ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1856 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 37101 - 37120 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
37101 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อาวุโส ครั้งที่ 16 แผนงาน IMT-GT | นร | 29/12/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายวีระชัย วีระเมธีกุล) เสนอ ดังนี้
1. ร้บทราบผลการประชุมระดับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อาวุโส ครั้งที่ 16 และการประชุมระดับผู้ว่าราชการ จังหวัดและมุขมนตรี ครั้งที่ 6 ของแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (Indonesia -Malaysia-Thailand Growth Triangle : IMT-GT) ระหว่างวันที่ 13-15 ตุลาคม 2552 ณ รัฐมะละกา ประเทศมาเล เซีย สรุปผลการประชุมได้ดังนี้ ที่ประชุมระดับรัฐมนตรี ฯ ได้เห็นชอบผลการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ครั้งที่ 16 และเห็นชอบตามข้อเสนอของไทย ได้แก่ การร่วมกันฟื้นฟูอินโดนีเซียในภาวะหลังภัยธรณีพิบัติด้วยโครงการภายใต้ IMT-GT การกำหนดโครงการความร่วมมือด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ตามที่ที่ประชุมสุดยอด ครั้งที่ 4 ได้ให้ทิศทาง ไว้ นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบเรื่องต่าง ๆ ได้แก่ ความก้าวหน้าการดำเนินการของสภาธุรกิจ IMT-GT และข้อเสนอ ต่อภาครัฐในการอำนวยความสะดวก ความก้าวหน้าการดำเนินการ 6 สาขาความร่วมมือที่สำคัญ เช่น การศึกษา ความเป็นไปได้โครงการก่อสร้างสะพานตากใบ และสะพามข้ามแม่น้ำโก-ลก แห่งที่ 2 และการจัดทำฐานข้อมูลการ ค้าการลงทุนและการท่องเที่ยว เป็นต้น และเห็นชอบผลการประชุมระดับผู้ว่าราชการจังหวัดและมุขมนตรี ครั้งที่ 6 โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนา 5 แนวพื้นที่เศรษฐกิจ การสนับสนุนข้อเสนอของสภาธุรกิจ IMT-GT และการส่ง เสริมการค้าการลงทุนชายแดน ซึ่งที่ประชุมรัฐมนตรี ฯ ขอให้มุ่งเน้นความสำคัญขององค์กรบริหารระดับจังหวัด/รัฐ และท้องถิ่น รวมทั้งรับทราบการสนับสนุนจากธนาคารพัฒนาเอเชียในการยกระดับศักยภาพศูนย์ประสานความร่วม มืออนุภูมิภาค IMT-GT (CIMT) การกำหนดแผนงานโครงการที่สำคัญตามแนวพื้นที่เศรษฐกิจทั้ง 5 แนว และข้อ เสนอต่าง ๆ สำหรับปี พ.ศ. 2553 2. เห็นชอบให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามผลการประชุมดังกล่าว โดยให้สำนักงานคณะกรรม การพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||
37102 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองชลบุรี พ.ศ. .... | มท | 29/12/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองชลบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ
ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลบางนาง ตำบลบ้านเก่า อำเภอพานทอง ตำบลคลองตำหรุ ตำบลดอนหัว ฬ่อ ตำบลหนองไม้แดง ตำบลนาป่า ตำบลบางทราย ตำบลบ้านสวน ตำบลสำนักบก ตำบลบ้านโขด ตำบล มะขามหย่ง ตำบลบางปลาสร้อย ตำบลหนองรี ตำบลเสม็ด ตำบลหนองข้างคอก ตำบลอ่างศิลา ตำบลห้วย กะปิ ตำบลแสนสุข ตำบลบ้านปึก ตำบลเหมือง อำเภอเมืองชลบุรี และตำบลบางพระ ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรี ราชา จังหวัดชลบุรี ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และ ให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
37103 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน รวม 2 ฉบับ (ในท้องที่จังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพมหานคร) | คค | 29/12/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์
