ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1702 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 34021 - 34040 จากข้อมูลทั้งหมด 123998 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
34021 | ข้อเสนอเพื่อการปฏิรูป | นร | 15/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) รับข้อเสนอเพื่อการปฏิรูป ของคณะกรรมการปฏิรูป ไปพิจารณาในรายละเอียดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อกำหนดแนวทาง ความเป็นไปได้ และลำดับความสำคัญเร่งด่วนในการดำเนินการตามข้อเสนอดังกล่าว ให้แล้วเสร็จภายใน ๒ สัปดาห์ แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
34022 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 (คณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข) (นายรณชัย คงสกนธ์) | สธ | 15/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายรณชัย คงสกนธ์ ผู้เชี่ยวชาญสาขาจิตเวช ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการคัดเลือกตามหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกกรรมการตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข แทนนายพงศธร เนตราคม ที่ลาออก ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
34023 | ร่างพระราชบัญญัติกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมคุณภาพการเรียนรู้ พ.ศ. .... | นร | 15/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมคุณภาพการเรียนรู้ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มีกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมคุณภาพการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพประชาชนในสังคมไทยให้สามารถสร้างความรู้ ทักษะ การเรียนรู้ตลอดชีวิต มีระบบการจัดการความรู้ การถ่ายทอดความรู้ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันของทุกภาคส่วนในสังคม รวมทั้งเป็นการสนับสนุนการปฏิรูปการศึกษาให้ก้าวหน้าไปด้วยประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ซึ่งได้ตรวจพิจารณาแล้ว และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา แล้วเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
34024 | ขออนุมัติแผนการก่อสร้างสนามกีฬาอำเภอและตำบล | กก | 15/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการแผนการก่อสร้างสนามกีฬาอำเภอและตำบล (พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙) ประกอบด้วย แผนการก่อสร้างสนามกีฬาระดับอำเภอ ๖๙๐ อำเภอ วงเงิน ๑๖,๕๖๐ ล้านบาท และแผนการก่อสร้างสนามกีฬาระดับตำบล ๑,๑๑๔ ตำบล วงเงิน ๑๓,๓๖๘ ล้านบาท ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ และให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการก่อสร้างสนามกีฬาและแผนการใช้จ่ายเงินตามลำดับความสำคัญและจำเป็น รวมทั้งประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมให้ความเห็นในการเลือกใช้สถานที่ก่อสร้างที่เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อจัดทำแผนการถ่ายโอนสนามกีฬาที่ก่อสร้างแล้วเสร็จให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบริหารจัดการและใช้ประโยชน์ต่อไป ตามความเห็นของกระทรวงมหาดไทย ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและกระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการจัดทำแผนการถ่ายโอนสนามกีฬาอำเภอและตำบลที่ก่อสร้างแล้วเสร็จให้แก่ อปท. เพื่อให้ อปท. มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการด้านกีฬา จัดทำแผนสนับสนุนงบประมาณให้แก่ อปท. ที่รับถ่ายโอนภารกิจสนามกีฬาสำหรับการบำรุงรักษา การจัดหาอุปกรณ์กีฬา และออกกำลังกาย และครูผู้ฝึกสอนกีฬา รวมทั้งให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือแนะนำทางเทคนิควิชาการเพื่อให้ อปท. ที่รับโอนภารกิจสนามกีฬาสามารถดำเนินการได้อย่างมีมาตรฐานและมีคุณภาพเท่าเทียมระดับสากล นอกจากนี้ ให้ อปท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่หาแนวทางในการปลูกฝังและรณรงค์ให้ประชาชนรักการออกกำลังกายและเห็นถึงความสำคัญของการเล่นกีฬามากกว่ามุ่งเน้นพัฒนาแต่โครงสร้างพื้นฐาน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
