ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 4 จากทั้งหมด 81 หน้า แสดงรายการที่ 61 - 80 จากข้อมูลทั้งหมด 1601 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
61 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (สำนักงาน ก.พ.) | นร.10 | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการต่าง ๆ
ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี จำนวน ๒ คณะ ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑. คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ
(คปร.)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
62 | สรุปผลการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยความครอบคลุมและการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก | ดศ. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยความครอบคลุมและการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลในภูมิภาคเอเชีย
- แปซิฟิก ระหว่างวันที่ ๓ - ๕ กันยายน ๒๕๖๗ ณ กรุงอัสตานา สาธารณรัฐคาซัคสถาน โดยมอบหมายให้ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
(ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ).เข้าร่วมการประชุมฯ
ซึ่งในการประชุมดังกล่าวได้มีการหารือเกี่ยวกับ (๑)
การแลกเปลี่ยนมุมมองเชิงนโยบายในการสร้างอนาคตดิจิทัลที่ครอบคลุมและยั่งยืนเพื่อเร่งรัดการดำเนินการตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
ซึ่งได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการลดช่องว่างการเข้าถึงดิจิทัลอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
และความสำคัญของการสนับสนุนความร่วมมือระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการพัฒนาดิจิทัลที่ปลอดภัย
มั่นคง และยั่งยืน (๒) การส่งเสริมดิจิทัลโซลูชันเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยคาซัคสถานเสนอให้มีการจัดตั้งศูนย์ดิจิทัลโซลูชันเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
เพื่อให้บริการดิจิทัลโซลูชันที่มีประสิทธิภาพในภูมิภาคเอเชียกลางและภูมิภาคอื่น ๆ
และ (๓)
การเสริมสร้างความร่วมมือด้านดิจิทัลในระดับภูมิภาคเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
โดยคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (ESCAP) ได้รายงานความก้าวหน้าในการดำเนินการตามข้อริเริ่มในระดับโลกและระดับภูมิภาคเกี่ยวกับความร่วมมือด้านดิจิทัล
โดยเฉพาะแผนปฏิบัติการเพื่อดำเนินการตามข้อริเริ่มทางด่วนข้อมูลสารสนเทศแห่งเอเชียและแปซิฟิก
ค.ศ. ๒๐๒๒ - ๒๐๒๖ ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
63 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวน เขตอำนาจ และวันเปิดทำการศาลแขวง ในจังหวัดร้อยเอ็ด พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้บทบัญญัติ มาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ. 2520 บังคับสำหรับคดีที่เกิดขึ้นในบางท้องที่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | ศย. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวน
เขตอำนาจ และวันเปิดทำการศาลแขวงในจังหวัดร้อยเอ็ด พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีศาลแขวงสุวรรณภูมิ ในจังหวัดร้อยเอ็ด
โดยมีเขตอำนาจในอำเภอเกษตรวิสัย อำเภอปทุมรัตต์ อำเภอพนมไพร อำเภอโพนทราย
อำเภอสุวรรณภูมิ และอำเภอหนองฮี และกำหนดให้เปิดทำการตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ.
๒๕๖๘ เป็นต้นไป และร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้บทบัญญัติ มาตรา ๓
แห่งพระราชบัญญัติให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ.
