ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1853 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 37041 - 37060 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
37041 | รายงานการรับ - จ่ายเงินนอกงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ 2551 - 2552 | กษ | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอรายงานการรับ-จ่ายเงินนอก
งบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551-2552 ของกรมประมง และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิ สภาต่อไป ดังนี้ 1. ประเภทเงินบริจาค/อุดหนุน มีรายรับรวม 48,348.06 บาท มีรายจ่ายรวม 48,348.00 บาทมีเงินคงเหลือหลังหักภาระผูกพันรวม 21,266.00 บาท รวมเงินคงเหลือทั้งสิ้น 21,266.06 บาท 2. ประเภทเงินบูรณะทรัพย์สิน มีรายรับรวม 159,074.44 บาท มีรายจ่ายรวม 251,588.84 บาท รวมเงินคงเหลือทั้งสิ้น 530,371.92 บาท 3. ประเภทเงินรายได้จากการดำเนินงาน มีรายรับรวม 15,758,818.32 บาท มีรายจ่ายรวม 21,697,508.80 บาท มีเงินคงเหลือหลังหักภาระผูกพัน 12,353,450.61 บาท รวมเงินคงเหลือทั้งสิ้น 12,353,450.61 บาท 4. ประเภทเงินประกันสัญญา/เงินมัดจำ มีรายรับรวม 8,456,010.13 บาท มีรายจ่ายรวม 5,550,101.80 บาท มีเงินคงเหลือทั้งสิ้น 14,381,779.79 บาท 5. ประเภทเงินกู้ มีรายรับรวม 4,567,479.17 บาท มีรายจ่ายรวม 4,567,479.17 บาท รวม เงินคงเหลือทั้งสิ้น 133,058.85 บาท 6. ประเภทเงินสินบนรางวัล มีรายรับรวม 5,740,150 บาท มีรายจ่ายรวม 5,840,706 บาท รวมเงินคงเหลือทั้งสิ้น 176,500 บาท 7. ประเภทเงินฝากต่าง ๆ มีรายรับ 23,765,559.30 บาท มีรายจ่าย 23,743,979.33 บาท มีเงินคงเหลือทั้งสิ้น 4,045,510.23 บาท 8. ประเภทเงินรับฝากเพื่อรอจัดสรรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)/ถอนคืน มีรายรับ รวม 5,113,155.03 บาท มีรายจ่ายรวม 5,177,257.33 บาท มีเงินคงเหลือทั้งสิ้นรวม 1,336,309.34 บาท 9. ประเภทเงินทุนหมุนเวียน มีสินทรัพย์หมุนเวียนรวม 74,455,369.53 บาท มีทรัพย์สินไม่ หมุนเวียนรวม 16,681,978.10 บาท มีสินทรัพย์รวม 91,137,347.63 บาท มีหนี้สินหมุนเวียนรวม 6,989,009.81 บาท มีหนี้สินไม่หมุนเวียนรวม 5,956,573.03 บาท มีหนี้สินรวม 12,945,582.84 บาท มีสินทรัพย์หมุนเวียน 78,191,764.79 บาท 10. ประเภทเงินทุนหมุนเวียน มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 66,856,729.89 บาท มีรายได้ สูง (ต่ำ) กว่าค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานรวม 2,813,556.32 บาท มีรายได้สูง (ต่ำ) กว่าค่าใช้จ่ายสุทธิ รวม 2,814,041.32 บาท
|
||||||||||||||||||||||||
37042 | ขออนุมัติปรับแผนการปฏิบัติงาน/แผนการใช้จ่ายและขอผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 - 2554 | มท | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการ
และผังเมืองปรับแผนการปฏิบัติงาน แผนการใช้จ่าย และผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 -2554 เพื่อจัดทำโครงการจัดซื้อที่ดินและก่อสร้างถนนเลี่ยงทางเข้า-ออก พระตำหนักในจังหวัดปทุมธานี ตำบล ขะแยง อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี (ช่วงที่ 1) เพื่อถวายความปลอดภัยในเส้นทางเสด็จเข้า-ออก พระ ตำหนักจังหวัดปทุมธานี ตามที่เสนอได้ โดยให้กรมโยธาธิการและผังเมืองเสนอผลการจัดซื้อจัดจ้างของรายการดัง กล่าว ให้สำนักงบประมาณพิจารณาความเหมาะสมของราคาก่อนทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันตามระเบียบการก่อหนี้ผูก พันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2549 ข้อ 4(1) พร้อมทั้งขอรับการจัดสรรงบ ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 เพื่อชดใช้คืนรายการก่อสร้างระบบระบายน้ำและระบบบำบัดน้ำ เสียเทศบาลเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
