ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1316 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 26301 - 26320 จากข้อมูลทั้งหมด 124012 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
26301 | มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 | 10/06/2557 | ||||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติรับทราบมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ โดยการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ของทุกหน่วยงานจะต้องดำเนินการให้เกิดประสิทธิภาพอย่างถูกต้องโปร่งใส จึงมอบให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ดำเนินการติดตามและตรวจสอบแผนงานหรือโครงการที่มีปัญหา โดยเน้นแผนงานหรือโครงการสำคัญที่มีผลต่อความเป็นอยู่ของประชาชนและการพัฒนาประเทศเป็นหลักทั้งในส่วนที่ได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการไว้ก่อนและหลังวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ หากตรวจสอบพบข้อทุจริตหรือมีข้อร้องเรียน ให้รายงานต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบโดยเร็วก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของทางราชการต่อไป ทั้งนี้ อาจส่งเรื่องให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเพื่อพิจารณาต่อไป ตามแต่กรณี
|
||||||||||||||||||||||||
26302 | ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 | สลธ.คสช. | 10/06/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติเห็นชอบยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ทั้งนี้ ให้สำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตของคณะรักษาความสงบแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการด้วย ดังนี้
๑. ยุทธศาสตร์การฟื้นฟูความเชื่อมั่นและเร่งรัดวางรากฐานที่ดีของประเทศ ข้อ ๑.๑ การเร่งรัดการช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน เรื่องเร่งด่วนดังกล่าวให้หมายถึงเรื่องที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ขาดแคลน ประสบภัยพิบัติ ตลอดจนอาคารสถานที่เก่าแก่หรือชำรุดเสียหายใช้งานไม่ได้ เช่น อาคารเรียนพังทลายจากภัยธรรมชาติ เป็นต้น ข้อ ๑.๒ การฟื้นฟูความเชื่อมั่นและกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน ให้ทุกฝ่ายรับไปพิจารณาดำเนินการตามมาตรการเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องต่อไป ข้อ ๑.๓ การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับเรื่องปรองดอง การสร้างระเบียบวินัยของคนในสังคม โดยต้องมีมาตรการการป้องกัน แก้ไข และฟื้นฟูเพื่อสร้างความมั่นคงของประเทศ ข้อ ๑.๕ การดำเนินการตามกรอบข้อตกลงประชาคมอาเซียน ต้องสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับ ๓ เสาหลักของประชาคมอาเซียน ซึ่งได้แก่ ประชาคมการเมือง ความมั่นคงอาเซียน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน และมอบให้ฝ่ายความมั่นคงรับไปพิจารณาดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อเตรียมความพร้อมในการขับเคลื่อนการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนต่อไป ข้อ ๑.๖ การขับเคลื่อนการวางโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นเพื่อรองรับการพัฒนาสู่อนาคต ต้องจัดระบบโครงสร้างพื้นฐานให้มีความเหมาะสมและเชื่อมโยงกันทั้งในส่วนของภายในประเทศและกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งให้ครอบคลุมถึงการสร้างทางหลวงและทางหลวงชนบทด้วย ๒. ยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการดำเนินการตามกรอบข้อตกลงประชาคมอาเซียน การขับเคลื่อนการวางโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นเพื่อรองรับการพัฒนาสู่อนาคต และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และระบบโลจิสติกส์ ต้องพิจารณาดำเนินการทั้ง ๓ ส่วน ให้มีความเหมาะสม สอดคล้อง และเชื่อมโยงกัน
|
||||||||||||||||||||||||
