ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1854 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 37061 - 37080 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
37061 | การขยายเวลาการเปิดเสรีภายใต้กรอบความตกลงเขตการลงทุนอาเซียน (AIA) และการคงรายการสงวนชั่วคราวของไทยไว้ในรายการข้อสงวนภายใต้ความตกลงว่าด้วยการลงทุนอาเซียน (ACIA) | อก | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ครั้งที่ 4/2552 เมื่อ
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2552 ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้ 1. ให้เลื่อนการเปิดเสรีการลงทุนในกิจการ 3 สาขา ในรายการสงวนชั่วคราว (Temporary Exclusion List -TEL) ได้แก่ การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การทำป่าไม้จากป่าปลูก และการเพาะขยายและปรับปรุงพันธุ์พืช จากเดิมที่ ความตกลงเขตการลงทุนอาเซียน (AIA) กำหนดไว้ในวันที่ 1 มกราคม 2553 ออกไปก่อน 2. ให้มีคณะทำงานเพื่อหารือและเสนอแนะแนวทางการเปิดเสรีการลงทุนในกิจการ 3 สาขาโดยให้สำนัก งานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เป็นหัวหน้าคณะทำงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบ 3. ให้มีข้อสงวนการเปิดเสรีในกิจการ 3 สาขาในรายการข้อสงวนของไทยภายใต้ความตกลงว่าด้วยการ ลงทุนอาเซียน (ASEAN Comprehensive Investment Agreement-ACIA) ซึ่งอยู่ในระหว่างการจัดทำ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
37062 | การขอความเห็นชอบมติคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เกี่ยวกับโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว | พณ | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ในการประชุมเมื่อวันที่ 8
มกราคม 2553 ที่เห็นชอบการขอปรับเปลี่ยนการเบิกจ่ายเงินจากแหล่งเงินเดิมของโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการ ประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2552/53 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ 1. อนุมัติปรับเปลี่ยนการเบิกจ่ายเงินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2552/53 จากงบประมาณโครงการไทยเข้มแข็ง เป็นเบิกจ่ายจากเงินกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร วงเงิน ดำเนินการจำนวน 13 ล้านบาท 2. อนุมัติขยายระยะเวลาโครงการ ฯ จากเดิมพฤศจิกายน 2552-กรกฎาคม 2553 เป็นมกราคม-ตุลา คม 2553
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
37063 | หารือปัญหาเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังฟื้นฟูเศรษฐกิจ พ.ศ. .... | นร | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับข้อหารือปัญหาร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟู
เศรษฐกิจ พ.ศ. .... โดยให้หารือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาเฉพาะประเด็นอำนาจการพิจารณาของ รัฐสภา ดังนี้ 1. กรณีที่วุฒิสภาแก้ไขเพิ่มเติมร่างมาตรา 3 จาก "...ให้คณะรัฐมนตรีเสนอกรอบการใช้จ่ายเงินกู้ตามพระ ราชบัญญัตินี้ต่อรัฐสภา "เพื่อทราบ" ก่อนเริ่มดำเนินการ" เป็น "...ให้คณะรัฐมนตรีเสนอกรอบการใช้จ่ายเงินกู้ตาม พระราชบัญญัตินี้ต่อรัฐสภา "เพื่อพิจารณา" ก่อนเริ่มดำเนินการ "โดยแสดงรายละเอียดของโครงการที่จะนำเงินกู้ไป ใช้จ่าย" นั้น จะขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายอื่น และจะเป็นการก้าวก่ายอำนาจฝ่ายบริหารหรือไม่ อย่าง ไร 2. กรณีที่จะแก้ไขเพิ่มเติมร่างมาตรา 3 ให้แต่ละสภาตั้งบุคคลที่เป็นสมาชิกแห่งสภานั้น ๆ เป็นคณะกรรมา ธิการร่วมกันเพื่อพิจารณากรอบและรายละเอียดโครงการที่จะนำเงินกู้ไปใช้จ่ายแต่ละครั้ง และเสนอผลการพิจารณา และกรอบการใช้จ่ายเงินกู้นั้นต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเพื่อทราบก็ดี หรือเพื่อให้ความเห็นชอบก็ดีจะขัดกับรัฐ ธรรมนูญหรือกฎหมายอื่นหรือไม่ อย่างไร หรือกรณีที่จะแก้ไขเพิ่มเติมร่างมาตรา 3 ให้ประธานรัฐสภาตั้งคณะกรรม การขึ้นพิจารณาศึกษารายละเอียดของโครงการที่จะนำเงินกู้ไปใช้จ่ายแต่ละครั้ง แล้วเสนอผลการพิจารณากรอบการ ใช้จ่ายเงินกู้นั้นต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเพื่อทราบจะขัดกับรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายอื่นหรือไม่ อย่างไร
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
