ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1157 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 23121 - 23140 จากข้อมูลทั้งหมด 123969 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
23121 | พิธีสารแก้ไขความตกลงมาร์ราเกชจัดตั้งองค์การการค้าโลก บทบัญญัติที่ไทยพร้อมปฏิบัติได้ทันที ที่ความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการค้ามีผลใช้บังคับ (Category A) และบทบัญญัติที่ไทยต้องการระยะเวลาปรับตัวก่อนการปฏิบัติ (Category B) และระยะเวลาที่ต้องใช้ในการ ปรับตัวสำหรับความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการค้า (Agreement on Trade Facilitation : TFA) ภายใต้องค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 11/08/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๘ และให้เสนอพิธีสารแก้ไขความตกลงมาร์ราเกซจัดตั้งองค์การการค้าโลก บทบัญญัติที่ไทยพร้อมปฏิบัติได้ทันทีที่ความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการค้ามีผลใช้บังคับ (Category A) และบทบัญญัติที่ไทยต้องการระยะเวลาปรับตัวก่อนการปฏิบัติ (Category B) และระยะเวลาที่ต้องใช้ในการปรับตัวสำหรับความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการค้า (Agreement on Trade Facilitation : TFA) ภายใต้องค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) รวม ๓ ฉบับ ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||
23122 | ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ (ร่างพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. ....) (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร09 | 11/08/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ขอขยายระยะเวลาการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. .... ซึ่งนายเจตน์ ศิรธรานนท์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ และคณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ ออกไปอีก ๖๐ วัน และแจ้งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป ๒. มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข (กรมอนามัย) นำร่างพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. .... ซึ่งนายเจตน์ ศิรธรานนท์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ ไปประกอบการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฯ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการยกร่างและนำเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการต่อไป
|
|||||||||||||||
23123 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 11/08/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๘ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รับข้อสังเกตดังกล่าวประสานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป และ
๑. ให้เสนอร่างพระราชบัญญัติ และพิธีสารพร้อมบทบัญญัติในเรื่องนี้ รวม ๔ ฉบับ ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๒ พิธีสารแก้ไขความตกลงมาร์ราเกซจัดตั้งองค์การการค้าโลก บทบัญญัติที่ไทยพร้อมปฏิบัติได้ทันทีที่ความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการค้ามีผลใช้บังคับ (Category A) และบทบัญญัติที่ไทยต้องการระยะเวลาปรับตัวก่อนการปฏิบัติ (Category B) และระยะเวลาที่ต้องใช้ในการปรับตัว สำหรับความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการค้า (Agreement on Trade Facilitation : TFA) ภายใต้องค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) ๒. เห็นชอบให้ขอขยายระยะเวลาการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. .... ซึ่งนายเจตน์ ศิรธรานนท์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ และคณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ ออกไปอีก ๖๐ วัน และแจ้งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป ๓. มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข (กรมอนามัย) นำร่างพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. .... ซึ่งนายเจตน์ ศิรธรานนท์ กับคณะ เป็นผู้เสนอไปประกอบการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฯ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการยกร่าง และนำเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการต่อไป
|
