ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 378 จากทั้งหมด 6214 หน้า แสดงรายการที่ 7541 - 7560 จากข้อมูลทั้งหมด 124262 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
7541 | หลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ การจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ และมอบหมายผู้มีอำนาจกำกับแผนงานบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | นร.07 | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ
และอนุมัติแผนงานบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ รวมทั้งมอบหมายผู้มีอำนาจกำกับแผนงานบูรณาการ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
และให้สำนักงบประมาณได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7542 | หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (ฉบับที่ 3) | สธ. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (ฉบับที่
๓) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นว่า
กระทรวงสาธารณสุขจะต้องสร้างความรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดำเนินการแก่ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต
และประโยชน์ที่ผู้ป่วยจะได้รับเป็นสำคัญ ตลอดจนแนวทาง หลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ทุกภาคส่วนจะต้องนำไปปฏิบัติให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
รวมทั้งกำกับ ติดตาม และตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพตามหลักเกณฑ์
วิธีการ เงื่อนไข และอัตราที่กำหนด และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่เห็นว่า
ควรมีการประเมินและคาดการณ์ค่าใช้จ่ายรวมถึงผลกระทบต่อการจัดสรรงบประมาณที่จะเกิดขึ้นอย่างละเอียดรอบคอบ
เพื่อให้การบริหารจัดการระบบการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7543 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาว่าด้วยการส่งเสริมความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทาน | กต. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาว่าด้วยการส่งเสริมความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทาน
(Memorandum of Understanding Between the Government of the Kingdom
of Thailand and the Government of the United States of America on Promoting
Supply Chain Resilience) เพื่อให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ร่วมลงนามได้ในวันที่ ๑๖
ธันวาคม ๒๕๖๔
และกระทรวงการต่างประเทศสามารถเผยแพร่เอกสารดังกล่าวต่อสาธารณชนภายหลังเสร็จสิ้นการเยือนไทยอย่างเป็นทางการ
โดยบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือซึ่งมีขอบเขตสำคัญ
อาทิ การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านตลาดและความเปราะบางเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทาน
พร้อมทั้งโอกาสในการขยายความร่วมมือด้านการพัฒนากฎหมาย นโยบาย มาตรฐาน
และมาตรการต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับห่วงโซ่อุปทาน
การหารือเพื่อแสวงหาโอกาสขยายความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจและรับมือกับปัญหาที่อาจทำให้เกิดการหยุดชะงักของการผลิต
การค้า และการขนส่ง
รวมทั้งแนวทางในการแก้ไขปัญหา และการสนับสนุนบทบาทของภาคเอกชน โดยบันทึกความเข้าใจฯ
มีอายุ ๕ ปี และสามารถพิจารณาต่ออายุได้โดยการเห็นชอบเป็นลายลักษณ์อักษรโดยทั้งสองฝ่าย
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ทั้งนี้
ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
การดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามความร่วมมือภายใต้ร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ควรพิจารณาให้รอบด้าน โดยต้องไม่ขัดหรือแย้งต่อข้อกฎหมายและพันธกรณีระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7544 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม 2564) | ปสส. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๔
ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา ได้แก่
ร่างพระราชบัญญัติเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ....
พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๑๖
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๔
พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๑๗
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๔
และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๑๘
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ วันศุกร์ที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๔
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7545 | ผลการพิจารณารายงานสรุปผลการรายงานการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปี 2562 ของคณะกรรมาธิการการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ และการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ วุฒิสภา | สว. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานสรุปผลการรายงานการติดตาม
เสนอแนะ และเร่งรัดการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปี ๒๕๖๒
ของคณะกรรมาธิการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ
และการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ วุฒิสภา ซึ่งได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
โดยปัจจุบันการดำเนินการของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการติดตามผลการดำเนินโครงการของหน่วยงานภาครัฐในระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ
(eMENSCR) เป็นไปในทิศทางเดียวกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ แล้ว เช่น
โครงการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม (เน็ตประชารัฐ)
โดยครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
การยกระดับทักษะมาตรฐานด้านการผลิตหรือบริการของบุคลากรและผู้ประกอบการ
การส่งเสริมการพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ตั้งแต่ระดับชุมชนไปสู่ระดับประเทศ
และการนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพและมูลค่าเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
เป็นต้น ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7546 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยความร่วมมือด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช | กษ. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยความร่วมมือด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าว
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยความร่วมมือด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นว่า
สำหรับค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการดำเนินการตามร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าว
เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับการจัดสรรไว้แล้ว
หรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานหรือแผนการใช้จ่ายงบประมาณ หรือโอนเงินจัดสรร
หรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒
หรือใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ แล้วแต่กรณี เป็นลำดับแรก
หรือจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7547 | ร่างบันทึกการประชุม (Record of Discussion) ของการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 11 | กต. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างบันทึกการประชุม (Record of Discussion) ของการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี
(Joint Commission for Bilateral Cooperation : JC) ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ ๑๑ ณ กรุงพนมเปญ กัมพูชา ระหว่างวันที่ ๑๖-๑๘
ธันวาคม ๒๕๖๔ ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศเป็นประธานร่วม
ให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศร่วมรับรองร่างบันทึกการประชุมฯ
ในวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๔ โดยวัตถุประสงค์ของร่างบันทึกการประชุมฯ
เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมของรัฐบาลทั้งสองประเทศที่จะส่งเสริมความร่วมมืออย่างรอบด้านทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี
โดยเฉพาะเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองประเทศจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-๑๙)
รวมทั้งการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา
ในฐานะ “หุ้นส่วนเพื่อสันติภาพและความเจริญ รุ่งเรือง”
ให้มีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและก่อประโยชน์แก่ประชาชนของทั้งสองฝ่าย
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกการประชุมฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7548 | สรุปผลการพิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่อง การบูรณาการอุตสาหกรรมการบินกับภาคเศรษฐกิจของชาติ ส่วนเศรษฐกิจการบินสำหรับการแพทย์และดูแลสุขภาพ (Aviation Economy for Medical Care) ของคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา | สว. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการพิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษา
เรื่อง การบูรณาการอุตสาหกรรมการบินกับภาคเศรษฐกิจของชาติ
ส่วนเศรษฐกิจการบินสำหรับการแพทย์และดูแลสุขภาพ (Aviation
Economy for Medical Care) ของคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา
ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณารายงานและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ
แล้ว สรุปได้ว่า
การใช้หลักสมดุลด้านสุขภาพควบคู่กับด้านเศรษฐกิจในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการเดินทางนั้น
จำเป็นต้องให้กระทรวงสาธารณสุขประเมินและให้ข้อแนะนำเพื่อความปลอดภัยต่อผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน
ชุมชน สังคมไทยในแต่ละกรณีและแต่ละช่วงเวลาในแต่ละสถานการณ์
โดยในการฟื้นฟูจะต้องปฏิบัติตามข้อแนะนำอย่างเคร่งครัดและต้องมีความปลอดภัยต่อสุขภาพประชาชนควบคู่ด้านเศรษฐกิจ
สำหรับการจัดสรรเวลาการบิน
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยได้ดำเนินการจัดสรรเวลาการบินตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในระเบียบสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์ในการจัดสรรเวลาการเข้าออกสนามบินของอากาศยาน
พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งสอดคล้องกับหลักเกณฑ์การจัดสรรเวลาการบินสากล นอกจากนี้
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยได้มีการทำความร่วมมือกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยต่อผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตในการรับส่งผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต
ณ ที่ขึ้นลงนอกเขตสนามบินด้วยเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งปฏิบัติการบินภายใต้ความปลอดภัย
มีมาตรฐานบุคลากร
และมาตรฐานอุปกรณ์ทางการแพทย์ตามมาตรฐานการให้บริการด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7549 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชุมพร เขตเลือกตั้งที่ 1 และจังหวัดสงขลา เขตเลือกตั้งที่ 6 แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. .... | ลต. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชุมพร
เขตเลือกตั้งที่ ๑ และจังหวัดสงขลา เขตเลือกตั้งที่ ๖ แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชุมพร
เขตเลือกตั้งที่ ๑ และจังหวัดสงขลา เขตเลือกตั้งที่ ๖ แทนตำแหน่งที่ว่าง เนื่องจากสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ
นายชุมพล จุลใส สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๐๑ (๖) ประกอบมาตรา ๙๘ (๔) (๖)
และมาตรา ๙๖ (๒) และสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ นายถาวร เสนเนียม สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา
๑๐๑ (๖) ประกอบมาตรา ๙๘ (๖) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7550 | ร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม 2564)] | ปสส. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๔ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7551 | ขออนุมัติแผนหลักการพัฒนา ฟื้นฟูสภาพแวดล้อมคลองแสนแสบ | นร.14 | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการของแผนหลักการพัฒนา
ฟื้นฟูสภาพแวดล้อมคลองแสนแสบ รวม ๕ เป้าประสงค์ ระยะเวลาดำเนินการ ๑๑ ปี (พ.ศ.
