ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1156 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 23101 - 23120 จากข้อมูลทั้งหมด 123969 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
23101 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 24/2558 เรื่อง การแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม เพิ่มเติม | สลธ.คสช. | 11/08/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๔/๒๕๕๘ เรื่อง การแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม เพิ่มเติม สั่ง ณ วันที่ ๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ ๒. รับทราบตามที่นายกรัฐมนตรีแจ้งว่า ๒.๑ ตามที่ได้มอบหมายให้ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ดำเนินการออกประกาศตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๐/๒๕๕๘ เรื่อง การแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม สั่ง ณ วันที่ ๒๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๘ นั้น เมื่อ ศปมผ. ได้ดำเนินการออกประกาศใดแล้ว ให้นำประกาศดังกล่าวประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไปด้วย ๒.๒ สำหรับคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๔/๒๕๕๘ เรื่อง การแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม เพิ่มเติม สั่ง ณ วันที่ ๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ นั้น ได้มอบหมายให้ ศปมผ. มีอำนาจในการออกประกาศใด ๆ เพื่อดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าวไปก่อนแล้ว และเมื่อ ศปมผ. ออกประกาศใด ให้เร่งรัดนำประกาศดังกล่าวประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
23102 | การเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 | นร07 | 11/08/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบการเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพิ่มเติมอีกจำนวน ๘,๐๐๐ ล้านบาท ๒. มอบหมายให้สำนักงบประมาณนำเรื่องการเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามข้อ ๑ เสนอต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
23103 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสินเชื่อเกษตรแห่งชาติ (จำนวน 5 คน 1. นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ฯลฯ) | นร | 11/08/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสินเชื่อเกษตรแห่งชาติ จำนวน ๕ คน ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) ประธานกรรมการบริหารสินเชื่อเกษตรแห่งชาติเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๘) ดังนี้ ๑.๑ นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ๑.๒ นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ ๑.๓ นายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต ๑.๔ นายอภิวัฒน์ จิระศิริโสภณ ๑.๕ นายนิพนธ์ พัวพงศกร ๒. ให้รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) ประธานกรรมการบริหารสินเชื่อเกษตรแห่งชาติพิจารณาสั่งการให้ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบริหารสินเชื่อเกษตรแห่งชาติชี้แจงเหตุผลและข้อเท็จจริงในกรณีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมได้ดำรงตำแหน่งมาครบวาระ ๒ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๗ แต่ยังมิได้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดใหม่ รวมทั้งการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารสินเชื่อเกษตรกรแห่งชาติในระยะที่ผ่านมา เพื่อรายงานต่อนายกรัฐมนตรีต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
23104 | ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมระดับสูงระหว่างไทย - เมียนมา เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง (JHC) ครั้งที่ 4 | นร11 | 11/08/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เกี่ยวกับในการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรัฐวิสาหกิจหรือบริษัทมหาชนที่รัฐถือหุ้นควรต้องคำนึงด้วยว่า อาจไม่ใช่เพียงได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเท่านั้น แต่อาจต้องผ่านคณะกรรมการบริหารของรัฐวิสาหกิจหรือบริษัทมหาชนนั้น ๆ รวมทั้งต้องผ่านคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจในกรณีของรัฐวิสาหกิจเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องก่อนด้วย และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติต่อไป ๒. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการร่วมระดับสูงระหว่างไทย-เมียนมา (Joint High-level Committee : JHC) เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง ครั้งที่ ๔ เมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๘ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) ประธานกรรมการร่วมระดับสูงระหว่างไทย-เมียนมา (JHC) เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้องเสนอ และที่ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนแม่บทการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายระยะสมบูรณ์ ยกเว้นในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มเติมเรื่อง Floating LNG Terminal เป็นองค์ประกอบของแผนแม่บทตามข้อ ๓.๖ และให้รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) สั่งการให้ฝ่ายเลขานุการชี้แจงเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของ JHC ขั้นตอนการจัดทำและการอนุมัติแผนแม่บท การเพิ่มประเด็นโครงการ Floating LNG Terminal เป็นองค์ประกอบในแผนแม่บท รวมทั้งการแจ้งต่อ JHC ว่าบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมลงทุนในโครงการดังกล่าว ตามข้อสังเกตของรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม)
|
|||||||||||||||||||||||||||
23105 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ทดแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ลาออก จำนวน 1 คน (นายวิเชียร ชิดชนกนารถ) | ทก | 11/08/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้งนายวิเชียร ชิดชนกนารถ ผู้อำนวยการสำนักบริหารการทะเบียน สังกัดกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในคณะกรรมการบริหารสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ แทนนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ที่ลาออก โดยให้มีผลนับจากวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๘) ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
23106 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 100 ปี กรมสรรพากร พ.ศ. .... | กค | 11/08/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๑๐๐ ปี กรมสรรพากร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดชนิด ราคา โลหะ อัตราเนื้อโลหะ น้ำหนัก ขนาด อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด ลวดลาย และลักษณะอื่น ๆ ของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ราคาหนึ่งร้อยบาท หนึ่งชนิด เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเผยแพร่ภารกิจของกรมสรรพากรให้เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
23107 | การตรวจสอบรับรองพื้นที่เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน | พณ | 11/08/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดวิธีการและดำเนินการตรวจสอบรับรองพื้นที่เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันเพื่อเป็นหลักฐานในการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเก็บสต็อกขององค์การคลังสินค้า ปี ๒๕๕๘ จากเกษตรกรรายย่อย ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๔๕ วัน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทยอยส่งผลการตรวจสอบรับรองพื้นที่ฯ ให้กระทรวงพาณิชย์ทุก ๑๕ วัน นับตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเพื่อให้องค์การคลังสินค้าสามารถรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเก็บสต็อกได้ และโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มสามารถรับซื้อผลปาล์มเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มต่อไป ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมัน โดยให้ร่วมกันดำเนินการเพื่อเกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรรายย่อยอย่างทั่วถึงและเป็นธรรมตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ |
|||||||||||||||||||||||||||
23108 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (กระทรวงการต่างประเทศ) (นายอภิชาติ ชินวรรโณ) | กต | 11/08/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายอภิชาติ ชินวรรโณ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
23109 | รายงานสถานการณ์ส่งออกของไทย | พณ | 11/08/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสถานการณ์ส่งออกของไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปี ๒๕๕๘ มีมูลค่าการส่งออกของไทยหดตัวร้อยละ ๔.