ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 374 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 7461 - 7480 จากข้อมูลทั้งหมด 124007 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
7461 | การเร่งรัดดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงขอนแก่น - หนองคาย | นร. | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า เพื่อให้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมทางรถไฟในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศมีความเชื่อมโยงกันตลอดทั้งสายและสามารถรองรับความต้องการในการเดินทางของประชาชนและการขนส่งสินค้าที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นจากการเปิดประเทศและการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงกันของประเทศเพื่อนบ้าน
คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้กระทรวงคมนาคม (การรถไฟแห่งประเทศไทย)
เร่งรัดการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าทางคู่ระยะที่ ๒ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย
ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
โดยให้ถือเป็นนโยบายสำคัญที่ต้องขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7462 | ผลการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน และผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ภูเก็ต ตรัง พังงา ระนอง และสตูล) | นร.11 สศช | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบผลการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าราชการจังหวัด
ผู้แทนภาคเอกชน และผู้บริหารท้องถิ่น
เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ภูเก็ต ตรัง พังงา
ระนอง และสตูล) เมื่อวันอังคารที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ เห็นชอบในหลักการของโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปีทั้ง
๗ โครงการ กรอบวงเงิน ๔๙๔ ล้านบาท โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี
งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
และให้กระทรวงมหาดไทยเสนอขอรับการจัดสรรจากสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
และอนุมัติในหลักการให้ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานเอ็กซ์โปร วาระพิเศษ (Specialized Expo) ณ จังหวัดภูเก็ต
ภายใต้ชื่องาน EXPO-๒๐๒๘-Phuket, Thailand และมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
(นายอนุทิน ชาญวีรกูล)
หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในหนังสือเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในนามของประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
(Letter candidature) ทั้งนี้ ในส่วนของงบประมาณให้ดำเนินการพิจารณาความเหมาะสมตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
พร้อมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการด้านการเยียวยา ฟื้นฟู
และช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ด้านการท่องเที่ยว ด้านเกษตร
ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้านโครงสร้างพื้นฐาน และข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเพิ่มเติม
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7463 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2564) | ปสส. | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา ได้แก่
ร่างพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... พิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ ๒
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันอังคารที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๖ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ วันพุธที่ ๑๗
พฤศจิกายน ๒๕๖๔ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓
ครั้งที่ ๗ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7464 | ขออนุมัติดำเนินงานโครงการประมูลสิทธิ์งานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 และจังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. 2572 | กษ. | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการยื่นประมูลสิทธิ์การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี
พ.ศ. ๒๕๖๙ (ระดับ B) และจังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ๒๕๗๒ (ระดับ A1) ต่อสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH) โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)
เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย
(จังหวัดอุดรธานีและจังหวัดนครราชสีมา) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการและสนับสนุนค่าใช้จ่ายร่วมกับภาครัฐด้วย
ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาแนวทางการดำเนินงานและการบริหารจัดการทรัพย์สินภายหลังจากการจัดงานไว้เป็นการล่วงหน้าด้วย
พร้อมทั้งจัดทำรายละเอียดความเหมาะสมในการดำเนินงานที่สะท้อนถึงความคุ้มค่าและผลที่คาดว่าจะได้รับทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ในกรณีที่จะมีการกำหนดให้งานมหกรรมพืชสวนโลกเป็นงานเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสสำคัญเช่น
