ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1501 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 30001 - 30020 จากข้อมูลทั้งหมด 123963 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
30001 | ขออนุมัติลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างสำนักงาน ป.ป.ส. แห่งราชอาณาจักรไทยและสำนักงานคณะกรรมการกลางเพื่อการควบคุมยาเสพติดแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ว่าด้วยความร่วมมือในโครงการพัฒนาทางเลือกเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ยั่งยืน | ยธ | 17/07/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสำนักงาน ป.ป.ส. แห่งราชอาณาจักรไทย และสำนักงานคณะกรรมการกลางเพื่อการควบคุมยาเสพติดแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ว่าด้วยความร่วมมือในโครงการพัฒนาทางเลือกเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ยั่งยืน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑.๑ กลไกความร่วมมือ สำนักงาน ป.ป.ส. และสำนักงานคณะกรรมการกลางเพื่อการควบคุมยาเสพติดเมียนมาร์ (CCDAC : Central Committee for Drug Abuse Control) เป็นหน่วยงานบริหารโครงการในนามของรัฐบาลไทยและเมียนมาร์ และมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ และกรมความก้าวหน้าพื้นที่ชายแดนและชาติพันธุ์ (NATALA : Department of Progress of Border Areas and National Races) เป็นหน่วยงานดำเนินโครงการในนามรัฐบาลไทยและเมียนมาร์ ๑.๒ ขอบข่ายความร่วมมือ ระยะเวลาดำเนินโครงการ ๖ ปี แบ่งเป็น ๒ ระยะ ๆ ละ ๓ ปี ดำเนินโครงการใน ๓ พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ในจังหวัดท่าขี้เหล็ก พื้นที่ในเมืองสาด และพื้นที่ของกลุ่มว้าในเมืองสาด โดยจะมีการดำเนินกิจกรรมพัฒนาด้านสาธารณสุข การพัฒนาความเป็นอยู่ ได้แก่ การพัฒนาด้านชลประทาน เกษตรกรรม ปศุสัตว์และป่าเศรษฐกิจ ตลอดจนการพัฒนาด้านศึกษาและสิ่งแวดล้อม และต่อไปจะมีการจัดทำเอกสารโครงการ ซึ่งเป็นการลงนามระหว่างมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ กับ NATALA ๑.๓ การบริหารจัดการโครงการ การจัดตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการร่วม (Joint Project Steering Committee) ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนฝ่ายไทย จำนวน ๕ คน ฝ่ายเมียนมาร์ จำนวน ๕ คน รวมเป็น ๑๐ คน โดยทั้งสองฝ่ายจะหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับการกำหนดองค์ประกอบต่อไป และให้มีการประชุมอย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง โดยผลัดกันเป็นเจ้าภาพ ๑.๔ การกำหนดบทบาท โดยระบุรายละเอียดในการให้ความร่วมมือและความช่วยเหลือในการดำเนินโครงการของหน่วยงานบริหารโครงการและหน่วยงานดำเนินโครงการของทั้งสองฝ่าย สำหรับฝ่ายไทยสำนักงาน ป.ป.ส. จะเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณดำเนินโครงการโดยผ่านการดำเนินงานของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ สำหรับฝ่ายเมียนมาร์จะเป็นผู้ให้ความร่วมมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับรองความปลอดภัยให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยที่เข้าไปดำเนินโครงการในเมียนมาร์และการอำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าออกเมียนมาร์ ๒. อนุมัติให้พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว เลขาธิการ ป.ป.ส. หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ๓. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญก่อนมีการลงนาม ให้สำนักงาน ป.ป.ส. สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง |
|||||||||||||||||||||||||||
30002 | การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา | นร | 17/07/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งให้ นางฐะปาณีย์ อาจารวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร เป็นผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30003 | การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31พฤษภาคม 2548 และที่เกี่ยวข้อง | นร | 17/07/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑๙,๑๑๔,๐๐๐ บาท เพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๔๘ (เรื่อง การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้) จำนวน ๔๐๑ ราย โดยให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีทำความตกลงในรายละเอียดงบประมาณกับสำนักงบประมาณต่อไป ส่วนค่าใช้จ่ายที่ไม่สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๔๘ ในลักษณะคลุมเครือไม่ชัดเจน นั้น ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรับไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติก่อนและนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้สำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางรับข้อสังเกตเพิ่มเติมของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการขออนุมัติใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ ยังขาดความชัดเจนในรายละเอียด เห็นควรที่จะได้ตรวจสอบเพื่อความชัดเจน ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๓. เห็นชอบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอว่า หากมีกรณีการขอรับการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๔๘ และที่เกี่ยวข้อง ในภายหลัง ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้รับไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
30004 | ขออนุมัติให้สำนักงบประมาณตั้งงบประมาณชดเชยผลการขาดทุนการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง | กษ | 17/07/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้สำนักงบประมาณตั้งงบประมาณชดเชยผลการขาดทุนการดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางประสบภาวการณ์ขาดทุน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒. ให้คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติรับไปพิจารณากำหนดกลไกและมาตรการในการดำเนินงาน รวมทั้งกำกับติดตามการดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางให้มีประสิทธิภาพและเป็นภาระงบประมาณที่ต้องชดเชยผลการขาดทุนให้น้อยที่สุด โดยให้พิจารณาถึงช่วงเวลาการเก็บและระบายสต๊อกยางให้เหมาะสม มิให้เกิดปัญหายางเสื่อมสภาพด้วย ๓. ให้คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ องค์การสวนยาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการกำหนดรูปแบบ วิธีการ ราคาขั้นต่ำ และกลไกการบริหารจัดการการแทรกแซงราคายางเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง รวมทั้งการระบายสต๊อกยางในช่วงเวลาและปริมาณอย่างเหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๕ (เรื่อง การกู้เงินเพื่อใช้ในโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี ๒๕๕๔/๕๕ โครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง และโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี ๒๕๕๕ ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) เกี่ยวกับการเร่งระบายผลิตผล และการปิดบัญชีโครงการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
30005 | มอบหมายรองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีระหว่างวันที่ 17 - 22 กรกฎาคม 2555 | นร | 17/07/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอว่า เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีภารกิจต้องเดินทางไปเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีและสาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ ๑๗ - ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ดังนั้น รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) จึงเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๒/๒๕๕๕ เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนกัน
|
|||||||||||||||||||||||||||
30006 | ให้กระทรวงการคลังเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งทุน | นร | 17/07/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูล ความรู้ความเข้าใจและสามารถเข้าถึงแหล่งทุนต่าง ๆ ได้ตรงกับความต้องการการสนับสนุนด้านการเงิน ให้กระทรวงการคลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนต่าง ๆ ของภาครัฐทั้งหมดให้ครบถ้วน ชัดเจน แล้วให้ประสานงานกับกระทรวงมหาดไทยเพื่อร่วมกันจัดการรณรงค์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร (caravan) ให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศได้ทราบข้อมูลและเข้าถึงแหล่งทุนต่าง ๆ ดังกล่าวอย่างถูกต้องทั่วถึงกันต่อไป ทั้งนี้ ให้เร่งรัดดำเนินการดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๕
|
|||||||||||||||||||||||||||
