ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1704 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 34061 - 34080 จากข้อมูลทั้งหมด 123998 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
34061 | ขอความเห็นชอบแผนพัฒนาศักยภาพที่ยั่งยืนในประเทศไทยในเรื่อง WHO Pre-qualification Scheme และแผนองค์รวมของการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายการวิจัยพัฒนาและการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ | สธ | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการของแผนพัฒนาศักยภาพที่ยั่งยืนในประเทศไทยในเรื่อง WHO Pre-qualification Scheme และแผนองค์รวมของการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายการวิจัยพัฒนาและการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างศักยภาพของประเทศและพัฒนาไปสู่โรงงานที่ได้มาตรฐานสากล เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ และสามารถขยายศักยภาพให้เป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญในอนาคต โดยแผนพัฒนาศักยภาพที่ยั่งยืนในประเทศไทยในเรื่อง WHO Pre-qualification Scheme มีระยะเวลาดำเนินการทั้งสิ้น ๑๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๖๓) ประกอบด้วยโครงการ/แผนงานทั้งหมด ๑๖ โครงการ/แผนงาน ส่วนแผนองค์รวมของการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายการวิจัยพัฒนาและการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ มีระยะเวลาดำเนินการทั้งสิ้น ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๖๐) โดยมีการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายการวิจัยพัฒนาและการผลิตวัคซีนไข้หวัดในองค์รวม ๕ ด้าน เพื่อนำไปสู่โรงงานที่ได้มาตรฐาน WHO Pre-qualificaiton Scheme ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการอนุมัติให้องค์การเภสัชใช้เงินงบประมาณที่มาจากรายได้ของตนเอง และการอนุมัติจัดสรรเงินงบประมาณสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐสำหรับแผนพัฒนาศักยภาพที่ยั่งยืนในประเทศไทยในเรื่อง WHO Pre-qualification Scheme และแผนองค์รวมของการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายการวิจัยพัฒนาและการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ จะต้องไม่รวมงบประมาณที่องค์การเภสัชกรรมและหน่วยงานภาครัฐได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการไปแล้ว และให้มีการติดตาม ประเมินผล และทบทวนแผนการดำเนินงานซึ่งมีระยะเวลา ๑๐ ปี เป็นระยะ ๆ เพื่อให้สามารถปรับแผนการปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายเงินให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงซึ่งจะส่งผลให้การดำเนินงานดังกล่าวเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการ นอกจากนี้ ควรเพิ่มเติมแผนงานเฉพาะในเรื่องการวิเคราะห์อุปสงค์ของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ภายใต้แผนองค์รวมของการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายการวิจัยและพัฒนาและการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพื่อบูรณาการการผลิตวัคซีนให้เกิดประสิทธิภาพ รวมทั้งประสานความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการต่างประเทศเพื่อหากลุ่มประเทศคู่ค้าเพื่อรองรับตลาดในอนาคตและเชื่อมโยงกับแผนพัฒนาศักยภาพที่ยั่งยืนในประเทศในเรื่อง WHO Pre-qualification Scheme และมีมาตรการควบคุมราคายาที่ผลิตได้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม รวมทั้งทบทวนแผนงบประมาณเกี่ยวกับแผนงาน/โครงการที่ซ้ำซ้อน ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๓. เห็นชอบให้องค์การเภสัชกรรมใช้งบประมาณซึ่งได้มาจากรายได้ขององค์การเภสัชกรรมเอง ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๖๓ เป็นเงิน ๒,๒๑๖ ล้านบาท สำหรับแผนพัฒนาศักยภาพที่ยั่งยืนในประเทศไทยในเรื่อง WHO Pre-qualification Scheme และตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๖ เป็นเงิน ๑๓๕.๑๕ ล้านบาท สำหรับแผนองค์รวมของการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายการวิจัยพัฒนาและการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ |
|||||||||||||||||||||||||||
