ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1706 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 34101 - 34120 จากข้อมูลทั้งหมด 123998 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
34101 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร | นร | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) วันจันทร์ที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ ๒ (สมัยสามัญทั่วไป) วันศุกร์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๓ ปีที่ ๔ ครั้งที่ ๖ (สมัยสามัญทั่วไป) วันพฤหัสบดีที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ รวมทั้งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. ๒๕๓๐ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [ว่าด้วยการอนุวัติการให้เป็นไปตามอนุสัญญาเกียวโต (ฉบับแก้ไข)] และร่างพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [ว่าด้วยการอนุวัติการตามอนุสัญญาเกียวโต (ฉบับแก้ไข) และว่าด้วยการนำวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการศุลกากร] รวม ๒ ฉบับ ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วนต่อไป ตามที่สำนักงานเลขนุการ ปสส. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
34102 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [ว่าด้วยการอนุวัติการใหัเป็นไปตามอนุสัญญาเกียวโต (ฉบับแก้ไข)] และร่างพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [ว่าด้วยการอนุวัติการตามอนุสัญญาเกียวโต (ฉบับแก้ไข) และว่าด้วยการนำวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการศุลกากร] รวม 2 ฉบับ | นร | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. ๒๕๓๐ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [ว่าด้วยการอนุวัติการให้เป็นไปตามอนุสัญญาเกียวโต (ฉบับแก้ไข)] และร่างพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [ว่าด้วยการอนุวัติการตามอนุสัญญาเกียวโต (ฉบับแก้ไข) และว่าด้วยการนำวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการศุลกากร] รวม ๒ ฉบับ ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
34103 | รายงานการเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 (1 ตุลาคม 2547 - 30 กันยายน 2548) | กค | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานการเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ (๑ ตุลาคม ๒๕๔๗ - ๓๐ กันยายน ๒๕๔๘) ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบและรับรองแล้ว และให้นำเสนอรัฐสภาทราบต่อไป โดยสาระสำคัญของรายงานมี ดังนี้
๑. สินทรัพย์หมุนเวียน จำนวน ๑๒๐,๔๒๓.๗๑ ล้านบาท ๒. สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน จำนวน ๓,๗๖๑,๐๑๙.๖๑ ล้านบาท ๓. หนี้สิน จำนวน ๒,๐๐๔,๕๓๐.๓๕ ล้านบาท ๕. รายได้ จำนวน ๑,๓๕๖,๒๕๐.๕๓ ล้านบาท ๖. ค่าใช้จ่าย จำนวน ๑,๒๙๙,๘๐๙.๕๕ ล้านบาท ๗. ภาระค้ำประกันการกู้เงินของรัฐบาล ประกอบด้วย ภาระค้ำประกันการกู้เงินของรัฐบาลรวม ๘๑๖,๗๓๘.๓๘ ล้านบาท และภาระค้ำประกันมูลค่าการลงทุนของต้นเงินในหลักทรัพย์ของบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ในใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหุ้นสามัญมูลค่ารวม ๕,๑๓๖.๔๐ ล้านบาท และหุ้นกู้แปลงสภาพมูลค่ารวม ๒,๒๒๕.๙๖ ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
34104 | ผลการดำเนินงานการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปีงบประมาณ 2553 (1 ตุลาคม 2552 - 30 กันยายน 2553) | สธ | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ (๑ ตุลาคม ๒๕๕๒ - ๓๐ กันยายน ๒๕๕๓) ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ประชาชนไทยมีหลักประกันสุขภาพ ๖๓,๐๖ ล้านคน ความครอบคลุมคิดเป็นร้อยละ ๙๙.๓๖ ของประชาชนผู้มีสิทธิทั้งประเทศ (๖๓.๔๗ ล้านคน) เพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ร้อยละ ๑.๒๔ โดยมีประชาชนกลุ่มหนึ่งที่ยังไม่ลงทะเบียนสิทธิ ๔๐๗,๒๘๙ คน และกลุ่มรอพิสูจน์สถานะ ๑,๓๔๗,๐๓๑ คน สำหรับการใช้บริการทางการแพทย์เฉพาะผู้มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า อาทิ การใช้บริการผู้ป่วยนอกมีจำนวน ๔๔.๙๓ ล้านคน/๑๔๙.๕๘ ล้านครั้ง อัตราการใช้บริการ (ต่อประชากรผู้มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า) เท่ากับ ๓.