ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 379 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 7561 - 7580 จากข้อมูลทั้งหมด 124009 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
7561 | การจัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2564 | นร.04 | 25/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเลื่อนวันประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๔ ณ จังหวัดกระบี่ พื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน
(กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล) จากเดิม ระหว่างวันที่ ๘-๙ พฤศจิกายน
๒๕๖๔ เป็น ระหว่างวันที่ ๑๕-๑๖ พฤศจิกายน
๒๕๖๔ โดยวันจันทร์ที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
จะเป็นการตรวจราชการของนายกรัฐมนตรี และวันอังคารที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ จะเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรี
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7562 | ข้อกำหนดและคำสั่งที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 รวม 3 ฉบับ | นร.05 | 25/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
พ.ศ. ๒๕๔๘ รวม ๓ ฉบับ ดังนี้ ๑. ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา
๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๓๖) ลงวันที่
๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ มีสาระสำคัญให้มีการกำหนดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว (Sansbox) ตามคำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) (ศบค.) โดยพิจารณาถึงความเหมาะสม ความพร้อม
และบริบทของแต่ละพื้นที่ การกำหนดมาตรการควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่ดังกล่าว เช่น
การยกเลิกการห้ามออกเคหสถาน โดยให้มีผลตั้งแต่เวลา ๒๓.๐๐ น. ของวันที่ ๓๑ ตุลาคม
๒๕๖๔ การห้ามจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่าห้าร้อยคน
การเตรียมความพร้อมของสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค
โดยยังคงปิดสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ และคาราโอเกะ เป็นต้น
ตลอดจนพิจารณาปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยภายในเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวและการกำหนดมาตรการเพิ่มเติมของแต่ละจังหวัด
รวมทั้งกำหนดผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจควบคู่กับความมั่นคงด้านสาธารณสุขตามแผนการเปิดประเทศของรัฐบาล ๒.
คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
ที่ ๑๗/๒๕๖๔ เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙
แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๑๗)
ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร
เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจควบคู่กับความมั่นคงด้านสาธารณสุขตามแผนการเปิดประเทศของรัฐบาล ได้แก่ มาตรการก่อนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร
เช่น
การอยู่ในประเทศ/พื้นที่ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการมาตรการเดินทางเข้าออกประเทศและการดูแลคนไทยในต่างประเทศ
อนุมัติไม่น้อยกว่า ๒๑ วัน ก่อนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร
มีหนังสือรับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ (Certificate of Entry-COE) เป็นต้น มาตรการเมื่อเดินทางมาถึง/ระหว่างอยู่ในราชอาณาจักร เช่น
การเข้ารับการตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR
จำนวน ๑ ครั้ง การตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (ATK) จำนวน ๑ ครั้ง เป็นต้น และมาตรการก่อนเดินทางออกจากราชอาณาจักร
โดยการเข้ารับการตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR กรณีประเทศ/พื้นที่ปลายทางกำหนด ๓. คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) ที่ ๑๘/๒๕๖๔ เรื่อง พื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา
๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม
๒๕๖๔ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งสิ้น ๑๗
จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดกระบี่ จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต เป็นต้น
