ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1159 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 23161 - 23180 จากข้อมูลทั้งหมด 124231 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
23161 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง การปฏิรูประบบและโครงสร้างภาษี) | สผ | 08/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง การปฏิรูประบบและโครงสร้างภาษี ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ และมอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยมีประเด็นปฏิรูป สรุปได้ ดังนี้
๑. การแก้ไขปรับปรุงกฎหมายให้ชัดว่าภาษีของไทยมี ๒ ระดับ คือ ภาษีระดับชาติและภาษีระดับท้องถิ่น ๒. การจัดแบ่งภาษีท้องถิ่นให้เกิดรายได้ต่อท้องถิ่นเพียงพอกับการใช้จ่ายของท้องถิ่น ๓. การเร่งทำภาษีให้ครบฐานโดยเร่งรัดภาษีมรดกและภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ๔. ปรับช่วงเงินได้ของอัตราภาษีเงินได้ให้กว้างและสูงขึ้น ๕. ยกเลิกอากรแสตมป์ ๖. ปรับปรุงการบริหารจัดเก็บภาษีให้ครอบคลุมผู้เสียภาษีให้กว้างขึ้น ๗. จัดตั้งคณะกรรมการภาษีอากรระดับชาติ
|
||||||||||||||||||||||||
23162 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย [เรื่อง การเป็นศูนย์กลางอาเซียน (ASEAN Hub)] | สผ | 08/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง การเป็นศูนย์กลางอาเซียน (ASEAN Hub) ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และหน่วยงานของรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าวและสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยมีข้อเสนอแนะฯ สรุปได้ ดังนี้
๑. ปรับทัศนคติเกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน ๒. ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมในภูมิภาคอาเซียน ๓. ยุทธศาสตร์รายอุตสาหกรรมในอาเซียน ๔. ตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดน ๕. ปรับโครงสร้างการบริหารความร่วมมือในอาเซียน
|
||||||||||||||||||||||||
23163 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง ผลการพิจารณาศึกษารายงาน เรื่อง การพัฒนาด้านการท่องเที่ยว) | สผ | 08/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง การพัฒนาด้านการท่องเที่ยว ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ และมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงอุตสาหกรรม กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงบประมาณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าวและสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยมีข้อเสนอปฏิรูป ๓ ประเด็น สรุปได้ ดังนี้
๑. ปฏิรูปวิสัยทัศน์ของการพัฒนาการท่องเที่ยว (Vision) โดยเน้นเป้าหมายรายได้และนักท่องเที่ยวคุณภาพ จัดการแหล่งท่องเที่ยวให้มีความยั่งยืน จัดให้มีบริการทางการท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐานสากล และกระจายผลประโยชน์จากการท่องเที่ยวอย่างทั่วถึง ๒. การปรับโครงสร้างการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยว (Restructuring) โดยการปรับโครงสร้างองค์กรภาครัฐ การสนับสนุนภาคเอกชนให้มีการรวมกลุ่มเพื่อสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มประสิทธิภาพ และการสนับสนุนภาคชุมชนให้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวในพื้นที่ และ ๓. การพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยการป้องกันและแก้ไขปัญหาความเสื่อมโทรมของแหล่งท่องเที่ยวโดยเฉพาะพื้นที่อนุรักษ์ ส่งเสริมการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ การพัฒนาเขตเศรษฐกิจท่องเที่ยวพิเศษร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน และการส่งเสริมการขยายธุรกิจด้านการท่องเที่ยวของไทยไปในต่างประเทศ
|
||||||||||||||||||||||||
