ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1733 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 34641 - 34660 จากข้อมูลทั้งหมด 124013 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
34641 | ขอรับการสนับสนุนกรอบอัตรากำลังข้าราชการเพื่อดำเนินภารกิจแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2552 | ยธ | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) ประธานกรรมการกำหนดเป้าหมาย และนโยบายกำลังคนภาครัฐรับเรื่องขอรับการสนับสนุนกรอบอัตรากำลังข้าราชการเพื่อดำเนินภารกิจแผนสิทธิ มนุษยชนแห่งชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๒ (เรื่อง ร่างแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติฉบับที่ ๒ ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน) ไปประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อตรวจสอบให้ได้ข้อ ยุติว่ากระทรวงการต่างประเทศจะให้การสนับสนุนอัตรากำลังข้าราชการ รวม ๒๐ อัตรา แก่กระทรวงยุติธรรม เพื่อดำเนินภารกิจแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติดังกล่าว ได้เพียงใด หากกระทรวงการต่างประเทศให้การสนับ สนุนอัตรากำลังดังกล่าวได้ก็ให้กระทรวงยุติธรรมประสานในรายละเอียดกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วย งานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ในกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศไม่สามารถให้การสนับสนุนอัตรากำลังจำนวนดังกล่าวได้ ก็ อนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยว ข้องเพื่อบรรจุแต่งตั้งผู้มีคุณสมบัติและความรู้ความสามารถให้สอดคล้องกับภารกิจที่จะปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ให้คณะ กรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ และสำนักงาน ก.พ. รับไปพิจารณาการปรับลดกรอบ อัตรากำลังข้าราชการของกระทรวงการต่างประเทศที่ขอรับการจัดสรรในโอกาสต่อไป ตามความเหมาะสมด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
34642 | การแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 | นร | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จำนวน ๒ ฉบับ ของคณะกรรมการพิจารณาแนวทาง การแก้ไขรัฐธรรมนูญตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรม นูญ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... (มาตรา ๙๓ - มาตรา ๙๘) เรื่อง ระบบการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ดังนี้ ๑.๑.๑ มาตรา ๙๓ กำหนดให้มีจำนวน ส.ส. จำนวน ๕๐๐ คน แบ่งเป็น แบบแบ่งเขต ๓๗๕ คน และ แบบบัญชีรายชื่อ ๑๒๕ คน ๑.๑.๒ ร่างมาตรา ๙๔ กำหนดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถเลือก ส.ส. ได้เขตละหนึ่งคน ๑.๑.๓ มาตรา ๙๕ - ๙๘ กำหนดให้การเลือก ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อได้เพียงบัญชีเดียวและให้ถือเขต ประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง (ร่างมาตรา ๙๕) และการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อให้ประกอบด้วยรายชื่อผู้สมัครรับเลือก ตั้งจากภูมิภาคต่าง ๆ (ร่างมาตรา ๙๗) ๑.๒ ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... (มาตรา ๑๙๐) เรื่อง การทำหนังสือสัญญาที่ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา โดยหนังสือสัญญาใดมีบท ๑.๒.๑ การเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยฯ ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา ๑.๒.๒ เรื่องที่ต้องออกพระราชบัญญัติให้เป็นไปตามหนังสือสัญญาต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐ สภา ๑.๒.๓ มีผลกระทบความมั่นคงเศรษฐกิจสังคมของประเทศอย่างกว้างขวางต้องได้รับความเห็นชอบ ของรัฐสภา ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ ๑.๒.๔ มีผลผูกพันด้านการค้า การลงทุนหรืองบประมาณของประเทศต้องได้รับความเห็นชอบของ รัฐสภา ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ ๒. ให้แก้ไขหลักการของร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... (มาตรา ๙๓ - ๙๘) จาก “... เกี่ยวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” เป็น “...เกี่ยวกับที่มาของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” แล้วเสนอรัฐสภาพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ ให้แจ้งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรทราบด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
