ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 838 จากทั้งหมด 6211 หน้า แสดงรายการที่ 16741 - 16760 จากข้อมูลทั้งหมด 124206 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
16741 | ขอความเห็นชอบให้สถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศจัดการศึกษาในประเทศไทย | ศธ | 24/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้มหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน [Carnegie Mellon University (CMU)] เข้ามาจัดการศึกษาในประเทศไทยร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังในรูปแบบสถาบันร่วม (Joint Institute) ภายใต้ชื่อมหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล (CMKL University) โดย CMU มีกำหนดการรับสมัครนักศึกษา ระหว่างวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๐-๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการจัดการศึกษาดังกล่าวจะต้องคำนึงถึงความพร้อมและไม่ก่อให้เกิดภาระงบประมาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายจ่ายลงทุนของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16742 | การใช้อำนาจตามมาตรา 4 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ พ.ศ. 2551 ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. .... การยกเลิกประกาศคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการบริหารงบประมาณจังหวัดและงบประมาณกลุ่มจังหวัด (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 11 ตุลาคม 2554 และการจัดตั้งกลุ่มจังหวัดและกำหนดจังหวัดที่เป็นศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่มจังหวัด | นร10 | 24/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามมติคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ ในคราวประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๐ ซี่งกำหนดเรื่องที่จังหวัดหรือกลุ่มจังหวัดยังไม่สมควรจะปฏิบัติ ปฏิบัติ หรือปฏิบัติอย่างมีเงื่อนไขตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๔ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการเสนอ ๒. เห็นชอบในหลักการ (๑) ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นกำหนดให้มีคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค มีอำนาจหน้าที่กำหนดกรอบนโยบายและวางระบบในการบริหารงานภาค กำหนดนโยบาย หลักเกณฑ์ และวิธีการในการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด แผนพัฒนากลุ่มจังหวัด และแผนพัฒนาภาค ซึ่งแผนพัฒนาภาคต้องสอดคล้องกับแผนระดับชาติและนโยบายรัฐบาล และ (๒) ร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ เรื่อง การจัดตั้งกลุ่มจังหวัดและกำหนดจังหวัดที่เป็นศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่มจังหวัด มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้จัดตั้งกลุ่มจังหวัดและกำหนดจังหวัดที่เป็นศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่มจังหวัด ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. เห็นชอบในหลักการให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการบริหารงบประมาณจังหวัดและงบประมาณกลุ่มจังหวัด (ฉบับที่ ๒) ลงวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ทั้งนี้ มอบหมายให้สำนักงาน ก.พ.ร. ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการยกร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ เพื่อยกเลิกร่างประกาศในเรื่องนี้ แล้วส่งให้คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16743 | ร่างถ้อยแถลงโซล (Seoul Statement) ในการประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านป่าไม้ ครั้งที่ 4 | ทส | 24/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างถ้อยแถลงโซล (Seoul Statement) มีสาระสำคัญในการให้ความสำคัญของป่าไม้ที่ส่งเสริมการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคม ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม การบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงความสำคัญของการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนและความพยายามที่จะดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืนในภูมิภาค โดยจะมีการรับรองร่างถ้อยแถลงฯ ในการประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านป่าไม้ ครั้งที่ ๔ ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ในวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ ๑.๒ อนุมัติให้หัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านป่าไม้ ครั้งที่ ๔ เป็นผู้พิจารณาให้การรับรองร่างถ้อยแถลงฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๓. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16744 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) ในสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นางประภาศรี บุญวิเศษ) | นร | 24/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางประภาศรี บุญวิเศษ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16745 | แต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) (จำนวน 4 ราย 1. นางสาวยุพเรศ วงศ์บุญมี ฯลฯ) | พม | 24/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้