23164 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง เศรษฐกิจดิจิทัล) | สผ | 08/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง เศรษฐกิจดิจิทัล ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ และมอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าวและสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวมแล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยมีข้อเสนอปฏิรูป ดังนี้
๑. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Hard Infrastructure) ๒. การพัฒนาระบบสนับสนุนและระบบแวดล้อม (Soft Infrastructure) ๓. โครงสร้างพื้นฐานด้านการบริการ (Service Infrastructure) ๔. การส่งเสริมและสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Promotion) ๕. การพัฒนาองค์ความรู้และสังคมดิจิทัล (Digital Knowledge and Society)
|
||||||||||||||||||||||||
23165 | การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของกระทรวงการคลัง | กค | 08/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเปลี่ยนแปลงผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของกระทรวงการคลัง โดยแต่งตั้งนายอำนวย ปรีมนวงศ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็น ปคร. ของกระทรวงการคลัง แทนนายประสิทธิ สืบชนะ รองปลัดกระทรวงการคลัง ต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
23166 | ภาวะสังคมไทยไตรมาสที่สองของปี 2558 | นร11 | 08/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาสที่สองของปี ๒๕๕๘ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ความเคลื่อนไหวทางสังคมที่สำคัญไตรมาสที่สองของปี ๒๕๕๘ ได้แก่ (๑) การจ้างงานลดลง อัตราการว่างงานต่ำ ขณะที่รายได้เพิ่มขึ้นช้า (๒) หนี้สินครัวเรือนชะลอตัวลงต่อเนื่อง การผิดนัดชำระหนี้ทั้งสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค สินเชื่อภายใต้การกำกับ และบัตรเครดิตยังคงเพิ่มขึ้น (๓) คุณภาพการศึกษาเป็นปัญหาเร่งด่วน (๔) ผู้ป่วยด้วยโรคเฝ้าระวังเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะโรคไข้เลือดออกเพิ่มขึ้นเกือบ ๓ เท่า (๕) ค่าใช้จ่ายในการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่เพิ่มขึ้นและยังต้องเฝ้าระวังการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษา (๖) ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินโดยรวมดีขึ้น สถานการณ์ยาเสพติดดีขึ้น ขณะที่คดีทำร้ายร่างกายและลักทรัพย์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น (๗) การสร้างพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนที่ปลอดภัยต่อคนเดินเท้าเพื่อลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจรทางบก (๘) ประเทศไทยยังคงมุ่งมั่นจะแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจังและต่อเนื่องต่อไป และ (๙) การคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับไขมันทรานส์ยังเป็นเรื่องที่ต้องผลักดัน ๑.๒ บทความพิเศษเรื่อง “การทำงานของผู้สูงอายุ : ความจำเป็นที่ต้องผลักดัน” มีเนื้อหาเกี่ยวกับการส่งเสริมการทำงานของผู้สูงอายุซึ่งส่วนใหญ่ต้องการให้เป็นการจ้างงานตามความสมัครใจ มีความยืดหยุ่น รวมทั้งมีการสนับสนุนจากรัฐในการเพิ่มแรงจูงใจ การสร้างกลไกเพื่อสนับสนุน ตลอดจนการให้ความรู้และสร้างความตระหนักเกี่ยวกับผลกระทบและความจำเป็นของการทำงานของผู้สูงอายุ ๑.๓ ประเด็นสังคมที่ต้องเฝ้าระวังในระยะต่อไป ได้แก่ ปัจจัยที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตแรงงาน การลดปัญหาอาชญากรรม การสร้างความปลอดภัยในการป้องกันหรือคุ้มครองการบาดเจ็บและการสูญเสียในกลุ่มคนเดินเท้า แนวทางการส่งเสริมการทำงานผู้สูงอายุ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้และเข้าใจเกี่ยวกับภาวะสังคมไทยในไตรมาสที่สองปี ๒๕๕๘ ในส่วนที่ดีขึ้น และขอความร่วมมือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหาสังคมตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