34643 | ร่างพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. .... | นร | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อสัตว์ โดยกำหนดหลักเกณฑ์ ในการพิจารณาอนุญาตให้ประกอบกิจการฆ่าสัตว์ ระบบการควบคุมและตรวจสอบสุขอนามัยในกระบวนการ ฆ่าสัตว์ที่ได้มาตรฐาน รวมทั้งการขนส่งสัตว์ไปยังโรงฆ่าสัตว์ และการขนส่งเนื้อสัตว์จากโรงฆ่าสัตว์ไปยังสถาน ที่จำหน่าย ให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
34644 | ร่างพระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. .... | มท | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่อง
ขยายเสียง พ.ศ. .... ของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๒) ซึ่งเห็นว่าร่างพระราชบัญญัติที่กระทรวงมหาด ไทยเสนอ เป็นเพียงการปรับปรุงพระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. ๒๔๙๓ ใน รายละเอียดโดยมิได้มีเนื้อหา สาระสำคัญ หรือมาตรการทางกฎหมายแตกต่างไปจากพระราชบัญญัติควบคุม การโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. ๒๔๙๓ อันจะทำให้การใช้บังคับกฎหมายมีประสิทธิภาพมากขึ้นแต่ อย่างใด จึงไม่เป็นการสมควรที่จะปรับปรุงกฎหมายดังกล่าว โดยการออกกฎหมายฉบับใหม่ที่มีเนื้อหาสาระ ส่วนใหญ่เป็นเช่นเดิม ทั้งนี้ ให้ชะลอการดำเนินการร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวไว้ก่อน โดยให้พระราชบัญญัติ ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. ๒๔๙๓ ใช้บังคับไปพลางก่อน และให้กระทรวงมหาดไทยและ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาหารือร่วมกันเพื่อดำเนินการยกร่างกฎหมายกลางเกี่ยวกับการควบคุมการใช้ เสียงเป็นการทั่วไป ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
|
|||||||||||||||||||||||||||
34645 | ร่างพระราชบัญญัติการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง พ.ศ. .... | นร | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มี
กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง เพื่อคุ้มครองให้คนไร้ที่พึ่งสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข มีปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต และมีสภาพร่างกายและจิตใจ เช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป ที่สำนักงานคณะกรรม การกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา แล้วเสนอ สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
34646 | การจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมฝ่ายไทยเพื่อความร่วมมือทวิภาคีระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน | กต | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการเกี่ยวกับองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการร่วมทวิภาคีระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิสถานฝ่ายไทย โดยให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถปรับเปลี่ยนองค์ประกอบได้ตามที่เกี่ยวข้องกับสารัตถะของการประชุม ๒. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมทวิภาคีระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน ครั้งที่ ๑ ณ กรุงทาชเคนต์ สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน
|
|||||||||||||||||||||||||||
