ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 840 จากทั้งหมด 6211 หน้า แสดงรายการที่ 16781 - 16800 จากข้อมูลทั้งหมด 124201 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
16781 | แนวทางการจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 | นร07 | 17/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบแนวทางการจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ทั้งนี้ ให้สำนักงบประมาณแก้ไขปรับปรุงชื่อแผนงานให้มีความครอบคลุม เหมาะสม และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ ๑.๑ ข้อ ๒.๒.๒ ๑) จากเดิม “การสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวและการบริการ” เป็น “การสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว กีฬา และวัฒนธรรม” ๑.๒ ข้อ ๒.๒.๕ ๓) จากเดิม “การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก” เป็น “การขับเคลื่อนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก” ๒. ให้สำนักงบประมาณได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16782 | ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการผ่านแดนสินค้าระหว่างกรมศุลกากรแห่งราชอาณาจักรไทยและกรมศุลกากรและสรรพสามิตแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา | กค | 17/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการผ่านแดนสินค้าระหว่างกรมศุลกากรแห่งราชอาณาจักรไทยและกรมศุลกากรและสรรพสามิตแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ภาคีคู่สัญญาตามบันทึกความเข้าใจฯ แต่ละฝ่ายจะต้องอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านแดน โดยไม่ทำให้เกิดความล่าช้าในขั้นตอนการผ่านแดน ซึ่งสินค้าที่ดำเนินพิธีการศุลกากรสำหรับผ่านแดนจะไม่ต้องชำระค่าอากรหากปฏิบัติตามกฎหมายหรือระเบียบของประเทศที่มีการผ่านแดน นอกจากค่าธรรมเนียมหรือภาระที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง หรือบริการอื่น ๆ ๑.๒ อนุมัติให้อธิบดีกรมศุลกากรเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ และอนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ในการลงนามร่างบันทึกความเข้าใจฯ ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งรัดการดำเนินการพัฒนาการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างภาครัฐ และระหว่างภาครัฐและเอกชนให้สามารถเชื่อมโยงระบบเครือข่ายข้อมูลในกระบวนการนำเข้าส่งออกและโลจิสติกส์ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ในลักษณะเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ควรพิจารณาแก้ไขชื่อและเนื้อหาของบันทึกความเข้าใจฯ ให้เป็นการทำขึ้นระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงการคลังได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16783 | การประชุมสภารัฐมนตรีสมาคมแห่งมหาสมุทรอินเดีย ครั้งที่ 17 ณ เมืองเดอร์บัน ประเทศแอฟริกาใต้ | กต | 17/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบในหลักการร่างแถลงการณ์เดอร์บัน (Durban Communique) ซึ่งเป็นเอกสารผลลัพธ์การประชุมสภารัฐมนตรีแห่งมหาสมุทรอินเดีย (Indian Ocean Rim Association : IORA) ครั้งที่ ๑๗ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยประเด็นต่าง ๆ เช่น การส่งเสริมความร่วมมือในระดับภูมิภาคและการรวมตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการส่งเสริมและสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม มุ่งมั่นต่อความเสมอภาคทางเพศและการสร้างเสริมสตรีในด้านเศรษฐกิจ ส่งเสริมการจัดตั้งคณะทำงานด้านเศรษฐกิจภาคทะเล และส่งเสริมความร่วมมืออย่างรอบด้านเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าการลงทุน ความมั่นคงและความปลอดภัยทางทะเล รวมทั้งการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน เป็นต้น ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม IORA ครั้งที่ ๑๗ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๐ และร่วมรับรองแถลงการณ์ฯ ในที่ประชุม ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16784 | ขอความเห็นชอบร่างเอกสารแนวความคิดในกรอบการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน และการลงนามในร่างปฏิญญาร่วมของรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน | กห | 17/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างเอกสารแนวความคิดในกรอบการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน จำนวน ๑๐ ฉบับ และร่างปฏิญญาร่วมของรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนด้านความร่วมมือเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและการมีส่วนร่วมกับโลก จำนวน ๑ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการประกาศเจตนารมณ์และใช้เป็นกรอบและแนวทางความร่วมมือของกระทรวงกลาโหมในการดำเนินความร่วมมือด้านความมั่นคงต่าง ๆ ของประเทศสมาชิกอาเซียนและกระทรวงกลาโหมกับประเทศคู่สัญญา และมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือผู้แทนเป็นผู้รับรองร่างเอกสารแนวความคิดฯ และลงนามในร่างปฏิญญาร่วมฯ ในการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ครั้งที่ ๑๑ (11th ASEAN Defence Ministers’ Meeting : 11th ADMM) และการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีประเทศคู่เจรจา ครั้งที่ ๔ (4th ASEAN Defence Ministers’ Meeting-Plus : 4th ADMM-Plus) ระหว่างวันที่ ๒๒-๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๐ ณ เมืองคลาร์ก สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารแนวความคิดฯ ทั้ง ๑๐ ฉบับ และร่างปฏิญญาร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16785 | ขอความเห็นชอบหลักเกณฑ์ รูปแบบ วิธีการ และเงื่อนไขในการดำเนินการจัดการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ | ศธ | 17/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบหลักเกณฑ์ รูปแบบ วิธีการ และเงื่อนไขในการดำเนินการจัดการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ มีสาระสำคัญคือ สถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศที่จะเข้ามาดำเนินการจัดการศึกษาในประเทศไทยจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพัฒนาการจัดการศึกษาโดยสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ โดยสถาบันอุดมศึกษาฯ ดังกล่าวต้องจัดหลักสูตรที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศไทย มีคุณภาพเดียวกับการจัดหลักสูตรในวิทยาเขตหลัก รวมทั้งต้องจัดการศึกษาเฉพาะในเขตพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) ร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงศึกษาธิการ คณะกรรมการพัฒนาการจัดการศึกษาโดยสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับกรณีการดำเนินการร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาของรัฐจะต้องคำนึงถึงความพร้อมและไม่ก่อให้เกิดภาระงบประมาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายจ่ายลงทุนของสถาบันอุดมศึกษาที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้พิจารณาดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้ ๑.๑ การกำหนดสาขาวิชาที่จะมีการจัดการศึกษาในประเทศไทย ควรเป็นสาขาวิชาที่มีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศหรือเป็นสาขาวิชาที่ขาดแคลน เช่น สาขาวิชาที่ไม่มีการเปิดสอนหรือยังไม่มีการพัฒนาหลักสูตรในสาขาวิชานั้น ๆ เพื่อเป็นการรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และ ๑๐ อุตสาหกรรมเป้าหมายที่เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต ๑.๒ สาขาวิชาต่าง ๆ ของสถาบันอุดมศึกษาจากต่างประเทศที่จะเข้ามาเปิดสอนในประเทศไทย ควรพิจารณากำหนดให้ต้องมีอันดับ (Ranking) ที่สูงหรืออย่างน้อยต้องดีกว่าอันดับของสถาบันอุดมศึกษาของสาขาวิชานั้น ๆ ของประเทศไทย ๑.๓ การกำหนดสัดส่วนของนักศึกษาไทยและนักศึกษาต่างชาติที่จะเข้ารับการศึกษา ควรพิจารณากำหนดในจำนวนให้เหมาะสม เพื่อให้นักศึกษาไทยได้มีโอกาสเข้ารับการศึกษาอย่างเต็มที่ตามวัตถุประสงค์ของการดำเนินการเรื่องนี้ ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาสนับสนุนการพัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนของสถาบันอุดมศึกษาของประเทศไทยให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้นและสามารถแข่งขันได้กับสถาบันอุดมศึกษาจากต่างประเทศ ๓. ให้กระทรวงศึกษาธิการได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16786 | รายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปีที่ 3 (12 กันยายน 2559 - 12 กันยายน 2560) | นร | 17/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลเสนอรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปีที่ ๓ (๑๒ กันยายน ๒๕๕๙-๑๒ กันยายน ๒๕๖๐) และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้