37064 | โครงการเพื่อการพัฒนาประจำปี 2553 - 2555 (แผนแม่บทการให้บริการน้ำประปา) ของการประปาส่วนภูมิภาค | มท | 05/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการกรอบการลงทุนโครงการเพื่อการพัฒนาประจำปี พ.ศ. 2553-2555 (แผนแม่บท การให้บริการน้ำประปา) ของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) วงเงินลงทุนรวม 13,705.037 ล้านบาท และเห็น ชอบการดำเนินโครงการประจำปี พ.ศ. 2553 จำนวน 12 โครงการ วงเงินลงทุนรวม 4,238.009 ล้านบาท ตามที่ กระทรวงมหาดไทยเสนอ 2. ให้กระทรวงมหาดไทย และ กปภ. รับความเห็นในส่วนที่เกี่ยวข้องกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนัก งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ ที่ให้ กปภ. ควบคุมค่าใช้จ่ายด้าน บริหารจัดการและค่าใช้จ่ายในการผลิตควบคู่กับการเพิ่มรายได้จากการให้บริการและควบคุมอัตราน้ำสูญเสียให้อยู่ ในระดับที่เหมาะสม การนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาช่วยสนับสนุนการลดน้ำสูญเสียเพิ่มเติม การเป็นหน่วยงานหลักใน การถ่ายทอดความรู้ทางด้านการผลิต การให้บริการ การบำรุงรักษาระบบประปาให้กับองค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ่น (อปท.) เพื่อลดปัญหาการถ่ายโอนและเพิ่มขีดความสามารถให้กับ อปท. ดำเนินการเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้กระทรวงมหาดไทยติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการดังกล่าวและพัฒนาตัวชี้วัดทั้งในเชิงปริมาณและคุณ ภาพให้สามารถสะท้อนผลสัมฤทธิ์ของแผน ฯ ได้อย่างเป็นรูปธรรม และเร่งรัดโครงการที่มีความล่าช้ากว่าเป้าหมาย และที่อยู่ระหว่างก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และเร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติประกอบกิจการน้ำ พ.ศ. .... เพื่อให้ เกิดการจัดตั้งองค์กรกำกับดูแลกิจการประปา (Regulator) เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลการให้บริการทั้งในเชิงปริมาณ และคุณภาพ การกระจายการให้บริการ อัตราค่าบริการที่เหมาะสมต่อผู้ประกอบการและผู้บริโภค และการรองรับ ปริมาณน้ำเสียที่จะเกิดขึ้นจากการจัดการตามหลักการผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย (Polluter'' Pay Principle) ด้วย และ ให้รับข้อสังเกตของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับที่มาของแหล่งเงินซึ่งมีบางส่วนที่มีแหล่งเงินมาจากแผนปฏิบัติการไทย เข้มแข็ง 2555 (SP2) จึงควรกำชับให้ กปภ. ดำเนินการโครงการให้เสร็จเพื่อก่อให้เกิดสาธารณูปโภคแก่ชุมชนและ กระตุ้นเศรษฐกิจตามเป้าหมายของรัฐบาล ไปพิจารณาดำเนินการ และให้สำนักงบประมาณรับความเห็นของสำนัก งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ ไปพิจารณาด้วย 3. ให้กระทรวงมหาดไทย โดย กปภ. เร่งรัดการดำเนินการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ ดิบในพื้นที่ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ เกาะสมุยและเกาะภูเก็ต โดยให้ กปภ. เร่งศึกษาและเสนอโครงการ วางท่อจ่ายน้ำดิบจากสุราษฎร์ธานีไปยังเกาะสมุย-เกาะพะงัน และโครงการวางท่อจ่ายน้ำดิบจากสุราษฎร์ธานีไป ยังเกาะภูเก็ต (Mega Project) ไปเพื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอนโดยด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
37065 | มาตรการภาษีสำหรับการวางหลักทรัพย์เป็นประกันการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า | กค | 05/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบมาตรการภาษีสำหรับการวางหลักทรัพย์เป็นประกันการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยมีหลักการดังนี้ 1.1 ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ผู้โอนและผู้รับโอนทรัพย์สินที่วางเป็นประกันตามสัญญาซื้อขายล่วง หน้า ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการโอนทรัพย์สินเพื่อไปวางเป็นประกันหรือรับโอนทรัพย์สินที่วางเป็นประกันนั้น 1.2 ในกรณีที่ผู้โอนทรัพย์สินที่วางเป็นประกันเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต่างประเทศ และมิได้ประกอบกิจการในประเทศไทย หากได้รับเงินชดเชยเงินปันผล หรือเงินชดเชยดอกเบี้ย เนื่องจากการ โอนทรัพย์สินที่วางเป็นประกัน ต้องยอมให้ผู้จ่ายเงินได้หักภาษี ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 10 ของเงินชดเชย เงินปันผลที่ได้รับ หรือในอัตราร้อยละ 15 ของเงินชดเชยดอกเบี้ยที่ได้รับ จึงจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ ทั้งนี้ เงินชดเชยเงินปันผล ให้หมายถึง เงินที่ผู้รับโอนทรัพย์สินที่วางเป็นประกันจะต้องจ่ายให้แก่ผู้ที่วางทรัพย์สิน เป็นประกัน เนื่องจากมีการจ่ายเงินปันผลของทรัพย์สินที่วางเป็นประกัน และได้ถือครองไว้ก่อนที่จะโอนคืน แก่ผู้ที่ว่างทรัพย์สินเป็นประกัน และเงินชดเชยดอกเบี้ยให้หมายถึง เงินที่ผู้รับโอนทรัพย์สินที่วางเป็นประกัน จะต้องจ่ายให้แก่ผู้วางทรัพย์สินเป็นประกัน เนื่องจากมีการจ่ายดอกเบี้ยของทรัพย์สินที่วางประกัน และได้ถือ ครองไว้ก่อนที่จะโอนคืนแก่ผู้ที่วางทรัพย์สินเป็นประกัน 1.3 ยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์ให้แก่ผู้โอนทรัพย์สินที่วางเป็นประกันตามสัญญา ซื้อขายล่วงหน้า สำหรับเงินได้ที่เกิดจากการโอนทรัพย์สินที่วางเป็นประกันให้แก่ผู้รับโอนทรัพย์สิน ทั้งนี้ ไม่ ว่าจะเป็นการโอนทรัพย์สินเพื่อไปวางเป็นประกันหรือการรับโอนทรัพย์สินที่วางเป็นประกันนั้น 2. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎา กร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากร แสตมป์ให้แก่ผู้โอนและผู้รับโอนหลักทรัพย์ที่วางเป็นประกันการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ตามกฎหมาย ว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อ ไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
37066 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [การกำหนดรายชื่อธนาคารแห่งประเทศไทยให้เป็นผู้ยืมและผู้ให้ยืมหลักทรัพย์ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 331) พ.ศ. 2541] | กค | 05/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลด
อัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติ บุคคลสำหรับการทำธุรกรรมยืมหรือให้ยืมหลักทรัพย์โดยธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อให้ธนาคารแห่งประเทศไทย มีเครื่องมือที่สามารถนำมาบริหารนโยบายการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศโดย รวม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไป ได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
37067 | รายงานผลการกู้เงินจากรัฐบาลญี่ปุ่นสำหรับโครงการปรับปรุงกิจการประปาแผนหลัก ครั้งที่ 8 | กค | 05/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือทางการ เงินระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่น และการลงนามในสัญญาเงินกู้และสัญญาค้ำประกันเงินกู้สำหรับโครงการปรับ ปรุงกิจการประปาแผนหลัก ครั้งที่ 8 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้ลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยน ฯ ใน นามรัฐบาลไทย และเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยเป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาลญี่ปุ่น รวมทั้งได้มีการลงนาม ในสัญญาเงินกู้ระหว่างหัวหน้าผู้แทนองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ประจำประเทศไทยในฐานะ ผู้ให้กู้ และผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) ในฐานะผู้กู้ และการลงนามในสัญญาค้ำประกันเงินกู้โดยรัฐมนตรีว่า การกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2552 ทั้งนี้ รายละเอียดหนังสือแลกเปลี่ยน ฯ สัญญาเงินกู้ และสัญญาค้ำ ประกันเงินกู้ดังกล่าว มีสาระสำคัญและเงื่อนไขเป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติทุกประการ 2. รับทราบความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับรายงานผลการกู้เงินดังกล่าว โดยไม่มี ข้อสังเกตเพิ่มเติม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
37068 | ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) [มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการผลิตและการใช้รถยนต์นั่งประหยัดพลังงานประเภทพลังงานผสมชนิดพลังงานเชื้อเพลิงและไฟฟ้า (Hybrid Vehicle) ในประเทศ] | กค | 05/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงการคลังรับร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้น อากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) [มาตรการภาษีเพื่อ ส่งเสริมการผลิตและการใช้รถยนต์นั่งประหยัดพลังงานประเภทพลังงานผสมชนิดพลังงานเชื้อเพลิงและไฟฟ้า (Hybrid Vehicle)] ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงพลังงานและกระทรวงอุตสาหกรรมอีกครั้งหนึ่ง โดยให้พิจารณามาตรการสนับ สนุนและส่งเสริมในภาพรวมทั้งหมดให้ครอบคลุมถึงรถยนต์ประหยัดพลังงานทุกประเภท เช่น มาตรการภาษี สิทธิ ประโยชน์ที่ผู้ประกอบการได้รับจากการส่งเสริมการลงทุน เป็นต้น ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2553 แล้วนำ เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
