ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 374 จากทั้งหมด 6214 หน้า แสดงรายการที่ 7461 - 7480 จากข้อมูลทั้งหมด 124262 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
7461 | ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | ลต. | 28/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญประกอบด้วย แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามของคำว่าเขตเลือกตั้ง
โดยหมายความว่าท้องที่ที่กำหนดเป็นเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งหรือแบบบัญชีรายชื่อ
แล้วแต่กรณี (มาตรา ๓)
แก้ไขเพิ่มเติมให้พรรคการเมืองต้องส่งผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้งแล้วจึงมีสิทธิส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ
และต้องกำหนดให้ส่งบัญชีรายชื่อดังกล่าวก่อนปิดการรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง
โดยกำหนดวันที่พรรคการเมืองจะส่งบัญชีรายชื่อผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อไม่น้อยกว่า ๓
วัน (มาตรา ๕) เป็นต้น และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมให้คณะกรรมการสรรหาจัดทำบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อไม่เกินหนึ่งร้อยรายชื่อ
(มาตรา ๓) และแก้ไขเพิ่มเติมให้สมาชิกลงคะแนนเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อได้คนละไม่เกินสิบรายชื่อ
(มาตรา ๓) รวม ๒ ฉบับ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอรัฐสภาต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ ๓. ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7462 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผู้นำของเข้าเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรทั้งหมดหรือแต่บางส่วน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 28/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผู้นำของเข้าเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรทั้งหมดหรือแต่บางส่วน
(ฉบับที่ ๓ ) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการยกเว้นให้ผู้นำของเข้าเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรทั้งหมดหรือแต่บางส่วน
ในกรณีมีพฤติการณ์พิเศษ โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๕
ถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7463 | ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ พ.ศ. .... | รง. | 28/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ
พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ โดยให้รับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย
ดังนี้ ๑.๑ กระทรวงการคลังที่เห็นว่า โดยที่ร่างมาตรา ๓๐
กำหนดให้มีการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบและร่างมาตรา
๓๑ กำหนดให้รายได้ของกองทุนส่วนหนึ่งมาจากเงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้ ดังนั้น
จึงเป็นการตรากฎหมายที่มีผลผูกพันทรัพย์สินหรือก่อให้เกิดภาระทางการเงินการคลังแก่รัฐ
ตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ซึ่งรัฐต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่า ต้นทุนและผลประโยชน์เสถียรภาพ
และความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐประกอบด้วย ๑.๒ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่เห็นว่า ๑.๒.๑ นิยามคำว่า ผู้จ้างทำงาน
ควรคำนึงถึงความสอดคล้องกับมาตรา ๕๓๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เนื่องจากเป็นการจ้างแรงงานเช่นเดียวกันและควรเพิ่มเติมนิยามของผู้ส่งมอบงานไว้ในร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ๑.๒.๒ หมวด ๒ มาตรา ๙ - มาตรา ๑๘
ควรเพิ่มการอำนวยความสะดวกในการประกอบอาชีพและออกใบรับรองมาตรฐานอาชีพ เช่น
การอบรมออนไลน์ที่ได้รับใบประกาศนียบัตรสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ หมวด ๓ มาตรา ๔๑
- มาตรา ๔๔ ควรกำหนดให้การยื่นคำร้องและการพิจารณาคำร้อง