26303 | แนวทางการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ | สลธ.คสช. | 10/06/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. รับทราบขั้นตอนและการเตรียมการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติเพื่อขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ให้ความเห็นชอบแล้ว ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเรื่องสำคัญ จำเป็น เร่งด่วน หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจะให้จัดประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติเพิ่มเติมตามที่เห็นสมควร โดยกำหนดให้มีการประชุมครั้งแรกในวันอังคารที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๗ มีขั้นตอนและการเตรียมการประชุมฯ ดังนี้ ๑.๑ ขั้นตอนการดำเนินการพิจารณาเรื่องเข้าสู่วาระการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติเพื่อขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดิน ๑.๒ ประเภทเรื่องที่นำเสนอต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ๑.๓ ระเบียบวาระการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติในวันอังคารที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๗ ๑.๔ องค์ประกอบการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติเพื่อขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดิน ๒. ให้เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเป็นผู้ตรวจพิจารณาร่างมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ๓. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการแจ้งเวียนมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
26304 | ข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ | สลธ.คสช. | 10/06/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติเห็นชอบข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ดังนี้
๑. เรื่องด้านงบประมาณ ๑.๑ เพื่อให้การอนุมัติใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐเสนอเรื่องต่อปลัดกระทรวงเพื่อเสนอหัวหน้าฝ่ายที่รับผิดชอบการปฏิบัติราชการพิจารณาให้ความเห็นชอบ แล้วจึงเสนอหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือคณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาอนุมัติหลักการหรือให้ความเห็นชอบแล้วแต่กรณีต่อไป โดยกรณีที่มีวงเงินไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท ให้นำเสนอหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเพื่อพิจารณาอนุมัติ หากวงเงินเกินกว่า ๑๐๐ ล้านบาท ให้เสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติเพื่อพิจารณาอนุมัติ ๑.๒ เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐในกรณีต่าง ๆ เช่น งบประมาณปกติ งบกลาง และงบประมาณผูกพันข้ามปี เป็นต้น เป็นไปในแนวทางเดียวกันและถูกต้อง มอบให้สำนักงบประมาณรับไปดำเนินการจัดทำสรุปขั้นตอนการใช้จ่ายงบประมาณในกรณีต่าง ๆ ให้ชัดเจน ครบถ้วน แล้วเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบอีกครั้งหนึ่งต่อไป ๑.๓ เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ของแต่ละกระทรวงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ให้แต่ละกระทรวงพิจารณาทบทวนโครงการ/งานที่เป็นเรื่องเดียวกันและอาจซ้ำซ้อนกับของกระทรวงอื่น เพื่อนำมาบูรณาการร่วมกันให้เกิดประสิทธิภาพและไม่เกิดความซ้ำซ้อน สำหรับแผนงานหรือโครงการของส่วนราชการใดที่ยังไม่ดำเนินการ ให้ส่วนราชการพิจารณาทบทวนหรือปรับแผนงานหรือโครงการดังกล่าวให้เหมาะสม โดยให้คำนึงถึงความเป็นธรรม ทั่วถึง และเป็นไปตามวินัยการเงินการคลัง ๑.๔ มอบหมายให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาร่วมกับสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการจัดเก็บรายได้ภาครัฐให้เป็นมาตรฐาน โดยพิจารณาในแง่ของประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์เป็นหลัก โดยกำหนดมาตรฐานให้เกิดความเป็นธรรมและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปกำหนดกลไกการดำเนินการ โดยเริ่มจากการเก็บภาษีก่อน เช่น ภาษีที่ดิน ภาษีมรดก รายได้ของรัฐที่ได้จากสัมปทาน เป็นต้น ๑.๕ การพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ในส่วนของฝ่ายนิติบัญญัติ กรณีที่ยังไม่มีรัฐธรรมนูญใช้บังคับ ในขั้นตอนการตั้งคณะกรรมาธิการ ให้สำนักงบประมาณรับไปเตรียมการในเรื่องดังกล่าวไว้ล่วงหน้า โดยให้พิจารณาความเป็นไปได้ในการกำหนดองค์ประกอบของคณะกรรมาธิการให้มีผู้แทนจากทุกภาคส่วนทั้งภาคเศรษฐกิจ ภาคประชาชน หรือผู้มีส่วนได้เสียได้เข้าร่วมพิจารณาให้ข้อคิดเห็นด้วย ๑.๖ ให้ปรับโครงสร้างการจัดส่วนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติให้ครอบคลุมกรุงเทพมหานคร โดยให้เป็นหน่วยงานขึ้นตรงต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทั้งนี้ เพื่อให้มีการกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณของกรุงเทพมหานครให้มีความโปร่งใสตรวจสอบได้ ๑.