ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1705 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 34081 - 34100 จากข้อมูลทั้งหมด 123998 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
34081 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์การทับศัพท์ภาษาอาหรับ | รถ | 08/02/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์การทับศัพท์ภาษาอาหรับ มีสาระสำคัญคือ ยกเลิกเฉพาะหลักเกณฑ์การทับศัพท์ภาษาอาหรับที่แนบท้ายประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์การทับศัพท์ภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี สเปน รัสเซีย ญี่ปุ่น อาหรับ และมลายู ลงวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๓๕ และให้ใช้ประกาศราชบัณฑิตยสถาน เรื่อง หลักเกณฑ์การทับศัพท์ภาษาอาหรับ ลงวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๓ แนบท้ายร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับนี้แทน ตามที่ราชบัณฑิตยสถานเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
34082 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การดำเนินการตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสที่พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลเข้าเฝ้าฯ (การจัดการน้ำและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ) | มท | 08/02/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามพระราชดำริในโอกาสที่พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลเข้าเฝ้าฯ (การจัดการน้ำและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ) เมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช สรุปได้ ดังนี้
๑. กระทรวงมหาดไทยได้ศึกษาค้นคว้า รวบรวมแนวคิด ทฤษฎี หลักการบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริ และประชุมสัมมนาร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญจากส่วนราชการ/หน่วยงานในการบริหารจัดการน้ำ และนำมาเรียบเรียงจัดทำหนังสือการบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นคู่มือให้จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศใช้ศึกษาและเป็นแนวทางปฏิบัติงาน รวมทั้งประกอบการจัดทำแผนงาน/โครงการการบริหารจัดการน้ำอย่างมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในพื้นที่ นอกจากนี้ ได้นำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง เช่น ระบบการเตือนภัยและติดตามสถานการณ์น้ำ โครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีเพื่อการจัดการน้ำ และการปรับปรุงจัดการน้ำในระดับเมือง และระดับชุมชน ๒. การดำเนินงานตามโครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มขนาดเล็กอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้ศึกษา ค้นคว้า วิจัยและพัฒนา และตั้งโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มขนาดเล็กที่ใช้เงินลงทุนต่ำเพื่อสกัดน้ำมันปาล์มดิบจำหน่าย และนำผลพลอยได้ไปใช้ประโยชน์พื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันของสมาชิกสหกรณ์นิคมอ่าวลึก จำกัด ได้รับประโยชน์จำนวน ๓,๙๘๐ ครัวเรือน ส่วนสหกรณ์นิคมอ่าวลึก จำกัด ได้จัดทำโครงการปรับปรุงโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทั้งนี้ โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มของสหกรณ์ใช้น้ำมันปาล์มดิบในการทอดผลปาล์มตามกระบวนการผลิตเฉลี่ย ๔๐๐ ลิตร/รอบการผลิต สหกรณ์จึงมีโครงการผลิตไบโอดีเซลเป็นพลังงานทดแทนโดยใช้น้ำมันปาล์มดิบที่ใช้แล้วมาเป็นวัตถุดิบ ๓. การดำเนินงานตามโครงการจัดพัฒนาที่ดินฯ ตามพระราชประสงค์หุบกะพง อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ศูนย์สาธิตสหกรณ์โครงการหุบกะพงได้ดำเนินการการปฏิรูปที่ดินโดยการพัฒนาที่ดินว่างเปล่า จัดสรรให้เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินในการเพาะปลูกเป็นของตนเองประกอบอาชีพตามวิธีการเกษตรแผนใหม่ แต่ไม่ให้กรรมสิทธิ์ในการถือครองที่ดิน และได้มีการรวมกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับการจัดสรรที่ดินจัดตั้งเป็นสหกรณ์การเกษตรโดยใช้หลักและวิธีการสหกรณ์แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้กับสมาชิกตั้งแต่เริ่มการผลิตจนถึงการจำหน่ายออกสู่ตลาด ส่วนสหกรณ์การเกษตรหุบกะพง จำกัด ได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการเลี้ยงไก่ไข่ระบบปิด โครงการปลูกป่านศรนารายณ์ โครงการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง โครงการสวนทับทิมไทย-อิสราเอล เป็นต้น สำหรับปัญหาเรื่องน้ำ การประกอบอาชีพ สังคมและสิ่งแวดล้อม กรมชลประทานได้ดำเนินการขุดลอกเพื่อขยายความจุของอ่างเก็บน้ำ การขอรับการสนับสนุนการทำฝนหลวงในพื้นที่ รวมทั้งการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหา เป็นต้น