ควรให้สามารถนผ่านทางออนไลน์เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการบริการ ๑.๓ กระทรวงคมนาคมที่เห็นว่า ตามร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ พ.ศ. .... หมวด ๔ กำหนดให้กองทุนส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบประกอบด้วยเงินและทรัพย์สินตามที่กำหนดไว้ในร่างมาตรา ๓๑ และเงินของกองทุนให้ใช้จ่ายเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในร่างมาตรา ๓๒ ซึ่งเมื่อพิจารณาแหล่งที่มาและค่าใช้จ่ายสำหรับเงินของกองทุนแล้ว กรณีอาจก่อให้เกิดปัญหาสภาพคล่องในการบริหารกองทุนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ได้ ๑.๔ กระทรวงพาณิชย์ที่เห็นว่า การจัดตั้งกองทุน
โดยแหล่งรายได้มาจากเงินค่าสมาชิกอาจเป็นภาระแก่แรงงานนอกระบบได้
และทำให้ต้องใช้เงินอุดหนุนจากรัฐบาลเป็นรายได้หลัก
อาจเป็นภาระต่องบประมาณภาครัฐในระยะยาวต่อไป
และร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีความจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้องในทุกมิติ
ดังนั้น ควรมีการศึกษาและจัดทำกฎหมายลำดับรองคู่ขนานกันไป เพื่อให้การบังคับใช้ร่างพระราชบัญญัติฯ
มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกภาคส่วนทั้งผู้ประกอบการและแรงงาน ๑.๕ สำนักงบประมาณที่เห็นว่า สำหรับการพิจารณาจะจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ
กระทรวงแรงงานจะต้องดำเนินการตามมาตรา ๑๔ ของพระราชบัญญัติการบริหารทุนหมุนเวียน
พ.ศ. ๒๕๕๘ และมาตรา ๖๓ ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
และเป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ๑.๖ สำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นว่า ๑.๖.๑ การกำหนดให้สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงานทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบแห่งชาตินั้น
เห็นควรกำหนดให้สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงานรับผิดชอบงานเลขานุการของคณะกรรมการดังกล่าวเพื่อปฏิบัติภารกิจสนับสนุนการดำเนินการของคณะกรรมการตามกฎหมายนี้ ๑.๖.๒ เห็นควรกำหนดให้สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงานทำหน้าที่เป็นหน่วยงานเลขานุการของคณะกรรมการบริหารกองทุนแทนการจัดตั้งสำนักงานบริหารกองทุนส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบขึ้นใหม่
เพื่อให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕o เรื่อง การซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดตั้งหน่วยงานของรัฐ ๑.๗ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เห็นว่า ๑.๗.๑ มีการใช้ระบบคณะกรรมการโดยไม่จำเป็นทั้งในระดับชาติและระดับจังหวัดเนื่องจากภารกิจตามร่างกฎหมายนี้เป็นภารกิจหลักของกระทรวงแรงงานอยู่แล้ว
สมควรกำหนดให้เป็นภารกิจของกระทรวงแรงงาน เพื่อให้การขับเคลื่อนมีประสิทธิภาพ
หากประสงค์จะบูรณาการกับหน่วยงานอื่น อาจดำเนินการในรูปคณะกรรมการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีและการจัดตั้งกองทุนควรดำเนินการตามกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก่อน ๑.๗.๒ การรับส่งเอกสาร
คำขอ คำสั่งต่าง ๆ สมควรให้ดำเนินการโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้เพื่อความสะดวกรวดเร็วและเพื่อประโยชน์ในการจัดทำฐานข้อมูลแรงงานนอกระบบ ๑.๗.๓ การจัดตั้งองค์กรแรงงานนอกระบบเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้วไม่ต้องบัญญัติไว้ ๑.๗.๔ มาตรา
๑๖ และมาตรา ๑๗ ไม่จำเป็นต้องบัญญัติไว้
เป็นการบูรณาการทำงานของหน่วยงานของรัฐตามปกติ ส่วนมาตรา ๑๗
เป็นอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอยู่แล้ว
รวมทั้งควรใช้โทษทางอาญาเพียงเท่าที่จำเป็นและควรเน้นการส่งเสริมมากกว่าการควบคุม ๑.๘ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
ในส่วนของการกู้ยืมเงินกองทุนส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบเพื่อสนับสนุนการประกอบอาชีพนั้น
ควรมีการกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการกู้ยืมให้สอดคล้องกับความต้องการ
และลักษณะการทำงานของแรงงานนอกระบบแต่ละประเภท แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ทั้งนี้
หากกระทรวงแรงงานมีความจำเป็นต้องจัดตั้งสำนักงานบริหารกองทุนส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ
เพื่อให้การบริหารกิจการของกองทุนส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบบรรลุวัตถุประสงค์และก่อให้เกิดประโยชน์แก่กิจการแรงงานนอกระบบยิ่งขึ้น
กระทรวงแรงงานจะต้องดำเนินการจัดตั้งสำนักงานให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๐ (เรื่อง
การซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดตั้งหน่วยงานของรัฐ) แล้วส่งผลการพิจารณาให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบการตรวจพิจารณาต่อไป ๒. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ ๒.๑ กระทรวงการคลังที่เห็นว่า การสร้างหลักประกันทางสังคมสำหรับแรงงานนอกระบบควรพิจารณาการบูรณาการร่วมกับระบบหลักประกันทางสังคมที่ดำเนินการอยู่แล้วในปัจจุบัน
ได้แก่ กองทุนการออมแห่งชาติ ผู้ประกันตนตามมาตรา ๓๙ และมาตรา ๔๐ แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม
พ.ศ. ๒๕๓๑ ๒.๒ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่เห็นว่า ๒.๒.๑ การจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบจังหวัดขึ้นในสำนักงานแรงงานจังหวัดทุกจังหวัดจะต้องพิจารณาข้อจำกัดที่แตกต่างในเชิงโครงสร้างของสถานที่ ๒.๒.๒ ควรมีการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมถึงการคุ้มครองและการเข้าถึงสิทธิในด้านต่าง
ๆ เช่น การเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร การแนะนำและให้คำปรึกษาเพื่อส่งเสริมการมีงานทำ การอบรมพัฒนาทักษะทางด้านอาชีพของแรงงานนอกระบบโดยไม่เลือกปฏิบัติและตระหนักในสิทธิมนุษยชน
เพื่อลดความเหลื่อมล้ำสร้างความเป็นธรรมและเท่าเทียมในทุกมิติครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
ควรมีการรณรงค์การสร้างหลักประกันด้านรายได้ให้แก่แรงงานนอกระบบ
เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็นผู้สูงอายุ
โดยควรรณรงค์ให้มีการเตรียมความพร้อมเรื่องการออมตั้งแต่อยู่ในวัยทำงานเพื่อให้เงินออมเป็นแหล่งรายได้ที่ยั่งยืนในวัยสูงอายุ ๒.๓ กระทรวงคมนาคมที่เห็นว่า หน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ต้องให้การสนับสนุนการดำเนินการต่าง
ๆ ของภาครัฐ โดยการพิจารณาให้การสนับสนุนใด ๆ
ตามร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ พ.ศ. .... มาตรา
๑๕ (๓) นั้น จะต้องคำนึงถึงบริบท ความพร้อมและความสามารถภายใต้ความเหมาะสมและสภาพแวดล้อมในขณะนั้นประกอบด้วย ๒.๔ สำนักงบประมาณที่เห็นว่า กระทรวงแรงงานควรคำนึงถึงการบูรณาการเรื่องแรงงานนอกระบบในทุกมิติของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
ทั้งภายใต้หน่วยงานการกำกับของกระทรวงแรงงนและภายนอกที่มีอยู่ในปัจจุบันอย่างรอบคอบ
เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนของภารกิจ รวมถึงกรณีจะให้มีกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริม
การพัฒนาคุณภาพชีวิต และคุ้มครองแรงงานนอกระบบในครั้งนี้
และจะส่งผลต่อภาระงบประมาณนั้น
จะต้องคำนึงถึงความจำเป็นและภารกิจของหน่วยงานที่มีอยู่ก่อนเป็นลำดับแรก ตลอดจนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
และฐานะของแหล่งเงินนอกงบประมาณที่สามารถใช้จ่ายได้ ๒.๕ สำนักงาน ก.พ. ที่เห็นว่า ควรให้ความสำคัญกับระบบฐานข้อมูลกลุ่มแรงงานนอกระบบที่ถูกต้อง
ครบถ้วน และครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อให้กลุ่มแรงงานนอกระบบได้รับประโยชน์อย่างสูงสุดและการดำเนินการบรรลุผลตามเจตนารมณ์ของกฎหมายดังกล่าว ๒.๖ สำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นว่า ควรมีการทบทวนความจำเป็นในการคงอยู่ของคณะกรรมการบริหารจัดการแรงงานนอกระบบแห่งชาติและอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องที่จัดตั้งไว้
เพื่อให้มีจำนวนคณะกรรมการเท่าที่จำเป็นและไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในการดำเนินการของคณะกรรมการที่มีอยู่เดิม ๒.๗ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
ในขั้นตอนการจัดทำกฎหมายลำดับรอง เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายในการส่งเสริม
การพัฒนาคุณภาพชีวิต และการคุ้มครองแรงงานนอกระบบ
ในเรื่องการขึ้นทะเบียนแรงงานนอกระบบ ควรเพิ่มช่องทางการขึ้นทะเบียนให้มีความสะดวก
และสอดรับกับรูปแบบการทำงานที่หลากหลาย อาทิ การขึ้นทะเบียนผ่านระบบออนไลน์
การกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยขึ้นทะเบียนในระดับพื้นที่ ๓. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7464 | การต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของเอกอัครราชทูต (นายพิษณุ สุวรรณะชฎ และนายปัญญรักษ์ พูลทรัพย์) | กต. | 28/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ จำนวน ๒
ราย ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.