34025 | ขอถอนร่างกฎกระทรวงกำหนดตำแหน่งพนักงานอัยการที่เรียกชื่ออย่างอื่น และร่างกฎกระทรวงกำหนดตำแหน่งข้าราชการอัยการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและเทียบตำแหน่ง | อส | 15/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างกฎกระทรวงกำหนดตำแหน่งพนักงานอัยการที่เรียกชื่ออย่างอื่น (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดตำแหน่งข้าราชการอัยการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและเทียบตำแหน่งข้าราชการอัยการที่เรียกชื่ออย่างอื่นกับตำแหน่งข้าราชการอัยการ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทราบ เพื่อจำหน่ายเรื่องออกจากสารบบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
34026 | การทบทวนความจำเป็นในการคงอยู่ของคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง (รวม 13 คณะ) | สธ | 15/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการทบทวนความจำเป็นในการคงอยู่ของคณะกรรมการชุดต่าง ๆ จำนวน ๑๓ คณะ โดยปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการ จำนวน ๒ คณะ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. คณะกรรมการควบคุมการบริโภคยาสูบแห่งชาติ ๒. คณะกรรมการอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม ๓. คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ๔. คณะกรรมการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีแห่งชาติ ๕. คณะกรรมการโภชนาการ ๖. คณะกรรมการพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ ๗. คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาแพทย์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาแพทย์ ๘. คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาทันตแพทย์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาทันตแพทย์ ๙. คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาเภสัชศาสตร์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาเภสัชศาสตร์ ๑๐. คณะกรรมการจัดทำตำรายาของประเทศไทย ๑๑. คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนายุทธศาสตร์การจัดการสารเคมี ๑๒. คณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุขรับตำแหน่งองค์ประกอบลำดับที่ ๑๒ [ตำแหน่งกรรมการและเลขานุการร่วม จากเดิมที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุข (นายสุพรรณ ศรีธรรมา)] ปรับเป็นหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ๑๓. คณะอนุกรรมการพิจารณาพื้นที่พิเศษสำหรับค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายปรับตำแหน่งองค์ประกอบลำดับที่ ๙ [ตำแหน่งอนุกรรมการ จากเดิมที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุข (นายสุพรรณ ศรีธรรมา)] ปรับเป็นหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข
|
|||||||||||||||||||||||||||
34027 | ผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย - กัมพูชา ครั้งที่ 7 | กห | 15/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบบันทึกการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย - กัมพูชา ครั้งที่ ๗ ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปฯ เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๓ ซึ่งมีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพลเอก เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นประธานร่วม โดยที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าของความร่วมมือระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพกัมพูชา และพิจารณาให้ความเห็นชอบร่วมกันใน ๒ ด้าน คือ ด้านความมั่นคงและการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชายแดน และด้านความร่วมมืออื่น ๆ รวม ๑๕ ประเด็น ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้เสนอรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบตามมาตรา ๑๙๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
34028 | ความคืบหน้าในการวางแผนรองรับความเสี่ยงอันเนื่องมาจากการดำเนินนโยบายในการรับซื้อหรือแทรกแซงราคายางและแผนการจัดหาแหล่งทุน | นร | 15/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการประสานงานและขับเคลื่อนการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี (ปคค.) รายงานความคืบหน้าในการวางแผนรองรับความเสี่ยงอันเนื่องมาจากการดำเนินนโยบายในการรับซื้อหรือแทรกแซงราคายางและแผนการจัดหาแหล่งทุนของกระทรวงเกษตรและสกหรณ์ สรุปได้ดังนี้
