ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 376 จากทั้งหมด 6214 หน้า แสดงรายการที่ 7501 - 7520 จากข้อมูลทั้งหมด 124262 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
7501 | รายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2563 | พม. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบและเห็นชอบรายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. ๒๕๖๓
โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ผู้สูงอายุ การดำเนินงานด้านผู้สูงอายุในไทย
ผลกระทบของโควิด-๑๙ และมาตรการให้ความช่วยเหลือจากภาครัฐต่อผู้สูงอายุในไทย
สถานการณ์เด่นในรอบปี ๒๕๖๓ งานวิจัยเพื่อสังคมผู้สูงอายุ
รวมถึงข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสุขภาพ
ด้านข้อมูลข่าวสาร ด้านที่อยู่อาศัย ด้านบริการทางสังคมทั่วไป
และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนในเชิงนโยบายต่อไป
ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ๒.
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงคมนาคม กระทรวงแรงงาน
และกระทรวงสาธารณสุขที่เห็นควรพิจารณาเพิ่มเติมประเด็นผลกระทบจากโควิด-๑๙
ต่อผู้สูงอายุไทย ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวใน ๓ ประเด็น ได้แก่
การถดถอยลงของทักษะแรงงาน การกลายเป็นแรงงานนอกระบบ และปัญหาสุขภาพกายและสุขภาพจิต
ควรพิจารณาแนวทางการขับเคลื่อนมาตรการการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย
ควรพิจารณาเร่งสร้างหลักประกันทางเศรษฐกิจให้ผู้สูงอายุและครอบครัว
และพัฒนาระบบบำนาญแห่งชาติ ควรนำผลการศึกษาโครงการวิจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งข้อมูลการดำเนินงานของหน่วยงานประกอบเป็นข้อมูลการจัดทำรายงานในครั้งต่อไป
และควรมีการบูรณาการข้อมูลชองผู้สูงอายุระหว่างหน่วยงานที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลสถิติให้มีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7502 | ผลการนำเสนอรายงานทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของไทยตามกลไก Universal Periodic Review (UPR) รอบที่ 3 | กต. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบและเห็นชอบผลการนำเสนอรายงานทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของไทยตามกลไก
(รายงานประเทศฯ) Universal Periodic Review (UPR) รอบที่ ๓ และท่าทีของไทยต่อข้อเสนอแนะที่ได้รับจากการนำเสนอรายงานประเทศฯ
รวมทั้งแผนการดำเนินการต่อไป ซึ่งหัวหน้าคณะผู้แทนได้กล่าวถ้อยแถลงแสดงเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
พร้อมแจ้งเกี่ยวกับกระบวนการยกร่างรายงานประเทศฯ
ที่มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนจากทุกภาคในประเทศ
พัฒนาการด้านสิทธิมนุษยชนของไทยในด้านต่าง ๆ ในช่วง ๔ ปีครึ่งที่ผ่านมา พร้อมทั้งยืนยันความพยายามในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
และยึดมั่นต่อพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนของไทย และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศในการร่วมกันพิจารณาข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถแจ้งผลต่อคณะรัฐมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติภายในวันที่
๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ และร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อดำเนินการตามข้อเสนอแนะที่ไทยตอบรับต่อไป
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7503 | แผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2566 - 2569) | กค. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ ๒๕๖๖-๒๕๖๙) เพื่อให้หน่วยงานของรัฐนำไปใช้ในการประกอบการพิจารณาในการจัดเก็บหรือหารายได้
การจัดทำงบประมาณ และการก่อหนี้ของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐและกระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ควรให้ความสำคัญกับการกำหนดแนวทางการเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่อ GDP โดยการเร่งรัดการดำเนินการขยายฐานภาษีให้มีความครอบคลุมมากขึ้น
การปรับปรุงรายการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และการควบคุมสัดส่วนรายจ่ายต่อ GDP
โดยเฉพาะในส่วนของรายจ่ายประจำให้สอดคล้องกับความสามารถในการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล
รวมถึงการจัดลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายงบประมาณ โดยพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างภาษีให้สอดคล้องกับแนวโน้มการใช้ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์และสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะมีมากขึ้น