๑๓ ครั้ง/คน/ปี ส่วนผู้ป่วยในมีจำนวน ๕.๕๙ ล้านครั้ง/๒๒.๗๐ ล้านวัน อัตราการใช้บริการ (อัตราการนอนโรงพยาบาล) ต่อประชากรผู้มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเท่ากับ ๐.๑๑๗ ครั้ง/คน/ปี เป็นต้น ๒. หน่วยบริการที่ได้รับการรับรองคุณภาพตามมาตรฐาน Hospital Accreditation (HA) มีจำนวน ๒๓๒ แห่ง (ร้อยละ ๒๓.๔๘) รับรองขั้นที่ ๒ จำนวน ๖๔๘ แห่ง (ร้อยละ ๖๕.๕๙) และผลการตรวจประเมินหน่วยบริการเพื่อขึ้นทะเบียน หน่วยบริการปฐมภูมิ หน่วยบริการประจำและหน่วยบริการรับส่งต่อ พบผ่านเกณฑ์ (แบบไม่มีเงื่อนไขและมีเงื่อนไข) ร้อยละ ๕๔.๙๙, ๙๔.๐๓ และ ๘๕.๗๑ ๓. การชดเชยความเสียหายกรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหาย จากการใช้บริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า มีผู้รับบริการได้รับการชดเชย ๗๐๔ ราย เป็นเงิน ๘๑.๙๒ ล้านบาท และผู้ให้บริการที่ได้รับความเสียหายจากการให้บริการสาธารณสุขฯ ได้รับการชดเชย ๖๘๖ ราย เป็นเงิน ๔.๘๗ ล้านบาท ๔. กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้เบิกจ่ายงบลงทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ภาพรวม ๘๐,๐๘๐.๖๙ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๘๙.๕๙ (ของงบกองทุนที่ได้รับ ๘๙,๓๘๔,๗๗ ล้านบาท) โดยงบผู้ป่วยนอก - ใน โรงพยาบาลชุมชนเงื่อนไขพิเศษเบิกจ่ายสูงสุด ๓,๔๑๓.๐๗ ล้านบาท (ร้อยละ ๑๐๐) รองลงมาเป็นงบแพทย์แผนไทย ๙๑.๘๓ ล้านบาท (ร้อยละ ๙๗.๑๙) และผู้ป่วยนอก ๒๒,๘๗๑.๔๑ ล้านบาท (ร้อยละ ๙๕.๖๔) ตามลำดับ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
34105 | ขออนุมัติก่อสร้างอาคารรังสีรักษาและเวชศาสตร์นิวเคลียร์ ด้วยเงินบำรุงของศูนย์มะเร็ง ลพบุรี | สธ | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติก่อสร้างอาคารรังสีรักษาและเวชศาสตร์นิวเคลียร์ ขนาด ๖ ชั้น ศูนย์มะเร็ง ลพบุรี จำนวน ๑ หลัง ในวงเงิน ๑๑๙,๒๓๙,๕๐๐ บาท โดยเบิกจ่ายจากเงินบำรุงของศูนย์มะเร็ง ลพบุรี ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
34106 | ขอถอนร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ และตำบลวังโตนด อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี พ.ศ. .... | กษ | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ และตำบลโตนด อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
34107 | รายงานผลการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16 ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน | กก | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานสรุปผลการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ ๑๖ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ของประเทศไทย โดยได้ ๑๑ เหรียญทอง ๙ เหรียญเงิน ๓๒ เหรียญทองแดง เป็นอันดับที่ ๙ จากประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น ๔๕ ประเทศ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
34108 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน พ.ศ. .... | นร | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน พ.ศ. .... และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบฯ มีสาระสำคัญคือ ๑.๑ กำหนดให้มีคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน เรียกโดยย่อว่า กกย. โดยมีเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นประธาน และมีเลขาธิการคณะรัฐมนตรีร่วมเป็นกรรมการด้วย ๑.๒ กำหนดให้ กกย. มีอำนาจหน้าที่ในการเสนอนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน รวมทั้งจัดทำร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืนเสนอต่อคณะรัฐมนตรี สนับสนุนการศึกษา วิจัยและพัฒนา กระบวนการพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของชุมชน ๑.๓ กำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยสำนักวางแผนการเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของ กกย. มีหน้าที่ในการศึกษาและวิเคราะห์นโยบายและยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน ๑.๔ กำหนดให้ค่าใช้จ่ายสำหรับเบี้ยประชุม ค่าตอบแทนและประโยชน์อื่นของ กกย. และสำนักงาน รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของ กกย. และสำนักงาน ให้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ๒. เห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๖ ในวงเงิน ๑๘๐ ล้านบาท เพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปจัดตั้งงบประมาณประจำปีสนับสนุนการดำเนินงาน สำหรับปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้ใช้งบปกติของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และให้ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