34062 | ความคืบหน้ามาตรการฟื้นฟูด้านการท่องเที่ยวและการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตปัญหาการเมืองภายในประเทศ : การขอยกเลิกการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าขั้นต่ำ | คค | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการประสานงานและขับเคลื่อนการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีรายงานความคืบหน้ามาตรการฟื้นฟูด้านการท่องเที่ยวและการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตปัญหาการเมืองภายในประเทศ : การขอยกเลิกการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าขั้นต่ำ โดยที่ประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ครั้งที่ ๓๕/๒๕๕๓ ครั้งที่ (๑๐๙) เมื่อวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๓ ได้มีมติเห็นชอบการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ถูกเรียกเก็บค่าไฟฟ้าขั้นต่ำและผู้ได้รับผลกระทบทางการเมือง สำหรับสถานประกอบการที่มีสถานที่ตั้งบริเวณที่มีการชุมนุมทางการเมืองและเกิดการจลาจลในช่วงเดือนเมษายน - พฤษภาคม ๒๕๕๓ ในพื้นที่จำหน่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง ประกอบด้วย คลองเตย ย่านถนนพระราม ๔ แขวงคลองเตย สี่แยกราชประสงค์ แนวถนนพระรามที่ ๑ ถนนเพลินจิต ถนนราชดำริ และบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แขวงพญาไท จำนวนทั้งสิ้น ๑๕ ราย โดยให้การไฟฟ้านครหลวงรับภาระในส่วนต่างของค่าไฟฟ้าตามการใช้จริงกับค่าไฟฟ้าขั้นต่ำดังกล่าวเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น ๒,๖๓๓,๐๒๓ บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
34063 | บริษัท ขนส่ง จำกัด ขอความเห็นชอบการปรับค่าห้องและค่าอาหารในการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับพนักงาน | คค | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้บริษัท ขนส่ง จำกัด ปรับค่าห้องและค่าอาหารในการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับพนักงาน จากเดิมเบิกได้เท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินวันละ ๘๐๐ บาท เป็นเบิกได้เท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินวันละ ๑,๒๐๐ บาท ตามมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ในการประชุมครั้งที่ ๑๑/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
34064 | ผลกระทบจากโครงการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าของบริษัท ผลิตไฟฟ้า และน้ำเย็น จำกัด ที่มีต่อการไฟฟ้านครหลวง | กค | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอว่า การดำเนินโครงการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าของบริษัท ผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็น จำกัด (บริษัท DCAP) ในครั้งนี้ ยังไม่ทำให้การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เกิดค่าเสียโอกาสในการดำเนินธุรกิจ โดย กฟน. จะได้รับผลกระทบก็ต่อเมื่อมีการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ ๒ แล้วเสร็จ ซึ่งก็จะทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (บมจ. ปตท.) ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ดังนั้น จึงเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องชดเชยความเสียหายใด ๆ ให้แก่ กฟน. ในขณะนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||
34065 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลนาแซง อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. .... | มท | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลนาแซง อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลนาแซง อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ บางส่วน เนื้อที่ประมาณ ๘๘๘ ไร่ ๓๙ ตารางวา เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์ราชการอำเภอหล่มเก่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
34066 | แหล่งเงินสนับสนุนแผนการดำเนินงานของสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้ และคุณภาพเยาวชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 | กค | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้นำเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ (SAL) ส่วนที่เหลือจากการดำเนินโครงการตามแผนปฏิรูประบบบริหารภาครัฐ เพื่อสนับสนุนภารกิจของสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน ๔๒๕ ล้านบาท โดยให้ สสค. นำไปใช้เพื่อดำเนินโครงการก่อน และให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า ในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ สสค. ยังมีภารกิจตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการปฏิรูปประเทศไทย เพื่ออนาคตคนไทยที่เท่าเทียมและเป็นธรรม ด้านการสร้างอนาคตของชาติด้วยการพัฒนาคน เด็กและเยาวชน จึงเห็นควรผนวกภารกิจดังกล่าวไว้ในแผนการดำเนินงานในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ด้วย โดยขอรับการจัดสรรเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจมาสนับสนุนการดำเนินงาน เพื่อให้การขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศไทยบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ทั้งนี้ เมื่อร่างพระราชบัญญัติการจัดตั้งกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมคุณภาพการเรียนรู้ พ.ศ. .... มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายและมีรายได้เกิดขึ้นตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ก็ให้ สสค. นำรายได้มาชดใช้คืนให้แก่กระทรวงการคลังในโอกาสแรกต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอในทางเลือกที่ ๒ โดยต้องจัดสรรผ่านกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ รวมทั้งการดำเนินงานต้องอยู่ภายในกรอบวัตถุประสงค์ของกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพอย่างเคร่งครัด และเป็นไปตามหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินให้กับกองทุน เงินทุนหมุนเวียน และหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินกู้ SAL อย่างเคร่งครัดด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
34067 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลธัญญา อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ศ. .... | มท | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลธัญญา อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลธัญญา อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ บางส่วน เนื้อที่ประมาณ ๒ ไร่ ๒ งาน ๓๙ ตารางวา เพื่อมอบหมายให้การประปาส่วนภูมิภาคใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างสถานีจ่ายน้ำ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
34068 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลประโคนชัย อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ พ.ศ. .... | มท | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลประโคนชัย อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลประโคนชัย อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ บางส่วน เนื้อที่ประมาณ ๕ ไร่ เพื่อมอบหมายให้เทศบาลตำบลประโคนชัยใช้เป็นที่ตั้งศูนย์การเรียนรู้ของชุมชนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
34069 | ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับสารวัตรตามกฎหมายว่าด้วยโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. .... | กษ | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับสารวัตรตามกฎหมายว่าด้วยโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. ... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงแก้ไขลักษณะ ชนิด และประเภทของเครื่องแบบพิเศษของสารวัตรตามกฎหมายว่าด้วยโรคระบาดสัตว์ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
34070 | การปรับเปลี่ยนกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ในคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ | กค | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับเปลี่ยนกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ในคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ๒ ตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. เดิม รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ) เป็น รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (นายปรเมธี วิมลศิริ) ๒. เดิม รองอธิบดีกรมบัญชีกลางที่อธิบดีกรมบัญชีกลางมอบหมาย เป็น ที่ปรึกษาหรือรองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ที่อธิบดีกรมบัญชีกลางมอบหมาย
|
|||||||||||||||||||||||||||
34071 | รายงานผลการดำเนินงานในการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพประจำไตรมาส 4 ปี 2552 | กค | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินงานในการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพประจำไตรมาส ๔ ปี ๒๕๕๒ ระหว่างวันที่ ๑ ตุลาคม ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๒ ของบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) ดังนี้
๑. การบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ บสท. ได้บริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจนได้ข้อยุติทั้งสิ้น ๑๕,๒๐๔ ราย มูลค่าทางบัญชีรวม ๗๗๕,๐๒๕ ล้านบาท แบ่งเป็น ๑.๑ สินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่บริหารจัดการจนได้ข้อยุติโดยการปรับโครงสร้างหนี้หรือฟื้นฟูกิจการในศาลล้มละลายกลาง จำนวน ๖,๘๕๗ ราย มูลค่าทางบัญชี ๓๙๙,๕๕๓ ล้านบาท ๑.๒ สินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่ได้ข้อยุติโดยการบังคับหลักประกันหรือพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด จำนวน ๘,๓๔๖ ราย มูลค่าทางบัญชี ๓๗๕,๐๕๑ ล้านบาท ๑.๓ สินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่ตัดจำหน่ายเป็นหนี้สูญ จำนวน ๑ ราย มูลค่าทางบัญชี ๔๒๑ ล้านบาท ๒. การบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย (Non - Performing Asset : NPA) ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๒ บสท. ได้รับโอนทรัพย์สินรอการขายด้วยมูลค่าตีโอนชำระหนี้และรับโอนตามมาตรา ๗๖ รวมทั้งสิ้น ๑๓๒,๐๔๗ ล้านบาท แบ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์มูลค่า ๑๐๙,๘๓๒ ล้านบาท และสังหาริมทรัพย์มูลค่า ๒๒,๒๑๕ ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
