ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1740 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 34781 - 34800 จากข้อมูลทั้งหมด 124013 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
34781 | ขอเพิ่มเติมรายการที่เกี่ยวกับการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณการเปลี่ยนแปลงรายการหรือการเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ | นร | 02/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. อนุมัติการเปลี่ยนแปลงรายการ รวม ๒ รายการ [โครงการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และก่อสร้างศูนย์บริการจอดรถและเรือเพื่อพัฒนา ระบบขนส่งมวลชนทางบกและทางทะเล เมืองพัทยา จำนวน ๑ แห่ง ของเมืองพัทยา] โดยมีวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปี งบประมาณแต่ละรายการตามผลการพิจารณาความเหมาะสมของสำนักงบประมาณ และมอบหมายให้ส่วนราชการ เร่งรัดการลงนามในสัญญาและกำกับการดำเนินงานให้เป็นไปตามกรอบวงเงินงบประมาณและระยะเวลาด้วย ตามที่ สำนักงบประมาณเสนอ ๒. ในส่วนของโครงการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้กระทรวง มหาดไทยเร่งรัดการดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
|
||||||||||||||||||||||||
34782 | การเสนอขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนบีชเกมส์ ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2557 ณ จังหวัดภูเก็ต | กก | 02/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการให้ประเทศไทยรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนบีชเกมส์ ครั้งที่ ๔ พ.ศ. ๒๕๕๗ ณ จังหวัดภูเก็ต ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ๒. ส่วนงบประมาณในการจัดการแข่งขัน ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจัดทำรายละเอียดของแผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่ต้องใช้ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเสนอสำนักงบประมาณพิจารณาก่อน แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||
34783 | แผนปฏิบัติการและงบประมาณ ระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2554 - 2556) ภายใต้แผนแม่บทป้องกันและบรรเทาภัยจากคลื่นสึนามิ พ.ศ. 2552 - 2556 | มท | 02/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการแผนปฏิบัติการและงบประมาณ ระยะ ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๔-๒๕๕๖) ภายใต้แผน cม่บทป้องกันและบรรเทาภัยจากคลื่นสึนามิ พ.ศ. ๒๕๕๒-๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สรุปได้ดังนี้ ๑.๑ วัตถุประสงค์ของแผนปฏิบัติการฯ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติ งานร่วมกันอันจะส่งผลให้การบริหารจัดการภัยจากคลื่นสึนามิที่อาจจะเกิดขึ้นเป็นไปอย่างมีระบบ มีทิศทางเดียว กันและเสริมกำลังกันอย่างบูรณาการ ๑.๒ ระยะเวลาดำเนินการ ๓ ปี เริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ มีหน่วยงานร่วมบูรณาการ ๘๑ หน่วยงาน ๑.๓ งบประมาณดำเนินการรวมทั้งสิ้น ๖,๖๒๓.๓๖๙๓ ล้านบาท ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รับความเห็นของรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้เพิ่มเติมกองทัพบกและกองทัพเรือ ในแผนปฏิบัติการด้วย เพื่อให้การปฏิบัติการมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งจัดทำคู่มือการเตรียม ความพร้อมในการปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาภัยจากคลื่นสึนามิ และจัดการฝึกซ้อมการสนธิกำลังในการ ปฏิบัติการตามคู่มืออย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ควรศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประเมินความเสี่ยงของการเกิดภัย สึนามิ รวมทั้งจัดทำดัชนีชี้วัดความสำเร็จของแผนปฏิบัติการ กำหนดเป้าหมาย ผลผลิต ผลลัพธ์ และกระบวน การติดตามประเมินผลในระดับยุทธศาสตร์ และระดับกลยุทธ์ เพื่อกำกับการดำเนินงานให้เป็นไปตามวัตถุ ประสงค์และสามารถประเมินความคุ้มค่าและประสิทธิภาพของการดำเนินงานให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ตั้งไว้ ไป ดำเนินการด้วย ๓. ส่วนงบประมาณที่จะต้องใช้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการโดย พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่ได้รับจัดสรรแล้วไปดำเนินการก่อน ส่วนปีงบ ประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๖ ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อดำเนินการตามความจำเป็นและ เหมาะสม โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับสถานการณ์ทางการเงินการคลังของประเทศตามระเบียบและขั้นตอน ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๔. รับทราบตามที่อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยชี้แจงเพิ่มเติมว่า การฝึกซ้อมการสนธิ กำลังในการปฏิบัติการ นอกจาก ๘๑ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังได้เชิญสื่อสารมวลชนเข้าร่วมการฝึกซ้อมด้วย |
