ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1734 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 34661 - 34680 จากข้อมูลทั้งหมด 124013 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
34661 | ยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมพลาสติกและการจัดตั้งสถาบันพลาสติก | อก | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมพลาสติก เพื่อเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมแปร รูปผลิตภัณฑ์พลาสติกที่มีมูลค่าเพิ่มสูงในภูมิภาคอาเซียน และสนับสนุนการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ต่าง ๆ ของไทยอย่างยั่งยืน ภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยมีแผนงานโครงการเร่งด่วน ระยะ ๕ ปี (ปี พ.ศ. ๒๕๕๕- ๒๕๕๙) งบดำเนินโครงการรวม ๗๒๐ ล้านบาท และการจัดตั้งสถาบันพลาสติก ในรูปแบบองค์กรอิสระ ภายใต้ อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ เพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมพลาสติกไทย ตามที่กระทรวงอุตสาห กรรมเสนอ โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติ เกี่ยวกับการกำหนดเป้าหมายตัวชี้วัดในระดับโครงการที่ชัดเจน การบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะหน่วยงานที่อาจมีแผนงาน/โครงการในลักษณะเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิด ความซ้ำซ้อนในการดำเนินการ และการใช้งบประมาณ การเพิ่มบทบาทหน้าที่ของสถาบันพลาสติกให้ครอบคลุม อุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ และให้มีแผน/มาตรการรองรับกรณีที่สถาบันฯ อาจมีรายได้จากแหล่งอื่นไม่เป็นไป ตามเป้าหมายเพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อการดำเนินงานของสถาบันฯ ในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๒. มอบหมายให้สำนักงบประมาณรับไปพิจารณาแนวทางการจัดสรรงบประมาณให้แก่สถาบันพลาสติก เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมพลาสติกให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนด |
|||||||||||||||||||||
34662 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย | สธ | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบ
อุทกภัย จำนวน ๔๐๓,๙๔๗,๖๓๐ บาท ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอเพิ่มเติม โดยให้ใช้เงินงบ ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ และ ๒๕๕๓ ที่กันไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปี โดยไม่มีข้อผูกพันจำนวน ประมาณ ๖๓.๓ ล้านบาท และเงินจากโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ สาขาสาธารณสุข (โครง สร้างพื้นฐาน) ที่คงเหลืออยู่ประมาณ ๕๘๒ ล้านบาท ไปช่วยเหลือและฟื้นฟูเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัย โดยตกลงใน รายละเอียดกับสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||
34663 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบให้จัดตั้งสำนักบังคับคดีอาญาและบังคับใช้กฎหมาย ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๕ สิงหาคม ๒๕๕๒) เห็นชอบในหลักการไว้แล้ว ๒. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๕ โดยจัดตั้งสำนักบังคับคดีอาญาและบังคับใช้กฎหมาย เป็นส่วนราชการภายในสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ทำหน้าที่ในการสนับสนุนการบังคับคดีอาญาและการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการยุติธรรมและเพิ่มหลักประกันความยุติธรรมให้แก่ประชาชน ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้ยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๔๙ เรื่อง แนวทางปฏิบัติในการเสนอร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการภายในกรม เป็นการเฉพาะราย
|
|||||||||||||||||||||
34664 | ให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่อีกหนึ่งวาระ (นายอิสรา สุนทรวัฒน์) | นร | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายอิสรา สุนทรวัฒน์) คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่อีกหนึ่งวาระ
|
|||||||||||||||||||||
