ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1448 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 28941 - 28960 จากข้อมูลทั้งหมด 124231 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
28941 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สผ | 21/01/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร ที่เห็นว่าสมควรปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล โดยให้เพิ่มอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพและอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เป็นกรรมการในคณะกรรมการสถานพยาบาลด้วย เนื่องจากเป็นผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลโดยตรง และผลการดำเนินการของกระทรวงสาธารณสุขในการรับข้อสังเกตดังกล่าวไปดำเนินการในกรณีที่มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลในโอกาสต่อไป และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28942 | ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 และการปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 | นร07 | 21/01/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ โดยกำหนดประเด็นยุทธศาสตร์และจุดเน้นของนโยบายการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ให้สอดคล้อง เชื่อมโยงกับผลการประชุมเชิงปฏิบัติการ การบูรณาการตามยุทธศาสตร์ประเทศ (Country Strategy) และยุทธศาสตร์การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนปี พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐนำยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีฯ ไปใช้เป็นแนวทางในการเสนอขอจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ต่อไป ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีฯ ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์เร่งรัดการพัฒนาประเทศ และเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งรัฐ ยุทธศาสตร์การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน ยุทธศาสตร์การศึกษา คุณธรรม จริยธรรม คุณภาพชีวิต และความเท่าเทียมกันในสังคม ยุทธศาสตร์การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัย และนวัตกรรม ยุทธศาสตร์การต่างประเทศและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ยุทธศาสตร์การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และรายการค่าดำเนินการภาครัฐ ๒. รับทราบข้อเสนอแผนความต้องการงบลงทุนเบื้องต้น ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ส่งคำขอแผนความต้องการงบลงทุนเบื้องต้นฯ รวม ๒๗ กระทรวง/หน่วงาน เป็นเงินทั้งสิ้น ๑,๐๕๓,๒๔๘.๙ ล้านบาท ซึ่งสำนักงบประมาณได้พิจารณาแล้วเห็นสมควรจัดทำข้อเสนอแผนความต้องการงบลงทุนเบื้องต้นฯ จำนวน ๕๖๔,๒๕๑ ล้านบาท เพื่อให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ใช้ประกอบการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ โดยข้อเสนอแผนความต้องการงบลงทุนเบื้องต้น จำแนกเป็นค่าครุภัณฑ์ จำนวน ๑๔๘,๘๑๐.๑ ล้านบาท ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง จำนวน ๔๑๕,๔๔๐.๙ ล้านบาท ๓. เห็นชอบการปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28943 | ขอความเห็นชอบการดำเนินโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่นที่ 4 | ศธ | 21/01/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๕ (ฝ่ายสังคม) ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๖ ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา) เป็นประธานกรรมการ ที่เห็นชอบการดำเนินโครงการ ๑ อำเภอ ๑ ทุน รุ่นที่ ๔ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของคณะกรรมการฯ เกี่ยวกับการดำเนินโครงการฯ ในกลุ่มเป้าหมายนักเรียนทุนประเภทที่ ๒ ที่เป็นนักเรียนที่มีผลการเรียนดี ไม่จำกัดรายได้ของครอบครัวและศึกษาในสาขาขาดแคลนเน้นด้านวิทยาศาสตร์ โดยพิจารณาเชื่อมโยงกับการดำเนินการของกองทุนเพื่อการศึกษา (กรอ.) ในการให้ทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืนให้แก่นักศึกษาที่ศึกษาในสาขาที่เป็นความต้องการหลักต่อการพัฒนาประเทศ การสนับสนุนทุนการศึกษาสำหรับผู้เรียนดีทางด้านวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่เพื่อให้การผลิตและพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน การกำหนดแนวทาง/มาตรการในการคัดเลือกหรือเตรียมความพร้อมนักเรียนที่มีศักยภาพให้สามารถเข้ารับการศึกษาจนสำเร็จหลักสูตรและสร้างแรงจูงใจให้นักเรียนทุนเข้าศึกษาต่อในประเทศมากขึ้น และจัดทำฐานข้อมูลการติดตามนักเรียนทุนและประเมินผลการดำเนินโครงการฯ อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงาน ก.