๑. ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดทุกกระทรวงรับไปพิจารณารายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปีที่ ๓ (๑๒ กันยายน ๒๕๕๙-๑๒ กันยายน ๒๕๖๐) อีกครั้งหนึ่ง และส่งการปรับปรุงแก้ไขให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณาดำเนินการภายในวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๐ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจัดพิมพ์รายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปีที่ ๓ (๑๒ กันยายน ๒๕๕๙-๑๒ กันยายน ๒๕๖๐) เพื่อเผยแพร่และนำเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศแปลบทสรุปสำหรับผู้บริหารเป็นฉบับภาษาอังกฤษเพื่อเผยแพร่ในต่างประเทศ ๔. ให้สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จัดพิมพ์บทสรุปสำหรับผู้บริหารฉบับภาษาอังกฤษ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ และจัดทำรูปแบบการนำเสนอที่ง่ายต่อการสื่อสารและสร้างความเข้าใจ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16787 | การเปิดทบทวนสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของไทยนอกรอบ (Out-of-Cycle Review : OCR) ภายใต้กฎหมายการค้าสหรัฐอเมริกา มาตรา 301 พิเศษ | พณ | 17/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบการเปิดทบทวนสถานการณ์คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของไทยนอกรอบ (Out-of-Cycle Review : OCR) ภายใต้กฎหมายการค้าสหรัฐอเมริกา มาตรา ๓๐๑ พิเศษ โดยสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (United States Trade Representative : USTR) ได้ประกาศเปิดการทบทวนสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของไทยนอกรอบ (OCR) อย่างเป็นทางการทาง Federal Register เมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๖๐ โดยเปิดรับฟังความเห็นเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งรัฐบาลไทยสามารถยื่นความเห็นเป็นลายลักษณ์อักษร ภายในวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๐ จึงเห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา ได้แก่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกรมศุลกากร ควรดำเนินการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มงวดและต่อเนื่องต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ๒๕๖๐ เพื่อแสดงให้สหรัฐอเมริกาเห็นถึงความจริงจังและจริงใจของรัฐบาลไทยในการดำเนินการเรื่องนี้ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้สหรัฐอเมริกาปรับสถานะไทยออกจากบัญชี PML ต่อไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกรมศุลกากร ดำเนินการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มงวดและจริงจังในพื้นที่ ๑๑ แห่ง ได้แก่ ศูนย์การค้ามาบุญครอง ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ตลาดนัดจตุจักร ย่านการค้าคลองถม ย่านการค้าบ้านหม้อ ย่านการค้าริมถนนสุขุมวิท (ซอย ๓-๑๙) ย่านการค้าพัฒน์พงศ์ ตลาดโรงเกลือ (จังหวัดสระแก้ว) ศูนย์การค้าไอทีซิตี้ (เมืองพัทยา) หาดป่าตอง (จังหวัดภูเก็ต) และหาดกะรน (จังหวัดภูเก็ต) ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นช่วงที่สหรัฐอเมริกาพิจารณาทบทวนนอกรอบ และให้ดำเนินการปราบปรามอย่างต่อเนื่องตลอดไปด้วย ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์ได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16788 | ร่างมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระรวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. .... (การรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับมาตรฐานทางจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตร 219 วรรคสอง) | นร04 | 17/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมเรื่อง ร่างมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. .... (การรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับมาตรฐานทางจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๒๑๙ วรรคสอง) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นประธาน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ และให้ส่งผลการประชุมดังกล่าวพร้อมกับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงคมนาคมที่เห็นควรปรับแก้ถ้อยคำเพื่อความชัดเจน รวมทั้งทบทวนมาตรฐานบางข้อที่อยู่ต่างหมวดกัน แต่มีความเหมือนหรือเชื่อมโยงกัน โดยรวมไว้เป็นหมวดเดียวกัน เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการตรามาตรฐานทางจริยธรรมฯ เป็นต้น ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีดำเนินการแจ้งไปยังศาลรัฐธรรมนูญต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16789 | แต่งตั้งรองประธานกรรมการคนที่สองและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (จำนวน 9 คน 1. นายวีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ ฯลฯ) | อื่นๆ | 17/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งรองประธานกรรมการคนที่สองและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ รวม ๙ คน ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย) ประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๐) เป็นต้นไป ตามแนวทางความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) เรื่องเสร็จที่ ๕๙๖/๒๕๔๕ เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการบริหารกิจการขององค์การสวนยาง ดังนี้