เพื่อให้การบริหารจัดการและเตรียมความพร้อมในการป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 ตามแนวทางการจัดเขตพื้นที่สถานการณ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7563 | การแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีถุงมือยางทางการแพทย์ใช้แล้วจากประเทศไทยถูกส่งไปสหรัฐอเมริกา | นร.04 | 25/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วเห็นว่า
จากกรณีที่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN) ของสหรัฐอเมริกาได้นำเสนอรายงานการสืบสวนว่ามีการนำเข้าถุงมือยางทางการแพทย์ที่ผ่านการใช้งานแล้วแต่ถูกนำมาย้อมสีให้ดูเป็นของใหม่แล้วส่งไปจำหน่ายยังสหรัฐอเมริกา
โดยแหล่งผลิตถุงมือยางที่ไม่ได้มาตรฐานดังกล่าวเป็นโรงงานหลายแห่งที่ตั้งอยู่รอบ ๆ
กรุงเทพมหานคร และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-กรกฎาคม ๒๕๖๔ ที่ผ่านมา
คาดว่าได้มีการส่งถุงมือยางใช้แล้วดังกล่าวเข้าไปยังสหรัฐอเมริกาแล้วหลายสิบล้านชิ้น
ข่าวดังกล่าวสร้างความเสื่อมเสียให้แก่การส่งออกสินค้าของประเทศไทยเป็นอย่างมาก
คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้เร่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่อง
และดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน โดยให้ประสานงานกับหน่วยงานต่าง
ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
และในกรณีที่พบการกระทำผิดให้เร่งดำเนินการทางกฎหมายแก่ผู้กระทำผิดอย่างเคร่งครัด
แล้วให้รายงานผลให้นายกรัฐมนตรีทราบโดยด่วนด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7564 | โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2564/65 และมาตรการคู่ขนานโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2564/65 | พณ. | 25/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7565 | โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง และมาตรการคู่ขนาน | พณ. | 25/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7566 | ผลการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดระบบศูนย์ราชการ ครั้งที่ 1/2564 | นร.11 สศช | 25/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. รับทราบ เห็นชอบ
และอนุมัติตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการอำนวยการจัดระบบศูนย์ราชการ (กศร.) เสนอ ๑.๑ รับทราบผลการประชุม
กศร. ครั้งที่ ๑/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ๑.๒ เห็นชอบผลการพิจารณาของ
กศร. ที่ได้มีมติที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาแนวทางการปรับปรุงกลไกการดำเนินงานของ
กศร. การพิจารณาแผนการใช้ที่ดิน และผังแม่บทศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย
ดังนี้ ๑.๒.๑ อนุมัติให้ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการอำนวยการจัดระบบศูนย์ราชการ
พ.ศ. ๒๕๓๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ
แล้วปรับปรุงเป็นคำสั่งหรือประกาศระดับกระทรวงแทน และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการปรับปรุงเป็นคำสั่งหรือประกาศในระดับกระทรวงที่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นองค์ประกอบ
ซึ่งจะทำให้การขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์ในอสังหาริมทรัพย์ของรัฐและการบริหารจัดการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เกิดความคล่องตัวในการดำเนินงาน สอดคล้องต่อภารกิจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และยังคงมีการถ่วงดุลในการพิจารณาการจัดระบบศูนย์ราชการ ๑.๒.๒
อนุมัติในหลักการแผนการใช้ที่ดินและผังแม่บทศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย ตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณาสถานที่ทำงานของหน่วยงานราชการในเขตกรุงเทพมหานครและเมืองหลักเสนอ
ทั้งนี้
เพื่อให้การดำเนินการในระยะต่อไปเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงเห็นควรมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการปรับแผนการดำเนินโครงการก่อสร้างศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่
ให้สอดคล้องกับแผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณ
และจัดทำรายละเอียดการดำเนินงานในระยะต่อไปให้ชัดเจน
พร้อมทั้งอนุมัติให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑
ธันวาคม ๒๕๕๐ เรื่อง หลักเกณฑ์การยกเลิกการเข้าใช้พื้นที่ศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร
ถนนแจ้งวัฒนะ เนื่องจากที่ทำการของกรมการพัฒนาชุมชนและกรมที่ดิน
ในปัจจุบันมีที่ตั้งอยู่ศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร พื้นที่โซนบี ถนนแจ้งวัฒนะ