รวมถึงแนวโน้มการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่จะมีความสำคัญมากขึ้นในเวทีการค้าโลกในระยะต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7504 | การเสนอความเห็นการขอจัดตั้งทุนหมุนเวียนของคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน | กค. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบการเสนอความเห็นการขอจัดตั้งทุนหมุนเวียน ตามที่คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเสนอ
และให้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษารับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
ระบบการให้ทุนการศึกษาแทนการให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาสำหรับสาขาขาดแคลน
ควรพิจารณาด้วยความรอบคอบ อย่างเหมาะสม
โดยเฉพาะความซ้ำซ้อนของบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวกับการให้ทุนการศึกษา
ความชัดเจนในการกำหนดสาขาขาดแคลน ภาระค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้น
การจัดสรรงบประมาณจะต้องคำนึงถึงความครอบคลุมของทุกแหล่งเงิน
และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเกี่ยวกับการให้ทุนการศึกษาแก่ผู้เรียนด้วย
นอกจากนี้ กองทุนฯ ควรมีการกำหนดหลักเกณฑ์
เงื่อนไข แนวทางการปฏิบัติ
รวมถึงการทำสัญญาและความรับผิดในกรณีไม่ปฏิบัติตามสัญญาให้มีความชัดเจน
ตลอดจนมีความยืดหยุ่นและเกิดความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น เพื่อให้การบริหารจัดการกองทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
และไม่เป็นภาระต่องบประมาณในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
ให้คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7505 | การดำเนินโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2565 ให้แก่ประชาชนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๕ ให้แก่ประชาชนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ (๑) ของขวัญช่วงเทศกาลปีใหม่ เช่น จุดบริการประชาชนทั่วประเทศ ทั้งทางบก ทางทะเล ทางอากาศ และแจกน้ำดื่มสะอาดฟรี แจกกล้าไม้เพื่อลดโลกร้อน ๑๑ ล้านกล้า (ไม้บก ๑๐ ล้านกล้า และไม้ป่าชายเลน ๑ ล้านกล้า) เปิดอ่าวมาหยา บริการนักท่องเที่ยวในวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕ และยกเว้นค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ ๑๓๓ แห่งทั่วประเทศในช่วงเทศกาลปีใหม่ และวันสำคัญต่าง ๆ พร้อมจัดกิจกรรมร่วมสนุกผ่าน social media ลดราคาผลิตภัณฑ์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บริการตรวจสอบอัญมณีและธรณีวัตถุเบื้องต้นฟรี เป็นต้น และ (๒) ของขวัญ สำหรับปี พ.ศ. ๒๕๖๕ เช่น จัดที่ดินอยู่อาศัย/ทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่ป่าชายเลน จัดหา พัฒนาแหล่งน้ำอุปโภค-บริโภค และกองทุนสิ่งแวดล้อมสนับสนุนโคกหนองนาโมเดล วงเงิน ๕๐ ล้านบาท จำนวน ๑๐๐ โครงการ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7506 | ของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2565 ของกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง | กค. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบของขวัญปีใหม่ ๒๕๖๕
ของกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ (๑) โครงการเที่ยวปีใหม่สุขใจไปกับพิพิธภัณฑ์ธนารักษ์
สำหรับคนไทยทุกคน (๒) มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้เช่าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
2019 (COVID-19) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ (๓) การจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์
รุ่นส่งความสุข วงงเงิน ๓๐,๐๐๐ ล้านบาท (๔) โครงการ
“คริปโทศาสตร์ รู้ได้ในคลิกเดียว” (๕) โครงการ “การระดมทุนขอ SMEs/Startup ผ่อนคลาย ไม่มีค่าธรรมเนียม” และ (๖)
โครงการ
“การยกเว้นค่าธรรมเนียมเพื่อส่งเสริมการส่งออกตราสารเพื่อความยั่งยืนในตลาดทุน”
(๗) โครงการ “การสนับสนุนค่าใช้จ่ายการทวนสอบการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์” (๘)
โครงการ “การลดค่าธรรมเนียมคำขอความเห็นชอบเป็นผู้สอบบัญชีในตลาดทุน
สำหรับผู้สอบบัญชีรายใหม่ที่สังกัดสำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุน” (๙)
กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุปีใหม่อุ่นใจ (ไมโครอินชัวรันส์) สำหรับเทศกาลปีใหม่ ๒๕๖๕
(๑๐) โครงการ “พ.ร.บ. รุกทั่วไทย” เป็นต้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7507 | แผนงาน/โครงการในความรับผิดชอบของสำนักงาน ป.ย.ป. เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2565 ให้แก่ประชาชน | ป.ย.ป. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินแผนงาน/โครงการในความรับผิดชอบของสำนักงาน
