ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1442 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 28821 - 28840 จากข้อมูลทั้งหมด 124231 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
28821 | การร่วมทุนโครงการไฟฟ้าพลังน้ำน้ำเงี้ยบ 1 สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ของบริษัท กฟผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด | พน | 12/02/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๓ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ในการประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๓ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) เสนอ ดังนี้
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ โดย ๑.๑ เห็นชอบการลงทุนของบริษัท กฟผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในโครงการไฟฟ้าพลังน้ำน้ำเงี้ยบ ๑ พร้อมอนุมัติวงเงินการเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ ๓๐ จำนวน ๗๙ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ๒,๔๓๘ ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน ๓๑ บาท ต่อ ๑ ดอลลาร์สหรัฐ) ๑.๒ เห็นชอบการร่วมทุนและอนุมัติให้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนของโครงการไฟฟ้าพลังน้ำน้ำเงี้ยบ ๑ ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ของบริษัท กฟผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ๑.๓ เห็นชอบให้สัญญาผู้ถือหุ้น (Shareholders Agreement) ที่ผ่านการตรวจพิจารณาจากสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว รวมทั้งเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการร่วมทุนในโครงการไฟฟ้าพลังน้ำน้ำเงี้ยบ ๑ ใช้เงื่อนไขการระงับข้อพิพาทระหว่างคู่สัญญา โดยวิธีอนุญาโตตุลาการ ๒. ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและบริษัท กฟผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จัดทำข้อมูลเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป ๓. ให้ บริษัท กฟผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เห็นควรมีการจัดทำแผนบริหารโครงการด้านการระบายน้ำที่เหมาะสม เนื่องจากการเก็บกักน้ำจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศทางน้ำ ทั้งบริเวณเหนือเขื่อนและใต้เขื่อน ซึ่งอาจมีผลทำให้คุณภาพน้ำเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงแรกที่มีการกักเก็บน้ำซึ่งระดับน้ำที่สูงเกิดภาวะน้ำนิ่งจะทำให้เกิดการหมักน้ำเสียของอินทรีย์วัตถุต่าง ๆ ส่งผลให้คุณภาพน้ำเสื่อมโทรมลงได้ และในกรณีลำน้ำใต้เขื่อนบางบริเวณอาจมีปริมาณน้ำเสีย หรือเกิดภาวะน้ำนิ่งทำให้เกิดภาวะน้ำเสียได้ หากมีการระบายลงสู่แหล่งน้ำต่าง ๆ เช่น แม่น้ำโขง อาจส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำของประชาชนไทยในบริเวณนั้นได้ รวมทั้งต้องมีการติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนจัดการคุณภาพน้ำ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
28822 | การแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มและราคาผลปาล์มตกต่ำปี 2555 - 2556 | พณ | 12/02/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มและราคาผลปาล์มตกต่ำ ปี ๒๕๕๕-๒๕๕๖ ตามมาตรการดูดซับน้ำมันปาล์มดิบออกจากระบบตลาด ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การดูดซับน้ำมันปาล์มออกจากระบบตลาดรอบที่ ๑ การรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกร ตั้งแต่วันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๕-๒๔ มกราคม ๒๕๕๖ มีโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มรับซื้อตามโครงการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มและราคาผลปาล์มตกต่ำ ปี ๒๕๕๕-๒๕๕๖ รอบที่ ๑ จำนวน ๔๒ ราย รับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรตามโควตาที่ได้รับจัดสรรคิดเป็นน้ำมันปาล์มดิบรวม ๔๓,๕๘๓ ตัน (คิดเป็นผลปาล์มอัตราน้ำมันร้อยละ ๑๗ ประมาณ ๒๕๕,๖๘๐ ตัน) และได้ส่งมอบน้ำมันปาล์มดิบเข้าคลังกลางขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ณ วันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๖ แล้ว จำนวน ๒๗,๒๓๓.