30007 | การดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ | นร | 17/07/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เพื่อให้การดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพประสิทธิผล สอดคล้องกับความต้องการและวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ จึงมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา) ประธานกรรมการขับเคลื่อนนโยบายยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เร่งรัดดำเนินการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ร่วมกับหน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อกำหนดแนวทาง มาตรการและบูรณาการแผนงาน/โครงการร่วมกันให้ชัดเจนสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ส่วนงบประมาณรองรับการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการดังกล่าว จะมีการพิจารณาปรับให้เหมาะสมสอดคล้องกันอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้น ในชั้นนี้จึงให้ทุกส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องยึดถือตามแผนงาน/โครงการ และงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรไว้ โดยมิให้ปรับเปลี่ยนแผนงาน/โครงการ และงบประมาณที่เกี่ยวข้องที่ได้รับการจัดสรรไว้สำหรับการดำเนินการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ดังกล่าว จนกว่าจะได้มีการพิจารณาเกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณในแผนงาน/โครงการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามผลการประชุมเชิงปฏิบัติการดังกล่าวและนโยบายของรัฐบาลต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
30008 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรี (เรื่อง การให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการจัดทำข้อมูลรายละเอียดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง โดยเฉพาะราคากลางและการคำนวณราคากลางไว้ในระบบข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าตรวจดูได้และการกำหนดมาตรการที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม) | นร | 17/07/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๕ (เรื่อง การทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการจัดทำข้อมูลรายละเอียดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง โดยเฉพาะราคากลางและการคำนวณราคากลางไว้ในระบบข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าตรวจดูได้ และการกำหนดมาตรการที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม) โดยให้แจ้งความเห็นทางกฎหมายของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๑) ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบแล้ว นั้น โดยที่รัฐบาลมีนโยบายและให้ความสำคัญในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบเป็นเรื่องเร่งด่วน โดยได้ประกาศยุทธศาสตร์และแผนงานเชิงรุกของรัฐบาลในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นและมอบนโยบายแก่ส่วนราชการในการพัฒนาองค์กรเพื่อสร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติราชการ ดั้งนั้น เพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดิน จึงมีมติให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับสำนักงบประมาณ และสำนักงาน ก.พ.ร. ไปหารือร่วมกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล และหาวิธีการและแนวทางในการปฏิบัติเพื่อตอบสนองมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลและคณะกรรมการ ป.ป.ช. หากมีความจำเป็นจะต้องปรับปรุงแก้ไขกฎ ระเบียบ หรือมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ก็ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
30009 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัย ราชภัฏสวนดุสิต พ.ศ. .... | ศธ | 17/07/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างพระราชกฤษฎีกาฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กำหนดให้พระราชกฤษฎีกานี้ให้บังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป เว้นแต่บทบัญญัติร่างมาตรา ๓(๓) ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ร่างมาตรา ๓(๕) ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ และร่างมาตรา ๔ ร่างมาตรา ๕ ร่างมาตรา ๖ ร่างมาตรา ๗ และร่างมาตรา ๘ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ เป็นต้นไป ๒. กำหนดปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาการบัญชี สาขาวิชาการศึกษา สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ สาขาวิชานิติศาสตร์ สาขาวิชานิเทศศาสตร์ สาขาวิชาบริหารธุรกิจ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาศิลปศาสตร์ และสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ ๓. กำหนดครุยวิทยฐานะและเข็มวิทยฐานะของมหาวิทยาลัย ครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัย ครุยประจำตำแหน่ง และเครื่องหมายประกอบครุยประจำตำแหน่งของนายกสภามหาวิทยาลัย อุปนายกสภามหาวิทยาลัย กรรมการสภามหาวิทยาลัย และอธิการบดี ตลอดจนสีประจำสาขาวิชา