ในท้องที่อำเภอบางบัวทอง อำเภอบางใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี และเขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน และร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเข้าใช้อสังหาริม ทรัพย์เพื่อกิจการขนส่งมวลชนในท้องที่อำเภอบางบัวทอง อำเภอบางใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี และเขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน รวม 2 ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนด ให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ และการเข้าใช้อสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการขนส่งมวลชน ในท้องที่อำเภอบางบัวทอง อำเภอบางใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี และเขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร เป็นกรณีที่มีความจำเป็น โดยเร่งด่วน และเป็นกรณีที่มีความจำเป็นและเร่งด่วน เพื่อดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดสร้าง โครงการขนส่งด้วยระบบรถไฟฟ้า สถานที่จอดรถสำหรับผู้โดยสาร และกิจการอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-ราษฎร์บูรณะ ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ที่คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎ หมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6 ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
37104 | รายงานการรับและการใช้จ่ายเงินที่ไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์) | พณ | 29/12/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินที่ไม่ต้องนำ
ส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 และให้เสนอสภาผู้แทน ราษฎรและวุฒิสภาต่อไป ดังนี้ 1. ประเภทเงินฝากส่งเสริมธุรกิจ ประกอบด้วย 1.1 รายงานแสดงฐานะการเงิน มีสินทรัพย์หมุนเวียนรวม 44,288,996.81 บาท มีสินทรัพย์ไม่ หมุนเวียนรวม 3,900,000.00 บาท มีสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุนรวม 48,183,222.59 บาท 1.2 รายงานแสดงผลการดำเนินงาน มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 649,722.67 บาท ค่าใช้ จ่ายในการดำเนินงานรวม 286,717.00 บาท มีรายได้สูง (ต่ำ) กว่าค่าใช้จ่ายสุทธิ 363,005.67 บาท 1.3 รายงานการรับ-จ่ายเงิน มีรายรับรวม 1,421,936.46 บาท มีรายจ่ายรวม 290,419.99 บาท และมีเงินคงเหลือ ณ วันปลายงวด 43,190,509.04 บาท 2. ประเภทเงินค่าปรับและเงินที่หักไว้เป็นเงินสินบนรางวัล และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานก่อนนำส่ง คลัง มีรายรับรวม 79,017,100.00 บาท มีรายจ่ายรวม 34,283,433.50 บาท รายรับสูง (ต่ำ) กว่ารายจ่าย สุทธิ 44,733,666.50 บาท มีเงินคงเหลือ 23,031,274.94 บาท 3. ประเภทเงินฝากเงินสินบนรางวัล (ค่าปรับ) มีรายรับรวม 35,557,695.00 บาท มีรายจ่ายรวม 33,306,345.00 บาท รายรับสูง (ต่ำ) กว่ารายจ่ายสุทธิ 2,251,350.00 บาท มีเงินคงเหลือ 2,251,350.00 บาท 4. ประเภทเงินฝากเงินกองทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (ค่าปรับ) มีรายรับรวม 11,852,565.00 บาท มีรายจ่ายรวม 977,088.50 บาท รายรับสูง (ต่ำ) กว่ารายจ่ายสุทธิ 10,875,476.50 บาท มีเงินคงเหลือ 20,779,924.94 บาท
|
|||||||||||||||||||||
37105 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จำนวน 14 คน 1. นายชวลิต อัตถศาสตร์ ฯลฯ) | พณ | 29/12/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ชุดใหม่
จำนวน 14 คน เนื่องจากกรรมการชุดเดิมได้ดำรงตำแหน่งมาครบกำหนดสี่ปีตามวาระ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2552 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (29 ธันวาคม 2552) เป็นต้นไป ดังนี้ ผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชน 1. นายชวลิต อัตถศาสตร์ สาขานิติศาสตร์ 2. คุณหญิงประไพศรี พิทักษ์ไพรวัน สาขาเกษตรศาสตร์ 3. นางศิรินันท์ ศันสนาคม สาขานิติศาสตร์ 4. นายบัณฑูร วงศ์สีลโชติ สาขาวิทยาศาสตร์ 5. นางสมใจ วิชัยดิษฐ สาขาวิทยาศาสตร์ 6. นายนำชัย วิทยาวงศ์วณิช สาขาเศรษฐศาสตร์ ผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ 7. นายสมเจตน์ ประทุมมินทร์ สาขาเกษตรศาสตร์ 8. นางสาวทรรศณีย์ ปรัชญาบำรุง สาขาเกษตรศาสตร์ 9. นางรมณี สงวนดีกุล สาขาวิทยาศาสตร์ 10. นางสาววิมล ชาตะมีนา สาขาเศรษฐศาสตร์ 11. นายอำพัน กิจงาม สาขาโบราณคดี 12. นายทศพร นุชอนงค์ สาขาภูมิศาสตร์ 13. นายสุรวิช วรรณไกรโรจน์ สาขาเกษตรศาสตร์ 14. นางรำไพพรรณ นาคะสาทิศ สาขาวิทยาศาสตร์
