ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1736 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 34701 - 34720 จากข้อมูลทั้งหมด 124013 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
34701 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร | นร | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์
ที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ซึ่งพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราช การครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของคณะรัฐมนตรี โดยให้เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อ บรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วนต่อไป และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๓ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๒๘ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพุธที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ และครั้งที่ ๒๙ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วัน พฤหัสบดีที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ รวมทั้งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ ๘ (สมัย สามัญนิติบัญญัติ) วันอังคารที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
|
|||||||||||||||||||||||||||
34702 | การดำเนินการปฏิรูปประเทศไทย | นร | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอเกี่ยวกับการดำเนินการปฏิรูปประเทศไทย โดย
กำหนดแนวทางการดำเนินการ ดังนี้ ๑. กรณีหน่วยงานใดไม่ได้ส่งผู้แทน หรือส่งผู้แทนในระดับที่ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจมาร่วมปฏิบัติ งานตามโครงการ “เร่งรัฐปฏิบัติการด่วน (เพื่อคนไทย)” และผู้แทนหน่วยงานดังกล่าวไม่ได้ร่วมแสดงความคิด เห็นหรือตัดสินใจในส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้ถือว่าหน่วยงานนั้นๆ สละสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็น โต้แย้งหรือร่วม ตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ๒. ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือเป็นหลักการว่าผู้แทนของหน่วยงานที่ส่งมาปฏิบัติงานในครั้งนี้เป็น ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่สำคัญตามนโยบายของรัฐบาลเพิ่มเติมจากภาระหน้าที่ปกติ และสมควรได้ รับการพิจารณาความดีความชอบเป็นกรณีพิเศษ ทั้งนี้ โดยมอบหมายให้ผู้รับผิดชอบหลักในการดำเนินการ ปฏิรูปประเทศไทยแต่ละด้าน (การสร้างระบบเศรษฐกิจที่เท่าเทียมและเป็นธรรม การยกระดับคุณภาพชีวิตของ ประชาชนและขยายสวัสดิการสังคม การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม การเมือง และความไม่เท่าเทียมในสังคม และ การสร้างอนาคตของชาติด้วยการพัฒนาคน เด็ก และเยาวชน) เช่น เลขาธิการนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้รับผิดชอบ หลักในเรื่องการสร้างระบบเศรษฐกิจที่เท่าเทียมและเป็นธรรม เป็นผู้พิจารณาเสนอความดีความชอบเป็นกรณีพิเศษ ให้แก่ผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่มาปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวตามความเหมาะสม โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
34703 | ร่างปฏิญญาพนมเปญและเอกสารสำหรับการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS Summit) ครั้งที่ 4 | นร | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ในการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือ
ทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) ครั้งที่ ๔ ในวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ณ กรุงพนมเปญ จะมีการรับรองร่างปฏิญญาพนมเปญ ซึ่งมีการขยายข้อความในร่างปฏิญญาฯ ดังกล่าวในส่วนที่เกี่ยวกับการจัด ตั้งกลไกความร่วมมือเรื่องข้าวในกลุ่มประเทศ ACMECS เพิ่มเติมจากร่างปฏิญญาฯ ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติไปแล้ว เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ จึงเห็นควรให้ความเห็นชอบหลักการร่างปฏิญญาฯ ดังกล่าว เพื่อที่จะได้ให้การ รับรองในการประชุมผู้นำฯ ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
34704 | ร่างพระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และการปรับระบบบริหารงานบุคคลข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา | ศธ | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์
ที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราช การครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่อง ด่วนต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