๑. องค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโรงงานยางแท่ง STR 20 พร้อมเครื่องจักรอุปกรณ์ จำนวน ๓ แห่ง ที่จังหวัดศรีสะเกษ อุดรธานี และนครพนม และศูนย์รับซื้อผลผลิตยางพารา จำนวน ๖ ศูนย์ ที่จังหวัดพะเยา กำแพงเพชร พิษณุโลก ชัยภูมิ เลย และนครพนม โดยทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๓ คาดว่าจะสามารถดำเนินการก่อสร้างเสร็จและทดลองเดินเครื่องได้ภายในเดือนกันยายน ๒๕๕๔ และจะดำเนินการผลิตตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๕๔ เป็นต้นไป ๒. อ.ส.ย. ได้วางแผนรองรับความเสี่ยงในการดำเนินนโยบายในการซื้อหรือแทรกแซงราคา ไว้ ๒ กรณี คือ (๑) ในกรณีแทรกแซงราคาตามนโยบายรัฐบาล ราคาซื้อขายจะเป็นไปตามที่รัฐบาลกำหนด และ (๒) ในกรณีที่ อ.ส.ย. ซื้อเพื่อดำเนินการตามภารกิจปกติ อ.ส.ย. กำหนดราคาซื้อตามสภาวะราคายางและกลไกตลาด โดยซื้อผ่านระบบเครือข่ายเกษตรกร สถาบันเกษตรกรด้านยางพาราครบวงจรที่ อ.ส.ย. ได้จัดตั้งไว้แล้วทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางบางส่วน รวมทั้งรับซื้อที่ศูนย์รับซื้อผลผลิตยางพาราทั้ง ๖ ศูนย์ นอกจากนี้ ได้กำหนดเป้าหมายการจัดหาวัตถุดิบและการผลิตยางแท่ง STR 20 โดยเฉพาะปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ จะดำเนินการรับซื้อผลผลิตยางตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ๒๕๕๔ ถึงเดือนกันยายน ๒๕๕๔ เพื่อเป็นการเตรียมวัตถุดิบไว้สำหรับเริ่มทำการผลิตตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๕๔ เป็นต้นไป ๓. อ.ส.ย. มีแผนการจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อใช้เป็นเงินหมุนเวียนในการดำเนินงานโรงงานยางแท่ง STR 20 จากเงินทุนหมุนเวียนของ อ.ส.ย. ประมาณ ๑๕๐ ล้านบาท และเงินกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ประมาณ ๑,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งจะขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีประมาณเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๔ ๔. อ.ส.ย. กำหนดเป้าหมายการขายผลผลิตยางในประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และอินเดีย ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๘๐ โดยใช้ทั้งระบบขายตรงและผ่านตัวแทน (broker) ส่วนที่เหลือขายภายในประเทศ โดยพิจารณาจากผลประโยชน์ตอบแทนเป็นหลัก
|
|||||||||||||||||||||||||||
34029 | สรุปผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนว่าด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 6 (The 6th Informal ASEAN Ministerial Meeting on Science and Technology - IAMMST) | วท | 15/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรายงานสรุปผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนว่าด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ ๖ (The 6th Informal ASEAN Ministerial Meeting on Science and Technology - IAMMST) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๓ ณ จังหวัดกระบี่ โดยในการประชุมฯ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้เสนอแนวทางการสร้างความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อรองรับการก่อตั้งประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ เรียกว่า “ข้อริเริ่มกระบี่ (The Krabi Initiative)” และจะนำมาจัดทำเป็นแผนปฏิบัติการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของอาเซียนในระยะต่อไป (พ.ศ. ๒๕๕๙ - ๒๕๖๓) นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ รับทราบร่างความตกลงอาเซียน - สหรัฐอเมริกา ว่าด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความก้าวหน้าของการดำเนินการแผนปฏิบัติการอาเซียน ว่าด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กองทุนวิทยาศาสตร์อาเซียน ข้อริเริ่มใหม่ของไทย ๓ เรื่อง ได้แก่ เทคโนโลยีลำแสงซิโครตรอนในอาเซียน การจัดตั้งคณะอนุกรรมการว่าด้วยมาตรวิทยาและการสร้างดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติในภูมิภาคอาเซียน และผลของการประชุมกับอินเดียและประเทศ +๓ (จีน ญี่ปุ่น เกาหลี)
|
|||||||||||||||||||||||||||