34647 | ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืช (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กษ | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืช (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่ม เติมกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองพันธุ์พืช เพื่อให้สอดคล้องกับระบบสากล แก้ไขแนวทางการเก็บ จัดหาพันธุ์พืช พื้นเมืองทั่วไปและพันธุ์พืชป่า เพื่อการศึกษาวิจัย ซึ่งจะทำให้การคุ้มครองพันธุ์พืชมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้ง แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนชุมชน เพื่อให้สามารถมีสิทธิใช้เงินกองทุนคุ้มครองพันธุ์พืช เพื่อ การอนุรักษ์วิจัยและพัฒนาพันธุ์พืชได้ และสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย ตามที่กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ที่เห็นควรเพิ่มความในร่างมาตรา ๑๓ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้รักษาการ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งร่างพระ ราชบัญญัติฯ ให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
34648 | ขอแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2553 โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ - บางซื่อ | คค | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบให้แก้ไขเพิ่มเติมมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๕๓ (เรื่อง ผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๓) ที่ให้มีเอกชนเข้าร่วมลงทุนงานระบบรถไฟฟ้าและบริหารจัดการเดินรถของโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ในรูปแบบ PPP Gross Cost นั้น ให้สามารถดำเนินการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนฯ สำหรับช่วงบางใหญ่-เตาปูน ๑ ราย ทั้งนี้ เป็นไปตามมติคณะกรรมการตามมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๓๕ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ส่วนการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนฯ ช่วงเตาปูน-บางซื่อ เห็นชอบให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินการศึกษาให้ได้ข้อยุติในประเด็นต่าง ๆ เช่น ประเด็นกฎหมาย และข้อดี-ข้อเสียในการดำเนินการตามแนวทางต่าง ๆ และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๓. ให้กระทรวงคมนาคม โดย รฟม. รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-บางซื่อ หาก รฟม. และกระทรวงคมนาคมพิจารณาแล้วได้ข้อยุติว่ามีรูปแบบการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน (PPP) อื่นที่มีความเหมาะสมและสามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้ใช้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดภาระทางการเงินของภาครัฐแล้ว ก็ให้เร่งเสนอเรื่องดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอนเพื่อให้สามารถเปิดให้บริการรถไฟฟ้า ช่วงเตาปูน-บางซื่อ ได้พร้อมกันกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน ตามเป้าหมายเวลาที่กำหนดไว้ต่อไป รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการพิจารณาคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนฯ ช่วงเตาปูน-บางซื่อ ควรพิจารณาถึงความคุ้มค่าและความเป็นไปได้ของรูปแบบในการลงทุนและการให้บริการผู้โดยสารแต่ละรูปแบบ รวมทั้งปรับกรอบระยะเวลาและการดำเนินงานแต่ละกิจกรรมให้ชัดเจน และควรศึกษาวิเคราะห์เปรียบเทียบทางเลือกต่าง ๆ ให้รอบคอบและชัดเจนโดยให้ครอบคลุมถึงการบริหารจัดการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
34649 | การปรับปรุงระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548 | นร | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะ รัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบฯ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขระเบียบฯ ข้อ ๑๘ ข้อ ๒๔ และข้อ ๒๕ ที่ให้อำนาจหัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณ โดยเพิ่ม เงื่อนไขจำกัดอำนาจของหัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในการโอนเปลี่ยนแปลงรายการ และรายละเอียด ของรายการงบประมาณรายจ่ายที่ได้รับการจัดสรรแล้ว ดังนี้ ๑. ระเบียบฯ ข้อ ๑๘ เพิ่มเงื่อนไขให้สำนักงบประมาณสามารถกำหนดหลักเกณฑ์ หรือวิธีปฏิบัติ เพื่อ กำหนดขอบเขตหรือข้อจำกัดของการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของรายการในการจัดหาครุภัณฑ์ ที่ดินหรือ ๒. ระเบียบฯ ข้อ ๒๔ เพิ่มเงื่อนไขห้ามโอนงบประมาณออกจากงบบุคลากรไปตั้งจ่ายในงบรายจ่ายใดๆ และห้ามโอนจากรายการใดๆ ไปตั้งจ่ายเป็นค่าจัดหาครุภัณฑ์ยานพาหนะ เพื่อมิให้เกิดภาระงบประมาณที่จะ ตามมาในอนาคต ๓. ระเบียบฯ ข้อ ๒๕ เพิ่มเงื่อนไขการโอนและหรือเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณภายใต้แผนงานเดียว กัน โดยห้ามมิให้นำเงินเหลือจ่ายที่ดำเนินการบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว ไปตั้งเป็นอัตราบุคลากรตั้งใหม่ ค่าใช้จ่ายใน การเดินทางไปราชการต่างประเทศที่ไม่ได้กำหนดไว้ในแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ค่าครุ ภัณฑ์ตั้งแต่ ๑ ล้านบาทขึ้นไป ค่าที่ดินหรือค่าสิ่งก่อสร้างตั้งแต่ ๑๐ ล้านบาทขึ้นไป และค่าจัดหาครุภัณฑ์ยาน พาหนะ ยกเว้นการจัดหาครุภัณฑ์ยานพาหนะเพื่อทดแทนของเดิมที่สูญหายหรือชำรุด เพื่อให้การใช้จ่ายเงินงบ ประมาณเหลือจ่ายมีขอบเขตจำกัดที่ชัดเจนและเหมาะสม และมิให้เป็นภาระงบประมาณในอนาคต
|
|||||||||||||||||||||||||||
34650 | มาตรการภาษีเพื่อการพัฒนากองเรือพาณิชย์ไทย | กค | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อการพัฒนากองเรือพาณิชย์ไทย โดยให้เจ้าของเรือไทยที่ให้บริการขน ส่งทางทะเลภายในประเทศ (เรือค้าชายฝั่ง) สามารถนำภาษีซื้อที่ถูกจัดเก็บจากการซื้อสินค้า หรือรับบริการ จากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มมาใช้ประโยชน์ในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มได้ เพื่อให้เจ้าของเรือ ไทยสามารถบริหารจัดการกระแสเงินสด (Cash Flow Management) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ๒. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดให้กิจ การที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มเสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้กิจการ ให้บริการขนส่งในราชอาณาจักรโดยเรือเดินทะเลที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มเสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้ และให้ส่ง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
34651 | ขอยกเว้นไม่ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจำหน่ายกิจการหรือหุ้นที่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเป็นเจ้าของ พ.ศ. 2504 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) | กค | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจำหน่ายกิจการหรือ หุ้นที่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเป็นเจ้าของ พ.ศ. ๒๕๐๔ โดยให้คณะรัฐมนตรีมีอำนาจอนุมัติการผ่อนผันให้ส่วน ราชการหรือรัฐวิสาหกิจได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบนี้ โดยเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายก รัฐมนตรีว่าด้วยการจำหน่ายกิจการหรือหุ้นที่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเป็นเจ้าของ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนัก เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ยกร่างขึ้นตามแนวทางที่กระทรวงการคลังเสนอดังกล่าว และให้ส่งคณะกรรมการตรวจ สอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. เมื่อระเบียบตามข้อ ๑ มีผลใช้บังคับแล้ว ให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่ง ประเทศไทย และบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย ได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจำหน่ายกิจการหรือหุ้นที่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเป็นเจ้าของ พ.ศ. ๒๕๐๔ (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) เว้นแต่ในกรณีการจำหน่ายจ่ายโอนหุ้นที่ได้มาตามนโยบายของรัฐบาล หรือหุ้นในกิจการที่กระทรวงการคลังถือ ครองร่วมอยู่ด้วย จะต้องได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลังก่อนจึงจะดำเนินการได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