|||||||||||||||
23124 | ร่างพระราชบัญญัตินโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กก | 11/08/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า โดยที่ร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานการท่องเที่ยว พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัตินโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เสนอมาในคราวเดียวกัน ยังมีหลักการที่ซ้ำซ้อนกัน และมีความซ้ำซ้อนกับกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของหลายส่วนราชการ จึงมีมติให้ส่งคืนร่างพระราชบัญญัติทั้งสองฉบับดังกล่าวให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม และส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้ได้ข้อสรุป ทั้งนี้ อาจพิจารณาดำเนินการปรับปรุงรวมกฎหมายทั้งสองฉบับดังกล่าวเป็นฉบับเดียวกัน ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||
23125 | ร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานการท่องเที่ยว พ.ศ. .... | กก | 11/08/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า โดยที่ร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานการท่องเที่ยว พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัตินโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เสนอมาในคราวเดียวกัน ยังมีหลักการที่ซ้ำซ้อนกัน และมีความซ้ำซ้อนกับกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของหลายส่วนราชการ จึงมีมติให้ส่งคืนร่างพระราชบัญญัติทั้งสองฉบับดังกล่าวให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม และส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้ได้ข้อสรุป ทั้งนี้ อาจพิจารณาดำเนินการปรับปรุงรวมกฎหมายทั้งสองฉบับดังกล่าวเป็นฉบับเดียวกัน ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||
23126 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง การนำเสนอพื้นที่อนุรักษ์ในทะเลอันดามันเป็นเขตมรดกโลก) | ทส | 04/08/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาและผลการดำเนินการต่อข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เรื่อง การนำเสนอพื้นที่อนุรักษ์ในทะเลอันดามันเป็นเขตมรดกโลก ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสนับสนุนการนำเสนอพื้นที่อนุรักษ์ในทะเลอันดามันเป็นเขตมรดกโลก แต่ควรให้ชะลอการจัดส่งเอกสารบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) พื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามันออกไปก่อน เพื่อให้มีการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ข้อมูลปัจจุบันของสถานภาพทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ การมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการพื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน และผลกระทบด้านเศรษฐกิจสังคมวัฒนธรรมต่อชุมชนในพื้นที่หากได้รับการรับรองให้เป็นแหล่งมรดกโลก และได้เสนอของบประมาณเพื่อดำเนินการในปี ๒๕๕๙ ในการจัดทำโครงการจัดทำข้อมูลเพิ่มเติมพื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน ประกอบด้วย (๑) ด้านการสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ (๒) ด้านการมีส่วนรร่วมของชุมชนในการจัดการทรัพยากรในพื้นที่อนุรักษ์อันดามัน และ (๓) ด้านผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคมหากได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่มรดกโลก ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จโดยเร็วและรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วันต่อไป
|
|||||||||||||||
23127 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 04/08/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป ดังนี้
๑. เตรียมดำเนินการออกคำสั่งกรมบังคับคดีเพื่อกำหนดกรอบการปฏิบัติงานบังคับคดีล้มละลายในการประนอมหนี้ของลูกหนี้ ๒. เตรียมดำเนินการออกคำสั่งกรมบังคับคดีเพื่อกำหนดกรอบการปฏิบัติงานบังคับคดีล้มละลายในสำนวนคำขอรับชำระหนี้ ๓. เตรียมดำเนินการออกระเบียบกระทรวงยุติธรรม ว่าด้วยการกำหนดคุณสมบัติของเจ้าพนักงานพิทักษ์หรือผู้มีอำนาจพิจารณาและมีคำสั่งคำขอรับชำระหนี้ พ.ศ. ....
|
|||||||||||||||