๑. นางสาวยุพเรศ วงศ์บุญมี ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางขวัญวงศ์ พิกุลทอง ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายธีรพงษ์ ศรีสุคนธ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นางสุภัชชา สุทธิพล ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16746 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงวัฒนธรรม) (จำนวน 3 ราย 1. นายขจร มุกมีค่า ฯลฯ) | วธ | 24/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงวัฒนธรรม ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง จำนวน ๓ ราย ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้
๑. นายขจร มุกมีค่า ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางสาวดารุณี ธรรมโพธิ์ดล ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นางสาวศุภร รัตนพงศ์ ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16747 | การแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การสวนพฤกษศาสตร์ (นายรณรงค์ เส็งเอี่ยม) | ทส | 24/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายรณรงค์ เส็งเอี่ยม ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การสวนพฤกษศาสตร์และการกำหนดอัตราเงินเดือนของผู้อำนวยการองค์การสวนพฤกษศาสตร์ ตามมติคณะกรรมการองค์การสวนพฤกษศาสตร์ครั้งที่ ๕/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๐ และครั้งที่ ๖/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๐ ส่วนค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์อื่น ๆ รวมทั้งเงื่อนไขการจ้างและการประเมินผลการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไป แต่ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๐)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16748 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม (จำนวน 10 คน 1. นายโสภณ เมฆธน ฯลฯ) | สธ | 24/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม แทนประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี เมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๐) เป้นต้นไป จำนวน ๑๐ คน ดังนี้
๑. นายโสภณ เมฆธน ประธานกรรมการ ๒. นายเจษฎา โชคดำรงสุข กรรมการ ๓. นายบุญชัย สมบูรณ์สุข กรรมการ ๔. นางญาใจ พัฒนสุขวสันต์ กรรมการ ผู้แทนกระทรวงการคลัง ๕. นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย กรรมการ ๖. นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ กรรมการ ๗. นายชูศักดิ์ โอกาศเจริญ กรรมการ ๘. นางสาวสมฤดี ศรีจรรยา กรรมการ ๙. นางสาวคนึงนิจ ศรีบัวเอี่ยม กรรมการ ๑๐. นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ กรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16749 | การแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (จำนวน 4 คน 1. นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ฯลฯ) | กค | 24/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แทนผู้ที่ลาออก ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๐) เป็นต้นไป และให้ผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งตามวาระของผู้ซึ่งตนแทน จำนวน ๔ คน ดังนี้
๑. นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ รองประธานกรรมการ แทน นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ๒. นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ กรรมการ แทน นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้แทนกระทรวงการคลัง ๓. นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ กรรมการ แทน นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ผู้แทนกรมส่งเสริมสหกรณ์ ๔. นายสุรจิตต์ อินทรชิต กรรมการ แทน นายสมปอง อินทร์ทอง ผู้แทนสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16750 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (จำนวน 7 คน 1. นายสมพล เกียรติไพบูลย์ ฯลฯ | กค | 24/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย จำนวน ๗ คน ประกอบด้วย ๑.๑ นายสมพล เกียรติไพบูลย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการประกันภัย ๑.๒ นายอัชพร จารุจินดา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ๑.๓ นายประสัณห์ เชื้อพานิช กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านบัญชี ๑.