||||||||||||||||||||||||
34784 | การคัดเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (กรณีทดแทนผู้ทรงคุณวุฒิที่ลาออก) (นายธีระ อภัยวงศ์ และ นายปิติ ตัณฑเกษม) | ทก | 02/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายธีระ อภัยวงศ์ ซึ่งคณะกรรมการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะ
กรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ได้เสนอชื่อในลำดับที่ ๑ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงิน (ภาคเอกชน) แทนนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงิน (ภาคเอกชน) ที่ลาออก ตามที่กระทรวงเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๓) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||
34785 | ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency : IAEA) ขอให้รัฐบาลไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดฝึกอบรมและการประชุม | วท | 02/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ในฐานะผู้ประสาน งานแห่งชาติระหว่างประเทศไทยกับทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency : IAEA) ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องตอบรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมและฝึกอบรม ประกอบด้วย การฝึกอบรมส่วนภูมิภาค Regional Training Course on Safety Case for Predisposal Management and Centralized Storage of Radioactive Waste ระหว่างวันที่ ๘-๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ณ กรุงเทพมหานคร และ การประชุมส่วนภูมิภาค Regional Meeting to Create a Network of Medical Professionals on Radiation Protection of Children ระหว่างวันที่ ๑๕-๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๓ ณ กรุงเทพมหานคร โดยเลขาธิการสำนักงาน ปรมาณูเพื่อสันติเป็นผู้ลงนามในหนังสือแจ้งตอบรับการเป็นเจ้าภาพ ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เสนอ ๒. ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ เกี่ยวกับการให้ เอกสิทธิและความคุ้มกันแก่ IAEA และการปรับข้อความของร่างหนังสือตอบรับการเป็นเจ้าภาพ ไปดำเนินการต่อ ไปส่วนค่าใช้จ่ายที่ฝ่ายไทยต้องดำเนินการจัดหาสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนิน การ โดยปรับแผนการใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ตามความเห็นของสำนัก งบประมาณ |
||||||||||||||||||||||||
34786 | การดำเนินงานของคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ | นร | 02/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐ ธรรมนูญตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวม ๖ ประเด็น ได้แก่ ๑.๑ การทำหนังสือสัญญาที่ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา (มาตรา ๑๙๐) ๑.๒ ระบบการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (มาตรา ๙๓ - มาตรา ๙๘) ๑.๓ ที่มาของวุฒิสภา (มาตรา ๑๑๑ - มาตรา ๑๒๑) ๑.๔ การห้ามดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา (มาตรา ๒๖๕) ๑.๕ การห้ามสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาแทรกแซงการทำงานของฝ่ายบริหาร (มาตรา ๒๖๖) ๑.๖ การยุบพรรคการเมืองและการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมืองและกรรมการ บริหารพรรคการเมือง (มาตรา ๒๓๗) ๒. เห็นชอบแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวม ๒ ประเด็น คือ ๒.๑ การทำหนังสือสัญญาที่ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา (มาตรา ๑๙๐) ได้แก่ ๒.๑.๑ ให้แบ่งประเภทหนังสือสัญญาที่ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภาออกเป็น ๒ ประเภท ดังนี้ - หนังสือสัญญาที่มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตพื้นที่นอกอาณาเขต ซึ่งประเทศไทย มีสิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตามหนังสือสัญญาหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศหรือจะต้องออกพระราช บัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามหนังสือสัญญา - หนังสือสัญญาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้าง ขวางหรือมีผลผูกพันด้านการค้า การลงทุน หรืองบประมาณของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ๒.