๘๔ ตัน ทั้งนี้ ผลต่อราคาตลาด ราคารับซื้อผลปาล์ม ณ หน้าโรงงาน เดือนมกราคม ๒๕๕๖ ปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๕ กิโลกรัมละ ๓.๓๕-๓.๘๐ บาท เป็นกิโลกรัมละ ๓.๘๐-๔.๐๐ บาท ๒. การดูดซับน้ำมันปาล์มออกจากระบบตลาดรอบที่ ๒ คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ในการประชุมเมื่อวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๕๖ มีมติ ๒.๑ เห็นชอบให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเพิ่มเติมอีก ๕๐,๐๐๐ ตัน รวมเป็น ๑๐๐,๐๐๐ ตัน ในราคากิโลกรัมละ ๒๕ บาท ระยะเวลาการรับซื้อ เดือนธันวาคม ๒๕๕๕-เมษายน ๒๕๕๖ ระยะเวลาจำหน่าย เดือนมกราคม-กันยายน ๒๕๕๖ ระยะเวลาโครงการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มและราคาผลปาล์มตกต่ำ ปี ๒๕๕๕-๒๕๕๖ รอบที่ ๒ เดือนธันวาคม ๒๕๕๕-พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ๒.๒ อนุมัติเงินทุนหมุนเวียน จำนวน ๑,๒๕๐ ล้านบาท ให้ อคส. ใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากโรงงานสกัดเพิ่มเติมอีก ๕๐,๐๐๐ ตัน ในราคากิโลกรัมละ ๒๕ บาท ๒.๓ อนุมัติเงินจ่ายขาด จำนวน ๒๙๒.๕๙๖ ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการรับซื้อและระบายน้ำมันปาล์มดิบ ปริมาณ ๑๐๐,๐๐๐ ตัน (โดยยกเลิกมติ คชก. เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๕ ในส่วนของการอนุมัติวงเงินจ่ายขาดในการเก็บสต็อกน้ำมันปาล์มดิบรอบที่ ๑ ปริมาณ ๕๐,๐๐๐ ตัน) ประกอบด้วย วงเงิน ๒๘๒.๔๐ ล้านบาท ให้ อคส. เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการฝากเก็บสต็อกน้ำมันปาล์มดิบ วงเงิน ๑.๙๙๖ ล้านบาท ให้กรมส่งเสริมการเกษตรเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการขึ้นทะเบียนและออกใบรับรองเกษตรกรของกรมส่งเสริมการเกษตรตามโครงการฯ และวงเงิน ๘.๒๐ ล้านบาท ให้กรมการค้าภายในเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารโครงการฯ ค่าเบี้ยประชุม ค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมคณะอนุกรรมการระบายน้ำมันปาล์มดิบตามโครงการฯ และค่าใช้จ่ายดำเนินงานของจังหวัดที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ให้ อคส. เบิกค่าใช้จ่ายในการเก็บสต๊อคน้ำมันปาล์มดิบตามปริมาณและระยะเวลาที่เกิดขึ้นจริง โดยให้เร่งระบายน้ำมันปาล์มดิบที่รับซื้อไว้ เพื่อนำเงินส่งคืนกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร สำหรับดำเนินการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรอื่นต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
28823 | การแต่งตั้งผู้อำนวยการสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ (นายประยูร เชี่ยววัฒนา) | วท | 12/02/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายประยูร เชี่ยววัฒนา ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ ตามนัยมาตรา ๑๕ แห่งพระราชบัญญัติพัฒนาระบบมาตรวิทยาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๐ ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
28824 | สรุปสถานการณ์รวมของไฟป่าและหมอกควันใน 9 จังหวัดภาคเหนือประจำสัปดาห์ที่ 1 | อื่นๆ | 12/02/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปสถานการณ์รวมของไฟป่าและหมอกควันใน ๙ จังหวัดภาคเหนือ (จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน และตาก) ในช่วง ๗ วัน ณ วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายปลอดประสพ สุรัสวดี) ประธานกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ประเภทจังหวัด ๑.๑ จังหวัดเชียงราย เกิดไฟป่า ๑ ครั้ง รวมพื้นที่ ๒๓ ไร่ ค่า PM10 สูงสุด ๘๙ ๑.๒ จังหวัดเชียงใหม่ เกิดไฟป่า ๑ ครั้ง รวมพื้นที่ ๑ ไร่ ค่า PM10 สูงสุด ๘๖ ๑.๓ จังหวัดลำปาง เกิดไฟป่า ๒๗ ครั้ง ค่า PM10 สูงสุด ๑๓๒ ณ สถานี สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาคแม่เมาะ (เกินค่ามาตรฐาน ๑๒๐) ๑.๔ จังหวัดลำพูน เกิดไฟป่า ๙๙ ครั้ง รวมพื้นที่ ๒๔๘ ไร่ ค่า PM10 สูงสุด ๙๐ ๑.๕ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังไม่มีรายงานการเกิดไฟป่า ค่า PM10 สูงสุด ๔๕ ๑.