นายพิษณุ
สุวรรณะชฎ ตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน
สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งจะดำรงตำแหน่งดังกล่าวครบการต่อเวลา
๑ ปี ในวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ (ครั้งที่ ๑)
และจะต่อเวลาการดำรงตำแหน่งดังกล่าวต่อไปอีก ตั้งแต่วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ (ครั้งที่ ๒) ทั้งนี้ นายพิษณุ ฯ
จะเกษียณอายุราชการวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๕ ๒.
นายปัญญรักษ์
พูลทรัพย์ ตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ
ราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งจะดำรงตำแหน่งดังกล่าวครบ ๔ ปี ในวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๕
และจะต่อเวลาการดำรงตำแหน่งดังกล่าวต่อไปอีก ตั้งแต่วันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๖๕
ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ (ครั้งที่ ๑) ทั้งนี้ นายปัญญรักษ์ ฯ จะเกษียณอายุราชการวันที่
๑ ตุลาคม ๒๕๖๕
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7465 | การแต่งตั้งคณะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (1. พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล ฯลฯ รวม 6 คน) | นร.08 | 28/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
รวม ๖ คน ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.
พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม
ประธานกรรมการ ๒.
พลเอก พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ กรรมการ
(ด้านความมั่นคง) ๓.
นายปณิธาน วัฒนายากร กรรมการ
(ด้านการต่างประเทศ) ๔.
นายการุณ สกุลประดิษฐ์ กรรมการ
(ด้านการศึกษา) ๕.
นายเชื่อง ชาตอริยะกุล กรรมการ
(ด้านเศรษฐกิจ) ๖.
นายดลเดช พัฒนรัฐ กรรมการ
(ด้านสังคมพหุวัฒนธรรม)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7466 | ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | ลต. | 28/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญประกอบด้วย แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามของคำว่าเขตเลือกตั้ง
โดยหมายความว่าท้องที่ที่กำหนดเป็นเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งหรือแบบบัญชีรายชื่อ
แล้วแต่กรณี (มาตรา ๓)
แก้ไขเพิ่มเติมให้พรรคการเมืองต้องส่งผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้งแล้วจึงมีสิทธิส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ
และต้องกำหนดให้ส่งบัญชีรายชื่อดังกล่าวก่อนปิดการรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง
โดยกำหนดวันที่พรรคการเมืองจะส่งบัญชีรายชื่อผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อไม่น้อยกว่า ๓
วัน (มาตรา ๕) เป็นต้น และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมให้คณะกรรมการสรรหาจัดทำบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อไม่เกินหนึ่งร้อยรายชื่อ
(มาตรา ๓) และแก้ไขเพิ่มเติมให้สมาชิกลงคะแนนเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อได้คนละไม่เกินสิบรายชื่อ
(มาตรา ๓) รวม ๒ ฉบับ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอรัฐสภาต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ ๓. ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7467 | การให้ความเห็นชอบแต่งตั้งบุคคลเพื่อเข้าดำรงตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (Chief Executive Officer, CEO) ขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย | พน. | 28/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง Datuk Joseph Podtung ที่รัฐบาลมาเลเซียเสนอให้เข้าดำรงตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร
(Chief Executive Officer, CEO) ขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย แทนตำแหน่งที่ว่าง
โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งเท่ากับระยะเวลาเดิมที่เหลืออยู่
(เมื่อได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลทั้งสองแล้ว ให้นับวันที่องค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ทำการแต่งตั้งจนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗)
ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7468 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายสิปป์บวร แก้วงาม) | พศ. | 28/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสิปป์บวร แก้วงาม ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายอนุชา นาคาศัย) เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7469 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายโอภาส ทองยงค์ ฯลฯ จำนวน 9 ราย) | กษ. | 28/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๙ ราย เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียน
และทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑. นายโอภาส ทองยงค์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ๓. นายสุรเดช สมิเปรม ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายขจร เราประเสริฐ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นางกุลฤดี พัฒนะอิ่ม ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นายวิชัย ไตรสุรัตน์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๗. นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๘. นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมประมง ๙. นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการข้าว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7470 | แผนงาน/โครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พุทธศักราช 2564 ให้แก่ประชาชน | กห. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแผนงาน/โครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่
พุทธศักราช ๒๕๖๕ ให้แก่ประชาชน ตามโครงการ “เติมความสุขให้คนไทย
ตามแนวทางวิถีชีวิตใหม่ จากใจทหาร”
ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมที่ดำเนินการในห้วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ ๒๙ ธันวาคม
๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๕ และกิจกรรมที่จะดำเนินการตลอดห้วงปีพุทธศักราช ๒๕๖๕
โดยนำศักยภาพของหน่วยทหารในแต่ละพื้นที่มาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน อาทิ
การสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
การสนับสนุนมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไสรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด 19)
การจัดตั้งจุดบริการช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยว
การให้บริการและอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่
การเปิดแหล่งท่องเที่ยวและพิพิธภัณฑ์ในเขตทหารทั่วประเทศ
การจัดตั้งจุดบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19
การเปิดพื้นที่หน่วยทหารจำหน่ายสินค้าราคาถูกและรองรับผลผลิตของเกษตรกร
การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง
จะมีการดำเนินการตามมาตรการป้องกันและสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดน
ตลอดจนรณรงค์มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7471 | ของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชน ประจำปี พ.ศ. 2565 ของกระทรวงพลังงาน | พน. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการมอบของขวัญปีใหม่ สำหรับประชาชน ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๕
ซึ่งกระทรวงพลังงานได้ลดและตรึงราคาพลังงาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ลดค่าใช้จ่าย
และลดต้นทุนค่าครองชีพของประชาชน และแจกคูปองส่วนลดสำหรับซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าเบอร์ ๕
และสินค้าชุมชน ได้แก่ ตรึงราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ราคาน้ำมันทุกชนิด
และคงราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติ แจกคูปองส่วนลดร้อยละ ๕๐ สำหรับซื้อสินค้าชุมชน
แจกคูปองส่วนลดสำหรับที่พักเขื่อนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นต้น
ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7472 | การจัดทำโครงการของขวัญปีใหม่ของกระทรวงมหาดไทยเพื่อมอบให้ประชาชน ประจำปี พ.ศ. 2565 | มท. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการดำเนินงานโครงการของขวัญปีใหม่ของกระทรวงมหาดไทยเพื่อมอบให้ประชาชน
ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ภายใต้แนวคิด “๑๓๐ ปี มหาดไทย ส่งสุข
คลายทุกข์ให้ประชาชนรับปีใหม่ ๒๕๖๕” ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการขับเคลื่อนภารกิจสำคัญตามบทบาทภารกิจของกระทรวงมหาดไทยในการ
“บำบัดทุกข์” และ “บำรุงสุข” เพื่อส่งความสุขรับปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๕ สู่ประชาชน
รวมทั้งสิ้น ๑๒ โครงการ ดังนี้ (๑) ด้านเศรษฐกิจ จำนวน ๕ โครงการ ได้แก่
สถานธนานุบาลทั่วไทย พร้อมใจลดอัตราดอกเบี้ย เชฟชุมชน... เรียนฟรีมีทุนให้
ติดมิเตอร์ใหม่ ลดราคา การประปาฯ จัดให้ มหานครสดใส ชาร์จไฟกับการไฟฟ้านครหลวง
ของถูก ขายฟรี ของดี พาส่งออก (๒) ด้านพัฒนาบริการดิจิทัล จำนวน ๔ โครงการ ได้แก่
“DOPA Citizen Service” บริการวิถี.. ใหม่ ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว คนกรุงสบาย
จดทะเบียนที่ดินออนไลน์ใกล้บ้าน Click ชุมชน...เรียนรู้ ดู
เที่ยว ทั่วไทย ผังเมือง delivery และ (๓)