๑.๒ ให้มีกฎหมายกำหนดประเภทของหนังสือสัญญาและกรอบการเจรจาที่จะต้องได้รับความ เห็นชอบจากรัฐสภาให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ๒.๒ ระบบการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (มาตรา ๙๓ - มาตรา ๙๘) โดยให้สมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรแบบเขตเลือกตั้งกลับไปใช้แบบเขตเดียวคนเดียว ส่วนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อกลับไปใช้ แบบบัญชีรายชื่อเดียวทั่วประเทศ ตามแบบรัฐธรรมนูญ ๒๕๔๐ โดยไม่ต้องกำหนดจำนวนขั้นต่ำของคะแนนเสียงที่ จะนำมาคำนวณจำนวน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อและให้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๕๐๐ คน แบ่งเป็นสมาชิก สภาผู้แทนราษฎร เขตจำนวน ๓๗๕ คน และบัญชีรายชื่อ ๑๒๕ คน ๓. ให้คณะกรรมการพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ จัดทำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม และให้ ส่งพรรคการเมืองทุกพรรคพิจารณา แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในวังอังคารที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
|
||||||||||||||||||||||||
34787 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการลงทุน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) (กระทรวงอุตสาหกรรม) (นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย) | อก | 02/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการลงทุน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งแต่วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
34788 | แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายพีระภัฏ บุญเจริญ) | นร | 02/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายพีระภัฏ บุญเจริญ เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งเป็นต้นไป เพื่อให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งได้ดำเนินการลาออกจากตำแหน่งอื่น ๆ ที่เป็นลักษณะต้องห้ามให้เรียบร้อย ตามที่นายกรัฐมนตรี
|
||||||||||||||||||||||||
34789 | สรุปสถานการณ์อุทกภัยเนื่องจากอิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคใต้ตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน 2553) | มท | 02/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสรุปสถานการณ์อุทกภัยเนื่องจากอิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคใต้ตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ดังนี้
๑. สถานการณ์อุทกภัย ตั้งแต่วันที่ ๑๐ ตุลาคม-๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ มีจังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยทั้งสิ้น ๒๑ จังหวัด ๑๒๐ อำเภอ ๙๐๕ ตำบล ๗,๐๓๕ หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี นครราชสีมา ชัยภูมิ ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม อุบลราชธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี นนทบุรี ปทุมธานี และฉะเชิงเทรา มีผู้เสียชีวิต ๑๐๔ ราย ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๙๘๔,๖๗๐ ครัวเรือน ๓,๒๓๒,๖๑๗ คน พื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหายประมาณ ๔,๑๒๘,๓๗๓ ไร่ ส่วนสถานการณ์อุทกภัยอันเนื่องมาจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชันบริเวณอ่าวไทยตอนบน ณ วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ มีพื้นที่ประสบภัยทั้งสิ้น ๖ จังหวัด ๓๐ อำเภอ ๘๗ ตำบล ๔๐๒ หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดพัทลุง สงขลา สตูล นราธิวาส ยะลา และปัตตานี ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๖,๘๓๑ ครัวเรือน ๒๐,๔๙๓ คน ความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ ๒. การให้ความช่วยเหลือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพร้อมคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมราษฎรและมอบถุงยังชีพในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา สระแก้ว ปราจีนบุรี นครนายก ปทุมธานี นนทบุรี และสิงห์บุรี รวมทั้งเดินทางไปตรวจเยี่ยมและมอบถุงยังชีพให้แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และในส่วนของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์) พร้อมคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมราษฎรและมอบถุงยังชีพในพื้นที่ ๒๓ อำเภอ ของจังหวัดนครราชสีมา พร้อมทั้งปฏิบัติหน้าที่ ณ ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ปี ๒๕๕๓ (ส่วนหน้า) จังหวัดนครราชสีมา สำหรับการให้ความช่วยเหลือของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือด้านเครื่องอุปโภคบริโภค น้ำดื่ม และยารักษาโรค ฯลฯ รวมทั้งสิ่งของพระราชทานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
