ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 3 จากทั้งหมด 81 หน้า แสดงรายการที่ 41 - 60 จากข้อมูลทั้งหมด 1601 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
41 | นายกรัฐมนตรีลากิจในวันที่ 24 ธันวาคม 2567 | นร.05 | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งว่า
นายกรัฐมนตรีจะลากิจในวันอังคารที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๗ ตั้งแต่เวลา ๑๕.๓๐ น.
เป็นต้นไป ซึ่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้จัดทำหนังสือเวียนแจ้งให้รัฐมนตรีทุกท่านทราบแล้ว
ทั้งนี้ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๕๕ ข้อ ๔๑
กำหนดให้การลาทุกประเภทของนายกรัฐมนตรี ให้อยู่ในดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี
และแจ้งให้คณะรัฐมนตรีทราบ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
42 | ขออนุมัติผ่อนผันการเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าภูแลนคาด้านทิศเหนือ เพื่อสร้างวัดชัยภูมิพิทักษ์ (ผาเกิ้ง) ท้องที่ตำบลกุดชุมแสง อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ | พศ. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่
๑ เอ ตามมติคณะรัฐนตรีที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๑๕ ไร่ เพื่อสร้างวัดชัยภูมิพิทักษ์
(ผาเกิ้ง) ตำบลกุดชุมแสง อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงมหาดไทยไปดำเนินการต่อไปอย่างเคร่งครัด
ดังนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่าหากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้รับอนุญาตให้เข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่แล้ว
ขอให้จำกัดพื้นที่ดำเนินการตามที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
และจะต้องปฏิบัติตามมาตรการการใช้ที่ดินในเขตลุ่มน้ำและมาตรการที่นำเสนอไว้ในรายงานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
43 | ร่างพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา
พ.ศ. ๒๕๔๔ โดยเพิ่มเติมการคุ้มครองผู้ต้องหาและจำเลยในชั้นสอบสวน
ขยายระยะเวลาในการยื่นคำขอรับเงินค่าตอบแทน
ค่าทดแทน และค่าใช้จ่าย รวมทั้งลดขั้นตอนการดำเนินงาน
ตลอดจนกำหนดให้สามารถยื่นคำขอผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้
เพื่อให้ผู้เสียหาย ผู้ต้องหา และจำเลยได้รับการช่วยเหลือเยียวยาที่สะดวก รวดเร็ว
ทั่วถึง และเป็นธรรมยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ๓.
ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เห็นควรบังคับใช้กฎหมายนี้ควบคู่กับการแก้ไขระบบและกระบวนการยุติธรรมในมิติต่าง
ๆ อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น
มีทัศนคติที่ดีต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศ ลดความเหลื่อมล้ำ
และความไม่เป็นธรรมที่อาจเกิดขึ้นให้น้อยลง และควรจัดให้มีนักสังคมสงเคราะห์เข้าไปคุ้มครองสวัสดิภาพประชาชน
ครอบครัว และผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตกเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาทั้งทางตรงและทางอ้อม
เพื่อให้สามารถเข้าถึงสิทธิสวัสดิการและได้รับการดูแลที่เหมาะสม
อันจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้เสียหายต่อไป สำนักงบประมาณ เห็นควรให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับจัดสรรเพื่อรองรับภารกิจเกี่ยวกับการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่เป็นผู้เสียหาย
ผู้ต้องหา และจำเลยในคดีอาญาไว้แล้ว
และ/หรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีเพื่อมาดำเนินการตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
44 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายพลพิศิลป์ สุวรรณชัย) | กษ. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายพลพิศิลป์ สุวรรณชัย ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์
(ผู้อำนวยการสูง) ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กรมประมง ให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจัดการประมง
(นักวิชาการประมงทรงคุณวุฒิ) กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ ๑๔
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
45 | ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง ขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่อำเภอบางละมุง และอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พ.ศ. 2563 พ.ศ. .... | ทส. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง
ขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง
กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่อำเภอบางละมุง
และอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พ.ศ. ๒๕๖๓ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่อำเภอบางละมุง
และอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พ.ศ. ๒๕๖๓ ออกไปอีก ๒ ปี นับแต่วันที่ ๒๕ กรกฎาคม
๒๕๖๘ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมาย และร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
46 | ขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566 [เรื่อง การลงทุนโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดลำพูน และเรื่อง การลงทุนโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)] | อก. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ มกราคม ๒๕๖๖ [เรื่อง การลงทุนโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดลำพูน
และเรื่อง การลงทุนโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
(EEC)] ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรม
(การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม
กระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
ในการลงทุนจัดซื้อที่ดินเพื่อจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในคราวต่อไป การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยควรศึกษาและตรวจถึงกรรมสิทธิ์ของที่ดินในแต่ละพื้นที่
และพิจารณาข้อมูลและความเสี่ยงเกี่ยวกับที่ดินเป้าหมายอย่างรอบคอบก่อนที่จะดำเนินการเสนอต่อคณะรัฐมนตรี
รวมทั้งประสานงานกับผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมทั้ง ๒ แห่ง ในการกำหนดกลุ่มอุตสาหกรรมเศรษฐกิจชีวภาพ
เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG) ตามแนวนโยบายของรัฐบาล เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ (เรื่อง
การตรวจสอบและจัดเตรียมความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ)
อย่างเคร่งครัดด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