ด้านพัฒนาคุณภาพชีวิต จำนวน ๓ โครงการ ได้แก่ มหาดไทยสูบส่งน้ำ ส่งสุขคลายทุกข์
คลายแล้ง ขยายเขต ๑๐ วันทันใจกับการไฟฟ้าภูมิภาค สนามปันสุข ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7473 | การดำเนินโครงการของกระทรวงวัฒนธรรม "ส่งสุขวิถีใหม่ สืบสานวิถีไทย ปลอดภัยสร้างสรรค์" เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2565 | วธ. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินโครงการของกระทรวงวัฒนธรรม “ส่งสุขวิถีใหม่
สืบสานวิถีไทย ปลอดภัยสร้างสรรค์” เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๕
ให้แก่ประชาชน ประกอบด้วย ๓ กิจกรรมหลัก ได้แก่ (๑)
กิจกรรมทางศาสนาเสริมสร้างความเป็นสิริมงคล (๒)
กิจกรรมเยี่ยมชมแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ทางศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ และ
(๓) กิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรม ส่งความสุขแบบไทย ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7474 | สรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 6 (ระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 30 กันยายน 2564) | นร.04 | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ครั้งที่ ๖ (ระหว่างวันที่ ๑ มกราคม-๓๐ กันยายน
๒๕๖๔) สรุปได้ ดังนี้ (๑) ผลการดำเนินงานตามนโยบายหลัก ๑๒ ด้าน เช่น
การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ การสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศและความสงบสุขของประเทศ
การสร้างบทบาทของไทยในเวทีโลก
การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย
การปฏิรูปการบริหารจัดการภาครัฐ การป้องกัน
ปราบปรามทุจริตและประพฤติมิชอบและกระบวนการยุติธรรม และ (๒) นโยบายเร่งด่วน ๑๒
เรื่อง เช่น การแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตของประชาชน
การปรับปรุงระบบสวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน การยกระดับศักยภาพแรงงาน
การวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคต
การแก้ไขปัญหายาเสพติดและสร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เป็นต้น ตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7475 | ของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชนและผู้ประกอบการ พ.ศ. 2565 ของกระทรวงอุตสาหกรรม | อก. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชนและผู้ประกอบการ พ.ศ. ๒๕๖๕
ของกระทรวงอุตสาหกรรม
เพื่อให้ประชาชนและผู้ประกอบการได้รับทราบการจัดโครงการ/กิจกรรมที่กระทรวงอุตสาหกรรมจัดทำขึ้นเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่
พ.ศ. ๒๕๖๕ ได้แก่ (๑) การอำนวยความสะดวก ลดต้นทุนของผู้ประกอบการ (๒) การเสริมสภาพคล่องการดำเนินธุรกิจ
และ (๓) การยกระดับผู้ประกอบการ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7476 | ของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2565 ให้แก่ประชาชน | นร.12 | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแผนงาน/โครงการที่ได้ดำเนินการเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่
พ.ศ. ๒๕๖๕ ให้แก่ประชาชนในหัวข้อ “e-Service ภาครัฐฉับไว ส่งความสุขทั่วไทย เพื่อคนไทยทุกคน”
รวม ๓๒๕ งานบริการ โดยจัดทำแค็ตตาล็อกที่ประชาชนสามารถสแกน QR Code หรือกดลิงค์เพื่อเข้าใช้บริการผ่านระบบออนไลน์ได้ทันที ตามที่สำนักงาน
ก.พ.ร. เสนอ ดังนี้ ๑.
กลุ่มงานบริการสำหรับประชาชน ๙ ประเภท รวม ๑๓๑ งานบริการ ได้แก่ (๑) ขนส่ง คมนาคม
และการเดินทาง (๒) ประกันสังคม และสวัสดิการภาครัฐ (๓) ที่ดิน ภาษี และธนาคาร (๔)
สาธารณูปโภค (๕) การเกษตรและสิ่งแวดล้อม (๖) การทำงานและส่งเสริมอาชีพ (๗) การสอบ
การศึกษา และการฝึกอบรม (๘) ทะเบียนราษฎร และตรวจสอบข้อมูล และ (๙) สุขภาพ ๒.
กลุ่มงานบริการสำหรับผู้ประกอบการ ๔ ประเภท รวม ๑๙๔ งานบริการ โดยจะคัดเลือกงานบริการที่มีความโดดเด่นจาก
e-Service
Catalog ดังกล่าว ประกอบด้วย (๑) One Hour Service งานบริการ e-Services
ของรัฐที่ให้บริการแล้วเสร็จในทันทีโดยระบบอัตโนมัติหรือภายในเวลา ๑ ชั่วโมง (๒) One
Day Services งานบริการ e-Service ของรัฐที่ให้บริการแล้วเสร็จภายในเวลา ๑ วัน (๓) One ID Services งานบริการ e-Service
ของรัฐที่ประชาชนสามารถใช้บริการ
โดยใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวหรือเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก
เป็นหลักฐานในการยืนยันตัวตนและขอใช้บริการ
โดยไม่เรียกสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและเอกสารอื่น ๆ เพิ่มเติม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7477 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ | กค. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....)