เพื่อที่กรมธนารักษ์จะได้ดำเนินการจัดสรรพื้นที่ศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร
ถนนแจ้งวัฒนะ
และเร่งหาหน่วยงานอื่นที่มีความต้องการใช้พื้นที่มาทดแทนหน่วยงานที่ขอยกเลิกการใช้
เพื่อให้การใช้ประโยชน์พื้นที่ศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร ถนนแจ้งวัฒนะ
เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและคุ้มค่าต่อการลงทุนของภาครัฐ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7567 | ขอความเห็นชอบต่อเอกสารที่จะมีการรับรองในการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน ครั้งที่ 6 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ผ่านระบบการประชุมทางไกล | กก. | 25/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7568 | การขอความเห็นชอบต่อร่างแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคว่าด้วยการคุ้มครองเด็กจากการแสวงหาผลประโยชน์ในสื่อออนไลน์ในอาเซียน และร่างแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคว่าด้วยการอนุวัติการปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยสิทธิของเด็กในบริบทของการโยกย้ายถิ่นฐาน | พม. | 25/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคว่าด้วยการคุ้มครองเด็กจากการแสวงหาผลประโยชน์ในสื่อออนไลน์ในอาเซียน
(Regional Plan of Action for the Protection of Children from All
Forms of Online Exploitation and Abuse in ASEAN) และร่างแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคว่าด้วยการอนุวัติการปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยสิทธิของเด็กในบริบทของการโยกย้ายถิ่นฐาน
(Regional Plan of Action on Implementing the ASEAN Declaration on the
Rights of Children in the Context of Migration) และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ในฐานะรัฐมนตรีอาเซียนที่รับผิดชอบด้านสวัสดิการสังคมและการพัฒนา (AMMSWD
Minister) ของประเทศไทย
มีหนังสือแจ้งความเห็นชอบต่อร่างแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคทั้ง ๒ ฉบับ ไปยังประเทศบรูไนดารุสซาลาม
ในฐานะประธานอาเซียน ในโอกาสแรก ภายหลังจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแล้ว
ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคทั้ง ๒ ฉบับ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7569 | สรุปผลการประชุม The 8th ASEAN Ministerial Meeting on Minerals: The 8th AMMin และการประชุมที่เกี่ยวข้อง | อก. | 25/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7570 | โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 พร้อมมาตรการคู่ขนานและโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 | พณ. | 25/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7571 | การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท สมัยที่ 4 ในรูปแบบออนไลน์ | ทส. | 25/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
ดังนี้ ๑. รับทราบองค์ประกอบคณะผู้แทนไทยสำหรับการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท
สมัยที่ ๔ ระหว่างวันที่ ๑-๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ในรูปแบบออนไลน์
โดยมีอธิบดีกรมควบคุมมลพิษเป็นหัวหน้าคณะผู้แทน ๒.
เห็นชอบต่อกรอบเจรจา และท่าทีของประเทศไทย สำหรับการประชุมฯ มีสาระสำคัญ (๑)
สนับสนุนการดำเนินงานให้เป็นไปตามหลักการของอนุสัญญาฯ
ในการปกป้องสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมจากการปลดปล่อยปรอทและสารประกอบปรอทสู่บรรยากาศและสู่ดินหรือน้ำ
(๒)
คำนึงถึงความต้องการของประเทศกำลังพัฒนาในการจัดการสารเคมีผ่านการให้ความช่วยเหลือด้านต่าง
ๆ และ (๓) คำนึงถึงขีดความสามารถของแต่ละประเทศในการดำเนินการตามอนุสัญญาฯ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7572 | การโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่คู่สัญญาในการขายที่ราชพัสดุที่ตกเป็นของแผ่นดินตามคำพิพากษาของศาล | กค. | 25/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่คู่สัญญาในการขายที่ราชพัสดุที่ได้มาโดยคำพิพากษาของศาลให้ตกเป็นของแผ่นดิน
จำนวน ๑๑๕ ราย ๑๓๑ รายการ (๑๘๙ แปลง) ตามกฎกระทรวงการโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุที่มิใช่ที่ดินที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ
พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลัง (กรมธนารักษ์)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทยและสำนักงบประมาณ
ที่เห็นว่าจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน โดยคำนึงถึงความจำเป็น
เหมาะสม และประโยชน์ที่ทางราชการได้รับ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7573 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 25/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออก
การซื้อขาย การโอน และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน พ.ศ. ๒๕๕๐
เพื่อปรับปรุงบทบาทของผู้ที่เกี่ยวข้อง ขั้นตอนการออก การซื้อขาย การโอน
และการใช้เงินตามตราสารหนี้ให้ครอบคลุม
สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่เห็นว่าในการมอบหมายให้นิติบุคคลที่กระทรวงการคลังประกาศกำหนดทำหน้าที่เป็นผู้รับฝากตราสารหนี้ตามข้อ
๕ แห่งร่างกฎกระทรวงดังกล่าว และการรับฝากนั้น
มีลักษณะเป็นการประกอบการเป็นศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
นิติบุคคลนั้นต้องได้รับใบอนุญาตประกอบการเป็นศูนย์รับฝากหลักทรัพย์หรือเป็นการมอบหมายให้บริษัท
ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
ซึ่งสามารถดำเนินการได้โดยมิต้องได้รับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
พ.ศ. ๒๕๓๕ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7574 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ยุทธศาสตร์และข้อเสนอแนวทางในการจัดทำหลักสูตรอาชีวศึกษาฐานสมรรถนะ เพื่อรองรับโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) ของคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา | สว. | 25/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง ยุทธศาสตร์และข้อเสนอแนวทางในการจัดทำหลักสูตรอาชีวศึกษาฐานสมรรถนะ
เพื่อรองรับโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) ของคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา ซึ่งได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปได้
ดังนี้ (๑) โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ควรสรุปความต้องการกำลังคนให้ชัดเจน
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้มีการบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเกี่ยวกับการวางแผนผลิตและพัฒนากำลังคน
(๒) การกระจายอำนาจให้สถาบันอาชีวศึกษาในการพัฒนาหลักสูตร
มีการประเมินความพร้อมของสถานศึกษา อาชีวศึกษา ในการจัดการเรียนการสอน
มีแผนในการพัฒนาครูในการจัดการเรียนการสอน เปิดโอกาสให้สถาบันการอาชีวศึกษาและสถานศึกษาสามารถพัฒนาหลักสูตรใหม่หรือปรับปรุงหลักสูตรเดิมได้
ตลอดจนกำกับดูแลการดำเนินการให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษา (๓) การมีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรของกลุ่มอาชีพ
ภาคประกอบการและสถานประกอบการ
ได้ทำความร่วมมือและบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการจัดการศึกษา
ในหลักสูตรที่เป็นความต้องการของสถานประกอบการ และ (๔)
การจัดเตรียมกำลังคนเพื่อรองรับการลงทุนในโครงการฯ ในอนาคต
ซึ่งได้จัดการเรียนการสอนในระบบทั้งหลักสูตรระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง และหลักสูตรระยะสั้นฐานสมรรถนะ ซึ่งมีนโยบายและยุทธศาสตร์ในการพัฒนาอาชีวศึกษาสู่ความเป็นเลิศ
เพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนในสาขาที่เป็นความต้องการของประเทศตามนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐
พัฒนาผู้เรียนให้เกิดทักษะและสามารถนำองค์ความรู้ไปใช้ในการประกอบอาชีพได้หลังสำเร็จการศึกษา
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไปใน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7575 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ พ.ศ. .... | ดศ. | 25/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการควบคุมดูแลธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) ทราบก่อนการประกอบธุรกิจ
เพื่อรักษาความมั่นคงทางการเงินและการพาณิชย์
เพื่อประโยชน์ในการเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและยอมรับในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
รวมทั้งเพื่อป้องกันความเสียหายแก่สาธารณชนหรือประชาชนที่ใช้บริการ ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้พิจารณาอำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔
และประเด็นข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข
ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เช่น