23128 | บันทึกความเข้าใจระหว่างสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและองค์กร Global Green Growth Institute (GGGI) | ทส | 04/08/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและองค์กร Global Green Growth Institute (GGGI) มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดกรอบความร่วมมืออย่างเป็นทางการและก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างคู่ภาคีในการส่งเสริมการจัดทำแผนงานโครงการ การวิจัย การดำเนินกิจกรรมร่วมกัน และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามเงื่อนไขของภาคีแต่ละฝ่าย ๑.๒ ให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัดทำบันทึกความเข้าใจกับองค์กร GGGI ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับร่างบันทึกความเข้าใจฯ ข้อ ๒ ขอบเขตความร่วมมือ ควรพิจารณาให้เหมาะสม และควรระบุหน้าที่และความรับผิดชอบของแต่ละภาคีอย่างชัดเจน และร่างข้อ ๕ การรักษาความลับ ควรพิจารณาปรับแก้ให้เป็นประโยชน์ในการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ของร่างบันทึกความเข้าใจฯ รวมทั้งควรปรับแก้ไขถ้อยคำที่กำหนดวัตถุประสงค์ของความร่วมมือเพื่อการสนับสนุนการสร้างศักยภาพและการพัฒนาทางเลือกเศรษฐกิจสีเขียวสำหรับประเทศกำลังพัฒนา (“…joint activities in support of capacity building and development of green economic growth options for developing countries”) มิใช่สำหรับประเทศไทยตามคำแปลภาษาไทย นอกจากนี้ บันทึกความเข้าใจฯ มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับนโยบายที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมในภาพรวมของประเทศเนื่องจากกรอบแผนการลงทุนจะมีผลผูกพันกับการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลในระยะต่อไป จึงควรมีการหารือในเรื่องแผนการลงทุนที่ฝ่ายไทยต้องรับผิดชอบก่อนการทำร่างบันทึกความเข้าใจฯ อย่างเป็นทางการ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||
23129 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการผังเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 04/08/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการผังเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และให้กระทรวงมหาดไทยรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ดังกล่าวไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้หรือไม่ประการใดก่อน แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีข้อสังเกต สรุปได้ ดังนี้
๑. กระทรวงมหาดไทยควรจัดทำผังเมืองรวมให้มีแผนผังประกอบกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมครบทุกประเภท ๒. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวางและจัดทำผังเมืองรวมควรจัดทำข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินให้ได้มากที่สุดไว้ในกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ๓. กฎกระทรวงที่สิ้นผลใช้บังคับก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับกระทรวงมหาดไทยควรเร่งรัดการจัดทำกฎกระทรวงดังกล่าวให้ใช้บังคับได้ ซึ่งจะทำให้พื้นที่ที่เคยมีผังเมืองรวมใช้บังคับไม่เกิดการเติบโตของเมืองอย่างผิดทิศทาง และสอดคล้องกับแนวทางที่ต้องการใช้บังคับในพื้นที่ดังกล่าว ๔. แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการผังเมืองเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการวางผังเมืองเข้าร่วมการพิจารณาและจัดทำผังเมืองให้เป็นไปอย่างถูกต้องในแง่วิชาการเหมาะสมกับนโยบายของคณะกรรมการผังเมืองที่มาจากทุกภาคส่วน ๕. พิจารณาหาแนวทางเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อให้การวางและจัดทำผังเมืองรวมสามารถควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินได้อย่างเหมาะสม ๖. เร่งรัดให้มีการวางผังเมืองเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเหมาะสม
|
|||||||||||||||
23130 | สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติในวาระการปฏิรูป (วันที่ 22 - 26 มิถุนายน 2558) | สผ | 04/08/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติในวาระการปฏิรูป (วันที่ ๒๒-๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๘) ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาปฏิรูปแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||
23131 | สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติในวาระการปฏิรูป รอบที่ 2 (วันที่ 29 มิถุนายน - 3 กรกฎาคม 2558) | สผ | 04/08/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติในวาระการปฏิรูป รอบที่ ๒ (วันที่ ๒๙ มิถุนายน-๓ กรกฎาคม ๒๕๕๘) ตามที่สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาปฏิรูปแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||
23132 | การศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ครอบคลุมระหว่างไทย - สาธารณรัฐเกาหลี | กต | 04/08/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ครอบคลุม (Comprehensive Economic Partnership Agreement : CEPA) ระหว่างไทย-สาธารณรัฐเกาหลี มีสาระสำคัญเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและสาธารณรัฐเกาหลีภายหลังการจัดทำความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี และข้อเสนอแนะเพื่อเพิ่มความเป็นไปได้ในการจัดทำ CEPA ได้แก่ (๑) เตรียมพร้อมล่วงหน้าสำหรับการเปิดเสรีที่เพิ่มขึ้นในส่วนที่มีความอ่อนไหวอย่างยิ่ง ในมุมมองในระยะยาว และเป็นยุทธศาสตร์ รวมทั้งมาตรการที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันไปพร้อมกับการสนับสนุนเชิงโครงสร้างที่แข็งแกร่ง (๒) เพิ่มความจำเป็นด้านเศรษฐกิจเพื่อจัดทำ CEPA ไทย - สาธารณรัฐเกาหลี โดยกระชับความร่วมมือของทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และ (๓) สิ่งสำคัญคือ ต้องพยายามอธิบายให้ชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบเชิงบวกทางเศรษฐกิจจากการจัดทำ CEPA รวมทั้งหาแนวทางปรับปรุงการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลีที่ยังต่ำอยู่ผ่านการศึกษาวิจัยเพิ่มเติม และมอบหมายให้คณะทำงานยุทธศาสตร์การเจรจาการค้าของประเทศพิจารณาความพร้อมและความเป็นไปได้ที่จะผลักดันการเจรจา CEPA ในโอกาสที่เหมาะสมต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. ให้คณะทำงานยุทธศาสตร์การเจรจาการค้าของประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เกี่ยวกับการศึกษาถึงผลกระทบเชิงลบทั้งมิติทางเศรษฐกิจและสังคมหลังการจัดทำความตกลง CEPA และเปรียบเทียบผลกระทบเชิงบวกและเชิงลบ การจัดตั้งคณะทำงานด้านมาตรฐานสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (SPS) เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าที่เกี่ยวข้องกับมาตรการ SPS ที่อาจเกิดขึ้นสำหรับสินค้าเกษตรและอาหารในอนาคต การวิเคราะห์ปัญหาและอุปสรรคด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าเพื่อลดอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นจากมาตรการที่มิใช่ภาษี (Non Tariff Measures : NTMs) ในทุกประเด็นเพื่อลดความแตกต่างและสร้างการเป็นมาตรฐานเดียวกัน การทบทวนหลักการและเงื่อนไขต่าง ๆ จากความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ว่ายังควรนำมาใช้ในความตกลง CEPA หรือไม่ การใช้โอกาสในการจัดทำความตกลง CEPA พัฒนาความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมในสาขาที่สาธารณรัฐเกาหลีมีความเชี่ยวชาญ การผลักดันให้มีความร่วมมือด้านการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของสินค้าและบริการที่ดีของไทยอย่างถูกต้อง การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้ภาคเอกชนสาธารณรัฐเกาหลีเข้ามาลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของไทยมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการสร้างความร่วมมือในด้านต่าง ๆ เพื่อกระชับความเป็นหุ้นส่วนระหว่างไทยกับสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งรวมถึงความร่วมมือในภูมิภาคและอนุภูมิภาคที่มีอยู่เดิม ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||
23133 | ร่างพระราชบัญญัติโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ตช | 04/08/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้วาระการดำรงตำแหน่งของผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจกำหนด และยกเลิกเงื่อนไขการแต่งตั้งและโยกย้ายผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
|||||||||||||||
