ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1151 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 23001 - 23020 จากข้อมูลทั้งหมด 123963 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
23001 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ (นักบริหารสูง) ทดแทนข้าราชการที่เกษียณอายุ (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา) | นร07 | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
23002 | การโอนข้าราชการมาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ.ร.(นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ) | นร04 | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอนและแต่งตั้งนายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ.ร. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
23003 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี) | คค | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงคมนาคม ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
23004 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงแรงงาน (หม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ) | รง | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งหม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงแรงงาน ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
23005 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (นายสมชัย สัจจพงษ์) | กค | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการและสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. นายสมชัย สัจจพงษ์ ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายกุลิศ สมบัติศิริ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศุลกากร ๓. นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ
|
||||||||||||||||||||||||
23006 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (นายกุลิศ สมบัติศิริ และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ) | กค | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการและสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. นายสมชัย สัจจพงษ์ ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายกุลิศ สมบัติศิริ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศุลกากร ๓. นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ
|
||||||||||||||||||||||||
23007 | การโอนข้าราชการมาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายชวลิต ชูขจร) | นร | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอนและแต่งตั้งนายชวลิต ชูขจร ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
23008 | บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐฟิจิ | กต | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐฟิจิ (Memorandum of Understanding between the Government of the Kingdom of Thailand and the Government of the Republic of Fiji on Technical Cooperation) โดยสาระสำคัญของบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ การแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และสิ่งอำนวยความสะดวกในการฝึกอบรม ส่งเสริมการศึกษาและโครงการที่ก่อให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม และความช่วยเหลือในรูปแบบอื่นที่ตกลงร่วมกัน โดยให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย และไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ |
||||||||||||||||||||||||
23009 | แนวทางปฏิบัติต่าง ๆ เกี่ยวกับคณะรัฐมนตรี | นร05 | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบแนวทางปฏิบัติต่าง ๆ เกี่ยวกับคณะรัฐมนตรี ตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การผลัดเวรเฝ้าฯ ของรัฐมนตรีในพระราชพิธี รัฐพิธี และพิธีสำคัญในโอกาสต่าง ๆ ๑.๒ การยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรี ๑.๓ การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ๑.๔ หลักการเกี่ยวกับการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี (๑) หลักการทั่วไปในการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี (๒) หลักการในการเสนอขออนุมัติงบประมาณต่อคณะรัฐมนตรี และการขออนุมัติงบประมาณหรือเงินกู้ของรัฐวิสาหกิจ และ (๓) หลักการเสนอเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ๑.๕ การแต่งตั้งคณะกรรมการตามมติคณะรัฐมนตรีที่สำคัญ ๒. เห็นชอบให้ส่วนราชการดำเนินการและถือปฏิบัติเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติต่าง ๆ เกี่ยวกับคณะรัฐมนตรีตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัดต่อไป ดังนี้ ๒.๑ หลักในการปฏิบัติ ๒.๑.๑ ยึดหลักความโปร่งใส ความมีประสิทธิภาพ ความรวดเร็วทันต่อเวลา การรักษาความลับ และสร้างผลงานที่เป็นรูปธรรม โดยเน้นการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน คำนึงถึงประชาชนเป็นศูนย์กลาง และให้ความสำคัญต่อประโยชน์ต่อประเทศชาติ ๒.๑.๒ เป้าหมายการทำงาน คือ สร้างรากฐานในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน สร้างความมีเสถียรภาพทางการเมืองและความมั่นคง และสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคประชาชน ๒.