37043 | งบการเงิน ประจำปีงบประมาณ 2552 ของโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ (องค์การมหาชน) (แนวทางปฏิบัติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 170) | ศธ | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนองบการเงินของโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์
(องค์การมหาชน) สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 โดยเปรียบเทียบกับปี พ.ศ. 2551 สรุปได้ดังนี้ 1. รายงานแสดงฐานะการเงิน มีสินทรัพย์รวม 510,605,457.22 บาท ลดลงร้อยละ 1.36 2. รายงานแสดงผลการดำเนินงาน มีรายได้ต่ำกว่าค่าใช้จ่ายจากงบดำเนินงาน 7,913,165.67 บาท ลดลงร้อยละ 158.58 3. รายงานการรับ-จ่ายเงิน มีเงินคงเหลือ ณ วันปลายงวด 220,593,990.66 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.31
|
||||||||||||||||||||||||
37044 | รายงานการรับและการใช้จ่ายเงินของกองทุนจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่และเงินนอกงบประมาณ กรมโยธาธิการและผังเมือง ประจำปีงบประมาณ 2552 | มท | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินของกองทุน
จัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่และเงินนอกงบประมาณ กรมโยธาธิการและผังเมือง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 สรุปได้ดังนี้ 1. รายงานทางการเงินของกองทุนจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ 1.1 รายงานแสดงฐานะการเงิน มีสินทรัพย์รวม 75,502,339.06 บาท มีหนี้สินรวม 0.00 บาท 1.2 รายงานแสดงผลการดำเนินงาน มีรายได้จากการดำเนินงาน 1,249,794.25 บาท มีค่าใช้จ่าย จากการดำเนินงานรวม 0.00 บาท 1.3 รายงานการรับ-จ่ายเงิน มีเงินคงเหลือ ณ วันต้นงวด 74,252,544.81 บาท มีรายรับรวม 75,502,339.06 บาท มีรายจ่ายรวม 0.00 บาท 2. ประเภทเงินนอกงบประมาณ มีรายรับ 100,123,904.24 บาท มีรายจ่าย 103,566,090.46 บาท และมีเงินคงเหลือหลังหักภาระผูกพันทั้งสิ้น 62,816,547.16 บาท
|
||||||||||||||||||||||||
37045 | แต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรี (พลตำรวจตรี จักรทิพย์ ชัยจินดา) | ตช | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอขอเปลี่ยนแปลงผู้ประสานงานคณะ
รัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) จากพลตำรวจโท วรเวทย์ วินิตเนตยานนท์ เป็นพลตำรวจตรี จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการ ตำรวจแห่งชาติ
|
||||||||||||||||||||||||
37046 | รายงานผลการดำเนินโครงการบ้านดินสิ่งมหัศจรรย์ของจังหวัดชัยภูมิประจำเดือนพฤศจิกายน 2552 | มท | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานว่า จังหวัดชัยภูมิได้จัดทำโครงการพัฒนาบ้านดิน
สิ่งมหัศจรรย์ ณ บ้านเทพพนา หมู่ที่ 10 ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้โครงการ บ้านดิน ฯ ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีบ้านพักถูกสุขลักษณะ และบริการที่ดีมีมาตรฐาน โดยโครงการพัฒนา บ้านดิน ฯ ประกอบด้วย 12 งาน/โครงการ ดังนี้ 1. โครงการฝึกอบรมทางด้านเกษตร งบประมาณ 400,000 บาท 2. โครงการฝึกอบรมด้านการจัดทำของที่ระลึก งบประมาณ 250,000 บาท 3. โครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการของผู้ประกอบการที่พักโฮมสเตย์ งบประมาณ 120,000 บาท 4. โครงการพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน จำนวน 8 โครงการ (1) การปรับปรุงบ้านพักอาศัยให้ถูกสุขลักษณะ งบประมาณ 1,728,000 บาท (2) การรื้อขนย้ายวัสดุและติดตั้งประปา (ช่วงที่ผ่านแนวที่ดินเอกชน) งบประมาณ 355,000 บาท (3) การปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณจุดชมวิว งบประมาณ 1,058,000 บาท (4) การปรับปรุงทิวทัศน์ริเวณรอบบ้านพัก งบประมาณ 288,000 บาท (5) การก่อสร้างห้องน้ำรวมสำหรับนักท่องเที่ยว งบประมาณ 320,000 บาท (6) การติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ งบประมาณ 450,000 บาท (7) การก่อสร้างและปรับปรุงถนน งบประมาณ 6,551,000 บาท (8) การจัดหาอุปกรณ์ในการแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชน งบประมาณ 200,000 บาท 5. โครงการติดตามประเมินผลการดำเนินงานบ้านดิน ฯ งบประมาณ 80,000 บาท