๑. นายวีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ รองประธานกรรมการคนที่สอง ๒. นายคำนวณ อึ้งชูศักดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน ด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ๓. นายพิทยา จินาวัฒน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการพัฒนาชุมชน ๔. นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน ด้านการสื่อสารมวลชน ๕. นางทิชา ณ นคร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน ด้านการศึกษา ๖. รองศาสตราจารย์ปัญญา ไข่มุก กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน ด้านการกีฬา ๗. นางจิรพร วิทยศักดิ์พันธุ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน ด้านศิลปวัฒนธรรม ๘. นายไพโรจน์ แก้วมณี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านกฎหมาย ๙. นายสัมพันธ์ ศิลปนาฎ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน ด้านการบริหาร
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16790 | แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นางหิรัญญา สุจินัย) | นร04 | 17/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นางหิรัญญา สุจินัย เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบด้วยแล้ว โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16791 | การเข้าร่วมในการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ขององค์พระประมุข ราชวงศ์ และผู้นำต่างประเทศ | นร | 17/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีเห็นว่า ในการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จะมีองค์พระประมุข ราชวงศ์ และผู้นำต่างประเทศเข้าร่วมในการพระราชพิธีดังกล่าว จึงมีมติให้กระทรวงการต่างประเทศประสานงานกับสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีในการจัดผลัดเวรรัฐมนตรีไปต้อนรับและปฏิบัติภารกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเหมาะสมต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16792 | ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสาานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม 2560)] | นร | 17/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16793 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 17/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านสังคม ให้กระทรวงยุติธรรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม พิจารณาแนวทางในการดำเนินการสนับสนุนและส่งเสริมให้นักโทษที่มีความรู้ความสามารถในวิชาชีพด้านต่าง ๆ สามารถประกอบวิชาชีพนั้นให้เกิดประโยชน์ได้ในระหว่างที่ถูกคุมขังอยู่ รวมทั้งให้พิจารณาความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการนำนักโทษดังกล่าวมาปฏิบัติงานนอกสถานที่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อให้มีการนำความสามารถนั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญของประเทศ ๒. ด้านเศรษฐกิจ ๒.๑ ให้กระทรวงคมนาคมเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการชำระเงินค่าโดยสารรถประจำทางแบบใหม่ผ่านระบบ E-Ticket และที่ติดตั้งจุดหยอดเหรียญให้ประชาชนเข้าใจได้ง่าย ชัดเจน และทั่วถึง เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและลดปัญหาความล่าช้าเมื่อมีการเปิดใช้งานจริง ๒.๒ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งพัฒนาพืชสมุนไพรให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เป็นที่ยอมรับและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสมุนไพรไทย นั้น ให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งรัดการดำเนินการดังกล่าว รวมทั้งให้กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกระทรวงพาณิชย์พิจารณาเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์พืชสมุนไพรให้มากยิ่งขึ้น เช่น การวางจำหน่ายในร้านค้าธงฟ้า โครงการธงน้ำเงินของกระทรวงกลาโหม การจำหน่ายทางออนไลน์ เป็นต้น ๒.๓ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาส่งเสริมสนับสนุนผู้ที่มีความรู้ความสามารถในการประกอบหรือดัดแปลงรถยนต์ให้สามารถพัฒนาปรับปรุงผลงานให้ดียิ่งขึ้น มีความถูกต้อง เป็นไปตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นพื้นฐานในการผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ของประเทศต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานผลการดำเนินการดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรีทราบภายในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๐ ด้วย ๓. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๓.