34072 | รายงานผลการลงนามในสัญญาให้ความช่วยเหลือทางการเงินโครงการพัฒนา ถนนหมายเลข 11 (บ้านตาดทอง - บ้านน้ำสัง และเมืองสังข์ทอง) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว | กค | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการลงนามในสัญญาให้ความช่วยเหลือทางการเงินระหว่างสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) กับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) สำหรับโครงการปรับปรุงถนนหมายเลข ๑๑ (บ้านตาดทอง - บ้านน้ำสัง และเมืองสังข์ทอง) โดย สพพ. ได้ลงนามในสัญญาให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ สปป.ลาว วงเงิน ๑,๓๙๒ ล้านบาท เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๓ ณ กรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว
|
|||||||||||||||||||||||||||
34073 | รายงานความคืบหน้าผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการประกอบกิจการของบริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) (ประจำเดือนมิถุนายนถึงกันยายน 2553) | อก | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานความคืบหน้าผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการประกอบกิจการของบริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) ประจำเดือนมิถุนายนถึงกันยายน ๒๕๕๓ ดังนี้
๑. การวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำเสียพบว่า คุณภาพน้ำที่เก็บตัวอย่างบริเวณคลองเกตุและคลองหนองน้ำเขียว เมื่อวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๓ ค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ๒. การคัดแยกของเสียนอกบริเวณโรงงาน และรถขนกากวิ่งผ่านกลางหมู่บ้านที่ไม่มีการกำหนดแผนการตรวจสอบกรณีปกติไว้ เนื่องจากประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว จึงจัดทำแผนเฉพาะการตรวจสอบฉุกเฉินเท่านั้น
|
|||||||||||||||||||||||||||
34074 | รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม ประจำเดือนธันวาคม 2553 | อก | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม ประจำเดือนธันวาคม ๒๕๕๓ ดังนี้
๑. อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม การผลิตและการส่งออกคาดว่าจะขยายตัวได้อีก รวมทั้งการจำหน่ายในประเทศและการส่งออกยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะในอาเซียนภายใต้ข้อตกลงการเปิดเสรีการค้าและการรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ๒๕๕๘ ๒. อุตสาหกรรมยานยนต์ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด จัดพิธีวางศิลาฤกษ์โรงงานประกอบรถยนต์แห่งที่ ๓ ที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ซึ่งจะทำการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กที่มีความกะทัดรัดและประหยัดพลังงาน โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตในช่วงต้นปี พ.ศ. ๒๕๕๕
|
|||||||||||||||||||||||||||
34075 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลหนองแปน อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ศ. .... | มท | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลหนองแปน อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลหนองแปน อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ บางส่วน เนื้อที่ประมาณ ๒ ไร่ ๘๒ ตารางวา เพื่อมอบหมายให้การประปาส่วนภูมิภาคใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างสถานีจ่ายน้ำ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
34076 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อส | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ข้าราชการและลูกจ้าง รวมถึงบุคลากรของสำนักงานอัยการสูงสุดซึ่งปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
34077 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... | มท | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลท่านางงาม และตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
34078 | การแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยวถูกหลอกลวงในประเทศไทย | กต | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยวถูกหลอกลวงในประเทศไทย โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) เป็นประธานกรรมการ รวมทั้งอนุมัติองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่คณะกรรมการฯ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ตรวจสอบคุณสมบัติ องค์ประกอบ อำนาจหน้าที่แล้วมีความสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) พิจารณาปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการฯ ได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. ให้เพิ่มองค์ประกอบของคณะกรรมการฯ จำนวน ๒ ราย คือ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เป็นกรรมการ และผู้กำกับการ ๑ กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ตามความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