|
||||||||||||||||||||||||
37047 | รายงานการตรวจสอบงบดุล งบรายได้ค่าใช้จ่ายของกองทุนเงินทดแทน ประจำปี 2551 | รง | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานเสนองบดุลและรายงานการรับจ่ายเงินกองทุนเงินทดแทน
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550 ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองแล้ว โดย เห็นว่างบการเงินดังกล่าวแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550 และผลการดำเนินงานสำหรับ ปีสิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละปีของกองทุน ฯ โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป และจัดให้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
37048 | รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม ประจำเดือนพฤศจิกายน 2552 | อก | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม ประจำ
เดือนพฤศจิกายน 2552 สรุปได้ดังนี้ 1. อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม การผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป คาด ว่าจะขยายตัวตามคำสั่งซื้อที่มีเข้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การลดค่าเงินด่องของเวียดนามอาจส่งผลกระทบต่อขีดความ สามารถการแข่งขันของไทยในระยะยาวโดยเฉพาะสิ่งทอที่จะต้องแข่งขันกับเวียดนามโดยตรง เนื่องจากราคาสินค้า เวียดนามถูกกว่าไทย อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าเพื่อส่งออกต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อ ไป 2. อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า โดยสถานการณ์เหล็กในเดือนพฤศจิกายน 2552 ในส่วนของเหล็ก ทรงยาวคาดว่าจะลดลงเล็กน้อยเนื่องจากการผลิตที่เพิ่มขึ้นในช่วงเดือนก่อนซึ่งผู้ใช้คาดการณ์ว่าราคาจะขึ้นไปอีกจึง สั่งซื้อไว้เพื่อเก็บเป็นสต็อก แต่เมื่อราคาในตลาดโลกกลับลดลงในขณะที่ความต้องการยังคงชะลอตัวอยู่ จึงมีผลทำ ให้เหล็กทรงยาวมีการผลิตที่ลดลง สำหรับเหล็กทรงแบนคาดว่าจะขยายตัวขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลมาจากความต้อง การใช้ของอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น ยานยนต์ เริ่มขยายตัวขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||
37049 | รายงานประจำปีของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ประจำปี 2550) | ศธ | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอรายงานประจำปี 2550 ของสถาบันส่งเสริมการ
สอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) โดยมีผลการดำเนินงานสรุปได้ดังนี้ 1. เร่งรัดดำเนินภารกิจพัฒนาและยกระดับคุณภาพการศึกษาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเน้นการอบรมครูเพื่อให้สามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามมาตรฐานของหลักสูตร 2. เสนอผลการวิเคราะห์การวิจัยร่วมกับนานาชาติเพื่อร่วมผลักดันการพัฒนาการยกระดับคุณภาพการ ศึกษาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีในเชิงนโยบายของประเทศ 3. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโล ยีให้ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ 4. จัดให้มีชั้นเรียนพิเศษใน 96 โรงเรียนทั่วประเทศ เพื่อขยายโอกาสให้เยาวชนที่มีความสามารถพิเศษ ได้รับการพัฒนาเพิ่มมากขึ้น 5. จัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างความตระหนักและกระตุ้นความสนใจในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น การจัดเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ทั้งในกรุงเทพ ฯ และส่วนภูมิภาค และการจัดนิทรรศการวิทยาศาสตร์ โดยเน้นการทดลองปฏิบัติจริง เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