๒๕๒๐ บังคับสำหรับคดีที่เกิดขึ้นในบางท้องที่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด
สำหรับคดีอาญาที่อยู่ในอำนาจศาลแขวงซึ่งเกิดขึ้นเฉพาะในท้องที่อำเภอจตุรพักตรพิมาน
อำเภอจังหาร อำเภอเชียงขวัญ อำเภอทุ่งเขาหลวง อำเภอธวัชบุรี อำเภอโพธิ์ชัย
อำเภอโพนทอง อำเภอเมยวดี อำเภอเมืองร้อยเอ็ด อำเภอเมืองสรวง อำเภอศรีสมเด็จ
อำเภอเสลภูมิ อำเภอหนองพอก และอำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด รวม ๒ ฉบับ
ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงานศาลยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงยุติธรรมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงยุติธรรม เห็นว่าการเปิดทำการศาลดังกล่าว ควรให้มีการเตรียมความพร้อมและการบริหารจัดการเพื่อรองรับทั้งด้านบุคลากร
งบประมาณ อาคารสถานที่ และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงด้านอื่น ๆ
ที่เหมาะสมต่อการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อความโปร่งใส ความคุ้มค่า ประสิทธิภาพ
และประสิทธิผลของการอำนวยความยุติธรรมตามหลักนิติธรรม
ตลอดจนการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานอัยการสูงสุด
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กระทรวงยุติธรรม รวมถึงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์
เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในเรื่องเขตอำนาจศาลและได้รับความสะดวกในการพิจารณาพิพากษาคดี |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
64 | ร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างกิจการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ในท้องที่อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี และเขตหลักสี่ เขตบางเขน เขตคันนายาว เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติกำหนดภาระในอสังหาริมทรัพย์ เพื่อกิจการขนส่งมวลชน โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ในท้องที่เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | คค. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
65 | ขอความเห็นชอบการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์บริเวณสถานีไฟฟ้าแรงสูงคลองหลวง (บางส่วน) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค | พน. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
66 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (1. นางสุพิชชา จันทรโยธา ฯลฯ จำนวน 4 คน) | อว. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
จำนวน ๔ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ดังนี้ ๑. นางสุพิชชา จันทรโยธา ๒. นางสุภา หารหนองบัว ๓. นายสมหมาย เตชวาล
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
67 | ขออนุมัติแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง (นายราชันย์ ซุ้นหั้ว) | มท. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายราชันย์ ซุ้นหั้ว เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง
แทนกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ
โดยให้ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
68 | ร่างระเบียบ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ พ.ศ. .... | สกมช. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างระเบียบ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ในคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ พ.ศ. .... ที่คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี
คณะที่ ๔ ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาบุคคล เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ
ตามที่คณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
69 | ร่างพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยกำหนดให้ที่ดินที่เป็นที่ตั้งของโรงผลิตน้ำประปาและโรงผลิตน้ำประปา
รวมถึงที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นที่ใช้ประโยชน์เกี่ยวเนื่องกับการผลิตน้ำประปา
ได้รับลดภาษีในอัตราร้อยละ ๕๐ ของจำนวนภาษีที่จะต้องเสีย
และใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๘ เป็นต้นไป
เพื่อให้สอดคล้องกับกระบวนการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
(อปท.) ที่ต้องเริ่มดำเนินการสำรวจที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ.
๒๕๖๘ อันจะทำให้ อปท.
สามารถจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิตน้ำประปาให้แก่กิจการผลิตน้ำประปาซึ่งเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว
รวมถึงสถานการณ์ ความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับ
ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้อง ครบถ้วน
และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
70 | การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรใน International Partnership for Blue Carbon (IPBC) | ทส. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
71 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดจำนวนคนต่างด้าวซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ. .... | มท. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
72 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ภายในระยะเวลาที่กำหนด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษในช่วงเทศกาลปีใหม่ของปี พ.ศ. 2568) | คค. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ และทางหลวงพิเศษหมายเลข
๙ ภายในระยะเวลาที่กำหนด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข
๗ และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ของปี พ.ศ. ๒๕๖๘ ตั้งแต่เวลา ๐๐.๐๑
นาฬิกา ของวันพฤหัสบดีที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๗ ถึงเวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา ของวันพฤหัสบดีที่
๒ มกราคม ๒๕๖๘ เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเดินทางบนทางหลวงพิเศษในช่วงเทศกาลดังกล่าว
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นควรกำหนดมาตรการหรือแนวทางในการบริหารจัดการจราจรและดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
โดยเฉพาะการกำชับให้ผู้ขับขี่ใช้อัตราความเร็วที่เหมาะสมกับโครงสร้างทางกายภาพของถนนและการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด
รวมทั้งให้มีการบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับเอกชน
และจัดทำระบบป้องกันอุบัติเหตุบนถนนและระบบแจ้งเตือนอุบัติเหตุ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทางของประชาชนให้เกิดความสะดวกรวดเร็วและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
73 | นโยบายและมาตรการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ (ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กากถั่วเหลือง และปลาป่น) | พณ. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบการกำหนดนโยบายและมาตรการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และปลาป่น
ปี ๒๕๖๘ ตามมติคณะกรรมการนโยบายอาหารในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ (ครั้งที่
๘๒) เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ๒.