34109 | มาตรการเร่งรัดการดำเนินงานสำหรับหน่วยงานที่ได้รับอนุมัติเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 เพิ่มเติม | กค | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการเร่งรัดการดำเนินงานสำหรับหน่วยงานที่ได้รับอนุมัติเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ เพิ่มเติม โดยให้หน่วยงานตามกรณีที่ ๑ “หน่วยงานที่ได้รับจัดสรรเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ ที่เป็นโครงการปีเดียว และลงนามในสัญญาได้ภายในวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ ให้หน่วยงานเร่งรัดการดำเนินงานและการเบิกจ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ สำหรับโครงการที่มีสัญญาเกินวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ ให้เป็นไปตามเงื่อนไขของสัญญาและให้หน่วยงานเร่งรัดการดำเนินงานและการเบิกจ่ายเงินโดยเร็วตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญา” ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยและไม่สามารถดำเนินการและเบิกจ่ายเงินได้ทันภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ ให้หน่วยงานสามารถดำเนินการและเบิกจ่ายเงินได้ต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายของโครงการ ทั้งนี้ ให้หน่วยงานเร่งรัดการดำเนินงานและการเบิกจ่ายเงินโดยเร็ว ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) ประธานกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
34110 | ขออนุมัติเป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 12 การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม+3 ครั้งที่ 11 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง | ทส | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นทางการ ครั้งที่ ๑๒ การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม+๓ ครั้งที่ ๑๑ และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้องในช่วงเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงช่วงเวลาและสถานที่จัดประชุม ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมตามข้อ ๑ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัดทำรายละเอียดและเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามความเหมาะสมและจำเป็น ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
34111 | รายงานผลการดำเนินงานของประเทศไทยตามอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ | ยธ | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบรายงานผลการดำเนินงานของประเทศไทยตามอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ (International Convention on the Elimination of All Forms of Racial Discrimination - CERD) ฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ๑.๒ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการเสนอรายงานผลการดำเนินงานของประเทศไทยตามอนุสัญญาฯ ฉบับภาษาอังกฤษ (ฉบับสมบูรณ์) ต่อคณะกรรมการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติขององค์การสหประชาชาติ ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการต่างประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ ๒.๑ หน้า ๑ ย่อหน้าที่ ๑ ควรปรับถ้อยคำในประโยค “ทั้งนี้ การลงนามเข้าเป็นภาคีของประเทศไทย มีถ้อยแถลงตีความ...” เป็น “ทั้งนี้ ในการเข้าเป็นภาคีของไทย ไทยได้จัดทำถ้อยแถลงตีความ...” เนื่องจากไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฉบับนี้ด้วยการภาคยานุวัติ มิใช่การลงนาม ๒.๒ ในส่วนของเอกสารหลักของรายงานประเทศไทยตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน (Common Core Document) ยังมีข้อมูลบางส่วนที่ไม่สอดคล้องกับพัฒนาการในปัจจุบัน ควรใช้เอกสารหลักที่ได้ปรับปรุงเนื้อหาที่สอดคล้องกับพัฒนาการในปัจจุบัน ภายใต้การดำเนินการของคณะกรรมการจัดทำเอกสารหลักของรายงานประเทศไทย เพื่อใช้ประกอบการจัดทำรายงานประเทศตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