๔ นายวิชัย อัศรัสกร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านบริหารธุรกิจ ๑.๕ นายอำพน กิตติอำพน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์ ๑.๖ นางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์ ๑.๗ นายวัชรา ตันตริยานนท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงิน ๒. การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ตามข้อ ๑. ให้มีผลนับแต่วันที่กระทรวงการคลังมีคำสั่งแต่งตั้ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16751 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (จำนวน 7 คน 1. นายคณิสสร นาวานุเคราะห์ ฯลฯ) | พณ | 24/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๐) เป็นต้นไป จำนวน ๗ คน ดังนี้
๑. นายคณิสสร นาวานุเคราะห์ ประธานกรรมการ ๒. นายเอกชัย วงศ์วรกุล กรรมการผู้แทนสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ๓. นายกิตติ ตั้งจิตรมณีศักดา กรรมการผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประทศไทย ๔. นายสมาน คลังจัตุรัส กรรมการผู้แทนศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ๕. นางสาวพจนา สีมันตร กรรมการผู้แทนศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ๖. นายสุมนต์ วัฒนะประเสริฐ กรรมการผู้แทนศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ๗. นายมนู เสตะกลัมพ์ กรรมการผู้แทนศูนย์ศิลปาชีพบางไทร
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16752 | ขออนุมัติรับโอนข้าราชการที่ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (รองศาสตราจารย์ประวิต เอราวรรณ์) | ศธ | 24/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอน รองศาสตราจารย์ประวิต เอราวรรณ์ ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ตำแหน่งรองศาสตราจารย์ สังกัดคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มาเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16753 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม 2 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดกระบี่ พ.ศ. ....) | มท | 24/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสตูล พ.ศ. .... และ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดกระบี่ พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสตูลและจังหวัดกระบี่ เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นในแต่ละจังหวัดควบคุมการอนุญาตก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงฯ อย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16754 | ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดประเภทสินค้าที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมมีสิทธิได้รับคืนหรือยกเว้นภาษี ตามมาตรา 23 วรรคหนึ่ง ได้รับยกเว้นจากบทบังคับแห่งมาตรา 23 | กค | 17/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดประเภทสินค้าที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมมีสิทธิได้รับคืนหรือยกเว้นภาษี ตามมาตรา ๒๓ วรรคหนึ่ง ได้รับยกเว้นจากบทบังคับแห่งมาตรา ๒๓ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดประเภทสินค้าที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมได้รับคืนหรือยกเว้นภาษี ตามมาตรา ๑๐๗ (๓) (กรณีจำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ได้รับเอกสิทธิ์ตามข้อผูกพันที่ประเทศไทยมีอยู่ต่อองค์การสหประชาชาติ หรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรือตามสัญญากับนานาประเทศ หรือทางการทูตตามหลักถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกัน) ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีสรรพสามิตแม้จะมีการโอนไปยังบุคคลอื่นที่ไม่มีเอกสิทธิ์ หรือเอกสิทธิ์ของผู้นั้นสิ้นสุดลง โดยเหตุอื่นนอกจากความตาย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16755 | แจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ ฟ.139/2554 คดีหมายเลขแดงที่ ฟ.36/2560 ระหว่างนายเฉลียว ภิญญานิล ที่ 1 กับพวกรวม 110 คน ฟ้องคณะรัฐมนตรี ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน ต่อศาลปกครองสูงสุด เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของพระราชกฤษฎีกา ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายกฟ้องคดี | นร05 | 17/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ ฟ.๑๓๙/๒๕๕๔ คดีหมายเลขแดงที่ ฟ.