37069 | ขอขยายระยะเวลายกเว้นค่าธรรมเนียมการค้ำประกันตามโครงการ Portfolio Guarantee Scheme ของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมและการชดเชยค่าธรรมเนียมค้ำประกัน | กค | 05/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ 1.1 ขยายระยะเวลาการยกเว้นค่าธรรมเนียมการค้ำประกันปีแรกของโครงการ Portfolio Guarantee Scheme จากเดิมที่กำหนดไว้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2552 เป็นจนถึงวันที่ 6 มีนาคม 2553 1.2 ชดเชยค่าธรรมเนียมการค้ำประกันที่บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ยก เว้นไม่เรียกเก็บจากลูกค้าในปีแรกของโครงการ Portfolio Guarantee Scheme โดยคำนวณค่าชดเชยในอัตราร้อย ละ 1.75 ของวงเงินค้ำประกันที่ บสย. อนุมัติจริงตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงวันที่ 6 มีนาคม 2553 ในวงเงินไม่เกิน 525 ล้านบาท โดยให้ บสย. ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณเพื่อขอรับการจัดสรรเป็นงบประมาณชดเชยราย ได้ค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 2. สำหรับเงินชดเชยค่าธรรมเนียมการค้ำประกันให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
37070 | รายงานการรับและใช้จ่ายเงินกองทุนบริหารเงินกู้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 | กค | 05/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานการรับและใช้จ่ายเงินกองทุนบริหารเงิน
กู้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ดังนี้ ฐานะการเงินปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 กองทุน ฯ มีสินทรัพย์รวม 940,834.61 บาท ในส่วนของรายได้ กองทุน ฯ มี รายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย จำนวน 940,834.61 บาท และมีเงินคงเหลือ ณ วันปลายงวด 940,834.61 บาท
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
37071 | รายงานการรับและใช้จ่ายเงินของกองทุนเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 | กค | 05/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานการรับและใช้จ่ายเงินของกองทุนเพื่อการ
ชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ดังนี้ ฐานะการเงินในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 กองทุน ฯ มีสินทรัพย์จำนวน 463,275,229,746.94 บาท ลดลงจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 จำนวน 1.60 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.0003 ในส่วนของรายได้ กอง ทุน ฯ มีรายได้จำนวน 0.0002 ล้านบาท ลดลงจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ซึ่งมีจำนวน 0.02 ล้านบาท โดยลด ลงคิดเป็นร้อยละ 98.88 และมีเงินคงเหลือ ณ วันปลายงวด 0.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 จำนวน 0.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 2.07
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
37072 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรออมทรัพย์ช่วยชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 รุ่นอายุ 7 ปี ที่ครบกำหนดเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2552 | กค | 05/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรออม
ทรัพย์ช่วยชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 รุ่นอายุ 7 ปี ที่ครบกำหนดเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2552 จำนวน 54,245.73 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังได้ชำระคืนต้นเงินพันธบัตรออมทรัพย์ ฯ บางส่วน จำนวน 6,083.735 ล้านบาท จาก "บัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบ สถาบันการเงิน" และดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้วงเงินที่เหลือ จำนวน 48,161.995 ล้านบาท โดยทดรองจ่าย จากบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลังที่เปิดไว้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย จำนวน 11,065.355 ล้านบาท รวมทั้งกู้ เงินระยะสั้นจากสถาบันการเงิน อายุเงินกู้ไม่เกิน 2 เดือน จำนวน 13,934.645 ล้านบาท ประกอบด้วย ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) จำนวน 3,000 ล้านบาท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 10,000 ล้านบาท และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จำนวน 934.645 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 1.18- 1.22 ต่อไป และกู้เงินระยะยาวจากสถาบันการเงิน อายุเงินกู้ 4 ปี จำนวน 23,161.995 ล้านบาท ประกอบด้วย ธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จำกัด สาขากรุงเทพ ฯ จำนวน 10,000 ล้านบาท และธนาคารออมสิน จำนวน 13,161.995 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ FDR บวก Spread ร้อยละ 0.70-0.89 ต่อปี