|
|||||||||||||||||||||
37106 | รายงานผลการแปลงตั๋วเงินคลังเป็นพันธบัตรรัฐบาลในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2552 | กค | 29/12/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการแปลงตั๋วเงินคลังเป็นพันธบัตรรัฐบาลใน
เดือนตุลาคม พ.ศ. 2552 ดังนี้ 1. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการแปลงตั๋วเงินคลังให้เป็นพันธบัตรรัฐบาลจำนวน 23,000 ล้านบาท โดยออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ จำนวน 3 รุ่น ประกอบด้วย 1.1 พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ครั้งที่ 1 (LB155A) อายุ 5.60 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.625 ต่อปี จำนวน 13,000 ล้านบาท จำหน่ายในวันที่ 14 ตุลาคม 2552 1.2 พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ครั้งที่ 2 (LB406A) อายุ 30.70 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี จำนวน 3,000 ล้านบาท จำหน่ายในวันที่ 14 ตุลาคม 2552 1.3 พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ครั้งที่ 3 (LB24DA) อายุ 15.15 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.75 ต่อปี จำนวน 7,000 ล้านบาท จำหน่ายในวันที่ 28 ตุลาคม 2552 2. ภายหลังจากดำเนินการแปลงตั๋วเงินคลังเป็นพันธบัตรรัฐบาลจำนวน 23,000 ล้านบาท แล้ว ทำ ให้ ณ สิ้นเดือนตุลาคม พ.ศ. 2552 กระทรวงการคลังมีวงเงินตั๋วเงินคลังเพื่อใช้ในการบริหารเงินสดรับ-เงินสด จ่ายของรัฐบาลจำนวน 258,000 ล้านบาท ประกอบด้วยตั๋วเงินคลังเพื่อการบริหารเงินสด-รับจ่าย ของรัฐบาล จำนวน 80,000 ล้านบาท และตั๋วเงินคลังเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณที่สะสมมาจนถึงสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 จำนวน 178,000 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||
37107 | รายงานผลการเข้าร่วมงาน World Travel Market (WTM) 2009 ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (ระหว่างวันที่ 9 - 12 พฤศจิกายน 2552) | กก | 29/12/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานผลการเข้าร่วมงาน World Travel
Market (WTM) 2009 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 9-12 พฤศจิกายน 2552 โดยใน ส่วนของประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จองพื้นที่ขนาด 420 ตารางเมตร เพื่อก่อสร้างเป็น คูหาประเทศไทย (Thailand Stand) มีผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวภาคเอกชนไทย จำนวน 58 โต๊ะ มีภาคเอกชน เข้าร่วมงาน 100 หน่วยงาน ประกอบด้วย โรงแรม 91 หน่วยงาน บริษัทนำเที่ยว 7 หน่วยงาน และธุรกิจท่องเที่ยว อื่น ๆ 2 ราย สำหรับกิจกรรมภายในงาน ททท. ได้จัดทำเอกสารสำหรับแจกผู้มาเยี่ยมชมโดยเปิดตัวหนังสือคู่มือ ท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ชื่อ "Patients Beyond Borders" ของนักเขียนชื่อดัง โจเซฟ วูดแมน แนะนำการบริการเชิง การแพทย์ของโรงพยาบาล และ Medical spa ชั้นนำของประเทศไทย รวมทั้งการสาธิตและบริการนวดให้กับผู้เข้า ร่วมงานโดยเชิญผู้ประกอบการ S.Medical ซึ่งได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards 2008) รางวัลดีเด่นประเภทสถานพยาบาลที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพทำการสาธิตและบริการนวดให้กับ ผู้เข้าร่วมงาน ในส่วนของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยได้รับความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ ทั้งการเจรจาธุรกิจ และการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้ซื้อ