23167 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง แนวทางการปฏิรูปการประกันภัยพืชผล) | สผ | 08/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง แนวทางการปฏิรูปการประกันภัยพืชผล ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ และมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักรับข้อเสนอแนะของสภาปฏิรูปแห่งชาติไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยมีข้อเสนอแนะการปฏิรูป ๖ ประเด็น ดังนี้
๑. ผนึกกำลังภาครัฐและเอกชนในการผลักดันให้การประกันภัยพืชผลเป็นมาตรการหลักในการรักษาความมั่นคงในชีวิตของเกษตรกร ๒. รัฐบาลจะต้องสนับสนุนค่าเบี้ยประกันบางส่วน ๓. ส่งเสริมให้มีการจัดทำโซนนิ่งและส่งเสริมการเพาะปลูกพืชชนิดเดียวกันในเขตเดียวกัน ๔. ส่งเสริมให้มีช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันภัยอย่างหลากหลาย ๕. สนับสนุนการวิจัยและพัฒนา ๖. ดูแลให้ธุรกิจประกันภัยมีการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม
|
||||||||||||||||||||||||
23168 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง การปฏิรูปสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนียน) | สผ | 08/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง การปฏิรูปสหกรณ์ออมทรัพย์ และสหกรณ์เครดิตยูเนียน ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ และมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยมีข้อเสนอแนะฯ สรุปได้ ดังนี้
๑. การนำเสนอร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมสหกรณ์ออมทรัพย์ พ.ศ. .... ๒. การจัดตั้งคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมสหกรณ์ออมทรัพย์ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมสหกรณ์ออมทรัพย์ ๓. ส่งเสริมสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนียนที่มีขนาดเล็กให้พัฒนาขึ้นเป็นสหกรณ์ขนาดใหญ่หรือสามารถควบรวมกันได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน โดยในระยะยาวจะสนับสนุนให้สหกรณ์ออมทรัพย์ที่มีความเข้มแข็งรวมกันจัดตั้ง “ธนาคารสหกรณ์” เพื่อเพิ่มความหลากหลายของบริการทางการเงินและสร้างความมั่นคงให้แก่สหกรณ์ที่เข้าร่วมก่อตั้ง
|
||||||||||||||||||||||||
23169 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง ปฏิรูปที่ดินและการจัดการที่ดินและร่างพระราชบัญญัติป่าชุมชนนอกเขตอนุรักษ์ พ.ศ. ....) | สผ | 08/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง ปฏิรูปที่ดินและการจัดการที่ดินและร่างพระราชบัญญัติป่าชุมชนนอกเขตอนุรักษ์ พ.ศ. .... ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ และมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าวและสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยมีข้อเสนอปฏิรูป ดังนี้
๑. ระบบการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยเร่งตรวจสอบข้อมูลการครอบครองการใช้ประโยชน์ การทวงคืนที่ดิน และการจัดสรรที่ดิน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการใช้ประโยชน์ในที่ดิน ๒. ให้มีกฎหมายป่าชุมชน เพื่อสร้างความสมดุลในการอนุรักษ์และฟื้นฟู โดยเสนอร่างพระราชบัญญัติป่าชุมชนนอกเขตอนุรักษ์ พ.ศ. .... ๓. ระบบการจัดทำแผนที่กลาง ๑ : ๔,๐๐๐ โดยเร่งตรวจสอบแนวเขตที่ดินในพื้นที่แนวกันชนระหว่างที่ดินของรัฐกับเอกชน เพื่อลดปัญหาข้อพิพาทระหว่างภาครัฐและภาคประชาชน
|
||||||||||||||||||||||||
23170 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง แผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์) | สผ | 08/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง แผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ และมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานหลักรับข้อเสนอแนะของสภาปฏิรูปแห่งชาติไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวมแล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยมีข้อเสนอแนะฯ สรุปได้ ดังนี้