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
37073 | ร่างพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงประเภทของหน่วยงานราชการที่ได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมหรือภาษีประจำปีและนิรโทษกรรมค่าธรรมเนียม และภาษีประจำปีที่ค้างชำระของหน่วยงานราชการ) รวม 2 ฉบับ | คค | 05/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ จำนวน 2 ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ
พิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติพิจารณา ก่อน เสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ดังนี้ 1. ร่างพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ 1.1 กำหนดยกเว้นค่าธรรมเนียมและภาษีประจำปีให้แก่รถของส่วนราชการ องค์กรตามรัฐธรรมนูญ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มหาวิทยาลัยและสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ องค์การมหาชน และหน่วยงานอื่นของรัฐ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ทั้งนี้ เฉพาะรถที่มิได้ใช้ในทางการค้าหรือหากำไร 1.2 กำหนดให้บรรดาค่าธรรมเนียมและภาษีประจำปีของรถของหน่วยงานตามมาตรา 9 (3) แห่ง พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ที่ค้างชำระไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ ใช้บังคับให้เป็นอันระงับไป 2. ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ 2.1 กำหนดมิให้นำมาตรา 23 มาใช้บังคับแก่การขนส่งส่วนบุคคลซึ่งหน่วยงานของรัฐ มหาวิทยาลัย และสถาบันอุดมศึกษา วัด มัสยิด มิซซัง มูลนิธิ สภากาชาดไทยและสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถาน พยาบาล เป็นผู้ประกอบการขนส่ง แต่ผู้ประกอบการขนส่งต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติอื่นแห่งพระราชบัญญัตินี้ เสมือนดังเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งส่วนบุคคลทุกประการ 2.2 กำหนดให้รถที่ใช้ในการขนส่งส่วนบุคคลของส่วนราชการ องค์กรตามรัฐธรรมนูญ องค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่น มหาวิทยาลัยและสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ องค์การมหาชน หน่วยงานอื่นของรัฐตามที่กำหนด ในกฎกระทรวง วัด มัสยิด มิซซัง มูลนิธิ และสภากาชาดไทย ให้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี 2.3 กำหนดให้บรรดาภาษีประจำปีของรถของหน่วยงานตามมาตรา 88 แห่งพระราชบัญญัติการขน ส่งทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ค้างชำระไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับให้เป็น อันระงับไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
37074 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้นำราคาปานกลางของที่ดินที่ใช้อยู่ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่ประจำปี พ.ศ. 2521 ถึง พ.ศ. 2524 มาใช้ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่สำหรับปี พ.ศ. 2553 พ.ศ. .... | มท | 05/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้นำราคาปานกลางของที่ดินที่ใช้อยู่ในการ
ประเมินภาษีบำรุงท้องที่ประจำปี พ.ศ. 2521 ถึง พ.ศ. 2524 มาใช้ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่สำหรับปี พ.ศ. 2553 พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้นำราคาปานกลางของที่ดินที่ใช้อยู่ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่ ประจำปี พ.ศ. 2521 ถึง พ.ศ. 2524 ซึ่งใช้ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่สำหรับปี พ.ศ. 2552 มาใช้ในการ ประเมินภาษีบำรุงท้องที่สำหรับปี พ.ศ. 2553 ทั้งนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 เป็นต้นไป ตามที่ กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
37075 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนแม่ใจ จังหวัดพะเยา พ.ศ. .... | มท | 05/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนแม่ใจ จังหวัดพะเยา
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนแม่ใจ จังหวัดพะเยา ในท้องที่ตำบลศรีถ้อย ตำบลบ้าน เหล่า ตำบลแม่ใจ และตำบลแม่สุก อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรง รักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชนฺ์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและขนส่ง การ สาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