|
||||||||||||||||||
34083 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การดำเนินการตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสที่พระราชทาน พระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลเข้าเฝ้าฯ (การจัดทำแผนแม่บทระบบสถิติประเทศไทย การดำเนินการศึกษาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และโครงการระบบโทรมาตรโครงการเครือข่ายสถานีฝนอัตโนมัติ) | ทก | 08/02/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรายงานผลความคืบหน้าในการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การดำเนินการตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสที่พระราชทาน พระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลเข้าเฝ้าฯ เมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช สรุปได้ดังนี้
๑. สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) ได้จัดทำแผนแม่บทระบบสถิติประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๘ และจัดประชุมระดมความคิดเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีแผนการดำเนินงานในการจัดตั้งกลไกในการบริหารจัดการระบบสถิติ การส่งเสริมความรู้ในการบริหารระบบสถิติของประเทศ และการจัดทำมาตรฐานสถิติ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๓ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแผนแม่บทฯ โดยใช้งบประมาณของ สสช. พร้อมทั้งให้รับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาด้วย ๒. กรมอุตุนิยมวิทยาได้ดำเนินการวิเคราะห์ภูมิอากาศในอนาคต นอกเหนือจากภารกิจที่ทำอยู่เป็นประจำ และได้ทำการศึกษาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโดยการประมวลผลภูมิอากาศในอนาคตจากสถานการณ์จำลอง ภูมิอากาศโลก (Climate secnario) แบบ A2 (มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการใช้พลังงานอย่างฟุ่มเฟือย) ด้วยแบบจำลองการพยากรณ์สภาพภูมิอากาศ PRECIS (Porviding Regional Climate for Impact Studies) คาดการณ์ภูมิอากาศในอดีตและอนาคตตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๔ - ๒๖๔๓ และนำมาเปรียบเทียบข้อมูลที่ได้จากการตรวจวัดจริงของสถานีตรวจอากาศอุตุนิยมวิทยาทั่วประเทศ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๔ - ๒๕๕๒ ๓. กรมอุตุนิยมวิทยาได้ดำเนินการโครงการระบบโทรมาตรโครงการเครือข่ายสถานีฝนอัตโนมัติ โดยทำการติดตั้งสถานีฝนอัตโนมัติทั้งประเทศ จำนวน ๘๒๐ สถานี แล้วส่งข้อมูลเข้าศูนย์ปฏิบัติการระบบโทรมาตร อันเป็นการพัฒนาระบบการเฝ้าระวังและการเตือนภัยด้านน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหล และน้ำล้นตลิ่งให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เกิดการบูรณาการข้อมูลด้านน้ำกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์ด้านการเตือนภัย มีข้อมูลเพื่อการบริหารทรัพยากรน้ำ การวางแผนและตัดสินใจของผู้บริหารประเทศ
|
||||||||||||||||||
34084 | กรอบการเจรจาเพื่อจัดทำความตกลงด้านการขนส่งทางบก ระหว่างไทย - ลาว - จีน | คค | 08/02/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกรอบการเจรจาเพื่อจัดทำความตกลงด้านการขนส่งทางบก ระหว่างไทย - ลาว - จีน โดยร่างกรอบการเจรจา ฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเริ่มดำเนินการตามความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Cross Border Transport Agreement : CBTA) ระหว่างไทย - ลาว - จีน ที่จุดผ่านแดน เชียงของ - ห้วยทราย (ไทย - ลาว) และจุดผ่านแดนบ่อเต็น - โมฮาน (ลาว - จีน) ในระหว่างที่แต่ละประเทศยังไม่สามารถให้สัตยาบันภาคผนวกและพิธีสารแนบท้ายความตกลง CBTA ที่ได้ลงนามไปแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารระหว่างกัน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||
