ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 380 จากทั้งหมด 6214 หน้า แสดงรายการที่ 7581 - 7600 จากข้อมูลทั้งหมด 124262 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
7581 | สรุปผลการเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเชียเรื่องความเป็นหุ้นส่วนเพื่อการเติบโตสีเขียว (Asia Green Growth Partnership Ministerial Meeting) | พน. | 07/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7582 | รายงานผลการดำเนินโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูการผลิตปี 2563/2564 | อก. | 07/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดเพื่อลดฝุ่น
PM2.5
ฤดูการผลิตปี ๒๕๖๓/๒๕๖๔ สรุปได้
ดังนี้ (๑) โครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยคุณภาพดีส่งโรงงานในอัตรา
๑๒๐ บาทต่อตัน โดย ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ได้จ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรแล้ว
จำนวน ๑๒๒,๖๑๓ ราย วงเงิน ๕,๙๓๓.๘๓
ล้านบาท และ (๒) การช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยในฤดูการผลิตปี ๒๕๖๓/๒๕๖๔
ส่งผลให้มีปริมาณอ้อยไฟไหม้และพื้นที่การเก็บเกี่ยวอ้อยไฟไหม้ลดลงจากฤดูการผลิตปี
๒๕๖๒/๒๕๖๓ คิดเป็นร้อยละ ๒๓.๒๓ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7583 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องเล่นสนามสาธารณะต้องเป็นไปตามมาตรฐาน จำนวน 4 ฉบับ | อก. | 07/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องเล่นสนามสาธารณะต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
จำนวน ๔ ฉบับ ดังกล่าว ได้แก่ (๑) ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องเล่นสนามสาธารณะ ชิงช้า ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
พ.ศ. .... (๒) ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องเล่นสนามสาธารณะ
กระดานลื่น ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... (๓) ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องเล่นสนามสาธารณะ
ม้าหมุน ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... และ (๔) ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องเล่นสนามสาธารณะ
อุปกรณ์โยก ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องเล่นสนามสาธารณะ ชิงช้า
กระดานลื่น ม้าหมุน และอุปกรณ์โยก ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
โดยสอดคล้องกับการประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๐ เพื่อให้มีหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องเล่นสนามสาธารณะดังกล่าว
อย่างชัดเจนและเป็นระบบ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บและเสียชีวิตของเด็กในสนามเด็กเล่น
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7584 | รัฐบาลสาธารณรัฐฟิจิเสนอขอให้สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฟิจิประจำสาธารณรัฐอินโดนีเซียมีเขตอาณาครอบคลุมประเทศไทย | กต. | 07/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฟิจิประจำสาธารณรัฐอินโดนีเซียมีเขตอาณาครอบคลุมประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7585 | ขอความเห็นชอบในหลักการเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง บางส่วน เพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำคลองพร้าว จังหวัดตราด | กษ. | 07/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง
บางส่วน เนื้อที่ประมาณ ๘๑ ไร่ เพื่อก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำคลองพร้าว
จังหวัดตราด ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคำนึงถึงมาตรการการจัดการน้ำเสียและให้ความสำคัญกับการดูแลทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่หมู่เกาะช้างให้เกิดความสมดุลอย่างยั่งยืน
รวมทั้งดำเนินการศึกษาและรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในการครอบคลุมการจัดการความเสี่ยงและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยให้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียและประชาชน
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7586 | ร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยการพัฒนาและทดสอบนวัตกรรมด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล พ.ศ. .... | นร.10 | 07/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติร่างกฎ ก.พ.