ควรกำหนดการรองรับการให้บริการที่หลากหลายที่รวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัลที่ในปัจจุบันเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ
กำหนดให้ผู้ประกอบการบนแพลตฟอร์มดิจิทัลด้านสุขภาพ
ต้องขึ้นทะเบียนต่อหน่วยงานที่มีฐานอำนาจในการกำกับดูแลบริการด้านสุขภาพก่อนให้บริการ
รวมทั้ง
ถ้อยคำในร่างบทบัญญัติดังกล่าวอาจมีความไม่ชัดเจนว่าผู้ประกอบธุรกิจต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้หรือไม่
ควรให้มีการปรับปรุงร่างบทบัญญัติดังกล่าวให้มีความชัดเจนและสอดคล้องกับเจตนารมณ์ยิ่งขึ้น
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7576 | การเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากเรือ ภาคผนวก 5 ว่าด้วยกฎข้อบังคับสำหรับการป้องกันมลพิษจากขยะบนเรือ (MARPOL Annex V) | คค. | 25/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7577 | ร่างพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | คค. | 25/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย
โดยเพิ่มบทบัญญัติว่าด้วยการทิ้งขยะในทะเล
กำหนดมาตรการในการควบคุมการทิ้งขยะจากเรือและแท่นให้เป็นไปตามหลักมาตรฐานสากล
และให้เป็นไปตามพันธกรณีแห่งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากเรือ
ค.ศ. ๑๙๗๓ ภาคผนวก ๕ ว่าด้วยกฎข้อบังคับสำหรับการป้องกันมลพิษจากขยะบนเรือ (MARPOL Annex V Regulations for the Prevention of
Pollution by Garbage from Ships) อันเป็นการป้องกันมิให้เกิดมลพิษและคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทางทะเล
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7578 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล) | ยธ. | 25/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ)
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาสเพติด ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเฉพาะด้านนโยบายและการบริหารงานยุติธรรม
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7579 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นางโสภา เกียรตินิรชา ฯลฯ จำนวน 5 ราย) | รง. | 25/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงแรงงาน ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๕ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้ ๑. นางโสภา เกียรตินิรชา ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นางบุปผา พันธุ์เพ็ง ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นางดรุณี นิธิทวีกุล ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายอรเทพ อินทรสกุล ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7580 | วันหยุดราชการชดเชยและวันหยุดราชการประจำภาคกลางในเดือนตุลาคม 2564 | นร. | 19/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม)
ชี้แจงว่า ในช่วงวันที่ ๒๑-๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๔ จะเป็นวันหยุดราชการต่อเนื่องกันรวม ๔ วัน ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๓ (เรื่อง
การกำหนดวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ และการกำหนดวันหยุดราชการประจำภูมิภาค
รวมทั้งการเลื่อนวันหยุดชดเชยวันหยุดราชการ ประจำปี ๒๕๖๔
ที่เห็นชอบให้วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ เป็นวันหยุดราชการประจำภาคกลาง
(เทศกาลออกพรรษา) รวมทั้งให้เลื่อนวันหยุดชดเชยเนื่องในวันปิยมหาราชจากวันจันทร์ที่
๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๔ มาเป็นวันศุกร์ที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๔ ทั้งนี้ วันพฤหัสบดีที่ ๒๑
ตุลาคม ๒๕๖๔ ซึ่งเป็นวันหยุดราชการประจำภูมิภาคกลาง นั้น หมายถึง กรุงเทพมหานครและจังหวัดในภาคกลางรวม
๑๗ จังหวัด ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ
เรื่องการจัดตั้งกลุ่มจังหวัดและกำหนดจังหวัดที่เป็นศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่มจังหวัด
(ฉบับที่ ๓) ลงวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ สำหรับวันจันทร์ที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๔
เป็นวันเปิดทำการปกติ เพราะได้เลื่อนวันหยุดชดเชยวันปิยมหาราชไปเป็นวันศุกร์ที่ ๒๒
ตุลาคม ๒๕๖๔ แล้ว ทั้งนี้
นายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้เป็นวันประชุมคณะรัฐมนตรีตามที่เลื่อนมาจากวันอังคารที่
๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๔ ด้วย ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ชี้แจง
|