|
|||||||||||||||||||||||||||
34079 | ขออนุมัติปรับแผนการดำเนินงาน การพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) พ.ศ. 2555 - 2559 | ศธ | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการการปรับแผนการดำเนินงาน การพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การปรับมูลค่าทุนการศึกษาในประเทศ ส่วนที่เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว และอนุมัติในหลักการให้ปรับมูลค่าทุนการศึกษา ส่วนที่เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวได้โดยอัตโนมัติ กรณีที่สำนักงาน ก.พ. ปรับบัญชีโครงสร้างเงินเดือนใหม่ ๑.๒ การปรับค่าใช้จ่ายสนับสนุนการจัดการศึกษานักเรียนทุน พสวท.ในประเทศ ๑.๓ การปรับจำนวนทุนการศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็น ๑๘๐ ทุนต่อปี ๑.๔ การเพิ่มจำนวนศูนย์โรงเรียนและศูนย์มหาวิทยาลัย เป็น ๒๐ ศูนย์ ๑.๕ การประมาณการค่าใช้จ่าย ตามนัยการปรับแผนการดำเนินงาน พสวท. โดยมีกรอบวงเงินค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินงาน พสวท. ช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ วงเงินงบประมาณ ๔,๒๔๒.๙๖๐ ล้านบาท สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ขอปรับมูลค่าทุนการศึกษา ส่วนที่เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว โดยใช้งบกลางในวงเงิน ๓๗,๘๑๓,๘๐๐ บาท ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการ โดยสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณในการประมาณการค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน พสวท. ช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ ในวงเงินงบประมาณ ๔,๒๔๒,๙๖๐,๐๐๐ บาท เป็นวงเงินที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ ๑๐๕.๙๗ ซึ่งบางรายการโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเป็นวงเงินที่ประมาณการไว้ยังไม่มีความชัดเจน เห็นควรให้กระทรวงศึกษาธิการ โดย สสวท. จัดทำรายละเอียดเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายของโครงการในแต่ละปีงบประมาณตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่สำนักงบประมาณกำหนด ซึ่งสำนักงบประมาณจะพิจารณาจัดสรรให้ตามความจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับกำลังเงินงบประมาณแผ่นดินต่อไป และเห็นควรอนุมัติในหลักการสำหรับค่าใช้จ่ายส่วนที่เพิ่มขึ้นจากการปรับมูลค่าทุนการศึกษาส่วนที่เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยให้ใช้จ่ายจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในวงเงิน ๓๗,๘๑๓,๘๐๐ บาท และให้ สสวท. ขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป ๓. ให้กระทรวงศึกษาธิการ โดย สสวท. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงาน ก.พ. สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการพิจารณาให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษาที่เรียนดีเด่นและอยู่ในเกณฑ์ตามที่กำหนดแต่มีฐานะยากจนเป็นกรณีพิเศษ การพิจารณาสนับสนุนการวิจัยสำหรับบัณฑิต พสวท. แรกบรรจุ โดยให้การสนับสนุนทำงานวิจัยในเรื่องที่เป็นความต้องการเร่งด่วนของส่วนราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานวิจัย นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปพัฒนาประยุกต์ใช้ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ต้องนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ รวมทั้งการส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการให้ทุนสนับสนุนการศึกษา และมีส่วนร่วมในการผลิตกำลังคนสาขาดังกล่าวเพื่อรองรับความต้องการทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน และความเห็นเพิ่มเติมของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการจัดสรรทุนการศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ ควรพิจารณาสาขาตามความจำเป็น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