47 | อนุสัญญาระหว่างราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรนอร์เวย์เพื่อการขจัดการเก็บภาษีซ้อนในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ และการป้องกันการหลบหลีกและการหลีกเลี่ยงรัษฎากร | กค. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างอนุสัญญาระหว่างราชอาณาจักไทยและราชอาณาจักรนอร์เวย์
เพื่อการขจัดการเก็บภาษีซ้อนในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้และการป้องกันการหลบหลีกและการหลีกเลี่ยงรัษฎากร
(ฉบับภาษาอังกฤษ) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในร่างอนุสัญญาฯ
และให้กระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ที่ได้รับมอบหมายดังกล่าวด้วย
โดยร่างอนุสัญญาฯ เป็นการแก้ไขเพื่อแทนที่อนุสัญญาฉบับเดิม
และทำให้อนุสัญญาฉบับใหม่สอดคล้องกับกรอบความร่วมมือเพื่อป้องกันการกัดกร่อนฐานภาษีและโอนกำไรไปยังประเทศที่มีอัตราภาษีต่ำที่ไทยเข้าร่วม
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอนุสัญญาฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการคลังดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
48 | ขอถอนร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการการประกอบธุรกิจให้บริการออกใบรับรองลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. .... | ดศ. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมถอนร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการการประกอบธุรกิจให้บริการออกใบรับรองลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. .... ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตามที่เสนอได้
และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
49 | ความตกลงว่าด้วยกรอบข้อบังคับด้านความปลอดภัยอาหารอาเซียน (ASEAN Food Safety Regulatory Framework Agreement; AFSRF Agreement) | กษ. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบความตกลงว่าด้วยกรอบข้อบังคับด้านความปลอดภัยอาหารอาเซียน (ASEAN Food
Safety Regulatory Framework Agreement ; AFSRF Agreement) ซึ่งได้มีการลงนามแล้ว
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๔ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดแนวทางการดำเนินการทั้งหมดที่ครอบคลุมและมีการบูรณาการเกี่ยวกับความปลอดภัยอาหารของประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการคุ้มครองสุขภาพของผู้บริโภคและอำนวยความสะดวกการเคลื่อนย้ายอย่างเสรีของอาหารปลอดภัยในอาเซียนบนพื้นฐานของหลักการ
๑๐ ข้อ ของนโยบายความปลอดภัยอาหารของอาเซียน (ASEAN Food Safety Policy :
AFSP) ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา แล้วเสนอรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา
๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ก่อนแสดงเจตนาให้มีผลผูกพันต่อไป ๒.
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการมอบสัตยาบันสารของความตกลงฯ
ให้แก่เลขาธิการอาเซียนเพื่อรับทราบการให้สัตยาบัน
เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบความตกลงฯ ดังกล่าวแล้ว |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
50 | ร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง ห้ามตั้งหรือขยายโรงงานที่ใช้ปรอทหรือสารประกอบปรอทในกระบวนการผลิตและห้ามใช้ปรอทหรือสารประกอบปรอทในกระบวนการผลิต พ.ศ. .... | อก. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม
เรื่อง
ห้ามตั้งหรือขยายโรงงานที่ใช้ปรอทหรือสารประกอบปรอทในกระบวนการผลิตและห้ามใช้ปรอทหรือสารประกอบปรอทในกระบวนการผลิต
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการห้ามตั้งหรือขยายโรงงานที่ใช้ปรอทหรือสารประกอบปรอทในกระบวนการผลิตและห้ามใช้ปรอทหรือสารประกอบปรอทในกระบวนการผลิตในโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานเพื่อเป็นการปฏิบัติตามพันธกรณีของอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
51 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายลิขิต ทิฐิธรรมเจริญ) | คค. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายลิขิต
ทิฐิธรรมเจริญ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนัก
[ผู้อำนวยการเฉพาะด้าน (วิศวกรรมโยธา) สูง] สำนักวิเคราะห์ วิจัย และพัฒนา
กรมทางหลวงชนบท ให้ดำรงตำแหน่งวิศวกรใหญ่ที่ปรึกษาวิชาชีพเฉพาะด้านวิศวกรรมโยธา
(ด้านควบคุมการก่อสร้าง) (วิศวกรโยธาทรงคุณวุฒิ) กรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม
ตั้งแต่วันที่ ๓ กันยายน ๒๕๖๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
52 | การกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ปี 2568 | รง. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
(ฉบับที่ ๑๓) ลงวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๗ เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่
๑ มกราคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
53 | โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ | กค. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ
(โครงการฯ) โดยมอบหมายกระทรวงการคลังดำเนินโครงการฯ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประสิทธิภาพ
และอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. .... งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ
จำนวนไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท รวมทั้งเห็นชอบในหลักการการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินที่กลุ่มเป้าหมายได้รับตามโครงการฯ
และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ เช่น สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)
นำส่งฐานข้อมูลผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๓ เมษายน ๒๕๖๗ สำเร็จ ที่มีสัญชาติไทยและมีอายุตั้งแต่ ๖๐ ปีบริบูรณ์ขึ้นไป โดยสำนักงานปลัดกระทรวงการคลังเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
เป็นต้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สำหรับภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้น
ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ให้รับความเห็นและข้อเสนอแนะของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ธนาคารแห่งประเทศไทย
และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)
รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่ากระทรวงการคลังควรเตรียมแนวทางการประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าว
เพื่อสร้างความเข้าใจในวงกว้างและลดปัญหาการร้องเรียนที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ สำนักงบประมาณ เห็นควรให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมุ่งเน้นการกำกับดูแลการดำเนินการในเรื่องต่าง
