาลในโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการรับจำนำข้าว โครงการบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ทั้งนี้ ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีโดยด่วนต่อไป ๑.๒ ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๘) ให้คณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศรับไปพิจารณาแนวทางในการดำเนินมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนด้านการเดินทาง โดยเฉพาะประเด็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่จะมีสิทธิได้รับการยกเว้นหรือลดหย่อนค่าโดยสาร นั้น ให้คณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาความเป็นไปได้ในการนำฐานข้อมูลของผู้มีรายได้น้อยที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน เช่น บัตรสินเชื่อเกษตรกร เป็นต้น มาใช้ในการรับสิทธิประโยชน์ดังกล่าวต่อไปด้วย ๑.๓ ให้กระทรวงการคลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแนวทางการจัดหาแหล่งเงินทุนสำหรับการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ โดยปรับปรุงแนวทางที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันเพื่อลดภาระงบประมาณภาครัฐและจูงใจให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุนในโครงการของรัฐมากขึ้น ๑.๔ ให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงมหาดไทยพิจารณากำหนดมาตรการเพื่อดูแลระดับราคาสินค้าผักและผลไม้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และเตรียมการรองรับและป้องกันผลกระทบจากภัยธรรมชาติที่จะสร้างความเสียหายแก่สวนผักและสวนผลไม้ ๑.๕ ให้คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางการใช้พื้นที่ในบริเวณเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การนำพื้นที่ของส่วนราชการที่มิได้ใช้ประโยชน์จัดสรรให้แก่ผู้มีรายได้น้อยที่ไม่มีที่ดินทำกิน ๒. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๒.๑ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประสานข้อมูลกับคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อให้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ ปี ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติพิจารณากำหนดกลไกในการขับเคลื่อนให้ชัดเจน โดยเฉพาะการสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติและการพัฒนาประเทศ ๒.๒ ให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบที่ดินซึ่งได้มาจากการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ และเป็นพื้นที่เหลือจากการใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์แห่งการเวนคืน รวมทั้งที่ไม่ได้นำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ เพื่อรวบรวมและแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำที่ดินดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในโครงการของรัฐอื่น ๆ ต่อไป เช่น นำมาจัดทำเป็นโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อผู้มีรายได้น้อย ๒.๓ ให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำสื่อเผยแพร่เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชในอดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะการเสด็จเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ทุรกันดารและห่างไกลในแต่ละภาค เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนต่อไป ๒.๔ ให้กระทรวงการคลังเร่งรัดการจัดประมูลในพื้นที่สวนเบญจกิติและศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งจะมีการปรับปรุงและขยายให้แล้วเสร็จภายในปี ๒๕๕๘ รวมทั้งเร่งรัดพิจารณากำหนดแนวทางการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณมักกะสัน (ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยเดิม) ให้มีความชัดเจน โดยแบ่งสัดส่วนการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ตามประเภทการใช้งาน เช่น อาคารพาณิชย์ สวนสาธารณะ เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||
| 2014 | รายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง เสรีภาพในการชุมนุมที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย สิทธิในทรัพย์สิน สิทธิการเลือกตั้ง และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น กรณีเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในระหว่างการชุมนุมทางการเมือง กรกฎาคม 2556 - พฤษภาคม 2557 | สม | 15/09/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อเสนอเรื่อง รายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง เสรีภาพในการชุมนุมที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย สิทธิในทรัพย์สิน สิทธิการเลือกตั้ง และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น กรณีเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในระหว่างการชุมนุมทางการเมือง กรกฎาคม ๒๕๕๖-พฤษภาคม ๒๕๕๗ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยมีข้อเสนอเกี่ยวกับการหาทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งโดยสร้างความตระหนัก ความเข้าใจการบังคับใช้กฎหมายและแนวทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๒. แจ้งรายงานผลการพิจารณาคำร้องเรียนเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง เสรีภาพในการชุมนุมที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย สิทธิในทรัพย์สิน สิทธิการเลือกตั้ง และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น กรณีเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในระหว่างการชุมนุมทางการเมือง กรกฎาคม ๒๕๕๖-พฤษภาคม ๒๕๕๗ ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 2015 | การพัฒนาท่าอากาศยานภายใต้การดูแลของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) | คค | 15/09/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรายงานว่า บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานในความรับผิดชอบทั้ง ๖ แห่ง ดังนี้
๑. ท่าอากาศยานดอนเมือง ได้ดำเนินการปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร อาคาร ๒ สำหรับรองรับผู้โดยสารภายในประเทศ ปรับปรุงอาคารเทียบเครื่องบิน ซึ่งจะทำให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นจากเดิม ๑๘.๕ ล้านคนต่อปี เป็น ๓๐ ล้านคนต่อปี คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี ๒๕๕๘ รวมทั้งจะเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี ๒๕๖๒ ๒. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (๑) ได้ดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารจาก ๔๕ ล้านคนต่อปี เป็น ๖๐ ล้านคนต่อปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี ๒๕๖๒ และ (๒) ได้ดำเนินการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ ๓ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อเพิ่มความสามารถในการรองรับเที่ยวบินในชั่วโมงเร่งด่วนเป็น ๙๔ เที่ยวบินต่อชั่วโมง คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี ๒๕๖๓ ๓. ท่าอากาศยานภูเก็ต ได้ดำเนินการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารจากเดิม ๖.