๒๕๖๔-๒๕๗๔) รวมจำนวน ๘๔ โครงการ วงเงินรวมทั้งสิ้น ๘๒,๕๖๓.๘๗๓๐ ล้านบาท
โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับแผนหลักการพัฒนา ฟื้นฟูสภาพแวดล้อมคลองแสนแสบ ดำเนินการตามกฎหมาย
และระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
และมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) จัดทำรายละเอียดการออกแบบ
พร้อมทั้งแผนปฏิบัติการและงบประมาณดำเนินโครงการและเสนอต่อคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญภายใต้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานตามแผนงานและโครงการภายใต้แผนหลักการพัฒนา
ฟื้นฟูสภาพแวดล้อมคลองแสนแสบ
ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้
ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงวัฒนธรรม
สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เช่นควรให้ความสำคัญกับการสร้างความรับรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
กรุงเทพมหานครควรมีส่วนร่วมลงทุนสำหรับการพัฒนา ฟื้นฟูสภาพแวดล้อมคลองแสนแสบ ในสัดส่วนไม่ต่ำกว่าร้อยละ
๒๕
เพื่อลดแรงกดดันด้านการคลังและเพื่อให้รัฐบาลมีงบประมาณสำหรับการพัฒนาในด้านอื่น ๆ
ต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7552 | การแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (นายสุกิจ จันทร์ทอง) | ทส. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสุกิจ จันทร์ทอง
ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
เนื่องจากผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างต่อไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7553 | การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 19 มีนาคม 2565) | นร.08 | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบให้ปรับลดพื้นที่อำเภอแว้ง
จังหวัดนราธิวาส
ออกจากพื้นที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
พ.ศ. ๒๕๔๘ เพื่อนำพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑
มาบังคับใช้แทน ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ๒.
เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส
ยกเว้นอำเภอศรีสาคร อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดปัตตานี
ยกเว้นอำเภอไม้แก่น และอำเภอแม่ลาน และจังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง และอำเภอกาบัง
ออกไปอีก ๓ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๕ ๓.
เห็นชอบและรับทราบร่างประกาศ รวม ๔ ฉบับ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๓.๑ เห็นชอบร่างประกาศ เรื่อง
การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส
ยกเว้นอำเภอศรีสาคร อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดปัตตานี
ยกเว้นอำเภอไม้แก่น และอำเภอแม่ลาน และจังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง และอำเภอกาบัง
และร่างประกาศ เรื่อง
การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ ๓.๒ รับทราบร่างประกาศ เรื่อง
การให้ประกาศและคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ
และร่างประกาศ เรื่อง
ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่อำเภอแว้ง
จังหวัดนราธิวาส ๔.
ให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7554 | ผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 54 และการประชุมระดับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง | กต. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน
ครั้งที่ ๕๔ และการประชุมระดับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๒-๗ สิงหาคม
๒๕๖๔ ซึ่งเนการาบรูไนดารุสซาลาม (บรูไน) ในฐานะประธานอาเซียนปี ๒๕๖๔
จัดขึ้นผ่านระบบการประชุมทางไกล
และมอบหมายให้หน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวข้องนำผลการประชุมฯ
ไปปฏิบัติและติดตามความคืบหน้าต่อไป โดยที่ประชุมฯ ได้หารือในเรื่องต่าง ๆ
ที่สำคัญ เช่น การยืนยันเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะขับเคลื่อนประชาคมอาเซียน
การรับรองกรอบการจัดทำระเบียงการเดินทางของอาเซียนเพื่อเอื้อต่อการเดินทางติดต่อทางธุรกิจและราชการที่จำเป็น
การย้ำข้อเสนอเรื่องอาเซียน+๒ เพื่อผลักดันให้มหาอำนาจภายนอกภูมิภาคเข้ามาดำเนินโครงการที่เป็นรูปธรรมร่วมกันอย่างสร้างสรรค์
และการเร่งรัดการดำเนินการตามฉันทามติ ๕ ข้อของอาเซียน
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7555 | ขอให้พิจารณาประกาศพื้นที่อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร | นร.51 | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบสรุปผลการประเมินพื้นที่อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส
ประกอบการพิจารณาประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.