๗ มอบหมายรองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (พลโท ชาตอุดม ติตถะสิริ) ร่วมกับสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รวบรวมรายชื่อคณะกรรมการตามกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี เพื่อกำหนดกลไก แนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ให้มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การจัดทำงบประมาณ และมีการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงาน ๑.๘ มอบหมายให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีรวบรวมหน่วยงานและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อหาแนวทางในการบูรณาการการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ให้มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การจัดทำงบประมาณและนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ๒. เรื่องที่ต้องเร่งรัดดำเนินการ ๒.๑ กฎหมายที่เป็นเรื่องเร่งด่วนและเป็นข้อจำกัดต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ความมั่นคง สังคมจิตวิทยา ให้ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมไปรวบรวมและจัดทำแผนงานว่าเรื่องใดควรดำเนินการในระยะที่ ๑ ระยะที่ ๒ หรือระยะที่ ๓ โดยให้เร่งดำเนินการเรื่องที่อยู่ในระยะที่ ๑ ก่อน ๒.๒ โครงการโรงงานยาสูบ ระยะที่ ๒ ให้ดำเนินการตามแผนงานเดิม โดยให้ปรับพื้นที่โรงงานเดิมเป็นสวนสาธารณะ แต่หากจำเป็นจะต้องก่อสร้างที่จอดรถในพื้นที่ดังกล่าวให้ดำเนินการเป็นที่จอดรถใต้ดิน ๒.๓ การแต่งตั้งคณะกรรมการในรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ให้มีการพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและมีเวลาเพียงพอที่จะช่วยพัฒนาองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น คณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นต้น ๒.๔ การทำความเข้าใจกับต่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในประเทศมีแนวโน้มที่ดีขึ้น อย่างไรก็ดี มอบหมายให้หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงเร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน และการนิรโทษกรรมที่ยังมีข้อโต้แย้ง รวมทั้งติดตามสถานการณ์การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในสื่อสังคมออนไลน์อย่างใกล้ชิด โครงการลงทุนต่าง ๆ ๒.๕ ให้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเร่งดำเนินการผลักดันโครงการต่าง ๆ โดยคำนึงถึงผลตอบแทนที่ประเทศจะได้รับเป็นสำคัญ เช่น การจ้างงานในประเทศ การใช้วัตถุดิบภายในประเทศ สนับสนุนให้เกิดวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของคนไทย ส่งเสริมการประหยัดพลังงานและไม่ก่อให้เกิดมลพิษและมีการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีให้กับคนไทย เป็นต้น ๒.๖ โครงการลงทุนทางด้านโครงสร้างพื้นฐานให้เร่งดำเนินการโครงการที่ได้รับอนุมัติและได้รับการจัดสรรงบประมาณไว้แล้ว รวมทั้งเป็นโครงการที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน เช่น โครงการรถไฟรางคู่ โครงการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต สำหรับแผนงานหรือโครงการใดที่มีข้อร้องเรียนหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการทุจริต ให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) รับไปติดตาม ตรวจสอบ ก่อนดำเนินการต่อไป การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ๒.๗ มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งกำหนดมาตรการในการดูแลราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคให้มีความเหมาะสมและเป็นธรรมต่อทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค โดยให้พิจารณารายละเอียดกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ให้มีความสอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาผลิตผลทางการเกษตร มอบหมายให้หน่วยงานราชการดำเนินโครงการช่วยเหลือเกษตรกร โดยให้กองทัพบกเป็นหน่วยงานนำร่องในการรับซื้อผลิตผลจากเกษตรกรโดยตรง ๒.๘ มอบหมายให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา เพื่อลดความเดือดร้อนแก่ประชาชน กลุ่มผู้ค้ารายย่อย เช่น กลุ่มคนพิการ เป็นต้น ๒.๙ มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงอุตสาหกรรมเร่งกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาขยะ การกำจัดน้ำเสียจากโรงงาน รวมทั้งการสร้างมูลค่าเพิ่มจากขยะ โดยเริ่มต้นจากการให้ทุกส่วนราชการดำเนินมาตรการแยกประเภทและบริหารจัดการขยะให้เกิดประโยชน์สูงสุด ๒.