พ. สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการจัดสรรให้ผู้รับทุนไปศึกษาในแต่ละประเทศและสาขาวิชาควรคำนึงถึงโอกาสในการสำเร็จการศึกษาของผู้รับทุนเป็นสำคัญ และกำหนดสัดส่วนจำนวนนักเรียนที่จะไปศึกษาในแต่ละประเทศเพื่อให้การดูแลจัดการศึกษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งจัดทำแผนรองรับการเข้าทำงานทั้งในภาครัฐและเอกชนสำหรับผู้รับทุนที่สำเร็จการศึกษาแล้ว เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย และให้กระทรวงศึกษาธิการได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ (เรื่อง การปรับปรุงแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ และมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง) เป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายด้วย ๓. ให้กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ ๓.๑ กระบวนการคัดเลือกผู้รับทุน ให้กระทรวงศึกษาธิการเริ่มคัดเลือกนักเรียนทุนจากนักเรียนที่เรียนอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ หรือมัธยมศึกษาปีที่ ๕ เพื่อให้ผู้รับทุนมีเวลาเตรียมความพร้อมในเรื่องที่เกี่ยวข้องอย่างเพียงพอในการไปศึกษาในต่างประเทศ เช่น การใช้ภาษา การใช้ชีวิตในต่างประเทศ เป็นต้น ๓.๒ ให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงาน ก.พ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดให้มีกิจกรรมเข้าค่ายเป็นระยะๆ เพื่ออบรมให้ผู้รับทุนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาและการใช้ชีวิตในต่างประเทศปลูกฝังจิตสำนึกด้านคุณธรรม จริยธรรม ความกตัญญู ความรับผิดชอบต่อสังคม รวมทั้งให้มีความผูกพันกับภาครัฐ ตลอดจนรับฟังปัญหาของผู้รับทุนเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ทันการณ์ ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างการรับทุน หากผู้รับทุนต้องการหางานทำเพื่อให้มีรายได้ระหว่างเรียน ให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาจัดหางานให้ด้วย ๓.๓ เมื่อผู้รับทุนสำเร็จการศึกษาแล้ว ในระหว่างที่ยังไม่มีงานทำ ให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดหางานให้ทำชั่วคราวไปพลางก่อน |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28944 | การดำเนินโครงการพัฒนาเมือง | นร04 | 21/01/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. กรอบการดำเนินงานโครงการพัฒนาเมือง โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างกระบวนการการเรียนรู้ในด้านการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ของชุมชนโดยผู้มีภูมิลำเนาทั้งที่เป็นที่อยู่อาศัยและที่ทำงานในพื้นที่ชุมชน เพื่อการกระจายอำนาจการตัดสินใจในการพัฒนาเมืองไปสู่คนในพื้นที่ซึ่งจะส่งเสริมความเข้าใจในระบอบการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนเมืองและพัฒนาเมืองให้น่าอยู่อาศัย ส่งเสริมการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ สัมพันธ์กับความต้องการด้านสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมชุมชน พื้นที่เป้าหมาย กรุงเทพมหานคร ๕๐ เขต เทศบาลเมือง/เทศบาลนคร/อำเภอเมืองในแต่ละจังหวัด รวม ๗๖ จังหวัด งบประมาณ (๑,๓๐๐ ล้านบาท) ประกอบด้วย งบสนับสนุนชุมชน ๑,๐๐๘ ล้านบาท และงบดำเนินการ ๒๙๒ ล้านบาท ๒. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๘/๒๕๕๖ ลงวันที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินโครงการพัฒนาเมือง โดยมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) เป็นประธานกรรมการ เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นรองประธานกรรมการ และนายนที ขลิบทอง ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติเป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ในการจัดทำแนวทางการจัดสรรงบประมาณให้ชุมชนเมืองเพื่อสนับสนุนโครงการต่างๆ ให้สอดคล้องกับแผนงานที่กำหนดไว้บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของประชาชนและการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนเมือง รวมทั้งจัดทำระเบียบ ประกาศ และคำสั่ง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานเพื่อรองรับการปฏิบัติงาน เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28945 | การให้ความเห็นชอบบุคคลที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (นายอุดม มั่งมีดี) | สว | 21/01/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการลงมติของที่ประชุมวุฒิสภา ในคราวประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ ๕ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันจันทร์ที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๖ ไม่ให้ความเห็นชอบนายอุดม มั่งมีดี ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ และให้กระทรวงยุติธรรมรับไปดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28946 | แจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ ฟ. 8/2550 คดีหมายเลขแดงที่ ฟ. 105/2555 ระหว่างนายมานิตย์ ชัยมงคล ฟ้องการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย กับพวกรวม 3 คน ต่อศาลปกครองสูงสุด เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของพระราชกฤษฎีกา ซึ่งมีคำพิพากษายกฟ้อง | อส | 21/01/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคดีปกครอง สำนักงานอัยการสูงสุดแจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขดำที่ ฟ. ๘/๒๕๕๐ คดีหมายเลขแดงที่ ฟ. ๑๐๕/๒๕๕๐ ระหว่าง นายมานิตย์ ชัยมงคล ผู้ฟ้องคดี กับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ และคณะรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของพระราชกฤษฎีกา ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายกฟ้อง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28947 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2542 รวม 4 ฉบับ | พน | 21/01/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวง รวม ๔ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้ง การอนุญาต และอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้ง การอนุญาต และอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๔๖ เพื่อให้ครอบคลุมถึงการประกอบกิจการน้ำมัน ก๊าซปิโตรเลียมเหลว และก๊าซธรรมชาติ ๒. ร่างกฎกระทรวงคลังน้ำมัน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบกิจการคลังน้ำมัน ๓. ร่างกฎกระทรวงระบบไฟฟ้าและระบบป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าของสถานที่ประกอบกิจการน้ำมัน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าและระบบป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าของสถานที่ประกอบกิจการน้ำมัน ๔. ร่างกฎกระทรวงกำหนดคุณสมบัติของผู้ทดสอบและตรวจสอบน้ำมันและผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการทดสอบและตรวจสอบน้ำมัน และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการทดสอบและตรวจสอบน้ำมัน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดคุณสมบัติของผู้ทดสอบและตรวจสอบน้ำมันและผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการทดสอบและตรวจสอบน้ำมัน และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการทดสอบและตรวจสอบน้ำมัน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28948 | การดำเนินการตามมาตรการการป้องกันไฟป่าและหมอกควันประจำปี 2556 | นร | 21/01/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการการป้องกันไฟป่าและหมอกควันประจำปี ๒๕๕๖ (เพิ่มเติม) โดยเปลี่ยนจากเดิม “ควบคุมการเผา” เป็น “ไม่มีการเผา” ใช้ระบบ Single Command มีคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยเป็นผู้รับผิดชอบ และใช้ระบบ Area Approach มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนหน้า (Forward Command) และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย กระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการในส่วนที่ได้รับมอบหมาย ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายปลอดประสพ สุรัสวดี) เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28949 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) (นางสาวอัจฉรา วงศ์แสงจันทร์) | วท | 21/01/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางสาวอัจฉรา วงศ์แสงจันทร์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28950 | การดำเนินการเกี่ยวกับหนังสือร้องเรียนที่ยื่นกราบเรียนนายกรัฐมนตรี | นร04 | 21/01/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบประเด็นเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ของประชาชนและองค์กรต่าง ๆ ที่ได้ยื่นหนังสือกราบเรียนนายกรัฐมนตรี ในระหว่างการปฏิบัติราชการ ณ จังหวัดตาก สุโขทัย และอุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๖ โดยให้หน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการและติดตามการดำเนินการตามข้อร้องเรียนต่อไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ และมอบหมายการดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้
