ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1731 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 34601 - 34620 จากข้อมูลทั้งหมด 124013 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
34601 | ขออนุมัติถอดถอนกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี [นายชอง-กรีสตอฟ ลามี (Jean-Christophe Lamy)] | กต | 25/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติถอดถอน นายชอง-กรีสตอฟ ลามี (Jean-Christophe Lamy) ออกจาก
ตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๔ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
34602 | การให้ความช่วยเหลือเมล็ดพันธุ์ข้าวแก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี 2553 | กษ | 25/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบหลักเกณฑ์และแนวทางการช่วยเหลือเมล็ดพันธุ์ข้าวแก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี ๒๕๕๓ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ หลักเกณฑ์การช่วยเหลือ ๑.๑.๑ เป็นเกษตรกรที่ได้ขึ้นทะเบียนการปลูกข้าว และมีพื้นที่ปลูกข้าวได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี ๒๕๕๓ มากกว่าร้อยละ ๕๐ ของพื้นที่ปลูกข้าวที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ ๑.๑.๒ เกษตรกรจะได้รับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าว อัตรา ๑๐ กิโลกรัม/ไร่ โดยพิจารณาจากจำนวนพื้นที่ปลูกข้าวที่เสียหายจริง ไม่เกินรายละ ๑๐ ไร่ ๑.๒ แนวทางการให้ความช่วยเหลือ แบ่งเป็น ๒ ระยะ ดังนี้ ๑.๒.๑ ระยะที่ ๑ ปลูกได้ทันทีหลังน้ำลด เกษตรกร ๑๖๓,๙๐๐ ราย จำนวนเมล็ดพันธุ์ที่ใช้ ๑๖,๓๙๐,๐๐๐ กิโลกรัม ๑.๒.๒ ระยะที่ ๒ ปลูกในช่วงฤดูปกติ เกษตรกร ๘๐,๗๐๐ ราย จำนวนเมล็ดพันธุ์ที่ใช้ ๘,๐๗๐,๐๐๐ กิโลกรัม ๑.๓ หน่วยงานดำเนินงาน ได้แก่ กรมการข้าว เป็นหน่วยงานหลัก และกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นหน่วยงานสนับสนุน ๒. อนุมัติในหลักการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับเป็นค่าเมล็ดพันธุ์ข้าวในระยะที่ ๑ (ปลูกได้ทันทีหลังน้ำลด) วงเงิน ๓๒๗,๘๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตรวจสอบจำนวนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่กรมการข้าวมีอยู่ในสต็อก (stock) รวมทั้งเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ได้รับบริจาคจากภาคเอกชนให้ชัดเจนแล้วขอตกลงในรายละเอียดของค่าใช้จ่ายในส่วนที่ขาดจำนวนกับสำนักงบประมาณต่อไป ส่วนค่าเมล็ดพันธุ์ข้าวในระยะที่ ๒ (ปลูกในช่วงฤดูปกติ) ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตรวจสอบรายละเอียดให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||
34603 | ผลการเยือนราชอาณาจักรสเปนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (ระหว่างวันที่ 6 - 9 ตุลาคม 2553) | กต | 25/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับ
ผลการเยือนราชอาณาจักรสเปนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ ๖-๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ ไปพิจารณาดำเนินการให้เหมาะสมตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ดังนี้ ๑. การดำเนินโครงการ/กิจกรรมตามแผนปฏิบัติการร่วมระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับราช อาณาจักรสเปน (พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๕๘) ๒. การบังคับใช้ความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรสเปนว่าด้วยการยกเว้นการตรวจ ลงตราระหว่างกันสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต ๓. การส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงกับภาครัฐสเปน ๔. กรณีนางมาเรีย เนเวซ การ์เซีย อัลคาราซ (Maria Nieves Gracia Alcaraz) นักโทษหญิงชาวสเปนที่ ถูกจับกุมในคดียาเสพติดในไทยเมื่อเดือนสิงหาคม ๒๕๕๓ ๕. การส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวกับองค์การการท่องเที่ยวโลก ๖. การส่งเสริมความร่วมมือเรื่องพลังงานแสงอาทิตย์กับบริษัท Iberdrola Renovables ๗. การส่งเสริมภาคเอกชนสเปนในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ ๒ ๘ การส่งเสริมความร่วมมือเรื่องอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ กับบริษัท Navantia S.A.