ป.ย.ป. เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๕ ให้แก่ประชาชน รวม ๑ โครงการ ได้แก่
โครงการนำร่องการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้พิการเพื่อการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการประกอบอาชีพ
(แอปพลิเคชันบัตรประจำตัวคนพิการดิจิทัล) ตามที่สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ
ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดองเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7508 | การดำเนินโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2565 ให้แก่ประชาชน | พณ. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินแผนงาน/โครงการที่สามารถดำเนินการให้มีผลในทางปฏิบัติเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่
พ.ศ. ๒๕๖๕ ให้แก่ประชาชน โดยมีกิจกรรมสำคัญ จำนวน ๗ กิจกรรม ได้แก่ ๑)
พาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน “New Year Grand Sale 2022” ๒) เพิ่มบริการออนไลน์ ๓)
ขยายเวลาให้บริการประชาชน นอกเวลาทำการ ๔)
ลดค่าธรรมเนียม/ให้ส่วนลดแก่ผู้ประกอบการ และประชาชน ๕) ให้บริการฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
๖) จัดกิจกรรม/งานแสดงและจำหน่ายสินค้า ๗) อบรม/เสวนา
ส่งเสริมความรู้ในการประกอบธุรกิจ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7509 | โครงการ/กิจกรรมของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2565 มอบให้แก่ประชาชน | อว. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการ/กิจกรรมของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ ๒๕๖๕ มอบให้แก่ประชาชน รวม ๑๙ โครงการ/กิจกรรม แบ่งเป็น
(๑) โครงการ/กิจกรรม เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต จำนวน ๑๒ กิจกรรม (๒)
โครงการ/กิจกรรม เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ ภาคเอกชน และภาคอุตสาหกรรม จำนวน ๗
กิจกรรม ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7510 | โครงการส่งความสุขปีใหม่ มอบให้เกษตรกร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปี พ.ศ. 2565 | กษ. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการ “ส่งความสุขปีใหม่ มอบให้เกษตรกร
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์” ปี พ.ศ. ๒๕๖๕
ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจภายในประเทศมีเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้น
โดยการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สร้างรายได้เพิ่ม และลดรายจ่ายครัวเรือน
ให้กับเกษตรกรและประชาชน
ในสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจที่ทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) และเพื่อส่งมอบความสุข
จากการเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศเกษตรที่สวยงาม
พร้อมกับได้รับความรู้ทางด้านการเกษตร โดยมีกิจกรรม ประกอบด้วย (๑) เพิ่มสุขปีใหม่
เที่ยวทั่วไทย สุขใจไปกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ (๒) เสริมพลังปีใหม่ จำหน่ายสินค้าราคาพิเศษ
สินค้าเกษตรคุณภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7511 | การแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ กรงเบรต สาธารณรัฐเลบานอน (นายซิยาด ฟัครีย์ ดัลลูล) | กต. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายซิยาด ฟัครีย์ ดัลลูล (Mr. Ziad Fakhri Dalloul) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ กรุงเบรุต สาธารณรัฐเลบานอน
โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมสาธารณรัฐเลบานอน สืบแทน นายอิบราฮิม โจเซฟ ซาเล็ม (Mr. Ibrahim Joseph Salem) กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ
กรุงเบรุต สาธารณรัฐเลบานอน ซึ่งถึงแก่กรรม ทั้งนี้ โดยคงสถานะของสถานทำการทางกงสุล
เป็น สถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ กรุงเบรุต สาธารณรัฐเลบานอน ไว้เช่นเดิม
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7512 | การเสนอร่างกฎหมายที่มีเงื่อนเวลาในการใช้บังคับต่อคณะรัฐมนตรี | นร. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติว่า ๑. การเสนอร่างกฎหมายที่มีเงื่อนเวลาในการใช้บังคับต่อคณะรัฐมนตรี
ให้หน่วยงานของรัฐพิจารณารูปแบบความเหมาะสมของกฎหมาย
โดยหากมีระยะเวลาเพียงพอให้จัดทำเป็นร่างพระบัญญัติในลำดับแรก
หากมีความจำเป็นต้องตราเป็นพระราชกำหนด
ให้พิจารณาให้เป็นไปตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยด้วย
โดยหน่วยงานของรัฐคำนึงถึงระยะเวลาในขั้นตอนต่าง ๆ ของกระบวนการตรากฎหมายที่ต้องไม่กระชั้นชิดกับวันใช้บังคับ ๒.