๑. กำหนดนโยบายพัฒนาการขนส่งทางราง ทางน้ำ โดยใช้ทะเล แม่น้ำ และคลองที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้านโลจิสติกส์ ๒. เสนอให้มีร่างพระราชบัญญัติสำนักงานโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์แห่งชาติ พ.ศ. .... ๓. กำหนดให้หน่วยงานรัฐหลายแห่งที่มีเครือข่ายเป็นของตนเองสร้างเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานของชาติเป็น National Broadband ของประเทศ ๔. ส่งเสริมให้มีการศึกษาด้านโลจิสติกส์ และให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกำหนดนโยบายให้สิทธิพิเศษและใบอนุญาตทำงานแก่ผู้มีประสบการณ์ความรู้ทางด้านสารสนเทศและโลจิสติกส์ต่างประเทศเข้าทำงานในประเทศ ๕. ปรับเพิ่มระบบการลงทุนจากเดิมเป็นระบบความร่วมมือภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnership : PPP) รวมทั้งส่งเสริมการจัดตั้งกองทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) ๖. กำหนดแผนยุทธศาสตร์ชาติ นโยบาย และส่งเสริมให้หน่วยงานของรัฐและผู้ประกอบการภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์เกิดแรงจูงใจที่จะพัฒนาคุณภาพสู่สากล ๗. แก้ไข ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ให้ทันสมัยและเอื้อต่อการผลักดันอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของประเทศ
|
||||||||||||||||||||||||
23171 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง การส่งเสริมการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของไทย) | สผ | 08/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง การส่งเสริมการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของไทย ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานของรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าวและสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยมีข้อเสนอปฏิรูป ดังนี้
๑. การกำหนดให้นโยบาย/ยุทธศาสตร์การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของไทยเป็นแนวนโยบายทางเศรษฐกิจที่สำคัญของชาติ ๒. การกำหนดให้คณะอนุกรรมการส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศของไทยเป็นองค์กรถาวรที่มีการดำเนินการต่อเนื่อง ๓. การใช้การเจรจาต่อรองในระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล (G to G) ในเรื่องต่าง ๆ ที่สำคัญเกี่ยวกับการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ ๔. การเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และกระทรวง/กรมที่ร่วมดำเนินงานอยู่ภายในศูนย์ประสานการบริการด้านการลงทุนที่เดียว (OSOS) และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ๕. การสนับสนุนให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กระทรวงการคลัง ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม และธนาคารพาณิชย์ สนับสนุนการลงทุนในต่างประเทศ ๖. การเสนอรัฐบาลให้พิจารณายกเว้น และ/หรือลดหย่อนภาษีเพื่อสนับสนุนการลงทุนในต่างประเทศของไทย ๗. การเสนอรัฐบาล กระทรวงการคลัง สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) รัฐวิสาหกิจ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และธุรกิจร่วมทุนต่าง ๆ มีมาตรการให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิค/เงินทุน และ/หรือร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค นิคมอุตสาหกรรม และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการลงทุนอื่น ๆ ในประเทศเป้าหมาย ๘. การเสนอให้รัฐบาลพิจารณากำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเป็นแกนกลางร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องในการจัดตั้งคณะทำงานของแต่ละอุตสาหกรรม ๙. การเสนอให้สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยว สภาธุรกิจตลาดทุนไทย สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และสมาคมธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันจัดตั้งคลัสเตอร์อุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อการลงทุนในต่างประเทศ ๑๐. การเสนอให้รัฐบาลออกกฎหมายเพื่อรองรับการจัดตั้งองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศ (Thailand External Trade Organization : TETRO) ๑๑. การเสนอให้รัฐบาลมีการเจรจาในระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล (G to G) ในเรื่องการทำข้อตกลงต่าง ๆ เพื่อคุ้มครอง/ส่งเสริมการลงทุนและแก้ไขปัญหาของการลงทุนของไทยในประเทศเป้าหมายอย่างต่อเนื่องและสอดคล้องกับความต้องการของนักลงทุน ๑๒. การเสนอให้รัฐบาลเป็นศูนย์กลางของการสร้าง/ต่อเติมมาตรการอำนวยความสะดวกทางด้านการลงทุน (และด้านการค้าที่เกี่ยวข้อง) ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ๑๓. การเสนอให้รัฐบาลใช้สื่อต่าง ๆ ของรัฐบาลที่มีอยู่ การเจรจาระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล (G to G) และใช้การจัดทำโรดโชว์ทางด้านการลงทุนของไทยในต่างประเทศแต่ละครั้ง ๑๔. การเสนอสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนให้แยกส่วนงานในการประชาสัมพันธ์และการให้ข้อมูล/ความรู้/คำปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับความสำคัญ และนโยบาย/มาตรการในการส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศออกมาเป็นการเฉพาะภายใต้ศูนย์ประสานการบริการด้านการลงทุนที่เดียว (OSOS)
|
||||||||||||||||||||||||
23172 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง การปฏิรูประบบกำจัดขยะเพื่อแก้ปัญหาการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน) | สผ | 08/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง การปฏิรูประบบกำจัดขยะเพื่อแก้ปัญหาการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ โดยเสนอวิธีการการกำจัดขยะแนวทางใหม่ให้กับชุมชนเพื่อกำจัดขยะชุมชนให้หมดไปแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร โดยใช้รูปแบบการจัดการขยะโดยวิธีการเผาในเตาเผาด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง จากนั้นนำพลังงานความร้อนที่ได้จากการเผาขยะมาใช้ให้เกิดประโยชน์โดยนำมาผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูประบบกำจัดขยะในประเทศไทย และมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าวและสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
23173 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง การปฏิรูปภาคเกษตร และร่างพระราชบัญญัติปาล์มและน้ำมันปาล์ม พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตเนื้อโค กระบือ พ.ศ. ....) | สผ | 08/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง การปฏิรูปภาคเกษตร และร่างพระราชบัญญัติปาล์มและน้ำมันปาล์ม พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตเนื้อโค กระบือ พ.ศ. .... ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ และมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าวและสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยข้อเสนอแนะฯ สรุปได้ ดังนี้
๑. การสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติรายได้และสวัสดิการเกษตร พ.ศ. .... ๒. การปฏิรูปโครงสร้างภาคเกษตรทั้งระบบ โดยเฉพาะระบบโครงสร้างพื้นฐานและปัจจัยอำนวยความสะดวกทางด้านเกษตรกรรม ๓. การปฏิรูประบบข้อมูล Digital Agriculture Economy ๔. การปฏิรูประบบความปลอดภัย/มาตรฐานสินค้า ๕. การกำหนดแผนยุทธศาสตร์/เป้าหมายระยะยาวสำหรับสินค้าเกษตรรายสาขา ๖. การเสนอร่างพระราชบัญญัติปาล์มและน้ำมันปาล์ม พ.ศ. .... ๗. การเสนอร่างพระราชบัญญัติมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง พ.ศ. .... ๘. การเสนอร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตเนื้อโค กระบือ พ.ศ. .... ๙. การเสนอร่างพระราชบัญญัติสมาพันธ์สหกรณ์เพื่อการเกษตรและวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. ....