37076 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 | อก | 05/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมลักษณะอาคารโรงงานที่เกี่ยวกับประตูหรือทางออกให้เหมาะสมยิ่ง ขึ้น ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา 2. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับข้อสังเกตของกระทรวงมหาดไทยที่เห็นว่าร่างกฎกระทรวงฉบับนี้มี รายละเอียดเกี่ยวกับความกว้างบันไดหนีไฟ หรือบันไดที่ใช้เป็นทางออกฉุกเฉินภายในอาคารสำหรับอาคาร โรงงาน รวมทั้งความกว้างของประตูหนีไฟหรือประตูที่ใช้เป็นทางออกฉุกเฉินสำหรับอาคารโรงงานซึ่งไม่สอด คล้องกับข้อกำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2552 ไปประกอบ การพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
37077 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลหนองป่าก่อ อำเภอดอยหลวง ตำบลโยนก อำเภอเชียงแสน และตำบลท่าข้าวเปลือก อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 05/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริม
ทรัพย์ ในท้องที่ตำบลหนองป่าก่อ อำเภอดอยหลวง ตำบลโยนก อำเภอเชียงแสน และตำบลท่าข้าวเปลือก อำเภอ แม่จัน จังหวัดเชียงราย เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางหลวงชนบทสายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1129 กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1098 ในท้องที่ตำบลหนองป่าก่อ อำเภอดอยหลวง ตำบลโยนก อำเภอเชียงแสน และตำบลท่าข้าวเปลือก อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจ สอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
37078 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำกาแฟ ชา น้ำนมดิบและนมพร้อมดื่ม และนมผงขาดมันเนยเข้ามาในราชอาณาจักร ตามความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน พ.ศ. .... | พณ | 05/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำกาแฟ ชา น้ำนมดิบและ
นมพร้อมดื่ม และนมผงขาดมันเนยเข้ามาในราชอาณาจักร ตามความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน ตามที่กระทรวง พาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างประกาศ ฯ มีสาระสำคัญคือ 1. ให้กาแฟ ชา น้ำนมดิบและนมพร้อมดื่ม และนมผงขาดมันเนยซึ่งมีถิ่นกำเนิดและส่งตรงมาจากประเทศ สมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน เป็นสินค้าที่ต้องมีหนัง สือรับรองในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร 2. ให้นำสินค้า ตามข้อ 1. เข้ามาในราชอาณาจักรทางด่านศุลกากรที่มีด่านตรวจพืชและด่านอาหารและ ยา ตามเงื่อนไขการนำเข้าที่กำหนดสำหรับแต่ละสินค้า เพื่อให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณภาพและ มาตรฐานสินค้า 3. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอและการออกหนังสือรับรองและรายชื่อด่านศุลกากร ที่มีด่านตรวจพืชและด่านอาหารและยา ให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กำหนด 4. ให้สินค้าที่นำเข้าตามประกาศฉบับนี้ ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามมาตรการอื่นที่มิใช่มาตรการ ทางภาษีที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
37079 | การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (นายปัญญา ไข่มุก) | สสส. | 05/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายปัญญา ไข่มุก เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการกีฬาในคณะ
กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ตามที่คณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (5 มกราคม 2553) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
37080 | รายงานการรับและการใช้จ่ายเงินของกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 | พม | 05/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอรายงาน
การรับและการใช้จ่ายเงินของกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เปรียบเทียบกับปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ดังนี้ ฐานะการเงินปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 กองทุน ฯ มีสินทรัพย์ รวม 508,913,066.62 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 18.83 ในส่วนของรายได้ กองทุน ฯ มีรายได้สูงกว่าค่า ใช้จ่าย 74,570,222.73 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 42.85 และมีเงินคงเหลือ ณ วันปลายงวด 277,149,871.60 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.94 และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป
|
.....