ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 51 จากทั้งหมด 6210 หน้า แสดงรายการที่ 1001 - 1020 จากข้อมูลทั้งหมด 124195 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1001 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งกลๆกการปรึกษาหารือทวิภาคีระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศ การบูรณาการแอฟริกาและชาวโกตดิวัวร์ในต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐโกตดิวัวร์ | กต. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1002 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตทำงาน การออกใบอนุญาตทำงาน และการแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | รง. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตทำงาน
การออกใบอนุญาตทำงาน และการแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว (ฉบับที่..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขกฎกระทรวงการขออนุญาตทำงาน
การออกใบอนุญาตทำงาน และการแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๓
เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าว
เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ลดขั้นตอน และภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม เห็นควรนำเทคโนโลยีดิจิทัลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มาปรับใช้กับการดำเนินงานเกี่ยวกับการอนุญาตทำงานของคนต่างด้าวที่ทำงานในประเทศไทย
เช่น การขออนุญาตทำงาน การออกใบอนุญาตทำงาน
รวมถึงการเชื่อมโยงข้อมูลสำคัญระหว่างหน่วยงานของรัฐ และกระทรวงแรงงานควรมีมาตรการควบคุมและตรวจสอบการมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการดังกล่าวแทนดำเนินการดังกล่าวอย่างเคร่งครัดและรัดกุม สำนักงาน ก.พ.ร. เห็นควรจัดทำแนวทางปฏิบัติและประชาสัมพันธ์เผยแพร่กฎกระทรวงดังกล่าว
รวมทั้งให้กระทรวงแรงงานเร่งจัดทำคู่มือสำหรับประชาชนให้เป็นปัจจุบัน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1003 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 150 ปี กระทรวงการคลัง พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 150 ปี กระทรวงการต่างประเทศ พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | กค. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก
๑๕๐ ปี กระทรวงการคลัง พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล)
ชนิดราคาห้าสิบบาท (ประเภทธรรมดา) เพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสครบ ๑๕๐ ปี กระทรวงการคลัง
ในวันที่ ๑๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๘ และร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก
๑๕๐ ปี กระทรวงการต่างประเทศ พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล)
ชนิดราคายี่สิบบาท จำนวน ๒ ประเภท (ประเภทธรรมดาและประเภทขัดเงา)
เพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสครบ ๑๕๐ ปี กระทรวงการต่างประเทศ ในวันที่ ๑๔ เมษายน พ.ศ.
๒๕๖๘ รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1004 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 150 ปี กระทรวงการต่างประเทศ พ.ศ. .... | กต. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก
๑๕๐ ปี กระทรวงการต่างประเทศ พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล)
ชนิดราคายี่สิบบาท จำนวน ๒ ประเภท (ประเภทธรรมดาและประเภทขัดเงา)
เพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสครบ ๑๕๐ ปี กระทรวงการต่างประเทศ ในวันที่ ๑๔ เมษายน พ.ศ.
๒๕๖๘ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1005 | ร่างพระราชกฤษฎีกาการกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตแทนการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร.12 | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาการกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตแทนการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาต
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตแทนการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาต
พ.ศ. ๒๕๖๔
เพื่อเพิ่มเติมรายชื่อพระราชบัญญัติและประเภทของใบอนุญาตที่สามารถดำเนินการชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตแทนการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตได้
ตามที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงาน ก.พ.ร.
รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่าหากภายหลังการรับชำระค่าธรรมเนียมแทนการต่อใบอนุญาตประกอบกิจการอุตสาหกรรมไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้
พุทธศักราช ๒๔๘๔ แล้วพบว่าผู้รับอนุญาตขาดคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด
จะเป็นเหตุทำให้เกิดข้อโต้แย้งระหว่างหน่วยงานราชการกับผู้รับอนุญาตในการเพิกถอนใบอนุญาตได้
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นว่าหน่วยงานภาครัฐควรกำหนดช่องทางการชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตหากผู้รับใบอนุญาตชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุที่เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานให้สามารถชำระค่าธรรมเนียมทั้งหมด
ณ จุดเดียว ควรตรวจสอบคุณสมบัติและข้อมูลการดำเนินงานของกิจการ
เพื่อเร่งพัฒนาระบบฐานข้อมูลให้เป็นปัจจุบันและมีการเชื่อมโยงกัน
และหน่วยงานเจ้าของใบอนุญาตแต่ละหน่วยงานจะต้องระบุหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนภายใต้เงื่อนไขการต่อใบอนุญาตที่กำหนด
รวมถึงการกำหนดช่องทางการชำระค่าธรรมเนียมจะต้องมีรายละเอียดวิธีการชำระค่าธรรมเนียมที่ชัดเจนและควรมีการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางที่หลากหลายเพื่อให้เป็นที่ทราบโดยทั่วกัน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1006 | ร่างพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดคุณสมบัติและตำแหน่งของผู้บริหารงานและผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัว) | ศย. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว
พ.ศ. ๒๕๕๓ โดยกำหนดให้มีอธิบดีผู้พิพากษาคดีเยาวชนและครอบครัวภาคและรองอธิบดีผู้พิพากษาคดีเยาวชนและครอบครัวภาค
ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านคดีเยาวชนและครอบครัวทำหน้าที่บริหารงานศาลเยาวชนและครอบครัวในเขตอำนาจของตนเป็นการเฉพาะ
รวมทั้งกำหนดคุณสมบัติของผู้บริหารงานและผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวไว้เป็นพิเศษ
โดยมีคณะกรรมการนโยบายการปฏิบัติราชการของศาลเยาวชนและครอบครัวช่วยกำกับดูแลการบริหารราชการของศาลเยาวชนและครอบครัว
เพื่อให้การอำนวยความยุติธรรมในคดีเยาวชนและครอบครัวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้พิจารณาในประเด็นความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เกี่ยวกับการจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายการปฏิบัติราชการของศาลเยาวชนและครอบครัว
อาจเป็นการซ้ำซ้อนกับหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมและคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม
ควรพิจารณาถึงความจำเป็นในการมีคณะกรรมการดังกล่าวด้วย ให้รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงาน ก.พ.
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ดังนี้ กระทรวงการคลัง เห็นว่าร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้อาจส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายบุคลากร
ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการ และด้านการลงทุน ควรพิจารณาความคุ้มค่า ต้นทุน
ผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม
ประโยชน์สูงสุดที่ประชาชนจะได้รับ ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังแก่รัฐเพื่อมิให้เกิดภาระงบประมาณเกินความจำเป็น สำนักงาน ก.พ.
เห็นว่าการกำหนดให้มีตำแหน่งผู้บริหารงานศาลเยาวชนและครอบครัวเพิ่มขึ้นอาจต้องคำนึงว่าจะต้องไม่กระทบต่องบประมาณค่าใช้จ่ายบุคลากรภาครัฐและต้องคำนึงถึงการบริหารงานบุคคลประกอบด้วย ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ ๓.