๘๔ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่สาม สาเหตุสำคัญ ได้แก่ (๑) เศรษฐกิจโลกยังคงชะลอตัว จากการนำเข้าของเกือบทุกประเทศทั่วโลกที่ลดลง ส่งผลกระทบไปยังตัวเลขส่งออกของประเทศต่าง ๆ ติดลบตามไปด้วย (๒) ผู้ผลิตรถกระบะส่งออกมีการเปลี่ยนรุ่นรถใหม่ จึงทำให้การส่งออกชะลอตัว ส่งผลให้การส่งออกยานยนต์และส่วนประกอบซึ่งเป็นสินค้าส่งออกที่มีสัดส่วนสูงเป็นอันดับหนึ่งได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก (๓) ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดต่ำลงประมาณครึ่งหนึ่งจากปีที่แล้วและคาดว่าจะทรงตัวที่ระดับนี้จนถึงสิ้นปี (๔) ราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกลดลงมาก โดยสินค้าเกษตรสำคัญที่มีราคาลดลง ได้แก่ ข้าว น้ำตาล ยางพารา และ (๕) หลายประเทศใช้มาตรการลดค่าเงิน ทำให้สินค้าส่งออกของไทย เช่น รถยนต์และส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ และเม็ดพลาสติกมีราคาสูงกว่าสินค้าของประเทศคู่ค้าและคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามูลค่าการส่งออกของไทยจะลดลงจากสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจของตลาดโลกที่ชะลอตัวลง แต่ไทยยังสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) ในตลาดคู่ค้าสำคัญ เช่น สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น สหภาพยุโรปไว้ได้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ไทยยังคงมีความสามารถในการเป็นประเทศผู้ส่งออกที่มีศักยภาพ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาความจำเป็นในการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อขับเคลื่อนการค้าระหว่างประเทศต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
23110 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 25/2558 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 11/2558 | สลธ.คสช. | 11/08/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๕/๒๕๕๘ เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๑/๒๕๕๘ ลงวันที่ ๑๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ ให้เพิ่มความต่อไปนี้ “(๕) เพื่อดำเนินโครงการตามนโยบายของรัฐที่จะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคม” ในข้อ ๕ ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๑/๒๕๕๘ ลงวันที่ ๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
23111 | ร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. .... | นร07 | 11/08/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้
๑. ร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น เป็นบางรายการ ไปตั้งจ่ายเป็นงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เป็นจำนวนไม่เกิน ๗,๙๑๗,๐๗๗,๗๐๐ บาท และให้เสนอร่างพระราชบัญญัติฯ พร้อมเอกสารประกอบไปเพื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาเป็นเรื่องด่วนต่อไป ๒. ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ดำเนินการทางพัสดุโดยเร็ว ดังนี้ ๒.๑ รายจ่ายลงทุน จำนวน ๗,๙๑๗,๐๗๗,๗๐๐ บาท ที่เป็นรายการปีเดียว หากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น เห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการและก่อหนี้ผูกพัน หากต้องใช้จ่ายงบประมาณให้ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณก่อนลงนามในสัญญา ส่วนรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณทุกรายการ ให้ดำเนินการตามระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒.๒ รายจ่ายลงทุนที่หน่วยงานดำเนินการเอง เงินงบประมาณเหลือจ่ายที่ไม่ได้นำมาจัดทำร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. .... และรายจ่ายลงทุน จำนวน ๓,๔๖๙,๕๕๔,๘๐๐ บาท ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ดำเนินการต่อไปตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ๓. การปรับปรุงปฏิทินโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อให้การจัดทำร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. .... เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมีระยะเวลาที่เหมาะสมในการพิจารณารายละเอียดการโอนงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
23112 | การให้ความช่วยเหลือเมียนมากรณีอุทกภัย | กต | 11/08/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติการให้ความช่วยเหลือเมียนมากรณีอุทกภัย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ยกเว้นการจัดส่งข้าวสาร จำนวน ๒๐๐ ตัน เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เมียนมา และอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริง ภายในกรอบวงเงิน ๙,๗๘๐,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือเมียนมา โดยให้กระทรวงการต่างประเทศขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๘ (เรื่อง แนวทางการเสนอเรื่องงบประมาณต่อคณะรัฐมนตรี) ๒. อนุมัติให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การให้ความช่วยเหลือคนไทยในประเทศเนปาลและการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ประเทศเนปาล) โดยให้สามารถนำสิ่งของบริจาคแก่ประเทศเนปาลที่ยังคงค้างไปบริจาคแก่เมียนมาได้ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องด้วย ๓. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงกลาโหมและกระทรวงสาธารณสุขในการจัดทีมแพทย์ทหาร บุคลากรทางการแพทย์ ยาและเวชภัณฑ์ และยานพาหนะ เพื่อไปให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนเมียนมาที่ประสบอุทกภัย ๔. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาหาแนวทางในการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศต่าง ๆ ที่ประสบภัยพิบัติเพื่อให้สะดวก รวดเร็ว และทันการณ์ |