|
|||||||||||||||||||||
37108 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลคลองใหญ่ ตำบลน้ำเชี่ยว อำเภอแหลมงอบ และตำบลวังกระแจะ ตำบลหนองโสน อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด พ.ศ. .... | กษ | 29/12/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่
ตำบลคลองใหญ่ ตำบลน้ำเชี่ยว อำเภอแหลมงอบ และตำบลวังกระแจะ ตำบลหนองโสน อำเภอเมืองตราด จังหวัด ตราด พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ตำบลคลองใหญ่ ตำบลน้ำเชี่ยว อำเภอแหลมงอบ และตำบลวังกระแจะ ตำบลหนองโสน อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด เพื่อก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ พร้อมระบบส่งน้ำและระบบระบายน้ำ ตามโครงการปรับปรุงตัวเขื่อนเพื่อเพิ่มความจุเขื่อนเขาระกำ พร้อมระบบส่ง น้ำ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนิน การต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
37109 | รายงานผลการเข้าร่วมงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวงาน MATIW - Leisure 2009 ณ สหพันธรัฐรัสเซียและผลการเยือนสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน (ระหว่างวันที่ 22 - 24 กันยายน 2552 และระหว่างวันที่ 24 - 26 กันยายน 2552) | กก | 29/12/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอรายงานผลการเข้าร่วมงานส่งเสริมการ
ขายทางการท่องเที่ยวงาน MATIW-Leisure 2009 ณ สหพันธรัฐรัสเซีย ระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน 2552 และ ผลการเยือนสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน ระหว่างวันที่ 24-26 กันยายน 2552 ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่อง เที่ยวและกีฬา สรุปได้ดังนี้ 1. ผลการเข้าร่วมงาน MATIW-Leisure 2009 ณ สหพันธรัฐรัสเซีย ประเทศไทยได้รับเกียรติจากผู้จัดงาน ในการเป็นเจ้าภาพรวมหรือ "Country Partner" ซึ่งได้รับสิทธิประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์และโฆษณาการท่อง เที่ยวของประเทศไทยผ่านสื่อต่าง ๆ ในงานโดยเฉพาะการส่งเสริมภาพลักษณ์ "Amazing Thailand Amazing Value" ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความคุ้มค่าทั้งในด้านค่าใช้จ่ายและประสบการณ์ของนักกท่องเที่ยว รวมทั้งการเป็นแหล่ง ท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยที่เข้าร่วมงานดังกล่าวมีความพอใจระดับ ปานกลางถึงค่อนข้างสูง เนื่องจากบริษัทนำเที่ยวรัสเซียได้ให้ความสำคัญกับประเทศไทย โดยผู้ประกอบการธุรกิจ ท่องเที่ยวของไทยได้นำเสนอขายสินค้าทางการท่องเที่ยวที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ได้แก่ พัทยา ภูเก็ต กระบี่ และสมุย และตลอดการเข้าร่วมงาน มีบริษัทนำเที่ยวรัสเซียมาติดต่อขอข้อมูลและเจรจาไม่น้อยกว่า 40 ราย 2. ผลการเยือนสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้พบหารือกับ ประธานการท่องเที่ยวอุซเบกิสถานเกี่ยวกับการเร่งรัดให้มีการเปิดกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองทาชเคนต์ สาธารณรัฐ อุซเบกิสถาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวชาวอุซเบกิสถานในการยื่นขอวีซ่าเพื่อเดินทางมายังประเทศ ไทย และการลงนามในบันทึกความเข้าใจด้านการท่องเที่ยว (MOU) ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐอุซเบกิ สถาน คาดว่าจะสามารถลงนามได้ภายในปี พ.ศ. 2553 รวมทั้งได้พบปะผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวรายใหญ่ ๆ ของสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน เพื่อหารือเรื่องรูปแบบกิจกรรมส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวประเทศไทยในรูป แบบต่าง ๆ ในช่องทางที่เหมาะสมและได้รับประโยชน์สูงสุด