|
||||||||||||||||||||||||
23174 | รายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย (ผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน เรื่อง บริษัท ราชบุรีอาหารสัตว์ จำกัด) | สม | 08/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อเสนอ เรื่อง รายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย (ผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน เรื่อง บริษัท ราชบุรีอาหารสัตว์ จำกัด) ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ด้านกฎหมายและระบบยุติธรรม ได้แก่ การแก้ไขพระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรมให้ครอบคลุมเรื่องเกษตรพันธสัญญา การปรับปรุงระบบยุติธรรมเพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็วเพื่อคุ้มครองเกษตรกรจากการทำเกษตรพันธสัญญาเนื่องจากนายทุนมีอำนาจต่อรองมากกว่า การส่งเสริมผลักดันให้เกิดความยุติธรรมในระบบการทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรภายใต้ระบบเกษตรพันธสัญญา การแก้ไขพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรให้ครอบคลุมถึงเกษตรพันธสัญญา การจัดตั้งระบบไกล่เกลี่ยและการระงับข้อพิพาทที่เกิดจากความขัดแย้งหรือการไม่ปฏิบัติตามขอสัญญาที่ไม่เป็นธรรมจากระบบเกษตรพันธสัญญา รวมทั้งการตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือเกษตรกรในกรณีที่เกษตรกรถูกดำเนินคดีจากการทำเกษตรพันธสัญญา ๑.๒ การส่งเสริมเกษตรกร ได้แก่ การเสริมอำนาจต่อรองของเกษตรกรและป้องกันการผูกขาด การดำเนินการเกษตรพันธสัญญาต้องได้รับความยินยอมหรือมีข้อตกลงร่วมกันกับชุมชนหรืองค์กรท้องถิ่นโดยเฉพาะในเรื่องการดำเนินธุรกิจที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมความรู้แก่เกษตรกรในเรื่องเกี่ยวกับเกษตรพันธสัญญา พร้อมทั้งให้ข้อมูลข่าวสารที่แท้จริงและเพียงพอต่อการตัดสินใจเข้าร่วมลงทุนแบบเกษตรพันธสัญญา และควบคุมการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่เกินจริงของบริษัท การกำหนดมาตรการจูงใจในการส่งเสริมบทบาทของภาคธุรกิจต่อความรับผิดชอบสังคม (CSR) และการให้ความสำคัญและควบคุมกำกับดูแลการปล่อยสินเชื่อให้กับเกษตรกร ๒. มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม และธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาและผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
23175 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนท่าน้ำอ้อยม่วงหัก จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. .... | มท | 08/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนท่าน้ำอ้อยม่วงหัก จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลท่าน้ำอ้อย และตำบลม่วงหัก อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงพลังงานเกี่ยวกับการพัฒนาระบบผลิตพลังงานทดแทนบางประเภทที่เข้าข่ายเป็นโรงไฟฟ้า มีลักษณะเป็นโรงงานตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ และอาจจัดตั้งไม่ได้ในเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินบางประเภท จึงที่เห็นควรยกเว้นให้สามารถพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนบางประเภทที่ไม่มีมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมหรือมีแต่น้อยมาก ตามที่หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมจะกำหนด เพื่อเป็นการส่งเสริมการพัฒนาพลังงานทดแทนตามนโยบายของรัฐบาล ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||
23176 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง รายงานการศึกษาธนาคารที่ดินและร่างพระราชบัญญัติธนาคารที่ดิน พ.ศ. ....) | สผ | 08/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อเสนอเรื่อง รายงานการศึกษาธนาคารที่ดินและร่างพระราชบัญญัติธนาคารที่ดิน พ.ศ. .... ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ เกี่ยวกับการปรับปรุงกลไกและรูปแบบการบริหารจัดการที่ดิน เพื่อแก้ปัญหาและให้มีการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเหมาะสมและยั่งยืน ทั้งสนับสนุนการจัดตั้งธนาคารที่ดิน และตราเป็นพระราชบัญญัติธนาคารที่ดิน พ.ศ. .... เพื่อเป็นกลไกให้เกิดการกระจายการถือครองที่ดินที่เป็นธรรมและยั่งยืน สนับสนุนการเข้าถึงที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยสำหรับเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร ผู้ยากจน และชุมชนเพื่อให้มีการใช้ประโยชน์ที่ดินทั้งของภาครัฐและเอกชนอย่างเหมาะสม ๒. มอบหมายให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) เป็นหน่วยงานหลักรับข้อเสนอแนะดังกล่าว ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทาง และความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