|
||||||||||||||||||||||||
34604 | การปรับองค์ประกอบคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคไทย - กัมพูชา (ฝ่ายไทย) | กต | 25/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับองค์ประกอบคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคไทย-กัมพูชา (ฝ่ายไทย) โดยให้มีผลนับจากวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. แต่งตั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคไทย-กัมพูชา (ฝ่ายไทย) ๒. แต่งตั้งนายเกรียงศักดิ์ กิตติชัยเสรี เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เป็นที่ปรึกษาในคณะกรรมการร่วมฯ
|
||||||||||||||||||||||||
34605 | รายงานโรดแมปแผนการทำงานเพื่อฟื้นฟูและพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทย (ในช่วงเดือนมิถุนายน - พฤศจิกายน 2553) | นร | 25/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) รายงาน
โรดแมปแผนการทำงานเพื่อฟื้นฟูและพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทย เพื่อเป็นแนวทางขับเคลื่อนและ พัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ในระยะยาวต่อไป โดยมีกิจกรรมการดำเนินงานในช่วงเดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ดังนี้ ๑. จัดงาน MICE Summit ผนึกกำลัง ระดมความคิด ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ โดยได้ประชุมระดม ความเห็นจากผู้นำด้านต่าง ๆ ในภาคอุตสาหกรรมไมซ์ เมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๓ ๒. นำข้อสรุปของกรอบแนวทางจัดทำโรดแมปแผนการทำงานเพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศ ไทย ผ่านกระบวนการสอบถามความคิดเห็นผู้ที่เกี่ยวข้องจากองค์กรภาคเอกชน และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จำนวนกว่า ๒๐๐ องค์กร เพื่อนำไปพัฒนา White Paper ฉบับสมบูรณ์ ๓. เชิญผู้ประกอบการไมซ์ และหน่วยงานรัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมไมซ์ร่วมรับฟังการแถลง “White Paper เจตนารมณ์ร่วมของการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ไทย” ในงาน MICE Declaration เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๓ ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ๔. นำ “White Paper เจตนารมณ์ร่วมของการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ไทย” ฉบับสมบูรณ์เสนอต่อรัฐบาล
|
||||||||||||||||||||||||
34606 | รายงานผลการดำเนินการตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ 2553 | กค | 25/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรายงานผลการดำเนินการตามมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ประกอบด้วย ผลการดำเนินการตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ รวม ๖ แผนย่อย คือ การบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐบาล การบริหารและจัดการเงินกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้ FIDF การบริหารและจัดการเงินกู้เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจ การก่อหนี้จากต่างประเทศ และการบริหารหนี้ต่างประเทศ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังแก้ไขการอ้างข้อกฎหมายตามมาตรา ๑๗ ฯ โดยตัดความว่า “และที่แก้ไขเพิ่มเติม” ในรายงานผลการดำเนินการฯ ออก ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
34607 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 และ 2551 | ปช | 25/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
(สำนักงาน ป.ป.ช.) เสนอรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำนักงาน ป.ป.ช. สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๒ และ ๒๕๕๑ โดยในส่วนของงบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๒ งบแสดง ผลการดำเนินงานทางการเงิน และงบกระแสเงินสดของสำนักงาน ป.ป.ช. มีดังนี้ ๑. งบแสดงฐานะการเงิน มีสินทรัพย์รวม ๒,๐๗๓,๖๑๖,๒๕๗.๖๒ บาท มีหนี้สินรวม ๘๒,๔๗๐,๖๕๐.๓๗ บาท มีสินทรัพย์สุทธิรวม ๑,๙๙๑,๑๔๕,๖๐๗.๒๕ บาท ๒. งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน มีรายได้จากการดำเนินงานรวม ๘๑๗,๐๘๓,๗๙๖.๒๑ บาท มีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานรวม ๖๔๑,๒๙๕,๒๔๙.๕๖ บาท มีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายสุทธิรวม ๑๗๕,๗๑๘,๙๔๖.๙๑ บาท ๓. งบกระแสเงินสด มีกระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานรวม ๒๖๒,๔๒๖,๓๐๓.๐๘ บาท มี กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมลงทุนรวม ๔๒๒,๒๘๔,๙๙๕.๑๔ บาท มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้น สุทธิรวม ๑๕๙,๘๕๘,๖๙๒.๐๖ บาท