|
||||||||||||||||||||||||
34790 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา พ.ศ. .... | ศธ | 02/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขา
วิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา พ.ศ. .... ตามที่กระทรวง ศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างพระ ราชกฤษฎีกาฯ มีสาระสำคัญคือ ๑. กำหนดปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาการศึกษา สาขาวิชานิเทศศาสตร์ สาขา วิชาบริหารธุรกิจ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ สาขาวิชาวิจิตรศิลป์และประยุกต์ศิลป์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ และ สาขาวิชาศิลปศาสตร์ ๒. กำหนดครุยวิทยฐานะของมหาวิทยาลัย ครุยประจำตำแหน่ง และเครื่องหมายประกอบครุยประจำ ตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัย กรรมการสภามหาวิทยาลัย ผู้บริหาร และคณาจารย์ของมหาวิทยาลัย ๓. กำหนดเข็มวิทยฐานะของมหาวิทยาลัย ๔. กำหนดสีประจำสาขาวิชา
|
||||||||||||||||||||||||
34791 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 3 ราย 1. นายธวัชชัย โสภาเสถียรพงศ์ ฯลฯ) | พณ | 02/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงพาณิชย์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
๑. นายธวัชชัย โสภาเสถียรพงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ๒. นายกฤษฎา เปี่ยมพงศ์สานต์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลก ๓. นายบุณนริศร์ สุวรรณพูล ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงพาณิชย์
|
||||||||||||||||||||||||
34792 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร พ.ศ. .... | ศธ | 02/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับ
สาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร พ.ศ. .... ตาม ที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างพระราชกฤษฎีกาฯ มีสาระสำคัญคือ ๑. กำหนดปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาการบัญชี สาขาวิชาการศึกษา สาขา วิชานิติศาสตร์ สาขาวิชาบริหารธุรกิจ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาศิลปศาสตร์ สาขาวิชาศิลปกรรมศาสตร์ และสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ ๒. กำหนดครุยวิทยฐานะของมหาวิทยาลัย ครุยประจำตำแหน่งและเครื่องหมายประกอบครุยประจำ ตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัย อธิการบดี และกรรมการสภามหาวิทยาลัย ๓. กำหนดสีประจำคณะ ๔. กำหนดเข็มวิทยฐานะของมหาวิทยาลัย
|
||||||||||||||||||||||||
34793 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลบึงยี่โถ ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี และตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 02/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหา
ริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลบึงยี่โถ ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี และตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลบึง ยี่โถ ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี และตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เป็นกรณีที่มีความจำเป็น โดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจวางเงินค่าทดแทนเข้าครอบครองหรือ ใช้อสังหาริมทรัพย์และส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างได้ทันตามกำหนดเวลา ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะ กรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
34794 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 29 ตุลาคม 2553 | กค | 02/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ สรุปได้ดังนี้
