ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 992 จากทั้งหมด 6210 หน้า แสดงรายการที่ 19821 - 19840 จากข้อมูลทั้งหมด 124181 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
19821 | การขอขยายระยะเวลาการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายลงทุน รายการที่ไม่ได้ปรากฏในพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2559 และยังไม่สามารถลงนามในสัญญาได้ทันภายในเดือนพฤษภาคม 2559 | มท | 30/08/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ กรณีกระทรวงมหาดไทยเสนอขอขยายระยะเวลาการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายลงทุน รายการที่ไม่ได้ปรากฏในพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. ๒๕๕๙ และยังไม่สามารถลงนามในสัญญาได้ทันภายในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๙ เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนภายในพื้นที่ รวมทั้งก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในปีงบประมาณ เห็นควรอนุมัติในหลักการให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นดำเนินรายการงบประมาณที่ไม่ได้ปรากฏในพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. ๒๕๕๙ เฉพาะรายการงบประมาณที่ได้ผู้รับจ้างแล้วและสามารถดำเนินการได้ทันที จำนวน ๕๐ รายการ เป็นเงิน ๑๙๗,๔๓๔,๑๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นกำกับดูแลและเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ทันตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด และกำชับให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรายงานข้อมูลงบประมาณดังกล่าว ให้เป็นปัจจุบันด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19822 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณดำเนินการโครงการบูรณาการการขุดลอกแหล่งน้ำ | มท | 30/08/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ เพิ่มเติม งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน ๑๔๓,๕๔๕,๑๐๐ บาท ให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโครงการบูรณาการการขุดลอกแหล่งน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในฤดูฝน และกักเก็บน้ำไว้ใช้ประโยชน์ในการอุปโภค บริโภค และการเกษตรสำหรับช่วงปลายฤดูฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ทำลายระบบนิเวศทางธรรมชาติต่อไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า การดำเนินงานโครงการขุดลอกแหล่งน้ำควรพิจารณาดำเนินงานเฉพาะโครงการในพื้นที่ที่มีความเหมาะสม ซึ่งสามารถดำเนินการได้จริงตามสภาพฤดูกาล เพื่อให้การดำเนินงานก่อเกิดประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวม และมีประสิทธิภาพสามารถตรวจสอบได้ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ให้หลักการไว้ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19823 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว | พน | 30/08/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เรื่อง ความร่วมมือในการพัฒนาไฟฟ้าในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีสาระสำคัญในการขยายกรอบความร่วมมือเพิ่มจากบันทึกความเข้าใจเรื่องความร่วมมือในการพัฒนาไฟฟ้าในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ฉบับลงนามวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๐ จาก ๗,๐๐๐ เมกะวัตต์ เป็น ๙,๐๐๐ เมกะวัตต์ รวมถึงสนับสนุนการพัฒนาการเชื่อมโยงโครงข่ายระบบไฟฟ้าของทั้งสองประเทศเข้าด้วยกัน ก่อนยกระดับสู่การเป็น Regional Power Grid และจะจัดตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมกันศึกษาในรายละเอียดทางด้านเทคนิคและเศรษฐศาสตร์ในการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าของทั้งสองประเทศในลักษณะระบบต่อระบบ (Grid-to-Grid) ร่วมมือด้านการพัฒนาแหล่งพลังงานไฟฟ้าพลังความร้อน สนับสนุนการพัฒนาระบบส่งและระบบจำหน่ายในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน ได้แก่ การพัฒนาบุคลากร การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ด้านเทคนิค การแลกเปลี่ยนข้อมูล การศึกษาร่วมกัน การอบรมเชิงปฏิบัติการ และการดำเนินกิจกรรมผ่านโครงการต่าง ๆ ที่ได้ร่วมกันจัดตั้งขึ้นในด้านพลังงานไฟฟ้า ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ๒. ให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม รวมทั้งให้รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานให้ความช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านในการพัฒนาระบบไฟฟ้าทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการเพื่อนำไปสู่การพัฒนาระบบไฟฟ้าของประเทศเพื่อนบ้านร่วมกันในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงพลังงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19824 | ขออนุมัติดำเนินงานโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อพัฒนาระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ | กษ | 30/08/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรดำเนินงานโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อพัฒนาระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ๑.