23134 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี (การกำหนดแนวทางในการแก้ปัญหาด้านการอำนวยความสะดวกในการขนส่งผ่านแดนบริเวณชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน) | กค | 04/08/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี (การกำหนดแนวทางในการแก้ปัญหาด้านการอำนวยความสะดวกในการขนส่งผ่านแดนบริเวณชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน) โดยกรมศุลกากรได้จัดประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับทราบประเด็นปัญหา/อุปสรรคจากการดำเนินงาน รวมทั้งพิจารณากำหนดแนวทางดำเนินการแก้ไขปัญหาด้านการอำนวยความสะดวกในการขนส่งผ่านแดนบริเวณชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยที่ประชุมมีข้อเสนอแนะและแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหา ดังนี้ ๑.๑ ประสานความร่วมมือกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อปรับปรุงระบบสารสนเทศของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (PIBICS) ให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลทั่วประเทศได้โดยเร็ว และพิจารณาหาแนวทางลดขั้นตอนการบันทึกข้อมูลที่ด่านพรมแดนเพื่อให้การปฏิบัติพิธีการตรวจคนเข้าเมืองรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ๑.๒ แยกช่องทางการให้บริการของผู้เดินทางออกจากสินค้าโดยชัดเจนเพื่อลดความแออัดและเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบควบคุม รวมถึงการนำเครื่องมือที่ทันสมัยมาใช้ในการตรวจปล่อยคนโดยสารและสินค้า เช่น x-ray e-Lock ระบบยานพาหนะผ่านแดน เป็นต้น ๑.๓ บริหารจัดการพื้นที่และสถานที่ปฏิบัติงานให้เพียงพอสำหรับรองรับปริมาณยานพาหนะและผู้เดินทางเข้า-ออกพรมแดน โดยอาจจัดสรรพื้นที่ส่วนหนึ่งก่อนถึงด่านพรมแดนสำหรับใช้ตรวจสอบสินค้า และให้มีพื้นที่ควบคุมใกล้ด่านพรมแดนอีกหนึ่งจุดสำหรับจอดพักรอการข้ามแดนเพื่อช่วยลดความแออัดบริเวณหน้าด่านพรมแดน และรองรับการปรับเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่ควบคุมร่วมกัน (Common Control Area : CCA) ในอนาคต ๑.๔ ปรับปรุงเส้นทางการสัญจรให้เพียงพอต่อปริมาณยานพาหนะที่ผ่านเข้า-ออก และรองรับการเจริญเติบโตในอนาคต โดยคำนึงถึงเส้นทางการจราจรที่แตกต่างกันระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ๑.๕ ปรับกระบวนงานที่ด่านพรมแดนทั้งระบบให้มีความกระชับรัดกุมและเป็นเอกภาพมากขึ้น โดยเน้นการบูรณาการทุกหน่วยงาน ณ ด่านพรมแดน เพื่อลดขั้นตอนการตรวจสอบที่ซ้ำซ้อนและปัญหาการจราจรคับคั่ง ๑.๖ ขยายเวลาเปิดจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหม้อ อ. ศรีเชียงใหม่ จ. หนองคาย ให้เร็วขึ้นจากเดิม ๐๘.๐๐ น. เป็น ๐๖.๐๐ น. เพื่อให้การส่งออกสินค้าเกษตรของไทยดำเนินการได้รวดเร็วขึ้น ๒. ให้กระทวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่เห็นควรให้ด่านพรมแดนแต่ละแห่งเพิ่มระบบตรวจสอบประชาชนกลุ่มเสี่ยงและระบบคัดกรองผู้ป่วยโรคอุบัติใหม่ และควรมีการติดตามเร่งรัดเรื่องการอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามพรมแดนโดยการตรวจปล่อย ณ จุดเดียวของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนการขยายเวลาเปิดจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหม้อ อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ควรมีการรับฟังข้อคิดเห็นของจังหวัดหนองคาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในบริเวณจุดผ่อนปรนการค้า และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่เพื่อพิจารณาความพร้อมในการปฏิบัติงานและผลกระทบด้านความมั่นคง หากขยายเวลาการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าดังกล่าว ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||
23135 | แจ้งคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดยกฟ้อง คดีหมายเลขแดงที่ ฟ.13/2558 ระหว่างนางวิไลลักษณ์ วิไลพันธ์ ที่ 1 กับพวกรวม 3 คน ผู้ฟ้องคดี กับคณะรัฐมนตรีผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง การขอให้เพิกถอนมติคณะรัฐมนตรี เฉพาะเรื่องการปรับอัตราค่าจ้างของลูกจ้างรัฐวิสาหกิจและให้คณะรัฐมนตรี ดำเนินการออกมติคณะรัฐมนตรีให้ลูกจ้างรัฐวิสาหกิจได้รับการปรับอัตรา ค่าจ้างขึ้นร้อยละ 5 ทุกอัตรา และขอให้ปรับเพดานค่าจ้างเงินเดือนขั้นต่ำ/ขั้นสูง ประจำแต่ละตำแหน่งขึ้นในอัตราร้อยละ 5 ให้สอดคล้องกัน | อส | 04/08/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดยกฟ้อง คดีหมายเลขแดงที่ ฟ.๑๓/๒๕๕๘ ระหว่างนางวิไลลักษณ์ วิไลพันธ์ ที่ ๑ กับพวกรวม ๓ คน ผู้ฟ้องคดี กับคณะรัฐมนตรีผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง การขอให้เพิกถอนมติคณะรัฐมนตรี เฉพาะเรื่องการปรับอัตราค่าจ้างของลูกจ้างรัฐวิสาหกิจและให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการออกมติคณะรัฐมนตรีให้ลูกจ้างรัฐวิสาหกิจได้รับการปรับอัตรา ค่าจ้างขึ้นร้อยละ ๕ ทุกอัตรา และขอให้ปรับเพดานค่าจ้างเงินเดือนขั้นต่ำ/ขั้นสูง ประจำแต่ละตำแหน่งขึ้นในอัตราร้อยละ ๕ ให้สอดคล้องกัน ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||