34080 | ร่างระเบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. .... | นร | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. .... ร่างตารางหมายเลข ๑ - หมายเลช ๔ และร่างแบบใบลาแนบท้ายร่างระเบียบฯ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยร่างระเบียบฯ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ปรับปรุงขอบเขตการใช้บังคับระเบียบนี้แก่ข้าราชการรวม ๕ ประเภท ได้แก่ ข้าราชการพลเร้อนตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ข้าราชการการเมืองตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการการเมือง ข้าราชการตำรวจตามกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติ และข้าราชการกรุงเทพมหานครตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานคร ๑.๒ เพิ่มสิทธิการลาไปช่วยเหลือภริยาที่คลอดบุตรเป็นการลาอีกประเภทหนึ่งเพื่อให้ข้าราชการชายสามารถลาไปช่วยเหลือภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายที่คลอดบุตรครั้งหนึ่งติดต่อกันได้ไม่เกิน ๑๕ วันทำการ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้ชายมีส่วนร่วมในการเลี้ยงดูบุตรและพัฒนาบุตร ๑.๓ เพิ่มจำนวนวันลาพักผ่อนประจำปีในปีหนึ่งให้แก่ข้าราชการที่ไปประจำการในต่างประเทศในเมืองที่กำลังพัฒนา อีก ๕ วันทำการ และเพิ่มจำนวนวันลาพักผ่อนประจำปีในปีหนึ่งให้แก่ข้าราชการที่ไปประจำการในต่างประเทศในเมืองที่กำลังพัฒนาซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคแอฟริกา ลาตินอเมริกา และอเมริกากลาง เมืองที่มีความเป็นอยู่ยากลำบาก เมืองที่มีภาวะความเป็นอยู่ไม่ปกติ และเมืองที่มีสถานการณ์พิเศษ อีก ๑๐ วันทำการ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ข้าราชการที่ไปประจำการในต่างประเทศ ๑.๔ ปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับกรณีข้าราชการได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติงานในองค์การระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกรณีที่มีระยะเวลาไม่เกิน ๑ ปี เนื่องจากข้าราชการผู้นั้นมิได้ถูกสั่งให้ออกจากราชการ จึงยังคงมีสถานะภาพความเป็นข้าราชการอยู่ สมควรกำหนดให้ข้าราชการผู้ได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติงานในองค์การระหว่างประเทศดังกล่าวต้องถือปฏิบัติเกี่ยวกับการลาไปปฏิบัติงานในองค์การระหว่างประเทศด้วย ๑.๕ เพิ่มสิทธิการลาไปฟื้นฟูสมรรถภาพทางอาชีพเป็นการลาอีกประเภทหนึ่ง เพื่อให้ข้าราชการที่ได้รับอันตรายหรือการป่วยเจ็บเพราะเหตุปฏิบัติราชการในหน้าที่ หรือถูกประทุษร้ายเพราะเหตุกระทำการตามหน้าที่ จนทำให้ตกเป็นผู้พิการหรือทุพพลภาพ และข้าราชการผู้นั้นได้รับการสงเคราะห์ให้คงรับราชการอยู่ต่อไป ตามหลักเกณฑ์ที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติสงเคราะห์ข้าราชการผู้ได้รับอันตรายหรือการป่วยเจ็บเพราะเหตุปฏิบัติราชการ พ.ศ. ๒๕๔๖ หากข้าราชการผู้นั้นมีความประสงค์จะลาไปเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับการฟื้นฟูสมรรถภาพที่จำเป็นต่อการปฏิบัติหน้าที่ราชการ หรือหลักสูตรการฟื้นฟูสมรรถภาพที่จำเป็นต่อการประกอบอาชีพ แล้วแต่กรณี ซึ่งส่วนราชการ ฯลฯ เป็นผู้จัดหรือร่วมจัด ก็ให้มีสิทธิลาไปฟื้นฟูสมรรถภาพทางอาชีพครั้งหนึ่งได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในหลักสูตรที่ประสงค์จะลา แต่ไม่เกิน ๑๒ เดือน ๒. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงาน ก.พ. เกี่ยวกับมาตรา ๙ วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ ได้กำหนดให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งดำรงตำแหน่งวิชาการมีสิทธิลาหยุดราชการเพื่อไปเพิ่มพูนความรู้ทางวิชาการ หรือตามโครงการแลกเปลี่ยนคณาจารย์ ระหว่างสถาบันอุดมศึกษาทั้งในและต่างประเทศได้ โดยถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการและได้รับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่งและเงินอื่นในระหว่างการลาได้ และควรกำหนดเพิ่มเติมว่า “การลาที่นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในระเบียบนี้ ให้เป็นไปตามกฎหมายข้าราชการพลเรือนแต่ละประเภท” เพื่อให้เรื่องที่เกี่ยวกับการลาสอดคล้องเชื่อมโยงกัน นอกจากนี้ กรณีการกำหนดเรื่องสิทธิในการได้รับเงินเดือนในระหว่างลานั้น โดยที่พระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จบำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน พ.ศ. ๒๕๓๕ บัญญัติเกี่ยวกับสิทธิในการรับเงินเดือน จึงควรนำเรื่องสิทธิในการได้รับเงินเดือนระหว่างลาไปบัญญัติไว้ในพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวจะเหมาะสมกว่า ไปประกอบการพิจารณาด้วย และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ การลาบางประเภท เช่น การลาไปช่วยเหลือภริยาที่คลอดบุตร อาจกำหนดให้มีการแสดงเอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณาอนุญาตด้วยก็ได้ ๓. ให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาแก้ไขปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้สอดคล้องกับสิทธิการลาไปช่วยเหลือภริยาที่คลอดบุตรหรือสิทธิการลาไปฟื้นฟูสมรรถภาพทางอาชีพที่กำหนดเพิ่มเติมขึ้นใหม่ในร่างระเบียบฯ โดยให้ได้รับเงินเดือนระหว่างการลาตามข้อสังเกตของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
.....