๑. อนุมัติแล้ว จำนวน ๔๒,๔๒๕ โครงการ วงเงิน ๓๔๙,๙๖๐.๔๔ ล้านบาท ๒. การจัดสรร ๒.๑ รอจัดสรร จำนวน ๒,๑๔๙ โครงการ วงเงิน ๒๒,๓๒๖.๗๑ ล้านบาท ๒.๒ จัดสรรแล้ว จำนวน ๔๐,๒๗๖ โครงการ วงเงิน ๓๒๗,๖๓๓.๗๓ ล้านบาท ๓. การจัดซื้อจัดจ้าง ๓.๑ ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ จำนวน ๓,๘๑๐ โครงการ วงเงิน ๒๑,๔๗๐.๐๑ ล้านบาท ๓.๑.๑ ยังไม่เกิน ๑๕ วันทำการ จำนวน ๑,๓๓๖ โครงการ วงเงิน ๑๐,๖๖๓.๓๘ ล้านบาท ๓.๑.๒ เกิน ๑๕ วันทำการ จำนวน ๒,๔๗๔ โครงการ วงเงิน ๑๐,๘๐๖.๖๓ ล้านบาท ๓.๒ ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน ๓๖,๔๖๖ โครงการ วงเงิน ๓๐๖,๑๖๓.๗๒ ล้านบาท ๓.๓ มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน ๓๖,๔๖๖ โครงการ วงเงิน ๒๙๓,๕๓๑.๒๐ ล้านบาท ๔. การดำเนินการ ๔.๑ ยังไม่ได้เบิกจ่าย จำนวน ๑,๔๑๗ โครงการ วงเงิน ๕๔,๒๔๕.๑๗ ล้านบาท ๔.๒ เบิกจ่ายแล้วบางส่วน (ยังไม่เสร็จ) ๓๑,๔๖๕ โครงการ วงเงิน ๒๐๑,๕๓๒.๔๓ ล้านบาท ๔.๓ เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน ๓,๕๘๔ โครงการ วงเงิน ๓๗,๗๕๓.๖๐ ล้านบาท ๔.๔ เบิกจ่ายทั้งหมด (๔.๒+๔.๓) จำนวน ๓๕,๐๔๙ โครงการ วงเงิน ๒๓๙,๒๘๖.๐๓ ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||
34795 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลบึงยี่โถ อำเภอธัญบุรี และตำบลลาดสวาย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 02/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหา
ริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลบึงยี่โถ อำเภอธัญบุรี และตำบลลาดสวาย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เป็นกรณีที่ มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลบึงยี่โถ อำเภอ ธัญบุรี และตำบลลาดสวาย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้า หน้าที่ หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจวางเงินค่าทดแทน เข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์ ในการก่อสร้างทางหลวงชนบท สายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๐๕ กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๓๑๒ ได้ทันตามกำหนดเวลา ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมาย และร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
34796 | ผลการดำเนินการของคณะกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ครั้งที่ 4/2553 วันที่ 1 พฤศจิกายน 2553) | นร | 02/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) ประธานกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยรายงานผลการประชุมคณะกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) ครั้งที่ ๔/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ สรุปได้ ดังนี้
๑. กรณีการจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท คชอ. ได้ประสานผู้ที่เกี่ยวข้องและกำหนดให้มีการจ่ายเงินให้กับประชาชนในจังหวัดที่มีความพร้อมด้านข้อมูลผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยครั้งแรกในวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ณ จังหวัดนครราชสีมา โดยให้จังหวัดมีแผนการจ่ายเงิน ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประสบภัยได้ทราบด้วย ๒. สถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ ได้รายงานว่า ณ วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ มีจังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยทั้งสิ้น ๒๒ จังหวัด ๑๒๖ อำเภอ ๙๕๕ ตำบล ๗,๔๗๕ หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหาย ๔,๑๒๘,๓๗๓ ไร่ สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว มีจำนวน ๑๖ จังหวัด รวมทั้งการรายงานสถานการณ์อุทกภัยในภาคใต้ ซึ่งในกรณีนี้ ประธานฯ ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมอุตุนิยมวิทยา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ได้มีการแจ้งเตือนประชาชนทุกระยะ โดยส่งข่าวการแจ้งเตือนให้กรมประชาสัมพันธ์ และ อ.ส.ม.ท. ช่วยกระจายข่าวให้ประชาชนได้รับทราบ และให้ทุกหน่วยงานโดยเฉพาะหน่วยทหารเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ในการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้โดยเร็วด้วย ๓. การจัดทำแผนการฟื้นฟูความเสียหายจากอุทกภัย ประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การสูบน้ำออกจากแหล่งน้ำที่มีน้ำท่วมขัง การทำความสะอาดบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย สิ่งสาธารณูปโภค ซ่อมแซมที่อยู่อาศัยและอาคารประกอบอื่น ๆ สร้างบ้านกรณีบ้านเรือนพังเสียหายทั้งหลัง ซ่อมแซมฟื้นฟูสิ่งสาธารณประโยชน์ เป็นต้น โดยกิจกรรมดังกล่าวได้กำหนดหน่วยงานที่รับผิดชอบ แหล่งงบประมาณที่จะต้องใช้ รวมทั้งกำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จของแต่ละกิจกรรมไว้ด้วย ทั้งนี้ มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่โดยเร็ว เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการพิจารณาว่าจะต้องดำเนินกิจกรรมใดบ้างในการให้ความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและตรงตามความต้องการของประชาชน และนำมาพิจารณาร่วมกันอีกครั้งในการประชุม คชอ. ครั้งที่ ๕/๒๕๕๓ ในวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ สำหรับกิจกรรมการทำความสะอาดบ้านเรือน ที่อยู่อาศัยและสิ่งสาธารณูปโภค ได้กำหนดเริ่มดำเนินกิจกรรมครั้งแรกในวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ณ จังหวัดนครราชสีมา