23136 | แจ้งคำพิพากษาศาลปกครองกลางยกฟ้องคณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) คดีระหว่างนายจิตเกษม แสงสิงแก้ว ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน ผู้ฟ้องคดี คณะรัฐมนตรี ที่ 1 กับพวก รวม 2 คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบ ด้วยกฎหมายและกระทำละเมิดอันเกิดจากคำสั่งทางปกครอง | อส | 04/08/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองกลางยกฟ้องคณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑) คดีระหว่างนายจิตเกษม แสงสิงแก้ว ที่ ๑ กับพวกรวม ๒ คน ผู้ฟ้องคดี คณะรัฐมนตรี ที่ ๑ กับพวกรวม ๒ คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและกระทำละเมิดอันเกิดจากคำสั่งทางปกครอง ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||
23137 | ร่างพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์ พ.ศ. .... | วท | 04/08/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบหลักการร่างพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดกฎเกณฑ์เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสี และการพิทักษ์ความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ เพื่อคุ้มครองประชาชนและสิ่งแวดล้อม และเพื่อให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ในทางสากลที่เกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์ ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ โดยให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแก้ไขมาตรา ๑๓ (๖) และมาตรา ๑๐๑ วรรคสอง ตามความเห็นของกระทรวงมหาดไทย และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและกระทรวงพลังงานรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรดำเนินการจัดทำข้อตกลงเกี่ยวกับระเบียบที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาและกำกับดูแลโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ เมื่อร่างพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์ พ.ศ. .... มีผลบังคับใช้ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๗๙ โดยให้พิจารณาให้ครอบคลุมถึงผลกระทบและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมถึงการประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจกับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับชุมชนทั้งในและนอกพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ รวมทั้งให้สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติเร่งรัดการปรับโครงสร้างของหน่วยงานและเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรให้สอดคล้องกับการดำเนินภารกิจตามร่างพระราชบัญญัติฯ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||
23138 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 | มท | 04/08/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดเกี่ยวกับทางเดินเชื่อมระหว่างอาคารในกฎกระทรวง ฉบับที่ ๕๕ (พ.ศ. ๒๕๔๓) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||
23139 | ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนและร่างความตกลงสำหรับดำเนินโครงการ ASEAN-German Programme on Response to Climate Change in Agriculture and Forestry (GAP-CC), Module ll: ASEAN Sustainable Agrifood Systems (ASEAN Biocontrol) | กษ | 04/08/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างเอกสาร ๒ ฉบับ ได้แก่ ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนจากสำนักเลขาธิการอาเซียนถึงสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (Exchange of Notes) และร่างความตกลงเพื่อการดำเนินการโครงการ (Implementation Agreement) สำหรับโครงการ ASEAN-German Project on ASEAN Biocontrol (ABC) for Sustainable Agrifood Systems ที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสของการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้ (Senior Officials Meeting-ASEAN Ministerial Meeting on Agriculture and Forestry : SOM-AMAF) เมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ แล้ว ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีและอาเซียนที่ต่อเนื่องมาจาก Phase I มุ่งเน้นการดำเนินงานเพื่อให้เกิดระบบอาหารเกษตรอย่างยั่งยืน (sustainable food production) ในอาเซียน มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนประเทศสมาชิกอาเซียนให้สามารถดำเนินงานและปฏิบัติตามกรอบนโยบายบูรณาการความมั่นคงด้านอาหารของอาเซียน [ASEAN Integrated Food Security (AIFS) Framework] และแผนกลยุทธ์ความมั่นคงด้านอาหารของอาเซียน (Strategic Plan of Action on Food Security in the ASEAN Region : SPA-FS)-Phase II ระหว่างปี ๒๕๕๘-๒๕๖๓ โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี จำนวน ๗ ล้านยูโร และแผนก Agriculture, Industries and Natural Resources Division (AINRD) สำนักเลขาธิการอาเซียนได้พิจารณาและอนุมัติเอกสารดังกล่าวแล้ว และจะเริ่มดำเนินโครงการและการสนับสนุนเมื่อมีการลงนามหนังสือแลกเปลี่ยนของฝ่ายอาเซียน ๑.๒ อนุมัติให้เลขาธิการอาเซียน (Secretary-General for ASEAN) ลงนามในร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ และรองเลขาธิการอาเซียน (Secretary-General for ASEAN) ลงนามในร่างหนังสือความตกลงเพื่อการดำเนินโครงการฯ ๑.๓ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งสำนักเลขาธิการอาเซียนผ่านคณะผู้แทนถาวรไทยประจำอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา ว่า รัฐบาลไทยเห็นชอบต่อร่างเอกสารทั้ง ๒ ฉบับ และให้เลขาธิการอาเซียนและรองเลขาธิการอาเซียนลงนามในเอกสารทั้ง ๒ ฉบับดังกล่าว ตามลำดับ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและกระทรวงอุตสาหกรรมที่เห็นควรเร่งให้มีการทบทวนและปรับปรุงกระบวนการขึ้นทะเบียนปัจจัยการผลิตชีวภาพของไทยให้สามารถแข่งขันกับประเทศต่าง ๆ ใน ASEAN ได้ และควรมีการดำเนินกิจกรรมที่ครอบคลุมการพัฒนาตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่การจัดหา การผลิต และการจัดการด้านโลจิสติกส์ โดยมุ่งเน้นให้ประเทศสมาชิกสามารถพึ่งตนเองได้ (Self-reliance) ภายหลังสิ้นสุดการดำเนินโครงการ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||
23140 | การลงนามในร่างพิธีสารฉบับที่สามเพื่อแก้ไขความตกลงการค้าสินค้าภายใต้กรอบความตกลงอาเซียน - สาธารณรัฐเกาหลี | พณ | 04/08/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพิธีสารฉบับที่สามแก้ไขความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมด้านต่าง ๆ ระหว่างรัฐบาลแห่งกลุ่มประเทศภาคีสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสาธารณรัฐเกาหลี มีสาระสำคัญเป็นการระบุให้ภาคีจัดทำตารางการลดภาษีรายสินค้า (line-by-line tariff reduction schedule) เพื่อแนบท้ายความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี และกำหนดแนวทางและวิธีการเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกทางการค้า รวมทั้งกำหนดให้ร่างพิธีสารฯ เป็นส่วนหนึ่งของความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ๒. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมการประชุมเป็นผู้ลงนามในพิธีสารฯ ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญและไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย โดยให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) และเมื่อลงนามแล้วให้นำเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบพิธีสารฉบับที่สามแก้ไขความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมด้านต่าง ๆ ระหว่างอาเซียนและสาธารณรัฐเกาหลี ก่อนแสดงเจตนาให้พิธีสารมีผลผูกพันต่อไป ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมการประชุมเป็นผู้ลงนามในพิธีสารเพื่อเข้าร่วมพิธีสารฯ ๔. ให้กรมศุลกากรและกรมการค้าต่างประเทศดำเนินการที่เกี่ยวข้องเพื่อให้พิธีสารฯ มีผลบังคับใช้ภายในวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๙ ทั้งนี้ ให้ดำเนินการได้ต่อเมื่อพิธีสารฯ ได้รับความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว ๕. ให้กระทรวงพาณิชย์รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมใช้ประโยชน์จากกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้าภายใต้ความตกลงฯ มากขึ้น ตลอดจนสนับสนุนการสร้างความรู้ความเข้าใจด้านกฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศ และการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
.....