|
|||||||||||||||||||||
37110 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดค่าบริการ ค่าภาระ หรือเงินตอบแทนเพื่อการใช้สนามบินอนุญาตที่ให้บริการแก่สาธารณะซึ่งเจ้าของหรือผู้ดำเนินการจะเรียกเก็บได้ พ.ศ. .... | นร | 29/12/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดค่าบริการ ค่าภาระ หรือเงินตอบแทนเพื่อการ
ใช้สนามบินอนุญาตที่ให้บริการแก่สาธารณะซึ่งเจ้าของหรือผู้ดำเนินการจะเรียกเก็บได้ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างพระราช กฤษฎีกา ฯ มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ค่าบริการ ค่าภาระ หรือเงินตอบแทนซึ่งเจ้าของหรือผู้ดำเนินการสนาม บินอนุญาตที่ให้บริการแก่สาธารณะจะเรียกเก็บได้ตามร่างมาตรา 3 ดังนี้ 1. จากกิจกรรมการเดินอากาศ ได้แก่ การใช้สิ่งอำนวยความสะดวก การรักษาความปลอดภัย การ ดำเนินการเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และการบริการอย่างอื่นสำหรับการปฏิบัติการของอากาศยาน 2. จากกิจกรรมการบริการภาคพื้นดิน สำหรับสนามบินซึ่งมิได้ประกาศเขตลานจอด ได้แก่ การใช้ อุปกรณ์ภาคพื้นดิน การรับส่งผู้โดยสารระหว่างตัวอากาศยานและอาคารที่พัก รวมถึงสะพานเทียบเครื่องบิน 3. จากกิจกรรมซึ่งมิใช่กิจกรรมตามข้อ 1. และข้อ 2. แต่เจ้าของหรือผู้ดำเนินการสนามบินอนุญาต จัดทำขึ้นโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือข้อบังคับ หรือเพื่อประโยชน์ในการให้บริการแก่ผู้ใช้ สนามบินอนุญาต
|
|||||||||||||||||||||
37111 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลนาอ้อ อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย พ.ศ. .... | มท | 29/12/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลนาอ้อ อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันในท้องที่ตำบลนาอ้อ อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย บาง ส่วน เนื้อที่ประมาณ 18 ไร่ 3 งาน 08 2/10 ตารางวา เพื่อมอบให้เทศบาลตำบลนาอ้อใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างอาคาร สำนักงานและอาคารประกอบอื่น ๆ ของเทศบาลตำบลนาอ้อ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
37112 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยนเรศวร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 29/12/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขา
วิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยนเรศวร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ คือ กำหนดปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาเทคโนโลยี เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
37113 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลห้วยกะปิ และตำบลหนองข้างคอก อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 29/12/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริม
ทรัพย์ ในท้องที่ตำบลห้วยกะปิ และตำบลหนองข้างคอก อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็น โดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างทางหลวงชนบทสายเชื่อมระหว่างถนน ข้าวหลามกับทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 ในท้องที่ตำบลห้วยกะปิ และตำบลหนองข้างคอก อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัด ชลบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎ หมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