|
||||||||||||||||||||||||
34797 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน (จำนวน 3 คน 1. นายวัลลภ อารีรบ ฯลฯ) | พณ | 02/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน จำนวน ๓ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบตามวาระ ดังนี้
๑. นายวัลลภ อารีรบ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเกษตร ๒. นายชาญชัย สิงโตโรจน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการค้าระหว่างประเทศ ๓. นางพฤฒิพร เนติโพธิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านนิติศาสตร์
|
||||||||||||||||||||||||
34798 | การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง โครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล โรคเขียวเตี้ย และโรคใบหงิก | กษ | 02/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะ
รัฐมนตรี เรื่อง โครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล โรคเขียว เตี้ย และโรคใบหงิก สรุปได้ดังนี้ ๑. การดำเนินงานตามแนวทางเร่งด่วนเพื่อยุติการระบาด ประกอบด้วย ๑.๑ ดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือเป็นเงินสดในอัตราไร่ละ ๒,๒๘๐ บาท มีเกษตรการเข้าร่วมโครง การจำนวน ๙,๓๖๘ ราย คิดเป็นเงินทั้งสิ้น ๓๖๐.๖๘๖ ล้านบาท ๑.๒ ดำเนินการไถกลบต้นข้าวในอัตราไร่ละ ๓๕๐ บาท มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการจำนวน ๙,๔๗๗ ราย พื้นที่ ๑๕๙,๖๔๐ ไร่ คิดเป็นเงินทั้งสิ้น ๕๕,๗๘๗ ล้านบาท ๑.๓ สนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวแก่เกษตรกรในพื้นที่ที่มีการระบาดในอัตราไร่ละ ๑๕ กิโลกรัม จำนวน ๙๙,๑๕๓ ราย โดยใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวจำนวน ๘,๙๐๓.๖๑ ตัน คิดเป็นเงินทั้งสิ้น ๑๖๐.๒๖๕ ล้านบาท ๒. การดำเนินงานต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาการระบาด ประกอบด้วย ๒.๑ การดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายทอดเทคโนโลยีการป้องกันกำจัดเพลี้ยกระโดด สีน้ำตาล โดยประชุมชี้แจงและฝึกอบรมเจ้าหน้าที่เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ให้เกษตรกรในพื้นที่ที่มีการระบาด จัด ทำแปลงสาธิต แปลงพยากรณ์การจัดตั้งศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน เป็นต้น ซึ่งผลจากการดำเนินงานเกษตรกรมี ความรู้ความเข้าใจในการป้องกันกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลตามคำแนะนำของทางราชการเพิ่มขึ้น ๒.๒ การดำเนินโครงป้องกันการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลอย่างยั่งยืน โดยผลิตเมล็ดพันธุ์ ที่ต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลชั้นพันธุ์คัด พันธุ์หลัก จำนวน ๘ พันธุ์ รวมทั้งชั้นพันธุ์ขยายและชั้นพันธุ์จำหน่าย ซึ่งผลจากการดำเนินงานจะได้เมล็ดพันธุ์ที่ต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ชั้นพันธุ์คัด ๒๐ ตัน ชั้นพันธุ์หลัก ๒๐๐ ตัน ส่วนเมล็ดพันธุ์ชั้นพันธุ์ขยายและพันธุ์จำหน่ายคาดว่าจะได้เมล็ดพันธุ์ต่ำกว่าเป้าหมายเนื่องจากประสบปัญหา อุทกภัย นอกจากนี้ เกษตรกรมีความรู้เพิ่มขึ้นจากการเข้าร่วมโครงการบริหารจัดการระบบนิเวศในนาข้าว
|
||||||||||||||||||||||||
34799 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายวิบูลย์ทัต สุทันธนกิตติ์ และนายวรพัฒน์ ทิวถนอม) | ทก | 02/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ดังนี้
๑. นายวิบูลย์ทัต สุทันธนกิตติ์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ สำนักงานสถิติแห่งชาติ ๒. นายวรพัฒน์ ทิวถนอม ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||
34800 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่วัด วัดใหม่ขุนเขวา ตำบลเขวา อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... | พศ | 02/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่วัด วัดใหม่ขุนเขวา ตำบลเขวา
อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ โอนกรรมสิทธิ์ที่วัด วัดใหม่ขุนเขวา ตำบลเขวา อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม เนื้อที่ ๑ ไร่ ๒ งาน ๔๗.๑ ตารางวา ให้ แก่กรมทางหลวง เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๓ สายบ้านไผ่-อุบลราชธานี ตอนมหาสารคาม-ร้อย เอ็ด ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....