34705 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลมะขามเตี้ย และตำบลบางกุ้ง อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ศ. .... | คค | 09/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลมะขามเตี้ย และตำบลบางกุ้ง อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ตำบลมะขามเตี้ย และตำบลบางกุ้ง อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อสร้างและขยายทางหลวงชนบท สายเชื่อมระหว่างถนนชนเกษมกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔๐๗๙ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
34706 | นโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติ | ทก | 09/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นเครื่องมือในการนำนโยบายดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติต่อไป โดยนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติ เป็นแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญด้านโทรคมนาคมของประเทศให้มีความก้าวหน้าและทันสมัย ในส่วนของผู้ให้บริการโครงข่ายและบริการที่สามารถรองรับและครอบคลุมความต้องการของทุกภาคส่วนได้อย่างทั่วถึง ซึ่งจะนำไปสู่การสนับสนุนและเสริมสร้างศักยภาพการพัฒนาประเทศในภาพรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีเป้าหมายหลักคือ พัฒนาโครงข่ายบรอดแบนด์ให้ครอบคลุมประชากร ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๘๐ ภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ และไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๙๕ ภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ และให้มีบริการบรอดแบนด์ความเร็วสูงผ่านเคเบิลใยแก้วนำแสงในเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภูมิภาค ความเร็วไม่ต่ำกว่า 100 Mbps ภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ๑.๒ เห็นชอบให้คณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งชาติ (กทสช.) บูรณาการคณะทำงานในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และจัดตั้งคณะอนุกรรมการร่วมระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน โดยมีหน้าที่จัดทำกรอบแผนการดำเนินการ กำหนดตัวชี้วัดและวิธีประเมินผลที่จำเป็นสำหรับการติดตามความสำเร็จของนโยบาย เสนอองค์กรที่รับผิดชอบดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ รวมทั้งจัดทำรายงานความก้าวหน้าการดำเนินการตามนโยบายฯ เพื่อให้ กทสช. เสนอต่อคณะรัฐมนตรีและสาธารณะเป็นระยะ ๆ ๑.๓ เห็นชอบให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารประสานงานกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน รวมทั้งองค์กรกำกับดูแล เพื่อการขับเคลื่อนนโยบายฯ ไปสู่การปฏิบัติต่อไป ๒. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรส่งเสริมและลงทุนในการพัฒนาขีดความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของประเทศ เพื่อสนับสนุนนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติ โดยครอบคลุมการศึกษา การเรียนรู้ตลอดชีวิต การพัฒนาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการประยุกต์ใช้ในสาขาต่าง ๆ นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันเสรีและเป็นธรรมและเป็นผู้นำในการพัฒนาการใช้ประโยชน์เพื่อสร้างอุปสงค์ของบริการบรอดแบนด์ รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมีความสามารถในการใช้ประโยชน์จากบริการบรอดแบนด์และเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างรายได้ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
34707 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 09/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระ สำคัญคือ เพิ่มเติมหมวด ๓/๒ บำเหน็จตกทอด กำหนดให้กรณีที่ผู้รับบำเหน็จรายเดือน หรือผู้รับบำเหน็จพิเศษ รายเดือนถึงแก่ความตาย ให้จ่ายบำเหน็จตกทอดเป็นจำนวนสิบห้าเท่าของบำเหน็จรายเดือน หรือบำเหน็จพิเศษ รายเดือนแล้วแต่กรณีให้แก่ทายาทผู้มีสิทธิได้รับมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของผู้รับบำเหน็จราย เดือน หรือผู้รับบำเหน็จพิเศษรายเดือน โดยแบ่งจ่ายให้แก่ผู้มีสิทธิตามสัดส่วนของเงินมรดก โดยมิต้องกันส่วนเป็น สินสมรสก่อนแบ่ง เนื่องจากเงินดังกล่าวไม่ถือเป็นสินสมรส และกำหนดให้นำวิธีการในการยื่นเรื่องราวขอรับบำ เหน็จลูกจ้างตามข้อ ๒๐ มาใช้กับการยื่นเรื่องราวขอรับบำเหน็จตกทอด ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่ง คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไป ได้ ๒. สำหรับงบประมาณเพื่อรองรับการปรับปรุงสิทธิให้แก่ทายาทรับบำเหน็จตกทอดในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้กระทรวงการคลังพิจารณาเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบ กลาง รายการเงินเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ ที่ได้ตั้งงบประมาณรายจ่ายไว้แล้ว จำนวน ๙๖,๑๐๓ ล้านบาท ตาม ความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