๖ จังหวัดน่าน เกิดไฟป่า ๑ ครั้ง รวมพื้นที่ ๖๐ ไร่ ค่า PM10 สูงสุด ๖๔ ๑.๗ จังหวัดแพร่ เกิดไฟป่า ๘ ครั้ง รวมพื้นที่ ๑,๓๑๐ ไร่ ค่า PM10 สูงสุด ๑๐๙ ๑.๘ จังหวัดพะเยา เกิดไฟป่า ๓ ครั้ง คิดเป็นพื้นที่ ๙ ไร่ ค่า PM10 สูงสุด ๗๓ ๑.๙ จังหวัดตาก เกิดไฟป่า ๑ ครั้ง รวมพื้นที่ ๒๐๐ ไร่ ค่า PM10 สูงสุด ๖๘ ๒. ประเภทพื้นที่ ๒.๑ พื้นที่ป่าอนุรักษ์ ๒๒๐ จุด ๒.๒ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ๑๖๑ จุด ๒.๓ พื้นที่การเกษตร ๕๐ จุด ๒.๔ พื้นที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ๑๐ จุด ๒.๕ พื้นที่สองข้างทางหลวง ๑๐ จุด ๒.๖ พื้นที่อื่น ๆ ๑๘ จุด
|
||||||||||||||||||||||||
28825 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 3 ราย 1. นายชลธิศ สุรัสวดี ฯลฯ) | ทส | 12/02/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. นายชลธิศ สุรัสวดี ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางสาวภาวิณี ปุณณกันต์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายเสรี โสภณดิเรกรัตน์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||
28826 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (จำนวน 10 ราย 1. นางอัญชลี ชวนิชย์ ฯลฯ) | พน | 12/02/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ โดย
๑. ให้กรรมการอื่นที่ยังคงอยู่ในคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำนวน ๒ คน พ้นจากตำแหน่งกรรมการดังกล่าว ดังนี้ ๑.๑ นายสุกิจ เจริญรัตนกุล ๑.๒ นายกุลิศ สมบัติสิริ ๒. อนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (ชุดใหม่) จำนวน ๑๐ คน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ เป็นต้นไป ยกเว้นลำดับที่ ๒.๓ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะกรรมการอัยการให้ความเห็นชอบ ดังนี้ ๒.๑ นางอัญชลี ชวนิชย์ ประธานกรรมการ ๒.๒ นายคุรุจิต นาครทรรพ กรรมการ ๒.๓ นายตระกูล วินิจนัยภาค กรรมการ ๒.๔ นายปรเมธี วิมลศิริ กรรมการ ๒.๕ นายประวิช สารกิจปรีชา กรรมการ ๒.๖ นายกุลิศ สมบัติศิริ กรรมการ (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) ๒.๗ นางอัมพร นิติสิริ กรรมการ ๒.๘ นายชวน ศิรินันท์พร กรรมการ ๒.๙ นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการ ๒.๑๐ นายประจวบ อุชชิน กรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||
28827 | ขออนุมัติลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานตำรวจเครือรัฐออสเตรเลีย ว่าด้วยการส่งเสริมเครือข่ายประสานงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ประจำประเทศไทย | ตช | 12/02/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานตำรวจเครือรัฐออสเตรเลีย ว่าด้วยการส่งเสริมเครือข่ายประสานงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ประจำประเทศไทย (Exchange of the Letters between Royal Thai Police and the Australian Federal Police on the Consolidation of the Thailand Transnational Crime Network) มีสาระสำคัญในการกำหนดข้อตกลงระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติและสำนักงานตำรวจเครือรัฐออสเตรเลียในการที่สำนักงานตำรวจเครือรัฐออสเตรเลียได้ให้การสนับสนุนเครือข่ายการประสานงานระหว่างหน่วยงานตำรวจของทั้งสองประเทศทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค เพื่อการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติอย่างต่อเนื่อง และกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดประชุมคณะกรรมการบริหารประจำปีระหว่างผู้บริหารของทั้งสองฝ่ายเพื่อให้ทางเครือข่ายประสานงานอาชญากรรมข้ามชาติดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์และความคาดหวังของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ๒. อนุมัติให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนฯ ๓. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญก่อนมีการลงนาม ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
|
||||||||||||||||||||||||
