ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 832 จากทั้งหมด 6211 หน้า แสดงรายการที่ 16621 - 16640 จากข้อมูลทั้งหมด 124206 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
16621 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลวังเหนือ อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง พ.ศ. .... | มท | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลวังเหนือ อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินสาธารณประโยชน์ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันเป็นที่เลี้ยงสัตว์และเป็นที่ออกกำลังกาย เพื่อมอบให้เทศบาลตำบลบ้านใหม่ใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานเทศบาลตำบลบ้านใหม่และใช้ประโยชน์อย่างอื่นในราชการของเทศบาลตำบล ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรคำนึงถึงการใช้ประโยชน์ของชุมชนและการรักษาสภาพแวดล้อม รวมทั้งดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16622 | การแต่งตั้งโฆษกและรองโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม | อก | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งโฆษกและรองโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม จำนวน ๒ ราย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้
๑. นางสาวนิสากร จึงเจริญธรรม เป็นโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม ๒. นายสุรพล ขามาตย์ เป็นรองโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16623 | รายงานผลการดำเนินงานและผลการจัดหลักสูตรฝึกร่วมทางยุทธวิธีเผชิญเหตุสำหรับเจ้าหน้าที่สืบสวนปราบปรามยาเสพติด | ยธ | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานและผลการจัดหลักสูตรการฝึกร่วมทางยุทธวิธีเผชิญเหตุสำหรับเจ้าหน้าที่สืบสวนปราบปรามยาเสพติด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) เสนอ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานความมั่นคงจัดทำหลักสูตร จำนวน ๖ หลักสูตร ประกอบด้วย (๑) การฝึกอำนวยการร่วมป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ณ ศูนย์ปฏิบัติการ (CPX : Command Post Exercise) (๒) การฝึกร่วมทางยุทธวิธีการเผชิญเหตุ สำหรับเจ้าหน้าที่สืบสวนปราบปรามยาเสพติด (๓) การฝึกร่วมทางยุทธวิธีการเผชิญเหตุ สำหรับผู้ปฏิบัติหน้าที่ ณ จุดตรวจ จุดสกัด และด่านสกัดกั้น (๔) การฝึกร่วมทางยุทธวิธีการเผชิญเหตุ สำหรับผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านการจัดระเบียบสังคมและชุมชน (๕) การฝึกการใช้อาวุธโดยเครื่องจำลองสถานการณ์ (Simulator) และ (๖) การฝึกปฏิบัติการร่วม (Combined Training) ของหน่วยปราบปรามยาเสพติด ๒. สำนักงาน ป.ป.ส. เป็นแกนกลางจัดฝึกอบรมหลักสูตร “การฝึกร่วมทางยุทธวิธีการเผชิญเหตุสำหรับเจ้าหน้าที่สืบสวนปราบปรามยาเสพติด” ภายใต้ชื่อ “T-SAFE” ระหว่างวันที่ ๒๘ สิงหาคม-๖ กันยายน ๒๕๖๐ ผู้เข้ารับการฝึกอบรม จำนวน ๕๐ นาย ๓. สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ประสานให้หน่วยงานที่มีภารกิจด้านการปราบปรามยาเสพติดจัดทำแผนเผชิญเหตุโดยกำหนดเป็นแผนปฏิบัติการประจำปีของหน่วยงาน และจะรวบรวมโครงการเพื่อเสนอของบประมาณจากรัฐบาลต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16624 | รายงานการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนสิงหาคม 2560 | พณ | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนสิงหาคม ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. การส่งออกของไทย เดือนสิงหาคม ๒๕๖๐ ขยายตัวสูงสุดในรอบ ๕๕ เดือน ที่ร้อยละ ๑๓.๒ หรือคิดเป็นมูลค่า ๒๑,๒๒๔ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่นเดียวกับการนำเข้าที่ขยายตัวในระดับสูงที่ร้อยละ ๑๔.๙ ส่งผลให้ดุลการค้าในเดือนสิงหาคม ๒๕๖๐ เกินดุล ๒,๐๙๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ๒. มูลค่าการค้าในรูปของเงินบาท เดือนสิงหาคม ๒๕๖๐ การส่งออกมีมูลค่า ๗๐๗,๒๑๔ ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ ๘.๖ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า ๖๔๕,๓๔๗ ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ ๑๐.๒ ส่งผลให้การค้าเกินดุล ๖๑,๘๖๗ ล้านบาท สำหรับมูลค่าการค้าในรูปของเงินดอลลาร์สหรัฐ เดือนสิงหาคม ๒๕๖๐ การส่งออกมีมูลค่า ๒๑,๒๒๔ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ ๑๓.๒ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า ๑๙,๑๓๔ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ ๑๔.๙ ส่งผลให้การค้าเกินดุล ๒,๐๙๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ๓. การส่งออกสินค้าเกษตร และเกษตรแปรรูป ขยายตัวได้ดีต่อเนื่องเป็นเดือนที่ ๑๐ ในเกือบทุกรายการ โดยเฉพาะข้าวมีอัตราการขยายตัวที่ร้อยละ ๔๗.