34085 | รายงานผลการเจรจาการบินระหว่างไทย - คูเวต | คค | 08/02/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการของบันทึกความเข้าใจลับ (Confidential Memorandum of Understanding) ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งคูเวต ที่ได้ลงนามร่วมกันเมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ ก่อนมอบให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแลกเปลี่ยนหนังสือทางการทูตยืนยันการมีผลใช้บังคับของบันทึกความเข้าใจฯ ต่อไป สำหรับสาระสำคัญของบันทึกความเข้าใจฯ เป็นการแก้ไขความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลคูเวตในเรื่องการให้บริการการบิน ซึ่งได้ลงนามเมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๑๙ โดยปรับปรุงแก้ไขความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศตามข้อ ๒ ในข้อบทว่าด้วยคำจำกัดความ การแต่งตั้งสายการบินที่กำหนด การยอมรับใบอนุญาตและใบสำคัญ การรักษาความปลอดภัยการบินและเส้นทางบิน และเพิ่มเติมข้อบททวิว่าด้วยความปลอดภัย รวมทั้งได้มีการตกลงปรับปรุงแก้ไขในเรื่องสิทธิความจุความถี่ สิทธิรับขนการจราจร และเพิ่มเติมเรื่องการทำการบินโดยใช้ชื่อเที่ยวบินร่วมกันกับสายการบินที่กำหนดของภาคีผู้ทำความตกลงฝ่ายเดียวกัน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการตามความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นว่า บันทึกความเข้าใจฉบับนี้น่าจะเป็นหนังสือสัญญาที่มีผลผูกพันด้านการค้า การลงทุน อย่างมีนัยสำคัญที่ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภาก่อนดำเนินการให้มีผลผูกพัน โดยการยืนยันโดยหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูตระหว่างกัน (Exchange of Diplomatic Notes) ตามข้อ ๑๔ ของความตกลงฯ โดยนำร่างหนังสือแลกเปลี่ยนเสนอรัฐสภาไปพร้อมบันทึกความเข้าใจฯ รวมทั้งต้องปฏิบัติตามกระบวนการที่กำหนดในมาตรา ๑๙๐ วรรคสาม และวรรคสี่ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เกี่ยวกับการให้ข้อมูลและจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และชี้แจงต่อรัฐสภาเกี่ยวกับบันทึกความเข้าใจฯ โดยคณะรัฐมนตรีต้องเสนอกรอบการเจรจาต่อรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบด้วย และก่อนที่จะแสดงเจตนาให้มีผลผูกพัน คณะรัฐมนตรีต้องให้ประชาชนสามารถเข้าถึงรายละเอียดของบันทึกความเข้าใจฯ ในกรณีที่การปฏิบัติตามบันทึกความเข้าใจฯ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนหรือผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดย่อม คณะรัฐมนตรีต้องดำเนินการแก้ไขหรือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบนั้นอย่างรวดเร็ว เหมาะสมและเป็นธรรม
|
||||||||||||||||||
34086 | รายงานผลการเจรจาการบินระหว่างไทย - พม่า | คค | 08/02/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการบันทึกการหารือ (Agreed Minutes) ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสหภาพพม่า และเห็นชอบร่างความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสหภาพพม่า ที่ได้ลงนามร่วมกันเมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๑ และให้เสนอรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนมอบให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการเพื่อให้มีการลงนามความตกลงฯ และแลกเปลี่ยนหนังสือทางการทูตยืนยันการมีผลใช้บังคับต่อไป สำหรับสาระสำคัญของบันทึกการหารือฯ และร่างความตกลง ฯ ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงร่วมกันในการจัดทำร่างความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศฉบับใหม่ และได้ตกลงที่จะส่งเสริมให้สายการบินที่กำหนดของตนหารือกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการจัดข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกันเพื่อขยายโอกาสที่เป็นธรรมและเท่าเทียมกันในตลาดและเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ ยังได้ตกลงให้สายการบินที่กำหนดของทั้งสองฝ่ายสามารถใช้อากาศยานเช่าทั้งแบบเช่าเฉพาะอากาศยาน (dy - leased) หรือแบบเช่าอากาศยานพร้อมลูกเรือ (wet - leased) ในการดำเนินบริการเดินอากาศระหว่างกันหรือพ้นไปยังประเทศที่สาม โดยการให้ใช้อากาศยานเช่าดังกล่าวจะต้องเสนอเจ้าหน้าที่การเดินอากาศของทั้งสองฝ่ายเพื่อให้ความเห็นชอบ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||