34665 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2553 | กค | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ สรุปได้ดังนี้
๑. อนุมัติแล้ว จำนวน ๔๒,๔๒๖ โครงการ วงเงิน ๓๔๙,๙๖๐.๔๔ ล้านบาท ๒. การจัดสรร ๒.๑ รอจัดสรร จำนวน ๒,๐๑๙ โครงการ วงเงิน ๒๑,๗๖๙.๕๒ ล้านบาท ๒.๒ จัดสรรแล้ว จำนวน ๔๐,๔๐๗ โครงการ วงเงิน ๓๒๘,๑๙๐.๙๒ ล้านบาท ๓. การจัดซื้อจัดจ้าง ๓.๑ ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ จำนวน ๓,๖๐๑ โครงการ วงเงิน ๑๔,๗๙๑.๔๔ ล้านบาท ๓.๑.๑ ยังไม่เกิน ๑๕ วันทำการ จำนวน ๙๖๐ โครงการ วงเงิน ๕,๘๒๐.๔๘ ล้านบาท ๓.๑.๒ เกิน ๑๕ วันทำการ จำนวน ๒,๖๔๑ โครงการ วงเงิน ๘,๙๗๐.๙๖ ล้านบาท ๓.๒ ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน ๓๖,๘๐๖ โครงการ วงเงิน ๓๑๓,๓๙๙.๔๘ ล้านบาท ๓.๓ มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน ๓๖,๘๐๖ โครงการ วงเงิน ๓๐๑,๒๐๔.๐๘ ล้านบาท ๔. การดำเนินการ ๔.๑ ยังไม่ได้เบิกจ่าย จำนวน ๑,๔๐๗ โครงการ วงเงิน ๕๙,๒๐๖.๐๓ ล้านบาท ๔.๒ เบิกจ่ายแล้วบางส่วน (ยังไม่เสร็จ) ๓๑,๗๕๐ โครงการ วงเงิน ๒๐๓,๙๘๘.๘๗ ล้านบาท ๔.๓ เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน ๓,๖๔๙ โครงการ วงเงิน ๓๘,๐๐๙.๑๘ ล้านบาท ๔.๔ เบิกจ่ายทั้งหมด (๔.๒+๔.๓) จำนวน ๓๕,๓๙๙ โครงการ วงเงิน ๒๔๑,๙๙๘.๐๕ ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||
34666 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลในเมือง และตำบลสระแก้ว อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหา
ริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลในเมือง และตำบลสระแก้ว อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร เป็นกรณีที่มีความ จำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลในเมือง และตำบลสระ แก้ว อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่ง ได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจวางเงินค่าทดแทนเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์และส่งมอบพื้นที่ก่อ สร้างได้ทันตามกำหนดเวลา ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่าง อนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
34667 | ความคืบหน้าโครงการ "เร่งรัฐปฏิบัติการด่วน (เพื่อคนไทย)" | กค | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการ “เร่งรัฐปฏิบัติการด่วน (เพื่อคนไทย” สรุปได้ดังนี้
๑. การจ้างที่ปรึกษาฯ สำนักงานเศรษฐกิจการคลังได้ดำเนินการคัดเลือกตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุฯ โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีตกลง เพื่อคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษาที่เหมาะสมกับโครงการนี้ และคณะกรรมการฯ ได้เลือกบริษัท แมคคินซี่ แอนด์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์และผลงานการดำเนินโครงการตรงกับเจตนารมณ์และวัตถุประสงค์ของการจ้างที่ปรึกษา และอยู่ในวงเงินที่เหมาะสม ๒. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อเตรียมการดำเนินการโครงการและอำนวยการโครงการเร่งรัฐปฏิบัติการด่วน (เพื่อคนไทย) เพื่ออำนวยการโครงการภายหลังลงนามสัญญาจ้างกับบริษัทที่ปรึกษาเพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสำเร็จลุล่วงตามนโยบายของรัฐบาล
|
|||||||||||||||||||||
34668 | นโยบายและมาตรการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ ปี 2554 | พณ | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบกำหนดนโยบายและมาตรการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ ปี ๒๕๕๔ ตามมติคณะกรรมการนโยบายอาหาร ครั้งที่ ๑/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประธานกรรมการนโยบายอาหารเสนอ ดังนี้ ๑.๑ กากถั่วเหลือง ๑.๑.๑ การนำเข้าภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) อากรนำเข้าในโควตาร้อยละ ๒ อากรนำเข้านอกโควตาร้อยละ ๑๑๙ ๑.๑.๒ การนำเข้าภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) อากรนำเข้าร้อยละ ๐ ๑.๑.