กรณีร่างพระราชกฤษฎีที่มีเงื่อนเวลาการใช้บังคับ
ให้หน่วยงานของรัฐเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่เพียงพอต่อการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีและการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และมีระยะเวลาเพียงพอต่อการเสนอเรื่องไปยังสำนักงานองคมนตรีโดยไม่กระชั้นชิดกับวันที่มีผลการใช้บังคับ
โดยเฉพาะการเสนอขอขยายระยะเวลาของมาตรการต่าง ๆ ที่มีเงื่อนเวลาในการใช้บังคับซึ่งต้องออกกฎหมายรองรับ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7513 | ของขวัญปีใหม่ของกระทรวงแรงงาน ปี 2565 | รง. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบของขวัญปีใหม่ของกระทรวงแรงงาน
ปี ๒๕๖๕ ให้กับผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศ ได้แก่ (๑) ฟรีดอกเบี้ย ๐% นาน ๑๒ เดือน สำหรับการกู้ยืมเงินจากกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน
(๒) DSD Service ให้บริการตรวจเช็ครถก่อนเดินทาง ๑๒ รายการ
ระหว่างวันที่ ๑๕-๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๔ ณ
สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทั่วประเทศ (๓)
การพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานผ่านระบบ Online ฟรี (๔) การเพิ่มอัตราเงินสงเคราะห์จากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างสูงสุด
๑๐๐ เท่า กรณีลูกจ้างถูกเลิกจ้างหรือค้างจ่าย (๕) โครงการเงินกู้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงาน
(๖)
โครงการเสริมสร้างสุขภาพด้านสุขศาสตร์อุตสาหกรรมในสถานประกอบกิจการประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ (๗) ลดอัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา ๔๐เหลือร้อยละ ๖๐ เป็นระยะเวลา
๖ เดือน (๘) ลดขั้นตอนอนุมัติสิทธิ
โดยผู้ประกันตนไม่ต้องสำรองจ่ายได้ตั้งแต่เดือนมกราคม ๒๕๖๕ เป็นต้นไป และ (๙)
กระทรวงแรงงานมอบของขวัญปีใหม่
เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ประกันตนที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ทุพลภาพ ทุกมาตรา (มาตรา
๓๓ มาตรา ๓๙ และมาตรา ๔๐) ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7514 | มาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจปี 2565 (มาตรการของขวัญปีใหม่ 2565) | กค. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบและรับทราบมาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจปี ๒๕๖๕
(มาตรการของขวัญปีใหม่ ๒๕๖๕) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. อนุมัติหลักการ ๒.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมการอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิต
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒.๔ ร่างกฎกระทรวงฉบับที่ .. (พ.ศ. .... )
ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ๒.๕ ร่างกฎกระทรวงฉบับที่ .. (พ.ศ. .... )
ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ รวม ๕ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วนแล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. เห็นชอบในหลักการ ๓.๑ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารที่อยู่อาศัยหรืออาคารพาณิชย์หรือที่ดินพร้อมอาคารที่อยู่อาศัยหรืออาคารพาณิชย์ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ๓.๒ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ๓.๓ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษตามประมวลกฎหมายที่ดิน
สำหรับกรณีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ๓.๔ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด
สำหรับกรณีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด รวม ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วนแล้วดำเนินการต่อไปได้ ๔. การจัดสรรงบประมาณเพื่อชดเชยรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัยและมาตรการทางภาษีอากรและค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้
ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นว่า กรณีจะให้มีการพิจารณาจัดสรรงบประมาณเพื่อชดเชยรายได้ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามมาตรการดังกล่าว
ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไปนั้น ตามวินัยการคลังภาครัฐ และวิธีการงบประมาณ
การจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยรับงบประมาณต่าง ๆ
ต้องมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ เกิดผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ที่จะได้รับ
ความครอบคลุมของทุกแหล่งเงิน
และต้องคำนึงถึงความจำเป็นและภารกิจของหน่วยรับงบประมาณเป็นสำคัญ
โดยเฉพาะกรณีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องเป็นไปเพื่อสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลและจัดทำบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในพื้นที่