๑.๓ ร่วมกันสร้างความเข้าใจและความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างประชาชนกับรัฐบาล โดยให้รัฐมนตรีชี้แจงในเรื่องต่าง ๆ ที่ประชาชนสงสัยหรือไม่เข้าใจเกี่ยวกับการบริหารงานของรัฐบาล และชี้แจงความคืบหน้าในการดำเนินการ รวมทั้งเผยแพร่ผลงานในความรับผิดชอบให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่องด้วย ๒.๑.๔ เรื่องใดถึงแม้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรี แต่หากจะมีแนวโน้มที่จะมีผลกระทบโดยรวมต่อนายกรัฐมนตรี รัฐบาล หรือประเทศชาติ ให้หารือนายกรัฐมนตรีหรือนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนดำเนินการ เพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ๒.๒ สิ่งที่ต้องดำเนินการ ๒.๒.๑ ในการดำเนินโครงการต่าง ๆ ที่จะดำเนินการในช่วงปี ๒๕๕๘-๒๕๕๙ ให้จัดทำแผนที่ชัดเจนว่าในทุก ๆ ระยะ ๓ เดือนจะมีผลสัมฤทธิ์อย่างไร ๒.๒.๒ ให้มีการสื่อสารกับต่างประเทศในโอกาสต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องว่าการดำเนินการของรัฐบาลเป็นไปตาม Roadmap ที่กำหนดไว้ ๒.๒.๓ ให้นำตัวอย่างเรื่องที่ต่างประเทศดำเนินการประสบความสำเร็จมาศึกษา และประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับภารกิจของหน่วยงาน เช่น การพัฒนาระบบการศึกษาของประเทศเกาหลีใต้ สิงคโปร์ และฟินแลนด์ ๒.๒.๔ ในการจัดซื้อจัดจ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ ให้ดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ๒.๒.๕ เรื่องเร่งด่วนที่ต้องเร่งรัดการดำเนินการ เช่น การแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย การส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน การเร่งรัดการลงทุนทั้งในส่วนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟฟ้า ถนน โดยเน้นการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ และการส่งเสริมการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยปรับปรุงการให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ลงทุนให้มากขึ้น ๒.๒.๖ ในการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองเพื่อช่วยงานให้พิจารณาแต่งตั้งผู้ที่มีความเหมาะสมและระมัดระวังไม่ให้มีการใช้อำนาจเกินกว่าที่ได้รับมอบหมาย รวมทั้งกรณีที่อาจจะมีการแอบอ้างคำสั่งนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีในการดำเนินการต่าง ๆ ที่ไม่เหมาะสมด้วย ๒.๒.๗ เพื่อให้รัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีชุดนี้ปฏิบัติงานในตำแหน่งได้อย่างเต็มที่ จึงขอให้รัฐมนตรีที่ยังดำรงตำแหน่งข้าราชการประจำและจะเกษียณอายุราชการในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ นี้ แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนในตำแหน่งของฝ่ายข้าราชการประจำเพื่อปฏิบัติหน้าที่แทน ส่วนรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งข้าราชการประจำแต่ยังไม่เกษียณอายุราชการในปีนี้ ขอให้พิจารณาการลาออกจากตำแหน่งภายในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ ต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
23010 | ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับเสนอสภาปฏิรูปแห่งชาติ เพื่อลงมติให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญนี้ทั้งฉบับ) | นร04 | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอว่า คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญได้จัดทำร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับเสนอสภาปฏิรูปแห่งชาติ เพื่อลงมติให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญนี้ทั้งฉบับ) เสร็จเรียบร้อยแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||
23011 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) รับไปดำเนินการ ดังนี้ ๑.๑ พิจารณาร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำโดยเฉพาะข้าว ยางพารา พร้อมทั้งพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวโดยเฉพาะชาวสวนยาง รวมทั้งเร่งรัดการจัดตั้งเมืองยางพารา (Rubber City) ในพื้นที่เศรษฐกิจตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาลให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมภายในปี ๒๕๕๘ ด้วย ๑.๒ พิจารณาร่วมกับกระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อทบทวนและกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาการดำเนินโครงการต่าง ๆ ที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เช่น โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน การทำเหมืองแร่ลิกไนต์ การใช้พื้นที่เพื่อการจัดการขยะตามนโยบายรัฐบาล การดำเนินโครงการด้านพลังงาน ซึ่งยังมีกลุ่มผู้คัดค้านการดำเนินโครงการดังกล่าว โดยอาจจะพิจารณาปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินโครงการให้เกิดความเหมาะสมและสามารถดำเนินการต่อไปได้ ๑.๓ กำกับให้กระทรวงพาณิชย์กำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหากรณีที่ราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคภายในประเทศมีราคาสูงในขณะที่ราคาน้ำมันลดลงแล้ว พร้อมทั้งพิจารณาความเป็นไปได้ในการกำหนดราคากลางของสินค้าอุปโภคและบริโภคให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศโดยเฉพาะระดับราคาน้ำมัน เพื่อป้องกันมิให้ผู้ประกอบการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค ๑.