๓ การนำเข้าภายใต้ความตกลงการค้าเสรี ไทย-นิวซีแลนด์ ไทย - ออสเตรเลีย (FTA) ตามความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจ ไทย - ญี่ปุ่น (JTEPA) อากรนำเข้าในโควตาร้อยละ ๐ ๑.๑.๔ การนำเข้าภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี (AKFTA) อากรนำเข้าในโควตาร้อยละ ๕.๕๖ ๑.๑.๕ การนำเข้าทั่วไป อากรนำเข้าร้อยละ ๖ และค่าธรรมเนียมพิเศษ ตันละ ๒,๕๑๙ บาท ๑.๒ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ๑.๒.๑ การนำเข้าภายใต้ WTO อากรนำเข้าในโควตาร้อยละ ๒๐ ปริมาณโควตา ๕๔,๗๐๐ ตัน และอากรนำเข้านอกโควตาร้อยละ ๗๓ และค่าธรรมเนียมพิเศษตันละ ๑๘๐ บาท ๑.๒.๒ การนำเข้าภายใต้ AFTA อากรนำเข้าร้อยละ ๐ กำหนดช่วงเวลานำเข้าระหว่าง ๑ มีนาคม - ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๔ ๑.๒.๓ การนำเข้าตามความตกลง FTA อากรนำเข้าในโควตาร้อยละ ๐ ๑.๒.๔ การนำเข้าตามความตกลงการค้าเสรี ไทย-ออสเตรเลีย อากรนำเข้าในโควตาร้อยละ ๑๒ ปริมาณโควตา ๗,๓๓๐.๓๒ ตัน อากรนำเข้านอกโควตาร้อยละ ๖๕.๗๐ ๑.๒.๕ การนำเข้าตามความตกลง JTEPA อากรนำเข้าในโควตาร้อยละ ๐ ๑.๒.๖ การนำเข้าตามความตกลง AJCEP อากรนำเข้าในโควตาช่วง ๑ มกราคม - ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔ ร้อยละ ๑๔.๕๐ และช่วง ๑ เมษายน - ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ ร้อยละ ๑๒.๗๐ ๑.๒.๗ การนำเข้าภายใต้ AKFTA อากรนำเข้าในโควตาร้อยละ ๑๑.๑๑ ๑.๒.๘ การนำเข้าทั่วไป อากรนำเข้า กก.ละ ๒.๗๕ และค่าธรรมเนียมพิเศษ ตันละ ๑,๐๐๐ บาท ๑.๓ ปลาป่น การนำเข้าปลาป่นทุกชนิดโปรตีน ๑.๓.๑ ภายใต้ AFTA การนำเข้าภายใต้ความตกลง FTA อาเซียน - จีน อาเซียน - ออสเตรเลีย - นิวซีแลนด์ อากรนำเข้า ร้อยละ ๐ ๑.๓.๒ การนำเข้าตามความตกลง JTEPA ช่วงเดือนมกราคม - มีนาคม ๒๕๕๔ อากรนำเข้าร้อยละ ๓.๓๓ และช่วงเดือนเมษายน - ธันวาคม ๒๕๕๔ ร้อยละ ๑.๖๗ ๑.๓.๓ การนำเข้าภายใต้ AKFTA อากรนำเข้าร้อยละ ๑๐ ๑.๓.๔ การนำเข้าทั่วไป ปลาป่นโปรตีน ๖๐% ขึ้นไป อากรร้อยละ ๑๕ โปรตีนต่ำกว่า ๖๐% อากรร้อยละ ๖ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรศึกษาผลกระทบจากการปรับลดอัตราภาษีนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ ภายใต้กรอบการค้าระหว่างประเทศ (WTO) หากมีการปรับลดจากร้อยละ ๒ เหลือร้อยละ ๐ ทั้งผลกระทบต่อเกษตรกร ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม และประชาชนผู้บริโภคในด้านราคาสินค้าหมวดอาหารที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการในการพิจารณาแนวทางการกำหนดนโยบายนำเข้าในปีต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
34669 | การแต่งตั้งรองประธานกรรมการคนที่สองและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (จำนวน 9 คน 1. นายวิชัย โชควิวัฒน ฯลฯ) | สสส. | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งรองประธานกรรมการคนที่สองและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรม
การกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ จำนวน ๙ คน เนื่องจากรองประธานกรรมการคนที่สองและกรรมการ ในคณะกรรมการกองทุนฯ ชุดปัจจุบัน ได้ดำรงตำแหน่งมาจะครบกำหนดวาระในวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ตาม ที่นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพเสนอ โดยให้การแต่งตั้งมีผลตั้ง แต่วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ เป็นต้นไป ดังนี้ ๑. นายวิชัย โชควิวัฒน รองประธานกรรมการคนที่สอง ซึ่งแต่งตั้งจากผู้ซึ่งมีคุณวุฒิด้านการสร้างเสริมสุขภาพและด้านการ บริหาร ๒. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๒.๑ นายศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคราชการด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ๒.๒ นายสมพร ใช้บางยาง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชนด้านการพัฒนาชุมชน ๒.๓ รองศาสตราจารย์จุมพล รอดคำดี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชนด้านการสื่อสารมวลชน ๒.๔ นางมุกดา อินต๊ะสาร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคราชการด้านการศึกษา ๒.๕ นายธงชัย พรรณสวัสดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชนด้านการกีฬา ๒.๖ รองศาสตราจารย์ประภาภัทร นิยม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชนด้านศิลปวัฒนธรรม ๒.๗ นายสงขลา วิชัยขัทคะ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคราชการด้านกฎหมาย ๒.๘ นายสุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคราชการด้านการบริหาร