37050 | การโอนใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนบางกอกพัฒนาให้แก่มูลนิธิโรงเรียนบางกอกพัฒนา | กต | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2506 ที่อนุมัติให้กรมวิเทศสหการรับเป็นเจ้าของโรง เรียนบางกอกพัฒนา โดยถือแนวปฏิบัติอย่างเดียวกับที่กระทรวงการต่างประเทศรับเป็นเจ้าของโรงเรียนมหาไถ่ (โรง เรียนร่วมฤดีวิเทศศึกษา) ซึ่งปัจจุบันได้โอนใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนร่วมฤดีวิเทศศึกษา ให้แก่มูลนิธิคณะสงฆ์พระมหา ไถ่แห่งประเทศไทย และได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีตามมติเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2550 แล้ว ทั้งนี้ ให้สำนัก งานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (สพร.) กระทรวงการต่างประเทศมีอำนาจในการโอนใบอนุญาตดัง กล่าวให้แก่มูลนิธิโรงเรียนบางกอกพัฒนา ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ 2. ให้กระทรวงการต่างประเทศตรวจสอบคุณสมบัติของมูลนิธิโรงเรียนบางกอกพัฒนา ซึ่งต้องเป็นไปตาม พระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 มาตรา 22 ก่อนด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
37051 | รายงานการรับและการใช้จ่ายเงินตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 170 (รายงานการรับ - จ่ายเงินและเงินคงเหลือประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา) | ศธ | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอรายงานการรับ-จ่ายเงินและเงินคงเหลือ
ประเภทเงินรายได้สถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยเปรียบเทียบกับปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป สรุปได้ดังนี้ 1. รายงานแสดงรายรับ ประกอบด้วยรายรับจากงบประมาณการดำเนินงาน ดอกเบี้ยเงินฝาก และ รายรับอื่น ๆ จำนวน 6,308,365,179.53 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 188.24 2. รายงานแสดงรายจ่าย ประกอบด้วยรายจ่ายบุคลากร การดำเนินงาน ค่าครุภัณฑ์ ค่าที่ดินและสิ่ง ก่อสร้าง และรายจ่ายอื่น ๆ จำนวน 5,755,626,666.60 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 196.39 3. รายงานแสดงเงินคงเหลือหลังหักภาระผูกพัน จำนวน 2,487,933,706.59 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 75.14 4. รายงานเงินคงเหลือทั้งสิ้น จำนวน 2,517,900,824.61 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 77.24
|
||||||||||||||||||||||||
37052 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการยกเลิกระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ พ.ศ. 2550 พ.ศ. .... | กค | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการยกเลิกระเบียบกระทรวง
การคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ พ.ศ. 2550 พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนิน การต่อไปได้ โดยประเด็นสำคัญที่ต้องยกเลิกระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ ฯ มีดังนี้ 1. เนื่องจากเงินทดรองราชการตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 เป็นเงินที่กระทรวง การคลังจ่าย และอนุญาตให้ส่วนราชการมีไว้ตามจำนวนที่เห็นสมควร เพื่อทดรองจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายตามระเบียบ กระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ พ.ศ. 2547 ข้อ 14 ที่กำหนดให้ทดรองจ่ายได้เฉพาะเพื่อเป็นค่าใช้ จ่ายตามงบประมาณรายจ่ายที่กำหนดไว้เท่านั้น อาทิ รายจ่ายในงบบุคลากร งบดำเนินงาน ฯลฯ ดังนั้น ส่วน ราชการจึงไม่สามารถนำเงินทดรองราชการไปใช้จ่ายนอกเหนือจากที่กำหนดในระเบียบดังกล่าวได้ 2. ในการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลังต้องดำเนินการตามกฎหมายการบริหารหนี้ สาธารณะเท่านั้น ซึ่งมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ ฯ ได้กำหนดให้กระทรวงการคลัง ปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะโดยการกู้เงินรายใหม่เพื่อชำระหนี้เดิม แปลงหนี้ชำระหนี้ก่อนถึงกำหนดชำระ ขยาย หรือย่นระยะเวลาชำระหนี้ ต่ออายุ ซื้อคืน หรือไถ่ถอนตราสารหนี้ของรัฐบาล หรือทำธุรกรรมทางการเงินอื่นที่ เป็นประโยชน์ต่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะตามที่กำหนดในกฎกระทรวง และหากการปรับโครงสร้างหนี้ ดังกล่าวดำเนินการโดยการกู้เงิน การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์และหลัก เกณฑ์ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 24 ด้วย กล่าวคือ ต้องเป็นการประหยัด ลดความเสี่ยงในอัตราแลกเปลี่ยน หรือ กระจายภาระการชำระหนี้ และกู้เงินได้ไม่เกินหนี้ที่กระทรวงการคลังค้างชำระ หรือภาระหนี้ที่กระทรวงการคลัง ค้ำประกัน
|
||||||||||||||||||||||||
37053 | รายงานการสอบบัญชีกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการประจำปี 2551 และข้อเสนอแนะจากการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก | กค | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. รายงานการสอบบัญชีกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ประจำปี พ.ศ. 2551 ซึ่งสำนักงาน การตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 งบรายได้ ค่าใช้จ่าย งบแสดงการเปลี่ยนแปลง สินทรัพย์สุทธิ และงบกระแสเงินสด สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของปี พ.ศ. 2551 และมีความเห็นว่า งบการเงินดัง กล่าวแสดงฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน การเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิ และกระแสเงินสดของ กบข. โดยถูก ต้องตามที่ควรในสาระสำคญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป 2. ข้อเสนอแนะจากการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิกประจำปี พ.ศ. 2552 เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2552 ซึ่ง ที่ประชุม ฯ ได้เสนอให้แก้ไขพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 เพื่อให้สิทธิสมาชิกเพิ่ม ขึ้น ได้แก่ การแก้ไขสูตรบำนาญ ปรับปรุงเรื่องการลงทุน เช่น การนำเงินไปลงทุนในสหกรณ์ออมทรัพย์ การเสนอ ให้มีการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการระหว่างผู้แทนสมาชิก และ กบข. เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกได้แลกเปลี่ยนความคิด เห็นและข้อสังสัยเกี่ยวกับการดำเนินงานของ กบข. รวมทั้งเสนอให้ปรับลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการบริการ และการ ประชาสัมพันธ์ และในการประชุมคณะกรรมการ กบข. ครั้งที่ 7/2552 เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2552 ที่ประชุม ฯ มีมติให้รับข้อคิดเห็นและข้อเสนอจากการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิกเพื่อดำเนินการต่อไป สำหรับการแก้ไขพระราช บัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญและเรื่องระดับนโยบาย นั้น กบข. จะประสานกับกระทรวงการคลังในการพิจารณา ดำเนินการต่อไป ในส่วนของการสัมมนาเชิงปฏิบัติการผู้แทนสมาชิก กบข. จะดำเนินการภายหลังจากเลขาธิการ คนใหม่เข้ารับตำแหน่ง ส่วนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน กบข. จะพิจารณาปรับปรุงต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
37054 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ) | นร | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขาธิ
การนายกรัฐมนตรี แทนนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ ที่ลาออกจากตำแหน่ง ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (12 มกราคม 2553) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||
37055 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 8 มกราคม 2553 | กค | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ)
ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 8 มกราคม 2553 สรุปได้ดังนี้ 1. อนุมัติแล้ว จำนวน 21,888 โครงการ วงเงิน 199,960.60 ล้านบาท 2. การจัดสรร 2.1 รอจัดสรร จำนวน 5,445 โครงการ วงเงิน 49,356.94 ล้านบาท 2.2 จัดสรรแล้ว จำนวน 16,443 โครงการ วงเงิน 149,879.59 ล้านบาท 3. การจัดซื้อจัดจ้าง 3.1 ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ 3.1.1 ทั้งหมด จำนวน 9,912 โครงการ วงเงิน 66,214.17 ล้านบาท 3.1.2 ยังไม่เกิน 15 วันทำการ จำนวน 4,566 โครงการ วงเงิน 35,069.41 ล้านบาท 3.1.3 เกิน 15 วันทำการ จำนวน 5,346 โครงการ วงเงิน 33,144.77 ล้านบาท 4. ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน 6,531 โครงการ วงเงิน 81,665.42 ล้านบาท 5. มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน 6,531 โครงการ วงเงิน 81,532.53 ล้านบาท 6. การดำเนินการ 6.1 ยังไม่ได้เบิกจ่าย จำนวน 715 โครงการ วงเงิน 54,107.83 ล้านบาท 6.2 เบิกจ่ายบางส่วนแล้ว จำนวน 5,662 โครงการ วงเงิน 11,965.74 ล้านบาท 6.3 เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน 154 โครงการ วงเงิน 15,458.96 ล้านบาท 6.4 เบิกจ่ายทั้งหมด จำนวน 5,816 โครงการ วงเงิน 27,424.70 ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||
37056 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นางอัญชลี เทพบุตร) | นร | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนางอัญชลี เทพบุตร เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งรองเลขาธิ
การนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง แทนนายสุธรรม ลิ้มสุวรรณเกษม ที่ลาออกจากตำแหน่ง ตามที่สำนักเลขาธิการ นายกรัฐมนตรีเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (12 มกราคม 2553) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||
37057 | ผลการดำเนินงานของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการปฏิบัติตามมาตรา 67 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย | นร | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการประสานการให้ความเห็นขององค์การอิสระ ในโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง พ.ศ. .... โดยให้มีคณะกรรมการคณะ หนึ่ง เรียกว่า "คณะกรรมการประสานงานให้ความเห็นขององค์การอิสระ" เพื่อกำหนดแนวทางประสานการ ดำเนินการจัดตั้งและดำเนินงานขององค์การอิสระ ตามที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการปฏิบัติตามมาตรา 67 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ 2. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติองค์การอิสระ ตามมาตรา 67 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. .... โดยจัดตั้งองค์การอิสระ (ถาวร) ตามมาตรา 67 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย ตามที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการปฏิบัติตามมาตรา 67 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้หน่วย งานที่เกี่ยวข้องเสนอความเห็นไปเพื่อประกอบการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยตรง แล้ว เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||
37058 | ปัญหาราคาไข่ไก่และแนวทางแก้ไข | พณ | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางแก้ไขปัญหาราคาไข่ไก่ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนิน
การตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ 1. ด้านการตลาด 1.1 ให้กระทรวงพาณิชย์ประสานเชื่อมโยงการจำหน่ายให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่นำผลผลิตไปจำหน่าย ให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง ในสถานที่ราชการและแหล่งชุมชน และจัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายไข่ไก่ ภายใต้ Farm Outlet ที่จัดภายในงานธงฟ้า รวมทั้งเพื่อรณรงค์เชิญชวนให้มีการบริโภคไข่ไก่เพิ่มขึ้น 1.2 ให้กระทรวงกลาโหม กระทรวงยุติธรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกระทรวง ศึกษาธิการ มอบหมายหน่วยงานในสังกัด อาทิ กองทัพเรือ เรือนจำ โรงพยาบาล