ๆ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ข้อกฎหมาย
รวมถึงรักษากรอบวินัยการเงินการคลังอย่างรอบคอบ เคร่งครัด
และจัดให้มีการติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และความคุ้มค่า รวมทั้งรายงานปัญหาอุปสรรค
และแนวทางการแก้ไขการดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
54 | การแต่งตั้งผู้แทนไทยในคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน วาระปี 2568-2570 | กต. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาณุภัทร
จิตเที่ยง ดำรงตำแหน่งผู้แทนไทยในคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
สำหรับวาระปี ๒๕๖๘ - ๒๕๗๐ โดยให้ทำหน้าที่ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๘ ถึงวันที่
๓๑ ธันวาคม ๒๕๗๐ และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมีหนังสือแจ้งให้เลขาธิการอาเซียนและประเทศสมาชิกอาเซียนทราบ
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
55 | ขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีที่ห้ามใช้ประโยชน์ป่าชายเลน เพื่อให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยใช้ประโยชน์พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองกะลาเส และป่าคลองไม้ตาย ท้องที่ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง เพื่อใช้ประโยชน์ด้านการศึกษาตามภารกิจของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย | อว. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
56 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรับบริจาคและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร.01 | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
57 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายชูชีพ พงษ์ไชย ฯลฯ จำนวน 33 ราย) | มท. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓๓ ราย
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง และสับเปลี่ยนหมุนเวียน
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง (๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๗)
เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑. นายชูชีพ พงษ์ไชย ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดตาก
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายชยชัย แสงอินทร์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายทศพล เผื่อนอุดม ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นางรณิดา เหลืองฐิติสกุล ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายศรัณย์ศักด์ ศรีเครือเนตร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นายสมบัติ ไตรศักดิ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๗. นายสันติ รังษิรุจิ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๘. นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๙. นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี
สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๐. นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร
สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๑. นายชานน วาสิกศิริ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก
สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๒. นางสาวอโรชา นันทมนตรี ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม
สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๓. นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม
สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๔. นายสมชาย ลีหล้าน้อย ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช
สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๕. นางสาวชุติพร เสชัง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์
สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๖. นายปิยะ ปิจนำ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์
สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๗. นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๘. นายไพรัตน์ เพชรยวน ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา
สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๙. นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๐. นางสาวธนียา นัยพินิจ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๑. ร้อยตำรวจโท ภพชนก ชลานุเคราะห์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๒. นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๓. นายเอกวิทย์ มีเพียร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๔. นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๕. นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๖. นายสุพจน์ ภูติเกียรติขจร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๗. นางสาวฐิติลักษณ์ คำพา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๘. นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๙. นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย
สำนักงานปลัดกระทรวง ๓๐. นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี
สำนักงานปลัดกระทรวง ๓๑. นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู
สำนักงานปลัดกระทรวง ๓๒. นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง
สำนักงานปลัดกระทรวง
๓๓. นายณรงค์ เทพเสนา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ
สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
58 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรวิทยาแห่งชาติเพิ่มเติม (นางเกศรา มัญชุศรี) | อว. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางเกศรา มัญชุศรี เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรวิทยาแห่งชาติเพิ่มเติมในตำแหน่งที่ว่าง
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
59 | ขอความเห็นชอบการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์บริเวณสถานีไฟฟ้าแรงสูงคลองหลวง (บางส่วน) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค | พน. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
60 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (1. นางสุพิชชา จันทรโยธา ฯลฯ จำนวน 4 คน) | อว. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
จำนวน ๔ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ดังนี้ ๑. นางสุพิชชา จันทรโยธา ๒. นางสุภา หารหนองบัว ๓. นายสมหมาย เตชวาล
|