ฉลองสิริราชสมบัติหรือเฉลิมพระชนมพรรษาให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประสานงานกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนต่อไปด้วย ๓.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7465 | ขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อจัดให้รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเช่าที่ราชพัสดุเพื่อเป็นที่ทำการและที่พักเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดสงขลา | กค. | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๕ ธันวาคม ๒๕๓๐ วันที่ ๒๓ กรกฎาคม
๒๕๓๔ วันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๔๓ และวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๔๓ เพื่อจัดให้รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเช่าที่ราชพัสดุ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ สข.๑๑๐๐
(บางส่วน) ตำบลพะวง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา เนื้อที่ประมาณ ๕-๐-๖๕.๘๐ ไร่ เพื่อเป็นที่ทำการและที่พักเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน
ณ จังหวัดสงขลา
โดยกรมธนารักษ์จะได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๖
โดยจัดสรรงบประมาณให้กับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปลูกป่าทดแทนเพื่อการอนุรักษ์หรือรักษาสภาพแวดล้อมไม่น้อยกว่า
๒๐ เท่าของพื้นที่ป่าชายเลนที่ใช้ประโยชน์ตามระเบียบกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งว่าด้วยการปลูกและบำรุงรักษาป่าชายเลนทดแทนเพื่อการอนุรักษ์หรือรักษาสภาพแวดล้อม
กรณีการดำเนินโครงการใด ๆ
ของหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลน พ.ศ. ๒๕๕๖
อย่างเคร่งครัดต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ควรพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
โอนเงินจัดสรรหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร และต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้อง ครบถ้วนในทุกขั้นตอน
ควรเร่งรัดให้มีการดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการอำนวยการจัดระบบศูนย์ราชการว่าด้วยการบริหารศูนย์ราชการ
พ.ศ. ๒๕๔๒ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7466 | ขอความเห็นชอบร่างความตกลงว่าด้วยการต่ออายุแถลงการณ์ร่วม แสดงเจตจำนงว่าด้วยการพัฒนาความร่วมมือด้านรถไฟ ระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี | คค. | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างความตกลงว่าด้วยการต่ออายุแถลงการณ์ร่วมแสดงเจตจำนงว่าด้วยการพัฒนาความร่วมมือด้านรถไฟ
ระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยสำหรับสำหรับการลงนามดังกล่าว
โดยร่างความตกลงฯ มีสาระสำคัญ คือ กระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
เห็นชอบให้มีการต่ออายุแถลงการณ์ร่วมฯ ฉบับลงนามวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙
ต่อเนื่องไปอีก ๒ ปี ทั้งนี้ แถลงการณ์ร่วมแสดงเจตจำนงฯ ข้อ ๕ (๒) กำหนดให้
“แถลงการณ์ร่วมแสดงเจตจำนงฯ มีอายุสาม (๓) ปี และอาจมีการต่ออายุได้อีกสอง (๒) ปี
อย่างต่อเนื่องกัน ตามความเห็นของทั้งฝ่าย” ประกอบกับ
ความตกลงว่าด้วยการต่ออายุแถลงการณ์ร่วมแสดงเจตจำนงฯ ฉบับลงวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๖๓
มีการต่ออายุแถลงการณ์ร่วมแสดงเจตจำนงฯ ต่อเนื่องไปอีก ๒ ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ ๒๓
พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ถึงวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
จึงได้ระบุให้ความตกลงว่าด้วยการต่ออายุแถลงการณ์ร่วมแสดงเจตจำนงฯ ฉบับล่าสุด
เริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๒๒พฤศจิกายน ๒๕๖๖
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างความตกลงว่าด้วยการต่ออายุแถลงการณ์ร่วมแสดงเจตจำนงว่าด้วยการพัฒนาความร่วมมือด้านรถไฟ
ระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ทั้งนี้
ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่ควรพิจารณาให้มีการระบุสาขาที่ต่างฝ่ายต่างสนใจในขอบเขตความร่วมมือของแถลงการณ์ร่วม
และฝ่ายไทยควรเสนอสาขาที่มีความสอดคล้องกับแผนพัฒนาคมนาคมขนส่งระบบราง
และฝ่ายเยอรมนีมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมในด้านนี้อย่างชัดเจน
และฝ่ายเยอรมนีสามารถกำหนดกิจกรรมหรือผู้ประกอบการเยอรมนีที่สนใจในการแลกเปลี่ยนหรือมีส่วนร่วมในการผลักดันเทคโนโลยีดังกล่าวในประเทศไทยได้ต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7467 | สรุปผลการปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน | นร.11 สศช | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบแนวทางและข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในการปฏิบัติราชการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ซึ่งมีประเด็นการพัฒนาและข้อสั่งการสรุปได้
ดังนี้ (๑) พัฒนาคุณภาพการท่องเที่ยวให้มีมาตรฐานอย่างยั่งยืน (๒)
การพัฒนาระบบและสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าภาคเกษตร ประมงและปศุสัตว์ที่มีศักยภาพในพื้นที่
เพื่อให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน (๓)
การเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพต้นทุนมนุษย์เพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน และ (๔)
ประเด็นอื่น ๆ โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสั่งการไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
รวมทั้งรายงานผลการดำเนินงานให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติทราบด้วย
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ๒.