34652 | ขอยกเว้นเป็นกรณีพิเศษในการก่อสร้างอาคารศูนย์ศึกษาวิจัยและถ่ายทอดความรู้ด้านระบบประสาท | สธ | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. รับทราบตามที่รองอธิบดีกรมการแพทย์ (นายวิวัฒน์ วิริยะกิจจา) เสนอเพิ่มเติมว่า สถาบันประสาท วิทยาได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เพิ่มความสูงของอาคารศูนย์ศึกษาวิจัยและถ่ายทอดความรู้ด้าน ระบบประสาท จากเดิมอีกประมาณ ๔.๘๐ เมตร แล้ว (ตามหนังสือสำนักราชเลขาธิการ ที่ รล ๐๐๐๙.๓/๑๗๕๘๓ ลงวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๓) ๒. อนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๒.๑ ยกเว้นเป็นกรณีพิเศษให้สถาบันประสาทวิทยาดำเนินการก่อสร้างอาคารศูนย์ศึกษาวิจัยและ ถ่ายทอดความรู้ด้านระบบประสาท ที่มีความสูงเกิน ๑๒ เมตร ในพื้นที่บริเวณที่ ๑ (พื้นที่ในบริเวณระหว่างทิศ เหนือจดถนนสุโขทัย ซอยสุคันธารามและคลองสามเสน ทิศตะวันออกจดถนนพระรามที่ ๖ ทิศตะวันออกเฉียง ใต้จดทางรถไฟสายตะวันออก ทิศใต้จดถนนหลานหลวงและถนนกรุงเกษม ทิศตะวันตกจดถนนสามเสนและ ถนนพระรามที่ ๕) แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี ๒.๒ ยกเว้นเป็นกรณีพิเศษในการก่อสร้างอาคารศูนย์ศึกษาวิจัยและถ่ายทอดความรู้ด้านระบบ ประสาทใกล้เคียงอาคารอื่น ๆ ในบริเวณสถาบันประสาทวิทยาน้อยกว่า ๖ เมตร
|
|||||||||||||||||||||||||||
34653 | ขออนุมัติแผนยุทธศาสตร์หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) 4 ปี และขอเงินประเดิม | วธ | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการของแผนยุทธศาสตร์หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ๔ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๔-๒๕๕๗) เพื่อจัดสร้างอาคารและจัดหาอุปกรณ์ครุภัณฑ์สำหรับการอนุรักษ์และเผยแพร่ภาพยนตร์ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรม เสนอ โดยให้กระทรวงวัฒนธรรม [หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน)] รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการต่อยอดการใช้ประโยชน์จากมรดกภาพยนตร์ ของชาติให้เกิดมูลค่าเพิ่มทั้งในเชิงการสร้างสรรค์ทางศิลปวัฒนธรรมและเชิงเศรษฐกิจ รวมทั้งการส่งเสริมกิจกรรมที่ สามารถสร้างรายได้ให้กับองค์กรในระยะยาว อาทิ การระดมความร่วมมือจากภาคเอกชนมาสนับสนุนทางด้านการ เงิน การเข้าร่วมทุนกับนิติบุคคลอื่นในกิจกรรมที่เกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) และการ จัดกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เช่น การสร้างพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิตชีวาสามารถบอกเล่าเรื่องราว ที่น่าสนใจ และสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเยี่ยมชม เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๒. ในส่วนของงบประมาณในการดำเนินการ ให้กระทรวงวัฒนธรรมพิจารณาตามความพร้อม ความ จำเป็นและเหมาะสมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสำหรับเงินประเดิมเพื่อการจัดหาอุปกรณ์การอนุรักษ์ภาพยนตร์ และขยายห้องเย็นเก็บรักษาภาพยนตร์นั้น อนุมัติในหลักการให้ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในกรอบวงเงิน ๑๒๐ ล้านบาท เพื่อ เป็นค่าจัดซื้ออุปกรณ์การอนุรักษ์ฟิล์มภาพยนตร์ด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล ซึ่งมีความจำเป็นเร่งด่วนในการอนุรักษ์ฟิล์ม ภาพยนตร์ที่เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติโดยให้ขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ ส่วน ที่เหลือให้กระทรวงวัฒนธรรมเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ตาม ความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||
34654 | การเปลี่ยนชื่อและขยายขอบเขตของกองทุนเพื่อจัดตั้งระบบเตือนภัยสึนามิในมหาสมุทรอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ | กต | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. การเปลี่ยนชื่อและขยายขอบเขตของกองทุน Tsunami Regional Trust Fund (Multi-Donor Voluntary Trust Fund on Tsunami Early Warning Arrangements in the Indian Ocean and Southeast Asia) เป็น “ESCAP Multi-Donor Trust Fund for Tsunami, Disaster and Climate Preparedness in Indian Ocean and Southeast Asian Countries” ๒. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลงนามในร่างความตกลงฉบับแก้ไขของกองทุนฯ |
