ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 834 จากทั้งหมด 6211 หน้า แสดงรายการที่ 16661 - 16680 จากข้อมูลทั้งหมด 124206 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
16661 | การเข้าเป็นภาคีความตกลงการค้าเสรีอาเซียน - ฮ่องกง และความตกลงด้านการลงทุนระหว่างรัฐบาลของเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนกับรัฐบาลของประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ | พณ | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบ (๑) ร่างความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง (ASEAN-Hong Kong, China Free Trade Agreement : AHKFTA) มีเนื้อหาครอบคลุมการเปิดตลาดการค้าสินค้า การค้าบริการ และความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ และ (๒) ร่างความตกลงด้านการลงทุนระหว่างรัฐบาลของเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนกับรัฐบาลของประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Agreement on Investment among the Government of the Hong Kong Special Administrative Region of the People’s Republic of China and the Member States of the Association of Southeast Asian Nations : AHKIA) มีเนื้อหาครอบคลุมการคุ้มครองการลงทุนและการส่งเสริมและการอำนวยความสะดวกการลงทุน โดยร่างความตกลงทั้งสองฉบับมีกำหนดการลงนามระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๑ (31st ASEAN Summit) ในวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ลงนามในร่างความตกลง AHKFTA และร่างความตกลง AHKIA ๑.๓ หากมีการแก้ไขถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญและไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย โดยมอบหมายให้ผู้ลงนามเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจในเรื่องนั้น ๆ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก ๑.๔ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ลงนามในร่างความตกลง AHKFTA และร่างความตกลง AHKIA ๑.๕ นำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อความตกลง AHKFTA และร่างความตกลง AHKIA ก่อนการลงนามรับรองต่อไป ๑.๖ มอบหมายกรมศุลกากรและกรมการค้าต่างประเทศดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความตกลง AHKFTA มีผลใช้บังคับภายในวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๒ ตามที่ระบุไว้ในร่างความตกลง AHKFTA เมื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติเห็นชอบต่อความตกลง AHKFTA แล้ว ๑.๗ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการมอบสัตยาบันสารของความตกลง AHKFTA และร่างความตกลง AHKIA ให้แก่เลขาธิการอาเซียนเพื่อรับทราบการให้สัตยาบันความตกลงทั้งสองฉบับ เมื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติเห็นชอบต่อความตกลงดังกล่าวแล้ว ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาการใช้ประโยชน์จากความตกลงทั้งสองฉบับเพื่อการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ โดยเฉพาะในภาคบริการ เช่น การดึงดูดแรงงานที่มีทักษะสูง เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่อำนวยให้เกิดการเติบโตของภาคบริการในสาขาใหม่ ๆ และให้เกิดการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมระหว่างกัน เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16662 | ขอความเห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการเจรจา RCEP ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 31 | พณ | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการเจรจา (Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP) ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๑ (31st ASEAN Summit) ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ โดยสาระสำคัญของร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ผู้นำจะรับทราบถึงศักยภาพของภูมิภาค RCEP ในการเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของการเจริญเติบโตและการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างเป็นธรรม และเน้นย้ำที่จะสรุปผลการเจรจาเพื่อให้ RCEP เป็นความตกลงที่ทันสมัย ครอบคลุม คุณภาพสูง และเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน มีการปฏิบัติที่พิเศษและแตกต่าง มีการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ รวมทั้งที่ประชุมจะมีการประกาศผลลัพธ์จากการเจรจาที่ผ่านมา ครอบคลุม ๓ ประเด็นหลัก ได้แก่ (๑) การเปิดตลาดการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุน (๒) กฎเกณฑ์ และ (๓) ความร่วมมือ ๑.๒ เห็นชอบที่ไทยจะร่วมในการแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการเจรจา RCEP ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๑ โดยให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ร่วมในการแถลงการณ์ร่วมฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16663 | การประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 9 | กต | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบในหลักการและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบในหลักการร่างถ้อยแถลงร่วมการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ ๙ มีสาระสำคัญเป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองของผู้นำประเทศที่เข้าร่วมการประชุมฯ ในการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนาภูมิภาคลุ่มน้ำโขงในด้านต่าง ๆ เช่น โครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง การค้าการลงทุน และความมั่นคงในภูมิภาค ๑.