๑. กรณีข้อร้องเรียนติดตามเงินชดเชยพิเศษกลุ่มเกษตรกรผู้ที่ปลูกอ้อยเพื่อผลิตเอทานอล จังหวัดตาก ให้กระทรวงพลังงานเป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาจัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยเพื่อผลิตเอทานอล จังหวัดตาก ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๕๕ (เรื่อง ขอรับการสนับสนุนเงินชดเชยพิเศษให้กับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยเพื่อผลิตเอทานอล จังหวัดตาก) ให้ถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องโดยเร็วต่อไป ๒. กรณีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาราคาลำไยอบแห้งตกต่ำ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นเจ้าภาพหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดมาตรการและแนวทางแก้ไขปัญหาในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้าร่วมการพิจารณาและประสานงานเพื่อเร่งรัดการดำเนินการที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28951 | การดำเนินการโครงการตามมติคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี | นร07 | 21/01/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินโครงการตามมติคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ โดยมีผลการดำเนินการ ดังนี้
๑. การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ใช้จ่ายจากเงินงบกลางสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ณ จังหวัดเชียงใหม่ อุดรธานี ภูเก็ต กาญจนบุรี ชลบุรี และสุรินทร์ รวม ๖ ครั้ง จำนวน ๒๒๔ โครงการ วงเงิน ๕,๖๕๓.๕๙ ล้านบาท สำนักงบประมาณอนุมัติจัดสรรเสร็จสิ้นแล้วรวม ๒๒๓ โครงการ วงเงิน ๕,๓๖๓.๐๒ ล้านบาท โดยมีหน่วยงานยกเลิกไม่ขอรับการจัดสรร ๑ โครงการ วงเงิน ๑๕.๐๐ ล้านบาท ได้แก่ โครงการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำพร้อมระบบกระจายน้ำสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการขยายผลโครงการหลวงแม่สลอง (เชียงราย) ซึ่งได้รับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยาฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ (๑๒๐,๐๐๐ ล้านบาท) แล้ว จึงไม่ขอรับจัดสรรฯ ๒. การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินการโครงการเร่งด่วนตามมติคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ณ วันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๖ ๒.๑ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ใช้จ่ายจากเงินงบกลางสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน ๒๗ โครงการ วงเงิน ๕๑๗.๓๔ ล้านบาท และผูกพันงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๗ จำนวน ๓๖.๐๐ ล้านบาท ๒.๒ หน่วยงานขอรับการจัดสรรแล้ว จำนวน ๒๐ โครงการ วงเงิน ๓๗๑.๗๑ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๗๑.๘๕ ของวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ และสำนักงบประมาณอนุมัติจัดสรรให้แล้วทั้ง ๒๐ โครงการ วงเงิน ๓๖๙.๖๗ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๙๙.๔๕ ของวงเงินที่ขอรับการจัดสรร ๒.๓ โครงการที่ได้รับอนุมัติงบกลางแต่ยังไม่ขอรับการจัดสรรทั้งสิ้น จำนวน ๖ โครงการ วงเงิน ๑๔๕.๖๓ ล้านบาท อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดประกอบการขอรับการจัดสรร คาดว่าจะขอรับการจัดสรรได้ภายในเดือนมกราคม ๒๕๕๖
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28952 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. .... | นร11 | 21/01/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ๒. ให้รับความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการปรับองค์ประกอบคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินการ รวมทั้งความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่เห็นว่า การให้บริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ อาจมีปัญหาอุปสรรคของการดำเนินงานในทางปฏิบัติ เนื่องจากส่วนราชการต่าง ๆ ที่จะไปให้บริการภายในศูนย์การให้บริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จไม่สามารถดำเนินงานได้อย่างมีเอกภาพ ส่วนหน่วยงานที่ประสงค์จะรับผิดชอบเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในขั้นตอนการจัดทำร่างแผนแม่บท ควรบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ตลอดจนภาคีพัฒนาที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากร่างแผนแม่บทมีประเด็นรายละเอียดการดำเนินงานค่อนข้างมาก นอกจากนี้ นโยบายจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจะต้องได้รับการสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงควรกำหนดให้มีผู้แทนจากคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณา ทั้งนี้ ให้แก้ไขคำนิยาม “เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ” ให้ครอบคลุมพื้นที่ที่ไม่ได้มีการค้าบริเวณพรมแดนด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. เมื่อร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. .... มีผลใช้บังคับแล้ว ให้นำเรื่องเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแม่สอดมาพิจารณาดำเนินการเป็นลำดับแรก |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28953 | ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) | กค | 21/01/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ขยายเวลาการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่มีปริมาณกำมะถันไม่เกินร้อยละ ๐.