34087 | ปรับปรุงองค์ประกอบและการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับองค์การยูเนสโกและซีมีโอ (จำนวน 10 คณะ) | ศธ | 08/02/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับองค์การยูเนสโกและซีมีโอ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
๑. ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับองค์การยูเนสโกและซีมีโอ จำนวน ๘ คณะ ได้แก่ ๑.๑ คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ๑.๒ คณะกรรมการฝ่ายการศึกษาของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ๑.๓ คณะกรรมการฝ่ายวิทยาศาสตร์ของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ๑.๔ คณะกรรมการฝ่ายวัฒนธรรมของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ๑.๕ คณะกรรมการฝ่ายสื่อสารมวลชนของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ๑.๖ คณะกรรมการฝ่ายสังคมศาสตร์ของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ๑.๗ คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยแผนงานความทรงจำแห่งชาติของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ๑.๘ คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยองค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ซีมีโอ) ๒. แต่งตั้งคณะกรรมการเพิ่ม ๒ คณะ ได้แก่ ๒.๑ คณะกรรมการโครงการมนุษย์และชีวมณฑลของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ๒.๒ คณะกรรมการประสานงานโครงการศึกษาเพื่อความเข้าใจอันดีระหว่างชาติของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก)
|
||||||||||||||||||
34088 | การตรวจสอบงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2550 และ 2549 ของสำนักงานศาลยุติธรรม | ศย | 08/02/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอรายงานผลการตรวจสอบบัญชีและงบการเงินของสำนักงานศาลยุติธรรม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๐ และ ๒๕๔๙ ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองแล้ว และเห็นว่า งบการเงินดังกล่าวแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๐ และ ๒๕๔๙ และผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละปีของสำนักงานศาลยุติธรรม ถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่กระทรวงการคลังกำหนด
|
||||||||||||||||||
34089 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนด | กค | 08/02/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานผลการกู้เงินพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนด ซึ่งมีพันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง พ.ศ. ๒๕๔๕ (FIDF 3) ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๓ จำนวน ๕๔,๗๓๑.๐๒ ล้านบาท ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาลกรณีพิเศษในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๗ ครั้งที่ ๔ จำนวน ๓๐,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท และพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ระยะที่สอง) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๐ ครั้งที่ ๑ จำนวน ๒๔,๗๓๑.๐๒ ล้านบาท แต่เนื่องจากในวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๓ เป็นวันหยุดพิเศษ จึงเลื่อนการไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดในวันดังกล่าวเป็นวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๓ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวโดยการชำระคืนต้นเงินพันธบัตรรัฐบาลฯ ที่ครบกำหนดแล้ว
|
||||||||||||||||||
34090 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การดำเนินการตามแผนพัฒนาหอสมุดแห่งชาติให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ทันสมัย (ครั้งที่ 7) | วธ | 08/02/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวัฒนธรรมรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การดำเนินการตามแผนพัฒนาหอสมุดแห่งชาติให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ทันสมัย (ครั้งที่ ๗) ดังนี้