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนหรือผู้มีหน้าที่ออกใบรับสามารถดำเนินการจัดทำ
ส่ง รับ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีหรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ตามประมวลรัษฎากร
ด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่เห็นควรปรับปรุงถ้อยคำเพื่อให้เกิดความชัดเจนในวัตถุประสงค์ของการระบุตัวเจ้าของลายมือชื่อที่เชื่อมโยงไปถึงใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์
การส่งมอบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการส่งและรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
และการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข หรือคุณสมบัติของระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวสามารถรับรองความมีอยู่ของข้อมูล
ณ
ขณะที่มีการส่งข้อมูลเพื่อป้องกันมิให้เกิดข้อโต้แย้งว่าข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขภายหลังจากการที่ได้มีการส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบ
ก่อนจะมีการรับรองความมีอยู่ของข้อมูลนั้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์
ที่ควรให้ความสำคัญกับระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเพื่อป้องกันการปลอมแปลงหรือแก้ไขข้อมูลในใบกำกับภาษีและใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7478 | การดำเนินโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2565 ให้แก่ประชาชน | นร16 | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการของขวัญปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๕ ให้แก่ประชาชน ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
ซี่งได้ดำเนินโครงการ/กิจกรรมที่สำคัญ ได้แก่ (๑) โครงการเร่งรัดการดำเนินงานกลั่นกรองผลการอ่านภาพถ่ายทางอากาศ
เพื่อประกอบการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐ (๒) การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7479 | ผลการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ด้วยระบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ | กห. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (ASEAN Defence Ministers’ Meeting Retreat : ADMM Retreat) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง
ด้วยระบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่
๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
ซึ่งมีกระทรวงกลาโหมเนการาบรูไนดารุสซาลามเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี
(พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) เป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุม ADMM Retreat โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่
(๑) การประชุม ADMM Retreat (๒) การประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน+๑
อย่างไม่เป็นทางการ และ (๓) การส่งมอบตำแหน่งประธานการประชุม ADMM ในปี ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7480 | ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค ครั้งที่ 28 | กค. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค
ครั้งที่ ๒๘ และถ้อยแถลงร่วมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค ครั้งที่ ๒๘
เมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๔ ผ่านระบบการประชุมทางไกล
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย
ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนิวซีแลนด์ (นาย Grant Robertson) เป็นประธาน
พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้แทนระดับสูงจากประเทศสมาชิกเอเปคทั้ง
๒๑ เขตเศรษฐกิจ ผู้แทนจากองค์กรระหว่างประเทศ เข้าร่วมการประชุม และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังร่วมรับรองร่างถ้อยแถลงร่วมฯ
สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ (๑) ผลการประชุมฯ ครั้งที่ ๒๘ มีการหารือที่สำคัญ เช่น
การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การรับมือกับโควิด-๑๙
เพื่อการฟื้นตัวอย่างยั่งยืนและครอบคลุม ที่ประชุมสนับสนุนให้ดำเนินนโยบายการเงิน
การคลัง เพื่อรับมือกับผลกระทบของโควิด-๑๙
การใช้นโยบายการคลังและการบริหารงบประมาณเพื่อรับมือกับความท้าทาย
ที่ประชุมได้เน้นย้ำถึงบทบาทของการดำเนินนโยบายการคลังและการบริหารงบประมาณในการรับมือกับโควิด-๑๙
ที่ประชุมได้รับรองแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการเซบูฉบับใหม่
ซึ่งได้นำวิสัยทัศน์ปุตราจายา ค.ศ. ๒๐๔๐ และมาตรการรองรับสถานการณ์ของโควิด-๑๙ มาเป็นปัจจัยในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการเซบูฉบับใหม่ และ (๒) ถ้อยแถลงร่วมฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้รับรองร่างถ้อยแถลงร่วมฯ
ของการประชุมฯ ครั้งที่ ๒๘ โดยมีการปรับปรุงถ้อยคำ
เพื่อให้มีความเหมาะสมและสะท้อนข้อเท็จจริงมากขึ้น โดยไม่กระทบสาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบ
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|