|
|||||||||||||||||||||
34670 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 | นร | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้
๑. ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อหนี้ผูกพันที่มีวงเงินรวมไม่เกิน ๑,๐๐๐ ล้านบาท จำนวน ๙๑๘ รายการ เป็นงบประมาณรายจ่ายของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน ๑๕,๕๐๙ ล้านบาท จากวงเงินภาระผูกพันรวมทั้งสิ้นจำนวน ๙๒,๑๕๐.๒ ล้านบาท สำหรับรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไปจำนวน ๒๒ รายการ ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเจ้าของเรื่องดำเนินการตามระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติเป็นกรณี ๆ ไปอีกครั้งหนึ่ง ๒. ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ไม่สามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ สามารถก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณได้ ๓. รายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ กรณีเป็นรายการที่จะต้องจ่ายในรูปของเงินตราต่างประเทศ เช่น รายการค่าเช่าบ้าน ค่าเช่าอาคารสำนักงาน และค่าเช่าทรัพย์สินในต่างประเทศ ฯลฯ ให้สำนักงบประมาณพิจารณาอนุมัติวงเงินผูกพันที่เปลี่ยนแปลงไปจากที่ได้รับอนุมัติเนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยน ในกรณีที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ สามารถปรับแผนการใช้จ่ายจากงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบอีก ๔. ให้สำนักพระราชวังและมหาวิทยาลัยศิลปากรเปลี่ยนแปลงรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากที่ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๔ รายการอาคารเรียนสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา โดยมีวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีตามผลการพิจารณาความเหมาะสมของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||
34671 | รายงานประจำปี 2552 ของศาลรัฐธรรมนูญ | ศร | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเสนอรายงานประจำปี ๒๕๕๒ ของศาล
รัฐธรรมนูญ ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่สำคัญดังนี้ ๑. การพิจารณาวินิจฉัยคดี มีเรื่องที่รับเข้าสู่กระบวนพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน ๖๙ เรื่อง [เรื่องที่รับไว้พิจารณาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๑๒ (ฟ้องตรง จำนวน ๒๓ เรื่อง และมาตราอื่น จำนวน ๔๖ เรื่อง] เรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเสร็จ เป็นคำวินิจฉัยและคำสั่ง จำนวน ๖๗ เรื่อง (คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรม นูญ จำนวน ๒๐ เรื่อง และคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน ๔๗ เรื่อง) และเรื่องร้องเรียนที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน ๒๒ เรื่อง ๒. การพัฒนากระบวนการวินิจฉัยคดีและยกระดับมาตรฐานการพิจารณาสู่ระดับสากล ๓. การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนและการพัฒนาประชาธิปไตย ๔. การพัฒนาองค์กรและบุคลากรสู่ความเป็นเลิศในระดับสากล ๕. การเสริมสร้างและพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือกับองค์กรภายนอกทั้งในประเทศและต่างประเทศ
|
|||||||||||||||||||||
34672 | รายงานผลการเข้าร่วมประชุม Aichi - Nagoya Ministerial Meeting on REDD+Partnership ณ เมืองนาโงย่า จังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น (ระหว่างวันที่ 25 - 26 ตุลาคม 2553) | ทส | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานผลการเข้าร่วม