|||||||||||||||||||||||||||
34655 | ขอกำหนดกรอบอัตรากำลังเพิ่มใหม่ | ยธ | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ กำหนดกรอบอัตรากำลังเพิ่มใหม่ เพื่อปฏิบัติงานในกรมสอบสวนคดีพิเศษ รวม ๒๖๙ อัตรา จากเดิม ๓๐๐ อัตรา (คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ ได้กำหนดกรอบอัตรากำลังให้แล้ว จำนวน ๓๑ อัตรา ซึ่งเป็นตำแหน่งเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ ประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ/ชำนาญการ) ๑.๒ ให้สำนักงบประมาณจัดสรรเงินงบประมาณ งบบุคลากร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายด้านบุคคล ได้แก่ เงินเดือน และเงินสิทธิประโยชน์อื่น ตามที่กฎหมายกำหนดสำหรับตำแหน่งตามกรอบอัตราข้าราชการ ๓๐๐ อัตรา และพนักงานราชการ ๑๗๐ อัตรา ในคราวเดียวกัน ๒. ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเปลี่ยนแปลงเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีและปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ เพื่อรองรับการบรรจุแต่งตั้งอัตราเพิ่มใหม่ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||
34656 | แผนฟื้นฟูประชากรเสือโคร่งและแผนปฏิบัติการเพื่ออนุรักษ์เสือโคร่ง | ทส | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบในหลักการ และมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อมพิจารณาให้การรับรองเอกสารการประชุมแผนฟื้นฟูประชากรเสือโคร่งของโลก แผนแห่งชาติเพื่อฟื้นฟูประชา กรเสือโคร่งของประเทศไทย และแผนปฏิบัติการเพื่ออนุรักษ์เสือโคร่ง รวม ๓ ฉบับ ๑.๒ มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อ อนุรักษ์เสือโคร่งของประเทศไทย ๑.๓ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิเช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง กระทรวงกลาโหม กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงบประมาณสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนงานดังกล่าว ๒. สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายตามแผนฟื้นฟูประชากรเสือโคร่งของโลกในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นว่า ตามแผนดังกล่าวมีระยะเวลาของแผน ๑๒ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๓ -๒๕๖๕) โดยในช่วงเวลา ๕ ปี แรกของแผนฯ ได้กำหนดประมาณการค่าใช้จ่ายไว้ จำนวน ๙๗.๖ ล้านดอลลาร์ สหรัฐ จำแนกเป็นเงินทุนจากภาครัฐ ๕๓.๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐ และแหล่งทุนภายนอก ๔๔.๑ ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีในแผนงานอนุรักษ์และบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ผลผลิตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ได้รับการบริหารจัดการไว้แล้ว จำนวน ๓๘๐.๓๓๓๑ ล้านบาท ซึ่งสามารถดำเนินการให้ ครอบคลุมการอนุรักษ์เสือโคร่งในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ด้วยแล้ว |
|||||||||||||||||||||||||||
34657 | ขอแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2553 โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ - บางซื่อ | คค | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบให้แก้ไขเพิ่มเติมมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๕๓ (เรื่อง ผลการประชุมคณะ กรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๓) ที่ให้มีเอกชนเข้าร่วมลงทุนงานระบบรถไฟฟ้าและบริหารจัดการ เดินรถของโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ในรูปแบบ PPP Gross Cost นั้น ให้สามารถดำเนิน การคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนฯ สำหรับช่วงบางใหญ่-เตาปูน ๑ ราย ทั้งนี้ เป็นไปตามมติคณะกรรมการตาม มาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๓๕ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ส่วนการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนฯ ช่วงเตาปูน-บางซื่อ เห็นชอบให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน แห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินการศึกษาให้ได้ข้อยุติในประเด็นต่าง ๆ เช่น ประเด็นกฎหมาย และข้อดี-ข้อเสีย ในการดำเนินการตามแนวทางต่าง ๆ และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๓. ให้กระทรวงคมนาคม โดย รฟม. รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน -บางซื่อ หาก รฟม. และกระทรวงคมนาคมพิจารณาแล้วได้ข้อยุติว่ามีรูปแบบการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน (PPP) อื่นที่มีความเหมาะสมและสามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้ใช้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดภาระ ทางการเงินของภาครัฐแล้ว ก็ให้เร่งเสนอเรื่องดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอนเพื่อให้สามารถเปิด ให้บริการรถไฟฟ้า ช่วงเตาปูน-บางซื่อ ได้พร้อมกันกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน ตาม เป้าหมายเวลาที่กำหนดไว้ต่อไป รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการพิจารณา คัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนฯ ช่วงเตาปูน-บางซื่อ ควรพิจารณาถึงความคุ้มค่าและความเป็นไปได้ของรูปแบบใน การลงทุนและการให้บริการผู้โดยสารแต่ละรูปแบบ รวมทั้งปรับกรอบระยะเวลาและการดำเนินงานแต่ละกิจกรรม ให้ชัดเจน และควรศึกษาวิเคราะห์เปรียบเทียบทางเลือกต่าง ๆ ให้รอบคอบและชัดเจนโดยให้ครอบคลุมถึงการ บริหารจัดการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ไปพิจารณา ดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
34658 | การขออนุมัติเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อจัดซื้อผ้าห่มนวมช่วยเหลือกลุ่มผู้ผลิตผ้าห่มนวม | มท | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้กระทรวงมหาดไทยจัดหาผ้าห่มตามความต้องการของประชาชนผู้ประสบ ภัยพิบัติ(ภัยหนาว) ในพื้นที่ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศภัยพิบัติ (ภัยหนาว) ได้ โดยให้จังหวัดดำเนินการ โดยยกเว้นการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ข้อ ๕.๑.๑๘ และให้จังหวัดจัดซื้อเครื่องกันหนาวได้ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทด รองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยจัดซื้อจากกลุ่มอาชีพผู้ผลิต ผ้าห่มนวมที่จดทะเบียนที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้สำรวจแล้ว ในราคาผืนละไม่เกิน ๑๘๐ บาท ภายในวงเงินไม่เกิน ๑ ล้านบาท ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบ ประมาณเกี่ยวกับคุณลักษณะเฉพาะ และราคาต่อหน่วยของผ้าห่มที่จะจัดซื้อให้เหมาะสม และสะท้อนต้นทุน ของผู้ผลิต ก่อนดำเนินการต่อไป และหากวงเงินดังกล่าวไม่เพียงพอให้กระทรวงมหาดไทยประสานงานกับ กรมบัญชีกลาง เพื่อขอขยายวงเงินให้จังหวัดจัดซื้อเครื่องกันหนาวเพิ่มเติมตามความจำเป็นและเหมาะสมเป็น กรณี ๆ ไป ๒. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดติดตามการดำเนินการส่งมอบผ้าห่มให้ถึงมือประชาชน ผู้ประสบภัยหนาวโดยเร็ว ๓. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยประสานกับภาคเอกชนและมูลนิธิต่าง ๆ ที่ประสงค์จะบริจาค ผ้าห่มนวมให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัยหนาว ให้จัดซื้อผ้าห่มนวมจากกลุ่มอาชีพผู้ผลิตผ้าห่มนวมที่จดทะเบียน ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้สำรวจแล้ว เพื่อเป็นการสงเคราะห์ผู้ประสบภัยหนาวและช่วยเหลือ กลุ่มผู้ผลิตผ้าห่มนวมอีกทางหนึ่งด้วย ๔. มอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (กรมอุตุนิยมวิทยา) เร่งรัดการ ดำเนินการขยายเครือข่ายสถานีตรวจสอบสภาพอากาศให้ทั่วถึงและครอบคลุมพื้นที่ต่าง ๆ ให้มากยิ่งขึ้นเพื่อ ประโยชน์ในการพิจารณาประกาศภัยพิบัติ (ภัยหนาว) ในแต่ละพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและสอดคล้องกับข้อเท็จ จริงได้มากยิ่งขึ้น ๕. มอบหมายให้คณะกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งมี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) เป็นประธานกรรมการรับไปพิจารณาแน วทางการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยให้ครอบคลุมถึงกรณีผู้ประสบภัยพิบัติ (ภัยหนาว) ด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