๑ ให้สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม พิจารณาแนวทางในการนำเกณฑ์ในการพิจารณาการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืนของตลาดหลักทรัพย์ ๗ ประการ ตามผลการวิจัยของ Measuring Sustainability Disclosure 2017 มาปรับใช้กับส่วนราชการตามความเหมาะสม เช่น อัตราการลาออก ค่าใช้จ่ายของบุคลากร การบริหารจัดการเกี่ยวกับด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมของหน่วยงาน การใช้น้ำ การจัดการของเสีย เป็นต้น เพื่อให้ส่วนราชการสามารถวางแผนการบริหารจัดการในเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ ให้พิจารณาคัดเลือกส่วนราชการที่มีความพร้อมในการดำเนินการเป็นหน่วยงานนำร่องก่อน ๓.๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่กำกับการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ ๗ แห่ง ได้แก่ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และการรถไฟแห่งประเทศไทย กำกับ ติดตาม และเร่งรัดการดำเนินการของรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งดังกล่าวในการจัดทำแผนขับเคลื่อนองค์กรในระยะยาวที่สอดคล้องกับภารกิจหลักขององค์กรและการจัดทำแผนปฏิบัติการรายปีที่มีความชัดเจนและเป็นไปตามแผนขับเคลื่อนองค์กรในระยะยาวดังกล่าวให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้ ๓.๓ มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) ร่วมกับสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรีจัดทำรายละเอียดข้อเสนอโครงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยแบบมุ่งเป้าและยั่งยืน (Precision Government Initiative for Poverty Eradication) ให้มีความชัดเจนและสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น แล้วนำข้อเสนอดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์เพื่อพิจารณาดำเนินการขับเคลื่อนต่อไป ๓.๔ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับการส่งเสริมด้านการกีฬา ดังนี้ ๓.๔.๑ กำกับดูแลการดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาภายในประเทศและระดับชาติให้มีมาตรฐาน โดยอาจกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาอนุญาตให้มีการจัดการแข่งขันทั้งในเรื่องความเหมาะสมของสถานที่โดยไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการจราจร เช่น กีฬาสปาร์ตัน (Spartan) ที่สามารถจัดการแข่งขันในตึกสูงได้ เป็นต้น การกำหนดให้มีสถานที่จอดรถอย่างเพียงพอ การจัดที่พักให้แก่นักกีฬาอย่างเหมาะสม รวมทั้งการวางแผนการบริหารจัดการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การติดป้ายประกาศโฆษณา และการดูแลนักกีฬาต่างชาติด้วย ๓.๔.๒ พิจารณาจัดทำโครงการเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการกีฬาของเยาวชนไทย โดยให้พิจารณาคัดเลือกเยาวชนที่มีอายุระหว่าง ๗-๑๐ ปี ที่มีความสามารถด้านการกีฬาชนิดต่าง ๆ เป็นที่ประจักษ์ชัดเจน มาฝึกฝนเพื่อก้าวไปสู่การเป็นเยาวชนทีมชาติไทยต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานผลการดำเนินการดังกล่าวข้างต้นให้คณะรัฐมนตรีทราบภายในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๐ ๔. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันเร่งระบายน้ำในพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขัง รวมทั้งเตรียมการป้องกันและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำของเขื่อนขนาดใหญ่ เช่น เขื่อนอุบลรัตน์ ทั้งนี้ ให้เร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังเป็นเวลานานด้วย เช่น จัดบริการห้องสุขา จัดหาน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภค โดยให้ประชาสัมพันธ์การดำเนินงานของแต่ละหน่วยงานเพื่อสร้างการรับรู้แก่ประชาชนให้ถูกต้องทั่วถึงด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16794 | รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจประจำเดือนกรกฎาคม 2560 | นร11 | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจประจำเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๐ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. ภาพรวมสถานการณ์เศรษฐกิจไทยเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๐ ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในด้านการใช้จ่ายการส่งออกขยายตัวในเกณฑ์ดีอย่างต่อเนื่อง การส่งออกขยายตัวในเกณฑ์ดี ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่อง ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนกลับมาขยายตัวอย่างช้า ๆ ในขณะที่การเบิกจ่ายของรัฐบาลขยายตัวเร่งขึ้นตามการกลับมาขยายตัวของการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนและการขยายตัวต่อเนื่องของการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำ ในด้านการผลิต ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรขยายตัวในเกณฑ์สูง ในขณะที่ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัวสูงสุดในรอบ ๘ เดือน และรายรับจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศขยายตัวในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวลดลงจากฐานที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ดัชนีรายได้เกษตรกรโดยรวมปรับตัวลดลง เสถียรภาพทางเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี อัตราเงินเฟ้อและอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลอย่างต่อเนื่อง ๒. เศรษฐกิจโลกในเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๐ ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเครื่องชี้ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ๆ ของประเทศจีนจะเริ่มชะลอตัวลงและสอดคล้องกับแนวโน้มการชะลอตัวทางเศรษฐกิจอย่างช้า ๆ ในช่วงครึ่งปีหลังก็ตาม แต่เครื่องชี้ทางเศรษฐกิจในประเทศสำคัญ ๆ และประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ยังคงแสดงถึงการขยายตัวและการปรับตัวดีขึ้นของกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16795 | รัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรียประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นายอาห์เมด นูฮู บามัลลี (Mr. Ahmed Nuhu Bamalli)] | กต | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการแต่งตั้งนายอาห์เมด นูฮู บามัลลี (Mr. Ahmed Nuhu Bamalli) ให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรียประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายชุกกูดี นิววิงตัน โอกาฟอร์ (Mr. Chukwudi Newington Okafor) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16796 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นางสาวสุรุ่งลักษณ์ เมฆะอำนวยชัย) | นร12 | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือน สังกัดสำนักงาน ก.พ.ร. สำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ดังนี้
๑. นางสาวสุรุ่งลักษณ์ เมฆะอำนวยชัย ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ (นักพัฒนาระบบราชการทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ.ร. ตั้งแต่วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ๒. นางสาวศรีประภา ถมกระจ่าง ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ (นักพัฒนาระบบราชการทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ.ร. ตั้งแต่วันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๖๐
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16797 | รายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. .... | สว | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป ดังนี้
๑. กำหนดแนวทางการจัดสื่อประชาสัมพันธ์ตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. ๒๕๖๐ มีการกำหนดประเด็น รูปแบบ ช่องทาง การสนับสนุนสื่อ รวมทั้งการเตรียมการชี้แจงทำความเข้าใจการปฏิบัติตามกฎหมายให้กับประชาชน ผู้ประกอบธุรกิจ ร้านค้าปลีก คนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส และสังคมเกี่ยวกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีการปรับตัวในการปฏิบัติตามกฎหมายที่ถูกต้อง ๒. แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่ยาสูบ กรณีที่อาจได้รับผลกระทบทางอ้อมจากการบังคับใช้ร่างพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. .... และจัดทำมาตรการและแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่ยาสูบ ทั้งมาตรการระยะสั้นและระยะยาว สำหรับการช่วยเหลือด้านเงินทุนให้เกษตรกรให้มีศักยภาพการผลิตทางการเกษตรเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันมีกองทุนให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว เช่น กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร กองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร กองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ กองทุนเพื่อฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และกองทุนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน ซึ่งสามารถให้ความช่วยเหลือเกษตรกรได้โดยดำเนินการผ่านหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรเกษตรกรที่สังกัด ซึ่งขั้นตอนในการดำเนินการจะไม่ซับซ้อนเท่าการจัดตั้งกองทุนใหม่ ๓. การจัดเขตสูบบุหรี่สำหรับผู้สูบบุหรี่อยู่ระหว่างดำเนินการจัดเตรียมข้อมูล ประสานเพื่อหารือผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์จากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษาแนวทางการจัดเขตสูบบุหรี่ รวมทั้งกำหนดมาตรฐาน สภาพ และลักษณะเขตสูบบุหรี่