34030 | มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการใช้ทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน | กค | 15/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการใช้ทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน โดยปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้ระบบการจัดเก็บภาษีมีความเป็นกลางไม่ว่าจะเป็นการลงทุนโดยตรงหรือลงทุนผ่านตัวกลาง เช่น กองทุนรวมหรือทรัสต์ หรือให้ภาระภาษีมีความเท่าเทียมกันระหว่างผู้ลงทุนไทยหรือผู้ลงทุนต่างชาติ โดยกำหนดให้แก้ไขปรับปรุงกฎหมายในส่วนของการใช้ทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน โดยให้บุคคลธรรมดาที่ลงทุนผ่านทรัสต์เพื่อลงทุนในหุ้นได้รับการยกเว้นภาษีได้สำหรับส่วนแบ่งกำไรที่จ่ายจากเงินปันผลและกำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้น และให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนผ่านทรัสต์ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้เฉพาะส่วนแบ่งกำไรที่จ่ายจากเงินปันผล สำหรับส่วนแบ่งกำไรที่จ่ายจากผลประโยชน์อื่น ๆ ให้เสียภาษีตามปกติ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ให้แก่ผู้ก่อตั้งทรัสต์ ทรัสตีและผู้รับประโยชน์ ตามกฎหมายว่าด้วยทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน สำหรับเงินได้ รายรับ และการกระทำตราสาร อันเนื่องมาจากการทำสัญญาก่อตั้งทรัสต์ แต่ไม่รวมถึงดอกผลของเงินได้ รายรับ อันเนื่องมาจากการทำสัญญาก่อตั้งทรัสต์ตามกฎหมายว่าด้วยทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งพิจารณากำหนดภาระภาษีสำหรับการลงทุนในตลาดทุนทั้งโดยตรงและผ่านตัวกลางอื่นให้เกิดความเท่าเทียมและเป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมทั้งศึกษาผลกระทบต่อรายได้รัฐ จำนวนผู้ได้รับประโยชน์ และผลประโยชน์โดยรวมของประเทศ จากการยกเว้นภาษีตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทย เพื่อประเมินความคุ้มค่าจากการดำเนินมาตรการดังกล่าว โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับการดำเนินการตามแนวทางการปรับปรุงระบบภาษีของประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
34031 | สถานการณ์อาชญากรรมประจำเดือนธันวาคม 2553 (รายงานสถานการณ์อาชญากรรม) | นร | 15/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรายงานสถานการณ์อาชญากรรมประจำเดือนธันวาคม ๒๕๕๓ สรุปได้ ดังนี้
๑. สถานการณ์อาชญากรรมในเดือนธันวาคม ๒๕๕๓ มีการแจ้งความรวมทั้งสิ้น ๑๐,๓๗๕ คดี เป็นคดีชีวิต ร่างกาย และเพศ ๒,๔๑๕ คดี คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์มีการแจ้งความ ๔,๖๗๓ คดี และคดียาเสพติดมีการจับกุมผู้กระทำผิดคดียาเสพติด ๓๒,๑๗๘ ราย ๒. สถานการณ์อาชญากรรมช่วงปี พ.ศ. ๒๕๕๓ (เดือนมกราคม - ธันวาคม ๒๕๕๓) มีการแจ้งความรวมทั้งสิ้น ๑๒๕,๙๖๓ คดี โดยคดีที่มีการรับแจ้งความสูงสุดคือ คดีลักทรัพย์ ๔๘,๗๗๕ คดี คดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ๑๙,๔๕๑ คดี คดีทำร้ายร่างกาย ๑๖,๐๖๐ คดี คดียักยอก ๑๐,๗๖๐ คดี และคดีฉ้อโกง ๖,๘๘๖ คดี โดยคดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์มีการรับแจ้งความสูงสุดในรอบ ๕ ปีที่ผ่านมา ส่วนคดียาเสพติดมีการจับกุมคดียาเสพติด ๒๖๕,๙๓๓ คดี ซึ่งเป็นการจับกุมที่สูงที่สุดในช่วง ๕ ปีที่ผ่านมา สำหรับคดีประเภทอื่น (การพนัน ปรามการค้าประเวณี อาวุธปืน มีและเผยแพร่วัตถุลามก) มีแนวโน้มการจับกุมค่อนข้างทรงตัวในช่วง ๕ ปีที่ผ่านมา
|
|||||||||||||||||||||||||||
34032 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญา อักษรย่อปริญญา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ พ.ศ. .... | ศธ | 15/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญา อักษรย่อปริญญา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างพระราชกฤษฎีกาฯ มีสาระสำคัญคือ
๑. ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญา อักษรย่อปริญญา ครุยวิทยฐานะ และเข็มวิทยฐานะ และเข็มวิทยฐานะของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๑๒ และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ๒. กำหนดปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชานิติศาสตร์เพิ่มขึ้น ๓. กำหนดสีประจำคณะนิติศาสตร์เพิ่มขึ้น
|
|||||||||||||||||||||||||||