๐๐๕ โดยน้ำหนัก ในอัตราภาษี ๐.๐๐๕ บาทต่อลิตร และน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๔ ในอัตราภาษี ๐.๐๐๕ บาทต่อลิตร ออกไปอีก ๑ เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28954 | ผลการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ครั้งที่ 1/2556 | นร11 | 21/01/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๖ ณ จังหวัดอุตรดิตถ์ ๒. เห็นชอบตามมติที่ประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในภูมิภาคครั้งที่ ๑/๒๕๕๖ ณ จังหวัดอุตรดิตถ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการตามมติที่ประชุม รวมทั้งรายงานผลการดำเนินงานให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป ดังนี้ ๒.๑ ข้อเสนอของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน ๓ สถาบัน (สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ๒.๑.๑ การส่งเสริมการค้าและการลงทุน ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงมหาดไทยเป็นแกนกลางในการแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วนของการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ แม่สอด จังหวัดตาก เช่น ปัญหารถบรรทุกสินค้าที่มีน้ำหนักเกิน ปัญหาโครงสร้างที่ชำรุด เป็นต้น และให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นหน่วยงานบูรณาการหลักร่วมกับสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อกำหนดกรอบแนวทางการพัฒนาในภาพรวม โดยนำข้อเสนอการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด จังหวัดตาก เข้ามาพิจารณาในคณะกรรมการดังกล่าว และนำความเห็นที่ประชุมไปประกอบการพิจารณาด้วย รวมทั้งให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปศึกษาและเตรียมความพร้อมหากมีการยกระดับจุดผ่อนปรนภูดู่ขึ้นเป็นจุดผ่านแดนถาวร และให้กระทรวงการต่างประเทศติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานดังกล่าว ๒.๑.๒ การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดดำเนินการขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๒ (พิษณุโลก-หล่มสัก) จาก ๒ ช่องจราจร เป็น ๔ ช่องจราจรให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ และรับข้อเสนอของภาคเอกชนไปพิจารณาทบทวนโครงการศึกษาและพัฒนาจังหวัดพิษณุโลกเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางภาคเหนือตอนล่างและสี่แยกอินโดจีน โดยให้ศึกษาความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ โดยคำนึงถึงจุดพื้นที่ตั้งของศูนย์กลางที่มีความเหมาะสมในการเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางและพื้นที่โดยรอบ ๒.๑.๓ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงมหาดไทยรับข้อเสนอของภาคเอกชนไปศึกษาและจัดทำรายละเอียดโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก รวมทั้งแผนงาน/โครงการเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ๑ และเสนอคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ๒.๑.๔ การส่งเสริมการท่องเที่ยวและบริการสุขภาพ ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รับไปพิจารณาในรายละเอียดโครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพภาคเหนือตอนล่าง จังหวัดพิษณุโลก เพื่อเป็น Medical Excellence Centre/Medical Tourism โดยจัดลำดับความสำคัญในส่วนที่มีความจำเป็นและสอดคล้องกับเป้าหมายของโครงการเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณประจำปีตามขั้นตอนต่อไป ๒.๑.๕ รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามมติการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ที่ประชุมมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าดังกล่าวตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ และให้ฝ่ายเลขานุการติดตามความคืบหน้าการดำเนินการ มารายงานให้ที่ประชุมทราบเป็นระยะ ๒.๒ เรื่องอื่น ๆ ที่สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย/คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน ๓ สถาบันเสนอ ๒.๒.๑ การยกระดับบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงแรงงานรับไปดำเนินการพัฒนาบุคลากรในภาคการท่องเที่ยวในช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน ๒๕๕๖ ให้เสร็จทันก่อนฤดูกาลการท่องเที่ยวปี พ.