28828 | การกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2555/2556 | อก | 12/02/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นต้น ฤดูการผลิตปี ๒๕๕๕/๒๕๕๖ ในอัตรา ๙๕๐.๐๐ บาทต่อตันอ้อย ณ ระดับความหวานที่ ๑๐ ซี.ซี.เอส. หรือเท่ากับร้อยละ ๙๐.๙๖ ของประมาณการราคาอ้อยเฉลี่ยทั่วประเทศ ๑,๐๔๔.๔๕ บาทต่อตันอ้อย และกำหนดอัตราขึ้น/ลงของราคาอ้อยเท่ากับ ๕๗.๐๐ บาท ต่อ ๑ หน่วย ซี.ซี.เอส ต่อเมตริกตัน และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี ๒๕๕๕/๒๕๕๖ เท่ากับ ๔๐๗.๑๔ บาทต่อตันอ้อย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการพิจารณาทบทวนโครงสร้างการคำนวณต้นทุนการผลิตอ้อยซึ่งใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๗ ให้เป็นไปตามหลักวิชาการ มีความเหมาะสม สะท้อนถึงต้นทุนที่แท้จริง และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย รวมทั้งนำผลการศึกษาของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) มาเป็นฐานในการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อปรับรื้อโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบให้อิงกลไกตลาดมากขึ้น และปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทรายให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งรัดการพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือชาวไร่อ้อยให้ได้รับค่าอ้อยที่คุ้มต้นทุนการผลิตเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อยฤดูการผลิตปี ๒๕๕๕/๒๕๕๖ ของคณะทำงานเกี่ยวข้อง แล้วจัดการประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายเพื่อพิจารณาเรื่องนี้โดยเร็วต่อไป ๓. การกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นในแต่ละฤดูการผลิต ให้กระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของข้อกฎหมายและระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และประกาศให้ชาวไร่อ้อยและผู้เกี่ยวข้องได้ทราบล่วงหน้าก่อนถึงฤดูการเก็บเกี่ยวและส่งอ้อยเข้าหีบ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาประโยชน์ในการพิจารณาตัดสินใจขายอ้อยของชาวไร่อ้อย ๔. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมประสานการดำเนินการกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ชาวไร่อ้อย มิให้ใช้วิธีจุดไฟเผาอ้อยก่อนการเก็บเกี่ยว ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เพาะปลูกและชุมชนใกล้เคียง |
||||||||||||||||||||||||
28829 | ร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับสำนักเลขาธิการอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) เกี่ยวกับการประชุมสมัยสามัญภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 16 และการประชุมคณะกรรมาธิการการบริหาร ครั้งที่ 63 และ 64 และร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 16 ในประเทศไทย พ.ศ. .... | นร05 | 12/02/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) วันจันทร์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ตามที่สำนักงานเลขานุการ ปสส. เสนอ ๒. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร้องขอให้มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ ๑๖ ในประเทศไทย พ.ศ. .... โดยกรรมาธิการเต็มสภา ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๕๑ ข้อ ๑๑๗ วรรคสอง
|
||||||||||||||||||||||||
28830 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร | นร05 | 12/02/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) วันจันทร์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๔ ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๑๓ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพุธที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ และครั้งที่ ๑๔ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ตามที่สำนักงานเลขานุการ ปสส. เสนอ ๒. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร้องขอให้มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ ๑๖ ในประเทศไทย พ.ศ. .... โดยกรรมาธิการเต็มสภา ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๕๑ ข้อ ๑๑๗ วรรคสอง
|
||||||||||||||||||||||||