34708 | การลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ State Oceanic Adminstration | ทส | 09/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ State Oceanic Administration และอนุมัติการลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ และให้นำเสนอรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบต่อไป รวมทั้งมอบอำนาจให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญในบันทึกความเข้าใจฯ ให้ผู้ลงนามสามารถใช้ดุลพินิจในเรื่องนั้น ๆ แทนคณะรัฐมนตรีได้ และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจ (Full Powers) ในการลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้ลงนาม โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการต่อไปได้เมื่อรัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบในบันทึกความเข้าใจฯ แล้ว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. หากรัฐสภาไม่ได้พิจารณาบันทึกความเข้าใจฯ ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) นี้ ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการเสนอบันทึกความเข้าใจฯ ไปยังรัฐสภาในสมัยประชุมถัดไป โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก |
|||||||||||||||||||||||||||
34709 | การถวายพระราชสมัญญา "พระมารดาแห่งการคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ" แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในปีสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ ค.ศ. 2010 | ทส | 09/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการถวายพระราชสมัญญา “พระมารดาแห่งการคุ้มครองความหลากหลาย
ทางชีวภาพ” แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในปีสากลแห่งความหลาก หลายทางชีวภาพ ค.ศ. ๒๐๑๐ ตามมติคณะกรรมการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๓ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||
34710 | โครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลโดยการสร้างปะการังเทียม | ทส | 09/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบและรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) ประธานกรรมการ อำนวยการโครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบแผนบูรณาการการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลโดยการสร้างปะการังเทียม โดยการจัด สร้างปะการังเทียมเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศในทะเล ปริมาณสัตว์น้ำ และส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรชายฝั่ง ทะเลอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ระยะเวลาดำเนินงาน ๖ ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔- ๒๕๕๙ งบประมาณดำเนินการรวม ๑๐,๐๔๓.๙๕ ล้านบาท และมอบหมายให้คณะอนุกรรมการพิจารณาและกำกับ การจัดสร้างปะการังเทียมติดตามการดำเนินงานตามแผนบูรณาการฯ ต่อไป ๑.๒ รับทราบสถานการณ์ความเสื่อมโทรมในระดับวิกฤตของแนวปะการังเทียมอันเกิดจากการใช้ ประโยชน์อย่างไม่ยั่งยืนและปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว และมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดล้อม โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจัดทำมาตรการการแก้ไขปัญหาความเสื่อมโทรมของแนวปะการัง ในพื้นที่วิกฤตเร่งด่วนและติดตามสถานการณ์ปะการังฟอกขาวและผลกระทบอย่างใกล้ชิดต่อไป ๒. สำหรับงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตามแผนบูรณาการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลโดยการสร้าง ปะการัง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณและบูรณาการระหว่าง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ ส่วนค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป ให้กำหนดวิธีดำเนินงานและลำดับความสำคัญของ พื้นที่ดำเนินการที่มีปัญหาเร่งด่วน แล้วให้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป โดยให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อมิให้การดำเนินงานในพื้นที่มีผลกระทบและเกิด ความเสียหายต่อพื้นที่อื่น ๆ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเสนอเพิ่มเติม ๓. ให้คณะกรรมการอำนวยการโครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความ เห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรเพิ่มเติม แนวทางและมาตรการด้านการอนุรักษ์และป้องกันความเสื่อมโทรมของทรัพยากรชายฝั่งทะเลและผลักดันให้เกิดผล ในทางปฏิบัติอย่างจริงจัง รวมทั้งพิจารณาศึกษาวิเคราะห์ความเป็นไปได้และความเหมาะสมของเทคนิคที่เลือกใช้ใน การฟื้นฟูปะการังตามแผนฟื้นฟูทรัพยากรปะการังให้เสร็จสิ้นก่อน แล้วจึงพิจารณาสร้างปะการังเฉพาะในพื้นที่ที่มี ความจำเป็นเท่านั้น เนื่องจากงบประมาณที่ใช้ในการจัดสร้างปะการังเทียมค่อนข้างสูง ไปพิจารณาดำเนินการใน ส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
34711 | การชดเชยรายได้เกษตรกรโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2552/53 | พณ | 09/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๐/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๓ ที่ เห็นชอบให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จ่ายเงินชดเชยรายได้เกษตรกรโครงการประกัน รายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี ๒๕๕๒/๕๓ ให้แก่เกษตรกรเพิ่มเติม ตั้งแต่ช่วงวันที่ ๑๕ มีนาคม-๒๕ เมษายน ๒๕๕๓ (เฉพาะข้าวเปลือกปทุมธานีชดเชยช่วงวันที่ ๒๒ มีนาคม-๑๑ เมษายน ๒๕๕๓) ซึ่งจะต้องจ่ายเงินชดเชยเพิ่มเติมให้ เกษตรกรที่ใช้สิทธิปริมาณข้าวเปลือก ๑,๘๐๗,๗๑๖ ตัน เป็นเงิน ๖๕๑.๗๓ ล้านบาท จำแนกเป็น ข้าวเปลือกเจ้า ๕% ประมาณ ๑,๗๒๕,๓๒๔ ตัน เป็นเงิน ๖๓๓.๕๖ ล้านบาท และข้าวเปลือกปทุมธานี ปริมาณ ๘๒,๓๙๒ ตัน เป็นเงิน ๑๘.๑๗ ล้านบาท ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๒. ให้ ธ.ก.ส. รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควร ให้ ธ.ก.ส. จ่ายค่าชดเชยรายได้จำนวนดังกล่าวนี้ให้แก่เกษตรกรโดยเร็ว ซึ่งจะเป็นการช่วยบรรเทาปัญหาความเดือด ร้อนจากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรในพื้นที่ได้ด้วย และเร่งตรวจสอบ ทำสัญญา รวมทั้งชี้แจงให้เกษตรกร เข้าใจเกี่ยวกับการใช้สิทธิในรอบใหม่ให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาร้องเรียนในภายหลัง ไปดำเนินการโดยด่วน |
|||||||||||||||||||||||||||
34712 | มาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง | กค | 09/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง ประกอบด้วย มาตรการภาษีด้านเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล มาตรการภาษีด้านการประกันภัย และมาตรการภาษีเกี่ยวกับทรัพย์ สินและสินค้าถูกเพลิงไหม้หรือเสียหายเกี่ยวเนื่องจากการเกิดเพลิงไหม้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา จำนวน ๖ ฉบับ และร่างกฎกระทรวง จำนวน ๑ ฉบับ ตามที่ กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๒.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้ ประกอบกิจการที่ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลและหรือกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นการขจัดภาระภาษีและบรรเทา ภาระภาษี ๒.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับเงินได้เท่าจำนวนเงินช่วย เหลือในส่วนของเงินเดือนประจำที่ได้จ่ายให้ลูกจ้างไปแล้วตามบัญชี ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่ อธิบดีประกาศกำหนด ๒.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้เอา ประกันภัยที่ได้รับเงินช่วยเหลือจากบริษัทที่ประกอบกิจการประกันภัย เพื่อเป็นการบรรเทาภาระภาษี ๒.๔ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทที่ประกอบกิจการประกันภัยสำหรับเงินได้เท่าจำนวนเงิน ช่วยเหลือซึ่งจ่ายให้แก่ผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่ เริ่มในหรือหลังวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด เพื่อเป็นการบรรเทาภาระภาษี ๒.๕ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บุคคลธรรมดา และบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้เอา ประกันภัยสำหรับเงินได้ที่เป็นค่าสินไหมทดแทนที่ได้รับจากบริษัทที่ประกอบกิจการประกันภัยเพื่อชดเชยความเสีย หายที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองระหว่างเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ เฉพาะส่วนที่เกินมูลค่าต้นทุนของทรัพย์สินที่เหลือจากการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคา ตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร ทั้งนี้ สำหรับปีภาษีที่ได้รับค่าสินไหมทดแทนดังกล่าวหรือสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่ม ในหรือหลังวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ๒.