ศ. ๒๕๕๖ และให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเร่งดำเนินการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการท่องเที่ยวเพื่อขับเคลื่อนนโยบายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว ๒ ล้านล้านบาท ภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อให้ที่ประชุมได้พิจารณารายละเอียดของโครงการและสนับสนุนงบประมาณ รวมทั้งให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำแผนการกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่อหัวให้เพิ่มสูงขึ้น ๒.๒.๒ มาตรการเร่งด่วนเพื่อผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพในภูมิภาคอาเซียน ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงพลังงานเป็นหน่วยงานหลักดำเนินการร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดตั้งกลไกเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพโดยบูรณาการการทำงานร่วมกันกับภาคเอกชน ตั้งแต่การกำหนดนโยบาย การจัดหาวัตถุดิบที่เหมาะสม การกำหนดมาตรการส่งเสริม ตลอดจนพิจารณาเลือกจังหวัดต้นแบบที่มีความเหมาะสมตามลักษณะการจัดเขตพื้นที่ ๒.๒.๓ ความคืบหน้าการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ (ระบบราง) ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดการจัดทำแผนการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์ด้านระบบรางของประเทศในภาพรวมให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด โดยหารือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ๒.๒.๔ ความคืบหน้าการส่งเสริมการค้าการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่ประชุมมีมติให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านในการพัฒนาด่านชายแดนให้สอดคล้องกับประเทศไทย และนำเข้าบูรณาการในคณะกรรมการนโยบายพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ๒.๒.๕ บทบาทภาคเอกชนในการขับเคลื่อนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ ไปสู่การปฏิบัติ ที่ประชุมมีมติให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับไปพิจารณาร่วมกับภาคเอกชนทั้ง ๕ สถาบัน เพื่อกำหนดแนวทางการทำงานในการขับเคลื่อนประเด็นการพัฒนาที่ได้มีข้อสรุปร่วมกันในการประชุมเชิงปฏิบัติการภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ให้เป็นรูปธรรม และประสานกับกลไกการขับเคลื่อนที่คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการอยู่แล้ว โดยจัดลำดับความสำคัญของประเด็นการพัฒนาให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศ ๒.๒.๖ ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย พ.ศ. .... (ผลกระทบตามประกาศ Financial Action Task Force : FATF) ที่ประชุมมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอว่า รัฐบาลได้พิจารณาผ่านร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว และรัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๖ ขณะนี้อยู่ระหว่างการยกร่างอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีผลบังคบใช้ทันกำหนดการประชุมของกลุ่มความร่วมมือต่อต้านในการฟอกเงินเอเชีย-แปซิฟิก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ที่มีกำหนดการประชุมในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28955 | ข้อเสนอแผนงาน/โครงการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 รวม 5 จังหวัด ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ณ จังหวัดอุตรดิตถ์ วันที่ 20 - 21 มกราคม 2556 | นร11 | 21/01/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบผลการพิจารณาข้อเสนอแผนงาน/โครงการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ๑ รวม ๕ จังหวัด (จังหวัดพิษณุโลก ตาก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์) ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ณ จังหวัดอุตรดิตถ์ วันที่ ๒๐-๒๑ มกราคม ๒๕๕๖ ตามที่สำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบแผนงาน/โครงการที่มีความพร้อมและสามารถดำเนินการได้ทันที จำนวน ๓๓ โครงการ วงเงินรวม ๖๑๗.๗๐๗๓ ล้านบาท โดยให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเร่งจัดทำรายละเอียดคำขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๖ จัดส่งให้สำนักงบประมาณภายใน ๒ สัปดาห์ เพื่อสำนักงบประมาณพิจารณาวงเงินงบประมาณที่เหมาะสม โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ๑.๒ เห็นชอบในหลักการของกรอบข้อเสนอแผนงาน/โครงการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ๑ รวม ๕ จังหวัด จำนวน ๗๘ โครงการ วงเงินรวม ๕๑,๓๘๕.