28831 | การจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (วันที่ 30 - 31 มีนาคม 2556) | นร05 | 12/02/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอว่า การจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ในครั้งต่อไป รัฐมนตรีและผู้ที่เกี่ยวข้องได้หารือร่วมกันแล้ว เห็นควรให้จัดขึ้นในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนกลาง (จังหวัดฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ นครนายก สระแก้ว และปราจีนบุรี) ระหว่างวันเสาร์ที่ ๓๐-วันอาทิตย์ที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๖ ณ จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายประชา ประสพดี) และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (นายฐานิสร์ เทียนทอง) เป็นเจ้าภาพหลัก และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจะได้ดำเนินการเกี่ยวกับการกลั่นกรองโครงการและกิจกรรมการลงพื้นที่ที่จังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดอื่นในกลุ่มจังหวัดที่เกี่ยวข้องร่วมกับสำนักงบประมาณและเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
28832 | การแก้ไขปัญหาภัยแล้ง | นร05 | 12/02/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. ให้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยเป็นเจ้าภาพหลักร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อพิจารณากำหนดมาตรการและบูรณาการการดำเนินการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง โดยใช้ระบบปฏิบัติการ Single Command และใช้หลัก 2P 2R ในการดำเนินการ คือ การป้องกัน (Prevention) การเตรียมความพร้อม (Preparation) การเผชิญเหตุ (Response) และการเยียวยาฟื้นฟู (Recovery) ทั้งนี้ ให้มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในเชิงรุกและให้เข้าถึงระดับพื้นที่โดยให้พิจารณาถึงการรักษาแหล่งน้ำต้นทุนเพื่อรองรับการขาดแคลนน้ำให้สอดคล้องกับระยะเวลาที่เกิดปัญหาขึ้นกับประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งให้มีการประเมินสถานการณ์ภัยแล้งล่วงหน้าเพื่อให้สามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ขอให้รัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลพื้นที่ ๒๙ จังหวัดที่ประสบภัยแล้ง ลงพื้นที่เพื่อกำกับติดตามการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ที่รับผิดชอบให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพด้วย ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นเจ้าภาพหลักประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการจัดทำฝนหลวงในพื้นที่ประสบภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง
|
||||||||||||||||||||||||
28833 | ขออนุมัติเปิดเลขหมายโทรคมนาคมพิเศษ 4 หลัก | สธ | 05/02/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมการแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เปิดเลขหมายโทรคมนาคมพิเศษ ๔ หลัก ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) กรณีที่หน่วยงานภาครัฐใดมี Call Center เป็นของตนเอง หน่วยงานดังกล่าวจะต้องยื่นคำขอรับการจัดสรร ชำระค่าธรรมเนียมการพิจารณาคำขอ และนำเสนอข้อมูลโดยละเอียด ตามข้อ ๕๑ ข้อ ๗๖ และข้อ ๕๒ ของประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดสรรและบริหารเลขหมายโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ รวมถึงการดำเนินการตามกฎ ระเบียบ มติที่เกี่ยวข้อง เพื่อสำนักงาน กสทช. จัดทำรายงานการวิเคราะห์เสนอคณะอนุกรรมการเลขหมายโทรคมนาคมทำหน้าที่คณะกรรมการเลขหมายโทรคมนาคมตามข้อ ๕๕ ของประกาศฯ ก่อนเสนอกรรมการกลั่นกรอง และคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม ตามขั้นตอน ๒. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารประสานกับสำนักงาน กสทช. ในการจัดกลุ่มเลขหมายโทรคมนาคมของแต่ละหน่วยงานให้เป็นหมวดหมู่อย่างชัดเจน เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการติดต่อขอรับบริการต่างๆ ด้วย |
||||||||||||||||||||||||