๖ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้เป็นจำนวนร้อยละหนึ่งร้อยของมูลค่าต้นทุนของทรัพย์สิน ส่วนที่เหลืออยู่หลังจากหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคา มูลค่าซ่อมแซมทรัพย์สินให้คงสภาพเดิม มูลค่าต้นทุนของ ทรัพย์สินที่ผู้เช่าได้ก่อสร้างหรือจัดให้มีเพื่อทดแทนทรัพย์สินที่เกิดเพลิงไหม้ และมูลค่าต้นทุนของสินค้าที่ถูกเพลิง ไหม้หรือเสียหายอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ดังกล่าว และยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการปลดหนี้ค่า สินค้า ตลอดจนประโยชน์ที่คำนวณได้จากมูลค่าการได้ใช้พื้นที่เพื่อขายสินค้าหรือให้บริการที่ผู้ได้รับผลกระทบดัง กล่าวได้รับการช่วยเหลือโดยไม่ต้องชำระค่าตอบแทน ๒.๗ ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการจำหน่าย หนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ มีสาระสำคัญคือ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูก หนี้ในส่วนของหนี้ที่เจ้าหนี้ซึ่งเป็นผู้ขายสินค้าได้ขายสินค้า หรือนำสินค้าไปฝากขายกับผู้ซื้อ หรือผู้รับฝากขายที่มี สถานประกอบการที่ขายสินค้านั้นตั้งอยู่ในบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ระหว่างเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ เพื่อให้นำไปขายต่อ และสินค้านั้นถูกเพลิงไหม้ หรือเสียหายอันเกี่ยวเนื่องจากการเกิดเพลิงไหม้จนไม่สามารถนำไปขายต่อได้ และได้มีการทำลายสินค้านั้น โดย ยังไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าดังกล่าว ๓. ทั้งนี้ ในส่วนของมาตรการภาษีด้านการประกันภัย กรณียกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทที่ ประกอบกิจการประกันภัย สำหรับเงินได้เท่าจำนวนเงินช่วยเหลือซึ่งจ่ายให้แก่ผู้เอาประกันภัย ให้ยกเว้นเฉพาะ กรณีที่สัญญาประกันภัยไม่ครอบคลุมถึงแต่บริษัทที่ประกอบกิจการประกันภัยได้จ่ายเงินช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย
|
|||||||||||||||||||||||||||
34713 | ขออนุมัติการจัดทำและลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงว่าด้วยความร่วมมือด้านการวิจัยและฝึกอบรมการเกษตรไทย - นครกวางโจว และหนังสือแสดงเจตจำนงว่าด้วยความร่วมมือด้านการตลาดสำหรับผลไม้ไทย - นครกวางโจว | กษ | 09/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. อนุมัติให้จัดทำหนังสือแสดงเจตจำนงว่าด้วยความร่วมมือด้านการวิจัยและฝึกอบรมการเกษตรไทย-นครกวางโจว ระหว่างสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) แห่งราชอาณาจักรไทย และศูนย์ส่งเสริมเทคนิคด้านการเกษตร นครกวางโจว มณฑลกวางตุ้ง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามร่างที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) เป็นผู้ลงนามในร่างหนังสือแสดงเจตจำนงฯ ฝ่ายไทย ๒. อนุมัติให้จัดทำหนังสือแสดงเจตจำนงว่าด้วยความร่วมมือด้านการตลาดสำหรับผลไม้ไทย-นครกวางโจว ระหว่างองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (รัฐวิสาหกิจ) แห่งราชอาณาจักรไทย และบริษัทค้าส่งผลไม้ตลาดเจียงหนาน นครกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ตามร่างที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยมีผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (รัฐวิสาหกิจ) เป็นผู้ลงนามในร่างหนังสือแสดงเจตจำนงฯ ฝ่ายไทย ๓. อนุมัติในหลักการว่า ก่อนที่จะมีการลงนาม หากมีการแก้ไขร่างหนังสือแสดงเจตจำนงทั้งสองฉบับดังกล่าว ในประเด็นที่ไม่ใช่หลักการสำคัญ ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
|
|||||||||||||||||||||||||||
34714 | มาตรการสนับสนุนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก | กค | 09/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบมาตรการสนับสนุนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยกำหนดมาตรการทางภาษีเพื่อจูงใจ ให้ภาคเอกชนดำเนินโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตาม ความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีเงินได้ ให้แก่โครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สำหรับกำไรสุทธิของโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในแต่ ละโครงการเฉพาะที่คำนวณจากรายได้จากการจำหน่ายคาร์บอนเครดิตนอกประเทศไทย เป็นเวลาสามรอบระยะ เวลาบัญชีต่อเนื่องกันนับแต่รอบระยะเวลาบัญชีแรกที่โครงการกลไกการพัฒนาที่สะอาด ซึ่งจำหน่ายคาร์บอนเคร ดิตประเภท Certified Emission Reductions (CERs) ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการบริหารกลไกการพัฒนา ที่สะอาดของสหประชาชาติหรือนับแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกออกใบรับรอง การซื้อขายคาร์บอนเครดิต สำหรับโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจำหน่ายคาร์บอนเครดิตประเภท Voluntary Emission Reductions (VERs) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไป ได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมที่เห็นว่า ภายหลังปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ควรมี การทบทวนมาตรการสนับสนุนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้สอดรับกับปัญหาและสถานการณ์ ต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งในระดับประเทศและระดับโลกเพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดต่อประเทศโดยรวม ไป พิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
34715 | ร่างปฏิญญาพนมเปญและเอกสารสำหรับการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง (ACMECS Summit) ครั้งที่ 4 | กต | 09/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบต่อร่างปฏิญญาพนมเปญ และร่างแผนปฏิบัติการ ACMECS ค.ศ. ๒๐๑๐-๒๐๑๒ และอนุมัติให้นายกรัฐมนตรีรับรองร่างเอกสารดังกล่าว ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขเอกสารดังกล่าวที่ไม่ใช่สาระสำคัญ หรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก
|
|||||||||||||||||||||||||||
34716 | ของบกลาง เพื่อเป็นเงินเลื่อนขั้นเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 | กค | 09/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. มอบหมายให้กระทรวงการคลังตรวจสอบงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ งบ กลาง รายการเงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการ เพื่อให้ทราบจำนวนที่เหลืออยู่ ณ สิ้นปีงบประมาณ เพื่อนำมาจัดสรรให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพิ่มเติม และอนุมัติในหลักการให้ สพฐ. เจียดจ่ายจากเงินงบประมาณของหน่วยงานตนเองก่อน หากดำเนินการดังกล่าวแล้วยังมีงบประมาณไม่เพียงพอที่ จะจ่ายเป็นเงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการ ให้กระทรวงการคลังพิจารณาสั่งจ่ายเงินจากบัญชีเงินคง คลัง บัญชีที่ ๒ ให้แก่ สพฐ. เพื่อนำไปจ่ายเป็นเงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการของ สพฐ. ต่อไป ตาม ความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้สำนักงบประมาณ และ สพฐ. ร่วมกันตรวจสอบจำนวนเงินที่จะเบิกจ่ายเป็นเงินเลื่อนเงินเดือนและ เงินปรับวุฒิข้าราชการให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริงก่อนดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
34717 | การลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงระหว่างกรมประชาสัมพันธ์กับสำนักงานกิจการ วิทยุ ภาพยนตร์และโทรทัศน์ สาธารณรัฐประชาชนจีน | นร | 09/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. อนุมัติการลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงระหว่างกรมประชาสัมพันธ์กับสำนักงานกิจการวิทยุ ภาพยนตร์และโทรทัศน์ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมอบหมายให้อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายองอาจ คล้ามไพบูลย์) เสนอ ๒. คณะรัฐมนตรีมีความเห็นเพิ่มเติมว่า การสนับสนุนส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตภาพยนตร์และวีดิทัศน์ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการชาวไทยและผู้ประกอบการต่างประเทศที่จะขอเข้ามาดำเนินการหรือร่วมดำเนินการกับผู้ประกอบการชาวไทย ควรมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับ ดูแล และอำนวยความสะดวกในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบและมีเอกภาพ นอกจากนี้ ในส่วนของการผลิตภาพยนตร์และวีดิทัศน์ที่จะนำไปจำหน่ายหรือเผยแพร่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศเพื่อนบ้านของไทยควรให้ความสำคัญและระมัดระวังในเนื้อหาสาระ การใช้ถ้อยคำ และบทสนทนาในภาพยนตร์และวีดิทัศน์ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบในทางลบต่อความรู้สึกนึกคิดของประชาชน หรือต่อความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย จึงมอบหมายให้คณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติรับประเด็นดังกล่าวข้างต้นไปพิจารณากำหนดมาตรการดำเนินการให้มีผลในทางปฏิบัติโดยเร็วต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