34033 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การดำเนินการแก้ไขปัญหาผลกระทบด้านเสียงจากการดำเนินงาน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรณีการบินในช่วงฤดูหนาว | คค | 15/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง ความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ คณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) มีมติเมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๓ รับทราบมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๓ (การดำเนินการแก้ไขปัญหาผลกระทบด้านเสียงจากการดำเนินกิจการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตามเส้นเสียงฤดูหนาว) และเห็นชอบให้เสนอเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาในเดือนมกราคม ๒๕๕๔ ทั้งนี้ เส้นเสียงฤดูหนาวมีอาคารจำนวน ๖,๔๒๔ อาคาร ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๒ เห็นชอบงบประมาณการชดเชยผลกระทบด้านเสียงครอบคลุมกรณีการบินในช่วงฤดูหนาวไว้แล้ว เป็นเงิน ๔,๐๘๘.๔๕๒ ล้านบาท ๑.๒. ทอท. ได้จัดจ้างกลุ่มบริษัท T.E.N. ในการดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดเสียงอากาศยาน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อใช้ตรวจสอบระดับเสียงมาตรฐานที่มีผลกระทบกับผู้อยู่อาศัยโดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขณะนี้ได้ติดตั้งสถานีตรวจวัดเสียง คอมพิวเตอร์แม่ข่ายและลูกข่ายแล้วเสร็จ คงเหลือเฉพาะการติดตั้งทดสอบระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) เครื่องบันทึกระบบสื่อสารการบิน และการทดสอบรวมทั้งระบบ ซึ่งคาดว่าจะสามารถตรวจรับงานได้ในกลางปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรายงานผลการพิจารณาดำเนินการตามความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามมติคณะรัฐมนตรี (๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๓) เกี่ยวกับความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขปัญหาผลกระทบด้านเสียงจากการดำเนินกิจการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้คณะรัฐมนตรีได้รับทราบด้วยในการรายงานครั้งต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
34034 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลผาสิงห์ ตำบลไชยสถาน และตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน พ.ศ. .... | คค | 15/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลผาสิงห์ ตำบลไชยสถาน และตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลผาสิงห์ ตำบลไชยสถาน และตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน เพื่อสร้างทางหลวงชนบท สายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๑ กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๘๐ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
34035 | ร่างกฎกระทรวงการหักเงินงบประมาณรายได้ประจำปีสมทบเข้าเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... | มท | 15/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงมหาดไทยรับร่างกฎกระทรวงการหักเงินงบประมาณรายได้ประจำปีสมทบเข้าเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... ไปหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
|
|||||||||||||||||||||||||||
34036 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร พ.ศ. .... | สว | 15/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร พ.ศ. .... ที่เห็นสมควรแก้ไขเพิ่มเติมถ้อยคำในส่วนของเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ ๒. ให้นำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ แก้ไข เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