ว่าด้วยการพัฒนาและทดสอบนวัตกรรมด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์การพัฒนาและทดสอบนวัตกรรมด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลของส่วนราชการ
เพื่อพัฒนาการบริหารทรัพยากรบุคคลของส่วนราชการ
ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับภารกิจของส่วนราชการแต่ละแห่งที่แตกต่างกันตามหลักการปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดิน
ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข โดยมีข้อสังเกตว่า ๑)
ในย่อหน้าแรก บรรทัดที่ ๓ ควรปรับแก้ไขจากคำว่า “...และโดยเหมาะสม...” เป็นคำว่า
“...เพื่อให้เหมาะสม...” ๒) เนื่องจากมีชื่อเรียกว่า “กฎ ก.พ. ดังกล่าว ในข้อ ๓
ได้กำหนดคำนิยามคำว่า “นวัตกรรมต้นแบบ” และมีการอ้างในข้อ ๕ ด้วย
เหตุใดจึงไม่ใช้คำนิยามศัพท์เป็นคำว่า “นวัตกรรมด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล”
เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อร่าง กฎ ก.พ. ดังกล่าว และ ๓) ในบรรทัดที่ ๔ ข้อ ๓ ควรปรับแก้จากคำว่า
“...โดยเหมาะสมกับภารกิจ...” เป็นคำว่า “...เพื่อให้เหมาะสมกับภารกิจ...”
และให้มีแนวทางในการปฏิบัติงานของส่วนราชการ หรือคู่มือการปฏิบัติงานที่ชัดเจน
และเพิ่มเติมในร่างข้อเสนอการให้ส่วนราชการที่มีความแตกต่างของการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลที่มีลักษณะเป็นการเฉพาะ
ไปประกอบการพิจารณาด้วย และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้สำนักงาน ก.พ. รับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ควรกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานที่ชัดเจน
สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับส่วนราชการและข้าราชการต่อไป ควรจะต้องออกแบบให้มีความเหมาะสมกับแต่ละหน่วยงาน
หรือหากมีการสร้างมาตรฐานเดียวกัน ก็ควรมีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะปรับใช้ให้เข้ากับบริบทของแต่ละส่วนราชการ
และมีการกำหนดส่วนราชการที่จะเข้ารับการทดสอบให้มีความหลากหลายครอบคลุมในทุกมิติ
เพื่อให้ได้ผลการทดสอบที่สามารถนำไปใช้เป็นแบบอย่างของส่วนราชการแต่ละประเภทได้อย่างแท้จริง
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7587 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา จำนวน 3 เรื่อง | สว. | 07/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
ของคณะกรรมาธิการการศึกษาวุฒิสภา รวม ๓ เรื่อง ดังนี้ ๑.
รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การจัดการศึกษาโดยบูรณาการการเรียนรู้กับการทำงาน (Work Integrated Learning : WIL) สำหรับอาชีวศึกษา
โดยเน้นรูปแบบทวิภาคี ๒.
รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง
การวิเคราะห์ประเด็นการจัดการอาชีวศึกษาและกฎหมายที่มีผลกระทบต่อการจัดการศึกษา ๓.
รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง
ข้อเสนอเชิงนโยบายเร่งด่วนว่าด้วยการบริหารการจัดการศึกษาเอกชน
ในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
(COVID-19) ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7588 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 5/2564 | นร.11 สศช | 07/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) เสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) ครั้งที่ ๕/๒๕๖๔
เมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๖๔ ๑.๒
มอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องตามมติคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19)
และข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป ๒. ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7589 | ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | นร.07 | 07/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
ประกอบด้วย (๑) หลักการและกรอบการจัดทำยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณ ได้จัดทำขึ้นให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ
(พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐) (ร่าง)
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๓ (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐) (ร่าง)
นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐)
แผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) และนโยบายรัฐบาล
โดยมุ่งให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกกับประเด็นการพัฒนาที่ต้องเร่งดำเนินการ
เพื่อให้บรรลุ ๑๓ หมุดหมายการพัฒนา (ร่าง) แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๓
ที่ต้องเร่งดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ และ (๒)
โครงสร้างยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณ ประกอบด้วย ๖ ยุทธศาสตร์ชาติ ได้แก่
ด้านความมั่นคง ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์
ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม
ด้านการสร้างความเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ และรายการค่าดำเนินการภาครัฐ
ประกอบด้วย รายจ่ายเพื่อรองรับกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
และรายจ่ายเพื่อการชำระหนี้ภาครัฐ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7590 | การดำเนินโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2565 ให้แก่ประชาชน | นร. | 07/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้ทุกส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ
เร่งพิจารณาผลงาน/โครงการในความรับผิดชอบที่สมควรจะดำเนินการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่
พ.ศ. ๒๕๖๕
ให้แก่ประชาชนดังเช่นทุกปีที่ผ่านมาโดยแผนงาน/โครงการดังกล่าวต้องสามารถดำเนินการให้มีผลในทางปฏิบัติได้ทันในช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ
นำแผนงาน/โครงการดังกล่าวเสนอต่อคณะรัฐมนตรีโดยเร็วภายในวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๔
เพื่อพิจารณาความเหมาะสมและสอดคล้องในภาพรวมก่อนด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7591 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงสถานที่ก่อสร้าง โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และอาคารจอดรถอัตโนมัติ แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร | รจภ. | 07/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเปลี่ยนแปลงสถานที่ก่อสร้างโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และอาคารจอดรถอัตโนมัติ (จำนวน ๒ รายการ
ได้แก่ รายการค่าก่อสร้างและรายการค่าควบคุมงาน) (ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๗) จาก แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร เป็น
แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
(ไม่เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ) ตามที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เสนอ
และให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์รับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรให้ความสำคัญในการควบคุม
กำกับ ดูแล โครงการดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7592 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม 2564) | ปสส. | 07/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันศุกร์ที่
๓ ธันวาคม ๒๕๖๔ ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา ได้แก่ พิธีสารแก้ไขบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งอินโดนีเซีย
มาเลเซีย และไทย ว่าด้วยการขยายเส้นทางบิน พิธีสารเพื่ออนุวัติข้อผูกพันชุดที่ ๑๑
ของบริการขนส่งทางอากาศ ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๑๔ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๘ ธันวาคม
๒๕๖๔ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๑๕
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๔
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7593 | พิธีสารแก้ไขบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ว่าด้วยการขยายเส้นทางบิน และพิธีสารเพื่ออนุวัติข้อผูกพันชุดที่ 11 ของบริการขนส่งทางอากาศ ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน รวม 2 ฉบับ [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม 2564)] | ปสส. | 07/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันศุกร์ที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๖๔ ซึ่งให้เสนอพิธีสารแก้ไขบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งอินโดนีเซีย
มาเลเซีย และไทย ว่าด้วยการขยายเส้นทางบินและพิธีสารเพื่ออนุวัติข้อผูกพันชุดที่
๑๑ ของบริการขนส่งทางอากาศ ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน รวม ๒ ฉบับ
ต่อรัฐสภาเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7594 | รายงานภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2564 | กค. | 07/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยประจำไตรมาสที่
๓ ปี ๒๕๖๔ ประกอบด้วย (๑)
การดำเนินนโยบายการเงินในช่วงไตรมาสที่ ๓ ปี ๒๕๖๔ ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน
เมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๖๔ ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ ๐.๕ ต่อปี และคาดว่าในปี
๒๕๖๔ และ ๒๕๖๕ เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวที่ร้อยละ ๐.๗ และ ๓.๙ ตามลำดับ (๒) การประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจการเงินเพื่อประกอบการดำเนินนโยบายการเงิน
ประเมินว่าเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าในปี ๒๕๖๔ มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้จากการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-๑๙
และในปี ๒๕๖๕ คาดว่าเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าจะมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น และ (๓)
แนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของไทย คาดว่าในปี ๒๕๖๔ เศรษฐกิจจะขยายตัวร้อยละ ๐.๗
เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรควิด-๑๙ โดยคาดว่าประมาณการเศรษฐกิจในปี
๒๕๖๕ จะขยายตัวเร่งขึ้นร้อยละ ๓.๙ โดยกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะทยอยฟื้นตัวและสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้มากขึ้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7595 | ผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 39 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง | พน. | 07/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ ๓๙
และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง [The 39th ASEAN Ministers to Energy Meeting (AMEM) and
Associated Meetings] ระหว่างวันที่
๑๓-๑๖ กันยายน ๒๕๖๔ ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนเข้าร่วมการประชุม สรุปสาระสำคัญ ดังนี้ (๑)
การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ ๓๙
ที่ประชุมรับทราบแผนการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการความร่วมมือด้านพลังงานอาเซียน