|
||||||||||||||||||||||||
34608 | การประชุมคณะมนตรีขององค์การความร่วมมือด้านอวกาศแห่งเอเชียแปซิฟิก | ทก | 25/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอผลการประชุม
คณะมนตรีขององค์การความร่วมมือด้านอวกาศแห่งเอเชียแปซิฟิก (Asia-Pacific Space Cooperation Organiza tion-APSCO) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๔-๑๗ กันยายน ๒๕๕๓ ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยที่ ประชุมฯ ได้มีมติที่สำคัญ ดังนี้ ๑. เห็นชอบรายงานการศึกษาความเป็นไปได้โครงการ Spatial Data Sharing Service Platform and Its Application Pilot Project of APSCO ๒. เห็นชอบ Terms of Conditions for Associate Members of APSCO ซึ่งกำหนดให้รัฐที่มิได้อยู่ใน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและเป็นสมาชิกของสหประชาชาติสามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์การ APSCO ในฐานะ สมาชิกสมทบได้ ๓. เห็นชอบ Service Rules และ Financial Rules ที่ได้แก้ไข ปรับปรุงให้มีความเหมาะสมตามข้อเสนอ แนะของรัฐสมาชิก ๔. เห็นชอบประมาณการงบประมาณขององค์การ APSCO ประจำปี ๒๕๕๔ จำนวน ๓,๗๐๗,๔๔๒ ดอลลาร์สหรัฐ ๕. เห็นชอบให้บรรจุโครงการ Geostationary Telecommunication Satellite และโครงการร่วมสร้าง Small Student Satellite ในแผนงานโครงการขององค์การ APSCO ในส่วนของกิจกรรมทางเลือก เพื่อให้รัฐ สมาชิกแสดงความจำนงที่จะเข้าร่วมโครงการตามความสมัครใจ ๖. เห็นชอบให้จัดการประชุมคณะมนตรีองค์การ APSCO ครั้งที่ ๔ ในช่วงเดือนมกราคม ๒๕๕๔ ณ ประเทศไทย
|
||||||||||||||||||||||||
34609 | รายงานการกู้เงินตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 | กค | 25/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการกู้เงินตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๕๒ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้นำเสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
34610 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองป่าโมก จังหวัดอ่างทอง พ.ศ. .... | มท | 25/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองป่าโมก จังหวัดอ่างทอง
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลสายทอง ตำบลบางปลากด ตำบลป่าโมก ตำบล นรสิงห์ ตำบลเอกราช ตำบลโรงช้าง ตำบลบางเสด็จ และตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง เพื่อใช้เป็น แนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์ สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาด ไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
34611 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ครัวเรือนละ 5,000 บาท (เพิ่มเติม) | มท | 25/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้ยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ (เรื่อง การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท) โดยให้ผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดมุกดาหารได้รับการช่วยเหลือ ครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท ด้วย และตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท ไปแล้ว ๒ ครั้ง ดังนั้น หากมีเงินเหลืออยู่ก็จะจัดสรรให้กระทรวงมหาดไทยต่อไป ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) และผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเสนอเพิ่มเติม ๒. อนุมัติให้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท (เพิ่มเติม) จำนวน ๒๒ จังหวัด ๓,๖๖๔ ครัวเรือน รวมเป็นเงิน ๑๘,๓๒๐,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
34612 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการอนุญาต การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาตเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์ควบคุม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กษ | 25/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการอนุญาต การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาตเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์ควบคุม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวง เกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระ สำคัญคือ ๑.