|
|||||||||||||||||||||||||||
30010 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา พ.ศ. .... | สผ | 17/07/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร และผลการดำเนินการของกระทรวงศึกษาธิการตามข้อสังเกตดังกล่าว และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป ดังนี้
๑. ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา พ.ศ. .... มีดังนี้ ๑.๑ การจัดตั้งสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนานอกจากจะมุ่งเน้นด้านดนตรีคลาสลิกแล้ว เมื่อสถาบันมีความพร้อมควรดำเนินการขยายสาขาวิชาที่เกี่ยวกับดนตรีประเภทอื่นให้มีความหลากหลายมากขึ้น ๑.๒ การแบ่งส่วนงานของสถาบัน ควรมีสำนักงานสภาสถาบันเพื่อให้การดำเนินงานของสภาสถาบันมีความสะดวก คล่องตัว ปราศจากการครอบงำ ตลอดจนเป็นเกียรติและศักดิ์ศรีของสถาบัน และเป็นการรองรับการขยายตัวของสถาบันในอนาคต ๑.๓ การประเมินส่วนงานต่าง ๆ ของสถาบัน ควรตั้งผู้ประเมินอิสระจากบุคคลภายนอกร่วมกับบุคคลภายในสถาบันเข้ามาประเมิน ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงการมีส่วนร่วมของนักศึกษา เพื่อจะทำให้ระบบการประเมินมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างแท้จริง ๑.๔ สถาบันต้องสนับสนุนกิจการนักศึกษา โดยการจัดตั้งสโมสรนักศึกษาหรือองค์การนักศึกษา เพื่อเป็นการพัฒนาการเรียนรู้และการเสริมสร้างคุณภาพนักศึกษา ๒. ผลการดำเนินการของกระทรวงศึกษาธิการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา พ.ศ. .... มีดังนี้ ๒.๑ สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนามีนโยบายที่จะขยายสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับดนตรีประเภทอื่นให้หลากหลายมากขึ้นในอนาคต ๒.๒ สถาบันจะกำหนดให้มีสำนักงานสภาสถาบันในเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้การดำเนินงานของสภาสถาบันมีความสะดวก คล่องตัว ปราศจากการครอบงำ ตลอดจนเป็นเกียรติและศักดิ์ศรีของสถาบัน และเป็นการรองรับการขยายตัวของสถาบันในอนาคต ๒.๓ การประเมินส่วนงานของสถาบันฯ จะกำหนดให้มีการประเมินทั้งภายในและภายนอกตามเกณฑ์ของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) โดยจะคำนึงถึงการรับฟังความคิดเห็นของนักศึกษาด้วย เพื่อให้ระบบการประเมินมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างแท้จริง ๒.๔ สถาบันจะสนับสนุนกิจการนักศึกษาโดยการจัดตั้งสโมสรนักศึกษา (ระดับสถาบัน) จัดให้มีคณะกรรมการนักศึกษา (ระดับส่วนงานหรือคณะวิชา) เพื่อเป็นการพัฒนาการเรียนรู้และการเสริมสร้างคุณภาพนักศึกษา
|
|||||||||||||||||||||||||||
30011 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนจุฬาภรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ศ. .... | นร | 17/07/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนจุฬาภรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลทุ่งโพธิ์ ตำบลสามตำบล และตำบลนาหมอบุญ อำเภอจุฬาภรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
30012 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบางตะบูน จังหวัดเพชรบุรี พ.ศ. .... | นร | 17/07/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบางตะบูน จังหวัดเพชรบุรี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลบางตะบูน และตำบลบางตะบูนออก อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
30013 | คำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาอุปสรรคและผลักดันการส่งออกของไทย | พณ | 17/07/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๖๐/๒๕๕๕ ลงวันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาอุปสรรคและผลักดันการส่งออกของไทยจำนวน ๔ คณะ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