34112 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนสุขาภิบาล 1 และถนนพัฒนาการ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | มท | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนสุขาภิบาล ๑ และถนนพัฒนาการ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนสุขาภิบาล ๑ และถนนพัฒนาการ ในท้องที่แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนสุขาภิบาล ๑ และถนนพัฒนาการ พ.ศ. ๒๕๕๐ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
34113 | รายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประจำปี พ.ศ. 2552 | ยธ | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) โดยการรับรายงานการทำธุรกรรมและการตรวจสอบวิเคราะห์ธุรกรรมในปี พ.ศ. ๒๕๕๒ สำนักงาน ปปง. ได้รับรายงานการทำธุรกรรมจากสถาบันการเงินทั้งสิ้น ๑,๓๘๐,๕๖๔ ธุรกรรม และได้ดำเนินการกับคดีที่ได้รับการแจ้งเบาะแสและจากฐานข้อมูลของสำนักงาน ปปง. จำนวน ๓๖๖ คดี ซึ่งเป็นคดีที่อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๓ - สิ้นปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ได้มีคำสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สิน จำนวน ๖๙๙ คดี มูลค่าทรัพย์สินรวม ๔,๑๓๐,๗๑๗,๗๑๘.๙๑ บาท โดยสำนักงาน ปปง. ได้บริหารจัดการและเก็บรักษาไว้ มีมูลค่ารวม ๓,๑๘๘,๘๖๔,๔๖๕.๙๐ บาท นอกจากนี้ ได้นำทรัพย์สินที่ศาลสั่งตกเป็นของแผ่นดินส่งกระทรวงการคลัง จำนวน ๑๓ คดี มูลค่า ๒๔,๑๐๑,๙๑๑.๑๗ บาท และได้นำทรัพย์สินที่ยึดหรืออายัดในกรณีที่เจ้าของสามารถแสดงได้ว่าตนเป็นเจ้าของที่แท้จริงและทรัพย์สินนั้นไม่ใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ในปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ส่งคืนทรัพย์สิน จำนวน ๙ คดี มูลค่าทรัพย์สินที่นำส่งคืน จำนวน ๑๑,๙๗๓,๙๓๓.๕๘ บาท ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในฐานะบังคับบัญชา สำนักงาน ปปง. เสนอ และความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ระยะเวลาในการจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานควรให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาไม่เกิน ๙ เดือน เพื่อคณะรัฐมนตรีจะได้นำผลการปฏิบัติงานไปกำหนดนโยบายในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการฟอกเงินได้เหมาะสมและทันการณ์ การรายงานข้อมูลสถิติต่าง ๆ ควรนำเสนอข้อมูลเปรียบเทียบย้อนหลังอย่างน้อย ๑ ปี เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลในการพิจารณาติดตามและประเมินผลต่อไป การกำหนดลักษณะความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช ๒๔๖๙ ให้ชัดเจนว่าลักษณะความผิดฐานใดบ้างที่เป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการลักลอบหนีศุลกากร และการจัดฝึกอบรมพนักงานสอบสวนให้เข้าใจถึงลักษณะความผิดมูลฐานและความผิดฐานฟอกเงิน เป็นต้น และให้สำนักงาน ปปง. รับความเห็นดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. เห็นชอบให้นำรายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน ปปง. เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป ๓. ให้สำนักงาน ปปง. เร่งรัดจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน ปปง. ในแต่ละปีให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
34114 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง แผนปฏิบัติการและงบประมาณ ระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2554 - 2556) ภายใต้แผนแม่บทป้องกันและบรรเทาภัยจากคลื่นสึนามิ พ.ศ. 2552 - 2556 | มท | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง แผนปฏิบัติการและงบประมาณ ระยะ ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๖) ภายใต้แผนแม่บทป้องกันและบรรเทาภัยจากคลื่นสึนามิ พ.ศ. ๒๕๕๒ - ๒๕๕๖ ดังนี้