๑ กำหนดให้อธิบดีกรมวิชาการเกษตรประกาศกำหนดชนิดเมล็ดพันธุ์ควบคุมที่ต้องปฏิบัติตามหลัก เกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดีกรมวิชาการเกษตรประกาศกำหนดก่อนการอนุญาต หรือกำหนดชนิดเมล็ดพันธุ์ ควบคุมที่ต้องยื่นแบบแจ้งรายละเอียดของเมล็ดพันธุ์ควบคุม ๑.๒ กำหนดวิธีการอนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตขายเมล็ดพันธุ์ควบคุมใหม่ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการกำหนดให้ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรเป็นผู้มีอำนาจกำหนดชนิดพันธุ์ควบคุมตามร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ อาจจะขัดหรือแย้งกับ มาตรา ๑๒ ของพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติพันธุ์พืช (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๑๒ ที่บัญญัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้มีอำนาจประกาศกำหนดชนิด และชื่อพันธุ์ของพืชให้เป็นเมล็ดพันธุ์ควบคุม ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
34613 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2553 | กค | 25/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ สรุปได้ดังนี้
๑. อนุมัติแล้ว จำนวน ๔๒,๔๓๑ โครงการ วงเงิน ๓๔๙,๙๖๐.๔๔ ล้านบาท ๒. การจัดสรร ๒.๑ รอจัดสรร จำนวน ๑,๘๓๖ โครงการ วงเงิน ๒๑,๒๙๒.๗๔ ล้านบาท ๒.๒ จัดสรรแล้ว จำนวน ๔๐,๕๙๕ โครงการ วงเงิน ๓๒๘,๖๖๗.๗๐ ล้านบาท ๓. การจัดซื้อจัดจ้าง ๓.๑ ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ จำนวน ๓,๖๒๗ โครงการ วงเงิน ๑๔,๘๗๗.๕๖ ล้านบาท ๓.๑.๑ ยังไม่เกิน ๑๕ วันทำการ จำนวน ๒๙๒ โครงการ วงเงิน ๕,๕๑๖.๖๐ ล้านบาท ๓.๑.๒ เกิน ๑๕ วันทำการ จำนวน ๓,๓๓๕ โครงการ วงเงิน ๙,๓๖๐.๙๖ ล้านบาท ๓.๒ ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน ๓๖,๙๖๘ โครงการ วงเงิน ๓๑๓,๗๙๐.๑๔ ล้านบาท ๓.๓ มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน ๓๖,๙๖๘ โครงการ วงเงิน ๓๐๓,๑๑๙.๔๑ ล้านบาท ๔. การดำเนินการ ๔.๑ ยังไม่ได้เบิกจ่าย จำนวน ๑,๔๑๗ โครงการ วงเงิน ๕๙,๗๓๖.๒๑ ล้านบาท ๔.๒ เบิกจ่ายแล้วบางส่วน (ยังไม่เสร็จ) ๓๑,๘๖๗ โครงการ วงเงิน ๒๐๔,๘๔๐.๗๐ ล้านบาท ๔.๓ เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน ๓,๖๘๔ โครงการ วงเงิน ๓๘,๕๔๒.๕๐ ล้านบาท ๔.๔ เบิกจ่ายทั้งหมด (๔.๒+๔.๓) จำนวน ๓๕,๕๕๑ โครงการ วงเงิน ๒๔๓,๓๘๓.๒๐ ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||
34614 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลออนใต้ ตำบลร้องวัวแดง ตำบลแช่ช้าง ตำบลบวกค้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ และตำบลห้วยยาบ ตำบลบ้านธิ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | กษ | 25/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหา
ริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลออนใต้ ตำบลร้องวัวแดง ตำบลแช่ช้าง ตำบลบวกค้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ และตำบลห้วยยาบ ตำบลบ้านธิ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญ คือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลออนใต้ ตำบลร้องวัวแดง ตำบลแช่ช้าง ตำบลบวกค้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ และตำบลห้วยยาบ ตำบลบ้านธิ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน เป็นกรณีที่มี ความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้ อสังหาริมทรัพย์นั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ ตามที่กระทรวงเกษตร และสหกรณ์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจ พิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
34615 | การจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) และสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) | ทก | 25/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้จัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิส์ (องค์การมหาชน) และสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ในกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตามมติคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ในการประชุม ครั้งที่ ๘/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
34616 | ผลการดำเนินการของคณะกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ครั้งที่ 8/2553) | นร | 25/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) ประธานกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รายงานผลการประชุมคณะกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) ครั้งที่ ๘/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบเรื่องต่าง ๆ อาทิ รายงานสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบภัย ผลการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูความเสียหายจากเหตุอุทกภัย “ฟื้นไทยด้วยใจ ไทยทั้งชาติ” จังหวัดสระบุรี และลพบุรี แผนปฏิบัติการฟื้นฟูผู้ประสบภัยหลังน้ำลดของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แนวทางการดำเนินงานในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระยะเร่งด่วน และโครงการบูรณาการการเรียนการสอนทักษะอาชีพและเสริมสร้างจิตอาสาร่วมแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนผ่านกิจกรรมอาชีวะร่วมด้วยช่วยประชาชนและศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน เป็นต้น และได้มีมติดังนี้
๑. ให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้น เพื่อทำหน้าที่ในการกำหนดแนวทางเพื่อป้องกันความเสียหายจากการทุจริตกับมาตรการที่รัฐบาลจัดไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยมีโจทย์ว่า จากมาตรการช่วยเหลือของรัฐในรูปแบบต่าง ๆ มีช่องทางหรือรูปแบบในการทุจริตอย่างไรบ้าง ควรจะมีแนวทางป้องกันอย่างไร หากมีเหตุร้องเรียนจะมอบหมายให้หน่วยงานใดรับผิดชอบเป็นการเฉพาะหรือไม่ โดยให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งต่อไป เพื่อทุกส่วนราชการถือปฏิบัติ ๒. ให้คณะอนุกรรมการช่วยเหลือฟื้นฟูและเยียวยาพื้นที่ประสบอุทกภัยและวาตภัยที่จะมีการพิจารณาแต่งตั้งขึ้น แบ่งพื้นที่รับผิดชอบดำเนินการประสานข้อมูลระหว่างอำเภอ/จังหวัด กับผู้บริจาค เพื่อที่จะได้จัดส่งวัสดุอุปกรณ์ลงไปในพื้นที่โดยตรง ๓. ให้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการช่วยเหลือฟื้นฟูและเยียวยาพื้นที่ประสบอุทกภัยและวาตภัย จำนวน ๓ คณะ ประกอบด้วย คณะที่ ๑ นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ เป็นประธานอนุกรรมการ รับผิดชอบพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คณะที่ ๒ นายปราโมช รัฐวินิจ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ เป็นประธานอนุกรรมการ รับผิดชอบพื้นที่ภาคกลาง และคณะที่ ๓ พลตำรวจโท อุดม ชัยมงคลรัตน์ ผู้บัญชาการประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานอนุกรรมการ รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ ยกเว้นจังหวัดสงขลา และ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ได้รับไปดำเนินการ ๔. เห็นชอบให้หน่วยงานต่าง ๆ รับความเห็นของประธาน คชอ. เกี่ยวกับการเร่งรัดการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและวาตภัยครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท ไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ดังนี้ ๔.๑ ให้ธนาคารออมสินเร่งระดมเจ้าหน้าที่เพื่อให้การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๓ ๔.๒ ให้มีการเผยแพร่ข้อมูลในเว็บไซต์เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบได้ ๔.๓ ให้กรมประชาสัมพันธ์สั่งการให้สำนักประชาสัมพันธ์เขตพื้นที่และประชาสัมพันธ์จังหวัดดำเนินการประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือจากสื่อท้องถิ่นช่วยประชาสัมพันธ์กำหนดการจ่ายเงินให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบข้อมูลด้วย ๕. ให้กระทรวงพาณิชย์ปรับเป้าหมายดำเนินการจัดทำข้าวสารบรรจุถุงเพื่อแจกจ่ายประชาชนผู้ประสบภัยให้สอดคล้องกับข้อมูลจำนวนผู้ประสบภัยที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้สำรวจจริง รวมทั้งข้อมูลรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการบรรจุและขนส่ง แล้วจึงเสนอให้ คชอ. พิจารณาอีกครั้ง ๖. รับทราบข้อเสนอของกองทัพบกเกี่ยวกับงบประมาณเพื่อจัดหาเครื่องมือช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เพื่อนำไปประกอบพิจารณาในการจัดทำข้อเสนอแผนระยะยาวเพื่อรองรับสถานการณ์ในอนาคต เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ หากหน่วยงานอื่น ๆ เห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องจัดซื้ออุปกรณ์ใด ๆ เพิ่มเติม ขอให้เสนอเรื่องให้ คชอ. พิจารณาเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการจัดทำข้อเสนอแผนระยะยาวเพื่อรองรับสถานการณ์ในอนาคตต่อไป ๗. การกำหนดนโยบายและแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยหนาว คชอ. พิจารณาเห็นว่า ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวมีประเด็นหลักอยู่ที่การบูรณาการการแจกจ่ายความช่วยเหลือให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และไม่เกิดความซ้ำซ้อน ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานคล่องตัว จึงควรจะเป็นการประชุมหารือกลุ่มเล็กเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งอาจรวมถึงภาคเอกชนด้วย และจะได้นัดหมายการประชุมต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
