ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1857 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 37121 - 37140 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
37121 | คณะกรรมการต่างๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง (กระทรวงอุตสาหกรรม) (จำนวน 3 คณะ) | อก | 29/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแก้ไขข้อมูลคณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง จำนวน 3 คณะ ตามที่
กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้ 1. คณะกรรมการกำหนดแหล่งหินสำหรับการทำเหมืองหินอุตสาหกรรม แก้ไขข้อความในบรรทัดที่ 2 จากเดิม "กระทรวงอุตสาหกรรม กรมทรัพยากรธรณี" เป็น "กระทรวงอุตสาหกรรม กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและ การเหมืองแร่" 2. คณะกรรมการดัชนีอุตสาหกรรม แก้ไข 2.1 อำนาจหน้าที่ ข้อ 2 จากเดิม "...การจัดทำข้อมูลและดัชนีอุตสาหกรรม" เป็น "...การจัดทำข้อมูล ดัชนีอุตสาหกรรม" 2.2 องค์ประกอบของคณะกรรมการ ข้อ 6 จากเดิม "เลขาธิการสำนักงานสถิติแห่งชาติ หรือผู้แทน" เป็น "ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ หรือผู้แทน" และข้อ 8 จากเดิม "ผู้อำนวยการส่งเสริมวิสาหกิจขนาด กลางและขนาดย่อม หรือผู้แทน" เป็น "ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือผู้ แทน" 3. คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการจดทะเบียนบุคลากร หลักสูตรและองค์กรฝึกอบรมด้านการมาตร ฐาน แก้ไของค์ประกอบของคณะกรรมการ ข้อ 13 จากเดิม "ผู้แทนสถาบันส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น)" เป็น "ผู้แทนสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น)"
|
||||||||||||||||||||||||
37122 | รายงานผลการเตรียมความพร้อมของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 | นร | 29/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอรายงานผลการเตรียมความพร้อม
ของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด (ก.ธ.จ.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 โดย ก.ธ.จ. จะปฏิบัติภารกิจการ ตรวจสอบและติดตามงาน/โครงการตามแผนพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ แผนปฏิบัติราชการประจำ ปีของจังหวัด และการใช้จ่ายงบประมาณของจังหวัด งบประมาณของกระทรวงและกรมที่ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัด รวมทั้ง งบอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนรับฟังข้อคิดเห็น ปัญหาข้อร้องเรียนจากประชาชนเกี่ยวกับการ ดำเนินการหรือการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐ/เจ้าหน้าที่ของรัฐ สำหรับแผนที่จะสนับสนุนการดำเนินงาน ของ ก.ธ.จ. ในช่วงต่อไป เช่น การศึกษาวิจัยกำหนดกรอบทิศทางในการปฏิบัติงานที่เป็นมาตรฐานตามอำนาจหน้า ที่ของ ก.ธ.จ. และกำหนดตัวชี้วัดการปฏิบัติงานที่ชัดเจน การประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับบทบาทและอำนาจหน้าที่ของ ก.ธ.จ. เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้รับทราบเกี่ยวกับกลไกการตรวจสอบภาคประชาชนตามระเบียบ ฯ เพื่อให้การปฏิบัติ งานของ ก.ธ.จ. มีความคล่องตัวและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และการประสานความร่วมมือระหว่าง ก.ธ.จ. กับ องค์กรตรวจสอบและองค์กรติดตามประเมินผลอื่นๆ เพื่อให้การขับเคลื่อนธรรมาภิบาลและการบริหารกิจการบ้าน เมืองที่ดีมีอยู่ในระบบการบริหารของทุกหน่วยงานของรัฐ ทุกจังหวัด เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
37123 | ผลการประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 1 | กต | 29/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอผลการประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น