34718 | การขอยุติโครงการศูนย์รวบรวมผักและผลไม้เพื่อการส่งออก (POSSEC) | พณ | 09/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบการยุติโครงการศูนย์รวบรวมผักและผลไม้เพื่อการส่งออก (POSSEC) เนื่องจากปัจจัยแวดล้อม ที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้สถานที่ตั้งของศูนย์ POSSEC ณ ตลาดไท ไม่สอดคล้องกับการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ ในการจัดตั้ง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นว่าไม่มีประเด็นที่ จะต้องพิจารณาในเรื่องความเสียหายที่คู่สัญญาควรได้รับการชดเชย และให้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน จัดทำทะเบียนวัสดุครุภัณฑ์ที่ได้ดำเนินการจัดหามาใช้บริการภายในศูนย์ฯ เพื่อดำเนินการจัดสรร และ/หรือจำหน่าย ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติมต่อไป รวมทั้งความเห็นของกระทรวง สาธารณสุ ขและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า หากมีการยุติโครงการแล้ว จะต้องกำชับผู้ผลิตผักและผลไม้เพื่อการส่งออกให้ผลิตผักและผลไม้ที่มีคุณภาพเพื่อรักษาชื่อเสียงของประเทศ และให้มี การชำระบัญชีจัดการแบ่งแยกทรัพย์สินของทางราชการตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง ตามข้อเสนอของสำนักงานการตรวจ เงินแผ่นดิน นอกจากนี้ ควรเร่งพิจารณากำหนดกรอบระยะเวลาการยุติการให้บริการให้ชัดเจนและเตรียมมาตรการ ป้องกันผลกระทบสำหรับผู้ประกอบการที่ใช้บริการของศูนย์ POSSEC อยู่ในปัจจุบัน และพิจารณาทบทวนการดำเนิน งานในโครงการอื่น ๆ ที่มีการดำเนินงานอยู่ในปัจจุบันทั้งในด้านประสิทธิผล ประสิทธิภาพ และผลกระทบจากการ ดำเนินงาน เพื่อพิจารณาถึงความคุ้มค่าในการดำเนินโครงการต่อไป สำหรับกรณีที่จะมีการจัดเตรียมโครงการใน ลักษณะเดียวกัน เห็นควรให้ความสำคัญกับการศึกษาความเป็นไปได้และความอ่อนไหวของโครงการให้ครอบคลุมถึง การเปลี่ยนแปลงจากบริบทภายในและภายนอกที่จะส่งผลต่อความสำเร็จหรือล้มเหลวของโครงการให้มากขึ้น ไป พิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
34719 | ผลการดำเนินการของคณะกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย | นร | 09/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบแผนการระบายน้ำท่วมขังบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา การแก้ไขปัญหาขยะและปัญหาน้ำเน่าเสีย และข้อเสนอวาระแห่งชาติ การฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยและการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) ประธานกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเสนอ โดยการแก้ไขปัญหาขยะและปัญหาน้ำเน่าเสีย ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมควบคุมมลพิษ) ประสานกระทรวงกลาโหมเพื่อจัดส่งกำลังพลเข้าไปช่วยเร่งดำเนินการจัดเก็บขยะในพื้นที่ประสบภัยหลังน้ำลดให้แล้วเสร็จโดยเร็วด้วย ๒. เห็นชอบในหลักการตามมติคณะกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) ที่ให้มีกลไกการบูรณะฟื้นฟูความเสียหายจากเหตุอุทกภัยทั้งในส่วนกลางและในจังหวัดต่าง ๆ ประกอบด้วยภาคประชาสังคม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคราชการ และภาคเอกชน เพื่อบูรณาการการดำเนินการบูรณะฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้นให้เกิดผลในทางปฏิบัติได้อย่างมีเอกภาพและมีความยั่งยืน ทั้งนี้ การดำเนินการบูรณะฟื้นฟูความเสียหายในแต่ละจังหวัดของส่วนราชการต่าง ๆ มอบหมายให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในแต่ละเขตพื้นที่ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประสานกับศูนย์ประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในแต่ละจังหวัดซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้อำนวยการศูนย์ เพื่อดำเนินการต่อไป ๓. การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและวาตภัย ๓.๑ เห็นชอบในหลักการที่จะให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและวาตภัยทั้งในส่วนที่เป็นพื้นที่เพาะปลูกที่ได้รับการสงเคราะห์และที่ไม่ได้รับการสงเคราะห์จากกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางเหมือนกัน ตามอัตราที่เหมาะสมแก่ต้นทุนการเพาะปลูกต่อไร่ ทั้งนี้ ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรชาวสวนยางดังกล่าวเพิ่มเติม มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับไปพิจารณาในรายละเอียดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือและรวบรวมข้อมูลของเกษตรกรชาวสวนยางที่ประสบภัย แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีในคราวประชุมครั้งต่อไป สำหรับเกษตรกรชาวสวนยางที่เพาะปลูกในพื้นที่ลาดเชิงเขาซึ่งอาจมีปัญหาเกี่ยวกับเอกสารสิทธิในที่ดินทำกิน มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และสำนักงบประมาณ เป็นต้น เพื่อกำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งการบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกให้เหมาะสม ถูกต้อง ตามระเบียบหลักเกณฑ์และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๓.