๕ ล้านคนต่อปี เป็น ๑๒.๕ ล้านคนต่อปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี ๒๕๕๙ ๔. ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้ดำเนินการปรับปรุงห้องโถงอาคารผู้โดยสารภายในประเทศและระหว่างประเทศ และก่อสร้างอาคารจอดรถยนต์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี ๒๕๖๑ และในปี ๒๕๖๐-๒๕๖๕ จะดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารจากเดิม ๘ ล้านคนต่อปี เป็น ๑๕ ล้านคนต่อปี ๕. ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ได้ดำเนินการปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร ปรับปรุงระบบถนนช่องทางเข้าออกท่าอากาศยาน และแยกพื้นที่สำหรับการทำงานของเจ้าหน้าที่ออกจากพื้นที่ให้บริการผู้โดยสาร คาดว่าจะแล้วเสร็จในต้นปี ๒๕๖๐ ๖. ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ได้ดำเนินการก่อสร้างลานจอดอากาศยาน เพิ่มเติม ๓ หลุมจอด ทำให้มีหลุมจอดอากาศยานรวม ๘ หลุมจอด ปรับปรุงทางขับท้ายหลุมจอด ติดตั้งสะพานเทียบเครื่องบิน ๑ หลุมจอด และก่อสร้างหลุมจอดเฮลิคอปเตอร์ ๓ หลุมจอด
|
|||||||||||||||||||||
| 2016 | รายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง การคัดเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการโดยวิธีสมัครใจ ตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 | สม | 08/09/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง การคัดเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการโดยวิธีสมัครใจ ตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยมีข้อเสนอแนะในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการคัดเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ๒. มอบหมายให้กระทรวงกลาโหมเป็นหน่วยงานหลักรับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติไปพิจารณาร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 2017 | รายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย และสิทธิแรงงาน กรณีกล่าวอ้างว่ามีการใช้แรงงานทาสหรือแรงงานบังคับในอุตสาหกรรมประมงไทย | สม | 08/09/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อเสนอรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย และสิทธิแรงงาน กรณีกล่าวอ้างว่ามีการใช้แรงงานทาสหรือแรงงานบังคับในอุตสาหกรรมประมงไทย ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยมีข้อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายและกฎต่อคณะรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนตามอำนาจหน้าที่ในพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๕ (๓) และมอบหมายให้กระทรวงแรงงานเป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 2018 | รายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติกองทุนคุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจาก การบริการสาธารณสุข พ.ศ. .... | สม | 08/09/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อเสนอเรื่อง ร่างพระราชบัญญัติกองทุนคุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจากการบริการสาธารณสุข พ.ศ. .... ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งมีข้อเสนอแนะในการปรับปรุงกฎหมายเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ได้แก่ การใช้อำนาจระงับ หรือเพิกถอนใบอนุญาตสถานพยาบาล และประกอบโรคศิลปะ หน่วยงานที่รับผิดชอบตามร่างพระราชบัญญัติฯ หลักการและเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติฯ ชื่อร่างพระราชบัญญัติ คำนิยาม องค์ประกอบคณะกรรมการกองทุนคุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจากการบริการสาธารณสุข เงินชดเชย การสละสิทธิฟ้องร้องคดีทางแพ่ง การดำเนินการก่อนฟ้องคดีต่อศาล การเสนอรายงานการจ่ายเงินชดเชยต่อศาล เขตอำนาจศาล การออกคำสั่งของเจ้าหน้าที่ และข้อยกเว้นความรับผิดของผู้ให้บริการสาธารณสุข ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรม และแพทยสภา เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าวและสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 2019 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง การเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพการบริหารงานแห่งรัฐ) | สผ | 08/09/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน เรื่อง การเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพการบริหารงานแห่งรัฐ ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ ซึ่งเสนอให้มีการยกร่างกฎหมายขึ้นใหม่ ๑ ฉบับ คือ ร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาประสิทธิภาพและคุณภาพแห่งชาติ พ.ศ. .... โดยให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เป็นผู้ดำเนินการยกร่างกฎหมายดังกล่าว และให้มีการพิจารณาแก้ไขกฎหมายและระเบียบของหน่วยงานต่าง ๆ จำนวน ๑๗ ฉบับ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปตามที่คณะกรรมาธิการฯ เสนอ โดยให้คณะกรรมการเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพแห่งชาติที่จะแต่งตั้งขึ้นตามร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาประสิทธิภาพและคุณภาพแห่งชาติ พ.ศ. .... พิจารณาดำเนินการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ร่วมกับผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๒. มอบหมายให้สำนักงาน ก.พ.ร. เป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 2020 | ขออนุมัติโครงการปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำ ตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ดำเนินการโดยกองทัพบก | มท | 08/09/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติโครงการปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำ ตามข้อเสนอของกองทัพบก จำนวน ๓ โครงการวงเงิน ๑๒๑,๘๖๒,๒๐๐ บาท โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ของกระทรวงมหาดไทย ประกอบด้วย (๑) โครงการขุดลอกคลอง/บ่อน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี วงเงิน ๓๗,๘๓๗,๐๐๐ บาท (๒) โครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำ/ลำห้วย อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี วงเงิน ๒๒,๗๖๐,๐๐๐ บาท และ (๓) โครงการคันดินกั้นน้ำ งานก่อสร้างประตูระบายน้ำ ในพื้นที่หนองหาน อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร วงเงิน ๖๑,๒๖๕,๒๐๐ บาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยและกองทัพบกรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่เห็นควรเร่งรัดการดำเนินงานให้แล้วเสร็จเพื่อสามารถเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งต่อไป รวมทั้งเร่งรัดการดำเนินการเพื่อให้โครงการเกิดประโยชน์ในการป้องกันและแก้ปัญหาภัยแล้ง และอุทกภัย สำหรับประชาชน และพื้นที่โดยรอบโครงการ รวมถึงการดำเนินการให้กระทำด้วยความโปร่งใสอยู่ในกรอบเวลาที่กำหนด และพร้อมรับการตรวจสอบจากองค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
.....