โดยคำนึงถึงความสามารถในการจัดหารายได้
ซึ่งรายได้ที่จะได้มานั้นรัฐต้องดำเนินการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรายได้ของตนเองผ่านระบบภาษีหรือการจัดเก็บภาษีที่เหมาะสม
รวมถึงการส่งเสริมและพัฒนาการหารายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เพียงพอกับภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
ดังนั้น เพื่อประโยชน์ที่รัฐหรือประชาชนจะได้รับ ความคุ้มค่า
ภาระการคลังและงบประมาณ
รวมทั้งความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่การคลังของรัฐอย่างยั่งยืนและรอบคอบ
การสูญเสียรายได้และภาระทางการคลังในอนาคตจะต้องเป็นไปเท่าที่จำเป็น
โดยระบบภาษีหรือการจัดเก็บภาษีจะต้องเป็นไปอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม
สอดคล้องกับสถานการณ์และภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐที่จะเกิดขึ้นในแต่ละปีงบประมาณด้วย ๕. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ ๕.๑ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า ๕.๑.๑ เห็นควรให้ความเห็นชอบมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการอนุญาตขายสุรา
ยาสูบและไพ่ ตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐
เพื่อช่วยเหลือและลดภาระในการดำเนินกิจการให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
ของภาครัฐ ๕.๑.๒ เห็นควรให้ความเห็นชอบมาตรการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่น
เพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการสายการบิน
และช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมสายการบินในประเทศ
อย่างไรก็ตาม
เพื่อให้ผู้ประกอบการสายการบินสามารถรักษาสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจและรักษาระดับการจ้างงานไว้ได้
ภาครัฐควรให้ความสำคัญกับการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-๑๙
เพื่อให้ภาคการท่องเที่ยวและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศสามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ๕.๑.๓ เห็นควรให้ความเห็นชอบในหลักการมาตรการช้อปดีมีคืน
ปี ๒๕๖๕ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศและสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
ตลอดจนเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีและผู้ประกอบกิจการการผลิตสินค้าท้องถิ่น
อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลังควรมีการประเมินผลการดำเนินมาตรการ
"ชิมช้อปใช้" ทั้งในด้านจำนวนผู้ที่ใช้สิทธิ์ ความคุ้มค่า
และการเพิ่มขึ้นของตัวทวีคูณ (Multiplier Effect ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศจากการดำเนินมาตรการ
เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบในการจัดทำมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายหรือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคตให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับรูปแบบกิจกรรมทางเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลา
นอกจากนั้น สำนักงานฯ มีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า การใช้จ่ายในประเทศในปี ๒๕๖๕ ยังมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากการระบาดของโรคโควิด-๑๙
สายพันธุ์โอไมครอน (Omicron) ในขณะที่ฐานะการคลังเริ่มมีข้อจำกัดมากขึ้น
ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงอาจพิจารณาปรับเปลี่ยนระยะเวลาดำเนินการ
เพื่อให้สอดคล้องกับเงื่อนไขความเสี่ยงจากการระบาดของโรคและมีความยืดหยุ่นต่อการดำเนินมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบหากเกิดการระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-๑๙ ๕.๑.๔ เห็นควรให้ความเห็นชอบในหลักการมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย
เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในระดับราคาที่เหมาะสมกับศักยภาพอย่างต่อเนื่อง
พร้อมทั้งส่งเสริมการซื้อขายที่อยู่อาศัยทั้งที่อยู่อาศัยใหม่สร้างเสร็จพร้อมขายและที่อยู่อาศัยเก่ามือสอง
รวมถึงช่วยรักษาระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในสาขาก่อสร้างโดยเฉพาะหมวดการก่อสร้างที่อยู่อาศัย
ซึ่งจะสนับสนุนการจ้างงานในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง. ๕.๑.๕ เห็นควรให้ความเห็นชอบในหลักการมาตรการทางภาษีอากรและค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการช่วยเหลือลูกหนี้ตามศักยภาพของลูกหนี้แต่ละรายและช่วยให้ลูกหนี้มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น
รวมทั้งสนับสนุนขีดความสามารถในการให้สินเชื่อของเจ้าหนี้และสถาบันการเงินอย่างไรก็ดี
สำนักงานฯ มีความเห็นเพิ่มเติมว่า เห็นควรกำหนดระยะเวลาในการดำเนินมาตรการเป็นคราวละ