๑๐ สำหรับโครงการบริหารจัดการน้ำ มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินโครงการที่ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งการป้องกันน้ำท่วมและแก้ปัญหาภัยแล้ง เช่น การขุดลอกคูคลองแหล่งน้ำธรรมชาติที่มีอยู่แล้ว เป็นต้น การศึกษา ๒.๑๑ มอบหมายให้หัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยารับไปพิจารณาแก้ไขปัญหาเรื่องกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) การขาดแคลนครูในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกล รวมทั้งการเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็ก เช่น การพัฒนาการเชื่อมโยงการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม โดยเชื่อมต่อกับโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นต้น ๓. เรื่องด้านความมั่นคง การแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ ๓ หน่วยงาน ได้แก่ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และส่วนราชการปกติ บูรณาการการทำงานเพื่อให้เกิดเอกภาพ โดยให้ กอ.รมน. ภาค ๔ เป็นส่วนหน้าในการดำเนินการ ทั้งนี้ ให้มีการจัดทำแผนงานด้านความมั่นคง และให้มีคณะกรรมการฟื้นฟูเพื่อสันติภาพ เพื่อสร้างความไว้วางใจและเชื่อมั่นแก่ประชาชนด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
26305 | การพิจารณาให้ความเห็นชอบการสับเปลี่ยนหน้าที่ ย้ายหรือโอนของนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม (กระทรวงยุติธรรม) (แต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง (กระทรวงยุติธรรม)) | สลธ.คสช. | 10/06/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติโอนนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งปลัดกระทรวง (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ (นักบริหารระดับสูง) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้กำหนดชื่อตำแหน่งในสายงานตามตัวบุคคลผู้ได้รับการแต่งตั้ง และยังคงดำรงตำแหน่งในสายงานเดิม รวมทั้งให้ผู้ได้รับการแต่งตั้งได้รับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และสิทธิประโยชน์อื่นตามที่ได้รับอยู่เดิม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ทั้งนี้ เป็นไปตามความประสงค์ของนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์
|
||||||||||||||||||||||||
26306 | ตั้งกรรมการเพิ่มเติม (สถานการณ์แผ่นดินไหว) | นร05 | 08/05/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้รองนายกรัฐมนตรี (นายยุคล ลิ้มแหลมทอง) ร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๖ และ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง สรุปสถานการณ์แผ่นดินไหวที่จังหวัดเชียงราย) เห็นชอบให้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อทำหน้าที่ในการตรวจสอบติดตามดำเนินการแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ทั้งนี้ เพื่อให้องค์ประกอบของคณะกรรมการดังกล่าวมีความครบถ้วนและสามารถดำเนินงานในด้านต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||
26307 | การมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้ตรวจพิจารณาร่างมติคณะรัฐมนตรี | นร04 | 08/05/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา) เป็นผู้ตรวจพิจารณาร่างมติคณะรัฐมนตรี
|
||||||||||||||||||||||||
26308 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ , พลตำรวจตรี ธวัช บุญเฟื่อง) | นร04 | 08/05/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง จำนวน ๒ คน ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ทั้งนี้ ให้มีผลดำเนินการต่อไปได้เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว ดังนี้
๑. นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ๒. พลตำรวจตรี ธวัช บุญเฟื่อง ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง
|
||||||||||||||||||||||||