๒ ให้ คชอ. ประสานกับสภาอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาแนวทางให้ความช่วยเหลือชาวสวนยางที่ต้นยางได้รับผลกระทบเสียหายจากอุทกภัยและวาตภัยที่เกิดขึ้น เช่น การขอความร่วมมือให้ภาคเอกชนเข้ามารับซื้อต้นยางที่โค่นล้มเพื่อนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ อื่น ๆ ต่อไป เป็นต้น ๔. อนุมัติในหลักการให้จ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในภาคใต้เพิ่มเติมครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท โดยให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเร่งสำรวจและรวบรวมข้อมูลความเสียหายของผู้ประสบอุทกภัยและวาตภัยในภาคใต้โดยด่วน แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในคราวประชุมครั้งต่อไป ๕. ให้กระทรวงการคลัง (กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา) และกระทรวงศึกษาธิการรับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความ ช่วยเหลือด้านการศึกษาแก่บุตรหลานของผู้ประสบอุทกภัยและวาตภัยให้สามารถศึกษาต่อไปได้โดยไม่ต้องยุติการศึกษากลางคัน ๖. อนุมัติขยายกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (กรอบวงเงิน ๒๓๘.๘๓๒ ล้านบาท) ที่เหลืออยู่จำนวน ๑๓๒.๖๓๘ ล้านบาท ในการจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในภาคใต้ โดยให้กระทรวงมหาดไทยซื้อเรือท้องแบนอลูมิเนียม ๓๐ ลำ เรือท้องแบนไฟเบอร์กลาส ๑๘๓ ลำ เรือพาย ๔,๑๖๐ ลำ เครื่องยนต์เรือหางสั้น ๑๓๐ เครื่อง เครื่องยนต์เรือหางยาว ๒๐ เครื่อง เครื่องสูบน้ำ ๕๗ เครื่อง สุขาเคลื่อนที่ ๔๐๐ หลัง โดยขอตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ และดำเนินการต่อไปได้ โดยหากมีกรอบวงเงินเหลืออยู่อีกให้พิจารณาตามความจำเป็นเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ การจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ดังกล่าวให้นำไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ภาคใต้เป็นลำดับแรก ๗. การให้ความช่วยเหลือด้านประมงและปศุสัตว์ ๗.๑ เห็นชอบในหลักการให้กรมปศุสัตว์ดำเนินการตามโครงการเพิ่มความมั่นคงด้านเสบียงสัตว์ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยผลิตหญ้าแห้งเพิ่มเติมจากเป้าหมายในการผลิตเดิม(จำนวน ๔,๔๐๐ ตัน) อีกจำนวน ๑,๐๐๐ ตัน โดยขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากหมวดค่าตอบแทน ใช้สอยและวัสดุ รวมทั้งสิ้น ๕,๐๑๑,๔๐๐ บาท ตามมติของ คชอ. ๗.๒ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือชดเชยแก่ผู้ได้รับความเดือดร้อนกรณีเรือและเครื่องมืออุปกรณ์การจับปลาที่ได้รับความเสียหาย และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๗.๓ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางการช่วยเหลือชดเชยแก่ผู้เป็นเจ้าของเครื่องมือจับปลาแบบโพงพางและไซนั่งในพื้นที่โดยรอบทะเลสาบสงขลา เพื่อจูงใจให้สามารถแก้ไขปัญหาการทำประมงและจัดระเบียบการใช้พื้นที่โดยรอบทะเลสาบสงขลาได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากเครื่องมือจับปลาดังกล่าวมีส่วนทำให้สัตว์น้ำสูญพันธุ์และทำลายระบบนิเวศของทะเลสาบเป็นจำนวนมาก
|
|||||||||||||||||||||||||||
34720 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การดำเนินคดีแบบกลุ่ม) | กค | 09/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ส่งคณะกรรมการประสาน งานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา แล้วเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติฯ มีสาระ สำคัญคือ ๑. คดีแบบกลุ่ม ได้แก่ คดีละเมิด คดีผิดสัญญา และคดีเรียกร้องสิทธิตามกฎหมายต่าง ๆ และเป็น คดีที่มีสมาชิกกลุ่มจำนวนมาก ๒. กำหนดให้โจทก์อาจยื่นคำร้องต่อศาลพร้อมกับคำฟ้องขอให้มีการดำเนินคดีแบบกลุ่ม ๓. กำหนดให้คำฟ้องของโจทก์และกลุ่มบุคคลต้องมีสภาพแห่งข้อหาและข้อบังคับที่มีลักษณะเดียวกัน ๔. คำสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ดำเนินคดีแบบกลุ่มอาจอุทธรณ์ไปยังศาลฎีกา ๕. กำหนดให้สมาชิกกลุ่มมีสิทธิเข้าฟังการพิจารณาคดี ขอตรวจเอกสารและคัดสำเนาเอกสาร จัดหา ทนายความคนใหม่ และร้องขอเข้าแทนที่โจทก์ ๖. กำหนดให้คำพิพากษาของศาลผูกพันคู่ความและสมาชิกกลุ่ม และโจทก์มีอำนาจดำเนินการบังคับ คดีแทนสมาชิกกลุ่ม ๗. คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลในการดำเนินคดีแบบกลุ่มให้อุทธรณ์ไปยังศาลฎีกาภายในหนึ่ง เดือนนับแต่วันที่ได้อ่านคำพิพากษาหรือคำสั่ง
|
.....