๑. ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๐ ๑.๑. ดำเนินการขนย้ายหนังสือและสิ่งของเสร็จเรียบร้อยแล้ว ๑.๒ จัดทำแผนพัฒนางานสารสนเทศ สำนักหอสรมุดแห่งชาติ และได้รับอนุมัติจากกรมศิลปากร เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๒ เพื่อของบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ๑.๓ ออกแบบรูปรายการในการปรับปรุงอาคารหอสมุดแห่งชาติหลังเดิมเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อของบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ๒. ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๑ ดำเนินการประมูลการจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยบริษัท เอนแอลดิเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ให้ราคาต่ำสุด และได้ทำสัญญาจ้างเมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๒ ในวงเงิน ๔๓๘,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยเป็นงบประมาณที่ใช้จ่ายเฉพาะภารกิจสร้างอาคาร ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๑ จำนวน ๑๑๒,๕๔๐,๐๐๐ บาท ๓. ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ - ๒๕๕๔ (ดำเนินการก่อสร้างอาคาร) โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ความก้าวหน้าของงานตามแผน ร้อยละ ๗.๙๙ ทำได้จริง ร้อยละ ๔.๕๐ งบประมาณที่ใช้จ่าย จำนวน ๕๖,๔๖๐,๐๐๐ บาท สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ (๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๓ - ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓) ความก้าวหน้าของงานตามแผน ร้อยละ ๖๐ ทำได้จริง ๔๓.๐๙ งบประมาณที่ใช้จ่าย จำนวน ๒๖๙,๐๐๐,๐๐๐ บาท
|
||||||||||||||||||
34091 | มาตรการแก้ปัญหาการขาดแคลนผลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มดิบ | กษ | 08/02/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติเสนอมติคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ในคราวประชุมเมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้นำเข้าน้ำมันปาล์มดิบแยกไข (Crude Palm Olein) ปริมาณ ๑๒๐,๐๐๐ ตัน โดยนำเข้าให้แล้วเสร็จสิ้นภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔ ๒. ให้องค์การคลังสินค้าเป็นผู้นำเข้าและจัดสรรให้สมาชิกสมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์บริหารจัดการการนำเข้าน้ำมันปาล์ม ติดตามและรายงานผลการนำเข้าให้คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติทราบทุก ๑๕ วัน
|
||||||||||||||||||
34092 | การโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 และ 2553 ที่กันไว้เบิกเหลื่อมปี เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัย (เพิ่มเติม) | นร | 08/02/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบการส่งคืนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพิ่มศักยภาพผู้ว่างงานเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมในชุมชน จำนวน ๑๙๐.๓ ล้านบาท ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องจากดำเนินงานบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว เพื่อให้สำนักงบประมาณเปลี่ยนแปลงงบกลางรายการดังกล่าว เป็นงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑๙๐.๓ ล้านบาท โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีขออนุมัติจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๘๕.๑ ล้านบาท ๑.๒ เห็นชอบมาตรการเกี่ยวกับการโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ และ ๒๕๕๓ ที่กันไว้เบิกเหลื่อมปี ๑.๓ เห็นชอบหลักการการโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ และ ๒๕๕๓ ที่กันไว้เบิกเหลื่อมปี ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น รวมทั้งสิ้น ๑,๗๓๖.๘ ล้านบาท ประกอบด้วยการเปลี่ยนแปลงเพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูภายหลังอุทกภัย จำนวน ๑,๑๐๕.๙ ล้านบาท และดำเนินภารกิจของหน่วยงานซึ่งมิใช่การช่วยเหลือและฟื้นฟูภายหลังอุทกภัย จำนวน ๖๓๐.๙ ล้านบาท ๑.๔ การโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ และ ๒๕๕๓ กรณีที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติในหลักการตามข้อ ๑.๓ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นที่ยังไม่ส่งรายละเอียดค่าใช้จ่ายให้สำนักงบประมาณพิจารณา ให้ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง ๒. สำหรับรายละเอียดการโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ที่กันไว้เบิกเหลื่อมปี เพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูภายหลังอุทกภัย และรายละเอียดการโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ที่กันไว้เบิกเหลื่อมปี เพื่อดำเนินภารกิจของหน่วยงานซึ่งมิใช่การช่วยเหลือและฟื้นฟูภายหลังอุทกภัยของกระทรวงศึกษาธิการ (สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา) ให้กระทรวงศึกษาธิการทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่งก่อนดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||
