ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | การรายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินงานและการขออนุมัติเพิ่มวงเงินกู้ตามโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง | กษ | 28/08/2555 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานและปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นในโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ความก้าวหน้าการดำเนินโครงการฯ มีสถาบันเกษตรกรสนใจเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน ๕๒ จังหวัด เพิ่มขึ้นจากเดิม ๓ จังหวัด มีสถาบันเกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน ๖๗๖ สถาบัน เพิ่มขึ้นจากเดิม จำนวน ๑๓๖ แห่ง โดยอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน ๖๑๑ แห่ง เพิ่มขึ้นจากเดิม จำนวน ๑๑๗ แห่ง อยู่ระหว่างการพิจารณา จำนวน ๔๗ แห่ง และไม่ผ่านการอนุมัติ จำนวน ๕ แห่ง องค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) เปิดจุดรับซื้อยางตามโครงการฯ เพิ่มขึ้น จำนวน ๑๑ จุด คือ ภาคใต้ ๗ จุด ภาคตะวันออก ๑ จุด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๓ จุด รวมทั้งสิ้น ๔๒ จุด การรับซื้อยางจากสถาบันเกษตรกร ข้อมูล ณ วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ อ.ส.ย. ซื้อยางไปแล้ว จำนวน ๖๑,๗๖๒ ตัน คงเหลือพื้นที่โกดังเก็บยางได้อีก ๑๓,๐๐๐ ตัน ซึ่ง อ.ส.ย. ได้ประสานงานหาสถานที่เก็บยางเพิ่มอีก ๘,๐๐๐ ตัน การเบิกเงินกู้ อ.ส.ย. ได้เบิกเงินเต็มจำนวน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ๑.๒ ปัญหาและอุปสรรคของการดำเนินโครงการฯ ๑.๒.๑ จุดรับซื้อของ อ.ส.ย. ยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ เนื่องจากยังไม่มีโรงงานแปรรูปยาง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการปลูกยาง และสถาบันเกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ มาก เช่น จังหวัดพัทลุง และตามพื้นที่ที่มีปัญหาเกี่ยวกับความปลอดภัย เช่น จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นต้น ๑.๒.๒ จุดรับซื้อของ อ.ส.ย. อยู่ไกล ทำให้สถาบันเกษตรกรต้องแบกรับภาระค่าขนส่ง ๑.๒.๓ อ.ส.ย. ยังไม่ได้มีการเปิดรับซื้อน้ำยางสด ทำให้สถาบันเกษตรกรที่ซื้อขายน้ำยางสดไม่ได้รับประโยชน์จากโครงการฯ โดยเฉพาะในเขตจังหวัดชายแดนภาคใต้ ๑.๒.๔ การคัดชั้นยาง ณ จุดรับซื้อยางของ อ.ส.ย. เป็นไปตามมาตรฐานของกรมวิชาการเกษตร โดยมีคณะกรรมการคัดชั้นยางที่คณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การสวนยางแต่งตั้งขึ้นเป็นผู้ตรวจสอบคุณภาพและน้ำหนักยางทำให้สถาบันเกษตรกรบางแห่งที่ไม่ได้คัดคุณภาพยางตามมาตรฐานมีความเห็นขัดแย้ง ๑.๒.๕ การลงยาง ณ จุดรับซื้อล่าช้า สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรติดคิวในการลงยางทำให้ไม่สามารถนำส่งยางได้ภายใน ๑ วัน ทำให้เกิดการสะสมและไม่สามารถขายยางที่เหลือต่อได้ ๑.๒.๖ สถาบันเกษตรกรมีการนำยางซึ่งไม่ใช่ของสมาชิกมาสวมสิทธิ์สมาชิกแล้วคิดค่าบริหารจัดการเพื่อหากำไรจากโครงการฯ ๑.๒.๗ ผลผลิตยางจากวิสาหกิจชุมชนมาจากหลายสถานที่และคุณภาพไม่สม่ำเสมอ ไม่สามารถควบคุมคุณภาพและปริมาณได้ ๑.๒.๘ เกษตรกรไม่สามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกหรือสมาชิกสมทบของสหกรณ์ได้ เนื่องจากสหกรณ์มีผลผลิตยางเต็มกำลังการผลิต จึงไม่สามารถรับสมาชิกเพิ่มได้ ๒. อนุมัติให้ อ.ส.ย. กู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จากวงเงิน ๕,๐๐๐ ล้านบาท ในส่วนของสถาบันเกษตรกร จำนวน ๒,๐๐๐ ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๐ เพื่อดำเนินการตามโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยให้กระทรวงการคลังค้ำประกันและยกเว้นค่าธรรมเนียมในการค้ำประกัน รวมทั้งให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะบรรจุวงเงินส่วนของสถาบันเกษตรกร จำนวน ๒,๐๐๐ ล้านบาทดังกล่าวในแผนบริหารหนี้สาธารณะปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๖ ด้วย ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๓. ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) รับไปเร่งรัดจัดประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อพิจารณาและจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยให้มีรายละเอียดแนวทางการดำเนินการต่าง ๆ ที่ชัดเจน เป็นระบบ ครอบคลุมถึงการรับซื้อในราคาที่เหมาะสม การบริหารจัดการสต๊อก (stock) ยางพารา และแนวทางการนำยางพาราไปใช้ประโยชน์ในการประกอบการต่าง ๆ ให้แพร่หลายมากขึ้นเพื่อเพิ่มอุปสงค์ของยางพารา โดยให้นำผลงานศึกษาวิจัยที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย เช่น การนำยางพาราไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตยางล้อเครื่องบินทดแทนส่วนผสมที่เป็นโลหะมากขึ้น และการนำยางพาราไปเป็นวัตถุดิบในการก่อสร้างถนนแทนยางแอสฟัลต์ เป็นต้น ๔. ให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ อ.ส.ย. เร่งดำเนินการแก้ไขข้อจำกัดในการดำเนินโครงการฯ โดยเฉพาะการเพิ่มจุดรับซื้อเพื่ออำนวยความสะดวกและลดต้นทุนการขนส่งให้กับเกษตรกร การคัดชั้นยางตามมาตรฐานทางวิชาการอย่างโปร่งใสและเป็นที่ยอมรับจากเกษตรกร การพิจารณาความเหมาะสมในการเปิดโอกาสให้กับเกษตรกรผู้ปลูกยางทั่วไปสามารถขายยางให้กับ อ.ส.ย. ได้ และให้ กนย. กำกับให้ อ.ส.ย. จัดทำแผนบริหารจัดการระบายยางในสต๊อก และช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสมให้ชัดเจน รวมถึงอัตราการขาดทุนที่ยอมรับได้ และแผนการบริหารเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินโครงการฯ โดยไม่ต้องขอรับสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม พร้อมทั้งปรับปรุงหลักเกณฑ์การตั้งราคารับซื้อยางพาราให้มีความยืดหยุ่นเพื่อให้ดำเนินธุรกิจของ อ.ส.ย. มีความคล่องตัวและไม่เป็นภาระในการชดเชยส่วนต่างของราคาซึ่งสูงกว่าที่ควรจะเป็น นอกจากนี้ ให้ กนย. กำกับและติดตามการดำเนินโครงการฯ ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับภาวะตลาดทั้งในและต่างประเทศเพื่อให้เกิดภาระงบประมาณที่เกิดจากการชดเชยผลการขาดทุนน้อยที่สุด ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
.....