๑ ขยายตัวสูงขึ้นมากในตลาดเบนิน สหรัฐอเมริกา และแอฟริกาใต้ ขณะที่ยางพาราและน้ำตาลทรายยังคงขยายตัวระดับสูงต่อเนื่อง สินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ ๖ โดยกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมที่มีการขยายตัวในระดับสูง ส่วนใหญ่เป็นการส่งออกไปตลาดจีน และสหรัฐอเมริกา ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ และแผงวงจรไฟฟ้า สำหรับการส่งออกรายตลาดสำคัญ ๆ ยังคงขยายตัวดีอย่างต่อเนื่อง และขยายตัวในทุกตลาดสำคัญ ๔. แนวโน้มการส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือปี ๒๕๖๐ คาดว่าจะขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะจีน และสหรัฐอเมริกา รวมถึงคู่ค้าสำคัญในแถบอาเซียนที่มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งจะส่งผลดีต่อมูลค่าส่งออกในช่วงที่เหลือของปี อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงจากการแข็งค่าของเงินบาท คาดว่าจะเป็นปัจจัยผันผวนในระยะสั้น และไม่น่ากระทบต่อการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีมากนัก เนื่องจากผู้ส่งออกส่วนใหญ่มีการทำสัญญาซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า แต่ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16625 | ร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีสิ่งแวดล้อม พ.ศ. .... ซึ่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นผู้เสนอ | ยธ | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาความจำเป็นในการตราร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีสิ่งแวดล้อม พ.ศ. .... ที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นผู้เสนอ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้จัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วมีความเห็นสอดคล้องกันว่า ไม่เห็นพ้องต่อหลักการของร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ เนื่องจากมีกฎหมายและข้อบังคับใช้บริหารจัดการคดีสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว ประกอบกับมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการศึกษาวิจัยแนวทางและความเหมาะสมของกฎหมายเกี่ยวกับการดำเนินคดีสิ่งแวดล้อม ดังนั้น หากจะมีการผลักดันข้อเสนอกฎหมายเกี่ยวกับการดำเนินคดีสิ่งแวดล้อมในภายหลังก็ควรได้รอการศึกษาวิจัยให้ครบถ้วนและตกผลึกเสียก่อน ในชั้นนี้จึงเห็นควรที่จะยังไม่รับร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16626 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2560 (เพิ่มเติม) และครั้งที่ 3/2560 | ทส | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๐ (เพิ่มเติม) และครั้งที่ ๓/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๐ ได้พิจารณาเรื่องเชิงนโยบายที่สำคัญและได้ข้อยุติแล้ว จำนวน ๑๔ เรื่อง ยังคงมีเรื่องที่มีความจำเป็นต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบเพิ่มเติมอีก จำนวน ๒ เรื่อง ได้แก่ (๑) โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกจากสถานีควบคุมความดันก๊าซฯ ราชบุรี-วังน้อย ที่ ๖ (RA6) ไปยังจังหวัดราชบุรี ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ (๒) ข้อเสนอเชิงนโยบายการอนุรักษ์และฟื้นฟูย่านชุมชนเก่า ๒. มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๖๐ จำนวน ๑๒ เรื่อง ได้แก่ (๑) โครงการศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล (๒) เกณฑ์การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแหล่งธรรมชาติอันควรอนุรักษ์ ประเภทน้ำ (๓) ร่างแผนส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ระยะที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔ (๔) การปรับปรุงมาตรฐานคุณภาพน้ำทะเลกลุ่มสารอาหาร (๕) โครงการก่อสร้างระบบท่อส่งน้ำประปาลอดใต้ทะเลไปยังเกาะสมุย (โครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาคสาขาเกาะสมุย อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระยะที่ ๑ ส่วนที่ ๒ ปีงบประมาณ ๒๕๕๘) และ (๖) โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16627 | รายงานการชำระบัญชีกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ | กค | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการชำระบัญชีกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ โดยคณะกรรมการชำระบัญชีได้ดำเนินการชำระบัญชีกองทุนเสร็จสิ้นตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการตรวจสอบทรัพย์สินและชำระบัญชีเพื่อยุบเลิกกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ และกำหนดวันที่เสร็จการชำระบัญชี คือ วันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามประกาศกระทรวงการคลัง ข้อ ๘ (๑) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16628 | ร่างพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา พ.