๔ กำกับให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ดำเนินการแล้ว แต่ยังไม่ได้ดำเนินการ เช่น การให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุน การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน เร่งดำเนินการตามแผนงานโครงการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ๒. ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารติดตามผลการพิจารณาคดีพิพาทที่หน่วยงานของรัฐเป็นผู้ฟ้องคดีและผู้ถูกฟ้องคดี เช่น คดีพิพาทระหว่างสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กับบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) คดีพิพาทระหว่างกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กับบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และคดีพิพาทระหว่างผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล กับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยให้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบด้วย ๓. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๓.๑ ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) เร่งรัดการปรับปรุงด่านตรวจคนเข้าเมืองให้มีอุปกรณ์ที่พร้อมใช้งานและมีความทันสมัย โดยสามารถเชื่อมโยงกับด่านตรวจคนเข้าเมืองของต่างประเทศได้ รวมทั้งมีแผนการซ่อมและบำรุงรักษาอุปกรณ์อย่างต่อเนื่องด้วย ๓.๒ ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๔ สิงหาคม ๒๕๕๘) ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบมาตรการและโครงการสำคัญต่าง ๆ เร่งดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งรวมถึงเรื่องการจัดตั้ง single gateway ที่ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้รับผิดชอบ โดยให้รายงานความคืบหน้าการดำเนินการให้นายกรัฐมนตรีทราบภายในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๘ นั้น ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเร่งรัดการดำเนินการเรื่องดังกล่าวและรายงานความคืบหน้าให้นายกรัฐมนตรีทราบภายในเดือนกันยายน ๒๕๕๘ ต่อไปด้วย ๓.๓ ให้กระทรวงแรงงานสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความแตกต่างของสิทธิประโยชน์และจำนวนเงินสมทบของผู้ประกันตนตามมาตรา ๓๙ และมาตรา ๔๐ แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติมด้วย เพื่อให้ผู้ประกันตนทราบและเข้าใจอย่างถูกต้อง ๓.๔ สืบเนื่องจากผลสำเร็จของการจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๓ พรรษา เมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๘ นั้น ให้หน่วยงานร่วมกันรณรงค์การปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ รวมทั้งพิจารณาจัดกิจกรรมปั่นจักรยานในทุกโอกาสต่าง ๆ ตามความเหมาะสมต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
23012 | ผลการดำเนินงานของกรมการบินพลเรือนในปีงบประมาณ 2558 | คค | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานว่า ปีงบประมาณ ๒๕๕๘ กรมการบินพลเรือนได้ดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทยโดยเร่งดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบ ได้แก่ ท่าอากาศยานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๙ แห่ง เช่น ปรับปรุงท่าอากาศยานอุดรธานีในส่วนของอาคารที่พักผู้โดยสารให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากขึ้น และแผนพัฒนาการก่อสร้างต่อเติมลานจอดเครื่องบินเพื่อให้สามารถรองรับเครื่องบินขนาด Boeing 737 ได้เพิ่มขึ้น ท่าอากาศยานในภาคใต้ ๙ แห่ง และอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างใหม่อีก ๑ แห่ง คือ ท่าอากาศยานเบตง เพื่อแก้ปัญหาเส้นทางการคมนาคมทางบกไปยังอำเภอเบตง และท่าอากาศยานในภาคเหนือ ๑๐ แห่ง มีการดำเนินการปรับปรุงขยายท่าอากาศยาน จำนวน ๓ แห่ง คือ ท่าอากาศยานลำปาง ท่าอากาศยานน่านนคร และท่าอากาศยานแม่สอด ๒. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และกระทรวงคมนาคมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ ๒.๑ กำกับดูแลและเร่งรัดการดำเนินการเรื่องดังต่อไปนี้ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน ๒๕๕๙ ได้แก่ (๑) การแก้ไขปัญหามาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินของประเทศไทยให้เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) (๒) การแก้ไขปัญหาการขาดทุนของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ (๓) การดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ ๒ ๒.๒ จัดทำแผนการพัฒนาปรับปรุงท่าอากาศยานจังหวัดต่าง ๆ ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ โดยร่วมกับกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณจัดทำรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ระยะเวลาการดำเนินการ จำนวนและแหล่งที่มาของงบประมาณ ให้มีความชัดเจนครบถ้วน โดยให้พิจารณาความเป็นไปได้ในการให้เอกชนเข้าร่วมทุน (PPP) ด้วย รวมทั้งเร่งรัดการขยายอาคารผู้โดยสาร อาคาร ๒ และอาคารจอดรถของท่าอากาศยานดอนเมือง ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ๒.๓ ในการดำเนินโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง จังหวัดยะลา ให้กระทรวงคมนาคม (กรมการบินพลเรือน) คำนึงถึงมิติด้านความมั่นคงเป็นสำคัญ รวมทั้งให้พิจารณาความเหมาะสมในการขยายทางวิ่งขึ้นลงอากาศยาน (Runway) ของท่าอากาศยานนราธิวาสให้มีระยะทางยาวขึ้นเพื่อรองรับการขึ้นลงของอากาศยานขนาดใหญ่ ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินที่ต้องมีการส่งความช่วยเหลือหรือขนย้ายประชาชนหรือสิ่งของด้วย ๓. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ติดตามการดำเนินการเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมทางรถไฟไปยังท่าอากาศยานอู่ตะเภาเพื่อรองรับการเปิดให้บริการเป็นท่าอากาศยานพาณิชย์ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