ครั้งที่ 1 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 5-7 พฤศจิกายน 2552 โดยการประชุมแบ่งเป็น 2 ช่วง ดังนี้ 1. การประชุมช่วงที่ 1 หัวข้อ "การพัฒนาภูมิภาคลุ่มน้ำโขงในภาพรวม" ผู้นำของประเทศลุ่มน้ำโขง 5 ประเทศ (กัมพูชา สปป.ลาว พม่า ไทย และเวียดนาม) กับญี่ปุ่นได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในการพัฒนาภูมิภาคลุ่ม น้ำโขงโดยรวมภายใต้หัวข้อ "การจัดตั้งหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาใหม่เพื่ออนาคตที่รุ่งเรืองร่วมกัน" โดยเน้นถึงความ สำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงอนุภูมิภาคโดยเฉพาะเส้นทางตามแนวพื้นที่เศรษฐกิจตะวันออก- ตะวันตก และแนวพื้นที่เศรษฐกิจใต้ ซึ่งญี่ปุ่นให้ความสนใจและการอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามพรมแดน โดยเสนอให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอนุภูมิภาคเป็นเงิน 500,000 ล้านเยน หรือประมาณ 170,000 ล้าน บาท) 2. การประชุมช่วงที่ 2 หัวข้อ "การสร้างสังคมที่เน้นคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์" ที่ประชุมได้ หารือในประเด็นระหว่างประเทศต่าง ๆ ที่เป็นภัยคุกคามต่อการพัฒนาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ได้แก่ ปัญหาสิ่งแวด ล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยพิบัติ โรคติดต่อ การเก็บกู้ระเบิด วิกฤตเศรษฐกิจ และการลักลอบ ค้ามนุษย์ โดยญี่ปุ่นมีข้อเสนอกำหนดให้มีเป้าหมายในการทำให้ทศวรรษหน้าเป็นทศวรรษลุ่มน้ำโขงเขียวขจี นอก จากนี้ ที่ประชุมได้หารือในประเด็นการเมืองระหว่างประเทศ ครอบคลุมทั้งเรื่องพม่า เกาหลีเหนือ การปฏิรูปสห ประชาชาติ และการส่งเสริมการท่องเที่ยว และปฏิสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชน ทั้งนี้ ผู้นำลุ่มน้ำโขงกับ ญี่ปุ่นได้รับรองปฏิญญาโตเกียวและแผนปฏิบัติการ 63 ข้อ ซึ่งกำหนดวิสัยทัศน์ในอนาคตและระบุประเด็นที่จะให้ ความสำคัญ รวมถึงกลไกการจัดการประชุมภายใต้กรอบความร่วมมือดังกล่าว
|
||||||||||||||||||||||||
37124 | ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2552 นโยบายของคณะกรรมการ และโครงการและแผนงานของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยในอนาคต | คค | 29/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานผลการดำเนินงานปีงบประมาณ พ.ศ. 2552
ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และโครงการและแผนงานในอนาคต ซึ่งคณะกรรมการ รฟม. เห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2552 สรุปได้ดังนี้ 1. ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ประกอบด้วย 1.1 ด้านการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ได้แก่ ผลการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และโครง การรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ 1.2 ด้านการเงินและการลงทุน รฟม. มีรายได้ 730.45 ล้านบาท รายจ่าย 12,720.97 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 11,990.52 ล้านบาท 1.3 ด้านการให้บริการ มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคลเฉลี่ย 173,054 คน/วัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 2.72 1.4 ด้านการบริหารจัดการองค์กรและพัฒนาทรัพยากรบุคคล ได้แก่ การพัฒนาระบบสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน การจัดทำฐานข้อมูลเพื่อนำไปสู่ศูนย์กลางองค์ความรู้ด้านรถไฟฟ้า การ พัฒนาระบบบริหารจัดการความรู้ รวมทั้งการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีจากผู้รับจ้างไว้ในเอกสารประกวด ราคา และการจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552-2555 เพื่อใช้เป็นกรอบทิศทางในการดำเนินการ เป็นต้น 2. โครงการและแผนงานในอนาคต จำนวน 5 ด้าน 15 โครงการ ประกอบด้วย 2.1 การพัฒนาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน จำนวน 5 โครงการ 2.2 การเงินและการลงทุน จำนวน 1 โครงการ 2.3 การให้บริการ จำนวน 2 โครงการ 2.4 การบริหารจัดการองค์กรและพัฒนาทรัพยากรบุคคล จำนวน 7 โครงการ
|
||||||||||||||||||||||||
37125 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ เข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน พ.ศ. .... | พณ | 29/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุ
ดิบอาหารสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงพาณิชย์ เสนอ และส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้ว ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างประกาศ ฯ มีสาระสำคัญคือ 1. ให้ข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ตามพิกัดอัตราศุลกากรขาเข้าประเภทย่อยที่ 1005.90.90 ซึ่งมีถิ่นกำเนิดและส่งตรงมาจากประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตามความตกลง เขตการค้าเสรีอาเซียนเป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form D) หนังสือรับรองแสดงการได้ รับสิทธิในการยกเว้นภาษีทั้งหมดหรือบางส่วน และหนังสือหรือใบรับรองสุขอนามัยพืช หรือเอกสารหลักฐาน อื่นที่แสดงการรับรองสุขอนามัยพืช แสดงต่อกรมศุลกากรในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อประกอบการ ใช้สิทธิพิเศษทางด้านภาษีศุลกากร 2. การขอและการออกหนังสือรับรองให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามระเบียบที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กำหนด 3. การนำเข้าข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่มีมูลค่าตามราคา เอฟ โอ บี ไม่เกินสองร้อยดอล ลาร์สหรัฐ ไม่ต้องแสดงหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form D) ต่อกรมศุลกากร
|
||||||||||||||||||||||||
37126 | ขออนุมัติเงินอุดหนุนคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน | กต | 29/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการให้ไทยจ่ายเงินอุดหนุนแก่คณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียน
ว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (ASEAN Intergovernmental Commission on Human Rights : AICHR) เป็นรายปี ตามที่ กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ส่วนงบประมาณที่ต้องใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ให้กระทรวงการต่าง ประเทศตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
37127 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ของกระทรวงยุติธรรม | ยธ | 29/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการ
เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 22,649,000 บาท เพื่อใช้ในโครงการกำลังใจในพระดำริพระเจ้า หลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
37128 | การวิเคราะห์ความเสี่ยงตามหลักธรรมาภิบาลของแผนงาน/โครงการที่สำคัญตามนโยบายรัฐบาล | นร | 29/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้
1. แนวทางและหลักเกณฑ์การวิเคราะห์ความเสี่ยงตามหลักธรรมาภิบาลของแผนงาน/โครงการที่สำคัญ ตามนโยบายรัฐบาล เพื่อให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นนำหลักเกณฑ์ดังกล่าวไปใช้ในการจัดทำ คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 โดยแนวทางและหลักเกณฑ์การวิเคราะห์ความ เสี่ยงตามหลักธรรมาภิบาล ฯ ประกอบด้วย 1.1 กรอบการวิเคราะห์ความเสี่ยงตามหลักธรรมาภิบาล ฯ 1.2 ขอบเขตแผนงาน/โครงการที่ต้องวิเคราะห์ความเสี่ยงตามหลักธรรมาภิบาล ฯ 1.3 ขั้นตอนการวิเคราะห์ความเสี่ยงตามหลักธรรมาภิบาล ฯ 1.4 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการวิคราะห์ความเสี่ยงตามหลักธรรมาภิบาล ฯ 1.5 คู่มือแนวทางและหลักเกณฑ์การวิเคราะห์ความเสี่ยงตามหลักธรรมาภิบาล ฯ 2. ในการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ซึ่งเป็นปีแรกที่จะเริ่มใช้การ วิเคราะห์ความเสี่ยงตามหลักธรรมาภิบาล ฯ เพื่อประกอบการพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี นั้น ให้ทุกส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นทำการวิเคราะห์ความเสี่ยงตามหลักธรรมาภิบาลของแผนงาน/ โครงการลงทุนที่ใช้งบประมาณสูงสุดอันดับแรกก่อน ส่วนการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีในปีต่อ ๆ ไป ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นขยายผลการวิเคราะห์ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น สำหรับจังหวัดและกลุ่ม จังหวัดให้ทำการวิเคราะห์ความเสี่ยงตามหลักธรรมาภิบาล ฯ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 เป็นต้นไป เนื่องจาก จังหวัดและกลุ่มจังหวัดได้รับการจัดสรรงบประมาณในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี เริ่มตั้งแต่ปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2552 และ 2553 ตามลำดับ จึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการเตรียมการอีกระยะหนึ่ง |
||||||||||||||||||||||||
37129 | การยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางพิเศษสายบางนา - ชลบุรี) ทางยกระดับด้านทิศใต้สนามบินสุวรรณภูมิเชื่อมทางพิเศษบูรพาวิถี และทางเชื่อมต่อทางพิเศษ สายบางพลี - สุขสวัสดิ์ กับทางพิเศษบูรพาวิถี | คค | 29/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
1. การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้พิจารณายกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางพิเศษ สายบางนา-ชลบุรี) ทางยกระดับด้านทิศใต้สนามบินสุวรรณภูมิเชื่อมทางพิเศษบูรพาวิถี และทางเชื่อมต่อทางพิเศษ สายบางพลี-สุขสวัสดิ์ กับทางพิเศษบูรพาวิถี ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ตามมติคณะกรรมการ กทพ. 2. กระทรวงคมนาคมได้มีประกาศยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางพิเศษสายบางนา -ชลบุรี) ทางยกระดับด้านทิศใต้สนามบินสุวรรณภูมิเชื่อมทางพิเศษบูรพาวิถี และทางเชื่อมต่อทางพิเศษสายบางพลี -สุขสวัสดิ์ กับทางพิเศษบูรพาวิถี ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2552 เวลา 00.01 นาฬิกา ถึงวันที่ 3 มกราคม 2553 เวลา 24.00 นาฬิกา
|
||||||||||||||||||||||||
37130 | ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ครั้งที่ 9/2552 | นร | 29/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหา
ทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ครั้งที่ 9/2552 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2552 ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ กรอ. เสนอ โดยมีผลการประชุมสรุปได้ดังนี้ 1. ที่ประชุมมีมติมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดตั้งคณะทำงาน โดยมีอธิบดีกรม การค้าภายในเป็นประธาน และผู้แทนกรมการค้าภายในและภาคเอกชนเป็นเลขานุการร่วม เพื่อทบทวนหลักเกณฑ์ การกำหนดสินค้าควบคุม แนวทางการกำกับดูแลราคาสินค้าเฝ้าระวัง รวมทั้งหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาการขึ้น ราคาสินค้าและบริการ 2. ที่ประชุมมีมติมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดแจ้งผลการจัดสรรโควตาการนำเข้านมผงปี พ.ศ. 2553 ให้กระทรวงพาณิชย์เพื่อนำไปดำเนินการออกประกาศโควตานำเข้านมผงสำหรับปี พ.ศ. 2553 3. ที่ประชุมมีมติมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะฝ่าย เลขานุการคณะกรรมการ กรอ. รับผลการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 27 ไปพิจารณาประกอบในการจัดทำ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 และให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามยุทธศาสตร์ เศรษฐกิจประเทศ ของหอการค้าไทย โดยในส่วนที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดและกลุ่มจังหวัดนั้น ให้ประสานคณะกรรมการ นโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ และกระทรวงมหาดไทย เพื่อพิจารณานำยุทธศาสตร์ 18 กลุ่มจังหวัด ของหอการค้าไทย ไปใช้ประกอบในการขับเคลื่อนการพัฒนาในระดับที่ควบคู่ไปกับยุทธศาสตร์การ พัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดของภาครัฐต่อไป 4. ที่ประชุมมีมติรับทราบความคืบหน้าข้อเสนอมาตรการภาษีของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และมอบหมายให้กระทรวงการคลังเสนอรายงานดังกล่าวต่อคณะกรรมการ กรอ. อีกครั้ง ภายในเดือนมกรา คม 2553 5. ที่ประชุมมีมติรับทราบเกี่ยวกับความคืบหน้าการฟ้องร้องต่อศาลปกครองเพื่อบังคับให้รัฐต้องปฏิบัติตาม กฎหมายทุกขั้นตอนตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 67 และให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของคณะกรรมการ กรอ. ไปประกอบการพิจารณาในการดำเนินการต่อไปด้วย 6. ที่ประชุมมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ 21 ณ ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2552 โดยมีประเด็นในเรื่องแผนงาน Ease of Doing Business ของเอเปคที่ให้ความสำคัญกับการลด อุปสรรคทางกฎระเบียบ ตามแผนปฏิบัติการว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจ (The Ease of Doing Business Action Plan) ซึ่งกำหนดเป้าหมายให้สามารถลดต้นทุนระยะเวลา และจำนวนขั้นตอนลงร้อยละ 25 ภาย ในปี พ.ศ. 2558 ใน 5 เรื่องสำคัญ ตามเกณฑ์การวัดของธนาคารโลก ได้แก่ การเริ่มต้นธุรกิจ การได้รับสินเชื่อ การ ค้าชายแดน การบังคับตามสัญญา และการขอใบอนุญาต รวมทั้งได้กำหนดให้ลดค่าใช้จ่ายทางด้านธุรกรรมลงร้อย ละ 5 ภายในปี พ.ศ. 2554 โดยให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นหน่วยงาน ประสานและบูรณาการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปรับปรุงบริการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถใน การประกอบธุรกิจให้เกิดผลสำเร็จต่อเนื่องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