๑. คณะทำงานแก้ไขปัญหากฎระเบียบและภาษีที่ไม่เหมาะสมและเป็นอุปสรรคทางการค้า มีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานคณะทำงาน ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเป็นคณะทำงานและเลขานุการ ทำหน้าที่ศึกษา วิเคราะห์ ประมวล และสรุปปัญหากฎระเบียบและภาษีที่ไม่เหมาะสมและเป็นอุปสรรคทางการค้าที่มีผลกระทบต่อการส่งออกไทย จัดทำข้อเสนอมาตรการด้านกฎระเบียบและภาษีเพื่อแก้ไขปัญหาและผลักดันการส่งออก โดยแบ่งเป็นมาตรการที่จำเป็นเร่งด่วน มาตรการระยะกลาง และมาตรการระยะยาว รวมทั้งประสานงาน ติดตาม และเร่งรัดการดำเนินมาตรการแก้ไขและผลักดันการส่งออก ๒. คณะทำงานติดตามสถานการณ์และขับเคลื่อนการส่งออกไปตลาดในภูมิภาคยุโรปและตลาดศักยภาพอื่น ๆ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานคณะทำงาน อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออกเป็นคณะทำงานและเลขานุการ ทำหน้าที่ศึกษา วิเคราะห์ ประมวล และสรุปปัญหาอุปสรรคที่สำคัญทั้งทางตรงและทางอ้อมในการส่งออกของไทยไปยังตลาดยุโรปและตลาดศักยภาพอื่น ๆ จัดทำข้อเสนอมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาและผลักดันการส่งออก โดยแบ่งเป็นมาตรการที่จำเป็นเร่งด่วน มาตรการระยะกลาง และมาตรการระยะยาว จัดทำยุทธศาสตร์การส่งเสริมการส่งออกเข้าสู่ตลาดยุโรปและตลาดศักยภาพอื่น ๆ รวมทั้งประสานงาน ติดตาม และเร่งรัดการดำเนินมาตรการแก้ไขและผลักดันการส่งออก ตลอดจนเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลและข้อคิดเห็นตามความจำเป็น ๓. คณะทำงานส่งเสริมการสร้างฐานการผลิตในประเทศเพื่อนบ้านและการค้าชายแดน มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานคณะทำงาน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเป็นคณะทำงานและเลขานุการ ทำหน้าที่พิจารณาและเสนอแนะนโยบายในการพัฒนาและส่งเสริมการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านและการค้าชายแดน ศึกษา วิเคราะห์ จุดอ่อนจุดแข็ง และสรุปปัญหาอุปสรรคที่สำคัญในการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศที่มีผลกระทบต่อการส่งออกไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะตลาดในประเทศเพื่อนบ้านและการค้าชายแดน จัดทำข้อเสนอมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาและผลักดันการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ โดยแบ่งเป็นมาตรการที่จำเป็นเร่งด่วน มาตรการระยะกลาง และมาตรการระยะยาว จัดทำยุทธศาสตร์การส่งเสริมการค้าและการลงทุนในตลาดประเทศเพื่อนบ้านและชายแดน รวมทั้งประสานงาน ติดตาม และเร่งรัดการดำเนินมาตรการแก้ไขและผลักดันการส่งออก ๔. คณะทำงานแก้ไขปัญหาอุปสรรคและผลักดันการส่งออกรายสินค้า มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานคณะทำงาน อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออกเป็นคณะทำงานและเลขานุการ ทำหน้าที่ศึกษา วิเคราะห์ ประมวล และสรุปปัญหาอุปสรรคที่สำคัญในการส่งออกของกลุ่มสินค้าสำคัญ อาทิ สินค้าอาหาร เกษตร อัญมณีและเครื่องประดับ และสิ่งทอ จัดทำข้อเสนอมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาและผลักดันการส่งออกของสินค้าแต่ละกลุ่ม โดยแบ่งเป็นมาตรการที่จำเป็นเร่งด่วน มาตรการระยะกลาง และมาตรการระยะยาว จัดทำยุทธศาสตร์การส่งเสริมการส่งออกของสินค้าแต่ละกลุ่ม รวมทั้งประสานงาน ติดตาม และเร่งรัดการดำเนินมาตรการแก้ไขและผลักดันการส่งออก
|
|||||||||||||||||||||||||||
30014 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายชัยฤกษ์ ลิมปวัฒนศิริ) | สธ | 17/07/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายชัยฤกษ์ ลิมปวัฒนศิริ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาศัลยกรรม) กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลพุทธโสธร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30015 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงยุติธรรม) (พันตำรวจโท พงษ์ธร ธัญญสิริ) | ยธ | 17/07/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง พันตำรวจโท พงษ์ธร ธัญญสิริ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเฉพาะด้านนโยบายและการบริหารงานยุติธรรม (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๕ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30016 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมสมุทรปราการ พ.ศ. .... | มท | 17/07/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมสมุทรปราการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
30017 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 17/07/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาการบัญชีเพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