|||||||||||||||||||||||||||
23113 | เอกสาร Declaration of San Jose ที่จะรับรองในการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศของกรอบเวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออก กับลาตินอเมริกา ครั้งที่ 7 ที่สาธารณรัฐคอสตาริกา | กต | 11/08/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการต่อร่างเอกสาร Declaration of San Jose ที่จะรับรองในการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศของกรอบเวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกกับลาตินอเมริกา ครั้งที่ ๗ (7th Foreign Ministers Meeting of the Forum for East Asia-Latin America Cooperation : FEALAC FMM 7) ที่สาธารณรัฐคอสตาริกา โดยสาระสำคัญของร่างเอกสารฯ กล่าวถึงโครงการและกิจกรรมความร่วมมือด้านต่าง ๆ ภายใต้กรอบ FEALAC เช่น การส่งเสริมความร่วมมือด้านสังคม-การเมืองและการพัฒนาอย่างยั่งยืน การส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การประชุมด้านวัฒนธรรม และประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น และกล่าวถึงแนวทางการทำงานของ FEALAC (Guideline for FEALAC Working Process) ตามที่ประเทศไทยเป็นผู้เสนอ นอกจากนี้ ร่างเอกสารฯ ได้เสนอให้มีการเริ่มจัดทำแผนปฏิบัติการ FEALAC (New Action Plan for FEALAC) เพื่อเสนอต่อที่ประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ ครั้งที่ ๘ ในปี ๒๕๖๐ และหากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างเอกสารดังกล่าวที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ๒. อนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม FEALAC FMM 7 และร่วมรับรองเอกสารดังกล่าว |
|||||||||||||||||||||||||||
23114 | ขอรับจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (ให้สำนักงานอัยการสูงสุดสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายบุคลากรเพิ่มเติม เพื่อให้มีงบประมาณเพียงพอสำหรับการใช้จ่ายจนถึงสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2558) | นร07 | 11/08/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๒๓๘,๗๑๔,๔๐๐ บาท ให้สำนักงานอัยการสูงสุดสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายบุคลากรเพิ่มเติม เพื่อให้มีงบประมาณเพียงพอสำหรับการใช้จ่ายจนถึงสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
23115 | การแก้ไขอัตราอากรสินค้าในตารางการลดภาษีรายสินค้าแนบท้ายพิธีสารฉบับที่สาม เพื่อแก้ไขความตกลงการค้าสินค้าภายใต้กรอบความตกลงอาเซียน - สาธารณรัฐเกาหลี | พณ | 11/08/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอการแก้ไขอัตราอากรสินค้าในตารางการลดภาษีรายสินค้าแนบท้ายพิธีสารฉบับที่สาม เพื่อแก้ไขความตกลงการค้าสินค้าภายใต้กรอบความตกลงอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี เนื่องจากกระทรวงการคลัง โดยกรมศุลกากรได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ กค ๐๕๑๘/๑๓๐๒๙ ลงวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๘ ถึงกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ แจ้งขอปรับแก้ไขตารางการลดภาษีรายสินค้า แนบท้ายพิธีสารฯ ที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้ว จำนวน ๑๔ ประเภทพิกัด ที่อยู่ในกลุ่มสินค้าอ่อนไหว และได้มีการระบุอัตราอากรทั้งในรูปแบบอัตราอากรตามราคาและอัตราอากรตามสภาพ (ร้อยละ ๕ หรือ ๐.๕ บาท ต่อกิโลกรัม) และให้เรียกเก็บอัตราอากรที่มีมูลค่าสูงกว่า โดยกรมศุลกากรจะแก้ไขให้ตรงตามพันธกรณีที่ไทยได้ผูกพันไว้ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีระหว่างอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ที่กำหนดอัตราอากรเป็นร้อยละ ๐-๕ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๙ เป็นต้นไป ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้จัดการหารือระหว่างหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องด้วยแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||