ศ. .... | ศธ | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้จัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา โดยการรวมวิทยาลัยเทคโนโลยีจิตรลดาที่จัดตั้งขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. ๒๕๔๖ และโรงเรียนจิตรลดา (สายวิชาชีพ) ที่จัดตั้งขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐ ให้เป็นสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ และอยู่ภายใต้การดูแลอุปถัมภ์ของมูลนิธิสยามบรมราชกุมารีเพื่อโรงเรียนจิตรลดา ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับร่างมาตรา ๒๘ ซึ่งกำหนดให้มีอธิการบดีเป็นผู้รับผิดชอบการบริหารงานของสถาบันฯ โดยไม่ได้กำหนดให้เป็นผู้บังคับบัญชาของสถาบันฯ อาจทำให้เกิดปัญหาการบริหารจัดการในภาพรวมได้ เห็นควรเพิ่มข้อกำหนดให้อธิการบดีเป็นผู้บังคับบัญชาของสถาบันฯ และวรรคสองของร่างมาตรา ๑๒ (๔) เห็นควรให้รัฐมนตรีเป็นผู้กำหนดวงเงินที่สถาบันฯ มีอำนาจกู้ยืมให้กู้ยืม ฯลฯ โดยไม่ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน เพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติของร่างมาตรา ๕๑ ที่บัญญัติให้รัฐมนตรีเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่กำกับและดูแลโดยทั่วไปซึ่งกิจการของสถาบัน ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. เห็นชอบให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๕๔ (เรื่อง ร่างข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและแนวทางการจัดตั้งมหาวิทยาลัยของรัฐโดยการหลอมรวม ยุบรวม สถาบันอุดมศึกษา) ที่กำหนดให้การจัดตั้งมหาวิทยาลัยขึ้นใหม่ให้ใช้แนวทางการหลอมรวม ยุบรวม สถาบันอุดมศึกษา ๓. มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน การออกพันธบัตรหรือตราสาร การจัดสรรเงินอุดหนุนทั่วไป และการจัดทำบัญชีของสถาบันฯ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๔. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16629 | ขอเปลี่ยนแปลงกำลังผลิตไฟฟ้าโครงการโรงไฟฟ้าบางปะกง (ทดแทนเครื่องที่ 1 - 2) | พน | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินการเปลี่ยนแปลงกำลังผลิตไฟฟ้าโครงการโรงไฟฟ้าบางปะกง (ทดแทนเครื่องที่ ๑-๒) จากกำลังผลิตสุทธิ ๑,๓๐๐ เมกะวัตต์ เป็นกำลังผลิตสุทธิ ๑,๔๐๘.๗ เมกะวัตต์ ด้วยกรอบวงเงินลงทุนเดิมที่ ๓๓,๙๔๒.๖๕ ล้านบาท ๑.๒ อนุมัติเปลี่ยนแปลงการเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนเริ่มโครงการ จากประจำปี ๒๕๕๙ เป็นประจำปี ๒๕๖๐ สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าบางปะกง (ทดแทนเครื่องที่ ๑-๒) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๓,๐๖๖.๙๗ ล้านบาท ๒. ให้กระทรวงพลังงาน และ กฟผ. ดำเนินการตามมติคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๖๐ และมติคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ครั้งที่ ๓๒/๒๕๖๐ (ครั้งที่ ๔๗๔) เมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๐ รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้ปรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๗๙ (Power Development Plan : PDP 2015) ให้สอดคล้องกับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เปลี่ยนไปตามสภาวะเศรษฐกิจของประเทศและการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมทั้งให้พิจารณาหลักเกณฑ์ในการประกวดราคาโรงไฟฟ้าให้เหมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบกำลังผลิตไฟฟ้าสำรองและอัตราค่าไฟฟ้าโดยรวม และควรให้ กฟผ. ดำเนินการด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด ตลอดจนวางแผนการกู้เงินและการเบิกจ่ายเงินกู้ให้สอดคล้องกับแผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายเงินของ กฟผ. โดยให้พิจารณาใช้เงินรายได้เป็นลำดับแรกก่อนการใช้เงินกู้ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16630 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 48/2560 เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง | สลธ.คสช. | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔๘/๒๕๖๐ เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง ลงวันที่ ๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ โดยให้ข้าราชการที่มีรายชื่อตามคำสั่ง ฯ ไปช่วยราชการในตำแหน่งที่ระบุ ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ เป็นต้นไป จนกว่าจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตามคำสั่ง ฯ จำนวน ๒ ราย ได้แก่ (๑) ให้ นายวรานนท์ ปีติวรรณ พ้นจากตำแหน่ง อธิบดีกรมการจัดหางาน และให้ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงแรงงาน และ (๒) ให้ นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ พ้นจากตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงแรงงาน และให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมการจัดหางาน ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16631 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการรวมกลุ่มกันเป็นองค์กรของนักกีฬาอาชีพและบุคลากรกีฬาอาชีพ พ.