26309 | รายงานการกู้เงินโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ครั้งที่ 1 และ ครั้งที่ 2 | กค | 08/05/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการกู้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ โดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ครั้งที่ ๑ และ ครั้งที่ ๒ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกพันธบัตรรัฐบาล จำนวน ๒ รุ่น ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ครั้งที่ ๑ จำนวน ๖,๐๐๐ ล้านบาท อายุ ๔ ปี อัตราดอกเบี้ย BIBOR ระยะ ๖ เดือน-ร้อยละ ๐.๑๕ ต่อปี ครบกำหนดชำระคืนต้นเงินในวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ และพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ครั้งที่ ๒ จำนวน ๘,๐๐๐ ล้านบาท อายุ ๔ ปี อัตราดอกเบี้ย BIBOR ระยะ ๖ เดือน-ร้อยละ ๐.๑๕ ต่อปี ครบกำหนดชำระคืนต้นเงินในวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๗ โดยได้รับจัดสรรงบประมาณเพื่อชำระคืนต้นเงินบางส่วน จำนวน ๒,๕๐๕ ล้านบาท จึงเหลือเงินต้นที่ต้องคืนอีกจำนวน ๕,๔๙๕ ล้านบาท (๘,๐๐๐-๒,๕๐๕ ล้านบาท) ๒. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนด จำนวน ๒ รุ่น ดังกล่าว ได้แก่ เมื่อวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ได้ดำเนินการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ครั้งที่ ๑ อายุ ๕ ปี ให้กับธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จำกัด สาขากรุงเทพฯ จำนวน ๖,๐๐๐ ล้านบาท และเมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๗ ได้ดำเนินการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ครั้งที่ ๒ อายุ ๔ ปี ให้กับธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน ๕,๔๙๕ ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||
26310 | การมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีกำกับการบริหารราชการและสั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี | นร04 | 08/05/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. ให้รองนายกรัฐมนตรีกำกับการบริหารราชการ ดังนี้ ๑.๑ รองนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) กำกับการบริหารราชการในงานด้านเศรษฐกิจ ๑.๒ รองนายกรัฐมนตรี (นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา) กำกับการบริหารราชการในงานด้านการต่างประเทศและความมั่นคง ๑.๓ รองนายกรัฐมนตรี (นายยุคล ลิ้มแหลมทอง) กำกับการบริหารราชการในงานด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ๒. ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
|
||||||||||||||||||||||||
26311 | การตราร่างพระราชกฤษฎีกาแก้ไขเพิ่มเติมกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. .... | นร | 07/05/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีหนังสือกราบเรียนนายกรัฐมนตรี เพื่อขอนัดหมายวันหารือเกี่ยวกับการตราร่างพระราชกฤษฎีกาแก้ไขเพิ่มเติมกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. .... และมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา) เป็นผู้แทนคณะรัฐมนตรีประชุมร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมด้วย เช่น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายวราเทพ รัตนากร) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
26312 | การมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี | นร04 | 07/05/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้รองนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามมาตรา ๑๘๒ วรรคหนึ่ง (๗) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แต่ด้วยความเป็นรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีที่เหลืออยู่ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๑๘๑ ซึ่งตามมาตรา ๑๐ วรรคสี่ ของพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ บัญญัติให้ในระหว่างที่คณะรัฐมนตรีต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ ให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี
|
||||||||||||||||||||||||
26313 | สรุปสถานการณ์แผ่นดินไหวที่จังหวัดเชียงราย | นร05 | 07/05/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายปลอดประสพ สุรัสวดี) รายงานความคืบหน้ากรณีการเกิดสถานการณ์แผ่นดินไหวที่จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง สรุปสถานการณ์แผ่นดินไหวที่จังหวัดเชียงราย) ๑.๑ สถานการณ์แผ่นดินไหวเกิดจากรอยเลื่อนทางซีกซ้ายของรอยเลื่อนพะเยา เลื่อนตัวในแนวนอน มีความรุนแรงขนาด ๖.๑-๖.๓ ริกเตอร์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นความรุนแรงสูงสุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย ๑.