๓๖/๒๕๖๐ ระหว่างนายเฉลียว ภิญญานิล ที่ ๑ กับพวกรวม ๑๑๐ คน ผู้ฟ้องคดี คณะรัฐมนตรี ที่ ๑ กับพวกรวม ๔ คน ผู้ถูกฟ้องคดี ต่อศาลปกครองสูงสุด เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของพระราชกฤษฎีกา ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายกฟ้องคดี ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16756 | รายงานการเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่ขององค์การการท่องเที่ยวโลก ครั้งที่ 22 (The 22nd Session of The UNWTO General Assembly) ณ นครเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน | กก | 17/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่ขององค์การการท่องเที่ยวโลก ครั้งที่ ๒๒ (The 22nd Session of The UNWTO General Assembly) ณ นครเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. การประชุมสมัชชาใหญ่ขององค์การการท่องเที่ยวโลก ครั้งที่ ๒๒ มีวัตถุประสงค์ให้ผู้แทนรัฐบาลจากประเทศสมาชิกสามัญขององค์การการท่องเที่ยวโลก (Full Member) และผู้แทนจากหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวจากภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาที่มีการเรียนการสอนด้านธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมในฐานะเป็นสมาชิกร่วม (Affiliate Member) ได้พิจารณาประเด็นต่าง ๆ ด้านการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของ UNWTO ในห้วงระยะเวลา ๒ ปีที่ผ่านมา (ค.ศ. ๒๐๑๕-๒๐๑๗) ตลอดจนรับฟังและแลกเปลี่ยนในประเด็นอภิปรายด้านการท่องเที่ยว และเป้าหมายแห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืน : การสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนาของภาครัฐ ภาคเอกชนในการเป็นหุ้นส่วนร่วมกัน (Tourism and Sustainable Development Goals : Building Partnerships for Development : the Example of the Belt and Road Initiative) ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ร่วมแสดงความคิดเห็นสนับสนุนต่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่สอดรับกับเป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวจากเมืองท่องเที่ยวหลักไปสู่เมืองท่องเที่ยวรอง และในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ประเทศไทยกำหนดให้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวไทย โดยจะทำงานส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่มีความสอดคล้องกับการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของ UNWTO ซี่งปีแห่งการท่องเที่ยวไทยจะมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกันเพื่อไปสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16757 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขายทอดตลาด พ.ศ. .... | ยธ | 17/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขายทอดตลาด พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขายทอดตลาด พ.ศ. ๒๕๕๙ เพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติเกี่ยวกับการขายทอดตลาดที่มีการแก้ไขในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเพื่อให้การขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีมีความรวดเร็ว โปร่งใส เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เช่น (๑) ข้อ ๕ การตัดข้อความเรื่องคำสั่งอนุญาตขายออก เป็นการลดขั้นตอนการขายทอดตลาด โดยเปิดโอกาสให้เจ้าพนักงานบังคับคดีสามารถทำการขายทอดตลาดทรัพย์ได้เองโดยไม่ต้องขออนุญาตจากศาล อาจทำให้ไม่มีการตรวจสอบหรือกลั่นกรองเรื่องสิทธิหรือตัวทรัพย์ เนื่องจากที่ผ่านมาจะมีศาลเป็นผู้กลั่นกรองอีกชั้นหนึ่ง (๒) ข้อ ๒๐ วรรคสอง แก้ไขให้ผู้เสนอราคาสูงสุดเดิมชำระเงินส่วนต่างที่ขาดโดยให้นำเงินมัดจำที่วางไว้มาหักออกจากส่วนที่ต่างด้วย และ (๓) องค์ประกอบของคณะกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์ในการกำหนดราคาเริ่มต้นและราคาที่สมควรขายในการขายทอดตลาด ตามข้อ ๗ และองค์ประกอบของคณะกรรมการกำหนดราคาทรัพย์ในเขตกรุงเทพมหานคร ตามข้อ ๑๐ (๑) มาจากหน่วยงานหรือองค์กรเดียวกันเกือบทั้งหมด อาจเกิดปัญหาในเรื่องของการถ่วงดุลอำนาจตามหลักความได้สัดส่วน เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16758 | รายงานผลการปฏิบัติตามกฎหมายการจ้างงานคนพิการในหน่วยงานของรัฐ | พม | 17/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการรายงานผลการปฏิบัติตามกฎหมายการจ้างงานคนพิการในหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมีหน่วยงานของรัฐที่มีจำนวนผู้ปฏิบัติงานตั้งแต่ ๑๐๐ คนขึ้นไป ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเร่งรัดให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการจ้างคนพิการให้ครบอัตราส่วนภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ รวมทั้งรายงานปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะจากหน่วยงานของรัฐ แต่เนื่องจากการดำเนินการดังกล่าว ยังมีอัตราส่วนที่น้อย (ร้อยละ ๔๓.๕๙ จากเป้าหมายร้อยละ ๖๐) จึงเห็นควรมีมาตรการเพิ่มเติม เช่น กำหนดให้การดำเนินการตามกฎหมายการจ้างงานคนพิการในหน่วยงานของรัฐเป็นตัวชี้วัดของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐในการประเมินผลการปฏิบัติงาน เป็นต้น ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ๒. ให้หน่วยงานของรัฐเร่งรัดดำเนินการจ้างงานคนพิการให้ครบอัตราส่วนภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ๓. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดให้การปฏิบัติตามกฎหมายการจ้างงานคนพิการในหน่วยงานของรัฐเป็นตัวชี้วัดของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐในการประเมินผลการปฏิบัติงาน ๔. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการสรรหาคนพิการ และให้กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเป็นหน่วยงานกลางในการประสานงานการปฏิบัติตามขั้นตอนและวิธีปฏิบัติตามกฎหมายร่วมกับกรมการจัดหางาน สำนักงานจัดหางานกรุงเทพเขตพื้นที่ และจัดทำบัญชีแยกประเภทความพิการ คุณวุฒิเฉพาะด้านของคนพิการ เพื่อให้ส่วนราชการใช้เป็นข้อมูลในการจ้างงานคนพิการในหน่วยงานของรัฐในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ประชาสัมพันธ์การจ้างคนพิการ และพิจารณาเกี่ยวกับการทำงานที่บ้านเพิ่มเติม รวมทั้งมีการบูรณาการร่วมกันให้เกิดการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16759 | ผลการประชุมรัฐมนตรีเกษตรของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 2 | กษ | 17/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีเกษตรของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ ๒ ณ เมืองเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา ระหว่างวันที่ ๗-๘ กันยายน ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. การประชุมรัฐมนตรีเกษตรของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ ๒ มีผลการประชุมที่สำคัญ เช่น รับทราบความก้าวหน้าในการดำเนินงานของคณะทำงานด้านการเกษตร (GMS Working Group on Agriculture) ซึ่งได้ดำเนินงานตามแผนงานสนับสนุนหลักด้านเกษตร ระยะที่ ๒ (Core Agriculture Support Program Phase 2) ปี ๒๕๕๔-๒๕๖๓ และเห็นชอบยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการส่งเสริมห่วงโซ่คุณค่าทางการเกษตรที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และแผนปฏิบัติการเสียมราฐ (GMS Strategy for Promoting Safe and Environment-Friendly Agro-based Value Chains 2018-2022, and Siem Reap Action Plan หรือ GMS SEAP Strategy and Action Plan) และมอบหมายให้คณะทำงานด้านการเกษตรขับเคลื่อนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ดังกล่าว โดยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ เป็นต้น ๒. การประชุมรัฐมนตรีเกษตรอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงอย่างไม่เป็นทางการ (GMS Agriculture Ministers’ Retreat) ครั้งที่ ๑ ที่ประชุมได้หารือแนวทางและมาตรการที่จะร่วมกันผลักดันการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ฯ และแผนปฏิบัติการเสียมราฐ ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างเป็นรูปธรรม การเน้นการลงทุนของภาครัฐเพื่อดึงดูดการลงทุนจากภาคเอกชนในห่วงโซ่คุณค่าด้านเกษตร การปรับปรุงการประสานงาน การติดตามผลการดำเนินงาน และการรายงานผลการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16760 | ร่างประกาศสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และการยกเลิกการประกาศสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคาม และการกำหนดระดับความร้ายแรงของภัยคุกคาม ในด้านการก่อการร้าย | นร08 | 17/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และการยกเลิกการประกาศสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคาม และการกำหนดระดับความร้ายแรงของภัยคุกคามในด้านการก่อการร้าย มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาและประเมินระดับภัยคุกคาม ระดับความร้ายแรงของภัยคุกคาม ขั้นตอน วิธีการ เงื่อนไขการประกาศและการยกเลิกประกาศสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคาม ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่าร่างประกาศฯ ตามที่กำหนดไว้ในข้อ ๑ ได้มีการกล่าวถึงความหมายของสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติที่ส่งผลกระทบต่อเอกราช อธิปไตย หรือกระทบต่อผลประโยชน์แห่งชาติ ซึ่งมีการกำหนดนิยามไว้อย่างชัดเจนแล้ว ดังนั้น ในข้ออื่น ๆ จึงควรตัดคำว่า “ผลประโยชน์ของประเทศ” ออกจากร่างประกาศฯ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนของหน่วยงานต่าง ๆ ประกอบกับผลกระทบต่อความมั่นคง ย่อมส่งผลกับประเทศในมิติต่าง ๆ จึงไม่จำเป็นต้องกำหนดคำว่าผลประโยชน์ของประเทศไว้ในร่างประกาศฯ อีก ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การพิจารณาและประเมินระดับของภัยคุกคาม ควรพิจารณาขีดความสามารถในการเตรียมพร้อมและรับมือของหน่วยงานด้านความมั่นคงของประเทศ ทั้งด้านสรรพกำลัง ทรัพยากร อาวุธยุทโธปกรณ์ รวมทั้งแผนการบริหารจัดการร่วมด้วย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
.....