23013 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๘ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ ๕๒/๒๕๕๘ วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๘ และครั้งที่ ๕๓/๒๕๕๘ วันศุกร์ที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๘
|
||||||||||||||||||||||||
23014 | เส้นทางการปฏิรูป | นร | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รายงานเกี่ยวกับเส้นทางการปฏิรูป สรุปได้ว่า ๑.๑ เส้นทางการปฏิรูป มี ๓ องค์กรตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ ที่มีหน้าที่ปฏิรูป คือ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ คณะรัฐมนตรี และสภาปฏิรูปแห่งชาติ ๑.๒ แนวทางการปฏิรูปตามรัฐธรรมนูญฯ ๑.๒.๑ เป็นหน้าที่ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ และประชาชนต้องรับรู้และเข้าใจเข้าถึงและพัฒนา ๑.๒.๒ ปฏิรูป ๑๑ ด้าน ตามที่รัฐธรรมนูญฯ บัญญัติไว้ ๑.๒.๓ แบ่งระยะเวลาออกเป็น ๓ ระยะ คือ (๑) เรื่องที่ทำทันที (๒) เรื่องที่ทำระยะต่อไป (๓) เรื่องที่ทำเพื่อความยั่งยืน ทั้งนี้ เพื่อส่งต่อให้รัฐบาลถัดไปดำเนินการต่อไป ๑.๓ ความหมายของคำว่า “ปฏิรูป” คือ การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงจากแบบเดิมเป็นแบบใหม่ โดยอาจเป็นการเปลี่ยนยุทธศาสตร์ โครงสร้าง วิธีทำงาน หรือระบบบุคลากร ๑.๔ กรอบในการปฏิรูปประเทศปัจจุบัน ได้แก่ ๑.๔.๑ กรอบปฏิรูปตามรัฐธรรมนูญฯ ๑๑ ด้าน (Area Base) ๑.๔.๒ กรอบนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ๑๑ ด้าน (Problem Base) ๑.๔.๓ กรอบนโยบายคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ๑๑ ข้อ (Agenda Base) ๑.๔.๔ กรอบวาระการปฏิรูปของสภาปฏิรูปแห่งชาติ ๓๗ เรื่อง ๑.๕ แผนแม่บทการปฏิรูป ๓๗ เรื่อง ที่นายกรัฐมนตรีได้รับมอบจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ นายกรัฐมนตรีอาจพิจารณาส่งเรื่องดังกล่าวให้ ๑.๕.๑ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๑.๕.๒ คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ คณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล (กขน.) คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (กขย.) และคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) หรือ ๑.๕.๓ คณะทำงานกลั่นกรองที่จะแต่งตั้งต่อไปในอนาคต ๒. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาและกำหนดแนวทางการปฏิรูปในระยะที่ ๒ ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
23015 | การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากกรณีเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2558 | นร | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รายงานว่า ๑.๑ จากการตรวจสอบข้อกฎหมายและระเบียบเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากกรณีเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๘ มีหลักการที่แตกต่างกันระหว่างคนไทยและชาวต่างชาติ เช่น ชาวต่างชาติที่เสียชีวิตได้รับการช่วยเหลือสูงสุดประมาณ ๕๐๐,๐๐๐ บาท ขณะที่คนไทยได้รับการช่วยเหลือสูงสุด ๒๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งยังถือว่าเป็นการช่วยเหลือในอัตราที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับกรณีการช่วยเหลือชาวต่างชาติ ๑.๒ รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) มีข้อสังเกตเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวงเงินที่จะให้ความช่วยเหลือเยียวยาว่า ควรพิจารณาเทียบเคียงกับวงเงินที่บริษัทประกันภัยจ่ายชดเชยให้แก่ผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ ๑.๓ หลักในการพิจารณา (๑) วงเงินช่วยเหลือควรเหมาะสมและเพียงพอกับความสูญเสียของผู้เสียหาย (๒) ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ของทางราชการเพื่อป้องกันการตรวจสอบในอนาคต และ (๓) กรณีผู้ได้รับบาดเจ็บ ควรชดเชยทั้งในส่วนค่ารักษาพยาบาล รวมทั้งกรณีชาวต่างชาติที่กลับไปรักษาตัวที่ประเทศของตนเอง ๒. ให้คณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย ที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล) เป็นประธาน รับข้อสังเกตของรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ไปประกอบการพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ ควรให้ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือให้แล้วเสร็จก่อนที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) จะเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ ๒-๑๐ กันยายน ๒๕๕๘ นี้ ๓. ให้กระทรวงคมนาคมประสานบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) พิจารณาความเป็นไปได้ในการยกเว้นค่าบัตรโดยสารสำหรับญาติผู้เสียชีวิตหรือญาติผู้ได้รับบาดเจ็บที่ต้องเดินทางมายังประเทศไทยและเดินทางกลับประเทศ และการยกเว้นการเก็บค่าขนย้ายร่างผู้เสียชีวิตชาวต่างชาติ