๒ อนุมัติให้นายกรัฐมนตรีรับรองถ้อยแถลงร่วมฯ ในการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมืองลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ ๙ ซึ่งญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฯ ในวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ คู่ขนานการประชุมผู้นำอาเซียนและการประชุมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16664 | เอกสารสำคัญที่จะมีการรับรองในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 25 และการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ 29 | กต | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ร่างปฏิญญาผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ ๒๕ เป็นเอกสารที่แสดงถึงความมุ่งมั่นและปฏิญาณของผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคภายใต้ “การสร้างพลวัตใหม่และการส่งเสริมการพัฒนาไปสู่อนาคตร่วมกัน” และให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนรับรองเอกสารดังกล่าว ซึ่งการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ ๒๕ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๐-๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ณ นครดานัง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ๑.๒ ร่างถ้อยแถลงร่วมของรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ ๒๙ เป็นเอกสารผลลัพธ์การประชุมเพื่อสรุปความก้าวหน้าในการดำเนินการต่าง ๆ ของเอเปค และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือผู้แทนร่วมรับรองเอกสารดังกล่าว ซึ่งการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ ๒๙ จะจัดขึ้นในวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ณ นครดานัง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาฯ และร่างถ้อยแถลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า เพื่อให้สาระสำคัญในร่างปฏิญญาฯ มีความครบถ้วนสะท้อนถึงประเด็นที่คณะกรรมการเศรษฐกิจเอเปคได้ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง เห็นควรเพิ่มเติมการปฏิรูปกฎระเบียบ ภายใต้การขับเคลื่อนวาระใหม่สำหรับการปฏิรูปโครงสร้างเอเปค (Renewed APEC Agenda for Structural Reform : RAASR) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16665 | แนวทางการดำเนินโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ | กค | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ดำเนินโครงการภายใต้ชื่อ โครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ โดยให้เริ่มดำเนินโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ และมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นผู้จ้างกรมธนารักษ์จัดทำเหรียญเชิดชูเกียรติ และจัดส่งให้แก่ผู้บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตามโครงการฯ ต่อไป สำหรับงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินโครงการฯ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามความจำเป็นเหมาะสมและสอดคล้องกับกำหนดเวลาที่จะมอบเหรียญเชิดชูเกียรติให้แก่ผู้บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับไปพิจารณาทบทวนข้อความที่จะใช้สลักบนเหรียญเชิดชูเกียรติให้เหมาะสมอีกครั้งหนึ่งด้วย ๒. ให้คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติเร่งพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดสรรเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยให้คำนึงถึงความเหมาะสม คุ้มค่า และเป็นไปตามแนวทางที่คณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติไว้เมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง มาตรการรองรับสังคมผู้สูงอายุแบบบูรณาการ) รวมทั้งให้พิจารณากำหนดระยะเวลาในกรณีที่ผู้บริจาคประสงค์จะยกเลิกการบริจาคในภายหลังให้มีความชัดเจนด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16666 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันรับรองคุณภาพ สถานพยาบาล (นายจักร์กฤษ เพิ่มพูล) | สธ | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายจักร์กฤษ เพิ่มพูล ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (วันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๐) เป็นต้นไป และให้มีวาระเท่ากับระยะเวลาที่เหลืออยู่ของคณะกรรมการบริหารสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาลที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติแต่งตั้งไว้แล้ว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16667 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี) (นางอุดมพร เอกเอี่ยม) | นร05 | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางอุดมพร เอกเอี่ยม ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16668 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย และนายอมร พิมานมาศ) | คค | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย รวม ๒ คน แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๐) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย ประธานกรรมการ ๒. นายอมร พิมานมาศ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ผู้แทนองค์กรพัฒนาภาคเอกชนในด้านการคุ้มครองผู้บริโภค)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16669 | การจัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 3/2560 | นร04 | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ ๓/๒๕๖๐ และตรวจราชการในพื้นที่ภาคใต้และภาคใต้ชายแดน ระหว่างวันที่ ๒๗-๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ณ จังหวัดปัตตานี และจังหวัดสงขลา ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16670 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ให้กระทรวงมหาดไทยติดตามผลการดำเนินการเกี่ยวกับการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก ทั้งที่เป็นการดำเนินการโดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทยและการดำเนินการของหน่วยงานหรือภาคส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และให้นำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีโดยเร็วภายใน ๑ เดือน ๒. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ตามที่ธนาคารโลกได้เปิดเผยผลสำรวจการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) ประจำปี ๒๕๖๑ โดยประเทศไทยได้อันดับที่ ๒๖ จาก ๑๙๐ ประเทศทั่วโลก (ปรับตัวดีขึ้น ๒๐ อันดับ จากอันดับที่ ๔๖ เมื่อปี ๒๕๖๐) นั้น ให้สำนักงาน ก.พ.ร. ติดตามผลการดำเนินการปรับปรุงการปฏิบัติงานและการเพิ่มประสิทธิภาพการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจของหน่วยงานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง และให้เร่งประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการจัดอันดับและการเพิ่มประสิทธิภาพการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจให้แก่ทุกภาคส่วนได้ทราบอย่างถูกต้องและทั่วถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคเอกชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายโดยตรงในเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16671 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ 64/2560 | นร | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติเกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ ๖๔/๒๕๖๐ วันพฤหัสบดีที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ตามที่ประธานกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16672 | การรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน | รง | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงานว่า ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ลาออก โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ นั้น คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๘ อนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในกรณีที่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ตามความในมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ไว้แล้ว โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นผู้รักษาราชการแทน ตามลำดับ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16673 | การประชุมคณะรัฐมนตรี (วันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน 2560) | นร05 | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอว่า นายกรัฐมนตรีมีกำหนดจะเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ ๒๕ (25th APEC Economic Leaders’ Meeting) ณ นครดานัง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ และการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๑ (31st ASEAN Summit) ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ดังนั้น การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) จะทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมแทน ทั้งนี้ ตามนัยคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๑๙/๒๕๕๘ เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนกัน ลงวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๘
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16674 | ขอเสนอแนวทางและมาตรการรณรงค์เพื่อสืบสานคุณค่าทางวัฒนธรรมเนื่องในประเพณีลอยกระทง ประจำปีพุทธศักราช 2560 (ลอยกระทงปลอดภัย สืบสานวัฒนธรรมไทย ใส่ใจสายน้ำและสิ่งแวดล้อม) | วธ | 31/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางและมาตรการรณรงค์ตามแนวคิด “ลอยกระทงปลอดภัย สืบสานวัฒนธรรมไทย ใส่ใจสายน้ำและสิ่งแวดล้อม” เนื่องในประเพณีลอยกระทง ประจำปี พุทธศักราช ๒๕๖๐ ซึ่งได้มีการหารือร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานประเพณีลอยกระทง เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรุงเทพมหานคร เป็นต้น โดยแนวทางและมาตรการดังกล่าวจะก่อให้เกิดการดำเนินงานด้านวัฒนธรรมที่เหมาะสม ดีงาม เป็นการอนุรักษ์ สืบสานประเพณีลอยกระทงให้คงคุณค่า สาระและความงดงาม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ที่สามารถแสดงให้ประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติได้รับรู้ อีกทั้งยังเป็นการเตรียมการเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและอุบัติภัยต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16675 | งบการเงินและรายงานประจำปี 2557 ขององค์การสะพานปลา | กษ | 31/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานงบการเงินและรายงานประจำปี ๒๕๕๗ ขององค์การสะพานปลาตามรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินองค์การสะพานปลา (อสป.) ปี ๒๕๕๗ และรายงานประจำปี ๒๕๕๗ ของ อสป. ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (องค์การสะพานปลา) เร่งรัดดำเนินการจัดทำรายงานงบการเงินและรายงานกิจการประจำปี ๒๕๕๘ และ ๒๕๕๙ ให้แล้วเสร็จและเสนอต่อคณะรัฐมนตรีโดยด่วน และให้ดำเนินการจัดทำงบการเงินและรายงานกิจการประจำปี ๒๕๖๐ และปีต่อ ๆ ไป ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา ๑ ปี ตามนัยมาตรา ๒๓ แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบกิจการแพปลา พ.ศ. ๒๔๙๖ ต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16676 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จำนวน 3 ฉบับ (ที่ 45/2560, 46/2560 และ 47/2560) | สลธ.คสช. | 31/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวม ๓ ฉบับ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔๕/๒๕๖๐ เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๕๘/๒๕๕๙ (การรับบริการสาธารณสุขของคนพิการตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม) ลงวันที่ ๒๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ ๒. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔๖/๒๕๖๐ เรื่อง การจัดตั้งสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ลงวันที่ ๒๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ ๓. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔๗/๒๕๖๐ เรื่อง ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ในที่ดินในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ลงวันที่ ๒๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16677 | การเสนอความเห็นการขอจัดตั้งทุนหมุนเวียนของคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน | กค | 31/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบผลการพิจารณาการขอจัดตั้งกองทุนส่งเสริมและคุ้มครองประชาชน ซึ่งคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน ในการประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๐ ได้พิจารณาแล้วไม่ให้มีการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว เนื่องจากไม่เข้าหลักการจัดตั้งทุนหมุนเวียนตามร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอจัดตั้งทุนหมุนเวียน ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการส่งเสริมและคุ้มครองประชาชนในการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. .... แล้วเมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๐ โดยร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ตัดบทบัญญัติเรื่องกองทุนส่งเสริมและคุ้มครองประชาชนในการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ รวมทั้งบทบัญญัติอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องกองทุนดังกล่าวออกแล้ว ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16678 | รายงานสรุปผลการดำเนินงานของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 31/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินงานของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยรายงานสรุปผลการดำเนินงานดังกล่าว ประกอบด้วย ภาพรวมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ จำแนกตามกระทรวงและหน่วยงาน ภาพรวมการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ แผนงานบูรณาการ และการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ จำแนกตามแผนงานบูรณาการ ซึ่งครบถ้วนทุกประเด็นแล้ว ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16679 | ผลการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ครั้งที่ 11 การประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจา ครั้งที่ 4 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | กห | 31/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน (ASEAN Defence Ministers'' Meeting : ADMM) ครั้งที่ ๑๑ การประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจา (ADMM-Plus) ครั้งที่ ๔ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๒๒-๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๐ ณ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. การประชุม ADMM ครั้งที่ ๑๑ ที่ประชุมได้มีการหารือร่วมกันในเรื่องความร่วมมือด้านการต่อต้านการก่อการร้าย รับทราบพัฒนาการความร่วมมือด้านความมั่นคงและความร่วมมือด้านการทหารระหว่างกองทัพประเทศสมาชิกอาเซียน และได้ร่วมกันรับรองเอกสารแนวความคิดต่าง ๆ ในกรอบการประชุม ADMM รวมทั้งร่วมลงนามในปฏิญญาร่วมของ ADMM ด้านความร่วมมือเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและการมีส่วนร่วมของโลก ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้นำเสนอให้ที่ประชุมรับทราบถึงพัฒนาการและแผนงานในห้วงต่อไปของศูนย์แพทย์ทหารอาเซียนที่จัดตั้งขึ้นโดยกระทรวงกลาโหมไทย ๒. การประชุม ADMM-Plus ครั้งที่ ๔ รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้กล่าวถึงความสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ซึ่งดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม รวมทั้งได้เสนอแนวคิดในการแก้ไขปัญหาจากภัยคุกคามแบบดั้งเดิมและภัยคุกคามรูปแบบใหม่ให้มีความรอบคอบและครบถ้วนในทุกมิติแบบองค์รวมอย่างยั่งยืน ซึ่งภายหลังการประชุมฯ ผู้เข้าร่วมการประชุมได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีส่งมอบระบบโครงสร้างการสื่อสารสายตรงของประเทศสมาชิกอาเซียน และเข้าร่วมพิธีส่งมอบการเป็นประธานการประชุม ADMM ให้กับกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ ๓. การประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียน-ญี่ปุ่นอย่างไม่เป็นทางการ การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียน-สหรัฐอเมริกาอย่างไม่เป็นทางการ และการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียน-จีนอย่างไม่เป็นทางการ โดยรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้กล่าวถึงความสำคัญของทั้ง ๓ ประเทศ ที่มีบทบาทสำคัญต่อความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และของโลก และเห็นว่าควรมีการพัฒนาความร่วมมือร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ เกื้อกูลกัน ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อดำรงไว้ซึ่งสันติภาพ ความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคต่อไป ๔. นอกจากนี้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้หารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์ โดยแลกเปลี่ยนมุมมองด้านความมั่นคง โดยเฉพาะความร่วมมือในด้านการต่อต้านการก่อการร้าย รวมทั้งเห็นพ้องที่จะเสริมสร้างความร่วมมือทางทหารให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16680 | การประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) | นร04 | 31/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่อง การประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ของรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ซึ่งนายกรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบแล้ว ตามข้อเสนอของรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) และให้อธิบดีกรมบัญชีกลางรับผิดชอบหลักร่วมกับกระทรวงการคลัง โดยรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมบัญชีกลาง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติของกรมบัญชีกลาง ซึ่งที่ประชุมพิจารณาแล้ว สรุปได้ ดังนี้
๑. สถานที่ดำเนินการ ขณะนี้ใช้สถานที่กลางซึ่งอยู่ที่กระทรวงการคลังเป็นที่ดำเนินการ การเปลี่ยนแปลงสถานที่ไปยังที่อื่น เช่น สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม ไม่ได้แก้ปัญหาแต่กลับจะเป็นภาระด้านการติดตั้งระบบใหม่และอาจต้องใช้เวลาพัฒนาระบบหลายปี โดยที่ความเสี่ยงยังคงมีอยู่เช่นเดิม หนทางที่ควรดำเนินการคือ การจัดระบบใหม่ ได้แก่ การจัดทำห้องควบคุมให้โปร่งใสใช้กระจกโปร่งใส ๒ ด้าน มองเห็นจากภายนอกได้ชัดเจน และแบ่งโซนภายในห้องควบคุมเป็น ๒ โซน แต่ละโซนติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมการเข้าถึงพื้นที่ด้วยกุญแจและเครื่องสแกนลายนิ้วมือ ทั้งจัดทำระบบแจ้งเตือนการเข้าถึงข้อมูลส่วนที่สำคัญใน Database ของระบบ e-bidding โดยระบบจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยังหัวหน้างานด้านพัฒนาระบบและหัวหน้างานด้านเครือข่าย มีการติดตั้งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงหน้าห้องควบคุม และจะส่งสัญญาณไฟกระพริบเมื่อมีการเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญ มีการติดตั้งกล้อง CCTV ๒ ตัว ภายในห้องควบคุม ซึ่งในขณะนี้การปรับปรุงสถานที่เสร็จแล้ว ๒. บุคคลผู้เกี่ยวข้องกับการดำเนินการ ให้กรมบัญชีกลางจัดระบบคัดกรองบุคคลผู้เกี่ยวข้อง (clearance) ทุกคนว่าต้องเป็นผู้ที่ไว้ใจได้ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือเจ้าหน้าที่เอกชนของบริษัทภายนอกที่เข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อมิให้เข้าถึงข้อมูลและล่วงรู้หรือลอบนำข้อมูลออกไปได้ อีกทั้งให้จัดทำคู่มือแนวทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ภายในศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศด้วย ซึ่งการดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ๓. ขั้นตอนการดำเนินการ เปลี่ยนการโอนเงินค่าซื้อเอกสารประกวดราคาจากกรมบัญชีกลางไปให้หน่วยงานเจ้าของโครงการซึ่งจะทำในวันถัดจากวันที่ผู้ซื้อเอกสารชำระ เป็นให้โอนเมื่อผ่านพ้นไปแล้ว ๑ เดือน เพื่อให้พ้นกำหนดเวลาของวันเสนอราคาเสียก่อน ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการดังกล่าวแล้ว ๔. การติดตามตรวจสอบซ้ำ จัดให้หน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ผู้แทนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ผลัดเปลี่ยนกันเข้าสุ่มตรวจระบบอย่างสม่ำเสมอ ๕. การดำเนินการกับผู้กระทำผิด จะดำเนินการทางวินัยและกฎหมายที่เกี่ยวข้องเมื่อพบว่ามีบุคคลใดที่เกี่ยวข้องกับการล่วงรู้ข้อมูล เปิดเผยข้อมูล หรือซื้อขายข้อมูล โดยขอความร่วมมือจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ และศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ส่วนรายที่รับเป็นคดีไว้แล้วก็จะขยายผลการสืบสวนสอบสวนต่อไป
|
.....