ให้สำนักงานศาลยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. และคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
เช่น สำนักงบประมาณ เห็นว่าเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว
อาจจะส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายบุคลากร ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการ และด้านการลงทุน
ดังนั้น สำนักงานศาลยุติธรรมควรพิจารณาความคุ้มค่า ต้นทุน
ประโยชน์สูงสุดที่ประชาชนจะได้รับ ความเหมาะสมกับสถานการณ์และสถานะทางการเงินการคลังของประเทศในปัจจุบันเพื่อมิให้เกิดภาระงบประมาณเกินความจำเป็นตามนัยมาตรา
๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ เห็นว่าควรเตรียมความพร้อมและบริหารจัดการทั้งด้านบุคลากร
งบประมาณ อาคารสถานที่ และด้านอื่น ๆ ให้เหมาะสม เพื่อรองรับการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรในตำแหน่งต่าง
ๆ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1007 | ร่างกฎกระทรวงการยื่นคำขอ การกำหนดค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าพาหนะเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่นในการปฏิบัติการนอกเวลาราชการหรือนอกสถานที่ทำการโดยปกติ พ.ศ. .... | ทส. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการยื่นคำขอ
การกำหนดค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าพาหนะเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่นในการปฏิบัติการนอกเวลาราชการหรือนอกสถานที่ทำการโดยปกติ
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขในการยื่นคำขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
พ.ศ. ๒๕๖๒ นอกเวลาราชการหรือนอกสถานที่ทำการโดยปกติ และการกำหนดค่าเบี้ยเลี้ยง
ค่าพาหนะเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่น
เพื่อจ่ายให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการดังกล่าว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นควรกำหนดอัตราค่าพาหนะเดินทางกรณีต้องเดินทางไปปฏิบัติการในต่างประเทศ
โดยให้เป็นไปตามสิทธิของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ
พ.ศ. ๒๕๒๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. ๒๕๕๐
และที่แก้ไขเพิ่มเติม ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นควรเร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎกระทรวงนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นว่าการรับชำระเงินจากผู้ที่ยื่นคำขอจะต้องเป็นไปอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้
รวมทั้งการให้บริการของเจ้าหน้าที่ต้องเป็นไปอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1008 | การกู้เงินเพื่อใช้ในกิจการของสำนักงานธนานุเคราะห์ ประจำปีงบประมาณ 2568 | พม. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมติอนุมัติการกู้เงินเพื่อใช้ในกิจการของสำนักงานธนานุเคราะห์
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘ จำนวน ๒๐๐ ล้านบาท เพื่อเป็นการเตรียมเงินทุนหมุนเวียนและรองรับธุรกรรมการให้บริการรับจำนำแก่ประชาชน
ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และสำนักงานธนานุเคราะห์รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ดังนี้ กระทรวงการคลัง เห็นควรดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ และหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด สำนักงบประมาณ เห็นว่าสำนักงานธนานุเคราะห์ควรบริหารจัดการสภาพคล่องทางการเงินให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและพิจารณาเบิกเงินกู้เท่าที่จำเป็น
เพื่อไม่ให้เกิดภาระดอกเบี้ยต่อองค์กรในระยะยาว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1009 | ขออนุมัติผ่อนผันการเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงพันนาและป่าดงพระเจ้า เพื่อสร้างวัดถ้ำพวง ท้องที่ตำบลปทุมวาปี อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร | พศ. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่
๑ เอ ตามมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง จำนวนเนื้อที่ ๑๕ ไร่ เพื่อสร้างวัดถ้ำพวง ท้องที่ตำบลปทุมวาปี
อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย
และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปดำเนินการต่อไปอย่างเคร่งครัด เช่น กระทรวงมหาดไทย เห็นควรให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ
มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่าในการเข้าดำเนินการใดในพื้นที่ดังกล่าว
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน
แก้ไข และติดตามตรวจสอบผลกระทบที่กำหนดไว้ในรายงานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Accounting Report : EAR) อย่างเคร่งครัดด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1010 | การมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา | กก. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ตามความในมาตรา ๔๒
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ จำนวน ๒ ราย ตามลำดับ
ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้ ๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (นางสาวสุดาวรรณ
หวังศุภกิจโกศล) ๒. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวจิราพร
สินธุไพร)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1011 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายประภูศักดิ์ จินตะเวช) | คค. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายประภูศักดิ์ จินตะเวช
เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม [ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นางมนพร เจริญศรี)]
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1012 | ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติยกเลิกบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่กำหนดความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | ปปง. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบ ๑.๑
ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า
“ความผิดมูลฐาน” และ “สถาบันการเงิน” และเพิ่มบทนิยามคำว่า “เครือข่ายอาชญากรรม”
รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การรายงานการทำธุรกรรมของสถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพ
องค์ประกอบคณะกรรมการและการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
และหลักเกณฑ์การดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐาน
หรือความผิดฐานฟอกเงิน
ตลอดจนแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับกองทุนป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
และบทกำหนดโทษ ๑.๒
ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่กำหนดความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่กำหนดความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินซึ่งบัญญัติไว้ในกฎหมายอื่น รวม
๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
โดยให้ส่งความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
และสำนักงานศาลยุติธรรม
ไปเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1013 | รายงานผลการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ | พณ. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ระหว่างวันที่ ๑๕ - ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑)
การสร้างเครือข่ายพันธมิตรและความร่วมมือด้านการค้า
โดยการประชุมร่วมกับผู้นำเข้ารายสำคัญในตลาดสหรัฐฯ จำนวน ๓ ราย การเยี่ยมชมโรงงานและหารือกับผู้บริหาร บริษัท Overhill Farms และการเยี่ยมชม Port of Long Beach ๒) การส่งเสริม Soft Power ของไทยผ่านอาหารไทยและร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์
Thai SELECT โดยการเข้าร่วมกิจกรรมผลักดันสินค้าและบริการสู่สากล
ผ่านผู้มีอิทธิพลทางความคิดและสื่อบันเทิงระดับโลก และการเข้าร่วมกิจกรรม Sa
Wad Dee Thai SELECT Festival ๓)
การส่งเสริมการขายสินค้าไทยร่วมกับห้างสรรพสินค้า H Mart ซึ่งจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าไทย
และ ๔) การประชุมติดตามสถานการณ์การค้าและการส่งออกสินค้าไทยในภูมิภาคอเมริกาและลาตินอเมริกา
ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้เสนอแนวทางการดำเนินการต่อยอดการส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าอาหารไทย
โดยใช้อาหารไทยเป็น Soft Power และส่งเสริมสินค้าอุตสาหกรรมอาหารไทยในฐานะครัวโลก
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1014 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 | นร. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา
ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖
ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๑๘ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๑๙ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง)
วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่
๒๖ ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๒๐ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ วันศุกร์ที่ ๒๘กุมภาพันธ์
๒๕๖๘ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1015 | ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568) | ปสส. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1016 | ร่างเอกสารแนวทางการเจรจายกระดับกรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญา (AFAIPC) และการร่วมประกาศเริ่มเจรจาฯ ในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (AEM Retreat) ครั้งที่ 31 | พณ. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1017 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ประกอบการตรวจสอบและรับรอง พ.ศ. .... | อก. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ประกอบการตรวจสอบและรับรอง
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมบางรายการสำหรับผู้ประกอบการตรวจสอบและรับรองตามที่กำหนดในกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ประกอบการตรวจสอบและรับรอง
พ.ศ. ๒๕๕๒ โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
จนถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๘ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่เห็นควรประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการยกเว้นค่าธรรมเนียมดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างทั่วถึงในโอกาสแรก
รวมทั้งแจ้งกระทรวงการคลังจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน
และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ
ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลของการดำเนินงานดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1018 | ขอผ่อนผันการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เพื่อดำเนินงานขยายเขตไฟฟ้าตามแผนงานขยายเขตไฟฟ้าให้หมู่บ้านในโครงการหมู่บ้านพัฒนาเพื่อความมั่นคงพื้นที่ชายแดนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดแม่ฮ่องสอน | มท. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบผ่อนผันการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่
๑ เอ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๓๒
เรื่องขอผ่อนผันใช้พื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ
เพื่อก่อสร้างทางเพื่อความมั่นคง และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์
๒๕๓๘ เรื่อง การกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ ภาคตะวันตก ภาคกลาง และลุ่มน้ำป่าสัก
และการกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนอื่น ๆ
(ลุ่มน้ำชายแดน)
ซึ่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีมติเห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นชอบต่อการใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐ
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๙
เพื่อดำเนินงานขยายเขตไฟฟ้าตามแผนงานขยายเขตไฟฟ้าให้หมู่บ้าน ในโครงการหมู่บ้านพัฒนาเพื่อความมั่นคงพื้นที่ชายแดนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
จังหวัดแม่ฮ่องสอน ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ให้กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค)
รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่าการดำเนินการในพื้นที่ของกรมป่าไม้
จะต้องยื่นคำขออนุญาตใช้พื้นที่โดยเป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๕ เรื่อง
ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๖ เรื่อง
การดำเนินโครงการใด ๆ ของหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นจะต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่า
และกรณีการดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
จะต้องได้รับอนุมัติ/อนุญาตจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ก่อนดำเนินการ รวมทั้งต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒
พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒
และระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะต้องถือปฏิบัติตามรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
และดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
อย่างเคร่งครัด เนื่องจากการขยายเขตไฟฟ้าดังกล่าวดำเนินการในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่
๑ เอ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวและเปราะบางทางระบบนิเวศ
รวมทั้งควรดำเนินโครงการให้เป็นไปตามแผนงาน โดยลดผลกระทบต่อระบบนิเวศให้มากที่สุด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1019 | ร่างพระราชกฤษฎีกาประโยชน์ตอบแทน และค่าใช้จ่ายในการเดินทางของกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ ซึ่งมิได้ปฏิบัติหน้าที่เต็มเวลา พ.ศ. .... | ตช. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาประโยชน์ตอบแทน
และค่าใช้จ่ายในการเดินทางของกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.)
ซึ่งมิได้ปฏิบัติหน้าที่เต็มเวลา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้กรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจได้รับเงินค่าตอบแทนรายเดือน
ในอัตราเดือนละ ๔๒,๕๐๐ บาท
ได้รับค่ารักษาพยาบาลหรือการประกันสุขภาพตามที่จ่ายจริงในอัตราเบี้ยประกันคนละไม่เกิน
๓๐,๐๐๐ บาท ต่อปี
และได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางตามพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการเช่นเดียวกับผู้ดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับสูง
ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณในประเด็นการกำหนดค่าตอบแทนเป็นรายครั้งตามนัยพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ
พ.ศ. ๒๕๔๗ และความเห็นของสำนักงาน ก.พ. ที่เห็นว่าการพิจารณากำหนดเงินค่าตอบแทนรายเดือนตามร่างฯ
ควรกำหนดในอัตรา ๔๑,๕๐๐ บาท ซึ่งเป็นอัตราที่ลดหลั่นลงมาจากอัตราเงินเพิ่มของประธาน
ก.ร.ตร. และเป็นอัตราเดียวกันกับเงินเพิ่มของกรรมการ ก.ร.ตร. ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เต็มเวลา
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ตามข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรี
(นายภูมิธรรม เวชยชัย) และให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณ เห็นควรที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะพิจารณาจากหน้าที่และอำนาจ
ลักษณะงานและลักษณะการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ
จำนวนหน่วยงานและข้าราชการที่ต้องดูแลรับผิดชอบ
รวมทั้งควรนำข้อมูลสิทธิประโยชน์อื่นที่กรรมการได้รับทั้งหมดมาประกอบการพิจารณาด้วย
เช่น สิทธิในการได้รับค่าตอบแทนหรือการประกันสุขภาพ
สิทธิในการได้รับบำเหน็จตอบแทน การนับระยะเวลาและการคำนวณบำเหน็จตอบแทน เพื่อให้การกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายเป็นไปด้วยความรอบคอบรัดกุม
ตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยไม่ก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำของการกำหนดค่าตอบแทนในภาพรวม
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1020 | ร่างอนุบัญญัติที่กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการขออนุญาตจัดตั้งหอการค้าและสมาคมการค้า | พณ. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|