๒ อนุมัติกรอบวงเงินสินเชื่อของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน ๓,๒๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (ระยะเวลา ๓ ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๒) ๑.๓ อนุมัติค่าชดเชยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๓ ต่อปี ให้กับ ธ.ก.ส. จำนวน ๒๒๘,๖๐๐,๐๐๐ บาท ๑.๔ อนุมัติค่าใช้จ่ายในการบริหารโครงการ จำนวน ๘,๐๐๐,๑๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโครงการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๒. ส่วนเรื่องงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยในส่วนของค่าชดเชยดอกเบี้ย ให้ ธ.ก.ส. เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอน ทั้งนี้ ในส่วนของกลุ่มเกษตรกร/วิสาหกิจชุมชน/สหกรณ์ ที่เข้าร่วมโครงการฯ ให้จ่ายในอัตราร้อยละ ๐.๐๑ สำหรับค่าใช้จ่ายในการบริหารโครงการ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของแต่ละหน่วยงานก่อน โดยการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี หรือเสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาส่งเสริมการทำเกษตรแบบแปลงใหญ่เฉพาะในพื้นที่ที่เหมาะสมกับการทำการเกษตรประเภทนั้น ๆ เพียงเท่านั้น รวมทั้งควรติดตามและประเมินผลสำเร็จจากการดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมีการติดตามและประเมินผลโครงการฯ และมีตัวชี้วัดที่เหมาะสมและชัดเจนโดยรายงานผลให้คณะรัฐมนตรีรับทราบตามขั้นตอนต่อไป นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับการสร้างการรับรู้และความเข้าใจแนวทางปฏิบัติของโครงการฯ อย่างทั่วถึง รวมทั้งควรนำบทเรียนของการดำเนินงานตามระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ที่ผ่านมาใช้ประกอบการดำเนินงาน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๔. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนด Roadmap การดำเนินการและผลสัมฤทธิ์ของโครงการให้ชัดเจน ทั้งนี้ หากการดำเนินโครงการไม่มีความคืบหน้าให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาทบทวน/เปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินโครงการดังกล่าวต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19825 | ร่างถ้อยแถลงร่วมการประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 8 (Eighth Mekong - Japan Summit) | กต | 30/08/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบในหลักการร่างถ้อยแถลงร่วมการประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ ๘ (Eighth Mekong-Japan Summit) ซึ่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ ๘ ในวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๕๙ ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีสาระสำคัญระบุความก้าวหน้าของกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น (Mekong-Japan Cooperation) นับตั้งแต่มีการประกาศยุทธศาสตร์โตเกียว ค.ศ. ๒๐๑๕ เพื่อความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น (New Tokyo Strategy 2015) แผนปฏิบัติการ ๓ ปีกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๑ (Mekong-Japan Action Plan for Realization of the New Tokyo Strategy 2015) และวิสัยทัศน์การพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศลุ่มแม่น้ำโขง (Mekong Industrial Development Vision) ๑.๒ อนุมัติให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้ได้รับมอบหมายร่วมให้การรับรองร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๓. ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19826 | ขอความเห็นชอบแนวทางการบริหารกิจการดาวเทียมสื่อสารของประเทศ | ทก | 30/08/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบความเป็นมาของการดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ และผลการศึกษา เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการดาวเทียมสื่อสารหลังสิ้นสุดสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีสาระสำคัญเกี่ยวกับนโยบายเปิดตลาดสำหรับกิจการดาวเทียมสื่อสารของประเทศไทย แบ่งเป็น ๒ ระยะ ได้แก่ (๑) นโยบายเปิดตลาดระยะยาว และ (๒) นโยบายเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่การเปิดตลาดสำหรับดาวเทียมและวงโคจรในปัจจุบัน ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรายงาน โดยไม่รวมถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการภายใต้สัญญาใด ๆ ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการกำกับดูแลให้เป็นไปตามสัญญา ๒. ส่วนแนวทางการบริหารกิจการดาวเทียมสื่อสารของประเทศในระยะยาวและในช่วงเปลี่ยนผ่านนั้น กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารควรดำเนินการให้เกิดความเป็นธรรม และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประเทศเป็นสำคัญ รวมทั้งดำเนินการและกำกับดูแลให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19827 | ขอความเห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียน - ออสเตรเลียว่าด้วยความร่วมมือในการต่อต้านการก่อการร้ายข้ามชาติ (ASEAN - Australia Joint Declaration for Cooperation to Combat International Terrorism) | ตช | 30/08/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียน-ออสเตรเลียว่าด้วยความร่วมมือในการต่อต้านการก่อการร้ายข้ามชาติ (ASEAN-Australia Joint Declaration for Cooperation to Combat International Terrorism) เพื่อใช้กำหนดยุทธศาสตร์ในการป้องกันและปราบปรามการก่อการร้ายภายในภูมิภาค ซึ่งสำนักเลขาธิการอาเซียนจะนำร่างแถลงการณ์ร่วมฯ บรรจุเข้าในวาระการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ ๒๘-๒๙ (ASEAN-Summit) ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๕๙ เพื่อให้ที่ประชุมให้ความเห็นชอบต่อร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ต่อไป ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ ๒. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการได้โดยนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๓. ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19828 | การขอความเห็นชอบให้รับรองต่อร่างแถลงการณ์ร่วมระหว่างอาเซียน - จีน ว่าด้วยความร่วมมือในการเสริมสร้างศักยภาพการผลิต สำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน - จีน ครั้งที่ 19 | พณ | 30/08/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองแถลงการณ์ร่วมระหว่างอาเซียน-จีน ว่าด้วยความร่วมมือในการเสริมสร้างศักยภาพการผลิต (ASEAN-China Joint Statement on Production Capacity Cooperation) สำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๑๙ ที่จะมีขึ้นในวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๕๙ ณ กรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรประสานความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมการแนวทางการดำเนินงานในระยะต่อไปให้เป็นไปด้วยความเหมาะสม สามารถใช้ประโยชน์จากความร่วมมือดังกล่าวทั้งในด้านการพัฒนาศักยภาพการผลิต การค้าการลงทุน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการวิจัย ที่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19829 | การลงนามในปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยความเป็นหนึ่งเดียวในการตอบโต้ภัยพิบัติ ทั้งภายในและภายนอกภูมิภาค (Draft Declaration on One ASEAN, One Response: ASEAN Responding to Disaster as One in the Region and Outside Region) | มท | 30/08/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยความเป็นหนึ่งเดียวในการตอบโต้ภัยพิบัติทั้งภายในและภายนอกภูมิภาค (Draft Declaration on One ASEAN, One Response : ASEAN Responding to Disaster as One in the Region and Outside Region) มีวัตถุประสงค์เพื่อผนึกกำลังกันระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ และผู้ที่มีส่วนได้เสียในอาเซียนในการตอบโต้กับภัยพิบัติอย่างมีประสิทธิผลทั้งในและนอกภูมิภาค ซึ่งจะมีการลงนามในปฏิญญาอาเซียนฯ โดยผู้นำประเทศสมาชิกระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๒๘ ในวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๙ ณ กรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาการดำเนินการตอบโต้ภัยพิบัติในเรื่องนี้ของประเทศที่ร่วมลงนามในปฏิญญาเพื่อปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานให้สอดคล้องและเป็นมาตรฐานเดียวกันต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๓. ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19830 | การกำหนดรายละเอียดรายการครุภัณฑ์ยานพาหนะและขนส่งเกี่ยวกับขนาดของเครื่องยนต์หรือกำลังของเครื่องยนต์ในบัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์ สำนักงบประมาณ | นร07 | 30/08/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ปรับปรุงรายละเอียดรายการรถบรรทุก (ดีเซล) ขนาด ๑ ตัน ซึ่งเดิมกำหนดเฉพาะปริมาตรกระบอกสูบ เป็นให้ใช้ได้ทั้งปริมาตรกระบอกสูบ หรือกำลังเครื่องยนต์ ได้แก่ (๑) กลุ่มปริมาตรกระบอกสูบไม่ต่ำกว่า ๒,๐๐๐ ซีซี หรือกำลังเครื่องยนต์ไม่ต่ำกว่า ๙๐ กิโลวัตต์ และ (๒) กลุ่มปริมาตรกระบอกสูบไม่ต่ำกว่า ๒,๔๐๐ ซีซี หรือกำลังเครื่องยนต์ไม่ต่ำกว่า ๑๑๐ กิโลวัตต์ โดยราคายังคงเดิม ๑.๒ ปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๐ (เรื่อง การปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง แนวทางการปฏิบัติในการเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ) โดยกำหนด “ให้สำนักงบประมาณเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์ของขนาดเครื่องยนต์ กำลังเครื่องยนต์ พร้อมทั้งปรับปรุงคุณลักษณะเฉพาะให้สอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนของเทคโนโลยีการผลิตรถยนต์ประเภทต่าง ๆ ได้ เช่นเดียวกับการกำหนดราคามาตรฐานครุภัณฑ์ ยานพาหนะและขนส่ง โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี” ๒. ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19831 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) ในสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี (นายจิรชัย มูลทองโร่ย) | นร01 | 30/08/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายจิรชัย มูลทองโร่ย ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19832 | การโอนข้าราชการมาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นางเมธินี เทพมณี) | นร | 30/08/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางเมธินี เทพมณี ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ. สำนักงาน ก.พ. สำนักนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19833 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการราชบัณฑิตยสภา (ประเภทบริหารระดับสูง) ต่อคณะรัฐมนตรี (สำนักงานราชบัณฑิตยสภา) (นางสาวกนกวลี ชูชัยยะ) | นร | 30/08/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอน นางสาวกนกวลี ชูชัยยะ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเลขาธิการสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการราชบัณฑิตยสภา สำนักงานราชบัณฑิตยสภา ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล) เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19834 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สำนักนายกรัฐมนตรี) (พลตำรวจตรี ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์) | นร04 | 30/08/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง พลตำรวจตรี ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19835 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) (จำนวน 10 ราย 1. นายสุรพงษ์ เจียสกุล ฯลฯ) | กษ | 30/08/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๑๐ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการและสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. นายสุรพงษ์ เจียสกุล ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายนำชัย พรหมมีชัย ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายธนิตย์ เอนกวิทย์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายสมชาย ชาญณรงค์กุล ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ๕. นายสมปอง อินทร์ทอง ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ๖. นายอภัย สุทธิสังข์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมปศุสัตว์ ๗. นางบริสุทธิ์ เปรมประพันธ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ๘. นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ๙. นางสุดารัตน์ วัชรคุปต์ เหล่าวิชยา ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมหม่อนไหม ๑๐. นายสัญชัย เกตุวรชัย ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมชลประทาน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19836 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงแรงงาน) (จำนวน 7 ราย 1. นายสุเมธ มโหสถ ฯลฯ) | รง | 30/08/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงแรงงาน ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๗ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการและสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้
๑. นายสุเมธ มโหสถ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ๒. นายสุรเดช วลีอิทธิกุล ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ๓. นายกรีฑา สพโชค ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายวรานนท์ ปีติวรรณ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายธีรพล ขุนเมือง ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ๖. นายสิงหเดช ชูอำนาจ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการจัดหางาน ๗. นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19837 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงศึกษาธิการ) (นายบุญรักษ์ ยอดเพชร) | ศธ | 30/08/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายบุญรักษ์ ยอดเพชร ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19838 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) (รองศาสตราจารย์สรนิต ศิลธรรม) | วท | 30/08/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอน รองศาสตราจารย์สรนิต ศิลธรรม ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19839 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงอุตสาหกรรม) (นายพิสิฐ รังสฤษฎ์วุฒิกุล และนายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์) | อก | 30/08/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้
๑. นายพิสิฐ รังสกฤษฎ์วุฒิกุล ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ๒. นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19840 | ขอความเห็นชอบให้ต่อเวลาการดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพสามิต (กระทรวงการคลัง) (นายสมชาย พูลสวัสดิ์) | กค | 30/08/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของ นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพสามิต ซึ่งดำรงตำแหน่งดังกล่าวจะครบระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง ๔ ปี ในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๙ ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
.....