|
||||||||||||||||||||||||
23016 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 18/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๘ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รับข้อสังเกตดังกล่าวประสานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป และให้เสนอร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ๒. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นผู้เสนอร่างพระราชบัญญัติการโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๘ และมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) ประสานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
23017 | ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 18/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๘ และให้เสนอร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||
23018 | การขอความเห็นชอบต่อร่างเอกสารที่จะมีการรับรองระหว่างการประชุมระดับสูงในโอกาสครบรอบ 10 ปี ReCAAP | กต | 18/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมในโอกาสครบรอบ ๑๐ ปี ศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลตามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อการต่อต้านการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นเรือโดยใช้อาวุธในเอเชีย (Regional Cooperation Agreement on Combating Piracy and Armed Robbery against Ships in Asia Information Sharing Centre : ReCAAP ISC) มีสาระสำคัญ (๑) สนับสนุนให้หน่วยประสานงานของรัฐภาคีแต่ละฝ่ายร่วมมือกับ ReCAAP ISC อย่างใกล้ชิด (๒) เห็นชอบให้จัดตั้งคณะทำงานประกอบด้วยผู้แทนของรัฐภาคีทำหน้าที่จัดทำแผนงานเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับ ReCAAP ISC เป็นศูนย์กลางแห่งความเป็นเลิศ (๓) ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของ ReCAAP ISC ในการปราบปรามโจรสลัดและการปล้นเรือในทะเลร่วมกับภูมิภาคอื่น และ (๔) เน้นย้ำถึงความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับอินโดนีเซียและมาเลเซีย โดยเรียกร้องให้ทั้งสองประเทศนี้เข้าร่วมเป็นภาคีความตกลง ReCAAP ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. ให้ผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองเอกสารตามข้อ ๑ ๓. หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างเอกสารดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทยและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย |
||||||||||||||||||||||||
23019 | รัฐบาลสาธารณรัฐไซปรัสเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นายดีมีทรีออส เอ. ทีโอฟีลักตู (Mr. Demetrios A. Theophylactou)] | กต | 18/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายดีมีทรีออส เอ. ทีโอฟีลักตู (Mr. Demetrios A. Theophylactou) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐไซปรัสประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงนิวเดลี สืบแทน นางมาเรีย มิคาอิล (Mrs. Maria Michail) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
23020 | รายงานสถานการณ์น้ำและการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 22 จังหวัด | กษ | 18/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานสถานการณ์น้ำและการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ๒๒ จังหวัด โดยสภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำภูมิพล สิริกิติ์ แควน้อยบำรุงแดน และป่าสักชลสิทธิ์ ณ วันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๘ มีปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำ ๔ อ่างฯ รวม ๗,๔๒๗ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๓๐ (ปริมาตรน้ำใช้การได้ ๗๓๑ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๔) ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ สัปดาห์ที่ผ่านมา (๒๗ กรกฎาคม-๒ สิงหาคม ๒๕๕๘) ๓๓๐.๔๗ ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำระบายสัปดาห์ที่ผ่านมา (๒๗ กรกฎาคม-๒ สิงหาคม ๒๕๕๘) ๑๓๓.๑๗ ล้านลูกบาศก์เมตร สำหรับการช่วยเหลือเกษตรกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่งการผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ๒๒ จังหวัด ลงพื้นที่ในรูปแบบชุดปฏิบัติการช่วยเหลือและเยี่ยมเยียนเกษตรกรทุกตำบล รวมทั้งได้มีการเตรียมแหล่งกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งปี ๒๕๕๘/๕๙ และการเตรียมการช่วยเหลือระยะต่อไป โดยเสนอขออนุมัติในหลักการขอใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๕๙ กรอบวงเงินรวม ๑,๓๔๐.๕๐ ล้านบาท เพื่อใช้ในการปรับโครงสร้างการผลิตในพื้นที่เขตชลประทานลุ่มน้ำเจ้าพระยา และพัฒนาแหล่งอาหารของชุมชน สร้างรายได้ และพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทางการเกษตรจากความแห้งแล้ง
|
.....