ประชุม Aichi-Nagoya Ministerial Meeting on REDD+Partnership ณ เมืองนาโงย่า จังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในระหว่างวันที่ ๒๕-๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๓ สรุป ได้ดังนี้ ๑. ที่ประชุมได้ยืนยันการให้เงินช่วยเหลือเพิ่มเติมกิจกรรม REDD+ ของประเทศพัฒนาแล้ว ได้แก่ ประเทศ เบลเยียม ประเทศอิตาลี และสหราชอาณาจักร ๒. ที่ประชุมได้แสดงความยินดีต่อความสำเร็จของการดำเนินงานตามโปรแกรม REDD+Partnership ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ในส่วนของความโปร่งใสด้านการเงินและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง website ที่จัดทำเพื่อการแลก เปลี่ยนและสื่อสารข้อมูลอันเป็นพื้นฐานสำคัญที่นำไปสู่การปรับปรุงการดำเนินงาน REDD+ ได้อย่างต่อเนื่อง โดย ที่ประชุมได้เน้นถึงความสำคัญของการลดช่องว่างและหลีกเลี่ยงความซ้ำซ้อนทางการเงินโดยให้เพิ่มศักยภาพการ ดำเนินงานและการสนับสนุนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นให้แล้วเสร็จ ภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ๓. ที่ประชุมเห็นชอบที่จะให้หุ้นส่วนความร่วมมือดำเนินการเสริมศักยภาพทางการเงินและกิจกรรม REDD+ โดยการเสริมสร้างความโปร่งใส และเพิ่มประสิทธิภาพในการประสานงาน โดยขยายเวลาการดำเนินกิจกรรมภาย ใต้โปรแกรมงานปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ที่ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งได้แก่การจัดตั้งหน่วยงานรองรับ (institutional arrangement) ด้าน REDD+ การเตรียมความพร้อมในการเสริมศักยภาพด้าน REDD+ การจัดทำโครงการนำร่องด้าน REDD+ กิจ กรรมที่อยู่บนพื้นฐานของผลสัมฤทธิ์ (result based action) REDD+ ที่มีกระบวนการรายงาน ติดตามผล และตรวจ สอบได้ และการเพิ่มศักยภาพด้านการเงิน (scaling up finance) พร้อมทั้งได้ย้ำถึงความจำเป็นจะต้องจัดทำโปร แกรมงานปี พ.ศ. ๒๕๕๔-๒๕๕๕ ให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ ๔. ที่ประชุมเห็นพ้องถึงความสำคัญของหุ้นส่วนความร่วมมือ REDD+ ในการใช้เป็นเครื่องมือขับเคลื่อน และเพิ่มประสิทธิภาพในการเสริมสร้างความร่วมมือ เสริมศักยภาพกิจกรรมด้าน REDD+ และความช่วยเหลือทาง การเงินอันจะช่วยผลักดันและส่งเสริมกลไกที่สามารถสร้างแรงจูงใจทางบวกทางนโยบายและกิจกรรมด้าน REDD+ ภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) โดยคาดหวังว่าการดำเนิน งานแบบค่อยเป็นค่อยไปของ REDD+Partnership จะทำให้กลไกของ REDD+ ภายใต้ UNFCCC จะได้รับการรับรอง ในที่ประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ ๑๖ ณ เมืองแคนคูน สหรัฐเม็กซิโก
|
|||||||||||||||||||||
34673 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายปประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัยและวาตภัย) ครัวเรือนละ 5,000 บาท (ภาคใต้) | มท | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัยและวาตภัย) ภาคใต้ จำนวน ๓๗๓,๑๘๒ ครัวเรือน ครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๑,๘๖๕,๙๑๐,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยให้สำนักงบประมาณจัดสรรเงินงบประมาณตรงให้ธนาคารออมสินเป็นหน่วยรับงบประมาณ จากกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๓,๑๖๑,๔๔๐,๐๐๐ บาท ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ [เรื่อง ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย)] ตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
34674 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลผักขะ ตำบลบ้านด่าน ตำบลบ้านใหม่หนองไทร ตำบลฟากห้วย ตำบลท่าข้าม ตำบลอรัญประเทศ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พ.ศ. .... | คค | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้อง
ที่ตำบลผักขะ ตำบลบ้านด่าน ตำบลบ้านใหม่หนองไทร ตำบลฟากห้วย ตำบลท่าข้าม ตำบลอรัญประเทศ อำเภอ อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบล ผักขะ ตำบลบ้านด่าน ตำบลบ้านใหม่หนองไทร ตำบลฟากห้วย ตำบลท่าข้าม ตำบลอรัญประเทศ อำเภออรัญ ประเทศ จังหวัดสระแก้ว เพื่อสร้างทางหลวงชนบท สายเลี่ยงเมืองอรัญประเทศด้านใต้แยกทางหลวงแผ่นดินหมาย เลข ๓๓ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการ ต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