๒ ผลกระทบจากการเกิดแผ่นดินไหวดังกล่าวทำให้บ้านเรือนที่อยู่อาศัยของประชาชน อาคาร โรงเรียน วัด และเส้นทางคมนาคมหลายแห่งชำรุดเสียหาย ซึ่งภายหลังจากเกิดแผ่นดินไหวแล้วยังเกิดแผ่นดินไหวตามมา (Aftershock) อย่างต่อเนื่อง แต่ความรุนแรงไม่เกิน ๕ ริกเตอร์ ซึ่งยังมีพื้นที่ที่มีความเสี่ยงหลายแห่ง เช่น หมู่บ้านและสิ่งก่อสร้างบริเวณที่สูงและเนินเขาต่าง ๆ อาจเกิดการพังถล่มจากการเลื่อนตัวของดิน และบริเวณคอสะพานต่าง ๆ เป็นต้น ๑.๓ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายสรวงศ์ เทียนทอง) ได้ลงพื้นที่เพื่อกำกับติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยแล้ว โดยในส่วนของเส้นทางคมนาคมที่ชำรุดได้มีการซ่อมแซมให้ใช้สัญจรได้แล้ว ๑.๔ การให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย ในเบื้องต้นเป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๖ ซึ่งมีอัตราการให้ความช่วยเหลือชดเชยความเสียหายของที่อยู่อาศัยสูงสุดครัวเรือนละ ๓๓,๐๐๐ บาท ๑.๕ ในขณะนี้ประชาชนผู้ประสบภัยยังมีความตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังไม่กล้าเข้าไปพักอาศัยในบ้านเรือนของตน เนื่องจากเกรงว่าบ้านเรือนอาจพังถล่มจากการเกิด Aftershock ทำให้ต้องไปพักค้างคืนในที่พักชั่วคราวภายนอกอาคาร ๑.๖ คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าว ได้มีการประชุมแล้ว ๒ ครั้ง โดยได้จัดทำแผนเผชิญเหตุ (แล้วเสร็จใน ๓ วัน) และแผนปฏิบัติการเร่งด่วน (แล้วเสร็จใน ๑๕ วัน) เพื่อดำเนินการต่อไป ๒. ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงวัฒนธรรม จัดเจ้าหน้าที่เป็นทีมพิเศษเพื่อลงพื้นที่ที่เกิดปัญหาและมีความเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบความชำรุดเสียหายของสิ่งก่อสร้างที่อยู่อาศัยของผู้ประสบภัย และสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อให้ผู้ประสบภัยมีความเชื่อมั่นในการพักอาศัย และไม่ตื่นตระหนกต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ๓. ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการประชาชน เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งกระทรวงกลาโหม (กองทัพบก) เร่งลงพื้นที่เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือดูแลและให้บริการประชาชนในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ ๔. ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประสานงานกับกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณเพื่อการดำเนินการแก้ไขปัญหาและการให้ความช่วยเหลือดูแลประชาชนผู้ประสบภัยเป็นไปด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว และคล่องตัว
|
||||||||||||||||||||||||
26314 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบรีหารจัดการในคณะกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง และเรื่อง แต่งตั้งผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย | นร | 07/05/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีเห็นว่า ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี ครั้งที่ ๑๔/๒๕๕๗ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารจัดการในคณะกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง และแต่งตั้งผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย แต่ยังไม่ได้มีการยืนยันมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงขอถอนเรื่องดังกล่าว และนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบและขั้นตอนการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี
|
||||||||||||||||||||||||
26315 | การโอนข้าราชการ (นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์) | นร04 | 06/05/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีรับโอนนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม มาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ (นักบริหารระดับสูง) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยให้กำหนดชื่อในสายงานตามตัวบุคคลผู้ได้รับการแต่งตั้ง และยังคงตำแหน่งในสายงานเดิม และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งได้รับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่งและสิทธิประโยชน์อื่นที่ได้รับอยู่เดิม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ทั้งนี้ ให้มีผลดำเนินการต่อไปได้เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||