28834 | การปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน | กค | 05/02/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. รับทราบแนวทางการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจ โดยให้กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อชำระหนี้แทนรัฐวิสาหกิจ ที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน โดยกระทรวงการคลังจะเป็นผู้พิจารณากู้เงินจากแหล่งเงินกู้และใช้เครื่องมือทางการเงินที่เหมาะสมในการปรับโครงสร้างหนี้และชำระหนี้แทนรัฐวิสาหกิจ รวมถึงเจรจากับรัฐวิสาหกิจและแหล่งเงินกู้เพื่อกำหนดวันชำระหนี้ก่อนกำหนด โดยภายหลังจากที่ทราบกำหนดวันที่แน่นอนแล้ว กระทรวงการคลังจะประสานงานกับธนาคารแห่งประเทศไทยหรือธนาคารพาณิชย์เพื่อติดต่อขอซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าและเตรียมการกู้เงินเพื่อชำระคืนหนี้แทนรัฐวิสาหกิจเฉพาะในส่วนของเงินต้น ซึ่งรัฐวิสาหกิจจะต้องจัดหาเงินเพื่อชำระค่าดอกเบี้ยและเงินต้นบางส่วนที่กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อชำระหนี้แทนรัฐวิสาหกิจได้ไม่ครบตามจำนวน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ๒. เห็นชอบให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจัดหาเงินเพื่อชำระหนี้ในส่วนที่กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อชำระหนี้แทนได้ไม่ครบตามจำนวน รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ๓. เห็นชอบให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้แก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเพื่อชำระหนี้คืนแก่แหล่งเงินกู้โดยตรงสำหรับเงินต้นและดอกเบี้ย รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยจัดหาเงินเองและส่วนที่กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้และชำระหนี้แทนสำหรับโครงการรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล โดยจัดสรรงบประมาณให้เป็นรายปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙ ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามกฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของกระทรวงการคลังที่จะได้ตกลงกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
28835 | รายงานสรุปผลการดำเนินงานของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ของสภาผู้แทนราษฎร และรายงานสรุปผลการดำเนินงานของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ของวุฒิสภา | นร07 | 05/02/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงาน รวม ๒ ฉบับ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป ดังนี้
๑. รายงานสรุปผลการดำเนินงานของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ของสภาผู้แทนราษฎร ประกอบด้วย ผลการดำเนินงานของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเกี่ยวกับภาพรวมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ได้แก่ การดำเนินนโยบายสำคัญของรัฐบาล การบริหารจัดการงบประมาณรายจ่าย และผลการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ของกระทรวงและหน่วยงาน ๒. รายงานสรุปผลการดำเนินงานของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ของวุฒิสภา ประกอบด้วย ผลการดำเนินงานของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเกี่ยวกับนโยบายและภาพรวมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ได้แก่ ผลกระทบของการกำหนดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในอัตราที่สูงขึ้น ผลกระทบต่อกรอบการรักษาวินัยทางการเงินการคลังภาครัฐ การให้รัฐสภาเร่งผลักดันร่างกฎหมายการเงินการคลังของรัฐตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๑๖๗ วรรคสาม การจัดตั้งหน่วยงานอิสระทางการคลัง (Fiscal Agency) ระบบติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์ของการใช้จ่ายเงินงบประมาณ และผลการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ จำแนกตามกระทรวงและหน่วยงาน
|
||||||||||||||||||||||||