๔๗ ล้านบาท โดยให้หน่วยงานรับผิดชอบรับไปพิจารณาศึกษาความเหมาะสม และจัดทำรายละเอียดแผนงาน/โครงการ รวมทั้งดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้วแต่กรณี เพื่อให้สำนักงบประมาณใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาจัดสรรงบประมาณประจำปีตามลำดับความสำคัญของแผนงาน/โครงการตามขั้นตอน และรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณไปประกอบการดำเนินการต่อไป ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขร่วมเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพภาคเหนือตอนล่างด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28956 | ผลการปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 | นร11 | 21/01/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบความเห็นของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ลงพื้นที่โครงการที่มีความพร้อมและมีความจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันที ในกรอบวงเงิน ๑๐๐ ล้านบาท ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ๑ รวม ๕ จังหวัด (จังหวัดพิษณุโลก ตาก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์) ได้แก่ ๑.๑ โครงการพัฒนาแหล่งน้ำแก้มลิงบึงบัว ระยะที่ ๑ โดยสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน ๒๕.๐๐ ล้านบาท ๑.๒ โครงการปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวหนองน้ำมณีบรรพต ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของกลุ่มจังหวัด เพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) บนเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจ โดยสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน ๒๕.๐๐ ล้านบาท ๑.๓ โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเครือข่ายคมนาคม ดำเนินการก่อสร้างขยายทางจราจรจาก ๒ ช่องจราจร เป็น ๔ ช่องจราจร พร้อมสิ่งอำนวยความปลอดภัย ทางหลวงหมายเลข ๑๐๒ ตอนควบคุม ๐๒๐๐ ตอน ห้วยช้าง-ศรีสัชนาลัย ระหว่าง กม. ๓๙+๐๕๐ - กม. ๓๙+๙๐๔ โดยสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน ๒๐.๐๐ ล้านบาท ๑.๔ โครงการพัฒนาการเรียนการสอนและบริการวิชาการแก่ท้องถิ่นเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ของจังหวัด โดยสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน ๑๓.๖๖๕ ล้านบาท ๑.๕ โครงการปรับปรุงโครงข่ายคมนาคมของจังหวัดอุตรดิตถ์รองรับการค้าชายแดนภูดู่ และ AEC โดยสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน ๑๖.๓๒๕ ล้านบาท ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำรายละเอียด คำขอรับการจัดสรรงบประมาณ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๖ และจัดส่งให้สำนักงบประมาณโดยเร่งด่วน พร้อมทั้งให้รับความเห็นของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีไปดำเนินการต่อไป ๓. เห็นชอบตามความเห็นและข้อสั่งการเพิ่มเติมในพื้นที่ดูงานของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เห็นควรสนับสนุนการดำเนินโครงการจัดหาครุภัณฑ์ประกอบอาคารส่งเสริมสุขภาพ และพักผู้ป่วยใน ๔ ชั้น โรงพยาบาลลับแล โดยให้ใช้จ่ายจากงบรายได้และปรับแผน ในวงเงิน ๑๒.๔๖๑๑ ล้านบาท และพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ให้สำนักงานชลประทานเขตและชลประทานจังหวัดรับเรื่องโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำคลองแม่น้ำเก่า เชื่อมต่อคลองตาแดง อำเภอศรีนคร จังหวัดสุโขทัย ไปทำการศึกษาและพิจารณาดำเนินการ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่โดยด่วนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28957 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2555 เรื่อง การจัดตั้งสำนักงานให้ความช่วยเหลือทางวิชาการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศในประเทศไทย | กค | 21/01/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๕ (เรื่อง การจัดตั้งสำนักงานให้ความช่วยเหลือทางวิชาการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ) โดยให้เพิ่มเติมข้อความว่า คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้ยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๒๘ (เรื่อง การยกเลิกเอกสิทธิทางภาษีอากรสำหรับคนไทยในองค์การหรือสถาบันระหว่างประเทศ) ๑.