37114 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3256 สายแยกถนนอ่อนนุช (ลาดกระบัง) - บางพลี ตอนแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 - บรรจบทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 3268 และเพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3116 สายแยก ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 (บางปิ้ง) - แพรกษา ที่บ้านคลองเก้า เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 29/12/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริม
ทรัพย์ เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3256 สายแยกถนนอ่อนนุช (ลาดกระบัง)-บางพลี ตอนแยกทางหลวง แผ่นดินหมายเลข 3-บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3268 และเพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3116 สาย แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 (บางปิ้ง)-แพรกษา ที่บ้านคลองเก้า เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่ กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจ พิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
37115 | รายงานการรับและการใช้จ่ายเงินของเงินทุนหมุนเวียน และเงินรายรับประจำปีงบประมาณ 2551 | กห | 29/12/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินของเงิน
ทุนหมุนเวียน และเงินรายรับ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมและกอง บัญชาการกองทัพไทย และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป ดังนี้ 1. ประเภทเงินทุนหมุนเวียนโรงงานเภสัชกรรมทหาร 1.1 รายงานแสดงฐานะการเงิน มีสินทรัพย์รวม 162,863,237.53 บาท มีหนี้สินหมุนเวียน รวม 17,337,599.38 บาท รวมหนี้สินและทุน 162,863,237.53 บาท 1.2 รายงานแสดงผลการดำเนินงาน มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 121,775,541.26 บาท มีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน 104,667,225.16 บาท มีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายสุทธิ 17,108,316.10 บาท 1.3 รายงานการรับ-จ่ายเงิน มีรายรับ121,363,741.53 บาท มีรายจ่าย 116,498,523.15 บาท และมีเงินคงเหลือ ณ วันปลายงวด 49,754,494.63 บาท 2. ประเภทเงินทุนหมุนเวียนศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ 2.1 รายงานแสดงฐานะการเงิน มีสินทรัพย์รวม 634,420,000 บาท มีหนี้สนหมุนเวียนรวม 228,580,000 บาท รวมสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน 634,420,000 บาท 2.2 รายงานแสดงผลการดำเนินงาน มีรายได้แหล่งอื่นรวม 39,950,000 บาท มีค่าใช้จ่ายจาก การดำเนินงานรวม 49,460,000 บาท มีรายได้ต่ำกว่าค่าใช้จ่ายสุทธิ 9,510,000 บาท 2.3 รายงานการรับ-จ่ายเงิน มีรายรับรวม 261,700,000 บาท มีรายจ่ายรวม 77,970,000 บาท และมีเงินคงเหลือ ณ วันปลายงวด 298,020,000 บาท 3. ประเภทเงินทุนหมุนเวียนหนวยงาน รวท. อท. ศอพท. 3.1 รายงานแสดงฐานะการเงิน มีสินทรัพย์ 139,301,805.14 บาท มีหนี้สิน 2,478,889.57 บาท มีหนี้สินและสินทรัพย์สุทธิ 139,301,805.14 บาท 3.2 รายงานแสดงผลการดำเนินงาน มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 43,048,191.24 บาท มีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน 29,189,243.96 บาท มีรายได้สูงจากค่าใช้จ่ายสุทธฺ 13,858,947.28 บาท 3.3 รายงานการรับ-จ่ายเงิน มีรายรับ 34,916,243.26 บาท มีรายจ่าย 22,666,361.25 บาท และมีเงินคงเหลือ ณ วันปลายงวด 64,607,835.20 บาท 4. ประเภทเงินทุนหมุนเวียนสำนักงานคณะกรรมการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ 4.1 รายงานแสดงฐานะการเงิน มีสินทรัพย์รวม 246,515,708.16 บาท มีหนี้สิน 447,640 บาท มีหนี้สินและส่วนของทุนรวม 246,515,708.16 บาท 4.2 รายงานแสดงผลการดำเนินงาน มีรายได้จากการดำเนินงาน 33,790,857.26 บาท มี ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน 33,132,107.16 บาท มีกำไรสุทธิ 658,750.10 บาท 4.3 รายงานการรับ-จ่ายเงิน มีรายรับ 221,293,766.90 บาท มีรายจ่าย 10,694,699.22 