34675 | แนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม | กษ | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ดังนี้ ๑.๑ กรณีช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพารา ๑.๑.๑ ให้การช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพาราที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ๒๕๕๓ ถึงสิ้นสุดฤดูฝนปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ๑.๑.๒ ให้การช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพาราทุกรายได้ที่รับความเสียหาย (เสียสภาพสวน) เป็นกรณีพิเศษร้อยละ ๕๕ ของต้นทุนการผลิตยางพารา ๗ - ๒๒ ปี ในอัตราไร่ละ ๖,๐๐๗ บาท โดยเร่งรัดการจ่ายเงินช่วยเหลือให้ถึงมือเกษตรกรชาวสวนยางโดยเร็ว โดยให้ใช้แนวทางเดียวกับกรณีการจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัยครอบครัวละ ๕,๐๐๐ บาท โดยดำเนินการจ่ายเงินผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ๑.๑.๓ กรณีสวนยางพาราที่เป็นพื้นที่ป่าสงวนหรือหวงห้ามอื่น ๆ มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) ประธานกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รับไปพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือและการแก้ไขปัญหาการใช้พื้นที่ดังกล่าวร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ๑.๒ กรณีเสบียงสัตว์ เห็นชอบในหลักการให้ผลิตหญ้าแห้งเพิ่มเติมจากเป้าหมายเดิมอีกจำนวน ๒,๐๐๐ ตัน ๑.๓ กรณีช่วยเหลือเรือและเครื่องมืออุปกรณ์การจับปลา ๑.๓.๑ ให้การช่วยเหลือเรือประมงและเครื่องทำการประมงที่ประสบภัยพายุดีเปรสชั่นในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๓ เป็นต้นไป ๑.๓.๒ กรณีเรือประมง ให้การช่วยเหลือเป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามระเบียบกรมประมงว่าด้วยการจ่ายเงินช่วยเหลือและฟื้นฟูอาชีพประมงที่ประสบภัยธรณีพิบัติใน ๖ จังหวัดภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๔๘ โดยการช่วยเหลือเป็นการปรับฐานจากความช่วยเหลือปี พ.ศ. ๒๕๔๑ ให้เป็นปีปัจจุบัน โดยใช้ดัชนีราคาผู้ผลิตของกระทรวงพาณิชย์ในหมวดยานพาหนะและอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๑.๕ และให้กรมประมงดำเนินการออกระเบียบเพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพประมงที่ประสบภัยพิบัติในครั้งนี้ต่อไป ๑.๓.๓ กรณีเครื่องมืออุปกรณ์ทำการประมง ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ ๕.๑.๑๕ ค่าเครื่องมือประกอบอาชีพ และหรือเงินทุนประกอบอาชีพสำหรับผู้ประสบภัยพิบัติ เท่าที่จ่ายจริง ครอบครัวละไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท ๑.๓.๔ กรณีเครื่องมือจับปลาแบบโพงพางและไซนั่งในพื้นที่โดยรอบทะเลสาบสงขลา ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือกรณีดังกล่าวร้อยละ ๗๐ เช่นเดียวกับการช่วยเหลือกรณีสึนามิในปี พ.ศ. ๒๕๔๘ ๒. ในส่วนของงบประมาณค่าใช้จ่ายเพื่อการดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามข้อ ๑ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อมูลความเสียหายต่าง ๆ ให้ถูกต้อง ครบถ้วน รวมทั้งแหล่งเงินงบประมาณที่จะใช้ และประสานกับสำนักงบประมาณเพื่อขอตกลงในรายละเอียดให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ก่อนดำเนินการต่อไปด้วย ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายรายการใดไม่สามารถจะใช้เงินงบประมาณที่กันไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปีของปีงบประมาณที่ผ่านมาหรือปรับแผนการใช้จ่ายของปีงบประมาณปัจจุบันได้ อนุมัติให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยจัดงบให้กระทรวงการคลัง โดย ธ.ก.ส. เพื่อจ่ายให้เกษตรกรได้โดยเร็วต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
34676 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลมุกดาหาร และตำบลศรีบุญเรือง อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร พ.ศ. .... | คค | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่