๑. กระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) ได้แจ้งมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ และจัดส่งแผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ ให้หน่วยงานต่าง ๆ เพื่อดำเนินการ ดังนี้ ๑.๑ ให้สำนักงบประมาณเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาการจัดสรรงบประมาณแก่หน่วยงานที่ร่วมบูรณาการตามแผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ ต่อไป ๑.๒ ให้หน่วยงานที่ร่วมบูรณาการทั้ง ๘๑ หน่วยงาน พิจารณาดำเนินการตามแนวทางการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ ไปสู่การปฏิบัติ โดยให้นำแผนงาน/โครงการตามแผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ ไปบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติราชการ ๔ ปี และแผนปฏิบัติราชการประจำปีของหน่วยงานเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณดำเนินการต่อไป รวมทั้งรายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ส่งให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ๒. กระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) ได้รับความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปดำเนินการครบถ้วนทุกประการแล้ว ดังนี้ ๒.๑ ขั้นตอนการจัดทำแผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ ได้บูรณาการร่วมกับกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศแล้ว ซึ่งได้แจ้งว่าไม่มีแผนงาน/โครงการที่รองรับกิจกรรมตามแผนแม่บทป้องกันและบรรเทาภัยจากคลื่นสึนามิ (ระยะ ๕ ปี) แต่ยินดีให้การสนับสนุนอย่างเต็มขีดความสามารถหากเกิดภัยพิบัติขึ้น ๒.๒ จัดทำคู่มือเตรียมความพร้อมรับภัยจากคลื่นสึนามิของชุมชน และคู่มือชาวบ้านการปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากคลื่นสึนามิ โดยแจกจ่ายให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เสี่ยงภัยคลื่นสึนามิ ได้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯ ๒.๓ กำหนดบรรจุโครงการสร้างระบบประเมินการเกิดคลื่นสึนามิและบูรณาการระบบการเตือนภัยคลื่นสึนามิของประเทศไทย วงเงิน ๖๗ ล้านบาท ไว้ในแผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ โดยจะขอตั้งงบประมาณดำเนินการในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
34115 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร และนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร) | คค | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอการมอบหมายผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามนัยมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ โดยให้เป็นไปตามลำดับ ดังนี้
๑. นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ๒. นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
34116 | ขออนุมัติปรับรูปแบบโครงการส่งเสริมการผลิตครูที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ (สควค.) ระยะที่ 3 | ศธ | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการการปรับรูปแบบการดำเนินงานและจำนวนทุนโครงการส่งเสริมการผลิตครูที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ (สควค.) ระยะที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๖๐) โดยปรับรูปแบบการดำเนินงานและจำนวนทุนการผลิตครู สควค. เป็น ๒ ประเภท ได้แก่ ทุนประเภทที่ ๑ Premium จำนวนปีละ ๔๐๐ ทุน และทุนประเภทที่ ๒ Super Premium จำนวนปีละ ๑๘๐ ทุน เพื่อผลิตครูสอนวิชาฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา คณิตศาสตร์ และคอมพิวเตอร์ ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนครูและเสริมสร้างความเข้มแข็งในการจัดการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยในส่วนของวงเงินค่าใช้จ่ายของโครงการจำนวนประมาณ ๔,๓๘๘,๕๙๔,๐๐๐ บาท ให้กระทรวงศึกษาธิการ โดยสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดทำรายละเอียดเพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สำนักงบประมาณกำหนด โดยสำนักงบประมาณจะพิจารณาจัดสรรให้ตามความจำเป็นต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นและข้อเสนอแนะของกระทรวงการคลัง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. เกี่ยวกับการจัดสรรอัตราข้าราชการครูที่ว่างจากการเกษียณอายุของข้าราชการครู กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อบรรจุผู้สำเร็จการศึกษาของโครงการ สควค. ทุกคน ควรให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๕๒ ที่ให้คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) จัดสรรอัตราข้าราชการครูที่ว่างจากการเกษียณอายุของข้าราชการครู กระทรวงศึกษาธิการ ในแต่ละปีสำหรับบรรจุครู สควค. โดยต้องไม่มีการเพิ่มอัตรากำลังใหม่ อย่างไรก็ตาม ทุนประเภทที่ ๒ Super Premium เพื่อผลิตครูที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อในการสอน ต้องใช้งบประมาณค่าใช้จ่ายสูง และอาจเป็นภาระงบประมาณค่าใช้จ่ายภาครัฐในอนาคต กระทรวงศึกษาธิการควรคำนึงถึงเหตุผลความจำเป็นในการผลิตครูประเภทนี้ และควรมีการบริหารจัดการโดยวิธีการอื่น เช่น การสรรหาบุคลากรด้านการสอนจากภายนอกเพื่อให้ได้ครูที่มีทักษะใช้สื่อภาษาอังกฤษในการสอนที่เพียงพอต่อไป นอกจากนี้ ให้กระทรวงศึกษาธิการจัดส่งรายละเอียด เหตุผลความจำเป็นให้ คปร. พิจารณาจัดสรรอัตราข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการที่ว่างจากผลการเกษียณอายุเป็นรายปี ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
34117 | ผลการเยือนสหราชอาณาจักรของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (ระหว่างวันที่ 27 - 30 พฤศจิกายน 2553) | กต | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรับผลการเยือนสหราชอาณาจักรของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ ๒๗ - ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ไปพิจารณาดำเนินการ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ตามกรอบอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานต่อไป ดังนี้
๑. ด้านการเมือง ๑.๑ การแบ่งปันประสบการณ์ของสหราชอาณาจักรด้านการพัฒนาการเมืองและระบอบประชาธิปไตย หน่วยงานรับผิดชอบ ได้แก่ สำนักนายกรัฐมนตรี/สำนักงานเลขาาธิการวุฒิสภา/สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร/สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี/กระทรวงศึกษาธิการ ๑.๒ ความร่วมมือระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติของไทยกับสหราชอาณาจักรเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ของสหราชอาณาจักรด้านการพัฒนาการเมือง หน่วยงานรับผิดชอบ ได้แก่ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา/สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร/สำนักนายกรัฐมนตรี/กระทรวงการต่างประเทศ ๒. ด้านเศรษฐกิจ ๒.๑ การส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักร หน่วยงานรับผิดชอบ ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์/กระทรวงเกษตรและสหกรณ์/กระทรวงอุตสาหกรรม/กระทรวงการต่างประเทศ ๒.๒ ปัญหาและอุปสรรคในด้านการลงทุนของไทยในสหราชอาณาจักร (อาทิ ระเบียบการตรวจลงตรา การควบคุมจำนวนแรงงานนอกสหภาพยุโรป) หน่วยงานรับผิดชอบ ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม/กระทรวงแรงงาน/กระทรวงการคลัง/สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน/กระทรวงการต่างประเทศ ๒.๓ มาตรการส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาลสหราชอาณาจักร อาทิ อัตราภาษีนิติบุคคล อัตราดอกเบี้ย ข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม สุขอนามัย หน่วยงานรับผิดชอบ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน/กระทรวงการคลัง/ธนาคารแห่งประเทศไทย/กระทรวงการต่างประเทศ ๒.๔ ข้อตกลงระหว่างบริษัทสหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) และบริษัท Corus UK ในการซื้อกิจการโรงถลุงเหล็กที่ Teesside ซึ่งรวมถึงการขอใบอนุญาตต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และการรับการสนับสนุนทุนฝึกอบรมให้แก่คนในท้องถิ่น หน่วยงานรับผิดชอบ ได้แก่ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน/กระทรวงการต่างประเทศ ๒.๕ การสนับสนุนจากท้องถิ่นและสหภาพแรงงานที่ Teesside ในการซื้อกิจการโรงถลุงเหล็กของ บริษัทสหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หน่วยงานรับผิดชอบ ได้แก่ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน/กระทรวงการต่างประเทศ ๓. อื่น ๆ ๓.๑ ความร่วมมือด้านการศึกษาเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้แก่เยาวชน หน่วยงานรับผิดชอบ ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ/กระทรวงการต่างประเทศ ๓.๒ ความร่วมมือด้านการศึกษาเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาด้านการวิจัยและพัฒนา หน่วยงานรับผิดชอบ ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ/กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี/กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม/กระทรวงการต่างประเทศ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