บาท และมีเงินคงเหลือ ณ วันปลายงวด 210,599,067.68 บาท 5. ประเภทเงินทุนหมุนเวียนโรงงานแบตเตรี่ทหาร 5.1 รายงานแสดงฐานะการเงิน มีสินทรัพย์หมุนเวียนรวม 30,282,025.75 บาท มีหนี้สิน รวม 28,828,071.81 บาท มีหนี้สินและสินทรัพย์สุทธิรวม 30,282,025.75 บาท 5.2 รายงานแสดงผลการดำเนินงาน มีรายได้จากแหล่งอื่น 7,204 บาท มีค่าใช้จ่ายจากการ ดำเนินการรวม 6,179,132.19 บาท มีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายสุทธิ 28,828,071.81 บาท 5.3 รายงานการรับ-จ่ายเงิน มีรายรับ 35,007,204 บาท รายจ่าย 6,179,132.19 บาท มี เงินคงเหลือ ณ วันปลายงวด 28,828,071.81 บาท 6. ประเภทเงินทุนหมุนเวียนกรมแผนที่ทหาร 6.1 รายงานแสดงฐานะการเงิน มีสินทรัพย์ 221,302,936.57 บาท หนี้สิน 13,014,721.69 บาท รวมสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน 208,288,214.88 บาท 6.2 รายงานแสดงผลการดำเนินงาน มีรายได้จากการดำเนินงาน 71,299,288.34 บาท มีค่า ใช้จ่ายจากการดำเนินงาน 3,224,636.78 บาท มีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายสุทธิ 21,568,596.28 บาท 6.3 รายงานการรับ-จ่ายเงิน มีร่ายรับ 167,522,613.25 บาท รายจ่าย 177,468,951.79 บาท และมีเงินคงเหลือ ณ วันปลายงวด 27,437,633.91 บาท 7. ประเภทเงินรายรับสถานศึกษา กองบัญชาการกองทัพไทย รายงานการรับ-จ่ายเงิน และเงิน คงเหลือ มีรายรับรวม 59,853,220.22 บาท มีรายจ่ายรวม 52,827,736.11 บาท มีเงินคงเหลือทั้งสิ้นรวม 21,863,358.27 บาท 8. ประเภทเงินรายรับสถานพยาบาล กองบัญชาการกองทัพไทย รายงานการรับ-จ่ายเงิน และ เงินคงเหลือ มีรายรับรวม 80,837,142.09 บาท มีรายจ่ายรวม 70,249,480.11 บาท มีเงินคงเหลือทั้งสิ้น รวม 27,269,363.71 บาท
|
|||||||||||||||||||||
37116 | รายงานการรับและใช้จ่ายเงินที่ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 170 สำหรับสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) | พณ | 29/12/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินที่ไม่ต้องนำ
ส่งเป็นรายได้แผ่นดินตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 170 สำหรับสถาบันวิจัยและ พัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป สรุป ได้ดังนี้ 1. ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป 1.1 รายงานแสดงฐานะการเงิน มีสินทรัพย์หมุนเวียนรวม 189,658,080.42 บาท มีสินทรัพย์ไม่ หมุนเวียนรวม 279,685,411.46 บาท มีสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุนรวม 330,958,059.12 บาท 1.2 รายงานแสดงผลการดำเนินงาน มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 194,668,587.65 บาท มี ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานรวม 64,711,908.42 บาท มีรายได้สูง (ต่ำ) กว่าค่าใช้จ่ายสุทธิ 129,956,679.23 บาท 1.3 รายการรับ-จ่ายเงินและเงินคงเหลือ มีรายรับรวม 194,729,992.41 บาท มีรายจ่ายรวม 213,937,912.01 บาท มีเงินคงเหลือรวมทั้งสิ้น 182,447,204.88 บาท 1.4 รายการรับ-จ่ายเงิน มีรายรับรวม 136,157,921.91 บาท มีรายจ่ายรวม 9,799,521.70 บาท และมีเงินคงเหลือ ณ วันปลายงวด 126,358,400.21 บาท 2. ประเภทเงินรายได้และเงินนอกงบประมาณ รายงานผลการดำเนินงาน มีรายรับ 136,157,921. 91 บาท มีรายจ่ายรวม 9,799,521.70 บาท และมีเงินคงเหลือ ณ วันปลายงวด 126,358,400.21 บาท
|
|||||||||||||||||||||
37117 | รายงานการรับและการใช้จ่ายเงินของโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ (องค์การมหาชน) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 | ศธ | 29/12/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอรายงานการรับและใช้จ่ายเงินของโรงเรียน