๒๕๕๑ ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเสนอ ๒. เห็นชอบ ๒.๑
ร่างประกาศ เรื่อง พื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ๒.๒ ร่างประกาศ
เรื่อง การให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ๒.๓
ร่างประกาศ เรื่อง กำหนดลักษณะความผิดอันมีผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
ตามมาตรา ๒๑ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ ๒.๔
ร่างข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๑๘
แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ รวม ๔ ฉบับ
ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๓.
ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการแก้ไขประกาศที่ออกตามความในมาตรา
๑๖ วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑
ในพื้นที่อื่น ๆ
เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจดำเนินการตามประมวลกฎหมายยาเสพติด
แล้วให้เสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๔.
ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7556 | สรุปผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 16 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง | ทส. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม
ครั้งที่ ๑๖ และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๔
ผ่านระบบการประชุมทางไหล
โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย
เข้าร่วมการประชุมฯ โดยการประชุมฯ ประกอบด้วย (๑)
การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ ๑๖
โดยไทยได้เรียกร้องให้สมาชิกอาเซียนดำเนินนโยบายเชิงรุกเพื่อเร่งฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
และให้เร่งขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการอาเซียนว่าด้วยการต่อต้านขยะทะเลด้วย
(๒) การประชุมประเทศภาคีต่อข้อตกลงอาเซียน เรื่อง มลพิษจากหมอกควันข้ามแดน
ครั้งที่ ๑๖
เพื่อหารือสถานการณ์และการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนในภูมิภาคอาเซียน
และ (๓) การประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ ๑๗
เพื่อหารือความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมกับจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7557 | ผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 เรื่อง การป้องกันและตรวจสอบการบุกรุกที่ดินของรัฐและแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ทำการเกษตรในพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ | นร16 | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อมูลการทำเกษตรในพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ
ประกอบด้วย ข้อมูลจำนวนเกษตรกร ที่ทำการเกษตรในพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ
ชนิดของพืชที่ปลูก ประเภทและจำนวนพื้นที่ที่บุกรุก แนวโน้มของการบุกรุก และให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเร่งปรับปรุงข้อมูลดังกล่าวให้ครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน
เพื่อใช้ประกอบการจัดทำนโยบายและแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศไทยได้อย่างถูกต้องเหมาะสมต่อไป ๒. เห็นชอบแนวทางแก้ไขปัญหาการทำเกษตรในพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ
ภายใต้ประเด็นปัญหาหลัก ๓ ประเด็น ได้แก่ (๑)
การป้องกันการบุกรุกที่ดินของรัฐเพื่อทำการเกษตร จำนวน ๓ แนวทาง (๒)
ปัญหาการทำการเกษตรในพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิหรือไม่ได้รับอนุญาตจำนวน ๓ แนวทาง
และ (๓) ปัญหาการบริหารจัดการการพัฒนาพื้นที่และผลผลิตทางการเกษตร
(ภายหลังจากการจัดที่ดินหรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายแล้ว) จำนวน ๖ แนวทาง
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอ
และให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรมีการหารือและบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องเร่งรัดการดำเนินการสำรวจข้อมูลจำนวนผู้บุกรุกที่ดิน
และขอบเขตการใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐที่ถูกบุกรุกให้ชัดเจน ดำเนินการติดตาม ดูแล
และตรวจสอบการทำเกษตรในพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิอย่างสม่ำเสมอทุกปี
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7558 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร.12 | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงว่าด้วยการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง
พ.ศ. ๒๕๕๓
เพื่อให้กระบวนการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่งสามารถนำไปใช้กับกรุงเทพมหานคร
และให้นำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในกระบวนการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่งได้ด้วย
ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงาน ก.พ.ร
รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการมีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
รวมทั้งเป็นการปรับแนวทางให้เอื้อต่อการนำกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในขั้นตอนการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท
ซึ่งจะช่วยลดปัญหาอุปสรรคให้กับประชาชนในการเข้าถึงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในพื้นที่ต่าง
ๆ ได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ หากในระดับปฏิบัติสามารถนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกขั้นตอน
การช่วยเหลือประชาชนในกระบวนการยุติธรรมจะดำเนินการได้อย่างทันท่วงที จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมได้
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7559 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ภายในระยะเวลาที่กำหนด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | คค. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข
๗ และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ ภายในระยะเวลาที่กำหนด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗
และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก)
ตอนบางปะอิน-บางพลี และตอนพระประแดง-บางแค ช่วงพระประแดง-ต่างระดับบางขุนเทียน
ตั้งแต่เวลา ๐๐.๐๑ นาฬิกา ของวันพฤหัสบดีที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๔ ถึงเวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา
ของวันจันทร์ที่ ๓ มกราคม ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่ควรเร่งประชาสัมพันธ์การยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมบนทางหลวงพิเศษดังกล่าวให้ประชาชนทราบ
เพื่อให้ประชาชนใช้เส้นทางดังกล่าวในช่วงวันหยุดราชการต่อเนื่องได้อย่างคล่องตัว
สอดคล้องตามเจตนารมณ์ของกฎกระทรวงต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงคมนาคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7560 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดน่าน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดน่าน พ.ศ. 2556) | มท. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดน่าน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดน่าน
พ.ศ. ๒๕๕๖ เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. ๒๕๖๒
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ ๒.๑ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เห็นว่า
ควรมีข้อกำหนดหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้สอดคล้องและเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมและกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการขอและการพิจารณาให้ความยินยอมหรืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน
พ.ศ. ๒๕๖๐
รวมทั้งกำหนดสัญลักษณ์สีแสดงการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมไว้ในแผนผังกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินให้ชัดเจนเพื่อแสดงเขตที่ดินที่ถูกกำหนดให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเพิ่มเติม
๒.๒ กระทรวงคมนาคมที่เห็นว่า
ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย กฎหรือระเบียบ และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล เกิดผลสัมฤทธิ์
หรือประโยชน์ต่อภาครัฐและประชาชนเป็นสำคัญ ๒.๓ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เห็นว่า
การใช้ที่ดินริมฝั่งแม่น้ำ ลำคลอง หรือแหล่งน้ำสาธารณะที่เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ
ให้พิจารณานำมาตรการการจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำมาประกอบการดำเนินการด้วย ๒.๔ กระทรวงอุตสาหกรรมที่เห็นว่า
เพื่อสนับสนุนการพัฒนาและขยายตัวของเมืองตามยุทธศาสตร์ประเทศและยุทธศาสตร์ของจังหวัดนั้น
ๆ ตลอดจนเพื่อให้เกิดประโยชน์สาธารณะในการสร้าง บำรุง ปรับปรุงหรือซ่อมแซมทางอาคาร
หรือที่อยู่อาศัยภายใต้หลักเกณฑ์การป้องกันควบคุมปัญหาสิ่งแวดล้อมความปลอดภัยและการกำกับดูแลของกระทรวงอุตสาหกรรม
จึงสมควรกำหนดให้โรงงานดังต่อไปนี้ สามารถประกอบกิจการโรงงานในเขตผังเมืองได้ ดังนี้
๒.๔.๑ ประเภทหรือชนิดของโรงงานลำดับที่ ๕๐
โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม ถ่านหินหรือลิกไนต์อย่างหนึ่งอย่างใด
เฉพาะ (๔)
การผสมผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียมเข้าด้วยกันหรือการผสมผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียมกับวัสดุอื่น
แต่ไม่รวมถึงการผสมผลิตภัณฑ์จากก๊าซธรรมชาติกับวัสดุอื่น (เฉพาะการผลิตแอสฟัลต์ติกคอนกรีตสำหรับโครงการสร้างบำรุงปรับปรุงหรือซ่อมแซมทางที่ประกอบกิจการเพื่อประโยชน์แก่โครงการนั้น)
๒.๔.๒ ประเภทหรือชนิดของโรงงานลำดับที่ ๕๘
โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อโลหะอย่างหนึ่งอย่างใด เฉพาะ (๑)
การทำผลิตภัณฑ์คอนกรีต ผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสม ผลิตภัณฑ์ยิปซัมหรือผลิตภัณฑ์ปูนปลาสเตอร์
(เฉพาะการทำผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมเสร็จในโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยหรือโครงการสร้าง
บำรุง ปรับปรุงหรือซ่อมแซมทางที่ประกอบกิจการเพื่อประโยชน์แก่โครงการนั้น) ๒.๕ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
เมื่อร่างประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ ประกาศใช้
กรมโยธาธิการและผังเมืองควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ
ดังกล่าวอย่างเข้มงวดต่อไป |