๑ ปี และให้มีการติดตามประเมินผลการดำเนินมาตรการและรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบ
เพื่อให้การดำเนินมาตรการมีความยืดหยุ่น
สามารถรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ได้ ๕.๑.๖ เห็นควรมอบหมายให้สำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดสรรงบประมาณจากกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อชดเชยรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
อันเนื่องมาจากการยกเว้นค่าธรรมเนียมการอนุญาตขายสุรา ยาสูบและไพ่
การดำเนินการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย และมาตรการทางภาษีอากรและค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามความเหมาะสมต่อไป
ทั้งนี้ สำนักงานๆ มีความเห็นเพิ่มเติมว่า
เพื่อลดข้อจำกัดในการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีและการดำเนินมาตรการด้านการคลังในระยะถัดไปในภาพรวม
อันเนื่องจากการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลที่ลดลงจากการดำเนินมาตรการทางการคลัง
เห็นควรมอบหมายให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาประเมินผลของการดำเนินมาตรการทางภาษีที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
เพื่อนำมาทบทวน/ปรับปรุง /หรือยกเลิกมาตรการทางภาษีที่หมดความจำเป็น
เพื่อให้การดำเนินมาตรการมีความสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
และเพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่ทางการคลังสำหรับการดำเนินมาตรการที่มีความจำเป็นต่อไป ๕.๒ ธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นว่า
โครงการของขวัญปีใหม่ปี ๒๕๖๕ ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจต่าง ๆ
จะสามารถช่วยบรรเทาภาระทางการเงินของลูกหนี้
สร้างโอกาสให้ลูกหนี้ได้รับสินเชื่อใหม่เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการประกอบธุรกิจ ตลอดจนจูงใจให้ลูกหนี้ได้รับประโยชน์จากการมีประวัติการชำระหนี้ที่ดีอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี โครงการดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ระยะสั้น
สถาบันการเงินเฉพาะกิจควรพิจารณาการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้โดยเฉพาะเร่งปรับปรุงโครงสร้างหนี้แบบยั่งยืนในระยะยาวต่อไป
ทั้งนี้
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรพิจารณาจัดเตรียมมาตรการเพิ่มเติมเพื่อรองรับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนและอาจมีความเสี่ยงเกิดขึ้น
ซึ่งภาครัฐจำเป็นต้องมีมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบหรือกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
รวมทั้งควรจัดเก็บข้อมูลเพื่อติดตามประสิทธิภาพในการดำเนินมาตรการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7515 | ของขวัญปีใหม่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำหรับประชาชน ปี พ.ศ. 2565 | พม. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการจัดทำแผนงาน/โครงการ เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
สำหรับประชาชน ปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ได้แก่ (๑) การสร้างอาชีพใหม่หลังโควิด เช่น
พี่สอนน้องคล่องธุรกิจ พิชิตฝัน การประกอบอาชีพเป็นเชฟ การขายของออนไลน์ (๒) “Big Smile เพื่อรอยยิ้ม” เป็นกิจกรรมเพื่อสร้างและส่งมอบความสุขให้เด็กกลุ่มเปราะบาง
และเด็กกำพร้า และ (๓) เพิ่มช่องทางรับแจ้งเหตุด่วน เหตุร้าย แจ้งปัญหาสังคม
และการขอรับบริการของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผ่านเว็บไซต์ศูนย์ช่วยเหลือสังคม
Line OA พม. Facebook และลิงค์จาก Application ทางรัฐ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7516 | การดำเนินโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2565 ให้แก่ประชาชน | กก. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแผนงาน/โครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่
พ.ศ. ๒๕๖๕ ให้แก่ประชาชน ดังนี้ (๑) ด้านการท่องเที่ยว ได้แก่
การขยายระยะเวลาการใช้สิทธิ์โครงการทัวร์เที่ยวไทย และเพิ่มจำนวนห้องพักโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
การจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ประจำปี ๒๕๖๕
การยกเว้นค่าธรรมเนียมการต่อใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวและใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์
การแจกจ่ายชุดตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 ด้วยตนเอง (ATK) สำหรับผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์
จำนวน ๗,๐๐๐ ชุด และ (๒) ด้านกีฬา ได้แก่
การปรับลดอัตราค่าบริการศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกายที่ตั้งในอาคารนิมิตรบุตร
สนามกีฬาแห่งชาติและศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย ณ
สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ ๖๐ พรรษา