มหิดลวิทยานุสรณ์ (องค์การมหาชน) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 เปรียบเทียบกับปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ดังนี้ ฐานะการเงินในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 โรงเรียนมหิดล ฯ มีสินทรัพย์รวม 517,670,100.17 บาท เพิ่ม ขึ้นร้อยละ 2.83 ในส่วนของรายได้ โรงเรียนมหิดล ฯ มีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย 13,508,744.91 บาท ลดลงร้อย ละ 68.15 และมีเงินคงเหลือ ณ วันปลายงวด 219,902,093.43 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.43 และให้เสนอสภาผู้ แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
37118 | รายงานการรับและการใช้จ่ายเงินของสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 | ศธ | 29/12/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินของสถาบัน
ระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 เปรียบเทียบกับปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2550 ดังนี้ ฐานะการเงินในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 สถาบัน ฯ มีสินทรัพย์รวม 76,321,820.72 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 8.84 ในส่วนของรายได้ สถาบัน ฯ มีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย 6,199,637.55 บาท ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 75.93 ทั้งนี้ สถาบัน ฯ มีเงินคงเหลือ ณ วันปลายงวด 32,858,028.38 บาท เพิ่มขึ้นจากปี ก่อนร้อยละ 112.79 และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
37119 | รายงานการรับและการใช้จ่ายเงินของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 | ศธ | 29/12/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอรายงานการรับและใช้จ่ายเงินของสำนักงาน
คณะกรรมการการอาชีวศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 เปรียบเทียบกับปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ดังนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 สำนักงาน ฯ มีรายรับ 2,188,601,110.01 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 16.09 รายจ่าย 1,941,919,666.07 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.66 และเงินคงเหลือ 1,420,577,371.02 บาท เพิ่มขึ้นร้อย ละ 21.01 และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
37120 | แผนเตรียมรับสถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตร ประจำปีงบประมาณ 2553 และขอความเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร | กษ | 29/12/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
1. รับทราบแผนเตรียมรับสถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 เพื่อ เป็นแนวทางการดำเนินการป้องกันและลดผลกระทบจากปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร ของหน่วยงานในสังกัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการเตรียมรับสถานการณ์ป้องกันและบรรเทาความเสียหายจากปัญหาภัยพิบัติ ด้านการเกษตร และให้การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ โดยมีระยะเวลา ในการเตรียมรับสถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตร 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ช่วงเดือนตุลาคม 2552-มีนาคม 2553 และระยะที่ 2 ช่วงเดือนเมษายน 2553-กันยายน 2553 2. เห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร โดยมีรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน และหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นกรรมการ และเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย มาตรการ และแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัย พิบัติด้านการเกษตร พัฒนาระบบการบริหารจัดการภัยพิบัติด้านการเกษตร รวมทั้งพิจารณาให้ความเห็นชอบ และบูรณาการแผนงาน/โครงการ งบประมาณในการป้องกันภัยพิบัติดังกล่าว
|
.....