23116 | การยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดให้ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางพิเศษสายดินแดง - ท่าเรือ สายบางนา - ท่าเรือ และสายดาวคะนอง - ท่าเรือ) และทางพิเศษศรีรัช (ทางพิเศษสายแจ้งวัฒนะ - บางโคล่ และสายพญาไท - ศรีนครินทร์) เป็นทางต้องเสียค่าผ่านทางพิเศษ ประเภทของรถที่ต้องเสียหรือยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ และอัตราค่าผ่านทางพิเศษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 | คค | 11/08/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดให้ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางพิเศษสายดินแดง-ท่าเรือ สายบางนา-ท่าเรือ และสายดาวคะนอง-ท่าเรือ) และทางพิเศษศรีรัช (ทางพิเศษสายแจ้งวัฒนะ-บางโคล่ และสายพญาไท-ศรีนครินทร์) เป็นทางต้องเสียค่าผ่านทางพิเศษ ประเภทของรถที่ต้องเสียหรือยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ และอัตราค่าผ่านทางพิเศษ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยมีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นให้ผู้ใช้รถบนทางพิเศษสายดังกล่าวไม่ต้องเสียค่าผ่านทางพิเศษที่ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษดินแดง และด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษดินแดง ๑ ตามอัตราที่ประกาศตั้งแต่เวลา ๑๒.๐๐ นาฬิกา ถึงเวลา ๒๓.๐๐ นาฬิกาของวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
23117 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 11/08/2558 | ||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ให้กระทรวงพาณิชย์สร้างการรับรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับความร่วมมือว่าด้วยหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Strategic Economic Partnership Agreement : TPP) ว่าขณะนี้ประเทศสมาชิกผู้ก่อตั้ง TPP ยังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อหาข้อยุติ และเมื่อได้ข้อยุติแล้ว ให้กระทรวงพาณิชย์จัดทำข้อมูลผลดีผลเสีย และผลประโยชน์ที่ไทยจะได้รับหากตัดสินใจเข้าร่วมความตกลงดังกล่าว เสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาต่อไป ๒. ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๗ เมษายน ๒๕๕๘) ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาความจำเป็นในการนำมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ มาใช้ในการปรับปรุงมาตรฐานการบินพลเรือนของไทยตามแนวทางขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) นั้น ให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดการพิจารณาดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวเพื่อให้การแก้ไขปรับปรุงมาตรฐานการบินพลเรือนของไทยซึ่งเป็นปัญหาสำคัญเร่งด่วนเป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพต่อไป ๓. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๓.๑ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรหรือผู้มีรายได้น้อย เช่น ชาวสวนยาง ชาวนา ชาวสวนปาล์ม ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นมาตรการในการจ่ายเงินช่วยเหลือ โดยมีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ นั้น ให้กระทรวงกลาโหม (หน่วยทหารในพื้นที่) เข้าไปมีส่วนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องข้างต้นในการให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกเพื่อให้การจ่ายเงินเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของโครงการ มีความรวดเร็วและโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเกิดประโยชน์โดยตรงแก่กลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ๓.๒ ให้กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ พัฒนาพืชสมนุไพรไทยให้สามารถใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เป็นที่ยอมรับและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสมุนไพรไทยด้วย ๓.๓ ตามที่กระทรวงมหาดไทย (กรมการพัฒนาชุมชน) จะมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ในช่วงปลายปีเป็นประจำทุกปี ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จัดงานจำหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพประจำปี ณ บริเวณสวนอัมพร นั้น ให้กระทรวงมหาดไทยประสานงานมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เพื่อร่วมกันพิจารณาความเป็นไปได้ หรือแนวทางการจัดงานร่วมกัน โดยอาจจัดในบริเวณใกล้เคียงกันเพื่อให้ประชาชนสามารถเลือกซื้อสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ และสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์โดยกลุ่มศิลปาชีพได้ในคราวเดียวกัน ทั้งนี้ ในการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ในที่ต่าง ๆ ทุกครั้งให้กระทรวงมหาดไทยเชื่อมโยงกับงานศิลปาชีพด้วย ๓.