28836 | สรุปผลการดำเนินงานตามแผนอำนวยความสะดวก ปลอดภัย และมั่นคงในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 ของกระทรวงคมนาคม | คค | 05/02/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการดำเนินงานตามแผนอำนวยความสะดวก ปลอดภัย และมั่นคงในช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๖ ตามแผน “อำนวยความสะดวก มั่นคงและปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๖” ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๖ มีจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุ ๑,๐๘๒ ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ ๓.๘๔ มีผู้เสียชีวิต จำนวน ๒๓๔ คน ลดลงร้อยละ ๔.๘๘ และผู้บาดเจ็บ จำนวน ๑,๑๔๖ คน เพิ่มขึ้นร้อยละ ๘.๓๒ โดยมูลเหตุสันนิษฐานของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ๓ ลำดับแรก คือ ขับรถเร็วเกินกำหนด คนหรือรถตัดหน้ากระชั้นชิด และเมาสุราหรือยาบ้า สำหรับประเภทของยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุทางถนน ๓ ลำดับแรก คือ รถจักรยานยนต์ รถปิคอัพบรรทุก ๔ ล้อ และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล/รถยนต์นั่งสาธารณะ ๒. สถิติการเกิดอุบัติเหตุทางราง ทางน้ำ และทางอากาศในช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๖ ทางราง เกิดอุบัติเหตุ จำนวน ๖ ครั้ง มีผู้เสียชีวิต จำนวน ๓ คน และผู้บาดเจ็บ จำนวน ๓ คน ทางน้ำ เกิดอุบัติเหตุ จำนวน ๒ ครั้ง มีผู้เสียชีวิต จำนวน ๔ คน และผู้บาดเจ็บ จำนวน ๔ คน ส่วนทางอากาศ ไม่มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุ ๓. สถิติอุบัติเหตุที่เกิดกับผู้โดยสารในระบบขนส่งสาธารณะ เกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น ๑๒ ครั้ง มีผู้เสียชีวิตจำนวน ๑ คน ผู้บาดเจ็บ จำนวน ๔๖ คน และรถคู่กรณีเสียชีวิต จำนวน ๑๓ คน โดยสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุมาจากพฤติกรรมการขับรถของพนักงานขับรถ ได้แก่ พนักงานขับรถโดยประมาท ตามหลังรถคันหน้าในระยะกระชั้นชิด ขับรถย้อนศร ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
28837 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 สายบางปะอิน - นครราชสีมา พ.ศ. .... | คค | 05/02/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข ๖ สายบางปะอิน-นครราชสีมา พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข ๖ สายบางปะอิน-นครราชสีมา ในท้องที่อำเภอบางปะอิน อำเภอวังน้อย อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอหนองแค อำเภอเมืองสระบุรี อำเภอแก่งคอย อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี และอำเภอปากช่อง อำเภอสีคิ้ว อำเภอสูงเนิน อำเภอขามทะเลสอ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
28838 | การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (พลตำรวจโท สุรพล ธนโกเศศ) | ตช | 05/02/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้ง พลตำรวจโท สุรพล ธนโกเศศ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ทำหน้าที่ประสานงานสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย) เป็นผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แทนพลตำรวจโท ดำริ โชตเศรษฐ์ ซึ่งได้เกษียณอายุราชการในปีงบประมาณประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยรองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) ได้เห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๕ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
28839 | การแต่งตั้งผู้แทนไทยในคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน | กต | 05/02/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งให้ ดร. เสรี นนทสูติ เป็นผู้แทนไทยในคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
28840 | รัฐบาลสาธารณรัฐเคนยาเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นายอะลี มุฮัมมัด ยูซุฟ (Mr. Ali Mohamed Yussuf)] | กต | 05/02/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายอะลี มุฮัมมัด ยูซุฟ (Mr. Ali Mohamed Yussuf) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเคนยาประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายริชาร์ด ไทตัส เอคาย (Mr. Richard Titus Ekai) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
.....