23177 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 08/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และ มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ดังนี้
๑. กรมที่ดินควรศึกษาและหามาตรการในการจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรให้กระทำได้ง่ายขึ้น เนื่องจากนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรมีวัตถุประสงค์เพื่อบริหารจัดการทรัพย์ส่วนกลาง และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านจัดสรร โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับค่าบริการสาธารณะ และค่าสาธารณูปโภคซึ่งในปัจจุบันการจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรจะกระทำได้ยาก เพราะต้องมีคะแนนเสียงของผู้ซื้อที่ดินจัดสรรจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนแปลงย่อยตามแผนผังโครงการมีมติให้จัดตั้ง ๒. ให้กรมที่ดินนำแนวปฏิบัติตามมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. ๒๕๔๓ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัตินี้ ไปกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ถือปฏิบัติกับกรณีโครงการจัดสรรที่ดินซึ่งได้รับอนุญาตตามกฎหมายก่อนวันที่พระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. ๒๕๔๓ ใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม ๓. ให้กรมที่ดินเร่งดำเนินการเสนอให้คณะกรรมการกำหนดอัตราค่าสำหรับผู้ที่มีหน้าที่ชำระเงินค่าบำรุงรักษาและการจัดการสาธารณูปโภคล่าช้ากว่าเวลาที่กำหนดตามมาตรา ๕๐ วรรคหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||
23178 | รายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง ประโยชน์และปัญหาของสภาเกษตรกรแห่งชาติ | สว | 08/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง ประโยชน์และปัญหาของสภาเกษตรกรแห่งชาติ โดยมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาของสภาเกษตรกรแห่งชาติ อาทิ การมีส่วนร่วม การให้ความสำคัญกับการติดตามตรวจสอบและประเมินผลการปฏิบัติงานตามแผนแม่บทของสภาเกษตรกรแห่งชาติ การใช้ประมวลจริยธรรมในการควบคุมและแก้ไขปัญหาการบริหารบุคลากรของสภาเกษตรกรแห่งชาติและสภาเกษตรกรจังหวัด การจัดตั้งสภาเกษตรกรจังหวัดเป็นนิติบุคคลเพื่อให้มีความคล่องตัวในการบริหารงานและงบประมาณ การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเกษตรกรในขั้นตอนและกระบวนการดำเนินการของสภาเกษตรกรแห่งชาติและสภาเกษตรกรจังหวัด การกำหนดให้มีแหล่งเงินทุนในการดำเนินการที่เป็นรายได้สนับสนุนนอกจากเงินอุดหนุนจากรัฐบาลให้มีความชัดเจน การมีบทบาทในการขจัดการผูกขาดของนายทุนหรือกลุ่มพ่อค้าคนกลาง และการให้ความสำคัญกับการรับฟังความคิดเห็นของเกษตรกร เป็นต้น ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักรับรายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการฯ ไปพิจารณาร่วมกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
23179 | ขอส่งคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี (คำสั่ง นร ที่ 219/2558 เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีและมอบหมายและ มอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนกัน และ คำสั่ง นร ที่ 222/2558 เรื่อง ปรับปรุงคำสั่ง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี) | นร04 | 01/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๑๙/๒๕๕๘ ลงวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๘ เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีและมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนกัน ๒. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๒๒/๒๕๕๘ ลงวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๘ เรื่อง ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี
|
||||||||||||||||||||||||
23180 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองนครสวรรค์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองนครสวรรค์ พ.ศ. 2554) | มท | 01/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองนครสวรรค์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองนครสวรรค์ พ.ศ. ๒๕๕๔) มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองนครสวรรค์ พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยแก้ไขปรับปรุงข้อห้ามเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง และที่ดินประเภทพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ตำบลปากน้ำโพ และพื้นที่บางส่วนของตำบลบ้านมะเกลือ ตำบลบางม่วง ตำบลวัดไทร ตำบลบึงเสนาท ตำบลเกรียงไกร ตำบลบางพระหลวง ตำบลหนองกรด ตำบลแควใหญ่ ตำบลนครสวรรค์ตก ตำบลตะเคียนเลื่อน อำเภอเมืองนครสวรรค์ ตามที่กระทรวงมหาดไทย และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....