34093 | รายงานผลการตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยจากการปะทะตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ | นร | 08/02/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานผลการตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยจากการปะทะตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายองอาจ คล้ามไพบูลย์) และคณะ เมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ โดยความเสียหายเบื้องต้น (ชีวิตและทรัพย์สิน) มีผู้เสียชีวิต ๒ ราย เป็นพลเรือน ๑ ราย และทหาร ๑ ราย บาดเจ็บ ๑๖ ราย เป็นพลเรือน ๒ ราย และทหาร ๑๔ ราย บ้านเรือนเสียหายรวม ๑๗ หลัง แยกเป็นเสียหายทั้งหลังจำนวน ๗ หลัง และเสียหายบางส่วนจำนวน ๑๐ หลัง อาคารเรียนโรงเรียนบ้านภูมิซรอลเสียหายบางส่วน จำนวน ๒ หลัง ในส่วนของผู้อพยพ มีผู้อพยพจำนวน ๑๔,๗๓๕ ราย โดยที่อำเภอกันทรลักษ์ มีผู้อพยพจำนวน ๙,๘๗๗ ราย สำหรับการให้ความช่วยเหลือ ทางจังหวัดได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัย จังหวัดศรีสะเกษ ณ ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ และได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะตามแนวชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อรับบริจาคเงิน สิ่งของจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน องค์กรการกุศลและมูลนิธิต่าง ๆ ณ ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ และที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ตามระเบียบกระทรวงการคลัง โดยมอบเงินช่วยเหลือในวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ รวมเป็นเงิน ๒๖๐,๐๐๐ บาท ประกอบด้วยเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ๑ คน จำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท เงินชดเชยค่าบ้านที่เสียหายทั้งหลังจำนวน ๗ หลัง ๆ ละ ๓๐,๐๐๐ บาท รวมเป็นเงิน ๒๑๐,๐๐๐ บาท และเงินชดเชยค่าบ้านที่เสียหายบางส่วน เท่าที่จ่ายจริงไม่เกินหลังละ ๒๐,๐๐๐ บาท จำนวน ๑๐ หลัง เป็นต้น
|
||||||||||||||||||
34094 | บันทึกความเข้าใจระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษและหน่วยงานต่างประเทศ | ยธ | 08/02/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบบันทึกความเข้าใจระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษและหน่วยงานต่างประเทศ ๒ หน่วยงาน คือ Serious Organized Crime Agency (SOCA) ของสหราชอาณาจักร และหน่วยงาน Australian Federal Police (AFP) ของออสเตรเลีย โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเป็นการส่งเสริมความร่วมมือระห่วางกรมสอบสวนคดีพิเศษและหน่วยงานต่างประเทศในด้านการบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติและการก่อการร้าย ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||
34095 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายสามารถ โชคคณาพิทักษ์) | นร | 08/02/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้งนายสามารถ โชคคณาพิทักษ์ ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (รองนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ)
|
||||||||||||||||||
34096 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 | กค | 08/02/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ สรุปได้ดังนี้
๑. อนุมัติแล้ว จำนวน ๔๒,๖๘๔ โครงการ วงเงิน ๓๔๙,๙๖๐.๔๔ ล้านบาท ๒. การจัดสรร ๒.๑ รอจัดสรร จำนวน ๘๑๕ โครงการ วงเงิน ๑๒,๒๐๒.๔๐ ล้านบาท ๒.๒ จัดสรรแล้ว จำนวน ๔๑,๘๖๙ โครงการ วงเงิน ๓๓๗,๗๕๘.๐๔ ล้านบาท ๓. การจัดซื้อจัดจ้าง ๓.๑ ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ จำนวน ๒,๗๐๙ โครงการ วงเงิน ๑๕,๕๓๐.๑๓ ล้านบาท ๓.๑.๑ ยังไม่เกิน ๑๕ วันทำการ จำนวน ๕๘๑ โครงการ วงเงิน ๕,๑๑๖.๔๕ ล้านบาท ๓.๑.๒ เกิน ๑๕ วันทำการ จำนวน ๒,๑๒๘ โครงการ วงเงิน ๑๐,๔๑๓.๖๘ ล้านบาท ๓.๒ ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน ๓๙,๑๖๐ โครงการ วงเงิน ๓๒๒,๒๒๗.๙๑ ล้านบาท ๓.๓ มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน ๓๙,๑๖๐ โครงการ วงเงิน ๓๑๒,๒๒๓.๒๗ ล้านบาท ๔. การดำเนินการ ๔.๑ ยังไม่ได้เบิกจ่าย จำนวน ๑,๗๕๘ โครงการ วงเงิน ๕๐,๒๘๗.๒๑ ล้านบาท ๔.๒ เบิกจ่ายแล้วบางส่วน (ยังไม่เสร็จ) ๑๒,๕๑๖ โครงการ วงเงิน ๑๒๕,๗๗๒.๙๑ ล้านบาท ๔.๓ เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน ๒๔,๘๘๖ โครงการ วงเงิน ๑๓๖,๑๖๓.๑๕ ล้านบาท ๔.๔ เบิกจ่ายทั้งหมด (๔.๒+๔.๓) จำนวน ๓๗,๔๐๒ โครงการ วงเงิน ๒๖๑,๙๓๖.๐๖ ล้านบาท