๔ ตามที่กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรดำเนินการส่งเสริมการเพาะปลูกมันสำปะหลังระบบน้ำหยดในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรได้แล้ว นั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณานำแนวทางการดำเนินการของเกษตรกรซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ได้มีการปฏิบัติและประสบความสำเร็จแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีลักษณะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการเกษตร รวมทั้งภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ เช่น หนังสือพิมพ์ ได้นำไปเผยแพร่ มาพิจารณาต่อยอดขยายผล เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรให้แก่เกษตรกรต่อไป ๓.๕ ให้ทุกหน่วยงานที่มีรัฐวิสาหกิจหรือบริษัทมหาชนที่รัฐถือหุ้นถือปฏิบัติว่า ในการเสนอขออนุมัติหรือขอความเห็นชอบดำเนินการใด ๆ ซึ่งมีข้อกฎหมายกำหนดให้ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาจะต้องคำนึงว่าต้องเสนอคณะกรรมการบริหารของรัฐวิสาหกิจ หรือบริษัทมหาชนนั้น ๆ รวมทั้งคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจพิจารณาก่อนเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
23118 | รายงานการช่วยเหลือและการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยพิบัติ | มท | 11/08/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานการช่วยเหลือและการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยพิบัติ ตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงาน ดังนี้ ๑.๑ สถานการณ์ปัญหาน้ำในปัจจุบันพบว่า ปริมาณน้ำใน ๔ เขื่อนหลัก มีปริมาณ ๕๘๗ ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำในลำน้ำสายหลักทุกสายมีปริมาณน้อย เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเมื่อปี ๒๕๕๗ พบว่า ปริมาณน้ำในปี ๒๕๕๘ น้อยกว่าปี ๒๕๕๗ ทั้งนี้ ได้มีการประกาศภัยแล้ง (ฤดูแล้ง) ไปแล้ว ๕ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ น่าน นครราชสีมา สระแก้ว และขอนแก่น ๑.๒ โครงการบริหารจัดการน้ำปี ๒๕๕๗-๒๕๕๘ มีกิจกรรมที่สำคัญ ได้แก่ การขุดลอกคูคลอง ขุดบ่อใหม่ ขุดท้องน้ำ พัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติ และก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก ๑.๓ กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี โดยเน้นขุดแหล่งน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค มีการสำรวจพื้นที่ที่เกิดภัยแล้งและพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมในฤดูฝน และหากพบว่าลำน้ำใดแห้งให้พิจารณาขุดร่องน้ำเป็นช่วง ๆ โดยให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมในการขุดบ่อน้ำในพื้นที่ตนเองร่วมกับทุกภาคส่วนด้วย นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยได้มีมาตรการในการสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ และใช้ศูนย์ดำรงธรรมในการแก้ไขปัญหาเชิงพื้นที่ตามนโยบายของรัฐบาลในด้านต่าง ๆ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันกำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยพิบัติ เช่น การช่วยเหลือเกษตรกรที่เพาะปลูกพืชไปแล้วและได้รับความเสียหายจากปัญหาภัยพิบัติ โดยดำเนินการช่วยเหลือให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด การช่วยเหลือเกษตรกรที่เสียโอกาสเนื่องจากได้ชะลอการปลูกข้าวตามนโยบายของรัฐบาล โดยดำเนินการช่วยเหลือเป็นปัจจัยการผลิต จัดทำแนวทางในการบริหารจัดการน้ำสำหรับพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปรังในฤดูกาลต่อไป เช่น การส่งน้ำ การแบ่งพื้นที่ในการเพาะปลูก การเพาะปลูกพืชทดแทนในระหว่างที่ชะลอการทำนาปรัง เป็นต้น ให้มีความชัดเจน แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีภายใน ๒ สัปดาห์
|
|||||||||||||||||||||||||||
23119 | รายงานการจัดทำโครงการด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนและการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ (โครงการ Smart Driver Model) | คค | 11/08/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานการจัดทำโครงการด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนและการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ (โครงการ Smart Driver Model) ตามที่กระทรวงคมนาคมรายงาน ดังนี้ ๑.๑ จากผลสำรวจขององค์การอนามัยโลกระบุว่าประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนเป็นอันดับ ๒ ของโลก และเป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งปัจจัยของการเกิดอุบัติเหตุปัจจัยหนึ่งมาจากพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนที่ไม่ปลอดภัยของพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ ๑.