จังหวัดปทุมธานี การส่งเสริมการออกกำลังกาย ด้วยแอโรบิค โดยให้บริการนำเต้นให้แก่ประชาชน
โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายบริเวณสนามกีฬาแห่งชาติ และสวนลุมพินี
โครงการออกกำลังกายและกีฬาสื่อมวลชน การขยายเวลาการเปิดให้บริการ (ฟรี)
ของศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ และสนามกีฬาจังหวัด ช่วงปีใหม่ เป็นต้น
ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7517 | การดำเนินโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2565 ให้แก่ประชาชน | นร.01 | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่
๒๕๖๕ ให้แก่ประชาชน ได้แก่ (๑) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มอบบริการพิเศษเพิ่มความสุขและร้อยยิ้มให้ประชาชน
ในการรับแจ้งเหตุ แจ้งเบาะแส เรื่องร้องทุกข์ทั่วไป ผ่านช่องทางสายด่วนของรัฐบาล
๑๑๑๑ www.1111.go.th และ Application PSC 1111 ตลอด ๒๔ ชั่วโมง (๒) กรมประชาสัมพันธ์ มอบข้อมูลข่าวสารออนไลน์เกี่ยวกับมาตรการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
พร้อมทั้งข่าวสารเกี่ยวกับของขวัญปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๕
ของส่วนราชการทางสถานีโทรทัศน์วิทยุแห่งประเทศไทย และ (๓)
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกับผู้ประกอบการออนไลน์ ลดค่าครองชีพของประชาชน
โดยจะมอบคูปองส่วนลดในการซื้อสินค้าออนไลน์ของผู้ประกอบการรายใหญ่ให้แก่ประชาชน
ระหว่างวันที่ ๑-๓๑ มกราคม ๒๕๖๕ ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7518 | ร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร.09 | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่
..) พ.ศ. ... ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา
พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา โดยกำหนดให้คณะกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาอาจให้ทุนการศึกษาแทนการให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาได้
ในกรณีของนักเรียนหรือนักศึกษาที่ศึกษาในสาขาวิชาขาดแคลนใดหรือสาขาวิชาที่กองทุนมุ่งส่งเสริมเป็นพิเศษ
รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ตลอดจนแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา
และการชำระเงินคืนกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ทั้งนี้
เพื่อช่วยให้การชำระหนี้มีความเป็นธรรมและสอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้มากยิ่งขึ้น
อีกทั้งเพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาและรองรับการเรียนรู้ตลอดชีวิต
อันเป็นการเสริมสร้างคุณภาพของทรัพยากรบุคคลในประเทศให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ซึ่ง คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน
ได้มีมติเห็นชอบในหลักการการขอจัดตั้งกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ตามร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้แล้ว
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรเป็นเรื่องด่วนต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ๓. ให้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษารับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓.๑ กระทรวงการคลังที่เห็นว่า
อย่างไรก็ดี แม้ว่าการดำเนินการตามแนวทางของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์กับผู้กู้ยืมเงินและผู้ค้ำประกันเป็นอย่างมาก
แต่การดำเนินงานในลักษณะเช่นนี้จำเป็นต้องพิจารณารายละเอียดอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะประเด็นต่าง
ๆ ดังนี้ ๓.๑.๑ การกำหนดให้คณะกรรมการกองทุนฯ
สามารถพิจารณาให้ทุนการศึกษาแทนการให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาแก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่ศึกษาในสาขาวิชาขาดแคลนหรือสาขาวิชาที่กองทุนฯ
มุ่งส่งเสริมเป็นพิเศษ
ถือเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์และหลักการที่สำคัญในการจัดตั้งทุนหมุนเวียนตามพระราชบัญญัติการบริหารทุนหมุนเวียน
พ.ศ. ๒๕๕๘
โดยต้องเสนอเรื่องนี้ต่อคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเพื่อพิจารณาก่อนเสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรี
ดังนั้น จึงเห็นควรให้กองทุนฯ ดำเนินการตามหลักการที่กฎหมายกำหนด ๓.๑.๒ การกำหนดให้นักเรียนและนักศึกษาที่เข้าศึกษาในหลักสูตรอาชีพหรือเพื่อยกระดับทักษะสมรรถนะ
หรือการเรียนรู้ต่าง ๆ สามารถขอเงินกู้ยืมจากกองทุนฯ แม้ว่าจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้แก่ผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึงการศึกษาในรูปแบบอื่นที่นอกเหนือจากหลักสูตรในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่าง
ๆ แต่การให้เงินกู้ยืมในกรณีดังกล่าว