เห็นชอบการกำหนดนโยบายและมาตรการนำเข้ากากถั่วเหลือง
ตามมติคณะกรรมการนโยบายอาหารในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ (ครั้งที่ ๘๒)
เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ เฉพาะปี ๒๕๖๘ เท่านั้น สำหรับการดำเนินการในปี ๒๕๖๙
ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปติดตามและจัดทำรายงานประเมินผลการดำเนินการเพิ่มผลผลิตกากถั่วเหลืองที่ผลิตได้ในประเทศไทยว่าสามารถช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากต่างประเทศได้มากน้อยเพียงใด
แล้วให้รายงานผลต่อคณะกรรมการนโยบายอาหารเพื่อพิจารณานโยบายและมาตรการนำเข้ากากถั่วเหลือง
ในปี ๒๕๖๙ ให้เหมาะสม ถูกต้องต่อไปด้วย ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
รวมทั้งให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนงานบูรณาการร่วมกันเพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเคร่งครัด
พร้อมทั้งติดตาม วิเคราะห์
และรายงานผลกระทบต่อเกษตรกรให้คณะกรรมการนโยบายที่กำกับดูแลสินค้าเกษตรที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ
เพื่อกำหนดมาตรการรองรับการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาและคุณภาพสินค้าเกษตรภายในประเทศได้ทันกับสถานการณ์
รวมทั้งเห็นควรให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และถั่วเหลืองให้สามารถทนต่อโรคระบาดแมลงศัตรูพืช กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เห็นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรกำกับดูแลและตรวจสอบการนำเข้าอย่างเข้มงวด
เพื่อให้การนำเข้าสินค้าตรงกับการสำแดงพิกัดอัตราภาษีศุลกากร และป้องกันการลักลอบการนำเข้าที่ผิดกฎหมาย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
74 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์) | นร.01 | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอน นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพาณิชย์
และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
75 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (1. นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา ฯลฯ จำนวน 14 คน) | พณ. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์
จำนวน ๑๔ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
ดังนี้ ๑. นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชน
สาขาศิลปศาสตร์ ๒. นายคณิต วัฒนวิเชียร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชน
สาขาวิทยาศาสตร์ ๓. นายระพีพัชญ์ ธนถาวรกิตติ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชน สาขารัฐศาสตร์ ๔. นายวินัย สมประสงค์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชน
สาขาเกษตรศาสตร์ ๕. นายสมชาย รัตนชื่อสกุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชน สาขานิติศาสตร์
(ผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค) ๖. นายสมหมาย เตชวาล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชน
สาขาภูมิศาสตร์ ๗. นางสาวกริชผกา บุญเฟื่อง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สาขานิติศาสตร์ ๘. พันตำรวจเอก ประเวศน์
มูลประมุข กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สาขารัฐศาสตร์ ๙. นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สาขาเกษตรศาสตร์ ๑๐. นายสถิระ อุดมศรี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สาขาเกษตรศาสตร์ ๑๑. นางพรพิณี บุญบันดาล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สาขาเกษตรศาสตร์ ๑๒. นายณัฐพงค์ ปิยมาภรณ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สาขาประวัติศาสตร์ ๑๓. นางธิติมา มิ่งโมฬี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สาขาวิทยาศาสตร์
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
76 | รายงานประจำปีกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | กค. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
77 | การขอต่อระยะเวลาผลิตปิโตรเลียม สัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 3/2539/50 แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข B8/38 | พน. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ เมดโค เอนเนอร์จี ไทยแลนด์ (บัวหลวง) ลิมิเต็ด
และเมดโค เอนเนอร์จี ไทยแลนด์ (อีแอนด์พี) ลิมิเต็ด
ต่อระยะเวลาผลิตปิโตรเลียมสำหรับสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ ๓/๒๕๓๙/๕๐ แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข
B8/38
ออกไปอีก ๑๐ ปี นับตั้งแต่วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๘ ถึงวันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๗๘ ทั้งนี้
กระทรวงพลังงานจะได้ออกเป็นสัมปทานปิโตรเลียมเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๕) ของสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่
๓/๒๕๓๙/๕๐ ตามแบบ ชธ/ป๓/๑ ที่กำหนดในกฎกระทรวงกำหนดแบบสัมปทานปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๕๕
ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ และให้กระทรวงพลังงาน (กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ)
รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรมอบหมายให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติกำกับให้ผู้รับสัมปทานดำเนินการให้เป็นไปตามสัญญา
โดยเฉพาะในส่วนของงานที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาทรัพยากรปิโตรเลียมของประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
78 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมนิยามคำว่า “ทางรถไฟฟ้า”
ตามกฎกระทรวงกำหนดทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยเพิ่มคำว่า “ห้องอุปกรณ์อาณัติสัญญาณภายในสถานี ห้องควบคุมระบบบังคับสัมพันธ์ภายในสถานี
ห้องอุปกรณ์สื่อสารภายในสถานี
และชานชาลาสถานีเฉพาะพื้นที่บริเวณที่ผู้โดยสารรอเพื่อขึ้นหรือลงจากรถไฟฟ้า”
เพื่อให้ได้รับยกเว้นจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามที่กำหนดในข้อ (๔)
ของกฎกระทรวงกำหนดทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
พ.ศ. ๒๕๖๒
และเพื่อให้สอดคล้องกับการบรรเทาภาระภาษีให้แก่กิจการขนส่งทางรางประเภทอื่น
(ทางรถไฟ) ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงการคลังพิจารณาหาแนวทางการเพิ่มรายได้ภาษีเพื่อให้การจัดเก็บภาษีเป็นไปตามเป้าหมายและเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางด้านการคลังในอนาคต ให้รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามประเมินผลการดำเนินการ
และจัดทำรายงานเปรียบเทียบการสูญเสียรายได้ที่เกิดขึ้นจริงกับประมาณการที่ได้จัดทำมาในข้อเสนอครั้งนี้
ให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นประจำทุกสิ้นปีงบประมาณ ตามนัยของมาตรา ๒๗
แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
79 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (พื้นที่สีเขียว) | กค. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
(ฉบับที่..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ที่ดินซึ่งปกคลุมด้วยพืชพรรณเป็นองค์ประกอบหลัก
และมีประโยชน์เพื่อสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศการดำรงชีวิต หรือคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ไม่มีการใช้หาผลประโยชน์
(เว้นแต่เป็นการขายหรือการถ่ายโอนคาร์บอนเครดิต ซึ่งได้รับการรับรองจากคณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก)
ที่มีลักษณะ ดังนี้ ๑)
ได้รับการขึ้นทะเบียนโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program) ตามหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกกำหนด
เฉพาะโครงการที่สอดคล้องกับระเบียบวิธีลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ (T-VER
Methodology) ประเภทป่าไม้และพื้นที่สีเขียว ๒) เป็นป่าชายเลนตามหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งประกาศกำหนด ๓)
เป็นพื้นที่สีเขียวตามหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศกำหนด
เป็นทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามกฎกระทรวงกำหนดทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
พ.ศ. ๒๕๖๒ ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเร่งรัดออกประกาศเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการเป็นป่าชายเลนตามข้อ ๑๓ (ข) ของกฎกระทรวงกำหนดทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยร่างกฎกระทรวงกำหนดทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อไป ๓. ให้กระทรวงการคลัง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นควรที่กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาการกำหนดเงื่อนไขหลักเกณฑ์ภายหลังจากที่ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวมีผลใช้บังคับ
เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. ๒๕๖๒
โดยคำนึงถึงการทำประโยชน์ว่าเป็นไปตามสมควรแก่สภาพหรือไม่
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บและลดการเหลื่อมล้ำ
ตลอดจนการสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงดังกล่าว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
80 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การออกหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง พ.ศ. .... และร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม เพื่อทำงานกับนายจ้างในกิจการประมงทะเล ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 รวม 2 ฉบับ | กษ. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง
การออกหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม
หรือสัญชาติอื่น
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศกำหนดมาขึ้นทะเบียนและยื่นคำขอรับหนังสือคนประจำเรือ
กรณีที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน (Seabook เล่มสีเหลือง)
ได้ตลอดทั้งปี ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|