ศ. .... | กก | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการรวมกลุ่มกันเป็นองค์กรของนักกีฬาอาชีพและบุคลากรกีฬาอาชีพ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรวมกลุ่ม การจดทะเบียน อำนาจหน้าที่ขององค์กร ความสัมพันธ์ขององค์กรกับสมาชิกและสโมสรกีฬาอาชีพหรือสมาคมกีฬาอาชีพ และการกำกับดูแลองค์กร ตลอดจนวิธีการอันจำเป็นอื่นในการจดทะเบียนการรวมกลุ่มเป็นองค์กรของนักกีฬาอาชีพและบุคลากรกีฬาอาชีพ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ. ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16632 | ขอให้พิจารณานำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 49/2560 เรื่อง การพิสูจน์ตัวบุคคลของแรงงานต่างด้าว) | สลธ.คสช. | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔๙/๒๕๖๐ เรื่อง การพิสูจน์ตัวบุคคลของแรงงานต่างด้าว ลงวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ กำหนดให้มีคณะกรรมการพิจารณาการเก็บข้อมูลพิสูจน์ตัวบุคคลของแรงงานต่างด้าว เพื่อทำหน้าที่จัดทำทะเบียนประวัติและการจัดเก็บข้อมูลแรงงานต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยด้วยการใช้วิธีการหลายอย่างประกอบกันอย่างเป็นระบบ มีฐานทางกฎหมายรองรับ ถูกต้องชัดเจนเชื่อถือได้ และมีมาตรการปกป้องข้อมูลเหล่านี้มิให้มีการนำไปใช้ในทางที่ละเมิดสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัวเกินกว่าความจำเป็นในการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะตามมาตรฐานสากล ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16633 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) ครั้งที่ 5/2560 : การเร่งรัดและขับเคลื่อนประเด็นการปฏิรูปเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์และเชิงวัฒนธรรม การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และโครงการยกระดับ SMEs และวิสาหกิจชุมชนสู่ตลาดโลก | นร04 | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความคืบหน้าการดำเนินการตามประเด็นปฏิรูป เรื่อง การปฏิรูปเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์และเชิงวัฒนธรรม การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และโครงการยกระดับ SMEs และวิสาหกิจชุมชนสู่ตลาดโลก และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลเสนอ ดังนี้
๑. การปฏิรูปเศรษฐกิจชีวภาพ ให้สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพจัดทำแผนงานการขับเคลื่อนให้ชัดเจน มีการกำหนดเป้าหมายที่จะบรรลุผลสำเร็จและระยะเวลาดำเนินการ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งรัดการพิจารณาร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ พ.ศ. .... และมอบหมายให้นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา และสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพจัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ รวมทั้งให้จัดประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการประสานเชื่อมโยงข้อมูลด้านความหลากหลายทางชีวภาพและบริหารจัดการระบบฐานข้อมูลกลางให้มีประสิทธิภาพต่อไป ๒. การปฏิรูปเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์และเชิงวัฒนธรรม มอบหมายให้นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา และศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ศสบ.) จัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำแผนและเร่งรัดการเสนอระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พ.ศ. .... รวมทั้งให้ ศสบ. และกรุงเทพมหานครร่วมกันเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการส่งเสริมและพัฒนาย่านเศรษฐกิจสร้างต้นแบบ ๓. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งรัดการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. .... แล้วเสร็จได้ภายใน ๓ เดือน (ธันวาคม ๒๕๖๐) ๔. โครงการยกระดับ SMEs และวิสาหกิจชุมชนสู่ตลาดโลก ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการตามความเห็นของประธาน กขร. ได้แก่ (๑) ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งรัดดำเนินการความร่วมมือกับอาลี บาบา ให้เป็นรูปธรรม (๒) ให้กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานความคืบหน้าการจัดตั้งสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการค้ายุคใหม่ การจัดตั้ง MOC Biz Club และการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ไทย-ประเทศเพื่อนบ้านกลุ่มประเทศ CLMV การดำเนินการตามข้อตกลงความร่วมมือในการเดินทางเยือนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ของรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และ (๓) เรื่องวิสาหกิจชุมชนในการดำเนินการยกระดับ SMEs ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันบูรณาการการทำงานเพื่อยกระดับ SMEs และวิสาหกิจชุมชนสู่ตลาดโลกในภาพรวมของประเทศต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16634 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายยุทธศาสตร์ปฏิรูปการศึกษาของประเทศไทย ของคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายยุทธศาสตร์ปฏิรูปการศึกษาของประเทศไทย ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้จัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ โดยมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมบางประเด็น เช่น การศึกษาจะต้องปรับเปลี่ยนไปตามกระแสของโลก คนรุ่นใหม่ต้องสามารถเรียนรู้เพื่อให้เท่าทันและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ หลักสูตรของแต่ละระดับการศึกษาจะต้องมีการปรับให้เหมาะสม ทั้งในเรื่องของวิชาชีพ วิชาการ และวิชาชีวิต ควรให้ความสำคัญในการจัดทำฐานข้อมูล Demand-Supply โดยประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องคูปองการศึกษานั้น ต้องศึกษาให้รอบคอบโดยพิจารณาต้นทุนค่าใช้จ่ายรายหัวให้ชัดเจน รวมทั้งในการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ ควรต้องมีการศึกษาความเหมาะสมของรูปแบบและมีการพิจารณาให้รอบคอบ เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อภาระงบประมาณในระยะยาว ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16635 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าแม่ปราบ ป่าแม่อาบ และป่าแม่ลี้ ในท้องที่ตำบลนายาง อำเภอสบปราบ ตำบลแม่ถอด ตำบลนาโป่ง อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง และตำบลลี้ ตำบลดงดำ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ให้เป็นอุทยาน แห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติดอยจง) | ทส | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าแม่ปราบ ป่าแม่อาบ และป่าแม่ลี้ ในท้องที่ตำบลนายาง อำเภอสบปราบ ตำบลแม่ถอด ตำบลนาโป่ง อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง และตำบลลี้ ตำบลดงดำ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติดอยจง) ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการออกกฎกระทรวงเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติ ในส่วนที่ทับซ้อนกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติตามร่างพระราชกฤษฎีกาในเรื่องนี้ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16636 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง "การจัดความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาค" ของคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง “การจัดความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาค” ซึ่งสำนักงาน ก.พ.ร. ได้จัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วสรุปได้ว่า (๑) การจัดความสัมพันธ์เชิงโครงสร้างของการบริหาร เห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ ในการกำหนดโครงสร้างที่ควรพิจารณาถึงความซ้ำซ้อนของภารกิจระหว่างราชการส่วนกลางและราชการส่วนภูมิภาค (๒) การจัดความสัมพันธ์เชิงระบบบริหาร เห็นว่าอำนาจหน้าที่ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ ในภาพรวมเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับลักษณะภารกิจตามแนวทางการจัดส่วนราชการในภูมิภาค ตามมติคณะรัฐมนตรี (๔ เมษายน ๒๕๖๐) และ (๓) การจัดความสัมพันธ์ในด้านการกำกับดูแลและบริหารราชการแผ่นดิน เห็นว่ากลไกการตรวจสอบที่มีอยู่ในปัจจุบันจะช่วยให้การกำกับดูแลมีความครอบคลุมในมิติต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วน ตลอดจนได้ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมทั้งในรูปแบบประชารัฐและประชาชน ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16637 | การขอเลื่อนฐานะกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำกรุงโซเฟีย สาธารณรัฐบัลแกเรีย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นายวิคตอร์ ซามูอีลอฟ เมลาเมด (Mr. Viktor Samuilov Melamed)] | กต | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเลื่อนฐานะ นายวิคตอร์ ซามูอีลอฟ เมลาเมด (Mr. Viktor Samuilov Melamed) เป็น กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ กรุงโซเฟีย สาธารณรัฐบัลแกเรีย ทั้งนี้ โดยคงสถานะของสถานที่ทำการกงสุล เป็นสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ไว้เช่นเดิม ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16638 | ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางขับเคลื่อนวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ของไทย | กต | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้ทุกหน่วยราชการเร่งรัดการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๙ (เรื่อง ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน) เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. ๒๐๓๐ (Sustainable Development Goals : SDGs) โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทาง ๑.