จะต้องไม่เป็นการซ้ำซ้อนกับภารกิจของทุนหมนเวียนอื่นที่ได้จัดตั้งขึ้นแล้ว อาทิ “กองทุนพัฒนาฝีมือแรงาน”
ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนสำหรับใช้จ่ายเกี่ยวกับการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงานและครอบคลุมถึงการให้ผู้รับการฝึกสามารถกู้ยืมเพื่อนำไปใช้จ่ายเกี่ยวกับการเข้ารับการฝึกอบรมฝีมือแรงงาน
ทั้งการฝึกเตรียมเข้าทำงาน การฝึกยกระดับฝีมือแรงงาน และการฝึกเปลี่ยนสาขาอาชีพ ๓.๑.๓ การกำหนดให้ผู้ได้รับทุนตามมาตรา ๖/๑ วรรคสอง ของร่างพระราชบัญญัติฯ
อาจปฏิบัติงานในหน่วยงานตามเวลาที่กำหนด แม้ว่าจะช่วยให้กองทุนฯ
สามารถแก้ไขปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ของผู้กู้ยืมเงินได้ในระดับหนึ่ง
แต่การดำเนินงานในลักษณะเช่นนี้จำเป็นต้องกำหนดอัตราค่าตอบแทนและระยะเวลาการปฏิบัติงานอย่างเหมาะสม
ตลอดจนควรเปิดโอกาสให้หน่วยงานที่จะรับบุคคลที่ได้รับทุนเข้าทำงานมีส่วนร่วมในการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือกบุคคลกลุ่มดังกล่าวด้วย ทั้งนี้
เพื่อป้องกันมิให้หน่วยงานมีอัตรากำลังคนเกินความจำเป็น
หรืออาจเป็นการเลือกปฏิบัติและไม่เป็นธรรมกับผู้อื่นที่ประสงค์จะเข้าทำงานแต่มิได้สำเร็จการศึกษาในสาขาวิชาขาดแคลนหรือสาขาวิชาที่กองทุนฯ
มุ่งส่งเสริมเป็นพิเศษ ๓.๒ กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมที่เห็นว่า ๓.๒.๑ ในขั้นตอนของการกู้ มีการส่งเอกสารแบบเดียวกันทั้งแบบสแกนและตัวจริง
ซึ่งอาจเกิดความซ้ำซ้อน และเพิ่มขั้นตอนในการดำเนินงานให้กับผู้ปฏิบัติงานได้ ๓.๒.๒ ระบบมีข้อจำกัดในการแก้ไขข้อมูล ทั้งข้อมูลของนักเรียนและนักศึกษา
ข้อมูลการศึกษา ฯลฯ ส่วนใหญ่สถานศึกษาไม่สามารถทำได้เอง
ต้องแจ้งให้กองทุนดำเนินการแก้ไขให้
ส่งผลให้เจ้าหน้าที่กองทุนต้องรับภาระส่วนนี้เพิ่มมากขึ้น ๓.๓.๓ การปรับปรุงเพิ่ม/ลดหลักสูตร มีขั้นตอนค่อนข้างมากและใช้เวลานาน
ควรพิจารณาถึงช่องทางการปรับปรุงหลักสูตรที่สะดวกมากขึ้น |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7519 | การเปลี่ยนชื่อประเทศของสาธารณรัฐมาซิโดเนีย | กต. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเปลี่ยนชื่อประเทศ จากสาธารณรัฐมาซิโดเนีย (Republic of Macedonia) เป็นสาธารณรัฐนอร์ทมาซิโดเนีย
(Republic of North Macedonia)
และเพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนของกระทรวงการต่างประเทศในการจัดทำพระราชสาส์นตราตั้งแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำสาธารณรัฐนอร์ทมาซิโดเนีย
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงอังการา สาธารณรัฐตุรกี นับแต่นี้เป็นต้นไป
เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงของการเปลี่ยนชื่อประเทศดังกล่าว
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7520 | ขอความเห็นชอบแก้ไขข้อบังคับการรถไฟแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 4.9 กองทุนผู้ปฏิบัติงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงวันที่ 19 เมษายน 2528 ในการจ่ายเงินบำเหน็จดำรงชีพให้แก่อดีตผู้ปฏิบัติงานของการรถไฟแห่งประเทศไทยในอัตรา 15 เท่าของเงินสงเคราะห์รายเดือน แต่ไม่เกิน 500,000 บาท | คค. | 21/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จ่ายเงินบำเหน็จดำรงชีพให้แก่อดีตผู้ปฏิบัติงานของ
รฟท. ในอัตรา ๑๕ เท่าของเงินสงเคราะห์รายเดือน แต่ไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท
ตามมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ตามมาตรา
๑๓ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๓
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒.
เห็นชอบในหลักการร่างข้อบังคับการรถไฟแห่งประเทศไทย ฉบับที่ ๔.๙
กองทุนผู้ปฏิบัติงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย (แก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ ..) มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับการรถไฟแห่งประเทศไทย
ฉบับที่ ๔.๙ กองทุนผู้ปฏิบัติงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๒๘
เพื่อช่วยเหลืออดีตผู้ปฏิบัติงานของ รฟท.
ที่ได้รับเงินสงเคราะห์รายเดือนให้มีสิทธิขอรับเงินบำเหน็จดำรงชีพในอัตรา ๑๕
เท่าของเงินสงเคราะห์รายเดือนที่ได้รับ แต่ไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เช่น การแบ่งจ่ายเงินให้สอดคล้องและเหมาะสมกับกระแสเงินสดคงเหลือของกิจการในแต่ละช่วงเวลา
การเร่งหารายได้เพิ่ม โดยเฉพาะรายได้จากการบริหารทรัพย์สินที่มีอยู่จำนวนมาก
และการจ่ายเงินให้สอดคล้องกับวิธีการจ่ายเงินในวรรคสองที่กำหนดตามช่วงอายุของผู้มีสิทธิเพื่อให้
รฟท. สามารถดำเนินการได้โดยไม่เกิดประเด็นในทางปฏิบัติ เป็นต้น
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้
รฟท. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น การคำนึงถึงสถานะทางการเงิน และการหาแนวทางในการเพิ่มรายได้ให้สอดคล้องกับรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|