34037 | ขออนุมัติลงนามและดำเนินการให้สนธิสัญญาระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องคำพิพากษาและความร่วมมือในการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาในคดีอาญา (สนธิสัญญาโอนตัวนักโทษ) มีผลใช้บังคับ | กต | 15/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างสนธิสัญญาระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องคำพิพากษาและความร่วมมือในการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาในคดีอาญา (สนธิสัญญาโอนตัวนักโทษ) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแล้วแต่กรณี ลงนามสนธิสัญญาฯ ทั้งนี้ เมื่อร่างสนธิสัญญาฯ มีผลใช้บังคับจะส่งผลให้นักโทษซึ่งจำคุกอยู่ที่สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านอาจได้รับการโอนตัวให้กลับมารับโทษตามคำพิพากษาของศาลอิหร่านต่อที่ประเทศไทยหากเข้าข่ายหลักเกณฑ์ตามที่สนธิสัญญาฯ กำหนด และนักโทษอิหร่านซึ่งจำคุกอยู่ในประเทศไทยอาจได้รับการโอนตัวไปรับโทษตามคำพิพากษาของศาลไทยที่ประเทศอิหร่าน หากเข้าข่ายหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในสนธิสัญญาฯ และพระราชบัญญัติเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศในการดำเนินการตามคำพิพากษาคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๒๗ (แก้ไข พ.ศ.๒๕๓๐) ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการให้สนธิสัญญาฯ มีผลใช้บังคับในโอกาสอันเหมาะสมตามแต่จะตกลงกับฝ่ายอิหร่านต่อไป ๓. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างสนธิสัญญาฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญก่อนมีการลงนาม ให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
|
|||||||||||||||||||||||||||
34038 | ขออนุมัติงบกลางเพื่อสนับสนุนการจัดประชุมระดับสูงว่าด้วยการศึกษาเพื่อปวงชน ครั้งที่ 10 | ศธ | 15/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑๙,๒๗๓,๐๐๐ บาท ให้กระทรวงศึกษาธิการสมทบกับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้รับจัดสรรแล้ว ในผลผลิตนโยบายและแผนด้านการศึกษา งบรายจ่ายอื่น รายการค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมว่าด้วยการศึกษาเพื่อปวงชน จำนวน ๑๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๓๔,๒๗๓,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมระดับสูงว่าด้วยการศึกษาเพื่อปวงชน ครั้งที่ ๑๐ ระหว่างวันที่ ๒๒ - ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๔ ณ จังหวัดชลบุรี ทั้งนี้ ให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อขอทำความตกลงในรายละเอียดและขอรับการจัดสรรกับสำนักงบประมาณต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
34039 | ร่างพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 15/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติสัญชาติไทย พ.ศ. ๒๕๐๘ โดยกำหนดให้คนไทยพลัดถิ่นซึ่งเป็นคนเชื้อสายไทยที่ต้องกลายเป็นคนในบังคับของประเทศอื่นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตของราชอาณาจักรไทย โดยให้สัญชาติไทยโดยการเกิดแก่บุคคลดังกล่าวที่ยังไม่ได้ถือสัญชาติของประเทศอื่น และได้อพยพเข้ามาอยู่อาศัยในประเทศไทยเป็นระยะเวลาหนึ่งและมีวิถีชีวิตเป็นคนไทย ซึ่งได้รับการสำรวจตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะรัฐมนตรีกำหนด รวมทั้งกำหนดให้บุตรของคนไทยพลัดถิ่นที่ได้สัญชาติไทยโดยการเกิดโดยพระราชบัญญัตินี้ที่ไม่ได้ถือสัญชาติของประเทศอื่นหรือได้สัญชาติไทยแล้ว ก็ได้สัญชาติไทยโดยการเกิดด้วย ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ซึ่งได้ตรวจพิจารณาแล้ว และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา แล้วเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
34040 | การแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหากรรมการกำกับกิจการพลังงาน (จำนวน 9 ราย 1. นายเชิดพงษ์ สิริวิชช์ ฯลฯ) | พน | 15/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหากรรมการกำกับกิจการพลังงาน จำนวน ๙ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้
๑. นายเชิดพงษ์ สิริวิชช์ ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงพลังงาน ๒. นายสถิต ลิ่มพงศ์พันธุ์ ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง ๓. นายมนู เลียวไพโรจน์ ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ๔. นายอำพน กิตติอำพน ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ๕. นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ๖. นายทวี บุตรสุนทร ผู้แทนสภาวิศวกร ๗. นายประสาท สืบค้า ผู้แทนของอธิการบดีของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ๘. นายชั่งทอง โอภาสศิริวิทย์ ผู้แทนสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ๙. นายไกรชาติ ตันตระการอาภา ผู้แทนองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหากำไรในทางธุรกิจ
|
.....