34617 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. .... | สว | 25/11/2553 | |||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||
34618 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายศุภกร วงศ์ปราชญ์) | ศธ | 25/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายศุภกร วงศ์ปราชญ์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
34619 | การเลื่อนเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษนอกเหนือโควตาปกติ ในวันที่ 1 เมษายน 2553 ให้แก่ข้าราชการตำรวจและทหารที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยคณะรัฐมนตรีและข้าราชการพลเรือนสามัญ ข้าราชการทหาร ลูกจ้างส่วนราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจที่ช่วยปฏิบัติราชการในงานของคณะรัฐมนตรี (จำนวน 102 คน) | นร | 25/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการเลื่อนเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษนอกเหนือโควตาปกติ ในวันที่ ๑ เมษายน
๒๕๕๓ ให้แก่ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการทหาร ลูกจ้างส่วนราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และพนักงานของรัฐอื่น ซึ่งรัฐมนตรียืมตัวมาปฏิบัติราชการที่มีคุณสมบัติอยู่ในหลักเกณฑ์ตามที่คณะรัฐมนตรีมี มติเมื่อวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๔๔, ๑๘ กันยายน ๒๕๔๔, ๑๓ สิงหาคม ๒๕๔๖, ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๑ และ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๒ และมีผลการปฏิบัติงานระดับดีเด่น [เลื่อนเงินเดือนร้อยละ ๔ (ครึ่งปีของฐานในการคำนวณ)] หรือมีผลการปฏิบัติงานต่ำกว่าระดับดีเด่น [เลื่อนเงินเดือนร้อยละ ๓ (ครึ่งปีของฐานในการคำนวณ)] โดยใน ส่วนของข้าราชการตำรวจ ข้าราชการทหาร พนักงานรัฐวิสาหกิจ และพนักงานของรัฐอื่นที่ปฏิบัติหน้าที่รักษา ความปลอดภัยคณะรัฐมนตรีและที่มาช่วยราชการในงานของคณะรัฐมนตรีและมีผลการปฏิบัติงานต่ำกว่าระดับ ดีเด่น ซึ่งใช้ระบบการเลื่อนขั้นเงินเดือนเช่นเดิมยังมิได้เปลี่ยนเป็นระบบร้อยละ ให้ได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือน ทั้งปีไม่เกิน ๑.๕ ขั้น ดังนี้ ๑. กรณีได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือนครึ่งปีแรก ๑ ขั้น จะต้องได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือนครึ่งปีหลัง ๐.๕ ขั้น รวมทั้งปีได้รับไม่เกิน ๑.๕ ขั้น หรือ ๒. กรณีได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือนครึ่งปีแรก ๐.๕ ขั้น จะต้องได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือนครึ่งปีหลัง ๑ ขั้น รวมทั้งปีได้รับไม่เกิน ๑.๕ ขั้น ทั้งนี้ ผู้ที่รัฐมนตรียืมตัวมาปฏิบัติราชการจะต้องเป็นบุคคลที่ต้นสังกัดไม่นำมาคิดคำนวณเป็นฐานเงิน เดือนของต้นสังกัดผู้นั้นและให้หน่วยงานต้นสังกัดตรวจสอบคุณสมบัติและเลื่อนเงินเดือนไปได้เลยโดยไม่ต้องนำ กลับมาเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติอีก
|
||||||||||||||||||||||||
34620 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (จำนวน 6 ราย 1. นายกุลกุมุท สิงหรา ณ อยุธยา ฯลฯ) | กต | 25/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๖ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. นายกุลกุมุท สิงหรา ณ อยุธยา ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด ราชอาณาจักรสเปน สืบแทนนางอัจฉรา เสริบุตร ที่เกษียณอายุราชการ ๒. นายพิศาล มาณวพัฒน์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย สำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ สืบแทนนายกฤต ไกรจิตติ ๓. นายอภิชาติ ชินวรรโณ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม สำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ สืบแทนนายพิศาล มาณวพัฒน์ ๔. นายประวิตร์ ชัยมงคล ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ สืบแทนนายอภิชาติ ชินวรรโณ ๕. นายเกียรติคุณ ชาติประเสริฐ ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา สืบแทนนายประวิตร์ ชัยมงคล ๖. นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ รัฐอิสราเอล สืบแทนนายชัชเวทย์ ชาติสุวรรณ ที่เกษียณอายุราชการ
|
.....