26316 | การโอนข้าราชการ (นายธงทอง จันทรางศุ) | ยธ | 06/05/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงยุติธรรมรับโอนนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้มีผลดำเนินการต่อไปได้เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||
26317 | การโอนข้าราชการ (พลโท ภราดร พัฒนถาบุตร) | นร04 | 06/05/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี) รับโอน พลโท ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มาดำรงตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ทั้งนี้ ให้มีผลดำเนินการต่อไปได้เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||
26318 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) (นายวราวุธ ขันติยานันท์) | กษ | 06/05/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายวราวุธ ขันติยานันท์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้ ให้มีผลดำเนินการต่อไปได้เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||
26319 | แต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (จำนวน 8 คน 1. นายสันทัด สมชีวิตา ฯลฯ) | ทส | 06/05/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ จำนวน ๘ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๖ พฤษภาคม ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ตามที่ประธานกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. นายสันทัด สมชีวิตา กรรมการมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (ด้านบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม) ๒. นายพยุง นพสุวรรณ กรรมการมูลนิธิรักษ์โลก (ด้านทรัพยากรป่าไม้) ๓. รองศาสตราจารย์ ศิรินธรา สิงหรา ณ อยุธยา รองคณบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี (ด้านสาธารณสุขและสุขภาพ) ๔. นายอัชพร จารุจินดา ประธานกรรมการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ด้านกฎหมาย) ๕. นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ด้านบริหารจัดการ) ๖. นายสมหวัง ดำรงพงศาวัฒน์ ข้าราชการบำนาญ (ด้านสิ่งแวดล้อมเมืองและผังเมือง) ๗. นายเจนกิจ นภาวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัทอาเคอร์บัน จำกัดและบริษัทอาร์เชน จำกัด (ด้านสถาปัตยกรรม) ๘. นายสุธา ขาวเธียร อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ด้านมลพิษสิ่งแวดล้อม)
|
||||||||||||||||||||||||
26320 | ขอความเห็นชอบต่อร่างปฏิญญาเนปิดอว์ว่าด้วยการบรรลุการเป็นประชาคมอาเซียนปี ค.ศ. 2015 (Nay Pyi Taw Declaration On Realization of ASEAN Community by 2015) | กต | 06/05/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบต่อร่างปฏิญญาเนปิดอว์ว่าด้วยการบรรลุการเป็นประชาคมอาเซียนปี ค.ศ. ๒๐๑๕ (Nay Pyi Taw Declaration On Realization of ASEAN Community by 2015) ซึ่งจะมีการรับรองในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๒๔ ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ณ กรุงเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ โดยร่างปฏิญญาฯ มีสาระสำคัญเป็นการระบุประเด็นสำคัญต่าง ๆ ที่ประเทศสมาชิกอาเซียนต้องเร่งดำเนินการเพื่อบรรลุการเป็นประชาคมอาเซียนภายในปี ๒๕๕๘ โดยเป็นการเน้นย้ำในประเด็นที่ผู้นำอาเซียนได้เคยตกลงกันไว้แล้ว อาทิ การเร่งรัดดำเนินงานตามแผนงานการจัดตั้งประชาคมอาเซียน การจัดทำวิสัยทัศน์อาเซียนภายหลังปี ๒๕๕๘ และการปรับปรุงกลไกการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับภายนอกภูมิภาค โดยไม่มีการเสนอข้อริเริ่มหรือการดำเนินการใหม่ ๆ แต่อย่างใด ๑.๒ ให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้ร่วมรับรองร่างปฏิญญาฯ ๑.๓ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขร่างปฏิญญาฯ ที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทยก่อนการรับรอง ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก ๒. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นว่า ร่างปฏิญญาเนปิดอว์ว่าด้วยการบรรลุการเป็นประชาคมอาเซียนปี ค.ศ. ๒๐๑๕ ไม่เข้าลักษณะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๙๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย การให้ความเห็นชอบร่างปฏิญญาฯ จึงไม่มีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไปอันเป็นข้อห้ามตามมาตรา ๑๘๑ (๓) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และสามารถเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาได้ |
.....