ระยะที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๕ ในสาขาความร่วมมือต่าง ๆ เช่น
การเชื่อมโยงโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียนและพลังงานหมุนเวียน (๒) การประชุมอื่น ๆ
เช่น การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงานบวกสาม ครั้งที่ ๑๘
โดยมุ่งเน้นความร่วมมือด้านความมั่นคงพลังงานและพลังงานหมุนเวียน และการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงานกับสหรัฐฯ
โดยนำเสนอกรอบแนวทางความร่วมมือด้านพลังงานอาเซียน-สหรัฐฯ เพื่อพัฒนาพลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีด้านพลังงาน
(๓) การรับรองร่างปฏิญญาและร่างถ้อยแถลง รวม ๖ ฉบับ เช่น
ร่างปฏิญญาร่วมบันดาร์เสรีเบกาวัน
รัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงานในด้านความมั่นคงและการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานและถ้อยแถลงร่วมของการกระชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน
ครั้ง ๓๙ และ (๔) ไทยได้แสดงวิสัยทัศน์ในการจัดหาพลังงานให้เพียงพอ มีเสถียรภาพ
รวมทั้งขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานเพื่อนำพาอาเซียนไปสู่ระบบพลังงานคาร์บอนต่ำในอนาคต
เป็นต้น ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7596 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 2/2564 | ศอบต. | 07/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
(กพต.) ครั้งที่ ๒/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๔
ตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ ๑. เรื่องเพื่อทราบ
(๖ เรื่อง) ได้แก่ (๑)
รายงานความคืบหน้าและผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการช่วยเหลือและพัฒนาแรงงานไทยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กลุ่มที่เดินทางกลับจากต่างประเทศภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
(๒)
รายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
(๓) รายงานความคืบหน้าการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อความยั่งยืน
(๔)
รายงานความคืบหน้าและผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าแบบครบวงจรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อความมั่นคง
มั่งคั่ง ยั่งยืน (๕)
รายงานความคืบหน้าโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นกรณีเร่งด่วนและการจัดทำปะการังเทียมพื้นที่ชายฝั่งทะเลจังหวัดชายแดนภาคใต้
และ (๖) รายงานความก้าวหน้าการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาเชิงพื้นที่
สำหรับดำเนินการขยายผลโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”
ไปสู่เมืองต้นแบบที่ ๔ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา
“เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” และการดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ๒. เรื่องเพื่อพิจารณา (๔ เรื่อง) ได้แก่ (๑)
การขยายผลโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕-๒๕๗๐ (๒)
ขออนุมัติหลักการโครงการแก้ไขปัญหาสุขภาวะและภาวะโภชนาการต่ำของเด็กเล็กในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๘ (๓)
ขออนุมัติหลักการและกรอบวงเงินโครงการเมืองปศุสัตว์ภายใต้กรอบระเบียงเศรษฐกิจฮาลาล
จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ (๔)
การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองร่างยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
ตามมาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๓
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7597 | ร่างคู่มือการจัดทำงบประมาณที่คำนึงถึงมิติเพศภาวะ (Gender Responsive Budgeting - GRB : A Practical Handbook) | พม. | 07/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบในหลักการของร่างคู่มือการจัดทำงบประมาณที่คำนึงถึงมิติเพศภาวะ
โดยร่างคู่มือฯ ฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการจัดทำงบประมาณที่คำนึงถึงมิติเพศภาวะ
ซึ่งเป็นเครื่องมือในการบูรณาการมุมมองเพศภาวะเข้าสู่กระบวนการจัดการงบประมาณทั้งรายรับและรายจ่าย
เพื่อให้การตัดสินใจในการใช้งบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างสูงสุด
เหมาะสมกับบริบทความต้องการ ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
และสร้างความเสมอภาคระหว่างเพศ โดยมีหลักการที่สำคัญ คือ การวิเคราะห์ความต้องการ
โอกาส ข้อจำกัด และการเข้าถึงทรัพยากรที่แตกต่างกันของหญิงและชายที่จะต้องคำนึงถึงในกระบวนการงบประมาณ
โดยนำปัจจัยต่าง ๆ มาวิเคราะห์ เช่น อายุ อัตลักษณ์ทางเพศ ระดับการศึกษา ความพิการ
สถานะทางเศรษฐกิจและสังคม เป็นต้น ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
และให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับข้อเสนอแนะของกระทรวงมหาดไทยและข้อสังเกตของสำนักงบประมาณไปประกอบการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขร่างคู่มือการจัดทำงบประมาณที่คำนึงถึงมิติเพศภาวะและแบบรายการตรวจสอบการจัดทำงบประมาณที่คำนึงถึงมิติเพศภาวะให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้นก่อนดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ควรส่งเสริมให้มีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในหน่วยงานต่าง
ๆ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในการจัดทำงบประมาณที่คำนึงถึงมิติเพศภาวะเบื้องต้น
และสามารถนำแนวทางการจัดทำงบประมาณฯ มาปรับใช้ในการจัดสรรทรัพยากร
และงบประมาณของหน่วยงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๒.