๒ อนุมัติการยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่พนักงาน เจ้าหน้าที่คนไทยที่ปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund : IMF) ในประเทศไทย ๒. ให้ถือเป็นการกำหนดข้อผูกพันเฉพาะสำหรับสำนักงานให้ความช่วยเหลือทางวิชาการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศในประเทศไทยเท่านั้น ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำและเป็นแนวปฏิบัติเดียวกันกับกรณีสำนักงานในประเทศไทยขององค์การสหประชาชาติและสถาบันการเงินระหว่างประเทศอื่นๆ รวมทั้งกรณีที่กระทรวงการคลังเสนอนี้ไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการสูญเสียรายได้จากภาษีเงินได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28958 | ขออนุมัติเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 งบกลาง สำหรับครุภัณฑ์ประกอบอาคารที่ทำการศาลจังหวัดนครสวรรค์ ขนาด 24 บัลลังก์ และศาลอุทธรณ์ภาค 6 1 หลัง พร้อมบ้านพักและสิ่งก่อสร้างประกอบ | ศย | 21/01/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีสำหรับรายการครุภัณฑ์ประกอบอาคารที่ทำการศาลจังหวัดนครสวรรค์ ขนาด ๒๔ บัลลังก์ และศาลอุทธรณ์ภาค ๖ ๑ หลัง พร้อมบ้านพักและสิ่งก่อสร้างประกอบ ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ ๒. ให้สำนักงานศาลยุติธรรมเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๕๕,๐๓๔,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับครุภัณฑ์ประกอบอาคารที่ทำการศาลจังหวัดนครสรรค์ ขนาด ๒๔ บัลลังก์ และศาลอุทธรณ์ภาค ๖ ๑ หลัง พร้อมบ้านพักและสิ่งก่อสร้างประกอบ ตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเสนอเพิ่มเติม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28959 | การปรับปรุงระบบการบริหารโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง | กษ | 21/01/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๓ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๖ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๓ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) เสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติให้องค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) เบิกจ่ายเงินกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในวงเงิน ๕,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อใช้ดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง [ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๕๕ (เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาราคายางพารา)] ๑.๒ ให้ยกเว้นการค้ำประกันเงินกู้ของ อ.ส.ย. กับ ธ.ก.ส. เพื่อไม่ให้เป็นการซ้ำซ้อน เนื่องจากกระทรวงการคลังได้ค้ำประกันเงินกู้ระหว่าง ธ.ก.ส. กับสถาบันการเงินแหล่งเงินกู้แล้ว ๑.๓ ให้ อ.ส.ย. ส่งรายงานผลการดำเนินงานตามโครงการฯ [ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๕๕ (เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาราคายางพารา)] ให้คณะรัฐมนตรีประกอบการพิจารณาต่อไป ๒. ให้ ธ.ก.ส. สำรองจ่ายเงินกู้ให้แก่ อ.ส.ย. ไปก่อนตามแผนธุรกิจที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารโครงการแล้ว โดยชดเชยต้นทุนเงินให้ ธ.ก.ส. ในอัตรา FDR+1 เช่นเดียวกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๕ (เรื่อง การรักษาเสถียรภาพราคายาง) ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงบประมาณที่ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำกับและติดตามการดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางให้เหมาะสมและสอดคล้องกับภาวะตลาด เพื่อมิให้เกิดภาระงบประมาณในภาพรวมที่รัฐจะต้องชดเชยผลการขาดทุนจากการรับซื้อยางตามโครงการฯ ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28960 | ร่างกฎกระทรวงและร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีออกตามความในกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รวม 2 ฉบับ | ปง | 21/01/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงและร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีออกตามความในกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาโดยด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ๑.๑ ยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า พ.ศ. ๒๕๕๕ ๑.๒ กำหนดนิยามคำว่า “ลูกค้า” และ “บุคคลที่มีการตกลงกันทางกฎหมาย” เป็นต้น ๑.๓ กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า ๒. ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง วิธีการแสดงตนของลูกค้าสถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพตามมาตรา ๑๖ มีสาระสำคัญคือ ๒.๑ ยกเลิกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง วิธีการแสดงตนของลูกค้าสถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพตามมาตรา ๑๖ ลงวันที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ๒.๒ กำหนดนิยามคำว่า “ลูกค้า” และ “ผู้ที่ทำธุรกรรมเป็นครั้งคราว” ๒.๓ กำหนดข้อมูลที่ใช้ประกอบการแสดงตนสำหรับลูกค้าที่เป็นบุคคลธรรมดา |
.....