34659 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการนำสิทธิในบำเหน็จตกทอดไปเป็นหลักทรัพย์ประกันการกู้เงิน พ.ศ. .... | กค | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการนำสิทธิ
ในบำเหน็จตกทอดไปเป็นหลักทรัพย์ประกันการกู้เงิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ผู้รับบำนาญต้องยิน ยอมให้กรมบัญชีกลางหักบำนาญรายเดือนเพื่อชำระคืนเงินกู้ให้แก่สถาบันการเงิน และให้การหักบำนาญรายเดือน เพื่อชำระคืนเงินกู้ให้แก่สถาบันการเงินเป็นการชำระเงินให้แก่ทางราชการในลำดับแรก ถัดจากหนี้ภาษีอากรและ หนี้สหกรณ์รวมทั้งกำหนดวิธีปฏิบัติและเงื่อนไขเกี่ยวกับการยื่นคำร้องขอหนังสือรับรองต่อส่วนราชการผู้เบิกเบี้ย หวัดบำนาญ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนิน การต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
34660 | มาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือคนพิการ | กค | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือคนพิการ เพื่อช่วยบรรเทาภาระภาษีให้แก่คนพิการ ทำ ให้คุณภาพชีวิตของคนพิการดีขึ้น และช่วยจูงใจให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือคนพิการ ตลอดจน ช่วยบรรเทาภาระภาษีให้แก่นายจ้างหรือสถานประกอบการที่ได้มีการจ้างคนพิการ และช่วยลดรายจ่าย ของภาครัฐสำหรับการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อช่วยเหลือคนพิการ และอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา และร่างกฎกระทรวง จำนวน ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ๑.๑.๑ ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงินได้ขององค์กร เอกชนที่จัดให้คนพิการได้รับสิทธิประโยชน์ตามมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพ ชีวิตคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๐ เป็นจำนวนร้อยละร้อยของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดให้คนพิการ ได้รับสิทธิประโยชน์ดังกล่าว แต่เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาสำหรับ โครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบแล้วต้องไม่เกินร้อยละสิบของเงินได้พึงประเมินหลังจากหัก ค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนดังกล่าว และหรือรายจ่ายในการจัดสร้างและการบำรุงรักษาสนามเด็กเล่น สวน สาธารณะ หรือสนามกีฬาของเอกชนที่เปิดให้ประชาชนใช้เป็นการทั่วไป โดยไม่เก็บค่าบริการใด ๆ หรือ สนามเด็กเล่นสวนสาธารณะ หรือสถานกีฬาของทางราชการแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละสิบของกำไรสุทธิก่อน หักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์และเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา ๑.๑.๒ ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับเงินได้ของนาย จ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการซึ่งรับคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการตามกฎหมายว่าด้วยการส่ง เสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเข้าทำงาน ที่จ้างคนพิการเข้าทำงานมากกว่าร้อยละหกสิบของลูกจ้าง ในสถานประกอบการนั้น ๑.๒ ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยก เว้นรัษฎากร มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ผู้มีเงินได้เป็นคน พิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการซึ่งเป็นผู้ อยู่ในประเทศไทยและมีอายุไม่เกินหกสิบห้าปีบริบูรณ์ในปีภาษีที่ได้รับเฉพาะส่วนที่ไม่เกินหนึ่งแสนเก้าหมื่น บาทในปีภาษีนั้น ๒. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอเรื่องนี้ต่อคณะกรรม การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติเพื่อพิจารณาเสนอความเห็น แล้วส่งผลการพิจารณาให้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบการตรวจพิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวง ดังกล่าวต่อไป |
.....