30018 | การประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการ (รอบ 12 เดือน) ของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 | นร | 17/07/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการ (รอบ ๑๒ เดือน) ของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ดำเนินการจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการและติดตามประเมินผลการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน ๑๑๓ ส่วนราชการ และส่วนราชการในสังกัดกระทรวงนำร่อง ๔ กระทรวง (กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงสาธารณสุข) จำนวน ๓๑ ส่วนราชการ รวม ๑๔๔ ส่วนราชการ ๗๕ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา ๖๗ แห่ง ๒. สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ดำเนินการตรวจประเมินผลการปฏิบัติราชการ รอบ ๑๒ เดือน ของส่วนราชการและจังหวัด ณ ที่ตั้งของส่วนราชการและจังหวัดแล้วเสร็จเมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๕ ในส่วนของสถาบันอุดมศึกษาออกประเมินเฉพาะ ๑๒ สถาบันที่เลือกตัวชี้วัดการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (PMQA) ที่เหลือ ๕๕ แห่ง ใช้ข้อมูลอ้างอิงจากรายงานผลการประเมินคุณภาพภายในระดับสถาบันผ่านระบบฐานข้อมูลด้านการประกันคุณภาพการศึกษาระดับอุดมศึกษา (CHE QA Online) ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาในการประเมินผล ๓. สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ดำเนินการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการรอบ ๑๒ เดือน ณ ที่ตั้งของส่วนราชการและจังหวัด ระหว่างวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ - ๒๕ เมษายน ๒๕๕๕ ครบทุกส่วนราชการและจังหวัด ๔. ประมวลผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา เป็นผลคะแนนเบื้องต้น เนื่องจากบางตัวชี้วัดต้องรอข้อมูลจากหน่วยงานกลาง กรณีนี้จะกำหนดคะแนนเบื้องต้นของตัวชี้วัดเหล่านี้ให้เป็น ๑.๐๐๐๐ ไปพลางก่อน ส่งผลให้ผลคะแนนเบื้องต้น เป็นดังนี้ ๔.๑ ผลการประเมินการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยส่วนราชการ มีผลคะแนนสูงสุด ๔.๙๙๖๐ ผลคะแนนต่ำสุด ๓.๓๓๗๕ ผลคะแนนเฉลี่ย ๔.๓๒๕๘ สำหรับจังหวัด มีผลคะแนนสูงสุด ๔.๕๔๗๑ ผลคะแนนต่ำสุด ๓.๑๖๕๒ ผลคะแนนเฉลี่ย ๓.๙๙๙๓ และในส่วนของสถาบันอุดมศึกษา ผลคะแนนสูงสุด ๔.๖๔๘๙ ผลคะแนนต่ำสุด ๒.๘๒๙๒ ผลคะแนนเฉลี่ย ๔.๐๓๒๑ ๔.๒ ผลการประเมินการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการของกระทรวงนำร่อง กระทรวงการคลัง ๔.๙๑๒๒ คะแนน กระทรวงพลังงาน ๔.๙๒๒๒ คะแนน กระทรวงสาธารณสุข ๓.๖๙๖๓ คะแนน และกระทรวงอุตสาหกรรม ๔.๗๙๔๗ คะแนน ๕. การดำเนินงานต่อไป เมื่อสำนักงาน ก.พ.ร. ได้รับผลการประเมินที่ครบถ้วนและสมบูรณ์แล้ว จะแจ้งผลคะแนนการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่เป็นที่สิ้นสุดแล้วไปให้ส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษาทราบ และนำผลคะแนนของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา ไปคำนวณเพื่อจัดสรรเงินรางวัลประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้กับส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ.ร. กำหนดต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
30019 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 150 ปี วันพระราชสมภพ สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า พ.ศ. .... | กค | 17/07/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๑๕๐ ปี วันพระราชสมภพ สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๑๕๐ ปี วันพระราชสมภพ สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ชนิด ราคา โลหะ อัตราเนื้อโลหะ น้ำหนัก ขนาด อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด ลวดลาย และลักษณะอื่น ๆ ของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ราคายี่สิบบาท ประเภทธรรมดา (จำนวนผลิตไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐ เหรียญ) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
30020 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติกำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงและสะพาน พ.ศ. 2497 | คค | 17/07/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติกำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงและสะพาน พ.ศ. ๒๔๙๗ มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ยกเลิกความในข้อ ๔ ของกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๘ (พ.ศ. ๒๕๔๐) ออกตามความในพระราชบัญญัติกำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงและสะพาน พ.ศ. ๒๔๙๗ เพื่อยกเว้นค่าธรรมเนียมแก่ยานยนตร์ ได้แก่ รถยนต์รับจ้างขนส่งผู้โดยสารที่วิ่งให้บริการอยู่ภายในบริเวณระหว่างด่านพรมแดนไทย และด่านพรมแดนลาว และรถโดยสารระหว่างประเทศ อุดรธานี - หนองคาย - นครหลวงเวียงจันทน์ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....