๒ ให้กระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานจัดทำรายงานผลการดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Voluntary National Review : VNR) และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกันเผยแพร่รายงาน VNR ของไทย และผลการเสนอรายงาน VNR แก่ภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับ SDGs และเสริมสร้างการมีส่วนร่วมและเพิ่มความรู้สึกเป็นเจ้าของในการขับเคลื่อน SDGs โดยเฉพาะในระดับพื้นที่และในหมู่เยาวชน ๑.๓ ให้กระทรวงมหาดไทย หน่วยงานหลักแต่ละเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และสำนักงานสถิติแห่งชาติ ร่วมกันประเมินสถานะตัวชี้วัด SDGs ที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัดเพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการวัดความคืบหน้าการขับเคลื่อน SDGs และสร้างความร่วมมือตามกลไกประชารัฐ และรายงานผลต่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อนำเสนอคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป ๑.๔ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมบทบาทและการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในการขับเคลื่อน SDGs มากขึ้น โดยเฉพาะการปรับแนวทางดำเนินธุรกิจให้มีความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่การผลิต ๑.๕ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมบทบาทของภาควิชาการ มหาวิทยาลัย สถาบันวิชาการต่าง ๆ ในการร่วมขับเคลื่อน SDGs ทั้งในระดับพื้นที่ (area based) และรายประเด็น (issue based) เพื่อให้เกิดประชารัฐกับภาควิชาการอย่างเป็นรูปธรรมด้วย ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานสถิติแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทยที่เห็นควรให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน คณะอนุกรรมการส่งเสริมความเข้าใจและประเมินผลการพัฒนาที่ยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง คณะอนุกรรมการการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ และสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งหน่วยงานรับผิดชอบหลักของแต่ละเป้าหมายได้ร่วมกันกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน วิธีการประเมินสถานะตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัดให้มีความชัดเจน ตลอดจนดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในคราวประชุมคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ครั้งที่ ๑/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ให้ครบถ้วน เพื่อให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16639 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคให้แก่สถานศึกษาที่จัดตั้งขึ้นในประเทศไทยตามสัญญาระหว่างรัฐบาลไทยกับทบวงการชำนัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ) | กค | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคให้แก่สถานศึกษาที่จัดตั้งขึ้นในประเทศไทยตามสัญญาระหว่างรัฐบาลไทยกับทบวงการชำนัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ) มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ให้แก่บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับการบริจาคให้แก่สถานศึกษาที่จัดตั้งในประเทศไทยตามสัญญาระหว่างรัฐบาลไทยกับทบวงการชำนัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ สำหรับการบริจาคที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินที่สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประเทศในอนาคต รวมทั้งควรพิจารณากำหนดมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนให้มีการจูงใจให้บริจาคเงินให้แก่สถานศึกษาต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นในประเทศไทยในภาพรวม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16640 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ของไทย โอกาสและศักยภาพในการแข่งขันของคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ การอุตสาหกรรม และการแรงงาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ การอุตสาหกรรม และการแรงงาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง การเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ของไทย โอกาสและศักยภาพในการแข่งขัน สรุปได้ว่า กระทรวงพาณิชย์จะเสนอให้สมาชิกอาเซียนพิจารณาทบทวนรายการสินค้าอ่อนไหวสูงต่อไป กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ติดตามสถานการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจการค้าที่อาจส่งผลกระทบต่อไทยอย่างใกล้ชิด ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อเจรจาจัดทำความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยการผ่านแดนทางบกกับประเทศที่มีความประสงค์จะผ่านแดนสินค้าทางบกกับประเทศไทย กระทรวงพาณิชย์ได้ให้การส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs มาอย่างต่อเนื่อง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
.....