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7468 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ (ฉบับที่ ..) | ตช. | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
(ฉบับที่ ..) มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขและบรรเทาผลกระทบแก่คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวตามประเภทการตรวจลงตรา
(รวมทั้งการตรวจลงตรา Visa on Arrival) คนต่างด้าวที่ได้รับสิทธิการยกเว้นการตรวจลงตรา
และคนต่างด้าวที่ได้รับสิทธิตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
โดยให้ได้รับการขยายระยะเวลาอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและการแจ้งที่พักอาศัยต่อไปได้
ตั้งแต่วันที่ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๔ ทั้งนี้
เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (๓ สิงหาคม ๒๕๖๔) [เรื่อง มาตรการบรรเทาผลกระทบของประชาชนในการติดต่อราชการเพื่อขออนุญาตกับหน่วยงานของรัฐจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙] ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
๒.
ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่เห็นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจพิจารณาข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ของบุคคลควบคู่ไปด้วย
เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและการแสวงประโยชน์จากห้วงเวลาดังกล่าวในการกระทำความผิด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7469 | การนำเสนอแหล่งมรดกทางธรรมชาติ พื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก | ทส. | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเอกสารบัญชีรายชื่อเบื้องต้น
พื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน เพื่อเสนอขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นำเสนอแหล่งมรดกทางธรรมชาติ พื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน เพื่อเสนอขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก ต่อศูนย์มรดกโลก กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยพื้นที่ที่นำเสนอขึ้นทะเบียนประกอบด้วย
๖ พื้นที่อุทยาน และ ๑ พื้นที่ป่าชายเลน ครอบคลุมพื้นที่ ๓ จังหวัด ได้แก่
จังหวัดระนอง (อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระนอง (อุทยานแห่งชาติแหลมสน
และป่าชายเลนจังหวัดระนอง) จังหวัดพังงา (อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง) และจังหวัดภูเก็ต
(อุทยานแห่งชาติสิรินาถ) ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
โดยค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในปี ๒๕๖๕ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับจัดสรร
หรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ส่วนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีต่อ
ๆ ไป ให้จัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องเตรียมแผนการบริหารจัดการพื้นที่อุทยานแห่งชาติให้มีความจำเป็นและครบถ้วน
และให้ความสำคัญกับความร่วมมือในทุกภาคส่วน
และควรมีการติดตามเสนอแหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามันของเมียนมาเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ซึ่งหากมีอาจส่งผลกระทบต่อขั้นตอนการดำเนินการของประเทศไทย
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7470 | ขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชน ในพื้นที่ป่าชายเลน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 และ 2563 ในท้องที่จังหวัดชายฝั่งทะเล 21 จังหวัด | ทส. | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชน
ในพื้นที่ป่าชายเลน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ และ ๒๕๖๓ ในท้องที่จังหวัดชายฝั่งทะเล
๒๑ จังหวัด เพื่อนำที่ดินที่เป็นป่าชายเลนเนื้อที่รวม
๔,๑๐๕-๐-๐๔
ไร่ ไปดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชน ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมประมง) ที่เห็นว่าหากมีการดำเนินการใด
ๆ ในแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำ ทะเลสาบ ทะเล หรือบนชายหาดทะเล
ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามนัยพระราชบัญญัติการเดินเรือน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช ๒๔๕๖
และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งขอให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
กำหนดให้ชุมชนที่ได้รับอนุญาตให้ทำกินในป่าชายเลนดังกล่าวมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนให้มากขึ้นจากที่เป็นอยู่ด้วย
เพื่อให้การใช้ประโยชน์ป่าชายเลนเป็นไปอย่างยั่งยืน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงการใช้ประโยชน์ในพื้นที่และการคัดกรองคุณสมบัติของราษฎรว่าเป็นผู้ยากไร้หรือไม่มีพื้นที่ทำกิน
รวมถึงกำหนดให้มีมาตรการป้องกันและคุ้มครองการบุกรุกพื้นที่ป่า
และให้ความสำคัญกับการส่งเสริมพัฒนาอาชีพที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่โดยไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศป่าชายเลน
รวมทั้งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ภายใต้ข้อกฎหมายของพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘
และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๕ ว่าด้วยที่จับสัตว์น้ำ
ควรให้หน่วยงานดำเนินการตามมาตรา ๖๒ ซึ่งห้ามมิให้ผู้ใดทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่จับสัตว์น้ำที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินให้ผิดไปจากสภาพที่เป็นอยู่
เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7471 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวและใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ พ.ศ. .... | กก. | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวและใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว
ครั้งละ ๒,๐๐๐ บาท
และการต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวสาขา ครั้งละ ๑,๐๐๐
บาท เป็นระยะเวลา ๒ ปี นับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ
และยกเว้นค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ ครั้งละ ๒๐๐ บาท เป็นระยะเวลา
๕ ปี นับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณและ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่ควรมีมาตรการรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อความเพียงพอของรายได้ดอกผลของกองทุนในช่วงระยะเวลาการยกเว้นค่าธรรมเนียมดังกล่าว
พิจารณาวางแผนการดำเนินการทางการเงินของกองทุนคุ้มครองธุรกิจนำเที่ยวที่จะมีรายได้ลดลงจากค่าธรรมเนียมให้สอดคล้องกับรายได้เพื่อมิให้กระทบต่อสภาพคล่องและเสถียรภาพของกองทุนคุ้มครองธุรกิจนำเที่ยวในอนาคตด้วย
และกำหนดแนวทางส่งเสริมคุณภาพของมัคคุเทศก์ โดยการสร้างและพัฒนาความรู้และทักษะของมัคคุเทศก์ที่ถูกกฎหมายให้มีคุณภาพมากขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7472 | แนวทางการดำเนินงานส่งเสริมปีท่องเที่ยวไทย 2565 (Visit Thailand Year 2022) | กก. | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการดำเนินงานส่งเสริมปีท่องเที่ยวไทย ๒๕๖๕ (Visit Thailand Year 2022)
เพื่อเป็นแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศให้กลับมาฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-19) ที่ได้ส่งผลกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ
รวมถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจในการนำรายได้เข้าประเทศเพื่อขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจภาพรวมและสังคมของประเทศ
เพื่อประกาศความพร้อมของประเทศในการพลิกโฉม เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวในปี ๒๕๖๕
สร้างจุดขายที่แตกต่างให้กับประเทศไทย พร้อมยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยในฐานะ
Quality Destination สู่การเป็น Preferred
Destination และดึงดูด
เชิญชวนและกระตุ้นการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมายให้เกิดความสนใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7473 | ร่างพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมให้ทันสมัย 6 ประเด็น) [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2564)] | ปสส. | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7474 | ร่างพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2564)] | ปสส. | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7475 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี) | ศธ. | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งศึกษาธิการภาค สำนักงานศึกษาธิการภาค ๑๐
สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงสำนักงานปลัดกระทรวง
กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7476 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายกีรติ รัชโน ฯลฯ จำนวน 3 ราย) | พณ. | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงพาณิชย์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
จำนวน ๓ ราย เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียน และทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑. นายกีรติ รัชโย ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายพิทักษ์
อุดมวิชัยวัฒน์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ๓. นายวันชัย วราวิทย์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7477 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายศรัทธา คชพลายุกต์ และนายบุญพาศ รักนุ้ย) | นร.52 | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอนข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
สังกัดศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน ๒ ราย
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอ
ดังนี้ ๑. นายศรัทธา คชพลายุกต์ ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ๒. นายบุญพาศ รักนุ้ย ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7478 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายชุตินทร คงศักดิ์ ฯลฯ จำนวน 4 ราย) | กต. | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างและสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑. นายชุตินทร คงศักดิ์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ๒. นางวิลาวรรณ
มังคละธนะกุล ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายปิยภักดิ์ ศรีเจริญ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมานามา ราชอาณาจักรบาห์เรน ๔. นายทวีเกียรติ เจนประจักษ์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ณ
ไทเป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7479 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อก. | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงอุตสาหกรรมถอนร่างพระราชบัญญัติสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๔
ออกจากการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7480 | ปรับปรุงองค์ประกอบในคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร | นร.04 | 09/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการปรับปรุงองค์ประกอบในคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
โดยแต่งตั้ง นายนิโรธ สุนทรเลขา เป็นประธานกรรมการ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|