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16798 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ประจันต์ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ประจันต์ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... สาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ประจันต์ ในท้องที่ตำบลยางน้ำกลัดเหนือ และตำบลหนองหญ้าปล้อง อำเภอหนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี และในท้องที่ตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำสำหรับกิจการโรงงาน การประปา หรือกิจการอื่นที่มิใช่การเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ และเพื่อให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16799 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้เครื่องปรับอากาศที่ใช้สารเอชซีเอฟซี - 22 (สารคลอโรไดฟลูออโรมีเทน) ที่มีขนาดทำความเย็นต่ำกว่า 50,000 บีทียูต่อชั่วโมง เป็นสินค้าต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. .... | พณ | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้เครื่องปรับอากาศที่ใช้สารเอชซีเอฟซี-22 (สารคลอโรไดฟลูออโรมีเทน) ที่มีขนาดทำความเย็นต่ำกว่า ๕๐,๐๐๐ บีทียูต่อชั่วโมง เป็นสินค้าต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรการห้ามนำเข้าสินค้าเครื่องปรับอากาศที่ใช้สารเอชซีเอฟซี-22 (สารคลอโรไดฟลูออโรมีเทน) ที่มีขนาดทำความเย็นต่ำกว่า ๕๐,๐๐๐ บีทียูต่อชั่วโมง เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อให้เป็นไปตามพันธกรณีของไทยภายใต้พิธีสารมอนทรีออลว่าด้วยการทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน และให้มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด ๖๐ วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศที่อาจพิจารณาปรับถ้อยคำในย่อหน้าแรกของร่างประกาศฯ เป็น “โดยที่มีความจำเป็นเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การสาธารณสุข การคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน และเพื่อให้เป็นไปโดยสอดคล้องกับพิธีสารมอนทรีออลว่าด้วยสารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน ค.ศ. ๑๙๘๗ ในการลดและเลิกการใช้สารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน สมควรกำหนดให้ ...” ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ควรเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการรับทราบร่างประกาศฯ อย่างทั่วถึง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16800 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2559 รวม 3 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับการผลิต นำเข้า หรือส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ ในประเภท 2 พ.ศ. ....) | สธ | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. ๒๕๕๙ รวม ๓ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการขออนุญาต และการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับการผลิต นำเข้าหรือส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตนำเข้าหรือส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔ ในปริมาณเท่าที่จำเป็นต้องใช้ประจำในการปฐมพยาบาลหรือในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินในยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศที่จดทะเบียนในราชอาณาจักร และกำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับผู้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลังที่ไม่จำเป็นต้องกำหนดให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรต้องสลักหลังสำเนาใบอนุญาตหมายเลข ๓ ส่งกลับมายังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตามร่างข้อ ๑๗ (๔) ในร่างกฎกระทรวงข้อ ๑.๑ แต่อย่างใด ประกอบกับเนื้อหาของร่างกฎกระทรวงยังไม่มีรายละเอียดในส่วนของการรองรับการเชื่อมโยงข้อมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวงทั้ง ๓ ฉบับ ได้แก่ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับการผลิต นำเข้าหรือส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตนำเข้าหรือส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔ เฉพาะเพื่อใช้ในยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศที่จดทะเบียนในราชอาณาจักร พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับผู้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ที่เห็นควรปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าสารเคลนบิวเตอรอล อัลบิวเตอรอลหรือซัลบิวตามอล และยา เภสัชเคมีภัณฑ์ฯ ๑๖ กลุ่ม โดยไม่ต้องใช้มาตรการควบคุมภายใต้พระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. ๒๕๒๒ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
.....