37131 | ความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกร ณ วันที่ 25 ธันวาคม 2552 | นร | 29/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรม
การประสานการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกรเสนอ ดังนี้ 1. รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกร ณ วันที่ 25 ธันวาคม 2552 โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้รับจดทะเบียนผู้ปลูกข้าวเพิ่มขึ้น 73,513 ราย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการขึ้นทะเบียนผู้ปลูก ข้าว ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2552 ส่วนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ดำเนินการจัดทำสัญญากับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวแล้ว ร้อยละ 89.34 ของจำนวนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน ไว้ 3.468 ล้านราย สำหรับการทำสัญญาประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และข้าว ทาง ธ.ก.ส. ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2552 ยกเว้นมันสำปะหลังได้รับอนุมัติให้ขยายระยะเวลา ถึงวันที่ 15 มกราคม 2553 ซึ่งยังมีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ผ่านประชาคมแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำสัญญาอีก 4,735 ราย ข้าว 236,082 ราย และมันสำปะหลัง 15,493 ราย ตามลำดับ 2. รับทราบผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2552 กรณีผ่อนผันให้เกษตร กรผู้ปลูกข้าวที่ขึ้นทะเบียนหลังวันที่ 31 ตุลาคม 2552 และทำประชาคมแล้ว โดยยังมีข้าวอยู่ในมือจำนวน 38,992 ราย และในกรณีผ่อนผันการออกหนังสือรับรองเกษตรกรให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ตกสำรวจ โดยยังมีข้าวอยู่ในมือ จำนวน 38,917 ราย นั้น คณะกรรมการ ฯ มีมติให้กรมส่งเสริมการเกษตรเสนอเรื่องดังกล่าวผ่านคณะกรรมการ นโยบายข้าวแห่งชาติพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้กลุ่มเกษตรกรดังกล่าวสามารถเข้าร่วมโครงการได้ใน ลักษณะเดียวกับการอนุโลมให้มันสำปะหลัง 3. เห็นชอบให้ยืนยันการใช้สิทธิในการประกันรายได้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2552 โดยคณะกรรมการ ฯ ได้พิจารณาเห็นว่าในหลักการโครงการเป็นการประกันความเสี่ยงของเกษตรกร จากความผัน ผวนของระดับราคา ซึ่งการทำสัญญาประกันรายได้เกษตรกรสามารถเปลี่ยนแปลงวันที่ขอใช้สิทธิได้ แต่ไม่สามารถ ย้อนหลังได้ และไม่เกินระยะเวลาสิ้นสุดการขอใช้สิทธิตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ซึ่งหากมีการผ่อนผันการขอใช้ สิทธิให้สามารถย้อนหลังได้ จะขัดต่อหลักการและวัตถุประสงค์ของโครงการ รวมทั้งก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมต่อ เกษตรกรโดยรวม
|
||||||||||||||||||||||||
37132 | การให้โอนข้าราชการ และให้ข้าราชการพ้นจากตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (นักบริหารสูง) (นายอุทิศ ขาวเธียร) | นร | 29/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอว่า สำนัก
งาน ป.ป.ช. ประสงค์จะขอรับโอนนายอุทิศ ขาวเธียร ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายก รัฐมนตรี ไปรับราชการที่สำนักงาน ป.ป.ช. และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ โดยมีคำสั่งรับโอนข้าราชการดังกล่าวมาบรรจุเป็นข้าราชการสำนักงาน ป.ป.ช. ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2552
|
||||||||||||||||||||||||
37133 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 25 ธันวาคม 2552 | กค | 29/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครง
การ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 25 ธันวาคม 2552 สรุปได้ดังนี้ 1. อนุมัติแล้ว จำนวน 21,897 โครงการ วงเงิน 199,960.60 ล้านบาท 2. การจัดสรร 2.1 รอจัดสรร จำนวน 6,135 โครงการ วงเงิน 57,721.71 ล้านบาท 2.2 จัดสรรแล้ว จำนวน 15,762 โครงการ วงเงิน 141,209.30 ล้านบาท 3. การจัดซื้อจัดจ้าง 3.1 ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ 3.1.1 ทั้งหมด จำนวน 10,340 โครงการ วงเงิน 69,950.70 ล้านบาท 3.1.2 ยังไม่เกิน 15 วันทำการ จำนวน 7,233 โครงการ วงเงิน 59,641.74 ล้านบาท 3.1.3 เกิน 15 วันทำการ จำนวน 3,107 โครงการ วงเงิน 10,308.96 ล้านบาท 3.2 ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน 5,422 โครงการ วงเงิน 71,258.60 ล้านบาท 3.3 มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน 5,422 โครงการ วงเงิน 71,125.71 ล้านบาท 4. การดำเนินการ 4.1 ยังไม่ได้เบิกจ่าย จำนวน 836 โครงการ วงเงิน 45,762.49 ล้านบาท 4.2 เบิกจ่ายบางส่วนแล้ว จำนวน 4,432 โครงการ วงเงิน 9,904.26 ล้านบาท 4.3 เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน 154 โครงการ วงเงิน 15,458.96 ล้านบาท 4.4 เบิกจ่ายทั้งหมด จำนวน 4,586 โครงการ วงเงิน 25,363.22 ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||
37134 | ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติและแนวทางในการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ | ทส | 29/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอว่า ได้ดำเนินการปรับปรุง
ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติและแนวทางใน การจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชน อย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ ในข้อ 3 และ ข้อ 6 ให้ถูกต้องตามพระ ราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่ง ชาติ ในการประชุมครั้งที่ 6/2552 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2552 เรียบร้อยแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||
37135 | สัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติแหล่งซอติก้าจากประเทศสหภาพพม่า ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ 7/2552 (ครั้งที่ 129) | พน | 29/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในการประชุมครั้งที่
7/2552 (ครั้งที่ 129) เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2552 ที่ได้ให้ความเห็นชอบร่างสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติแหล่งซอ ติก้า จากประเทศสหภาพพม่า โดยมอบหมายให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ลงนามในสัญญาซื้อขายก๊าซธรรม ชาติแหล่งซอติก้า เมื่อร่างสัญญา ฯ ได้ผ่านการตรวจพิจารณาจากสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว และเห็นชอบเงื่อนไข การระงับข้อพิพาทโดยวิธีการอนุญาโตตุลาการในสัญญา ฯ ดังกล่าว ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ทั้งนี้ ให้ยกเว้น การปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2552 (เรื่อง การทำสัญญาระหว่างหน่วยงานของรัฐกับเอก ชน) เป็นการเฉพาะราย
|
||||||||||||||||||||||||
37136 | การกำหนดหลักเกณฑ์ตามมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 | นร | 29/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เสนอ ดังนี้
1. ให้องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการ ดำเนินการเกี่ยวกับข้อโต้แย้งหรือข้อพิพาทให้แก่ สปน. ตามนัยมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียง และแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 โดยให้ใช้อัตราค่าฤชาธรรมเนียมตามตารางท้ายประมวลกฎ หมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และค่าป่วยการคณะอนุญาโตตุลาการ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินกระบวนพิจารณาชั้น อนุญาโตตุลาการตามที่สถาบันอนุญาโตตุลาการกำหนด 2. กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าฤชาธรรมเนียมตามตารางท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ แพ่งใหม่ ให้ถือว่าอัตราค่าฤชาธรรมเนียมที่เปลี่ยนแปลงใหม่เป็นค่าใช้จ่ายที่ ส.ส.ท. ให้การสนับสนุนให้กับ สปน. 3. กรณีที่มีค่าใช้จ่ายอื่นตามที่อนุญาโตตุลาการ สำนักระงับข้อพิพาทหรือศาล มีคำชี้ขาด คำพิพากษา หรือคำสั่งให้ สปน. ชำระนอกเหนือจากข้อ 1. หรือข้อ 2. ให้ ส.ส.ท. สนับสนุนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ดังกล่าวให้ สปน. ด้วย 4. ให้ ส.ส.ท. สนับสนุนและจัดสรรค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามที่ สปน. แจ้งให้ทันกับ กระบวนการดำเนินการในทางอนุญาโตตุลาการ และ/หรือทางศาล