และโรงเรียน รับซื้อไข่ไก่จาก เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่โดยตรง ในราคา ณ แหล่งผลิต ตามภาวะตลาด เป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน ภายในช่วงเดือน มกราคม-กุมภาพันธ์ 2553 เพื่อให้เกษตรกรสามารถระบายไข่ไก่ส่วนเกินได้อย่างน้อยจำนวนวันละ 1,000,000 ฟอง โดยให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานกลางในการประสานเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานราชการกับเกษตรกร ผู้เลี้ยงไก่ไข่ 2. ด้านการผลิต โดยเร่งรัดให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการตามมติคณะกรรมการนโยบายและ พัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (Egg Board) ในการประชุมเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2553 ที่ให้ลดกำลังการผลิตโดยขอ ความร่วมมือผู้ผลิตไก่ไข่พันธุ์และผู้เลี้ยงไก่ไข่ขนาด 100,000 ตัวขึ้นไป ชะลอการนำลูกไก่เข้าเลี้ยง และปลดแม่ไก่ ยืนกรงเร็วขึ้นก่อนอายุการปลดปกติที่ 78 สัปดาห์
|
||||||||||||||||||||||||
37059 | ขออนุมัติงบกลางเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มรายได้ ปี 2553 | พณ | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการเงิน
สำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินโครงการเร่งด่วนเพื่อเป็นการช่วยเหลือและ ลดภาระค่าครองชีพของประชาชนผู้ที่มีรายได้น้อย จำนวน 2 โครงการ คือ โครงการธงฟ้า...มหาชน และโครง การพัฒนาและส่งเสริมศูนย์จำหน่ายสินค้าเกษตรชุมชน (Farm Outlet) ในวงเงินรวม 180 ล้านบาท สำหรับโครง การส่งเสริมตลาดสดสีฟ้า (Blue Fresh Mart) และโครงการพัฒนารูปแบบการค้าเพื่อลดภาระค่าครองชีพ นั้น ให้ กระทรวงพาณิชย์พิจารณาดำเนินการ โดยค่าใช้จ่ายเพื่อการดังกล่าวให้พิจารณาปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ของกระทรวงพาณิชย์ตามความเหมาะสมต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
37060 | การขอความเห็นชอบมติคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เกี่ยวกับการแก้ไขข้อมูลทะเบียนเกษตรกร ดำเนินการทำสัญญาประกันรายได้ขยายระยะเวลาการออกหนังสือรับรองเกษตรกรและการกำหนดปริมาณข้าวเปลือก โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2552/53 รอบที่ 2 | พณ | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ในการประชุมเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2553 เกี่ยว กับการแก้ไขข้อมูลทะเบียนเกษตรกร ดำเนินการทำสัญญาประกันรายได้ ขยายระยะเวลาการออกหนังสือรับรอง เกษตรกรและการกำหนดปริมาณข้าวเปลือก โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2552/53 รอบที่ 2 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ 1.1 ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดำเนินการทำสัญญาประกันรายได้ (รอบที่ 1) ให้แก่เกษตรกรที่กรมส่งเสริมการเกษตรได้แก้ไขข้อมูลทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจหลัก เมื่อ วันที่ 18 ธันวาคม 2552 จำนวน 34,556 ราย จำแนกเป็นข้าวเปลือก จำนวน 24,268 ราย ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จำนวน 2,726 ราย และมันสำปะหลัง จำนวน 7,562 ราย โดยให้ถือวันที่กรมส่งเสริมการเกษตรได้ให้รับรอง การขึ้นทะเบียนเกษตรกรที่เป็นต้นฉบับที่ออกให้ครั้งแรกไม่ใช่วันที่ปรับปรุงแก้ไขเป็นวันทำสัญญา 1.2 ให้ ธ.ก.ส. ดำเนินการทำสัญญาประกันรายได้ (รอบที่ 1) ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ตกสำรวจ ซึ่งขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตร หลังวันที่ 31 ตุลาคม 2552 และผ่านการทำประชาคมแล้ว จำนวน 77,909 ราย โดยให้ถือวันที่เกษตรกรทำประชาคมเป็นวันทำสัญญา 2. สำหรับมติคณะกรรมการ กขช. เกี่ยวกับการขยายระยะเวลาออกหนังสือรับรองเกษตรกร ฯ และการ กำหนดปริมาณประกันรายได้ต่อครัวเรือน นั้น ให้กระทรวงพาณิชย์รับไปเสนอคณะกรรมการ กขช. พิจารณาทบ ทวนอีกครั้งหนึ่ง
|
.....