ตำบลมุกดาหาร และตำบลศรีบุญเรือง อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนด เขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลมุกดาหาร และตำบลศรีบุญเรือง อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัด มุกดาหาร เพื่อสร้างและขยายทางหลวงชนบท สาย ง ๒ และ ง ๓ ตามโครงการผังเมืองรวมเมืองมุกดาหาร ตามที่ กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
34677 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแจ้งไม่ใช้รถ พ.ศ. .... | คค | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแจ้งไม่ใช้รถ
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขปรับปรุงกฎกระทรวง ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๕๒๔) ออกตามความในพระราชบัญญัติรถ ยนต์ พ.ศ. ๒๕๒๒ เพื่อกำหนดให้เจ้าของรถสามารถยื่นคำขอแจ้งไม่ใช้รถต่อนายทะเบียนได้ทั่วราชอาณาจักร ตาม ที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
34678 | ผลการดำเนินการของคณะกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ครั้งที่ 7/2553) | นร | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. รับทราบและอนุมัติตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) ประธานกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) ครั้งที่ ๗/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ซึ่งได้มีการประชุมปรึกษาหารือเพื่อทราบรายงานสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย และพิจารณาในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ หลักเกณฑ์แนวทางการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง การแก้ไขปัญหาในพื้นที่น้ำท่วมขัง การขออนุมัติจัดทำข้าวสารบรรจุถุงเพื่อแจกจ่ายประชาชนผู้ประสบภัย และการยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑.๒ อนุมัติให้กรมส่งเสริมการเกษตรใช้งบประมาณ จำนวน ๑๔,๘๘๓ ล้านบาท โดยใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี ๒๕๕๓ ๑.๓ อนุมัติให้จ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยภาคใต้เพิ่มเติม จำนวน ๓๗๓,๑๘๒ ครัวเรือน ครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท รวมงบประมาณทั้งสิ้น ๑,๘๖๕,๙๑๐,๐๐๐ บาท โดยใช้งบประมาณงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ๒. อนุมัติให้เพิ่มกรมประมงและกรมปศุสัตว์เป็นหน่วยงานที่ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑๔,๘๘๓ ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี ๒๕๕๓ ด้วย ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอเพิ่มเติม
|
|||||||||||||||||||||
34679 | ขออนุมัติให้ความเห็นชอบและลงนามในตราสารเพื่อเสริมสร้างเครือข่ายการติดตามตรวจสอบการตกสะสมของกรดในภูมิภาคเอเชียตะวันออก [Instrument for Strengthening the Acid Deposition Monitoring Network in East Asia (EANET)] | ทส | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ ๑. เห็นชอบในเนื้อหาสาระของตราสารเพื่อเสริมสร้างเครือข่ายการติดตามตรวจสอบการตกสะสมของกรดในภูมิภาคเอเชียตะวันออก [Instrument for Strengthening the Acid Deposition Monitoring Network in East Asia (EANET)] และมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมอบหมายลงนามตราสารเพื่อเสริมสร้างเครือข่ายการติดตามตรวจสอบการตกสะสมของกรดในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. อนุมัติมอบหมายให้อธิบดีกรมควบคุมมลพิษเป็นผู้ลงนามในตราสารเพื่อเสริมสร้างเครือข่ายการติดตามตรวจสอบการตกสะสมของกรดในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอเพิ่มเติม |
|||||||||||||||||||||
34680 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนงิม จังหวัดพะเยา พ.ศ. .... | มท | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนงิม จังหวัดพะเยา พ.ศ. .... มี
สาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลงิม อำเภอปง จังหวัดพะเยา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการ ขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....