|
||||||||||||||||||||||||
37137 | มาตรการและแนวทางการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (วงเงิน 149,999.8371 ล้านบาท) | กค | 29/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบมาตรการและแนวทางการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติ การไทยเข้มแข็ง 2555 (วงเงิน 149,999.8371 ล้านบาท) ตามมติคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบ ประมาณภาครัฐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ 1.1 กำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายไม่น้อยกว่าร้อยละ 100.00 ของวงเงินตามแผนที่ได้รับอนุมัติ ให้ดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 1.2 ให้หน่วยงานส่งข้อมูลให้สำนักงบประมาณพิจารณาเพื่อขอจัดสรรเงินให้แล้วเสร็จภายในวัน ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553 ทั้งนี้ สำนักงบประมาณจะดำเนินการอนุมัติภายใน 15 วันทำการ โดยหลังจากได้ รับอนุมัติแล้ว หน่วยงานจะต้องลงนามในสัญญาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 8 เมษายน 2553 1.3 ให้หน่วยงานที่ได้รับเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการ ฯ บันทึกข้อมูลแผนงาน งวด งานและงวดเงินตามระบบที่กระทรวงการคลังกำหนด และรายงานผลความก้าวหน้าตามแผนงาน งวดงาน และงวดเงินที่สอดคล้องกับความสำเร็จของงานในแต่ละเดือน ไตรมาส เพื่อเป็นข้อมูลในการติดตามเร่งรัด การใช้จ่ายเงินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการ 1.4 ให้นำอัตราการเบิกจ่ายเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการ ฯ ตามเป้าหมายที่คณะ รัฐมนตรีกำหนดเป็นตัวชี้วัดในคำรับรองการปฏิบัติราชการของหน่วยงาน 1.5 ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำกับหน่วยงานในสังกัดที่ได้รับเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติ การ ฯ ปฏิบัติตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินอย่างเคร่งครัด 2. ให้กระทรวงมหาดไทยประสานและเร่งรัดให้จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำการบันทึก ข้อมูลการดำเนินงานในระดับพื้นที่และจัดทำแผนปฏิบัติงานเพื่อให้สำนักงบประมาณพิจารณาอนุมัติแผนและ จัดสรรงบประมาณโครงการ ฯ ตามขั้นตอนต่อไปโดยเร็ว
|
||||||||||||||||||||||||
37138 | ขออนุมัติรายละเอียดและเงื่อนไขการกู้เงินตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 สำหรับไตรมาสที่ 2/2553 (ม.ค. - มี.ค. 2553) | กค | 29/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรายละเอียดและเงื่อนไขการกู้เงินสำหรับไตรมาสที่ 2/2553 ด้วยวิธีการทำสัญญา
กู้เงิน (Term Loan) วงเงิน 90,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับขั้นตอนการกู้เงินตามพระราชกำหนดให้ อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
37139 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 29/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัด
กระทรวง กระทรวงยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามแนวปฏิบัติในการเสนอร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราช การภายในกรม ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2549 โดยส่งร่างกฎกระทรวงดังกล่าวให้ ก.พ.ร. พิจารณาภายใน 2 สัปดาห์ แล้วส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
37140 | ขอขยายเวลาผูกพันงบประมาณลงทุนประจำปี 2551 | ทก | 29/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติขยายเวลาการผูกพันงบลงทุนประจำปี พ.ศ. 2551 แผนการให้บริการอินเทอร์
เน็ตความเร็วสูง (ADSL) (เดิมบรรจุไว้ในแผนระยะยาว แผนงานบำรุงรักษาข่ายสายตอนนอก แผนงานบำรุงรักษา และเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายโทรคมนาคม แผนงานพัฒนาปรับปรุงและบำรุงรักษาโครงข่ายโทรคมนาคม และ แผนงานเพิ่มความมั่นคงและเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายโทรคมนาคม) ดำเนินการเป็นกรณีพิเศษ จากเดิม ภายใน วันที่ 30 ธันวาคม 2552 ออกไปในปี พ.ศ. 2553 ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ
|
.....