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แจ้งให้หน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องนำคู่มือการจัดทำงบประมาณที่คำนึงถึงมิติเพศภาวะพร้อมแบบรายการตรวจสอบการจัดทำงบประมาณที่คำนึงถึงมิติเพศภาวะที่ได้ปรับปรุงแก้ไขเรียบร้อยแล้วไปใช้เป็นแนวทางในการจัดทำงบประมาณต่อไป
รวมทั้งเผยแพร่คู่มือการจัดทำงบประมาณที่คำนึงถึงมิติเพศภาวะให้เป็นที่รับรู้ทั่วไป
และแจ้งต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบตามข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7598 | ขอความเห็นชอบร่างเอกสารที่จะมีการรับรองระหว่างการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านการขนส่งเอสแคป ครั้งที่ 4 | คค. | 07/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑
เห็นชอบต่อร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรีด้านการพัฒนาการขนส่งที่ยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก
และร่างแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคสำหรับการพัฒนาด้านการขนส่งที่ยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก
(ค.ศ. ๒๐๒๒-๒๐๒๖) มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ในการส่งเสริมการพัฒนาระบบการขนส่งที่ยั่งยืน
ผ่านการกำหนดเป้าหมายและวางแผนโครงการและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องเพื่อมุ่งสู่การดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนภายในปี
ค.ศ. ๒๐๓๐ ๑.๒
อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างปฏิญญาฯ ๒.
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๓. ให้กระทรวงคมนาคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7599 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... จำนวน 3 ฉบับ | กษ. | 07/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ดังกล่าว จำนวน ๓ ฉบับ ได้แก่ ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองสะเดา
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองจำไหร
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองหัวช้าง
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองสะเดา
ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองจำไหร ในท้องที่จังหวัดสงขลา และทางน้ำชลประทานคลองหัวช้าง
ในท้องที่จังหวัดพัทลุง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน
การประปา หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ
และเพื่อให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตรวจสอบความถูกต้องของแผนที่ท้ายกฎกระทรวง ในส่วนของชื่อท้องที่การปกครองและแนวเขตการปกครองท้องที่
ตลอดจนตรวจสอบพื้นที่และจุดยึดโยงต่าง ๆ ให้ถูกต้องและให้เป็นปัจจุบัน รวมทั้งแก้ไขชื่อผู้มีอำนาจลงนามให้เป็นปัจจุบันก่อนประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไปด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7600 | ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง มาตรการเพื่อประโยชน์ในการควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงและมาตรการเกี่ยวกับสินค้าที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการใช้สุดท้ายหรือผู้ใช้สุดท้ายที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. 2564 | พณ. | 07/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง
มาตรการเพื่อประโยชน์ในการควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงและมาตรการเกี่ยวกับสินค้าที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการใช้สุดท้ายหรือผู้ใช้สุดท้ายที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
พ.ศ. ๒๕๖๔ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรการห้ามส่งออก ส่งกลับ ถ่ายลำ ผ่านแดน
และถ่ายโอนเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ของสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงและมาตรการเกี่ยวกับสินค้าที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการใช้สุดท้ายหรือผู้ใช้สุดท้ายที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
และก่อนการบังคับใช้มาตรการมีขั้นตอนให้ผู้ที่เกี่ยวข้องชี้แจงข้อมูลเพื่อพิสูจน์ว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
รวมทั้งผู้ที่ถูกบังคับใช้มาตรการสามารถยื่นคำขอให้ทบทวนเพื่อยกเลิกการบังคับใช้มาตรการที่กำหนดได้
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|