|
||||||||||||||||||
34097 | การปรับองค์ประกอบของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา (ฝ่ายไทย) | กต | 08/02/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับองค์ประกอบของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา (ฝ่ายไทย) โดยแต่งตั้งนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นที่ปรึกษา ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||
34098 | ขอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ (นางสุวรรณา สุวรรณจูฑะ) | ยธ | 08/02/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการขอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของนางสุวรรณา สุวรรณจูฑะ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||
34099 | แต่งตั้งคณะทำงานติดตามการขับเคลื่อนโครงการประชาวิวัฒน์ (นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.กค.ประธาน ฯลฯ) | กค | 08/02/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะทำงานติดตามการขับเคลื่อนโครงการประชาวิวัฒน์ โดยมีนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน และคณะทำงาน ๒๒ ท่าน โดยมีนายวรจักร บัณฑุวงศ์ และผู้แทนสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เป็นคณะทำงานและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่พิจารณาติดตามประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรายงานความคืบหน้าต่อประชาชน รวมทั้งเชิญหน่วยงานจากส่วนราชการ และภาคเอกชนมาร่วมหารือให้ข้อมูลหรือร่วมปฏิบัติการตามความเหมาะสม ตลอดจนพิจารณาและปฏิบัติงานอื่น ๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องตามที่ได้รับมอบหมาย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||
34100 | ขอแก้ไขเพิ่มเติมมติคณะรัฐมนตรีเรื่องแนวทางการดำเนินการในโครงการปรับโครงสร้างหนี้ตามมติคณะรัฐมนตรี ของ ธ.ก.ส. | กค | 08/02/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ยกเลิกข้อความของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (เรื่อง ขอความเห็นชอบแนวทางดำเนินการในโครงการปรับโครงสร้างหนี้ตามมติคณะรัฐมนตรีของ ธ.ก.ส.) ตามข้อ ๓.๑.๑ ของหนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค ๑๐๐๖/๑๙๐๔ ลงวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๔ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ “๓.๑.๑ สำนักงาน กฟก. ควรหารือกับสถาบันการเงินเจ้าหนี้ในการแก้ไขหนี้ของลูกหนี้ เพื่อให้มีการกลั่นกรองความเหมาะสมของเกษตรกรที่สมควรได้รับการแก้ไขตามพระราชบัญญัติ กฟก. พ.ศ. ๒๕๔๒” ๒. เห็นชอบในหลักการให้เกษตรกร จำนวน ๓ กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่ ๑ เกษตรกรที่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) และเป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จำนวนประมาณ ๘๐,๐๐๐ ราย กลุ่มที่ ๒ เกษตรกรที่อาจจะเป็นหรือไม่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรแต่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนหนี้ จำนวนประมาณ ๓๕๐,๐๐๐ ราย และกลุ่มที่ ๓ เกษตรกรลูกหนี้สถาบันการเงินอื่น สหกรณ์ฯ และนิติบุคคลที่คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรกำหนด จำนวนประมาณ ๘๐,๐๐๐ ราย ที่เสียชีวิต พิการ หรือทุพพลภาพจนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๒ ให้จำหน่ายหนี้เงินกู้ออกจากบัญชีเป็นหนี้สูญ ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ย ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาในรายละเอียดต่าง ๆ ร่วมกับสำนักงบประมาณและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเกี่ยวกับวงเงินค่าใช้จ่ายและการแยกบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ (Public Service Account : PSA) ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
|
.....