๒ โครงการ Smart Driver Model ขับรถปลอดภัยได้ใจผู้โดยสาร เป็นโครงการที่กรมการขนส่งทางบกจัดทำขึ้น โดยมีการติดตั้งระบบ Monitoring Data Recorder ในรถโดยสารสาธารณะของบริษัทขนส่ง จำกัด จำนวน ๖๐ คัน เพื่อควบคุม ตรวจสอบ จัดเก็บข้อมูลประเมินพฤติกรรมของพนักงานขับรถ และทำการอบรมเป็นรายกลุ่ม เพื่อให้พนักงานขับรถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับรถให้ถูกต้องและตระหนักถึงความปลอดภัยในการขับรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นเพียงหนึ่งในมาตรการที่กรมการขนส่งทางบกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับปรุงพฤติกรรมของผู้ขับรถโดยสารสาธารณะสู่การเป็นพนักงานขับรถมืออาชีพ เพื่อนำพาผู้โดยสารไปถึงจุดหมายโดยปลอดภัยและให้เป็นแบบอย่างที่ดี เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับหน่วยงานภาคเอกชนหรือผู้ประกอบการโดยเฉพาะด้านความปลอดภัย ความประหยัด ความประทับใจ และความเชื่อมั่นอันจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาองค์กรและระบบการขนส่งของประเทศต่อไป ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับไปดำเนินการแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยง หรือจุดอันตรายในเส้นทางคมนาคมต่าง ๆ โดยเฉพาะในเส้นทางที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เช่น การจัดทำสันชะลอความเร็ว เป็นต้น ๓. ในการดำเนินการก่อสร้างส่วนประกอบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบขนส่งมวลชนหรือเส้นทางคมนาคมของประเทศในระยะต่อไป เช่น การก่อสร้างกำแพงกันเสียง เป็นต้น ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาการใช้ผลิตภัณฑ์หรือวัสดุที่ผลิตในประเทศที่มีคุณภาพและมีราคาที่เหมาะสมทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศเพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณภาครัฐ
|
|||||||||||||||||||||||||||
23120 | รายงานผลงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา | กก | 11/08/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานผลงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สรุปได้ ดังนี้
๑. การเข้าร่วมงานส่งเสริมการขาย Thailand Week ในงาน Expo Milano 2015 ในวันที่ ๒๑-๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ณ เมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย เช่น สาธิตการทำอาหารไทย การลงนาม Joint Promotion ระหว่าง Etihad Airways กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อขยายความร่วมมือในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามุ่งเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบพรีเมียมเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพจาก ๑๒ ประเทศสำคัญ โดยเฉพาะเมืองใหม่ ๆ ในยุโรปตะวันออกกลางและแอฟริกา โดยตั้งเป้านักท่องเที่ยวคุณภาพอยู่ที่ ๘๐๐,๐๐๐ คน ๒. การเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขัน Special Olympics World Games ในระหว่างวันที่ ๒๕-๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ณ นครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย การแข่งขันดังกล่าวมีนักกีฬา จำนวน ๗,๐๐๐ คน จาก ๑๗๐ ประเทศ และในปีนี้ประเทศไทยส่งนักกีฬา จำนวน ๒๙ คน เข้าร่วมการแข่งขัน มีอายุระหว่าง ๑๒-๒๑ ปี โดยคัดเลือกจาก ๑๑ จังหวัดทั่วประเทศไทย มีการแข่งขัน ๖ ชนิดกีฬา ได้แก่ กรีฑาประเภทลู่-ลาน ว่ายน้ำ บอชชี่ ฟุตบอลหญิง แบดมินตัน และเทเบิลเทนนิส ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้พบปะสื่อมวลชนและเคเบิลทีวีประจำนครลอสแอนเจลิส โดยได้กล่าวถึงนโยบายรัฐบาล และแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว และได้ขอให้สื่อมวลชนและเคเบิลทีวีดังกล่าวเป็นผู้เผยแพร่ข่าวสารที่สร้างสรรค์ เพื่อให้ต่างชาติและคนไทยในสหรัฐอเมริกามีความเข้าใจการทำงานของรัฐบาลอย่างถูกต้องและเป็นการสร้างความสามัคคีปรองดองอย่างต่อเนื่องต่อไป ๓. การประชุม Cambodia-Laos-Myanmar-Vietnam : CLMV และ Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong Economic Cooperation Strategy : ACMECS ระหว่างวันที่ ๒๘-๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ณ กรุงเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา การประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวภูมิภาค CLMV ครั้งที่ ๓ เป็นการประชุม ๕ ประเทศสร้างการท่องเที่ยวคุณภาพในอาเซียนให้แข็งแกร่ง และการประชุม ACMECS จัดขึ้นเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพ เชื่อมโยงและเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพเป็นสำคัญ เช่น การส่งเสริมการตลาดด้านการท่องเที่ยวห้าประเทศหนึ่งจุดหมายปลายทางและการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว การประชุมหารือร่วมกับองค์กรภาครัฐและเอกชนเพื่อสร้าง ASEAN Connect ให้ประสบความสำเร็จ กระจายรายได้ไปยังแหล่งท่องเที่ยวชุมชนและเชิงนิเวศให้ยั่งยืนต่อไป
|
.....