34118 | การแต่งตั้งกรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิ (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) (จำนวน 11 ราย 1. พลตำรวจเอก ชาญชิต เพียรเลิศ ฯลฯ) | ตช | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน ๖ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. นายวิษณุ เครืองาม ๒. รองศาสตราจารย์สุรชาติ บำรุงสุข ๓. นายศุภวุฒิ สายเชื้อ ๔. นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิพาณิชย์ ๕. รองศาสตราจารย์ ร้อยตำรวจเอก สรพลจ์ สุขทรรศนีย์ ๖. นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
34119 | รายงานประจำปี 2552 (คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) | นร | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอรายงานประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.) สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการปฏิบัติงานการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ประกอบด้วย ๑.๑ การกระจายอำนาจด้านภารกิจ อำนาจหน้าที่ ได้แก่ ๑.๑.๑ การบริหารแผนการกระจายอำนาจให้แก่ อปท. (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และแผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่ อปท. (ฉบับที่ ๒) ด้านการถ่ายโอนภารกิจ ๑.๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินความพร้อมในการจัดการศึกษาของ อปท. ในระดับอาชีวศึกษา ๑.๑.๓ ผลการดำเนินงานของคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อสนับสนุนด้านการศึกษาของ อปท. ให้แก่สถานศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ๑.๑.๔ การจัดการศึกษาเด็กที่มีลักษณะพิเศษในโรงงานสังกัด อปท. ๑.๒ การกระจายอำนาจด้านการเงิน การคลัง และงบประมาณ ได้แก่ ๑.๒.๑ การปรับปรุงรายได้ของ อปท. ๑.๒.๒ การกำหนดหลักเกณฑ์การจัดสรรรายได้ของ อปท. ๑.๒.๓ การจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่ อปท. ๑.๒.๔ เรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรงบประมาณ ๑.๓ การถ่ายโอนบุคลากรให้แก่ อปท. ๑.๔ การดำเนินการแก้ไขกฎหมาย ได้แก่ ๑.๔.๑ การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกระจายอำนาจให้แก่ อปท. ๑.๔.๒ การจัดทำหรือปรับปรุงกฎหมาย ๑.๕ การจัดตั้ง อปท. รูปแบบพิเศษ ๒. ผลการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่ อปท. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ประกอบด้วย ๒.๑ การติดตามประเมินผล ๒.๑.๑ การตรวจติดตามสถานศึกษาที่ถ่ายโอนให้แก่ อปท. ๒.๑.๒ การตรวจติดตามการถ่ายโอนสนามกีฬาให้แก่ อปท. ๒.๒ การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ๒.๓ การดำเนินงานตามมติ กกถ. ได้แก่ ๒.๓.๑ การฝึกอบรมหลักสูตรการเตรียมความพร้อมในการรับโอนภารกิจของ อปท. สำหรับผู้บริหาร อปท. ๒.๓.๒ การให้ความรู้การกระจายอำนาจแก่เครือข่ายภาคประชาชนประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ๒.๓.๓ การให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักสูตรการเรียนการสอนการเมืองการปกครองส่วนท้องถิ่นสำหรับครูผู้สอนวิชาสังคมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย ๒.๓.๔ การเสริมสร้างความรู้การกระจายอำนาจแก่วิทยุชุมชน ๒.๓.๕ การเสริมสร้างความรู้ด้านกฎหมายท้องถิ่นและเทคนิคการจัดทำข้อบัญญัติท้องถิ่น ๒.๓.๖ การสัมมนาประเด็นการกระจายอำนาจ เรื่อง ทิศทางขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) กับการจัดบริการสาธารณะที่มีมาตรฐานสู่การสร้างนวัตกรรมการให้บริการ ๒.๓.๗ การประชุมชี้แจงแนวทางปฏิบัติในการบริหารจัดการศูนย์อบรมเด็กก่อนระดับประถมศึกษาในศาสนสถาน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
34120 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการสนับสนุนการวิจัยแทนกรรมการเดิมที่เสียชีวิต (นายศิริพงศ์ หังสพฤกษ์) | นร | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายศิริพงศ์ หังสพฤกษ์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิทยาศาสตร์ สาขาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการสนับสนุนการวิจัย แทนนายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ที่เสียชีวิต ตามที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔) เป็นต้นไป
|
.....